กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Anu19 เขียน: ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ การขึ้นศาลของ City bank ค่ะ อ่านแล้วมีประโยชน์มากๆเลย เราก็หยุดสินเชื่อ city bank เหมือนกันค่ะ กำลังจะเข้าเดือนที่2 จากที่อ่านคือไม่ค่อยลดเลย สงสัยจะรอไปศาลเหมือนกันค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Mochi เขียน: กลับมาเล่าต่อค่ะ
ความเดิมจากที่เจรจากับทนายโจทก์แล้วไม่เป็นผล
นางไม่ยอมให้เลื่อน และให้เรากลับมานั่งรอในห้องพิจารณาคดี
สักพักเสมียนศาลก็นำคำฟ้องเราเสนอต่อศาล
ศาลท่านพิจารณาแล้วจึงให้เรียกทนายและเรามายืนต่อหน้าศาล
(เดินออกไปยืนข้างหน้าเลยค่ะ)
ศาลท่านอ่านเอกสารคำฟ้องให้เราและทนายโจทก์ฟังแบบสรุปคร่าวๆ
แล้วเริ่มต้นถามเราว่า
ศาล: จำเลยตกลงกับทนายโจทก์เขาว่าอย่างไร
เรา: หลังจากเจรจากันแล้ว ไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขได้ค่ะ
เพราะทางทนายโจทก์เสนอยอดผ่อนต่อเดือนสูงเกินกว่าจะผ่อนไหวและระยะเวลา
ที่ให้ผ่อนก็สั้นมาก ดิฉันไม่สามารถรับเงื่อนไขได้
ศาล: เอ้า แล้วทางโจทก์จะว่าอย่างไร
ทนายโจทก์ : ทางจำเลยขอไปหาเงินก่อนค่ะท่าน แจ้งว่าผ่อนไม่ไหว
ศาล : สรุปทางจำเลยประสงค์จะดำเนินการอย่างไรหากทำตามที่เขา
แจ้วมาไม่ได้น่ะ แล้วจะไปหาเงิน แล้วมันจะจบอย่างไร
เรา : ดิฉันขออนุญาติศาลเลื่อนไปอีกนัดค่ะ เพื่อต่อรองกับทางธนาคาร
โดยตรง
ศาล : ปกติคดีแบบนี้ ศาลไม่ได้ให้เลื่อนกันไปเรื่อยๆหรอกนะ
จำเลยคิดว่าประสงค์ จะเลื่อนไปอีกนานสักเท่าไหร่
เรา : ขอสองเดือนจะได้หรือไม่คะ เพื่อจะเก็บเงินเพิ่ม
ศาลท่านหัวเราะเรา แล้วบอกว่าคดีแบบนี้อายุมันไม่นานขนาดนั้น
ที่จะให้เลื่อนกันสองเดือน
เรา: แต่จะให้ดิฉันยอมรับเงื่อนไขตรงนี้ ณ วันนี้ ดิฉันก็ยังทำตามเงื่อนไขของโจทก์ไม่ได้อยู่ดีค่ะ ดิฉันยังไม่มีเงินขนาดนั้น
ศาล: เห็นแก่จำเลยมีเจตนาจะไปเจรจากับเจ้าหนี้ ศาลจะเลื่อนให้
1เดือนนะ นัดหน้าเป็นวันไหนดี ทางโจทก์ว่าอย่างไร
ทนายโจทก์ : วันที่ 17 ธ.ค ค่ะ
ศาล :เอ้า เอาเป็นว่าตามนั้นนะ แต่จำเลยรู้ใช่ไหม ว่าสามารถคุยกับโจทก์เค้าได้นะ หาก 12 เดือนไม่ไหว ก็เป็น 24,36 เดือน ได้คุยกับโจทก์เค้าไหม
เรา : ทางโจทก์แจ้งแค่ 12เดือนเท่านั้นค่ะ ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมเลย
ทนายโจทก์นางทำท่าทางหลุกหลิก แล้วนางก็บอกว่า จำเลยต้องการเลื่อนนัดค่ะ ไปหาเงินก่อน และเจราจาปิดยอด(นางรีบชิงพูดสวนออกมา)
ศาล : เอาล่ะ ครั้งหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะมายืนตรงนี้ ให้ไปตกลงกันมาซะให้เรียบร้อยก่อนนะ ไม่เอาอย่างวันนี้น่ะ จะเอาอย่างไรก็มาแจ้งต่อศาลเลย (โดนดุไป 1ที) ส่วนจำเลยครั้งหน้าศาลไม่อนุญาติให้เลื่อนแล้วนะ ไปคุยกับเค้าให้เรียบร้อย จะสู้หรืออะไรก็ไปหาทนายมานะ
เรา : ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ศาล: เอ้า ทั้งคู่ฟังนะ แล้วศาลก็สรุปความการเลื่อนและนัดครั้งหน้าให้เราและทนายโจทก์ฟังอีกครั้ง และบอกเราว่า ให้รอก่อนศาลจะมีหนังสือให้เซ็นต์
เราจะกลับไปนั่งที่
สักพักไม่ถึงสามสิบวิ ไม่ทันจะเดินถึงเก้าอี้
ทนายโจทก์ก็เอาเอกสารเลื่อนนัดมาให้เซ็นต์
ศาลท่านตะโกนออกมา อ่านซะก่อนนะ อ่านให้เข้าใจแล้วจึงเซ็นต์
เราก็เซ็นต์เอกสารแล้วทนายโจทก์ก็เอาเอกสารไปคืนเสมียนศาล
กลับได้ค่ะ เสมียนศาลกล่าว
เราก็เดินไปหยิบกระเป๋าและเดินออกมาจากห้องพิจารณา
ผ่านไปได้แล้วสำหรับการไปศาลครั้งแรก
จะบอกว่าที่เราเขียนเล่ากับความเป็นจริง อารมณ์มันต่างกันนะ
ตอนที่เรายืนอยู่ มันมีทั้งความกดดัน และตื่นเต้น และกลัวมาก
อาจเป็นเพราะ เจอทนายโจทก์สายโหด ไม่คุยดี ไม่อ่อนข้อ
และเดินหน้ากดดัน
แต่ความโชคดีของเราคือ ศาลท่านสังเกตเห็น ว่าการเจรจาของเรากับทนายโจทก์ ไม่ได้เป็นไปแบบ เจรจากันดีๆ และให้โอกาสเราในการเลือกเงื่อนไขมากนัก
ไม่รู้ของท่านอื่นๆเป็นอย่างไร แต่ของเราเจอของแข็ง จะให้ยอมหน้าศาลท่าเดียว
กะปิดจ้อบสะบัดบ้อบกลับบ้านสวยๆงี้
โชคดีที่ศาลท่านยังเมตตาและมองเห็นค่ะ
นัดหน้าคิดอยู่ว่าหากจำนวนยอดผ่อนต่อเดือนยังสูงจะทำอย่างไรดี
(เพราะทางนู้นไม่ยอมแน่ๆ)
วันนี้ทางสนง. โทรมา น่าจะโทรมาคุยต่อรองกับเราล่ะ
แต่เรายังไม่รับสาย เพราะเงินยังมีไม่ครบ กำลังคิดอยู่ค่ะว่าควรทำอย่างไรดี จะมีเงินครบก็เดือน เม.ย 2562 นู่น
ยอมหน้าศาลก็ยังจ่ายไม่ไหว
หรือจะให้ศาลตัดสินไปเลย
แล้วไปหักคอจ่าย ผ่อนต่อเดือนเอา จนเก็บเงินได้แล้วเจรจาhair cut
ข้อกังวลคือตอนนี้การหักคอจ่าย ยังใช้ได้อยู่ไหมคะ
หากจ่ายประจำไม่ขาดเลย เจ้าหนี้จะบังคับคดีได้หรือไม่
พี่ๆเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา