กำลังจะหยุดจ่ายบัตรและหนี้ทั้งหมดครับ อยากรบกวนพี่ ๆ ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ

หลังจากติดตามกระทุ้จากพี่ ๆ หลายท่านแล้วก็เลยคิดว่าเราเองก็ควรจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหลุดจากวังวนหนี้นี้สักที เลยอยากปรึกษาพี่ ๆ ครับ
ด้านล่างนี้คือลิสท์หนี้ที่ผมมีกับรายบละเอียดรายได้ครับ

กสิกรไทย - บัตรเครดิต - 88000
กรุงเทพ - บัตรเครดิต - 40000
กรุงศรี - บัตรเครดิต - 22000
Lotus - บัตรเครดิต - 30000
CardX - บัตรเครดิต - 117000
First Choice - 75000
สินเชื่อกรุงศรรี - 55000
CIMB สินเชื่อ 3 บัญชี รวมกันราว ๆ 70000
KKP สินเชื่อบุคคล - 190000
Thai Credit สินเชื่อบุคคล - 140000
ยอดหนี้ส่วนตัวรวมราว ๆ 827000

นอกจากหนี้มีหนี้บ้านที่กู้ร่วมกับน้องอยู่ กู้มาล้านสองแสนบาท ตอนนี้ผ่อนไปเหลืออยู่ที่เก้าแสนบาท

ตอนนี้ผมกำลังจะเริ่มงานที่ใหม่ เงินเดือน 42000 บาทครับ (บัญชีเงินเดือนที่ใหม่เข้าของกสิกรไทย)

สินทร้พย์ที่มีในชื่อผมมีแค่รถเก๋งเก่า ๆ อายุ 27 ปีคันนึง (ราคามือสองไม่เกินสามหมื่นบาท) กับรถมอเตอร์ไซค์อายุ 10 ปีอีกคัน (ราคามือสองไม่ถึงหมื่นบาท)

แผนที่ผมวางไว้ตอนนี้คือ
- หยุดจ่ายทุกอย่างยกเว้นบ้านที่ยังจ่ายปกติอยู่ (เพราะไม่ต้องการให้น้องมีบัญหาในบูโร)
- ผมสามารถเก็บเงินสดได้เดือนละ 22000 บาท เลยคิดว่าจะเก็บไว้ให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะเอาไว้รับมือกับข้อเสอนของแต่ละธนาคาร (ถ้าเขามี)
- จุดเป้าหมายสูงสุดของผมคือเอาหนี้ทุกตัว (ยกเว้นบ้านกับของ KKP) เข้าคลินิกแก้หนี้ของ SAM แต่ถ้าเจ้าไหนมีข้อเสนอดีกว่าของ SAM ผมก็จะรับไว้ก่อน
- ตอนนี้ผมเริ่มดำเนินการขายบ้านแล้ว คาดว่าไม่น่าเกินปีน่าจะขายได้

ทีนี้คำถามที่ผมมีคือ
- ในแผนที่ผมวางไว้นี้มีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงหรือต้องระวังไหมครับ?
- ในกลุ่มเจ้าหนี้ที่ผมมีอยู่ มีเจ้าไหนที่ผมต้องเตรียมตัวรับมือกับการทวงแบบระห่ำบ้างไหมครับ?​ (ผมจะรับให้ได้ทุกสายเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่รู้ว่าจะพอสำหรับการรับมือหรือเปล่า)
- ในกรณีที่เป็น Worst case หากผมไม่สามารถปิดจบกับใครได้เลย บ้านก็ยังขายไม่ได้ เจ้าหนี้จะวิ่งมายึดบ้านหรือจะยึดเงินเดือนก่อนครับ?

ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านครับ

ขอบคุณครับผม ในกรณีที่ผมจะเอาบัญชีหนี้เข้า SAM ทั้งหมดโดยที่บัญชีหนี้บ้านยังจ่ายปกติอยู่ แบบนี้จะมีปัญหากับการพิจารณาในการเข้าโครงการไหมครับ? ผมยังกังวลว่าพอถึงระยะที่เข้า SAM ได้ บ้านอาจจะยังขายได้ไม่ทันครับ แต่หนี้บ้านผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะจ่ายตรงตลอดเพื่อไม่ให้ผู้กู้ร่วมมีปัญหาในเครดิตบูโร