ช่วยหน่อยเถอะท่าจะแย่แล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ...ผู้รู้ทุกท่าน...มีเรื่องให้ช่วยหน่อยค่ะ
ตอนนี้ภาระหนี้สิน(ชื่อสามี...แต่คนใช้เงินคือkiเอง)
ภาระหนี้
Ktc credit 50,000
Ktc กดเงินสด 30,000
กสิกร credit 108,000
Uob credit 30,000
Uob กดเงินสด 30,000
Scb credit 40,000
Scb กดเงินสด 38,000
เรดดี้เครดิต 32,000 บาท
รวมๆๆๆหลายแสนอยู่
ชำระขั้นต่ำบ้างง่ายงวดเว้นงวดกดบัตรนี้มาจ่ายบัตรโน้นบ้างพอถูๆๆไถๆๆแต่รู้สึกทำแบบนี้มาหลายปีหนี้เท่าเดิมคิดคำนวนต่อปีจ่ายหลายหมื่นเหมือนกันแต่ทำไมหนี้ไม่หมดไม่หดบ้างเลย(คงเป็นเพราะเรากดออกมาใช้ด้วยก็เป็นไปได้)
พอมีปีนี้รู้สึกเงินไม่พอใช้ไม่พอจ่ายจริงๆๆๆทำยังงัยดีค่ะ
พอดีอ่านเจอเว๊ปนี้ รู้สึกจะให้ทำการหยุดจ่ายเลย ก็อยากทำบ้างค่ะ แต่แฟนกลัวการขึ้นศาล แล้วเราต้องขึ้นศาลทุกบัตรเลยไหมค่ะ
หยุดจ่ายกี่เดือนถึงขึ้นศาลค่ะ

หรือเพื่อนๆคนไหนมีวิธีไรจะแนะนำช่วยทีเถอะค่ะ ตันไปหมดแล้ว หัวจะระเบิดหมุนเงินจนหัวเป็นน๊อตเลย อยากหมดหนี้เสียทีเบื่อสุดๆๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ

ผมย้ายกระทู้มาห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้ นะครับ
เพราะ ห้องเรื่องเล่าชาวหนี้ ห้ามถามปัญหาหนี้ครับ

ยินดีต้อนรับ สมาชิกใหม่นะครับ ชมรมของเราให้ได้แค่แนวทาง ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของคุณเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัย ภาระ ตัวแปรที่แตกต่างกัน ไม่มีแนวทางที่ตายตัวและใช้ได้กับทุกคนนะครับ ชมรมของเรามีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ คือ Firstway Out, Secondway Out, และ Thirdway out ซึ่งบางคน ยังสามารถเอาแนวทางหลักๆ มาใช้แบบผสมผสานกันก็ได้

เริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ Firstway Out, Secondway Out คืออะไร ต้องอ่านกระทู้ต่อไปนี้เลยครับ

1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29

4. ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29

5. ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29

หลังจากนั้น สรุปแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะเป็น Firstway out หรือ Secondway out หรือ Thirdway out ก็เอาให้เหมาะกับรายรับ-รายจ่ายของคุณ ต่อจากนั้นก็แค่ทำตามที่กระทู้ข้างบนบอกไว้ครับ

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเลือก วิธีที่ 2 SECONDWAY OUT คุณต้องทำตามที่กรรมการแนะนำไว้ในกระทู้ ดังนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอด อย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์ (ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้ กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ.)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2. ต้องบอกครอบครัวให้รู้ จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไร และเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3. ต้องบอกที่ทำงาน( หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อน คนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร) ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไร และจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชี ห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักที ให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่า แล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานตามความเหมาะสม

4. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่ เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10000 เหลือ 5000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัว สำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดู ส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัว พยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม

5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆ ที่มีสารพัดรูปแบบและหาอ่านเพิ่มเติมตามเรื่องที่คุณต้องการรู้ได้จากการสืบค้นด้วยแท็บด้านบนหรือจะใช้ google ช่วยค้นหาก็ได้ โดยพิมพ์คำว่า site:consumerthai.org ต่อด้วยคำที่อยากหา เช่น site:consumerthai.org แฮร์คัท หรือ site:consumerthai.org ทวงหนี้


มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ โชคดีนะครับ

พอดีอยากทำแบบวิธีที่2 ค่ะ แต่มีข้อสงสัยนิดนึง
เราหยุดจ่ายทุกแบ้งค์เลยเหรอค่ะ
เพราะบางแบงค์เหลือยอดประมาณ 8000 บาท อิออนค่ะ อันนี้ต้องหยุดด้วยไหมค่ะ พอดีกลัวปากคนทวงค่ะ

ห้ามแค่แบงค์เงินเดือนใช่ไหมค่ะ
เราผ่อนรถอยู่ก็จ่ายปกติใช่ไหมค่ะ
โชคดีไม่มีบัตรใน2 แบ้งค์นี้

ขอบคุณค่ะ

kirana เขียน: พอดีอยากทำแบบวิธีที่2 ค่ะ แต่มีข้อสงสัยนิดนึง
เราหยุดจ่ายทุกแบ้งค์เลยเหรอค่ะ
เพราะบางแบงค์เหลือยอดประมาณ 8000 บาท อิออนค่ะ อันนี้ต้องหยุดด้วยไหมค่ะ พอดีกลัวปากคนทวงค่ะ

ห้ามแค่แบงค์เงินเดือนใช่ไหมค่ะ
เราผ่อนรถอยู่ก็จ่ายปกติใช่ไหมค่ะ
โชคดีไม่มีบัตรใน2 แบ้งค์นี้

ขอบคุณค่ะ

ถ้าสามารถจ่ายปิดยอดน้อยๆ ได้ ก็ไม่ต้องหยุดครับ ที่แนะนำให้หยุดทุกบัตร เพื่อจะได้สามารถเก็บเงินก้อนได้เร็ว และทันที่จะเจรจา Haircut เพราะ บ่อยครั้งที่ เราเก็บเงินได้ก่อนโดนฟ้องครับ

ที่ห้ามหยุดมีหลายแบงก์ครับ ได้แก่
1. แบงก์ที่เงินเดือนเข้า ยกเว้น ธ. กรุงไทย กับ กรุงศรี
2. กยศ.
3. ธ. ออมสิน. อาคารสงเคราะห์ เพื่อการเกษตร
4. ห้ามหยุดผ่อนรถ เพราะ โดนยึดเอาได้ หากผ่อนไม่ไหว ก็ขายดาวน์ดีกว่า
5. ห้ามหยุดผ่อนบ้าน หากไม่ไหว ก็ขายบ้านดีกว่าครับ

อ่านกระทู้ที่ผมวางไว้ก่อนครับ รวมทั้งลิ๊งค์ที่อยู่ในกระทู้ด้วย
เพราะทุกคำถามที่คุณต้อการรู้ มีคำตอบอยู่ในนั้นหมดแล้วครับ

โชคดีนะครับ

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
จะเริ่มตั้งแต่เดือนนี้เลยค่ะ ดูซิหลังจากวันนี้ไปจะเป็นไงบ้าง
สู้....

ขอถามผู้รู้อีกหน่อยนะค้ะ

จำเป็นไหมค่ะที่เราต้องขึ้นศาลทุกบัตรค่ะ
เรื่องส่วนลดทางเจ้าหนี้เป็นผู้เสนอให้เราเองทางโทรศัพท์ใช่ไหมค่ะ
ทำแบบHC ส่วนมากจะได้ส่วนลดทุกบัตรจริงๆๆใช่ไหมค่ะ

กลัวเรื่องขึ้นศาลมากค่ะไม่เคยจริงๆๆ

ขอบคุณค่ะ

kirana เขียน: ขอถามผู้รู้อีกหน่อยนะค้ะ

จำเป็นไหมค่ะที่เราต้องขึ้นศาลทุกบัตรค่ะ
ไม่เสมอไปครับ
เรื่องส่วนลดทางเจ้าหนี้เป็นผู้เสนอให้เราเองทางโทรศัพท์ใช่ไหมค่ะ
ส่วนมาเป็นลักษณะนั้นครับ
ทำแบบHC ส่วนมากจะได้ส่วนลดทุกบัตรจริงๆๆใช่ไหมค่ะ
ไม่แน่ครับ

กลัวเรื่องขึ้นศาลมากค่ะไม่เคยจริงๆๆ
ไม่มีใครเคยแต่แรกครับ ขึ้นศาลไม่ได้น่ากลัวอะไร

ขอบคุณค่ะ

คือจากคำถาม แสดงว่าคุณยังอ่านไม่มากพอนะครับ กลับไปนั่งอ่านที่เขาแปะลิงค์ไว้ให้ละเอียดก่อนครับ จะได้ข้อมูลชัดเจนครบถ้วนกว่า
ถามอย่างนี้คนตอบก็ตอบได้ไม่ครบถ้วนหรอกครับ

มาอัพเดท...การหยุดจ่ายครบ1 เดือนทุกบัตร
FC โทรมาบอกแต่ยอดขั้นต่ำที่ค้าง 2 วันโทรที แต่ยังพูดดีอยู่(คุยด้วยตลอด)
กรุุงศรี เครดิต(hsbcเก่า) โทรแจ้งยอดขั้นต่ำ โทรหาอาทิตย์ละครั้ง คุยดี ก็คุยด้วย
UOB โทรทุกวัน ก็รับสายทุกวัน แจ้งยอดขั้นต่ำแล้วก็ถามว่าเมื่อไหร่จะจ่ายเสียงแก่ๆๆเราก็ตอบเดี๋ยวจ่าย แล้วก็วางไปทุกครั้ง
นอกนั้นเงียบหมด

หลังจากนี้น่าจะเริ่มทวงหนักขึ้นเพราะจะเข้าเดือนที่ 2 ในการหยุดจ่ายแล้ว..(จะไหวไหมน๊า...เพราะที่ผ่านๆๆมาไม่เคยโดนโทรทวงถามเลยส่งตรงดิวตลอด...)

ขออัพเดท ภาระหนี้ทั้งหมดที่มี (ทั้งหมดเป็นชื่อ สามี แต่kiเป็นคนใช้เงินและคนคุยกับเจ้าหนี้ทุกรายเอง)
ภาระหนี้
Ktc credit 50,000 หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
Ktc กดเงินสด 30,000 หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
กสิกร credit 108,000หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
Uob credit 30,000 หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
Uob กดเงินสด 30,000 หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
Scb credit 40,000 ยังชำระตามปกติอยู่
Scb กดเงินสด 38,000 ยังชำระปกติอยู่
เรดดี้เครดิต 32,000 บาท หยุดจ่าย ยอด 21,000
กรุงศรีเครดิต(hsbcเก่า) 51,000 หยุดจ่าย ยอด เต็มวงเงิน
FC 58,000 หยุดจ่าย ยอด 56,000
Aeon 18,000 หยุดจ่าย ยอด 7,000

ยังไม่รู้ว่าจะได้ปิดบัตรไหนก่อน...ต้องลุ้นกันหน่อย...

แล้วมีแผนการปลดหนี้อย่างไรบ้างครับ

เท่าที่ดูรายการหนี้ของคุณที่น่าห่วงก็คือ
ยูโอบี เจ้านี้ฟ้องไว 4-5 เดือนฟ้องแล้ว ฟ้องแล้วคุยยาก ส่วนลดหลังจากขึ้นศาล แล้วศาลท่านให้เราชำระหนี้ตามคำฟ้องของโจทก์ เราเจรจากับเจ้าหนี้หลังจากได้คำพิพากษาลดให้ 30% จากยอดฟ้อง

ลำดับต่อมาคือ
citi เรดดี้ 6 เดือนฟ้อง แต่ก่อนฟ้องมักยื่นข้อเสนอHaircut จาก 30 - 45% แต่ถ้าเราเคลียร์กันไม่ได้ การไปศาลก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ามีเงินสามารถเจรจาขอส่วนลดกันได้ตลอดแต่อาจจะไม่ดีเท่าก่อนขึ้นศาล อยู่ที่ประมาณ 30-40%

กสิกร เท่าที่ผมปิดไป 40%

กรุงศรี เฟริ้สช้อย ในเครือ จีอี ส่วนลดดีมาก 5-6 เดือน ก็เสนอส่วนลด 50% มาให้แล้ว แถมให้ผ่อนได้ด้วย (พี่ที่ทำงานได้ลด 50% แถมให้ผ่อนได้ 5 งวดอีก)

อีอ้อน อ้อนส้น..... สมคำลำลือ ทวงทุกวัน พูดจาสุนัขไม่รับประทาน ชอบให้ไปเที่ยวหายืมเงินมาจ่าย ชอบขู่ว่าจะมาที่ทำงานบ้างละ ที่บ้านบ้างละ สงสัยจะคิดถึงกันมากกกก ไม่เคยเห็นมีประวัติฟ้องร้อง สงสัยแอบคิดดอกเบี้ยหมดเม็ดไว้เยอะ กลัวเราเอาไปประจานที่ศาล ส่วนลดก้มีบ้างน้อยบ้าง มากบ้าง แล้วแต่นโยบายในช่วงนั้น

ไทยพาณิชย์ ลองสืบค้นดูนะครับ ผมไม่มีข้อมุลเท่าไหร่ จำไม่ค่อยได้เพราะไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้กัน

เคทีซี ไม่มีนโยบายให้ส่วนลดเกินเงินต้นที่เราไปเอาเค้ามา อย่างมากลดดอกเบี้ยให้ 30% ถึง ลดดอกเบี้ยเหลือเฉพาะเงินต้น เริ่มฟ้องประมาณ 8 เดือน (พี่ที่ทำงานได้รับหมายแล้ว)

ผมให้ข้อมูลเพื่อไว้ในการประกอบการวางแผนการใช้หนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ที่สำคัญที่สุด เงินไม่มีก็เปล่าประโยชน์

ดังนั้น ต้องรู้จักการวางแผน จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย รายการเงินเก็บสำหรับการปลดหนี้
หนี้จากบัตรเครดิตของคุณ ณ ยอดหยุด ประมาณ 460,000 บาท แล้วมันจะเพิ่มด้วยดอกเบี้ยที่เดินตามตูดเรา อาจจะทยาน ไปเป็น 500,000 บาท

แล้วลองวางแผนดูว่าเราจะเก็บเงินให้ได้ 60% จากยอดหยุด น่าจะประมาณ 250,000 บาท เราจะใช้ระยะเวลาในการเก็บเงินเท่าไหร่ เกิน 1 ปีมั้ย ถ้าเกิน 1 ปีก็มีโอกาสโดนฟ้อง เราจะได้เตรียมตัวได้ถูก โดนฟ้องแล้วต้องทำยังงัยต่อ (ไว้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันยังอีกไกล อ่านกระทู้ไปพลางๆก่อน)

ได้กรอบการวางแผนการจัดการหนี้อย่างคร่าวๆ จากนั้นเราจัดทำรายการหนี้สินของเรา อาจจะเรียงจากน้อยไปหามาก เพื่อที่เราจะได้ทยอยปิดเจ้าเล็กก่อน เพื่อลดคู่กรณี ไม่เสียสุขภาพจิต

หรือจะเรียงจาก เจ้าที่มีความสุ่มเสียงโดนฟ้องศาล ถ้าเรากลัวการไปศาล ( แต่การไปศาลก็ไม่ได้กลัวอย่างที่คิดนะ ไปก็ยังมีทางออกอีกมาก ได้เวลาเพิ่มในการเก็บเงิน ลดการตอแยในการทวงถามของเจ้าหนี้ )

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต้องปรับต้องใช้กันไป

จงจำไว้ว่า เก็บเงินด้วยความยากลำบาก ทำให้เงินมันคุ้มค่าที่สุด แล้วคุณจะพบทางสว่าง แล้วจงหันหลังให้กับวังวนของการเป็นหนี้ อยู่ให้ได้ด้วยเงินของตัวเอง

โชคดีครับ และเป็นกำลังใจให้ครับ

ขอขอบคุณ คุณ GOKU มากๆนะค่ะ
สำหรับคำแนะนำ เป็นประโยชน์มากๆๆเลยค่ะ

ขอตอบตามตรงอยากจะปิดตัวที่ฟ้องเร็วๆค่ะ เพราะกลัวการไปศาลค่ะก็คนมันไม่เคยค่ะและเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูดค่ะ

ตอนนี้เจ้าหนี้ที่โทรทวงบ่อยก็ UOB ค่ะ ตอนนี้แถบทุกวันเลยเราก็รับทุกสายค่ะ
เจ้าหนี้รายอื่นๆๆยังเงียบอยู่ค่ะนานๆโทรที หรือเป็นเพราะเพิ่งงวดแรกเริ่มงวด2 ก็เลยปล่อยไปก่อนคิดว่าเข้างวด3คงได้เจอกัน
เวลาเจ้าหนี้โทรทวงki จะเน้นตอบแบบถามคำตอบคำมันเงียบเราก็เงียบค่ะจนมันรำคาญเลยขอวางหูไปเอง ค่ะ

เดือนหน้าคงสนุกกว่านี้แน่

kirana เขียน: ขอขอบคุณ คุณ GOKU มากๆนะค่ะ
สำหรับคำแนะนำ เป็นประโยชน์มากๆๆเลยค่ะ

ขอตอบตามตรงอยากจะปิดตัวที่ฟ้องเร็วๆค่ะ เพราะกลัวการไปศาลค่ะก็คนมันไม่เคยค่ะและเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูดค่ะ

ตอนนี้เจ้าหนี้ที่โทรทวงบ่อยก็ UOB ค่ะ ตอนนี้แถบทุกวันเลยเราก็รับทุกสายค่ะ
เจ้าหนี้รายอื่นๆๆยังเงียบอยู่ค่ะนานๆโทรที หรือเป็นเพราะเพิ่งงวดแรกเริ่มงวด2 ก็เลยปล่อยไปก่อนคิดว่าเข้างวด3คงได้เจอกัน
เวลาเจ้าหนี้โทรทวงki จะเน้นตอบแบบถามคำตอบคำมันเงียบเราก็เงียบค่ะจนมันรำคาญเลยขอวางหูไปเอง ค่ะ

เดือนหน้าคงสนุกกว่านี้แน่

จริงๆ ไปคุยที่ศาล ง่ายกว่าคุยกับคนทวงหนี้อีกนะครับ ลองสักครั้ง 2 ครั้งสิครับ แล้วจะติดใจ (พูดเล่นนะครับ)

สู้ๆครับผม

เป็นกำลังใจให้คุณ kirana นะคะ ไม่ต้องกลัวการไปศาลหรอกคะ ดิฉันได้หมายศาลใบแรกแล้วของอีซี่บาย บัตรยูเมะพลัส ยอดฟ้อง ประมาณ 116,XXX ขึ้นศาลวันที่ 15 พ.ค.56 นี้คะ ตอนแรกกลัวว่าจะเป็นยูโอบีที่่ฟ้องก่อน อาจจะเพราะยอดยูเมะพลัสเยอะก็เลยฟ้องเร็ว ทุกบัตรหยุดเดือนสิงหาคม 55 ของยูโอบีดิฉันมี 3 บัตร ยอดรวมตอนนี้ 78,XXX จะบอกว่าต้องอดทนกับยูโอบีสุด ๆ พออาทิตย์ก่อนเปลี่ยนคนทวง ค่อยยังชั่วหน่อย

ขอขอบคุณ สมาชิกทุกท่านนะค่ะที่ให้กำลังใจค่ะ จะอดทนเพื่อจะเป็นไทไร้หนี้เสียที

มาอัพเดทการทวงหนี้ค่ะ
วันนี้เจ้าหนี้โทรทุกรายเลยเพราะเริ่มดิวที่2 แล้วค่ะ โทรมาถามว่าจะจ่ายเมื่อไหร่มีค่าทวงถาม นะแต่ที่เด็ดคือ กสิกรค่ะ
กสิกร บัตรของคุณ___จะถูกยกเลิกวันนี้นะค่ะถ้าไม่มียอดชำระ
Ki ค่ะ
กสิกร ทางเรามีโครงการประนอมหนี้โดยจ่าย เดือนละ 2,000 บาท และไม่เกิน 60 งวด ๆแรกต้องจ่ายวันนี้เท่านั้นส่วนงวดถัดไป
จ่ายวันไหนก็ได้ในเดือนนั้นๆ และถ้าอยากจ่ายเป็นก้อนก็ลดให้ 20% ของยอดค้าง ณ.ปัจจุบัน
Ki แล้วดอกเบี้ยหละคิดยังงัย
กสิกร 20% ต่อปีค่ะ
Ki คิดในใจ(แล้วถ้าเราจ่ายเดือนละ 2,000 จะหักต้นเท่าไหร่เนี้ย)
Ki ยังไม่พร้อมค่ะ
กสิกร ถ้างั้นก็ตามระบบนะค่ะ
Ki ค่ะ
กสิกร วางหูไป

ทำไมประนอมหนี้เร็วจังเพิ่งขึ้นเดือน 2 เอง หรือว่ายอดหนี้เยอะก็ไม่รู้ถ้าเป็นอย่างนี้ฟ้องเร็วแน่เลย ตอนแรกเป็นห่วง UOB แต่กลับมาเป็นกสิกรเสียนี่ (เร็วติดจรวด)

วันพรุ่งนี้จะเจอรูปแบบไหนน๊า

เข้าใจอ่ะนะว่า มือใหม่ แต่อย่าเอาแต่วิตกกังวลสิ...
หมั่นอ่าน หมั่นขยันเข้ามากๆ
บัวเนี้ย ก็เคยเป็นแบบคุณ กลัวโน้นนี่นั่น ระหว่างที่กลัวก็ทำการบ้าน ด้วยการอ่านกระทู้ต่างๆ เยอะๆ
สมัยก่อน (วุ้ย..พูดเสียแก่เลย) ไม่มีการหากระทู้มาประเคนแบบนี้ ไม่แยกหมวดหมู่ให้แบบนี้
เราก็พยามยามทำให้สุดฤทธิ์สุดเดชแล้วนะ ช่วยอ่านๆกันหน่อยเถอะนะ คนดี...กอบัวขอร้องงงง

บัวรอดพ้นแต่ละด่านมาได้เพราะ เชื่อมั่นกรรมการแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
หยุดจ่าย ทำบัญชี เก็บเงิน เจ้าไหนให้ส่วนลดดีที่สุด จ่ายเจ้านั้น
สำหรับบัว ไม่กลัวการไปศาล ถึงกลัว ก็ไม่ให้เจ้าหนี้มันรู้ เพราะมันจับจุดอ่อนเราได้ไว แม่งหูผี จมูกมด
จริงแบบพ่อยอดบอก คุยกับศาล คุยง่ายกว่าเจ้าหนี้เสียอีก
ถ้าไม่อยากไป ก็พยายามเก็บเงินให้ได้ ประหยัดอดออม เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย
อึดๆเข้าไว้ ไม่เกินสองปีหนี้หมดแน่นอน
ส่วนการฟ้อง จะหนี้เยอะน้อย ไม่เกียวนักหรอก ขึ้นอยู่กับนโยบายของสถาบันนั่นมากกว่า และผลประกอบการของสถาบันนั้นว่า กำไรขาดทุนแค่ไหน
ยอดสูง...สูงขนาดต้องรีบฟ้อง เขาดูกันที่ยอดหลักแสน กะรับโทรศัพท์เขาไหม มีพฤติกรรมจะหนีหนี้ไหม แค่นั่นแหละ
อดทนให้มากๆ บอกตัวเองว่า "มันจะผ่านไป"

ขอขอบคุณ คุณกอบัวด้วยนะค่ะ จะทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ

ระยะทางยังอีกยาวไกล...สู้ค่ะ...

ไม่ต้องกลัวครับการไปศาล นัดเเรกของผม กลัวโน่น กังวลนี่ เเต่เตรียมพร้อมเต็มที่ อ่านๆๆเยอะๆๆ
จะรับมือยังไง อ่าน กรณีตัวอย่างของคนที่ไปเเล้วเยอะๆๆ จะทำลายความกลัวไปเยอะ

ตอนนี้ไปศาลชิวมากๆๆ เหมือนไปติดต่อธนาคารอะไรประมาณนั้น

โดนฟ้องมาเเละ ready, uob , easy, ล่าสุด ที่จะไป tanachart เเละ ktc 31 พค 56 นี้สองตัววันเดียว

ready เพ่ิงปิดไป หลัง พิพากษา ยอดฟ้อง 100000 ปิดไป 50000
easy ก็กำลังเจรจา ฟ้อง 53000 เจรจาอยุ่กะจะได้ สัก 25k ถ้าได้ก็ปิดก่อนไปนัดไกลเกลียครั้งที่ 3 ตอนนี้มันให้ 28k

***ทุกอย่างมีทางออกเสมอครับ เครียดมากก้โทรหา hotline คลายทุกข์ได้ครับ***