ต่อสู้กับหนี้ 2 ล้านกว่า

7 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #92966 โดย star_dust
ต้องขอฝากตัวไว้ด้วยครับ จะขอเริ่มบันทึกการต่อสู้กับหนี้นะครับ

เดิมทีเดียวเคย พยายามต่อสู้จนชำระหนี้พวกบัตรหมดไปแล้วตั้งแต่ปี 2555 แต่มาตกงานอยู่หลายเดือน พอได้งานก็เริ่มมีค่ารายได้ เริ่มมีเครดิตดี เหล่าพวก Tele Sale ก็โทรมาชวนทำบัตร ไม่เว้นแต่ละวัน

อยู่ๆไป ก็มาเพิ่มวงเงินให้ ชวนให้รับเงินสดไว้สำรองจ่ายช่วงปีใหม่ ช่วงนั้นช่วงนี้เรื่อยๆ ประกอบกับมีเหตุต้องใช้เงิน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายมาก เนื่องจากต้องเดินทางไปกลับที่ทำงานข้ามจังหวัดทุกวัน เพราะต้องดูแล แม่

จนกระทั้งพบว่า จ่ายขั้นต่ำไปมากกว่าเงินเดือนแล้ว และที่จ่ายไปได้ ก็เพราะหมุนเงินทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ตอนที่รู้ตัวเมื่อต้นปี 2559 ก็มีเหตุน้ามาป่วยหนัก จนเป็นผู้ป่วยติดเตียง โรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาล ไม่มีใครดูแลได้ ต้องไปฝากศูนย์ดูแลคนชราดูแล ต้องเสียค่าดูแลรายเดือน กับค่ายาอีก ทำให้จมลงไปเรื่อยๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #92969 โดย star_dust
รายได้ก่อนสุทธิหลักหักภาษี และอื่นๆแล้ว 60,000 บาท
สรุปยอดหนี้และสถานะหนี้ทั้งหมด ณ วันที่ 3 มีนาคม 2017


หนี้จำนองอสังหาริมทรัพย์
1. สินเชื่อบ้านกับออมสิน หนี้คงเหลือ 730,000 บาท เหลือผ่อนอีก 8 ปี จ่ายเดือนละ 9,700 บาท
2. สินเชื่อรถกับ Kleasing หนี้คงเหลือ 340,000 บาท เหลือผ่อนอีก 28 งวด จ่ายเดือนละ 10,700 บาท
รวม 1,070,000 บาท จำนวนนี้คงผ่อนไปเรื่อยๆ ไม่หยุดจ่าย

หนี้ บัตรเครดิต
1. กสิกรไทย 92,000 บาท จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 9,200 บาท
2. ธนชาต 120,000 บาท จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 12,000 บาท หยุดจ่าย 3/02/2560
3. SCB 109,000 บาท ประนอมหนี้แล้ว ดอกเบี้ย 15% จ่าย 60 งวด เดือนละ 2770 บาท หมด 13/08/2564
4. KTC 42,700 บาท ส่งฟ้องศาลแล้ว นัดแรกวันที่ 16 มีนาคม 2017
5. UOB 120,000 บาท หยุดชำระมา 4 เดือนแล้ว
รวม 483,700 บาท

หนี้สินเชื่อและบัตรกดเงินสด
1. SCB Speedy Cash 280,000 บาท ประนอมหนี้แล้ว ดอกเบี้ย 15% จ่าย 84 งวด เดือนละ 5640 บาท หมด 1/08/2568
2. กรุงศรีฯ 254,000 บาท ค้างจ่าย 4 งวด แต่ถูกขอให้จ่ายไปบ้างแล้ว พบว่ายอดที่จ่ายไปไปตัดแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น และมีโทรมาขอให้จ่ายครั้งเดียวปิด โดยจะทำเรื่องขอลดให้เหลือ 240,000 บาท
3. Standard 240,000 บาท หยุดจ่ายมาจะครบ 4 งวด เดือนนี้ มีให้จ่ายขั้นต่ำไปก่อนบ้านสถานะการเดียวกันคือจ่ายไปแล้วไปตัดดอกอย่างเดียว
4. CIMB 125,000 บาท จ่ายเดือนละ 5,080 บาท ดอกเบี้ย 19% จะหมดวันที่ 20/10/2562
5. KTC PROUD 59,500 บาท ส่งฟ้องศาลแล้ว นัด
6. UOB Cash Plus 20,000 บาท ยอดชำระขั้นต่ำ 1750 บาท แต่เดินทราบยอดหนี้ไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นโปรแกรมผ่อนจ่าย 10 เดือน ยอดจะเข้ามาเดือนละ 1750 บาท โดยเป็นยอดจ่ายที่ยังไม่รวมดอกเบี้ย มีดอกเบี้ยต่างหากอีก ซึ่งต้องชำระจริง 3680 บาท ด้วยความไม่เข้าใจ ทำให้ยอดค้างไม่หมดเสียที
7. UOB I-cash จ่าย 79,000 บาท ชำระขั้นต่ำเดือนละ 2,670 บาท
รวม 1,057,500 บาท
รวมยอดหนี้ทั้งสิ้นไม่รวมหนี้อสังหาฯ 1,541,200 บาท


รวมหนี้ทั้งหมด ประมาณ​ 2.6 ล้านบาท

KTC พอครบ 4 เดือน เดือนที่ 5 หมายศาลมาถึงบ้านเลยครับ มีการโทรตามน้อยมาก แจ้งว่าถ้าจ่ายก่อนวันศาลนัด 2 อาทิตย์ 106,000 บาท (รวม 2 บัตรแล้วเกือบเท่ายอดฟ้องลดไป แค่เศษหลักร้อย) ไม่ต้องไปขึ้นศาล

ก่อนหน้านี้มี Citi Advance อีกอันยอดหนี้ 300,000 บาท เจรจาปิดไปที่ 200,000 บาท ปิดหนี้ตัวนี้ไปแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #92972 โดย Kigyakuza
เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #93267 โดย star_dust
ขอบคุณ​ครับ​

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

7 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 7 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #93268 โดย star_dust
วันที่ 16 มีนาคม 2560: ศาลนัดไกล่เกลี่ย หนี้กรุงไทย

ศาลนัด 16:30​น. ไปถึง จริง 16:25 น. ไปถึงหน้าศาลก็ดึบอร์ทก่อนเลยว่าคดีเราอยู่บัลลังค์ไหน แล้วเดินผ่านประตูตรวจอาวุธ เข่าไปในศาล เจ้าหน้าที่​ศาลถามก่อนเลยว่ามา ไกล่เกลี่ยเย็นใช่ไหม ให้ไปรอหน้าห้องฝากขัง เห็นคนนั่งรอกันหลายคน มีโต๊ะ ตั้งอยู่สองจุดแต่ละจุดมีคนค้นเอกสารจัดเอกสารดูยุ่งๆ คิดเอาเองว่าเป็นทนายคงกำลังเตรียมเอกสาร ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี
แต่รอสักพักก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาบอกว่าให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเลย ใครติดต่อกรุงไทยเป็นน้องคนนี้ เลยเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่จัดเอกสารอยู่ น้องเขาก็ถามชื่อ แล้วก็เอาเอกสารยอมความส่งให้อ่านเลย เอกสารมี 4 ชุด ข้อความเหมือนกัน คือหนี้ สองก้อนคือ บัตรเครดิต กับ สินเชื่อ รวมยอดประมาณ 106,500 บาท ให้ผ่อนจ่ายโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี จากยอดบัตร 43,000 บาท และ สินเชื่อ 54,500 บาท โดยแบ่งเป็น เดือนที่ 1-12 ให้จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 1,500 บาท โดยแต่ละบัตรจ่าย 750 บาท
เดือนที่ 13-36 ให้จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 2,000 บาท โดยแต่ละบัตรจ่าย 1,000 บาท
โดยต้องชำระให้ครบภายใน 36 งวด เริ่มจ่ายครั้งแรก 30 เมษายน 2560 และ ทุกๆวันที่ 30 ในงวดถัดไป โดยหากมีการผิดชำระแม้งวดใดงวดหนึ่ง หรือจ่ายไม่ครบ ให้ถือว่าผิดนัดในส่วนที่ค้างทั้งหมด และยอมให้ฟ้องได้ โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี จากเงินที่ค้างชำระ แต่ไม่เกิน 97,500 บาท
ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความเป็นพับ


พออ่านจบผมเห็นว่า ก็รับได้ เลยยอมเซ็นต์ยอมความไป เมื่อเซ็นต์แล้ว เขาก็จะให้รอก่อน เพื่อที่ทางทนายจะเอาหนังสือไปให้ศาลดู โดยจะมีหนังสือคำพิพากษาของศาลออกมาข้อความประมาณว่า ศาลได้ขึ้นบันลัง พิจารณา(จริงๆ ไม่ได้ขึ้น) โจทย์และจำเลยยอมความกัน .... ทางศาลเซ็นต์ ก็เป็นอันกลับบ้านได้ โดยที่เราไ่ม่ได้เห็นท่านผู้พิพากษาด้วยซ้ำไป

สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ
1. การชำระตามขั้นต่ำไป 36 งวด แม้ชำระจนครบ ก็ยังไม่เท่ากับมูลหนี้นะครับ ก่อนครบ 36 งวด เราต้องชำระให้ครบทั้งหมด
2. ทางธนาคารจะไม่มีหนังสือแจ้งหนี้มาอีก ไม่มีการสรุปยอดคงเหลือ เราต้องทำตารางบันทึกเอาเอง รวมทั้งคำนวณดอกเบี้ยด้วย เพื่อให้ทราบว่าชำระไปกี่งวดแล้ว
3 การชำระให้เอาใบเดิม หรือบัตรเดิม ไปชำระที่ธนาคารได้ และต้องเก็บ สลิปไว้ทุกครั้ง
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.385 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena