กำลังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลเพื่อหยุดจ่ายอยู่ค่ะ จะรีบหยุดเร็วๆนี้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันเพื่อ

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ก่อตั้งชมรม ประธานชมรม คณะกรรมการ ผู้ดูแลระบบ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนะคะ พวกท่านทั้งหลายเป็นแรงกายแรงใจให้กับเพื่อนมนุษย์ลูกหนี้ทุกคน ให้ได้มีทางออกของตัวเองอย่างแท้จริงค่ะ หรือถึงแม้บางคนจะยังคงขลุกขลักอยู่บ้างเพราะหนี้ก้อนโตเหลือเกิน ก็ยังรู้สึกอบอุ่นเมื่อเข้ามาในเว็บไซต์นี้ค่ะ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
กระทู้วันนี้คงขอทักทายพี่น้องก่อนแล้วกันนะคะ ชื่อ แก้ว ค่ะเป็นสมาชิกใหม่ เตรียมตัวหยุดจ่ายค่ะ กำลังศึกษาข้อมูล และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นค่ะคาดว่าจะเตรียมหยุดประมาณ มิ.ย.59 อะค่ะขอเวลาทำใจ เพราะแก้วเองก็เคยมีประสบการณ์การโดนทวงหนักมากมาแล้วเหมือนกันค่ะ ช่วงนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้แทบทุกคืน เมื่อ 3 ปีที่แล้ว(ปี 56) เคยช็อตอยู่พักนึง ตอนนั้นแฟนเปลี่ยนงาน อยู่ในช่วงหางานใหม่ เลยต้องทำงานหาเงินคนเดียวอยู่ 6 เดือนค่ะ แล้วต้องให้แม่เราด้วย ไหนมีค่าใช้จ่ายในบ้านเลยหนักมากค่ะ ช่วงนั้น ไม่จ่ายค่าบัตรติดกันนานสุด 5 เดือน (น่าเสียดายตอนนั้นยังไม่รู้จักเว็บไซต์นี้ค่ะ ถ้ารู้จักคงหยุดจ่ายไปนานแล้ว เพราะมืด 8 ด้านมากๆ แต่ช่างมันค่ะผ่านไปแล้ว ก็เริ่มใหม่) แล้วสุดท้ายเราเลยคุยกับหัวหน้าขอเอาแฟนเข้ามาทำงานบริษัทเดียวกันค่ะ ไม่งั้นตายแน่ๆ ทีนี้พอ มี.ค.57 แก้วได้โบนัสมา 1 เดือนค่ะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลยเนาะ (แต่แฟนไม่มีโบนัสนะคะเพราะเป็น contact) ก็เลยลองจัดระบบ ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มโปะนู่นนี่นั่นจนประคองมาได้เรื่อยๆด้วยการจ่ายขั้นต่ำมาตลอดค่ะ แล้วก็ขอสินเชื่อ Citibank มาเพิ่มอีก เพื่อโปะๆๆ ก็ดีขึ้นมาหน่อย
จนมาช่วงปลายปีที่แล้วค่ะ ต.ค.58 เราแต่งงานกับแฟนค่ะ (มีสถานการณ์บางอย่างบังคับให้ต้องแต่งค่ะ ถ้าเล่าจะยาวมากๆ) เราก็เลยจัดงานแบบประหยัดที่สุดแล้วค่ะ (ตอนแรกตั้งใจจะใช้งบแค่ไม่เกิน 20,000) ไปมางบก็บานปลาย จนใช้เงินไปเกือบ 100,000 ค่ะ พอมาปีนี้ 59 ไม่มีโบนัสอีกเนื่องจากบริษัททำยอดไม่ได้ตามเป้าค่ะ (ปีหน้าก็ท่าจะไม่รอดเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจเงียบมาก) พอหลังจากแต่งงานก็เลยเริ่มกลับมาระบบเดิมอีกแล้วค่ะ จ่ายแล้วกด กดแล้วจ่าย เรา 2 คนกับแฟนทำงานมา เหลือเงินที่ใช้ได้จริงๆ 500 บาทเท่านั้นเองค่ะ เหอๆๆ เลยคิดว่าต้องหาวิธีอะไรสักอย่าง ปล่อยแบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ พอได้มาพบเว็บนี้ ศึกษาวิธีปลดหนี้แบบ two way เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ แต่ต้องใช้ความอดสูงมากจริง อย่างที่พี่ๆบอกไว้แหละไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องแลกกับความลำบาก ขอแสดงความนับถือผู้ทีเป็นไทแล้วด้วยนะคะดีใจด้วยจริงๆ และแก้วก็ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องที่ยังอยู่ในช่วงปลดหนี้ จะใช้วิธีใดๆก็แล้วแต่ ขอให้ผ่านพ้นมันไปได้และประสบความสำเร็จด้วยความอดทน อดกลั้น ให้อภัย(พวกทวงหนี้โหด) ถ้วนทั่วทุกคนนะคะ
พล่ามมาพอสมควร แก้วจะขอแจกแจงหนี้ดังนี้ค่ะ เงินเดือนเรากับแฟน รวมกัน 36,000 มีหนี้ของเราคนเดียวดังนี้
Bank
1. Citibank loan สินเชื่อ 165,000 จ่ายเดือน 4,384 x 37 งวด
2. Citibank visa บัตรเครดิต 32,000 ขั้นต่ำ 3,500 (ใช้ซื้อของ+หักค่าสาธารณูปโภค)
3. SCB speedy cash บัตรกดเงิน 42,000 ขั้นต่ำ 4,000 (จ่ายแล้วกดมา)
4. UOB Credit บัตรเครดิต 34,000 ขั้นต่ำ 4,300 (ใช้ซื้อของ+เติมน้ำมัน)
5. UOB Cash บัตรกดเงิน 25,000 ขั้นต่ำ 1,500 (จ่ายแล้วกดมา)
Non-bank
6. Aeon 85,000 บัตรเครดิต 85,000 ขั้นต่ำ 11,500 (หักค่ามือถือ 3เบอร์+กดมา)
7. Tesco premier บัตรกดเงิน 45,000 ขั้นต่ำ 3,500 (จ่ายแล้วกดมา)
8. Tesco visa บัตรเครดิต 30,000 ขั้นต่ำ 4,000 (ใช้ซื้อของ)
สัญญาเช่าซื้อ (ชื่อของแก้วเองทั้งหมด)
9. ค่าบ้านเอื้ออาทร ผ่อนออมสิน (อีก 15 ปี) เดือนละ 3,100
10. Grouplist รถมอเตอร์ไซด์ pcx 3,725 x 33 งวด
คันนี้เราใช้ขี่ไปงานกับแฟนค่ะ เพิ่งออกมาได้ 2 เดือน เนื่องจากคันเก่าโดนขโมยหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ที่จริงเราจะออกแค่รถถูกๆน่ะค่ะมาใช้งาน แต่คันนี้พ่อเราดาวน์ให้น่ะค่ะ เค้าบอกให้ขับรถคันใหญ่ๆ เพราะคันเล็กๆเค้ากลัวเรื่องอุบัติเหตุ แต่พ่อเราไม่รู้ค่ะว่าเรามีหนี้เยอะ พ่อเคยปิด Umay กับ Aeon ให้เราเมื่อปี 54 ไป 65,000 ค่ะ แล้วบอกเราว่าห้ามทำบัตรอีก แต่เราก็ยังไม่วายไม่เชื่อฟังบิดามารดา นี่ละค่ะผลของกรรม ก็รับกันไป
11. Grouplist (รถมอเตอร์ไซด์คันเก่า) 1,000 x 15 งวด
คันนี้เราแจ้งความรถหายเมื่อเดือน มี.ค.59 ซึ่งเหลืออีกเพียง 6 งวดก็จะหมด เค้าเลยปิดยอดหนี้ที่ 17,630 ค่ะ เค้าให้ผ่อนเดือน 1,000 ว่าเดือนหน้าจะทำเนียนๆจ่ายแค่เดือน 500 อยู่ค่ะ

ทั้งนี้เราก็อยู่ในช่วงทำใจอยู่ค่ะ และวางแผนอยู่ค่ะ ว่าจะหยุดจ่ายอันไหนไม่จ่ายอันไหนบ้าง แต่ก็จะยอมรับกับสิ่งที่เราก่อขึ้นมาว่าเป็นหนี้ก็ต้องใช้ค่ะ ถึงแม้บางครั้งอาจเกิดจากการถูกหยิบยืมไปแล้วตามคืนไม่ได้บ้าง แก้วเองก็โดนบ่อยค่ะเพราะเราเป็นคนดีขี้สงสารคนอื่นจริงไหมคะ แค่นี้เราก็ได้บุญแล้วได้ช่วยเหลือผู้อื่น 555 หัวเราะทั้งน้ำตา (ทุกวันนี้เป็นหนี้มากๆจนต้องเข้าหาธรรมะเพื่อบำบัดจิตใจค่ะ สติไม่มาปัญญาไม่เกิดจริงๆ)
แก้วยอมรับว่าตัวเองยังไม่มีความกล้าพอค่ะ กลัวโดนฟ้องยึดทรัพย์ ซึ่งก็มีบ้านเป็นสมบัติติดตัวเพียงอย่างเดียว ส่วนมอเตอร์ไซด์ก็คงปล่อยให้เป็นไปเพราะคงอีกนานกว่าจะผ่อนหมด แล้วกังวลเรื่องอายัดเงินเดือน ที่จริงไม่ได้กลัวที่จะโดนหักเงินหรอกนะคะ ที่กลัวคือจะไปรบกวนผู้จัดการฝ่ายบัญชีมากกว่า เพราะคุณพี่เค้าเป็นคนดุมากๆและขี้บ่นจริงๆ บ่นทุกสิ่งอย่าง แต่ก็จะลองหาวิธีดูค่ะ ทุกๆอย่างเราจะผ่านไปให้ได้ ถ้าแก้วเริ่มหยุดเมื่อไรจะรีบแจ้งให้เพื่อนๆทราบในทันทีนะคะ ขอพี่น้องผู้ร่วมทางทั้งหลายสู้ๆ นะคะ เอาชนะอุปสรรคทุกอย่างไปให้จงได้ค่ะ สาธุ เอเมน

เข้าให้กำลังใจครับ ก็ได้เวปนี้ละครับที่ช่วยออกจากทางตันมาได้บ้าง จะยึดปฏิบัติปลดหนี้ตามชมรมต่อไปครับ

สู้ไปด้วยกันครับ

หลังจากที่โพสท์ไปครั้งแรกเมื่อ 4 เดือนก่อน ณ ตอนนี้เดือน ก.ย.ได้หยุดจ่ายทุกบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมด 7 บัตร (ยกเว้นบัตร SCB เงินเดือนเข้า)
ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. มาก็เริ่มมีโทรมาทุกวัน เราก็ใช้วิธีตอบว่า ค่ะๆๆๆ จะไปจ่ายให้ค่ะ หรือบางธนาคารถามว่า จะไปจ่ายให้วันไหนคะ ขอวันที่แน่นอน เราก็ตอบไปว่า เดี๋ยววันนี้ก็ได้ค่ะ คือใช้วิธีโกหกไปวันๆน่ะค่ะ เพราะเคยมีประสบการณ์ เช่น กำหนดจ่ายวันที่ 1 จนท.โทรมาทวงหลายวันจนเข้าวันที่ 10 แล้วเราบอกไปว่าจะไปให้วันที่ 15 ก็จะได้รับคำตอบว่า ไม่ได้ค่ะ! ซึ่งเราก็คิดในใจ แล้วคุณมึงจะมาถามคุณกูทำไมล่ะคะว่าไปจ่ายได้วันไหน เลยใช้วิธีตอบแบบให้ผ่านไปวันๆก่อนน่ะค่ะ พอเข้าสักเดือนที่ 2-3 ค่อยบอกไปตามตรง อิอิ แต่ก็พูดจาดีทุกคนนะคะ เราเลยไม่แน่ใจว่าจะมีผลกระทบอะไรในภายหลังบ้างไหม หากไม่ตอบเค้าไปตามตรงว่า ยังไม่มีเงินค่ะ! มีใครใช้วิธีแบบเราบ้างไหมคะ มาช่วยแชร์กันบ้างนะคะ

สู้ๆนะคะคุณแก้ว ใจเย็นๆ อดทนเยอะๆค่ะ หวานเองก็เพิ่งหยุดจ่ายไปสองงวดค่ะ จอนนี้เจ้าหนี้ต่างๆก็เริ่มเบาลงแล้ว เดี๋ยวสถานการณ์ก็ดีขึ้นคะ

จร้า ขอบคุณพี่ Na99 และพี่ anawon ด้วยค่ะ ไม่นานมันจะผ่านไป ฮึบๆๆ

มาอัพเดทพี่น้องค่ะ มาถึงตอนนี้หยุดจ่ายบัตรทั้งหมด 5 รายการ (จากทั้งหมด 8 รายการ) คือ
Uob credit
Uob cash
Tesco visa
Tesco premier
Citi loan
มาร่วม 8 เดือน ค่ะ ฝ่าช่วงมรสุมปะทะกับบางธนาคารที่พูดจากวนบาทาไปก็หลายสายอยู่ เช่น บริษัท BES (ตัวแทนธนาคารซิตี้แบงค์) และเจ้าหน้าที่บัตรกดเงินสดเทสโก้พรีเมียร์ ช่วงนี้โทรศัพท์น้อยลงค่ะ บางวันมาก็มาหลายสาย บางวันเงียบก็เงียบฉี่ทีเดียว
ปัจจุบันตอนนี้เจรจา H/C ไปได้ 1 บัตร คือ Tesco visa ค่ะ ลดจาก 32,xxx เหลือ 24,000 ให้ผ่อน 3 งวดงวดละ 8000 เลยกัดฟันจ่ายไปค่ะ แนบภาพมาให้ชมค่ะ


และเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ไปอีกตัวคือสินเชื่อ citi loan อันนี้คือยอมทำเพราะเห็นว่า หนี้มันหลักแสนค่ะ เลยทนไปก่อน
ยังเหลืออีก 3 บัตร กำลังเริ่มเก็บเงินใหม่ ขอเป็นกำลังใจ เพื่อนพี่น้องทุกคนที่กำลังฝ่าฟันสู้รบตบตี เอ้อ ตบมือ กับบททดสอบต่างๆนะคะ เอาชนะมัน ผ่านไปให้ได้นะคะ

Update ค่ะ

จากที่ห่างหายไปปีกว่าๆ เนื่องจากตั้งท้องก่อนค่ะ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินและทำรายรับรายจ่าย
แต่ทำไม๊...ทำไมเงินก็ยังไม่มีเก็บเลยซ้ากที 555
เลยไปตั้งหน้าเก็บเงินคลอดลูกก่อนค่ะ แต่ก็ไม่เป็นอย่างใจต้องการอีกเพราะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด เมื่อวันที่ 6-6-60ค่ะ เลยต้องหมดเงินไปกับค่าคลอด ค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกมากมายเลยค่ะ เพราะช่วงนั้นลูกก็อยู่ตู้อบ
ช่วงที่เพิ่งผ่าคลอดใหม่ๆก็เพลียมาก ทั้งต้องปั๊มนม ฯลฯ บางทีหลับอยู่ก็ยังโดนโทรทวงเลยค่ะ ก็ต้องทนคุยกับเขาไป แต่ไม่ได้บอกเขาหรอกค่ะว่าตอนนี้ฉันเพลียมากนะเธอ ฉันเพิ่งคลอดลูกมา...อะไรอย่างงี้ ก็ให้เขาทำหน้าที่ของเขาไปค่ะ

ณ ปัจจุบัน มีที่ยังไม่จ่ายอยู่ 3 บัตร เป็น Uob 2 บัตร(เครดิตกับบัตรกดเงิน) กับ เทสโก้พรีเมียร์(บัตรกดเงิน)
ล่าสุด...ตอนนี้ก็มีหมายศาลมาแล้ว 1 บัตรค่ะ ของเทสโก้พรีเมียร์
โดยที่จริงแล้ว เราผิดนัดชำระครั้งแรก 2 ก.ย. 59 แล้วหยุดจ่ายไป ยอดที่ 44,xxx บาท ทางเทสโก้ก็โทรมาทวงทุกวันเลยค่ะ ส่วนมากพูดจาไม่ค่อยดีด้วยค่ะ บางทีก็เป็นผู้หญิงก็พูดแบบมีอารมณ์ ไม่รู้ไปโกรธใครมา เอิ๊กๆ

เทสโก้(ญ) : "ฉันเห็นคุณพูดโน่นพูดนี่ว่าจะจ่ายวันนั้นวันนี้ ฉันก็อดทน ฉันฟังคุณมามากแล้วนะ"
พูดรัวมากๆเลยค่ะ หูดับตับไหม้
เรา : "อ่ะไม่ฟังหรอคะ"
เทสโก้(ญ) : "ฉันฟังมาเยอะมากแล้วค่ะ ฉันฟังคุณมาตลอด บอกจะจ่ายก็ไม่จ่าย" (ยังรัวไม่เลิก)
เราก็เลยคิดว่าเสียเวลาเถียงค่ะ
เรา : "มีแค่นี้ใช่ไหม จบยัง"
ตอนนั้นนางก็ตอบอะไรมาจำไม่ได้แล้วค่ะ
แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนคนโทรและพูดดีอยู่ค่ะ

จนสุดท้ายก็ด้วยความตัดความรำคาญค่ะเพราะเราก็ท้องอยู่ เลยไปหยอดจ่ายหนี้เขาอีก 2,200 วันที่ 10 เม.ย.60 เผื่อว่าเขาจะหยุดทวงไปพักนึง ไม่อยากเครียดจะส่งผลต่อลูกค่ะ ก็ได้ผลอยู่ เพราะเงียบไปเลย โทรเดือนละครั้ง และ 2,200 ที่จ่ายไปก็เป็นอย่างที่คิดค่ะ เขาเอาไปหักดอกเบี้ยซะโหม๊ดดดเลย

และตอนนี้เขาก็เลยมาคิดวันผิดนัดชำระใหม่ เป็นยอด 49,443 บาท วันที่ผิดนัด 10 พ.ค.60 เราก็ไม่ได้จ่ายอีกเลยค่ะ
ณ ตอนนี้พอคำสั่งศาลมา ยอดฟ้องอยู่ที่ 54,746 บาท จะต้องไปศาลวันพฤหัสที่ 29 มี.ค. 61 นี้ค่ะ และทางสนง.กฎหมายเขาก็เสนอมาให้ H/C ที่ 39,000 บาทค่ะ จะได้ไม่ต้องไปศาล แต่เรายังไม่มีอยู่ดี

ทางสนง.กฎหมายแจ้งว่า หากศาลพิพากษามาแล้ว จะให้ผ่อนเป็นเวลา 24 งวด โดยชำระเดือนละ 2,000 บาท 23 งวด และงวดที่ 24 ต้องจ่ายที่เหลือทั้งหมด+ดอกเบี้ยอีก 15% ของยอดฟ้อง (มานั่งคำนวณต้องจ่ายงวดที่ 24 ประมาณ 17,000 บาทค่ะ) ตอนนี้ลางานไว้ รอแต่ไปศาลอย่างเดียว จะรบกวนถามพี่ๆค่ะ ว่า

1. อยากจะขอเขาลดดอกเบี้ยตรงส่วนงวดสุดท้าย ไม่ทราบจะทำได้ไหม หรือทำได้แค่ไหนคะ เพราะไม่มีอะไรไปสู้กับเขาเลย อายุความก็ยังไม่หมด
2. เราควรเอาเรื่องใดไปสู้เขาได้บ้างคะ เช่น ดอกเบี้ย 15% งวดสุดท้ายที่เอาไปคิดจากยอดฟ้องนั้น แล้วไหนจะดอกเบี้ยอื่นๆอีก เราพอจะสู้ว่ามันสูงไปได้ไหมคะ หรือมีเรื่องอื่นๆที่พอจะสู้ได้อีกไหมคะ ควรพูดแบบไหนคะ
3. เมื่อศาลพิพากษาแล้ว งวดแรกที่เราต้องชำระ ส่วนมากจะต้องชำระทันที่ในเดือนนั้นเลยไหมคะ หรือถ้าเราทราบวันที่ต้องชำระงวดแรกแล้ว เราพอจะยื้อเวลาการผ่อนชำระงวดแรกไปได้อย่างไรบ้าง สมมติพอรู้วันนัดชำระงวดแรกแล้ว เรารู้ว่าไม่สามารถชำระได้ จึงขอเลื่อนการพิจารณาคดีไปก่อน แบบนี้ได้ไหมคะ (อันนี้คือถามเผื่อไว้น่ะค่ะ) หรือต้องหาเหตุผลอะไรมาเลื่อนได้บ้างคะ (เราสะดวกพอจะพร้อมจะจ่ายจริงๆ ก็ประมาณ 29 เม.ย. 61 หรือยืดได้มากกว่านั้นก็ดีค่ะ)
4. แล้วถ้าเราอยากจะสู้ในเรื่องอะไรก็ตาม เราควรมีเป็นคำให้การ หรือว่าไปพูดปากเปล่าได้เลยคะ
5. ถ้าควรต้องมีคำให้การ ต้องทำอย่างไรคะ

ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านค่ะ

กระทู้นี้จะภาพส่งหมายศาลให้ชม แต่ภาพมันโหลดไม่ได้อะ ทั้งที่เลือก jpg แล้วอ่าค่ะ ไว้มาลองใหม่นะคะ

แล้วกระทู้เมื่อสักครู่นี้ มีคำถามหนี้ด้วย จะต้องเอาไปถามห้องถาม-ตอบปัญหาหนี้หรือเปล่าคะ ต้องตั้งกระทู้ใหม่ไหมคะ

สงสัยว่า รถหายแล้วทำไมยังต้องผ่อนต่ออะครับ ในเมื่อสัญญาเช่าซื้อมันยกเลิกไปแล้ว
ค่าเสียหายก็ไปว่ากันที่ศาลสิ ผ่อนต่อทำไมอีกอะ รถมีประกันไหมครับ ถ้ามีเค้าก็น่าจะเคลมกับประกัน ไม่น่าต้องมาผ่อนอีกนะ

ตอนที่หาย ยังไม่ได้ต่อประกันน่ะค่ะ ประกันหมดไป 6 เดือนน่ะค่ะ เพราะอย่างที่บอกเหลืออีก 6 งวด(ผ่อนมาแล้ว 30/36 งวด) แล้วเคยศึกษาทางเว็บไซต์เรื่องรถหายน่ะค่ะ ถ้าตามกฎหมายก็ต้องผ่อนเหมือนผ่อนกุญแจรถ ถ้าได้รถคืนรถก็ยังเป็นของเรา แต่ถ้าไม่ผ่อนแล้วเจอรถ รถก็เหมือนว่ายังเป็นของไฟแนนซ์น่ะค่ะ (ตอนนั้นแค่มีความหวังเผื่อจะเจอรถน่ะค่ะ ฮ่าาา) พอเริ่มผ่านไป 4-5 เดือน ดูเหมือนจะไร้วี่แวว แรกๆก็ผ่อนค่ะ ตอนนี้เลิกผ่อนแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตามค่ะ

Update ค่ะ แชร์ประสบการณ์ไปขึ้นศาลครั้งแรกค่ะ ศาลจังหวัดมีนบุรี ของกรุงศรีฯ บัตรกดเงินเทสโก้พรีเมียร์ยอดฟ้องที่ 54,746 วันที่ 29 มี.ค. 61

ไปถึงศาลว่าจะหาดูบอร์ด แต่เจอประชาสัมพันธ์ก่อนเลยให้เขาเช็คห้องให้เลยค่ะ (พอเช็คให้แล้ว จึงเดินไปเจอบอร์ด อิอิ) เราไปถึงตั้งแต่ 15.00 น. รอพิจารณาคดี 16.30 น. ในห้องเป็นคดีของกรุงศรีหมดเลยค่ะ
รวม 7 คดี แต่มาแค่ 4 คน เรามาคนแรกก็เข้าไปห้องเจอทนายโจทก์ก็คุยกันเลยค่ะ (จากบริษัท เอ็น แอนด์ เอฟ มาร์เก็ตติ้งค่ะ พูดจาดี ยิ้มแย้ม รู้สึกผ่อนคลาย พูดคุยกันแล้วก็ไม่ได้บอกให้กลับบ้านเหมือนกับเคสท่านอื่นๆนะคะ แต่บอกให้เรารอศาลก่อน) ทุกคนต้องผ่อน 24 งวด งวดละ 2,000 บาท และงวดสุดท้ายต้องปิดจบ+ดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี เราไปก็ยอมตามนั้นค่ะ เพราะเห็นว่าเป็นยอดที่พอจะจ่ายได้ แล้วค่อย H/C เอาเดือนไหนที่มีเงินปิดค่ะ ก็จบไป 1 คดี โดยที่ไม่กังวลอะไรมาก

แต่ตอนนี้มากังวลของ UOB ค่ะ
โทรมาบอกยื่นฟ้องอีกตัวแล้วค่ะ 555 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ให้รอหมายศาล เป็นบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินฟ้องรวมกันยอด 77,XXX ถ้าจะปิดจบจะลดแค่ดอกเบี้ย จ่ายเฉพาะเงินต้นที่ 66,000 ค่ะ ธนาคารนี้ไม่เคยลดอะไรให้เลยตั้งแต่มีการทวงหรือพูดคุยกันมา เขี้ยวมากๆ และเจ้าหน้าที่บ.นิติรัตน์(ของ UOB) ก็เสียงเข้มมากค่ะ ท่าทางจะมาโหด หุหุ บอกว่าถ้าศาลตัดสินคดีแล้ว ต้องผ่อนเดือนละ 3,500 จำนวน 24 งวด งวดสุดท้ายปิดจบเหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องมีดอกเบี้ยอีกเท่าไร บอกแค่ว่ายอดฟ้องเป็นยอดเงินต้น+ดอกเบี้ย 28% เราก็ถามว่าดอก 28% เลยหรอคะ เขาก็ตอบว่า ฟ้องเท่านี้ไปก่อน เดี๋ยวศาลท่านจะวินิจฉัยเอง เราเลยไม่ถามอะไรมากค่ะ ถามก็ไม่ค่อยอยากจะตอบ ตอบก็ไม่ค่อยตรงคำถาม เลยว่าจะรอไปศาลทีเดียวค่ะ และคิดว่ารอบนี้คงอาจจะมีสู้กันหน่อยเรื่องดอกเบี้ย แต่จะรอหมายศาลมาก่อนค่ะ