สู้ตายเพื่อปลดหนี้

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #7716 โดย thanatphong
สวัสดีครับทุกท่าน ต้องบอกเหมือนหลายๆ ท่าน ว่าเวปนี้ช่วยให้เห็นทางสว่างจริงๆ มีทางปลดหนี้ได้และเปลี่ยนชีวิตไปเลย ผมอ่านไปพอสมควร เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ซื้อหนังสือมาอ่านด้วยครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะ
อยากขอคำชี้แนะจากกรรมการ ผู้รู้และเพื่อนๆ ด้วยครับ

1.หนี้
1.1 ส่วนที่ 1 บ้านและรถ ผมจะไม่หยุดจ่าย

1.2 ส่วนที่ 2 จะหยุดจ่าย
UOB CASH : 120,000
K.BANK CREDIT : 200,000
TANACHAT CREDIT : 130,000
UOB CREDIT : 130,000
CENTRAL CREDIT : 65,000
CIMB CASH : 64,000
CENTRAL CASH : 67,000
AEON CREDIT : 60,000
SCB CREDIT : 160,000
POWER BUY : 100,000
รวม 1,096,000

2.ขอปรึกษาครับ ผมเริ่มหยุดกลางมีค มา 4 ใบ แล้วครับ สงสัย 3 เรื่อง ดังนี้ครับ
2.1 SCB CREDIT เป็นแบงค์ที่เงินเดือนโอนเข้า หยุดไม่ได้ (ตามที่อ่านมา) ถูกต้องมั้ยครับ แล้วควรปิดไปเลยเป็นใบแรก หรือจ่ายเลี้ยงขั้นต่ำไว้เพื่อเก็บเงินครับ
2.2 K.BANK เป็นธนาคารที่ผมผ่อนบ้านอยู่ หยุดแล้วจะมีผลกระทบกับบ้านมั้ยครับ จะไปเจรจา HAIR CUT หรือผ่อนขั้นบันได หรือขึ้นศาลได้ไม่ยึดไปเลยใช่มั้ยครับ
2.3 ธนชาติ เป็นธนาคารที่ติดผ่อนรถอยู่ด้วย จะมีปัญหายึดรถมั้ยครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ แล้วหากเริ่มมีทวงจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ฟังครับ เตรียมใจสู้ศึกตามแนวทางของชมรมแล้วครับ ^^

ปล. ผมลงชื่อฟังสัมมนาไว้ 29 เมษา แต่ที่นั่งเต็ม ท่านประธานซึ่งผมโทรไปปรึกษามา บอกให้ลองเป็นสำรองไว้ก่อน หรือตีตั๋วยืน อยากไปฟังจะได้กระจ่าง เพื่อนๆ มาใหม่ลองดูนะครับ และวันอาทิตย์ว่างๆ กะว่าจะแวะไปปรึกษาที่สวนลุมดูครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #7717 โดย Pych
ผมขอย้ายมาห้องถาม-ตอบปัญหาหนี้นะครับ เพราะคุณมีการถามคำถามเรื่องหนี้

thanatphong เขียน: 2.ขอปรึกษาครับ ผมเริ่มหยุดกลางมีค มา 4 ใบ แล้วครับ สงสัย 3 เรื่อง ดังนี้ครับ
2.1 SCB CREDIT เป็นแบงค์ที่เงินเดือนโอนเข้า หยุดไม่ได้ (ตามที่อ่านมา) ถูกต้องมั้ยครับ แล้วควรปิดไปเลยเป็นใบแรก หรือจ่ายเลี้ยงขั้นต่ำไว้เพื่อเก็บเงินครับ


คุณค้างเจ้านี้อยู่ 160,000 บาท ถ้าคุณมีเงินจ่ายปิดได้ ก็จะดีมากๆ ครับ แต่ถ้าไม่ได้ ก็ขอให้พยายามจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำครับ จะได้หมดได้ไวๆ

thanatphong เขียน: 2.2 K.BANK เป็นธนาคารที่ผมผ่อนบ้านอยู่ หยุดแล้วจะมีผลกระทบกับบ้านมั้ยครับ จะไปเจรจา HAIR CUT หรือผ่อนขั้นบันได หรือขึ้นศาลได้ไม่ยึดไปเลยใช่มั้ยครับ


คนละสัญญากันครับ หยุดจ่ายได้ แต่การ Hair-Cut จะได้ส่วนลดไม่ดีนัก เพราะแบงค์นี้รู้ว่าคุณมีทรัพย์สินที่สามารถยึดมาขายทอดตลาดได้ ขั้นตอนก็เหมือนบัตรเครดิตใบอื่นๆ ครับ ไม่ต่างกัน

เพราะ คุณไม่ขาดส่งบ้าน แบงค์มายึดไม่ได้ครับ ถึงคุณขาดส่งบ้าน แบงค์ก็ต้องฟ้องศาลก่อนครับ ไม่สามารถที่จะอยู่ๆ มายึดบ้านไปได้เลย

thanatphong เขียน: 2.3 ธนชาติ เป็นธนาคารที่ติดผ่อนรถอยู่ด้วย จะมีปัญหายึดรถมั้ยครับ


คนละสัญญากันครับ หยุดจ่ายได้ แต่รถที่ยังผ่อนอยู่ ไม่สามารถยึดได้ เพราะรถเป็นการเช่าซื้อ ตอนนี้รถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของธนชาติอยู่ครับ ไม่เหมือนบ้านที่เป็นของคุณแล้ว

ดังนั้น ถ้าคุณขาดส่งรถติดต่อกัน 3 เดือนขึ้นไป ไฟแนนซ์จะมายึดรถคุณได้เลยไงครับ เพราะ รถยังเป็นของไฟแนนซ์อยู่ โดยไม่ต้องไปฟ้องศาลก่อน


ตกลงคุณเลือกที่จะใช้แนวทาง SecondWay Out แล้วนะครับ ขอให้คุณอ่านกระทู้ปักหมุดหลายๆ รอบให้เข้าใจ และปฏิบัติตามแนวทางที่ชมรมฯ ได้แนะนำไว้

ขอให้โชคดีครับ :สู้ๆ: :สู้ๆ:

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: thanatphong

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7732 โดย Ly89
.
อ่านเยอะๆนะครับ...

เป็นกำลังใจให้ครับ..สู้ๆ....


:สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: thanatphong

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7737 โดย Shofrets

thanatphong เขียน: สวัสดีครับทุกท่าน ต้องบอกเหมือนหลายๆ ท่าน ว่าเวปนี้ช่วยให้เห็นทางสว่างจริงๆ มีทางปลดหนี้ได้และเปลี่ยนชีวิตไปเลย ผมอ่านไปพอสมควร เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ซื้อหนังสือมาอ่านด้วยครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะ
อยากขอคำชี้แนะจากกรรมการ ผู้รู้และเพื่อนๆ ด้วยครับ

1.หนี้
1.1 ส่วนที่ 1 บ้านและรถ ผมจะไม่หยุดจ่าย

1.2 ส่วนที่ 2 จะหยุดจ่าย
UOB CASH : 120,000
K.BANK CREDIT : 200,000
TANACHAT CREDIT : 130,000
UOB CREDIT : 130,000
CENTRAL CREDIT : 65,000
CIMB CASH : 64,000
CENTRAL CASH : 67,000
AEON CREDIT : 60,000
SCB CREDIT : 160,000
POWER BUY : 100,000
รวม 1,096,000

2.ขอปรึกษาครับ ผมเริ่มหยุดกลางมีค มา 4 ใบ แล้วครับ สงสัย 3 เรื่อง ดังนี้ครับ
2.1 SCB CREDIT เป็นแบงค์ที่เงินเดือนโอนเข้า หยุดไม่ได้ (ตามที่อ่านมา) ถูกต้องมั้ยครับ แล้วควรปิดไปเลยเป็นใบแรก หรือจ่ายเลี้ยงขั้นต่ำไว้เพื่อเก็บเงินครับ
2.2 K.BANK เป็นธนาคารที่ผมผ่อนบ้านอยู่ หยุดแล้วจะมีผลกระทบกับบ้านมั้ยครับ จะไปเจรจา HAIR CUT หรือผ่อนขั้นบันได หรือขึ้นศาลได้ไม่ยึดไปเลยใช่มั้ยครับ
2.3 ธนชาติ เป็นธนาคารที่ติดผ่อนรถอยู่ด้วย จะมีปัญหายึดรถมั้ยครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ แล้วหากเริ่มมีทวงจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ฟังครับ เตรียมใจสู้ศึกตามแนวทางของชมรมแล้วครับ ^^

ปล. ผมลงชื่อฟังสัมมนาไว้ 29 เมษา แต่ที่นั่งเต็ม ท่านประธานซึ่งผมโทรไปปรึกษามา บอกให้ลองเป็นสำรองไว้ก่อน หรือตีตั๋วยืน อยากไปฟังจะได้กระจ่าง เพื่อนๆ มาใหม่ลองดูนะครับ และวันอาทิตย์ว่างๆ กะว่าจะแวะไปปรึกษาที่สวนลุมดูครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ



ที่นั่งสำรองเหลือสองที่นั่ง ถ้าจะจองรีบๆนะค่ะ กระพริบตาอาจจะเต็มได้ ถ้ามีโอกาสมาฟังการอบรมคุณอาจจะได้ความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นนะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7766 โดย thanatphong
ขอบคุณทุกท่านมากๆ เลยครับผม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21481 โดย thanatphong
หายไปนานหลังจากเริ่มหยุดเดือนมีค อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ว่าไม่ต้องกังวลเลยครับ เข้มแข็งไว้จะผ่านมาได้ เค้าก็ได้แค่โทรมาทวง มีบ้างพูดยียวนกวนประสาท แต่ไม่เกินรับมือหรอกครับ

ผมสงสัยเนื่องจากเท่าที่อ่านเวลาได้หมายศาลก็ให้ไปต่อสู้ หรือขอความเมตตาจากศาล ศาลก็จะสั่งให้ใช้หนี้เท่านั้นเท่านี้ ด้วยดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ แล้วเราจึงไปตกลงผ่อนผันกับเจ้าหนี้เอา (ถ้าไม่มีปิด)

แล้วถ้าเจ้าหนี้ยื่นข้อเสนอให้ประนอมหนี้ด้วยดอก 13% เป็นขั้นบันได 2,500/2,700/2,900 รวม 48 งวด แล้วปิดงวดสุดท้าย ถ้าไม่มีก็ประนอมส่วนที่เหลือต่อ หรือหากมีก่อนก็จ่ายเกินได้ หรือมีเงินก้ินก็ปิดขอส่วนลดได้

แบบนี้ก็มีค่าเท่ากันกับรอให้ศาลสั่งหรือไม่ หรือควรไปจบที่ศาลครับ

ถ้าไปศาลควรต้องต่อสู้ว่าเค้าเก็บดอกเกินกำหนด หรือยอมรับขอความเมตตาจากศาลเลยครับ

ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบพระคุณมากครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21487 โดย Ly89

thanatphong เขียน: หายไปนานหลังจากเริ่มหยุดเดือนมีค อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ว่าไม่ต้องกังวลเลยครับ เข้มแข็งไว้จะผ่านมาได้ เค้าก็ได้แค่โทรมาทวง มีบ้างพูดยียวนกวนประสาท แต่ไม่เกินรับมือหรอกครับ

ผมสงสัยเนื่องจากเท่าที่อ่านเวลาได้หมายศาลก็ให้ไปต่อสู้ หรือขอความเมตตาจากศาล ศาลก็จะสั่งให้ใช้หนี้เท่านั้นเท่านี้ ด้วยดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ แล้วเราจึงไปตกลงผ่อนผันกับเจ้าหนี้เอา (ถ้าไม่มีปิด)

แล้วถ้าเจ้าหนี้ยื่นข้อเสนอให้ประนอมหนี้ด้วยดอก 13% เป็นขั้นบันได 2,500/2,700/2,900 รวม 48 งวด แล้วปิดงวดสุดท้าย ถ้าไม่มีก็ประนอมส่วนที่เหลือต่อ หรือหากมีก่อนก็จ่ายเกินได้ หรือมีเงินก้ินก็ปิดขอส่วนลดได้

แบบนี้ก็มีค่าเท่ากันกับรอให้ศาลสั่งหรือไม่ หรือควรไปจบที่ศาลครับ

ถ้าไปศาลควรต้องต่อสู้ว่าเค้าเก็บดอกเกินกำหนด หรือยอมรับขอความเมตตาจากศาลเลยครับ

ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบพระคุณมากครับ


คำถามที่คุณถามมาทั้งหมด มันขึ้นอยูกับการประเมิณตัวเองตั้งแต่เริ่มหยุดจ่ายเลยครับ.....

การประนอมยอมความ กับการเจรจาหลังศาลตัดสิน ฟังแล้วการกระทำจะคล้ายๆกัน แต่ความหมายต่างกันนะครับ....

การยอมความ คือการที่ประเมิณแล้วว่า หนี้เหลือไม่มาก น้อยราย ยอดไม่สูง ส่งไหวตลอดรอดฝั่งแน่นอน เพื่อไม่ให้เสียเวลาเจรจาหลังศาลตัดสิน หรือลุ้นกับคำพิพากษา ก็เจรจายอมความไป

ส่วนการยอมให้ศาลตัดสินนั้น คือการประเมิณแล้วว่า หนี้ยังเหลืออีกหลายเจ้า ยอดสูง การยอมความหลายๆเจ้า จะทำให้กำลังการผ่อนจ่ายอาจจะไปไม่รอด รวมถึงอาจจะต้องยอมให้บังคับคดีอายัดเงินเดือนได้ในอนาคต

ส่วนการต่อสู้คดี คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะต้องชนะคดี เพราะมันจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมารวมถึงดอกเบี้ยที่มันเดินเป็นรายวันหากว่าคุณแพ้คดี.....หรือ....คุณต้องการประวิงเวลาเก็บเงินและเจรจาแฮร์คัทได้ ก่อนที่จะถึงวันนัดสู้คดีครับ.....

ผมเข้าใจว่าคุณไม่ได้หมายความว่าเป็นการประนอมหนี้ก่อนที่จะโดนฟ้องนะครับ....ซึ่งถ้าเป็นการณีนี้ คุณจะหมดหนทางไกล่เกลี่ย หมดหนทางต่อสู้คดี หมดหนทางเจรจาขอส่วนลดงามๆ และหมดหนทางที่จะให้ศาลท่านเมตตาก็ได้นะครับ.....ชมรมแนะนำว่า....ไม่ควรทำครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21497 โดย jackTs

thanatphong เขียน: ผมสงสัยเนื่องจากเท่าที่อ่านเวลาได้หมายศาลก็ให้ไปต่อสู้ หรือขอความเมตตาจากศาล ศาลก็จะสั่งให้ใช้หนี้เท่านั้นเท่านี้ ด้วยดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้
แล้วเราจึงไปตกลงผ่อนผันกับเจ้าหนี้เอา (ถ้าไม่มีปิด)

เจ้าหนี้มันไม่ยอมให้ผ่อนต่อหรอกครับ ถ้าหากศาลพิพากษาแล้ว
มีแต่ทางเราที่ต้องใช้วิธี"หักคอจ่าย"เอาเอง...โดยไม่ต้องไปคุยหรือไปขอร้องกับมัน


thanatphong เขียน: แล้วถ้าเจ้าหนี้ยื่นข้อเสนอให้ประนอมหนี้ด้วยดอก 13% เป็นขั้นบันได 2,500/2,700/2,900 รวม 48 งวด แล้วปิดงวดสุดท้าย

ผมไม่เคยพูดว่า สามารถผ่อนได้นานถึง 48 งวด(4ปี)...ลองไปอ่านใหม่ให้ดีๆ

2. ไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมยอมความกับทนายโจทก์ เช่น ถูกหมายฟ้องให้ชดใช้หนี้เป็นจำนวนเงิน xx,xxx บาท แต่ฝ่ายจำเลยยังไม่มีเงินก้อนที่จะสามารถชำระหนี้ให้ได้ในตอนนี้ จึงขอไกล่เกลี่ยกับทนายโจทก์ว่า อยากจะขอผ่อนต่อนับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งเงื่อนไขที่จะสามารถตกลงกันได้บนชั้นศาลนี้ ทางฝ่ายโจทก์มักจะไม่ยอมให้ผ่อนต่อในระยะเวลายาวๆอีกต่อไป ส่วนมากก็จะบังคับให้ผ่อนให้หมดภายในระยะเวลา 1 ถึง 2 ปี (แต่บางรายอาจขอได้นานสูงสุดถึง 3 ปี) โดยในช่วงที่ผ่อนอยู่นี้ โจทก์อาจขอคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อนนี้ด้วย ซึ่งก็ต้องมาพูดคุยตกลงกันอีกว่า จะยอมให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างผ่อนที่เท่าไหร่? ก็จะมีตั้งแต่ 15% , 13% , 10%...หรือบางรายอาจขอได้ 0%(ไม่คิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อน ก็มี) ทั้งนี้ก็แล้วแต่ฝีปากและเทคนิคในการเจรจาต่อรองของแต่ละราย

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29


thanatphong เขียน: ถ้าไม่มีก็ประนอมส่วนที่เหลือต่อ หรือหากมีก่อนก็จ่ายเกินได้ หรือมีเงินก้ินก็ปิดขอส่วนลดได้

ก็เคยบอกไปแล้วไงครับว่า Hair cut สามารถทำได้ตลอดชีพ

Hair-cut สามารถทำได้ตลอด

ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว
...ไม่ว่าจะเป็น

- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้

เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29


thanatphong เขียน: แบบนี้ก็มีค่าเท่ากันกับรอให้ศาลสั่งหรือไม่


ไม่เหมือนกันครับ

2. ไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมยอมความกับทนายโจทก์

เมื่อได้ข้อตกลงอันเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ทำการร่างสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ ลงในแบบฟอร์ม“สัญญาประนีประนอมยอมความ”(ตราครุฑ ๒๙) พร้อมกับเซ็นต์ลงนาม ชื่อโจทก์ , ชื่อจำเลย และชื่อของผู้พิพากษาอีก 2 ท่าน(ในฐานะเป็นพยาน)
โดยที่ตัวของลูกหนี้ จะต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า หากเซ็นต์ชื่อลงในสัญญาแล้ว จะต้องปฎิบัติให้ได้ตามข้อตกลงในสัญญา
และถ้าหากลูกหนี้ไม่สามารถปฎิบัติได้ตามสัญญา ทางฝ่ายโจทก์สามารถยื่นเรื่องผ่านไปที่“กรมบังคับคดี”ได้เลย โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำอีกแล้ว และจำเลยก็ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ด้วย เพราะถือว่าจำเลยได้ทำการ“ตระบัดสัตย์”ต่อศาลไปแล้ว




3. ไปศาลเพื่อร้องขอความเมตตากรุณาจากศาล โดยขอให้ท่านช่วยตัดลดมูลหนี้บางอย่างลงมาให้บ้าง...เช่น ดอกเบี้ย , ค่าล่าช้า , ค่าทวงถาม , ค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมศาล และค่าทนายโจทก์ด้วย ซึ่งจะได้ลดมากหรือลดน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความเมตตาจากท่าน (ต้องไปวัดดวงเอาเอง) แต่สำหรับ หนี้เงินต้น นั้น ศาลท่านไม่สามารถช่วยปรับลดให้ได้ (ตามข้อกฏหมาย)...ฉะนั้นอย่าไปขอท่านในส่วนนี้เป็นอันขาด

วิธีในแนวทางที่ 3.นี้ เมื่อศาลพิพากษาไปแล้ว ลูกหนี้ก็ยังสามารถใช้วิธีการ"หักคอจ่าย"ต่อไปอีกได้(หรือจะยื่นอุทธรณ์ก็ได้) เพราะลูกหนี้ยินดีให้ศาลพิพากษาไปเอง ตามดุลยพินิจของผู้พิพากษา

การใช้วิธี"หักคอจ่าย" มิใช่เป็นการกระทำ"ตระบัดสัตย์"ต่อศาล...ตามในแนวทางที่ 3.


thanatphong เขียน: หรือควรไปจบที่ศาลครับ

อ้าว???...หากมีหมายศาลฟ้องมาแล้ว ถ้าไม่จบที่ศาล แล้วจะไปจบที่โรงแรมไหนล่ะครับ?


thanatphong เขียน: ถ้าไปศาลควรต้องต่อสู้ว่าเค้าเก็บดอกเกินกำหนด หรือยอมรับขอความเมตตาจากศาลเลยครับ

คุณก็ต้องไปพิจารณาเอาเองครับ ว่าจะใช้แนวทางไหนที่คุณเห็นว่าเหมาะสมกับตัวคุณเอง...แนวทางที่ 1. หรือ 2. หรือ 3.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21507 โดย Pych
ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21514 โดย ทอง
สู้ๆ นะคะ ตอนนี้ก้อให้กำลังใจตัวเองอยู่เหมือนกัน อิอิ ..หัวอกเดียวกัน o_) ...เพื่อชีวิตที่ดีกว่า อดทนคะ ทุกอย่างมีทางออกคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21564 โดย thanatphong
ขอบคุณมากครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.644 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena