ขอเล่าประสบการณ์การหักดิบหนี้ของตัวเองค่ะ

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51653 โดย เอื้อม
ตอนนี้ก็หยุดชำระหนี้ได้มาประมาณ 3 เดือนเข้าเดือนที่ 4 วันนี้ที่แรกที่เสนอส่วนลดให้คือบัตรเซ็นทรัลการ์ด ยอด ณ ปัจจุบันประมาณ 42000 เสนอให้ปิด 29000 ต่อลองไป 2 หมื่นบอกยังไงก็ไม่ได้เสนอเรื่องให้ไปก็เสียเวลา เลยเสนอมาใหม่แบบสุดๆๆ 24000 เราเลยบอกว่าถ้ายังไงแบ่งจ่าย 2 งวดได้ไหมแต่เดือนนี้ยังไม่ได้นะคะ จะมีเงินประมาณเดือนเมษา เค้าำไม่ได้ค่ะ นี่ช่วยสุดๆแล้ว ทางเราดึงเรื่องได้แค่นี้ค่ะ ไม่งั้นต้องส่งสำนักงานกฎหมาย ก็เลยบอกว่าจะให้รับปากว่าจ่ายหรือยืมใครมาจ่ายคงไม่เอาเหมือนกันค่ะ ปล่อยไปตามระบบของคุณเลยแล้วกัน คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51665 โดย เอื้อม
มาเล่าต่อจากเมื่อวานค่ะ วันนี้มีจดหมายจากบริษัท กฎหมายธรรมศิริรัฐมาค่ะ เป็นของบัตรเซ็นทรัลการ์ด มองดูเบอร์์ด้านบนมันเป็นเบอร์ที่โทรหาเราเมื่อวานนี่หว่า ไหนเมื่อวานบอกว่านี่ช่วยสุดๆแล้วก่อนจะส่งเรื่องเข้าสำนักงานกฏหมาย แต่เธอนะแหละสำนักกฎหมาย หลอกกันหรอเนี่ย งั้นโทรมาอีก ไม่ได้ 2 หมื่นไม่จ่ายแล้ว โมโห เพราะทั้งตัวเก็บได้ 2 หมื่นแต่ก็ยังกลัวว่าจะไม่พอ ซึ่งจริงๆตอนนี้กำลังเรียนต่ออยู๋ค่ะ แต่ยืมเงินคนรู้จักไปจ่ายค่าเทอมแต่ไม่มีดอกเบี้ยอะไรนะคะ อาศัยความเชื่อใจ จ่ายเค้าเดือนละ 5 พัน ก็แค่พอกินยังไม่มีเก็บเท่าไหร่เลยค่ะ แต่เพื่ออนาคตต้องสู้ค่ะ ระหว่างนี้จะเกิดไรขึ้นก็ต้องยอมรับและสู้กันต่อไปค่ะ ตัวเองเริ่มจะมีหนี้ได้ประมาณปีกว่า หนี้ประมาณ 4 แสนกว่า ไม่ได้เพราะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรนะคะ เพราะมีบัตรเครดิตมานาน3 ปีแล้ว แต่มาเริ่มแย่ตรงที่คิดจะกู้เงินมาเล่นหุ้น เพราะคิดว่าตัวเองจัดการได้ แต่พอมาเล่นหุ้นแล้วเสียเลยลืมกู้บัตรโน่นมาจ่ายบัตรนี้เพราะเงินที่ควรหาได้หายไปหมดแล้ว เลยมาเจอชมรมนี้เลยเริ่มหยุดจ่ายอย่างจริงจัง สิ่งหนึ่งที่ได้คือเครียดน้อยกว่าเดิมค่ะ ตอนนี้เงินเก็บคงยังยาก แต่ทำได้แล้วค่ะว่าให้แต่ละเดือนใช้เงินพอแต่บอกกับตัวเองให้อดทนไว้ค่ะ ไม่มีใครทำให้เราเสียกำลังใจได้ นอกจากตัวเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51671 โดย ขอแก้ตัว
ดีใจด้วยค่ะ ผ่านช่วงโดนทวงโดนตามมาได้ตั้ง 4 เดือน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51672 โดย ขอแก้ตัว
สู้ๆ นะคะ พอหมดหนี้จะได้อยู่อย่างเป็นสุขกันค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51674 โดย เอื้อม
ขอบคุณค่ะ คุณขอแก้ตัว ก็ต้องสู้กันต่อไปค่ะ หนี้มีเกิดก็ต้องมีดับได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51676 โดย blue sky
สู้ สู้คะ เป็นกำลังใจ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51773 โดย เอื้อม
อัพเดตค่ะ เมื่อวานมีของธนาคาร CIMB โทรมาตอนนี้ถามสนใจประนอมหนี้ไหมเราเลยบอกว่าไม่สนใจ มีข้อเสนออื่นไหมค่ะ เค้าก็บอกว่ามีแบบปิดบัญชี จากยอดห้าหมื่นกว่าบาท ลดเหลือ สามหมื่นสี่พันกว่าบาทจ่ายได้ถึง 25 เมษาค่ะ เพราะสินเชื่อเราปิดทุกวันที่ 25 ให้เวลา30วันในการจ่าย ในใจคิดดีจังเลย แต่ต่อไป สามหมื่นถ้วนไม่ไห้นะคะ เลยต่อลองใหม่ขอเป็นงวดได้ไหมค่ะ สัก 3 งวด เค้าบอกคงไม่ได้ แต่ถ้าสนใจให้ทำหนังสือเข้าไป ยังแผนกประนอมหนี้ แล้วก็รีบแก้ตัวว่าไม่ใช่ประนอมหนี้นะครับ คุณไม่เซ็นต์อะไรก็ไม่มีผลอะไร เราเลยบอกว่าแล้วจะเชื่อได้ไงค่ะว่าพวกคุณจะไม่เซ็นต์ชื่อแทนเราก็พูดขำๆนะคะ ไม่ได้ซีเรียสแต่ฉันคิดจริงโว๊ย มาอีกอันหนึ่งแค่แฟ๊กซ์บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และสลิปเงินเดือนเข้าไปแค่นั้นเองครับ เราเลยบอกว่าทำไมต้องส่งไปใหม่อ่ะค่ะ ในเมื่อมีอยู่แล้ว เค้าบอกอัพเดตข้อมูล เราเลยบอกว่าพึ่งจะสามเดือนบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านคงไม่รีบเปลี่ยนหรอกมั้งค่ะ เราเลยบอกว่างั้นกลางเดือนหน้าลองโทรมาอีกทีได้ไหมค่ะ ทำเสียงอ้อนสุดๆ สุดท้ายบอกคงจะไม่ได้แหละคงต้องปล่อยเรื่องไปตามระบบ เราเลยบอกว่าก็ตามนั้นเลยค่ะ ไม่ว่ากัน คิดในใจฉันรู้ทันแค่นี้รีบวางสายเลย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51862 โดย เอื้อม
มาอัพเดตกันต่อค่ะ เมื่อวานเอื้อมได้รับสายจากพนักงานที่จาก UOB ตอนประมาณ 5 โมงครึ่ง เธอโทรมาก็ถามตาม Step ของเธอไป เราก็บอกไม่มี แล้วสนใจประนอมหนี้ไหม เราบอกว่าเลยแจ้งไปแล้วนี่ว่าไม่สนใจ เธอเริ่มมีน้ำโห บอกว่างั้นพรุ่งนี้จะส่งคนเข้าไปเก็บที่ทำงาน เอื้อมเลยบอกว่าจะมาก็มา ฉันจะได้แจ้งเจ้าหนี้ที่ด้านล่างไว้รอคุณ มีการบอกคุณไม่ต้องท้าฉัน เอื้อมเลยบอกว่าฉันไปท้าคุณตอนไหนคุณบอกคุณจะเข้ามา ฉันเลยบอกให้เข้ามาไง พอเถียงไปสักพักเลยบอกฉันไม่คุยกับคุณแล้ว พรุ่งนี้จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาพบยังย้ำอีก เพราะฉันเสนออะไรเข้าไปคุณก็ไมสนอง เลยถามว่าคุณเสนออะไรมาบ้าง บอกประนอมหนี้กับส่วนลดดอกเบี้ย เอื้อมเลยบอกว่า ประนอมหนี้ไม่สนใจ แล้วส่วนลดปิดบัญชีมีไหม she ตอบมามี แต่น้อย เอื้อมเลยถามน้อยอ่ะเท่าไหร่ แล้วคุณจะปิดได้เมื่อไหร่ เลยบอกว่าคุณก็เสนอมาซิว่าให้สว่นลดได้เท่าไหร่ she ก็รีบตัดความแล้วบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คนเข้ามาพบ เช้าวันนี้มาเลยจัดการซะหน่อย ในใบแจ้งหนี้มีเจ้าหนี้ที่ให้ติดต่อกลับนี่น่า เลยโทรไปหาซะหน่อยกลายเป็นเปลี่ยนเบอร์ไปเจ้าหน้าที่เลยโอนให้ แล้วบอกเบอร์มาถ้าสายหลุด พอโอนสายไปเจ้าหน้าที่คนนี้ติดสายมีคนรับแทนเลยบอกว่าจะให้ติดต่อกลับไหม เราเลยบอกว่าไม่เป็นไรเบอร์ต่อเบอร์นี้ใช่ไหมเค้าบอกไม่ใช่ค่ะ เบอร์นั้นเบอร์manager เบอร์นี้เป้นของคุณ XX เป็นหัวหน้าค่ะ ป๊าด ดีใจขนาด อยู่ดีดีก็ได้เบอร์ manager จัดการเลยค่ะ เข้าก็รับปากว่าจะให้หัวหน้าที่ดูแลฝ่ายตรงนี้ติดต่อกลับในวันนนี้นะคะ

ไม่นานเกิดรอมีโทรเข้ามาเป็นหัวหน้า บอกว่าขอชี้แจ้งเลยเล่าให้ฟังไป เค้าเลยบอกว่าจริงๆทางเรามีเจ้าหน้าที่ภาคสนามเข้าไปหาลูกค้านะคะ ไม่ใช่เข้ามาข่มขู่แต่เข้ามาเจรจาเผื่อลูกหนี้จะสามารถชำระได้ เอื้อมเลยบอกว่าแต่ทางเจ้าหน้าที่คุณพูดมาแบบนี้จะให้หมายความว่าไงค่ะ เค้าเลยบอกว่าบัญชีเอื้อมเนี่ยวันศุกร์นี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพบแล้วนะคะ เลยบอกว่างั้นก็บอกไว้นิดนึงว่า ตามกฎของแบงค์ชาติ ถ้าลูกหนี้ไม่ให้เข้ามาทางเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์เข้ามาพบไม่ใช่หรอค่ะ ให้สามารถส่งแค่จดหมายหรือโทรศัพท์มาเท่านั้น
(ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ากฎแบงค์ชาติหรือกฎหมายบอกไปก่อน) เธอเลยเงียบไป เราเลยบอกว่าตอนนี้ก็พยายามเก็บอยู่ เมื่อวานก็มีอีกรายโทรมากำลังเจรจากันอยู่ขอดูว่าอันไหนพอจ่ายไหว แต่พอมาเจอของคุณยังไม่ได้คุยถึงไหนเลยพนักงานของคุณปิดการสนทนาซะแล้ว ก็เลยบอกตรงนี้เลยแล้วกันนะคะว่าดิฉันตัดสินใจชำระเจ้านั้นก่อนของทางยูโอบีคงต้องรอไปก่อน เค้าเลยบอกเค้าเข้าใจ เราเลยบอกขอบคุณนะคะที่โทรมาชี้แจ้ง ถ้าพนักงานคนอื่นพูดด้วยน้ำเสียงแบบคุย คงมีลูกหนี้พยายามหาเงินมาจ่ายอีกเยอะเลยค่ะ แล้วก็วางสายกันไป ไม่รู้จะเป็นไงต่อ คงต้องรอดูต่อไปค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51900 โดย เอื้อม
มาอัพเดตต่อค่ะ วันนี้มีเจ้าหน้าที่จากบัตรเซ็นทรัลการ์ดโทรมาบอกจากที่เคยคุยกันสรุปเป็นไงค่ะ เราเลยบอกว่าจากยอด 43000 ที่บอกมา ก็ยังยืนยันว่าจ่ายได้ที่ 20000 บาทอ่ะคะ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าดิฉันช่วยได้ 24000 แบ่งเป็นชำระ 3-4 งวดได้ไหมค่ะ แต่ถ้างวดเดียวขอครึ่งทางที่ 22000 เค้าเลยบอกว่าอีก 2000 บาทหาให้นิดนึงไม่ได้หรอค่ะ ได้จบๆๆกันไป เราเลยบอกว่า 2000 ที่คุณบอกมาอ่ะ เราก็ต้องเก็บไว้ใช้จ่ายในเดือนนี้เพราะพูดตรงๆตอนนี้ก็กำลังเรียนต่อมีภาระที่ต้องใช้ไม่อยากไปหยิบยืมใครมาอีกแล้วค่ะ เค้าก็พูดๆๆของเค้าไป เราเลยบอกว่าสรุปอย่างนี้นะคะ ถ้าได้ 20000 ดิฉันจ่ายได้เลย แต่ถ้า 22000 ขอเป็น 2 งวด ลองไปเสนอให้หน่อยได้ไหมค่ะ เค้าเลยบอกว่ายังไงขอแจ้งหัวหน้าก่อนเพราะเค้าตัดสินใจเองไม่ได้ เราเลยบอกว่าได้ค่ะ ขอให้ช่วยหน่อยแล้วกัน เดียวถ้ามีไรอัพเดตใหม่จะเอามาเล่าให้ฟังต่อนะคะ นี่พึ่งผ่านงวดที่ 3 มาประมาณอาทิตย์หนึ่งได้ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51908 โดย thekop47
เป็นกำลังใจให้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51911 โดย blue sky
เยี่ยมมากค่ะ สู้ สู้นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ปล. หยุดจ่ายกี่เดือนค่ะ ถึงได้ตัวเลขดีขนาดนี้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51924 โดย เอื้อม
ค่ะ คุณ Blue Sky ของเซ็นทรัลการ์ดค่ะ หยุดมาครบ 3 เดือนเมื่อวันที่ 25/3/57 ค่ะ นี่เลยมา 1 อาทิตย์เองค่ะ

เค้าก็เสนอมาตอนแรก 29000 เราบอกไม่มี เค้าเลยให้ 24000 แต่ล่าสุดที่เล่าให้ฟังอ่ะคะ เต็มที่ 22000 บาท

แต่เค้ายังไม่รับปากค่ะ ไว้มีอะไรจะมาอัพเดตนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51955 โดย เอื้อม
วันนี้วันหยุดไม่มีคนรู้ใจโทรมาหา พรุ่งนี้คงได้โทรกันมาบ้างนะคะ เลยนำบทความของผู้ชายคนนี้มาให้อ่าน ไม่แน่ใจว่าทุกท่านในห้องนี้เคยอ่านกันมาบ้างหรือเปล่า แต่เอื้อมอ่านเพราะที่เอื้อมเป็นหนี้ก็เพราะเล่นหุ้น เล่นแบบไม่รู้อะไรเลยในตอนนั้น ลองอ่านกันดูนะคะเผื่อเป็นกำลังใจ


""""ฟ้าใหม่หลังฝนพรำ""""
โดย : เรื่อง สุดารัตน์ ศรีปานะ/ ภาพ สุกล เกิดในมงคล
วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 แต่นั่นคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ทำให้ ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ มีวันนี้
ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ เคยอยู่แถวหน้าในวงการตลาดหลักทรัพย์ไทย กลับกลายมาเป็นบุคคลล้มละลายจากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 แต่นั่นคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้เขามีวันนี้ วันที่สร้างรายได้และอาชีพให้กับผู้คน วันที่ได้รู้จักการให้และแบ่งปันคืนสู่สังคม

เชื่อแน่ว่า วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2540 หลายคนยังคงจำได้เป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับบทเรียนที่ยากจะลืมเลือน บ้างถูกประกาศให้เป็นบุคคลล้มละลายหลายต่อหลายท่าน แต่จะมีสักกี่คนที่ไม่จำนนต่อวิกฤตินั้นแถมยังพลิกให้เป็นโอกาสฟื้นคืนได้อีกครั้ง

อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย จำกัด หรือบริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากบุคคลที่เคยอยู่แถวหน้าในวงการตลาดหลักทรัพย์ไทย กลับกลายมาเป็นบุคคลที่ต้องเป็นหนี้ถึงพันล้านในปีนั้น

หลายคนมองว่าเขาต้องเผชิญกับชะตากรรมที่เลวร้าย แต่สำหรับศิริวัฒน์แล้ว นั่นคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้เขามีวันนี้

เส้นทางทดสอบใจ

ศิริวัฒน์บอกกับ 'กรุงเทพธุรกิจกายใจ'ว่า ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติทางการเงินปี 2540 เขาเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ใช้ชีวิตสะดวกสบายมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก เขาตั้งใจเอาไว้ว่าทำงาน เล่นหุ้น ทำอสังหาริมทรัพย์ ไปเรื่อยๆ มีเงินหลายร้อยล้าน และจะเกษียณอายุในวัย 45 ปี แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อฟองสบู่แตกต้องกลับกลายมาเป็นบุคคลล้มละลายในวัย 48 ปี

ณ วันนั้นศิริวัฒน์ได้แต่เอามือก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะไปในทิศทางใด อาจจะต้องปิดบริษัทและลอยแพพนักงาน 20 ชีวิต แต่ด้วยความที่คุณพ่อของศิริวัฒน์สอนสั่งมาตั้งแต่เด็กว่า จะอย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทิ้งลูกน้องโดยเด็ดขาด ไม่มีทางที่เราจะทำงานคนเดียวได้ ลูกน้องคือคนที่ช่วยเหลือเรา ฉะนั้น เราต้องช่วยเหลือเขา นั่นคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ต้องคิดหาทางออกให้ได้เพื่ออยู่รอดไปด้วยกัน จึงไม่มีเวลาที่จะนั่งเอามือก่ายหน้าผากได้นานนัก

ในตอนนั้นศิริวัฒน์ยังคงมืดแปดด้านแต่ด้วยมีภรรยาคู่คิดที่เสนอให้ทำการค้าขายสินค้าประเภทอาหาร เพราะถึงอย่างไรคนเราก็ต้องกิน จึงได้เริ่มต้นทำแซนด์วิชในวันที่ 20 เมษายน 2540 ด้วยความอนุเคราะห์จากทางผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ตั้งโต๊ะขายได้ ในวันนั้นทำมา 20 ชิ้น ชิ้นละ 25 บาท กว่าจะขายหมดใช้เวลาถึงกว่า 6 ชั่วโมง ได้เงินมาเพียง 500 บาท

ศิริวัฒน์ตอบตรงไปตรงมาว่า อายมากกับการที่ต้องมายืนขายของและได้เงินมาน้อยนิด หลังจากนั้นผ่านมา 3-4 เดือนถึงมีกำไร 40% ของเงินเดือนมาจ่ายพนักงาน แต่ก็ยังมองว่าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่รอดแน่ จึงได้คิดหาหนทางใหม่ด้วยความที่เรียนจบมาจากอเมริกา และเห็นรูปแบบการขายริมถนนที่มีกระบะคล้องคอ จึงบอกกับพนักงานว่าเราจะขายของแบบคล้องคอขายนะ พนักงานเมื่อได้ฟังก็ถอดใจ กลัวเทศกิจและอีกหลายๆ อย่าง

ด้วยความที่ไม่ทิ้งลูกน้อง ศิริวัฒน์จึงบอกว่า “คุณไม่ต้องกลัวนะ เราไปด้วยกัน มีอะไรผมจะช่วยเหลือเอง” จึงได้เริ่มแบกกล่องโฟมคล้องคอที่แยกราชประสงค์ แต่ขายไม่ได้เพราะถูกเทศกิจจับ

บททดสอบใจอีกอย่างในตอนนั้นก็คือ เพื่อนฝูงที่เคยรู้จักเมื่อเห็นศิริวัฒน์ขายแซนด์วิชข้างถนน ก็มองด้วยสายตาที่แปลกประหลาด ทักทายบ้างแต่ไม่ซื้อ ทำให้ศิริวัฒน์ท้อแท้มากที่สุด แต่จุดคิด ณ วันนั้นก็คือ “เรายอมแพ้ไม่ได้ เราต้องทำ” จึงตั้งมั่นและตั้งใจ ทิ้งความท้อไป ประกอบกับสิ่งที่ทำนั้นได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ทำให้แซนด์วิชเป็นที่รู้จักและได้รับการอุดหนุนมากขึ้น

แต่การช่วยซื้อนั้นคงอยู่ได้ไม่นานหากรสชาติไม่อร่อยและไม่สดใหม่จริงๆ ด้วยความที่เขามีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คือของต้องสดใหม่ทำวันต่อวัน ไม่นำของค้างคืนมาขาย ของเหลือต่อวันก็นำไปแจกจ่ายต่อพนักงานและผู้ขาดแคลนตามสถานที่ต่างๆ จึงทำให้พูดกันปากต่อปากว่า แซนด์วิชของศิริวัฒน์ดีและอร่อยอย่างไร ส่งผลให้มีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รู้กระจ่างให้เชี่ยวชาญ

วิกฤติในปี 2540 มุมคิดของศิริวัฒน์ตอนแรกเฝ้าแต่คิดว่า “ทำไมต้องเป็นเรา จากสบายต้องมาลำบาก มาถูกเทศกิจจับถึง 2 ครั้ง” แต่มุมคิด ณ วันนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ศิริวัฒน์มองว่า สิ่งที่เผชิญในวันนั้น คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด

สิ่งที่เป็นแรงใจสำคัญที่ทำให้สู้มาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ท้อถอย นั่นก็คือ ครอบครัว ทั้งภรรยาและลูกๆ ทั้งสาม โดยภรรยาไม่เคยสักนิดที่จะตำหนิติเตียน แถมยังตื่นมาทำแซนด์วิชตั้งแต่ตี 3 เพื่อให้ทันขายในทุกๆ เช้าอีกด้วย

ส่วนลูกๆ นั้นในช่วงแรกยังคงไม่เข้าใจเนื่องจากยังเด็กอยู่ แต่ก็เข้าใจได้ในระยะเวลาไม่นาน ต้องขอบคุณทางโรงเรียนที่สอนและอธิบายให้เขาเข้าใจว่า สิ่งที่ศิริวัฒน์ทำคือสิ่งที่น่าชื่นชมและน่ายกย่อง ไม่ใช่สิ่งที่น่าอายเลย ลูกๆ จึงเข้าใจ หันมาสนใจและช่วยเหลือด้วยตัวของเขาเอง นั่นคือสิ่งที่เป็นแรงใจสำคัญอย่างแท้จริง

ปัจจุบันแซนด์วิชไม่ใช่สินค้าหลักของศิริวัฒน์ เนื่องจากถึงทางตันคือ ขาดคนแบกกล่องขาย จึงมองหาลู่ทางอื่น คือ เปลี่ยนกลุ่มสินค้าขายแต่ยังคงเน้นเป็นอาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งไปเดินในงานโอทอปเพื่อหาสินค้าตัวใหม่มาขายก็คือ ข้าวกล้องอบกรอบและน้ำเม่าเบอร์รี่

ในวันนี้ศิริวัฒน์มีหน้าร้านชื่อว่า SIRIdeli อยู่ 2 สาขาคือ สาขาโรงพยาบาลกรุงเทพ และสาขาโรงพยาบาลพญาไท 3

จากที่สั่งสินค้ามาทดลองขาย เมื่อขายได้เขาจึงพัฒนาโดยให้แหล่งผลิตทำจำหน่ายในชื่อแบรนด์ของตนเอง อย่างน้ำเม่าเบอร์รี่นั้น อดีตเป็นแค่สินค้าพื้นถิ่นที่ขายแทบไม่ได้ราคามากมายนัก แต่คุณประโยชน์นานัปประการจึงคิดให้ชุมชนพื้นถิ่นเป็นผู้ผลิต

ส่วนตัวศิริวัฒน์ขอใช้ความถนัดในด้านการตลาดให้ถูกทาง ทำให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย คือชุมชนได้ประโยชน์ มีรายได้และอาชีพ ส่วนตัวเขาก็ได้นำสินค้าเข้าสู่ตลาดศูนย์การค้าและตลาดส่งออก

เริ่มต้นในชุมชนภูพาน จังหวัดสกลนคร ซึ่งไม่ได้ใส่ใจกับน้ำเม่าเบอร์รี่มากนัก แต่เมื่อศิริวัฒน์เห็นลู่ทางจึงให้ทางชุมชนผลิตเป็นแบรนด์ของศิริวัฒน์ส่งขาย จากในอดีตที่ลูกมะเม่าหรือหมากเม่ากิโลกรัมละ 20 บาท หลังจากนั้นผ่านไปเพียง 2-3 ปี ขยับมาเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท เมื่อเม่าเบอร์รี่กลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจของท้องถิ่น สร้างรายได้และอาชีพให้กับชุมชนอย่างไม่น่าเชื่อ

ศิริวัฒน์ทำให้คนในชุมชนตื่นตัวอย่างมาก จากเดิมที่เคยปลูกเพียงมันสำปะหลัง ตอนนี้หันมาใส่ใจในพืชท้องถิ่นซึ่งแต่ละต้นก็อายุยืนนานเป็นร้อยปี ไม่ต้องเสียเวลามาปลูกใหม่ ตรงนี้เองที่ทำให้เกษตรกรสนใจเพราะแทบไม่ต้องใช้ต้นทุนแถมยังทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งลดการโยกย้ายถิ่นฐานของผู้คนอีกด้วย นี่คือสิ่งที่ศิริวัฒน์ภาคภูมิใจที่ได้ให้บางสิ่งกลับคืนสู่สังคมและชุมชนบ้าง แม้นจะยังเป็นเพียงแค่เริ่มต้นไม่กี่ปีเท่านั้น

ศิริวัฒน์เคยพูดกับเกษตรกรชาวภูพานเมื่อปี 2553 ว่า ลูกมะเม่าหรือหมากเม่าที่ชาวบ้านเห็นเป็นผลไม้พื้นถิ่น ขึ้นเองตามธรรมชาติไม่มีค่ามีราคานั้น ต่อไปจะเป็นทองคำสีดำเฉกเช่นเดียวกับทองคำสีดำของชาวอาหรับ นั่นคือน้ำมันนั่นเอง มะเม่าก็เช่นกันมีสีดำแต่ในอนาคตมันจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ดี ในปีนั้นเกษตรกรไม่เชื่อ แต่มาวันนี้เขาเชื่อแล้วว่าของพื้นถิ่นสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จริง

ศิริวัฒน์มีความเชื่อว่าคนเราต้องใช้ความถนัดที่มีของตนให้ถูกทาง จะให้คนถนัดแบบนี้แต่ไปทำอย่างอื่นก็ไม่เกิดผลดีเท่าที่ควร แต่หากต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ถนัด เชื่อแน่ว่าผลที่ออกมาจะงดงาม เปรียบได้กับตัวเขาเองที่ไม่เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกและผลิต ส่วนเกษตรกรให้ไปทำการตลาดก็คงไม่ถนัดและอาจไปไม่ถูกทาง ฉะนั้น ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนตามความถนัด แล้วนำมาประสาน ก็จะเดินทางไปได้ยาวไกลและยั่งยืน

ทั้งยังสามารถพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรอีกด้วย ผลผลิตที่ได้จากการแปรรูปจะต้องรักษามาตรฐานเช่นกัน ให้เป็นเกรดโอทอปห้าดาว ณ วันนี้สินค้าจึงไต่ระดับด้วยตัวของมันเอง กลายเป็นสินค้าส่งออกที่ได้รับความสนใจจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างมาก

'พอเพียง' ของขวัญสุดล้ำค่า

ในอดีตด้วยที่เรียนมาจากประเทศทางตะวันตก จึงมีความคิดความเชื่อแบบตะวันตกว่า จะรวยได้ด้วยอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นดั่งเช่นอภิมหาเศรษฐีชาวตะวันตก แต่ก็พบว่ามันไม่เป็นจริงเสมอไป วันนี้ ศิริวัฒน์พบหนทางเดินใหม่ที่ใช่จริงๆสำหรับเขา นั่นคือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งประเทศไทยมีของดีมากมายที่รอให้ถูกหยิบออกมาพัฒนาให้เป็นสินค้ามีคุณภาพ ให้เป็นที่รู้จัก ทำการตลาดให้ดี ก็สามารถส่งออกได้ไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน

"ในอนาคตทุกสิ่งล้วนมาพร้อมความไม่แน่นอน เราจึงควรยึดถือตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าด้วยเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือ ทำโดยพอประมาณ ทำโดยมีเหตุผล และสิ่งสำคัญก็คือสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีง่ายๆ โดยการพึ่งพาตนเองไม่พึ่งคนอื่น เท่านั้นเอง เราก็ไม่ต้องหวาดกลัวสิ่งไม่แน่นอนในอนาคตแล้ว หากเราทำเช่นนี้ได้ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เราก็จะยืนหยัดได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง"

สิ่งสำคัญที่ศิริวัฒน์อยากฝากไว้ก็คือ หาก ณ วันใดในอนาคต ท่านต้องเผชิญกับวิกฤติดั่งเช่นปี 2540 อยากให้ครองสติให้มั่นแล้วมองว่ายังมีคนอื่นที่แย่ยิ่งกว่าอยู่มากในสังคม ฉะนั้น หากไม่ยอมแพ้เสียอย่าง อย่างไรเสียก็มีทางออกเสมอ อดีตแก้ไขไม่ได้ก็จริง แต่เราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ ทั้งหลายทั้งหมดอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น หากเรากล้าที่จะเปลี่ยน กล้าที่จะลงมือทำ ไม่อายทำกัน ที่สำคัญคือ ต้องไม่ลืมคนที่ช่วยเหลือเกื้อหนุนเราอย่างลูกน้อง เป็นต้น ถ้าลูกน้องรอดเราก็รอด ท่านก็จะรอดพ้นจากวิกฤติเหล่านั้นอย่างแน่นอน

"ขอเพียงลงมือเท่านั้น ขอเพียงอย่าคิดว่าชีวิตเราย่ำแย่ถึงทางตัน ปัญหาที่เผชิญอยู่ยากเกินกว่าที่จะแก้ไข ทุกปัญหาเราแก้ไขได้ทั้งสิ้น"

ศิริวัฒน์ยังคงเล่าอีกว่า เขาได้ช่วยชาย 2 คนไม่ให้คิดสั้นได้โดยไม่ตั้งใจ นั่นคือ การที่สื่อเผยแพร่เรื่องราวการไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ทำให้ชาย 2 คนที่มีปัญหาทางการเงินเป็นหนี้อยู่หลายแสนบาท ได้เปลี่ยนมุมมองใหม่ นั่นคืออีกหนึ่งความภูมิใจ ที่เรื่องราวของเขาสามารถที่จะสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้บุคคลที่ล้มได้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้ง

เขาหวังไว้ว่า เรื่องราวชีวิตที่ชะตาได้ขีดเส้นมาให้เป็นของขวัญนี้ จะสามารถต่อยอดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่้ท้อแท้ทั้งหลาย ให้กลับยืนขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง ดั่งเช่นที่ศิริวัฒน์ทำสำเร็จมาแล้ว แน่นอนว่าในขณะที่เราล้มและลุกขึ้นใหม่เราต้องไม่ลืมที่จะให้กลับคืนสู่คนอื่นด้วย...การให้นั่นเองคือความสุขที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

Tags : ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ • ชีวิต • วิกฤติเศรษฐกิจ • วิกฤติปี40

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #51956 โดย blue sky

เอื้อม เขียน: ค่ะ คุณ Blue Sky ของเซ็นทรัลการ์ดค่ะ หยุดมาครบ 3 เดือนเมื่อวันที่ 25/3/57 ค่ะ นี่เลยมา 1 อาทิตย์เองค่ะ

เค้าก็เสนอมาตอนแรก 29000 เราบอกไม่มี เค้าเลยให้ 24000 แต่ล่าสุดที่เล่าให้ฟังอ่ะคะ เต็มที่ 22000 บาท

แต่เค้ายังไม่รับปากค่ะ ไว้มีอะไรจะมาอัพเดตนะคะ


คุณเอื้อม รายรับคุณพอ พอกับเราเลยค่ะ ยังไงก็สู้ไปด้วยกันนะค่ะ ตอนนี้วิ่งชนปัญหาอย่างเดียวแระ ไม่หมุนไปหมุนมาอีกต่อไป เครียดค่ะ แต่ตอนนี้มีกำลังใจดีขึ้นเยอะเลยค่ะ เนื่องจากเข้ามาอ่านใน web นี้ กำลังใจมากมายก่ายกองเลยจ๊ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 1 วัน ที่ผ่านมา #52433 โดย เอื้อม
มาอัพเดตค่ะ ของเซ็นทรัลการ์ดได้ข้อสรุปที่ 23000 บาท โดยแบ่งจ่าย 2 งวด งวดละ 11500 บาท

กำลังจะจ่ายงวดแรก 25/4/57 และอีกครั้ง 25/5/57 ค่ะ หมดไปแหละค่ะ สำหรับตัวแรก แต่เจ้าอื่นไม่เห็นโทรมาเลยเงียบมาก โชคดีด้วยแหละค่ะ ได้พนักงานที่ติดต่อพูดจาดีเค้าก็ช่วยทุกอย่าง ไม่ต้องขออะไรเลย เค้าถามว่าจะเอาใบปิดยอดบัญชีด้วยใช่ไหมค่ะ เดียวขอเบอร์แฟกซ์เลยแล้วกัน ขอให้เจ้าถัดไปพูดจาดีแบบนี้ด้วยเถอะ สาธุๆๆๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #53382 โดย เอื้อม
วันนี้มาเรื่องมาเล่าจากบัตรกดเงินสดธนชาตค่ะ มีเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายที่หนึ่งก่อนหน้านี้เคยคุยกันแล้วเราก็บอกว่าเรายังไม่มีเพราะตอนนี้ปิดอีกใบนึงอยู่ มีการบอกจะเข้ามาพบเราบอกเราไม่ให้เข้าพบ มีการอ้างอีกนะว่าแบงค์ชาติให้เข้าพบได้ เราบอกใช่หราว่าแบงค์ชาติให้เข้าพบได้ มีการบอกได้ แล้วจะไม่ได้เข้าพบเรานะ แต่จะขอพบฝ่ายบุคคล ตอนนั้นคิดว่าขู่ วันนี้โทรเข้าออฟฟิตมาของสายฝ่ายบุคคล แต่ออฟฟิตเรามันต้องมีเบอร์ต่ออ่ะ ก็งงว่าทำไมสายนี้ถึงมาโต๊ะเราได้ เพราะมันต้องผ่านโอเปอร์เรเตอร์ก่อนพอเรารับ เค้าก็พูดเลยโทรมาจากสำนักกฎหมายนี้จะขอถามประวัติพนักงานคนหนึงหน่อย แล้วก็โอนให้นะ แต่เหมือนโชคช่วยหรือไอ้คนนี้จะซวยก็ไม่ทราบได้ เพราะบุคคลสายไม่ว่างมันก็เด้งกลับมาโต๊ะเรา เราเลยบอกจะสอบถามไรค่ะ ก็ถามคุณคนนี้ยังอยู่ไหม ทำงานแผนกนี้ไหม เราเลยตอบว่าใช่ มีการฝากบอกเค้าด้วยว่าจะให้เจ้าหน้าที่เข้าพบ เลยก็เลยค่ะ หลังจากนั้นเลยโทรหาศุนย์ร้องเรียนของแบงค์ชาติซะเลย เค้าก็ให้คำปรึกษาดีมาก เราเลยร้องเรียนออนไลน์ไป ผลยังไม่รู้เป็นไงนะคะ แต่ได้แจ้งว่าเค้าแอบอ้างว่าส่งคนเข้ามาสามารถทำได้ตามกฎแบงค์ชาติ เดียวแกจะได้รู้ แน่ๆๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #53408 โดย เอื้อม
มาอัพเดตค่ะ วันนี้ได้รับอีเมลล์จากศุนย์ร้องเรียนขอแบงค์ชาติมาให้แล้วค่ะ ว่าได้ดำเนินการตรวจสอบความเป็นจริงจากที่ร้องเรียน และจะเข้ามาดูเรื่องนี้ให้ค่ะ ใครมีปัญหาเรื่องนี้ร้องเรียนออนไลน์ได้เลยนะคะ แล้วก็พอเรากรอกเสร็จ เราก็แนบสำเนาบัตรประชาชนเราในการร้องเรียน ก็ขีดฆ่าค่ะด้วยนะคะว่าใช้ร้องเรียนกับธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหนี้ต้องจ่าย แต่ถ้าร้ายมาฉันก็ร้ายตอบเช่นกัน อย่าไปกลัวกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ เรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่อนาคตต่อไปเราวางทางเดินเราเองได้ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #53582 โดย เอื้อม
มีเรื่องมาอัพเดตค่ะ จากที่ร้องเรียนกับแบงค์ชาติไป ทางธนชาติโทรเข้ามาขอโทษแล้วค่ะ เราก็เลยบอกเค้าไปว่า เราไม่ได้ว่าเรื่องที่คุณโทรมาทวงหนี้ เพราะมันถือเป็นหน้าที่ แต่การที่บอกบุคคลอื่นเนี่ย มันยอมไม่ได้นะคะ แล้วหวังว่าทางแบงค์จะแจ้งสำนักงานที่แบงค์ไปใช้บริการด้วย ฝากถึงเพื่อนๆที่กำลังกลัวว่าเค้าจะเข้ามาพบ ว่าจะบอกให้บุคคลอื่นให้รับทราบลองไปใช้วิธีนี้ดูได้นะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #53602 โดย เอื้อม
มาอัพเดตสถานการณ์ค่ะ บัตรใบแรกของเซ็นทรัลการ์ด ปิดจบไปเรียบร้อยแล้วค่ะเมื่อวันที่ 23/5/57 ยอด 23000 บาท จากยอดเก็บ 42000 กว่าบาท สู้ต่อไปค่ะ เพื่อบัตรใบที่ 2

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #53626 โดย lioncris
เก่งมากค่ะ คุณเอื้อมปิดได้ 1 ใบแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.794 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena