พร้อมรับมือแล้วครับ หนี้เกือบหนึ่งล้านบาท หยุดจ่ายสิ้นเดือนนี้ ขอกำลังใจ+แนวทางครับผม

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณเวปนี้อย่างมากที่ให้ทางสว่างกับผม ผมใช้เวลาในการอ่านกระทู้ปักหมุดรวมถึงเรื่องเล่าชาวหนี้นานประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งให้กำลังใจ แนวทาง และแง่คิดที่สุดยอดมากครับ อีกอย่างผมเคยคิดเสมอว่าผมตัวคนเดียวเวลาคนอื่นมีปัญหาเราช่วยตลอด แต่พอเราไม่ปัญหาไม่เคยไม่ใครช่วยเราได้เลย พออ่านในกระทู้หลายๆคนหนักกว่าผมอีก ทั้งปัญหาครอบครัว มีลูกมีภาระเยอะมาก ผมยังโสดอายุ 29 เองไม่มีภาระอะไร ต้องสู้เท่านั้นครับ ถึงจะหมดหนี้ จึงตัดสินใจสมัครสมาชิกและพร้อมเริ่มหยุดจ่ายสิ้นเดือนมีนาคม 2556 นี้ ปัญหาอย่างเดียวของผมคือ ไม่อยากให้คุณแม่รู้เพราะท่านเป็นความดัน และเคยเส้นเลือดในสมองแตกเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว เลยไม่อยากให้ท่านเครียด แนวทางของผมจึงเป็นการเก็บเงินให้เร็วที่สุดเพื่อทำ HC ก่อนฟ้องศาล หรือถ้าได้หมายศาลอาจต้องโกหกท่านไปบ้างตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า ให้ท่านรู้ตอนเนาจ่ายใกล้หมดก็จะได้เครียดน้อยลง

หนี้ของผมมีดังนี้ครับ
1.ธนาคาร UOB ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 55,000
2.ธนาคาร UOB ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน 85,000
3.ธนาคาร UOB ประเภทหนี้ สินเชื่อ 50,000
4.ธนาคาร Citibank ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 50,000
5.ธนาคาร Citibank ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน 105,000
6.ธนาคารกสิกรไทย ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 40,000
7.ธนาคารสแตนดาร์ดชาเตอร์ ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน50,000
8.ธนาคารทหารไทย ประเภทหนี้ สินเชื่อ 15,000

Non Bank
1.เฟิร์สซ้อยส์ ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน 100,000
2.ยูเมะพลัส ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน 178,000
3.บัตรโลตัส ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 45,000
4.อยุธยาการ์ดเซอร์วิสเซส ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 50,000
5.บัตรกรุงไทย ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 70,000
6.บัตรกรุงไทย ประเภทหนี้ บัตรกดเงิน 58,000
7.บัตรกรุงศรีจีอี ประเภทหนี้ บัตรเครดิต 35,000

รวม 15 ตัว ยอดรวมประมาณ 1,000,000 บาท

ตอนนี้เงินเดือนหลังหักภาษี ประกันสังคม สำรองเลี้ยงชีพ เหลือ 46,000 บาท
รายจ่ายที่จำเป็น ผ่อนรถ 9000 ผ่อนบ้าน 4000 ส่งครอบครัว 5000 สำรองไว้สำหรับฉุกเฉิน 5000 ซึ่งถ้าไม่มีเรื่องต้องใช้จะนำมา HC ด้วยแต่เดือนมิถุนาต้องจ่ายเงินกู้เรียน 10,000 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3000 จะประหยัดสุดๆ โชคดีที่ทำงานหอพักฟรี น้ำไฟฟรี เปิดแอร์ได้ไม่อั้น อิอิ จึงเหลือเงินไว้ทำ HC ประมาณเดือนละ 20000-25000 บวกกับโบนัสปลายปี คาดว่า 2ปีกว่าๆน่าจะหมดหนี้ได้ เคยคิดปรับโครงสร้างหนี้ต้องจ่ายถึง 6 ปี ดอกเบี้ยเกือบเท่าเงินต้นแล้ว ดชคดีที่เจอเวปนี้ก่อน

ส่วนประเด็นที่มาของหนี้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวผมเองใช้เงินแบบไม่วางแผน มีเท่าไรใช้ตลอด พอมีเรื่องจำเป็นจึงต้องกดบัตร แต่ที่นำมาซึ่งหนี้จำนวนมากเกิดจากการทำธุรกิจเครือข่ายที่ต้องซื้อของมาใช้เอง เราก็ต้องใช้บัตรเครดิตซื้อ ทำอยู่ครึ่งปีหมดไปเกือบห้าแสน ได้คืนมาไม่กี่หมื่นจึงตัดสินใจหยุดทำ จากนั้นก็จ่ายขึ้นต่ำมาเรื่อยๆจนหนี้พอก ไม่ไหว จึงจะหยุดจ่ายสิ้นเดือนนี้ครับ

ต้องขอรบกวนพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคนด้วยนะครับ มีอะไรแนะนำผมด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ที่อยากรบกวนทุกคนตอนนี้คือ เกี่ยวกับการฟ้องของแต่ละที่นะครับ เท่าที่อ่านปีนี้จะฟ้องเร็วขึ้นแทบทุกเจ้า บางเจ้าก็มีนโยบายเปลี่ยนไป ไม่ค่อยยอม HC ทั้งนี้ผมก็จะติดตามอ่านกระทู้ของทุกท่านตลอดครับ จะได้เตรียมพร้อมรับสถานะการณ์

ที่สำคัญขอกำลังใจจากทุกท่านด้วยนะครับผม ^_^

ยินดีต้อนรับ สมาชิกใหม่นะครับ ชมรมของเราให้ได้แค่แนวทาง ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของคุณเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัย ภาระ ตัวแปรที่แตกต่างกัน ไม่มีแนวทางที่ตายตัวและใช้ได้กับทุกคนนะครับ ชมรมของเรามีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ คือ Firstway Out, Secondway Out, และ Thirdway out ซึ่งบางคน ยังสามารถเอาแนวทางหลักๆ มาใช้แบบผสมผสานกันก็ได้

เริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ Firstway Out, Secondway Out คืออะไร ต้องอ่านกระทู้ต่อไปนี้เลยครับ

1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29

4. ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29

5. ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29

หลังจากนั้น สรุปแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะเป็น Firstway out หรือ Secondway out หรือ Thirdway out ก็เอาให้เหมาะกับรายรับ-รายจ่ายของคุณ ต่อจากนั้นก็แค่ทำตามที่กระทู้ข้างบนบอกไว้ครับ

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเลือก วิธีที่ 2 SECONDWAY OUT คุณต้องทำตามที่กรรมการแนะนำไว้ในกระทู้ ดังนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอด อย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์ (ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้ กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ.)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2. ต้องบอกครอบครัวให้รู้ จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไร และเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3. ต้องบอกที่ทำงาน( หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อน คนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร) ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไร และจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชี ห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักที ให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่า แล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานตามความเหมาะสม

4. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่ เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10000 เหลือ 5000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัว สำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดู ส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัว พยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม

5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆ ที่มีสารพัดรูปแบบและหาอ่านเพิ่มเติมตามเรื่องที่คุณต้องการรู้ได้จากการสืบค้นด้วยแท็บด้านบนหรือจะใช้ google ช่วยค้นหาก็ได้ โดยพิมพ์คำว่า site:consumerthai.org ต่อด้วยคำที่อยากหา เช่น site:consumerthai.org แฮร์คัท หรือ site:consumerthai.org ทวงหนี้


มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ โชคดีนะครับ

ที่น่าเป็นห่วงก็น่าจะเป็น Citibank, UOB และกรุงไทย ที่ตอนนี้ชอบฟ้องเร็ว (อาจรวมกสิกรไทยเข้าไปด้วย)
ประมาณ 4-6 เดือน คุณอาจได้รับหมายศาลมาเชยชมแล้ว

แต่คุณเก็บเงินได้เดือนนึง ค่อนข้างเยอะ ก็มีสิทธิต่อรองส่วนลด Hair-Cut ได้ (มีเงิน เสียงย่อมดัง)
และหากคุณรับสายทุกสาย ก็อาจได้รับหมายศาลช้าลง
เวลารับสายก็อย่าไปพูดถึง "ชมรม" "Hair-Cut" "หยุดจ่ายเพื่อรอส่วนลด หรือขอเก็บเงิน"
เพราะ จะทำให้คุณดูเป็นพวกรู้มาก มีเงินแต่ไม่อยากจ่าย หวังส่วนลด

อย่าเพิ่งคิดไปไกล เช่น ศาลหรืออายัด
ให้ศึกษาการรับมือพวกทวงหนี้ได้จากกระทู้ที่ผมวางลิ๊งค์ไว้ให้ข้างบน
โดยเฉพาะห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ จะช่วยได้เยอะครับ

ศึกษาให้ละเอียดตามช่วงเวลานั้น คุณจะได้มีข้อมูลแม่นพอที่จะรับมือได้
อีกทั้ง คุณจะได้ไม่ตื่นกลัว หรือสับสนกับข้อมูลที่มีอยู่เยอะมากครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ขอบคุณมากครับผม

สิ่งสำคัญที่สุดคือ หากคุณหยุดจ่ายแล้ว คุณต้องพยายามประหยัดให้มากที่สุด เพื่อที่จะไม่มีเงินก้อนสำหรับนำไป HC เมื่อหยุดจ่ายแล้ว มีระยะเวลาอยู่ระยะนึงในการเก็บเงินก้อน ใช้เวลาช่วงนี้ให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

สู้ๆๆ คับ
ผมก้อหยุดจ่าย เดือนนี้เดือนแรก

พี่มาเป็นกำลังใจให้คะ อายุยังน้อย เมื่อพลาดไปเรื่องวินัยในการใช้เงินตอนนี้ ไปเกิน 3 ปีจากนี้ไป พี่เชื่อ

ต่อไปน้องจะแข็งแกร่ง อดทน ไม่ตกเป็นทาสของบัตรพวกนี้อีกต่อไป

ถ้าเราใช้เงินที่เราหาได้เท่านั้น และเก็บเงินส่วนเกิน ไม่นานเงินในบัญชีฝากของเราจะงอกเงยมากมายค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ตั้งใจไว้ว่าจะใช้เงินไม่เกินเดือนละ 3000 ครับ ที่เหลือเก็บทุกบาท ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม

เข้ามาให้กำลังใจน้อง niyombant คะ พี่หยุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 55 ยอดหนี้รวม 7 แสนกว่าคะ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ยังไงก็มาเล่าให้เพื่อนๆในนี้ฟังบ้างนะครับ

สวัสดีครับ คุณ niyombant วางแผนเก็บเงินได้เยอะอย่างนี้ไม่ช้าหนี้หมดแน่นอน ครับ

มาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งครับ สิ้นเดือนนี้คงเริ่มทวงแบบเบาๆก่อนเพราะเป็นเดือนแรก ยังไงจะเข้ามาเล่าเรื่อยๆครับ สิ้นเดือนนี้ถ้าเงินเหลือว่าจะปิดสินเชื่อ TMB ก่อนเพราะเหลือแค่ 15000 จะได้ประเดิมเอาฤกษ์เอาชัย

สวัสดีค่ะ คุณ niyombant อ่านเรื่องของคุณแล้ว โหๆๆๆ .... เราอายุเท่ากันเลยหนี้ก้อใกล้เคียงนะ ของpennoon เกือบ 5 แสน นี่ก้อหัวใจจะวายแล้ว หยุดจ่ายมาได้ 4 เดือนเข้าเดือนที่ 5แล้ว น่าจะได้หมายศาลเร็วๆนี้ เพราะโดนเจรจาให้ปรับดครงสร้างแต่เราไม่ปรับ แต่คุณน่าจะเป็นไทยได้แล้วกว่าpennoon นะเพราะเงินเดือนคุณเยอะมากๆๆ

สู้ๆนะค๊ะ

รบกวนขอคำแนะนำครับ

ถ้าผมจะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่บ้านเพื่อนตอนนี้ ถึงเวลาหมายศาลจะส่งมาที่ทะเบียนบ้านใหม่หรือไม่ครับ เพราะเท่าที่อ่านมายังไม่ค่อยเคลียร์กับประเด็นนี้ ใครเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ไม่อยากให้แม่รู้เรื่องฟ้องร้องตามที่ได้เล่าไป และจะได้สะดวกในการไปศาลเพราะบ้านอยู่ไกลที่ทำงานมากครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

niyombant เขียน: รบกวนขอคำแนะนำครับ

ถ้าผมจะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่บ้านเพื่อนตอนนี้ ถึงเวลาหมายศาลจะส่งมาที่ทะเบียนบ้านใหม่หรือไม่ครับ เพราะเท่าที่อ่านมายังไม่ค่อยเคลียร์กับประเด็นนี้ ใครเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ไม่อยากให้แม่รู้เรื่องฟ้องร้องตามที่ได้เล่าไป และจะได้สะดวกในการไปศาลเพราะบ้านอยู่ไกลที่ทำงานมากครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

สวัสดีครับ คุณ niyombant สิ้นเดือนนี้คุณจะหยุดจ่ายกว่าจะถึงกระบวนการยื่นฟ้องศาล เร็วที่สุดน่าจะเป็น กรกฎาคม 2556 หากย้ายทะเบียนบ้านตอนนี้ หมายศาลจะส่งไปที่ทะเบียนบ้านใหม่ครับ

niyombant เขียน: รบกวนขอคำแนะนำครับ

ถ้าผมจะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่บ้านเพื่อนตอนนี้ ถึงเวลาหมายศาลจะส่งมาที่ทะเบียนบ้านใหม่หรือไม่ครับ เพราะเท่าที่อ่านมายังไม่ค่อยเคลียร์กับประเด็นนี้ ใครเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ไม่อยากให้แม่รู้เรื่องฟ้องร้องตามที่ได้เล่าไป และจะได้สะดวกในการไปศาลเพราะบ้านอยู่ไกลที่ทำงานมากครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

เรื่องหมายศาลก็ตามที่คุณ RIDER V1 บอกครับ เพราะผมก็ทำอยู่ แต่เรื่องที่กลัวคุณแม่รู้นี้ไม่แน่ครับ เพราะของ CITY ADVANCE นี่นอกจากหมายศาลที่ส่งมาตามทะเบียนบ้านล่าสุดแล้ว เอกสารทวงหนี้อื่นๆก่อนฟ้อง มันส่งไปทุกที่ครับ ที่อยู่ทะเบียนบ้านเดิม ที่อยู่ในบัตรประชาชน ที่ทำงาน และข้อความในจดหมายจะระบุว่าเป็นการเตือนก่อนดำเนินการฟ้อง

ผมว่าบอกแม่ไว้ดีกว่านะครับ ดีกว่ารู้เองเยอะเลย เชื่อผมเถอะ...

ผมมี บัตรเตรดิตcitibank กับ citibank ready cradit น่าจะคนละตัวกับ citiadvance หรือเปล่าครับ

niyombant เขียน: ผมมี บัตรเตรดิตcitibank กับ citibank ready cradit น่าจะคนละตัวกับ citiadvance หรือเปล่าครับ

เออ เนาะโทษทีครับ ใช่ครับคนละตัว คนละบริษัทเลยครับ

แต่พวกจดหมายทวงหนี้ทั่วราชอนาจักรนี่ มีหลายเจ้านะครับ ถ้าตามรายชื่อเจ้าหนี้คุณที่ผมมีและเป็นลักษณะนี้อีกที่คือ บัตรกรุงศรีครับ

ผมก็ยังแนะนำเหมือนเดิมครับ เรื่องนี้ปิดไม่มิดหรอกครับ ช้าเร็วก็ต้องรู้ การรู้จากเรายังดีกว่ารู้จากเจ้าหนี้มากครับ

เข้าใจว่ามันยากครับ บางทีการบอกให้คนที่รักรู้นี่จะลำบากใจกว่ารับมือเจ้าหนี้อีก แต่ผมก็ยังแนะนำให้พยายามอธิบายให้เข้าใจด้วยตัวคุณเอง

การอธิบายให้แม่รู้ต้องมีขั้นตอนที่ค่อยเป็นค่อยไป อธิบายแนวทางแก้ปัญหาให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดของหนี้ทั้งหมดหรอกครับ เดี๋ยวท่านกังวลเกิน จุดประสงค์การบอกคือให้ท่านทราบว่าเรามีปัญหานะ และเราพยายามแก้ปัญหาอยู่ซึ่งเรามั่นใจสามารถแก้ปัญหาได้ ท่านไม่ต้องกังวล ผมก็ว่าท่านจะถามว่าทำยังไง อันนี้คุณก็ต้องอาศัยความรู้ที่คุณศึกษามาอธิบายกระบวนการหลักๆไป บอกท่านว่าท่านอาจได้รับจดหมาย หรือการติดต่อมา แต่ไม่ต้องกังวลมันเป็นแค่วิธีเลวๆของพวกทวงหนี้ ......บลาๆๆๆ อะไรประมาณนี้แหละครับ

ถ้าคุณผ่านการคุยนี้มาได้ คุณจะได้พลังใจมาเยอะเลย

ที่สำคัญ ไม่ต้องรีบ เตรียมตัวให้พร้อมให้ตัวเองมี สติ มั่นใจก่อน ค่อยคุย หาจังหวะดีๆ ไม่ต้องบอกยอดหนี้ทั้งหมดหรือรายละเอียดทั้งหมดก็ได้

ลองคิดดูนะครับ เป็นคำแนะนำเฉยๆ คุณต้องเลือกทางของคุณเองนะครับ

เอาใจช่วย สู้โว้ย..ไอ้น้อง

เป็นกำลังใจให้คะ เพิ่งมาเป็นสมาชิกใหม่ ไม่กี่นาที เพราะตอนนี้ก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกันคะ หมุนไม่ไหวแล้วหล่ะคะ ว่าจะหยุดจ่ายเหมือนกัน

ขอบคุณ คุณพ่อยอดมากนะครับ จะพยายามบอกให้ที่บ้านทราบครับ ถ้าพร้อมจริงๆ

คุณ cherroom สู้สู้ เช่นกันครับ เป็นกำลังใจให้ครับ