ขอถือโอกาสนำเสนอประเพณีไหว้ที่ถูกต้องค่ะ เพื่อเป็นสิริมงคล มั่งมีศรีสุขค่ะ
ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน
คือวันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่
• วันจ่าย
คือ วันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ (ตี่จู้เอี๊ย) ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว
• วันไหว้
คือวันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ
o ตอนเช้ามืดจะไหว้ "ไป่เล่าเอี๊ย"
เป็น การไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง (ซาแซ) ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง (โหงวแซ) เหล้าน้ำชาและกระดาษเงินกระดาษทอง
o ตอนสาย จะไหว้ "ไป่แป๋บ้อ"
คือ การไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตาม คติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว
o ตอนบ่าย จะไหว้ "ไป่ฮ่อเฮียตี๋"
เป็น การไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัด เพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล
• วันเที่ยวหรือ วันถือ
คือ วันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่หนึ่ง (初一 ชิวอิก) ของเดือนที่หนึ่งของปี วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันคือ "ไป่เจีย" เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออก เสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กิก" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น
สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลนี้ คือ อั่งเปา(ซองแดง)
คือ ซองแดงใส่เงินที่ผู้ใหญ่แล้วจะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง ^_^
การจัดของไหว้ สำหรับไหว้เจ้าที่ประกอบด้วย
1. ของ คาว หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา แล้วแต่ว่าจะไหว้มากหรือน้อย
1. ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่
2. ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วยหมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา ขนมไหว้ ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟู คักท้อก้วยหรือขนมกุยช่าย(เป็นไส้ชนิดใดก็ได้)
2. จำนวนชนิดของขนมไหว้ นิยมให้สอดคล้องกับของคาว เช่น ไหว้ ของคาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง
1. อื้ คำ นี้ แปลว่ากลมๆ ขนมอี๊กลมๆ แป้งนิ่มๆ เคี้ยวง่าย กลืนง่าย ให้ความหมายมงคลอวยพรให้ชีวิตราบรื่นง่ายดาย เหมือนขนมอี๊ที่ไหว้ และรับประทาน
2. ขนมจันอับซาลาเปา ขนมไหว้นี้ต้องมีสีชมพู หรือมีแต้มจุดแดง
3. ขนมไหว้พิเศษขนมเข่ง ขนมเทียน ต้องมียืนเป็นหลัก
4. โหงวเส็กที้งแปลว่า ขนม 5 สี อันได้แก่ ถั่วตัด งาตัด ข้างพอง
5. ถั่วเคลือบ น้ำตาล และฟักเชื่อมบางทีก็เรียกว่า “ขนมจันอับ”
6. ผลไม้ส้ม กล้วยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุ่น แอ๊ปเปิ้ล ชมพู่ ลูกพลับ
7. ส้มคนจีนเรียกว่า กา แต่ก็มีอีกคำหนึ่งเรียกว่า “ไต้กิก” แปลว่า โชคดี (ส่วนมากนิยมไหว้ 4 ผล เพราะเลขสี่พ้องเสียงคำ “สี่” ที่แปลว่าดี)
3. เครื่องดื่ม น้ำชา 5 ที่หากมีไหว้ของคาวจะไหว้เหล้าด้วยก็ได้ก็จัด 5 ที่เช่นกัน
4. กระดาษเงิน กระดาษทอง ชุดไหว้เจ้าที่ จำนวนธูปไหว้ คนละ 5 ดอก
การจัดของไหว้ สำหรับไหว้บรรพบุรุษประกอบด้วย
• ของคาว หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา แล้วแต่ว่าจะไหว้มากหรือน้อย
o ไหว้ 3 อย่าง เรียกว่า ชุดซาแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่
o ไหว้ 5 อย่าง เรียกว่า ชุดโหงวแซ ประกอบด้วย หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา
กับข้าว นิยม 8 อย่าง หรือ 10 อย่าง โดยให้มีของน้ำ 1 อย่าง
ข้าว ข้าวสวยใส่ชาม พร้อมตะเกียบ จำนวนชุดตามจำนวนบรรพบุรุษ นิยมนับถึงแค่รุ่นปู่ย่า
• การ ไหว้ที่หน้ารูปบรรพบุรุษ หลังจากไหว้เจ้าที่เสร็จแล้วจำนวนชนิดของขนมไหว้ นิยมให้สอดคล้องกับของคาว เช่น ไหว้ของ คาว 3 อย่าง ขนม 3 อย่าง ผลไม้ 3 อย่างขนมไหว้
o ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟู คักท้อก้วยหรือขนมกุยช่าย(เป็นไส้ชนิดใดก็ได้)
o ขนมจันอับ ซาลาเปาขนมไหว้นี้ต้องมีสีชมพู หรือมีแต้มจุดแดง
o ขนมไหว้พิเศษขนมเข่ง ขนมเทียน ต้องมียืนเป็นหลัก
o ผลไม้ส้ม กล้วยทั้งหวีเลือกเขียวๆ องุ่น แอ๊ปเปิ้ล ชมพู่ ลูกพลับ
• เครื่องดื่ม น้ำชา 5 ที่ หากมีไหว้ของคาวจะไหว้เหล้าด้วยก็ได้ ก็จัด5 ที่เช่นกัน
• กระดาษเงิน กระดาษทอง ต้องมี อ่วงแซจิ่ว สำหรับใบเบิกทางให้บรรพบุรุษลง มารับของไหว้
• ทองแท่งสำเร็จรูป แบงก์กงเต็ก ค้อซี ฯลฯจะมากหรือน้อยแล้วแต่เรา จำนวนธูปไหว้ คนละ 3 ดอก
ความหมายของไหว้ตรุษจีน ความหมายของ ของไหว้วันตรุษจีน
• ความหมายของอาหารไหว้ ซาแซ-โหงวแซ
o ไก่หมายถึง ความสง่างาม ขุนนาง ยศ และ ความขยันขันแข็ง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
o เป็ดหมายถึง สิ่งที่บริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
o ปลาหมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
o หมูหมายถึง ความอุดมสมบรูณ์ มีกินมีใช้
o ปลาหมึกหมายถึง เหลือกินเหลือใช้(เหมือนปลา)
o ตับเพื่อให้ก้าวหน้าในงานเพราะคนจีนแต้จิ๋วเรียกตับว่า “กัว”
o ปลาหมึกแห้งเพื่อให้มีหมึก หรือความรู้ เป็นการอวยพรให้เป็นบัณฑิต หรือผู้มความรู้
o ซาลาเปาเพื่อ “เปาไช้” แปลว่า “ห่อโชค”
• ความหมายของ ผลไม้ไหว้
o กล้วยหมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
o แอปเปิ้ลหมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
o สาลี่หมายถึง โชคลาภมาถึง ( ควรระวัง ไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ )
o ส้มสีทองหมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
o องุ่นหมายถึง ความเพิ่มพูน
• ความหมายของขนมไหว้
o ขนมเข่งหมาย ถึง ความหวานชื่น ชีวิตมีความราบรื่น รูปลักษณ์มีความหมายของชะลอมที่เก็บของ เมื่อรวมกันกับความหวานชื่น จึงหมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
o ขนมถ้วยฟูหมายถึง ความเพิ่มพูน เฟื่องฟู
o สาลี่(ขนม)หมายถึง ความเพิ่มพูน เฟื่องฟู (เหมือนขนมถ้วยฟู)
o ขนมไข่หมายถึง เพื่อให้เจริญเติบโต
o ขนมเทียนหมายถึง เพื่อให้สว่างรุ่งเรือง ขนมเทียน ปกติ ขนมเทียนไม่ใช่ขนมของชาวจีนดั้งเดิม แต่เป็นขนมที่ถูกปรับปรุงขึ้นจากชาวจีนโพ้นแผ่นดิน
โดยดัดแปลงจากขนมท้องถิ่น(ของไทย) จากขนมใส่ไส้ เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิมาเป็นแป้งข้าวเหนียวแทน
ความ หมายของขนมเทียนจึงใช้ความหมายเดียวกับขนมเข่ง คือความหวานชื่น ราบรื่น ส่วนรูปลักษณ์ที่เป็นสามเหลี่ยมกรวยแหลม มีลักษณะมงคลในทางศาสนา คือ เจดีย์
o จันอับ (จั๋งอั๊บ)หมาย ถึง “ ปิ่นโต” ( “จั๊ง” หมายถึงชั้น, “อั๊บ” หมายถึงกล่อง) ความหมายรวมของ “จั๋งอั๊บ” คือ จึงหมายถึง ความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป
• ความหมายของมงคลอื่นๆ
o เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
o เกาลัด -มีความหมายถึง เงิน
o ถั่วตัด -หมายถึง แท่งเงิน
o สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย
o เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข
o หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข
o เต้าหู้ - ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
• อาหาร อื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
• ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน
วันตรุษจีน 2555 หรือวันปีใหม่ของคนจีน ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2555 ฤกษ์ที่ดีที่สุดในการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภปีนี้ จะอยู่ในยามที่สี่ คือเวลา 05.01 - 06.59 น. ช่วงใกล้สว่างของเช้าแรกวันที่ 23 มกราคม 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่ฟ้าเปิด เป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด โดยปีนี้องค์ไท้ส่วย จะเสด็จมาทาง ทิศตะวันตก วันนี้ กันค่ะ
วันตรุษจีน 2555 วิธีการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย
การไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตรุษจีนปี 2555
ฤกษ์ยามมงคล ในการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปี 2555
สำหรับในปีมะโรง (壬辰) หรือปีมังกร 2555 ฤกษ์ยามมงคลที่จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งแห่งโชคลาภ ในการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภในปีนี้ จะอยู่ในยามที่สี่ คือเวลา 05.01 - 06.59 น. ช่วงใกล้สว่างของเช้าแรกวันที่ 23 มกราคม 2555 ซึ่งเป็นอรุณแรกของวัน ชิวอิก (日一初)
ในปีนี้เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ท่านจะเสด็จมาอำนวยโชคลาภทางทิศตะวันตก ที่ 255 -285 องศา (ซึ่งถ้าต้องการจุดแน่นอน ต้องวัดด้วยเข็มทิศทหารก็ใช้ได้) โดยตัวผู้ไหว้ต้องหันหน้า หรือตั้งโต๊ะไหว้ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เข้าหาองค์ไฉ่ซิ่งเอี้ยในทิศดังกล่าว
การแต่งกาย ในการไหว้เทพไฉ่ซิ่งเอี้ย
สำหรับ การแต่งกาย ชาวจีนนิยมสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงสดใส โดยเฉพาะในวันตรุษจีนและงานมงคลต่างๆ เช่น งานแต่งงาน เพราะชาวจีนถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เป็นสิริมงคล โดยเฉพาะในวันที่สำคัญๆ จะสังเกตว่าชาวจีนจะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ หรือจะสะดวกแต่งกายด้วยสีสันที่ดูสดใสก็ได้ แต่ไม่ควรใช้สีขาวหรือดำ
ทุกปีเกิด ทุกท่านไหว้ เทพไฉ่ซิ่งเอี้ย ได้ ...ไม่มีชง! มีแต่ความเป็นสิริมงคล
การไหว้เทพไฉ่ซิ่งเอี้ย หรือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลายท่านกังวลเรื่องชง ต้องบอกว่าทุกท่านที่เกิดในปีนักษัตรต่างๆ สามารถไหว้เทพไฉ่ซิ่งเอี้ย หรือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลหรือกลัวเรื่องชง! เพราะทุกท่านทำพิธีสักการะไหว้ขอพรจากท่าน ก็เพื่อขอบารมีคุ้มครองปกปักรักษา และอำนวยพรให้เกิดโชคลาภต่างๆ อยู่แล้ว นับเป็นเรื่องที่ดีมีความเป็นมงคลต่อชีวิตที่ได้บูชาท่าน เทพทั้งหลายท่านมีเมตตาไม่เคยให้ร้ายใคร หรือไปเบียดเบียนหลอกเอาเงินใคร หรือทำร้ายใครให้ทุกข์ยาก ไหว้ท่านเสร็จของที่ไหว้ก็นำไปทานเป็นสิริมงคลไม่เสียเปล่า ดังนั้นเทพท่านไม่มีชงกับใครทั้งสิ้น
เครื่องสักการะ บูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ มีดังนี้
1. รูปภาพ หรือรูปปั้น องค์ไท้ส่วย หากไม่มี เวลาไหว้ ก็ให้ระลึกถึง
2. แจกันดอกไม้สด 1 คู่
3. เทียนแดง 1 คู่
4. กระถางธูป 1 ใบ(ปกติให้ใช้แยกต่างหาก เพราะเมื่อไหว้เสร็จแล้ว ต้งออัญเชิญเข้าบ้าน และตั้งบูชาไว้ตลอดปี)
5. ธูป 3 ดอก ต่อหนึ่งท่าน
6. หงิ่งเตี๋ย 12 ชุด
7. กิมหงิ่งเต้า 1 คู่
8. เทียงเถ้าจี๊ 1 ชุด
9. ผลไม้ 5 อย่าง
10. สาคูแดงต้มสุก 5 ถ้วย (ต้มสาคู แล้วใส่น้ำแดงเฮลบลูบอยลงไป)
11. น้ำชา 5 ถ้วย
12. ข้าวสวย 5 ถ้วย
13. เทียบเชิญแดง 1 แผ่น (สำคัญมาก)
14. ขนมจันอับ 1 จาน
15. กระดาษสีเขียว 1 แผ่น (เทียบเชิญสีเขียว)
16. เจไฉ่ 5 อย่าง (เช่น เห็ดหอม, เห็ดหูหนู, ดอกไม้จีน, วุ้นเส้น, ฟองเต้าหู้)
ซึ่งโดยปกติ ชุดไหว้องค์ไฉ่ซิ่งเอี้ย จะมีขายตามศาลเจ้าจีนทั่วไป หรือร้านขายพวกของมงคลของจีน ซึ่งเมื่อซื้อมาแล้ว ก็ให้เปิดออกมาเช็คดูครับ เพราะบางที่อาจไม่ครบ จะได้เตรียมหาเพิ่มเติมให้เรียบร้อยก่อน ส่วนพวกของไหว้ อย่างข้าวสาร,ผลไม้,สาคูแดง และเจไฉ่ ให้เตรียมในวันไหว้ได้
ซึ่งหาได้ครบหรือไม่ครบ ก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญที่สุด คือต้องมีเทียบเชิญสีแดง และสีเขียว สองอย่างนี้ จำเป็น เพราะเราต้องเขียนชื่อและที่อยู่ของเราลงไป รวมถึงเขียนเชิญ องค์ไท้ส่วย เพียงแต่เวลาและทิศทาง ให้ถูกต้องตามฤกษ์ของปีนี้
การประกอบพิธีไหว้
ให้จัดเตรียมของไหว้ทุกอย่างลงบนโต๊ะพร้อมทั้งหันหน้าไปทางทิศที่องค์ไฉ่ซิ่งเอี้ย จะเสด็จมา โดยให้ทุกคนอยู่หน้าโต๊ะ และผู้ที่ไหว้ หันหน้าไปทาง ทิศเหนือ
ให้นำเทียบเชิญสีเขียว(เพื่อเชิญเทพเจ้า) มาวางไว้บนโต๊ะในทิศที่อัญเชิญเทพเจ้า
แล้วนำเทียบสีแดงมาเขียนขอพรจากเทพเจ้า(ตามต้องการของแต่ละบ้าน) และให้ลงชื่อ นามสกุล และวันเดือนปีเกิด ของแต่ละคน ของทุกคนในบ้านลงไป(รวมถึงคนที่อาจไม่ได้มาร่วมไหว้ในวันนี้ แต่เป็นคนในบ้านของท่าน) และเขียนคำขอที่ต้องการให้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ประทานมาให้ในปีนี้
คำกล่าวอัญเชิญเทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย
ให้เปล่งเสียงหรืออธิษฐานในใจ กล่าวว่า 'วันนีข้าพเจ้า........ ขอเรียนเชิญองค์ไฉ่ซิ่งเอี้ย มารับเครื่องสักการะบูชา ซึ่งมี(กล่าวถึงสิ่งที่ท่านได้จัดเตรียมและนำมาถวาย) และหลังจากองค์ท่านได้รับเครื่องสักการะเหล่านี้แล้ว จงประทานพรให้ครอบครัวของข้าพเจ้าทุกคน จงประสบแต่โชคลาภความสุข และความสำเร็จ สมดังที่มุ่งหวังทุกประการ' (หากท่านมีขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ก็ขอต่อไปได้)
หลังจากทำพิธีเสร็จแล้ว
ให้นำของไหว้ที่เป็นกระดาษทั้งหมด รวมถึงเทียบเชิญสีแดง และสีเขียว ไปเผาไฟในภาชนะที่เตรียมไว้ จึงจะสัมฤทธิ์ผล แล้วอัญเชิญองค์ไท้ส่วย กระถางธูป เทียนแดง นำเข้าบ้าน ปิดประตูบ้าน เพื่อเชิญองค์ไท้ส่วยเข้าบ้าน ส่วนของที่รับประทานได้ จะทานเลย หรือเก็บไว้ทานวันหลังก็ได้ แต่ไม่ควรทิ้งไป เพราะถือเป็นของมงคล
หากไม่สะดวก หรือไม่มีเวลาจัดเตรียม แต่มีแรงศรัทธา ก็ใช้เพียงธูปเทียน จุดธูปกล่าวอัญเชิญท่าน ตามฤกษ์และทิศทางที่ท่านจะเสด็จมา โดยตัวคุณต้องหันหน้าไปทาง ทิศเหนือ และกล่าวคำสักการะและขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ จากนั้นปักธูปลงในกระถาง แล้วกล่างอัญเชิญท่าน เข้ามาทางประตูบ้าน