สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ ได้หมายศาล กสิกร ยอดหนี้ 7X,XXX

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6322 โดย nathee
สวัสดีครับ เป็นสมาชิกใหม่นะครับได้อ่านข้อความของพี่ ๆ เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนแล้วจะขอคำปรึกษาบ้างน้ะครับคือเมื่อต้นเดือน กพ ได้รับหมายศาล ของ ธนาคาร กสิกรไทย ยอดหนี้ 7x,xxx รวมดอกเบี้ยและค่าปรับต่าง ๆ (เงินต้น 33,xxx) หยุดจ่ายมาได้ ปีกว่า ๆ ครับ อ่านในหมายแล้ว ธนาคารคิด ดบ 20 ต่อปี แนวทางของผมคืออยากจะสู้เพื่อขอลดดอกเบี้ยและผ่อนจ่ายไม่เกิน 10 งวด (ยังไม่มีเงินก้อนตรงนี้) ไม่ทราบว่าพอจะทำได้มั๊ย

หรือถ้าไม่ได้ขอคำแนะนำจากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ด้วยครับ
ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6325 โดย meawpung
รบกวนอ่านกระทู้ปักหมุดสีเหลืองข้างบนด้วยครับ

อ่านแล้วสงสัยก็ถามได้เลยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6326 โดย Ly89
มีหนี้เจ้าอื่นๆอีกไหมครับ.....

ถ้ามีเจ้าเดียวก็ง่ายหน่อย....ถ้าอยากสู้คดี ก็ต้องเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุมได้ครับ

ดูว่ามีประเด็นไหนสู้ได้บ้าง....หรือให้คุณอาแนะนำแนวทางให้ครับ

แต่ถ้าไม่สู้คดี ลองเจรจายอมความขอผ่อนดูครับ เอาเท่าที่คุณไหว....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6333 โดย nathee

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6334 โดย nathee

batk เขียน: มีหนี้เจ้าอื่นๆอีกไหมครับ.....

ถ้ามีเจ้าเดียวก็ง่ายหน่อย....ถ้าอยากสู้คดี ก็ต้องเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุมได้ครับ

ดูว่ามีประเด็นไหนสู้ได้บ้าง....หรือให้คุณอาแนะนำแนวทางให้ครับ

แต่ถ้าไม่สู้คดี ลองเจรจายอมความขอผ่อนดูครับ เอาเท่าที่คุณไหว....



ขอบคุณมากครับ คุณ batk

มี KTB อีกครับแต่เห็นเงียบไปประมาณ 6 เดือนแล้วครับ เงินตั้น 25,xxx
อยากลองสู้ดูน่ะครับเผื่อจะได้ลดดอกลงบ้าง เพราะว่ามาดูแล้วดอกเกือบเท่าตัวเลย
พอมีแนวทางหรือคำแนะนำบ้างมั๊ยครับ เพราะว่าผมอยู่ ตจว. ไม่สะดวกเข้ากรุงเทพเลยครับ

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6336 โดย Ly89

nathee เขียน:
ขอบคุณมากครับ คุณ batk

มี KTB อีกครับแต่เห็นเงียบไปประมาณ 6 เดือนแล้วครับ เงินตั้น 25,xxx
อยากลองสู้ดูน่ะครับเผื่อจะได้ลดดอกลงบ้าง เพราะว่ามาดูแล้วดอกเกือบเท่าตัวเลย
พอมีแนวทางหรือคำแนะนำบ้างมั๊ยครับ เพราะว่าผมอยู่ ตจว. ไม่สะดวกเข้ากรุงเทพเลยครับ

ขอบคุณครับ


ถ้าคุณอยากสู้คดี...คุณต้องเข้ากรุงเทพฯ มาปรึกษาคุณอาครับ....ผมแนะนำอย่างอื่นไม่ได้ครับ

เพราะการสู้คดี มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้เลย จะต้องเป็นผู้รู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกฏหมาย

และมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องหนี้โดยเฉพาะ....หายากนะครับ ทนายที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องหนี้....

อย่าลืมนะครับ...หนี้เป็นของคุณเอง....คุณต้องเอาใจใส่กับปัญหาของคุณเองนะครับ

ขอพูดอีกครั้งครับ...ชมรมแนะนำให้คุณเดินด้วยตัวเองได้ แต่เดินแทนคุณไม่ได้นะครับ.....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6338 โดย ntps
ลองสู้ดูของคุณนะ หมายความว่ายังไงค่ะ
1 ถ้าเป็นกรณี หมายศาลมาถึงมือแล้ว จะสู้ เพราะดอกเบี้ย
คุณต้องเอาหมายไปหาทนายให้เขียนคำให้การ ทนายก็ต้อง
คำนวณว่า เขาคิดดอกถูกหรือผิด สู้ได้หรือไม่ก่อนค่ะ
(ไม่ใช่ทุกกรณีจะสู้ได้ค่ะ) และคำให้การไม่ใช่นิยาย เขียนเอง
ไม่ได้ เพราะต้องใช้ภาษากฎหมาย ยกเว้นคุณเรียนมาค่ะ จะ
ลอกแบบเอาก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูก เพราะต้องมีคำพูดที่เกี่ยวเชื่อม
โยงกับหนี้ของลูกหนี้ด้วย

2 ถ้าเป็นกรณี ที่ไม่ได้หมายศาล สำหรับ KB เขาลดดอกให้
คุณได้แน่อยู่แล้วค่ะ แต่คุณจะเอาหรือ? เราหยุดเพื่อต้องการ
เก็บเงินมาใช้หนี้ที่เป็นธรรมค่ะ การขอลดดอกเบี้ยนั้นไม่อาจ
ช่วยคุณปลดได้อย่างแท้จริง ลองคำนวณเอาก็ได้ค่ะ
เรื่อง ผ่อนจ่าย KB ก็มีให้ เวลาไปขึ้นศาล ก็ถามหาข้อเสนอเขา
และถ้าทำได้ ต้องทำให้ได้ตลอดจนจบ คุณก็เซ็นยอมหน้าศาล
การผ่อนที่ดีต้องปลอดดอกเบี้ยค่ะ

อ่านปักหมุดข้างบนมาก ๆ หลายๆรอบนะค่ะ (ขอโทษภาพเก่าไปหน่อย)




[/color][/size]

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6340 โดย nathee

kaewja เขียน: ลองสู้ดูของคุณนะ หมายความว่ายังไงค่ะ
1 ถ้าเป็นกรณี หมายศาลมาถึงมือแล้ว จะสู้ เพราะดอกเบี้ย
คุณต้องเอาหมายไปหาทนายให้เขียนคำให้การ ทนายก็ต้อง
คำนวณว่า เขาคิดดอกถูกหรือผิด สู้ได้หรือไม่ก่อนค่ะ
(ไม่ใช่ทุกกรณีจะสู้ได้ค่ะ) และคำให้การไม่ใช่นิยาย เขียนเอง
ไม่ได้ เพราะต้องใช้ภาษากฎหมาย ยกเว้นคุณเรียนมาค่ะ จะ
ลอกแบบเอาก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูก เพราะต้องมีคำพูดที่เกี่ยวเชื่อม
โยงกับหนี้ของลูกหนี้ด้วย

2 ถ้าเป็นกรณี ที่ไม่ได้หมายศาล สำหรับ KB เขาลดดอกให้
คุณได้แน่อยู่แล้วค่ะ แต่คุณจะเอาหรือ? เราหยุดเพื่อต้องการ
เก็บเงินมาใช้หนี้ที่เป็นธรรมค่ะ การขอลดดอกเบี้ยนั้นไม่อาจ
ช่วยคุณปลดได้อย่างแท้จริง ลองคำนวณเอาก็ได้ค่ะ
เรื่อง ผ่อนจ่าย KB ก็มีให้ เวลาไปขึ้นศาล ก็ถามหาข้อเสนอเขา
และถ้าทำได้ ต้องทำให้ได้ตลอดจนจบ คุณก็เซ็นยอมหน้าศาล
การผ่อนที่ดีต้องปลอดดอกเบี้ยค่ะ

อ่านปักหมุดข้างบนมาก ๆ หลายๆรอบนะค่ะ (ขอโทษภาพเก่าไปหน่อย)




[/color][/size]


ขอบคุณคุณ kaewja ครับ
ผมจะลองอ่านดูครับ ถ้าไม่เข้าใจยังไงผมจะมาปรึกษาอีกทีครับ
สำหรับคำว่าลองสู้ดูของผม หมายความว่าหมายศาลมาถึงแล้วครับ แต่ผมลองดูในกระทู้อื่น ๆ และ ที่ได้ตั้งกระทู้ถามสมาชิกในเว็บ รวมถึงกระทู้ตอบของคุณ kaewja แล้ว ผมคงไม่สู้แล้วเพราะผมไม่สะดวกเข้ากรุงเทพน่ะครับ (อยู่ ตจว) คงต้องหาแนวทางอื่น

แต่ว่าที่คุณบอกว่าเซ็นต์ยอมหน้าศาล สามารถ
1.ขอลดดอกเบี้ยได้มั๊ย
2.ระหว่างผ่อนขอปลอดดอกเบี้ย และงดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้มั๊ย

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6361 โดย meawpung

nathee เขียน:

kaewja เขียน: ลองสู้ดูของคุณนะ หมายความว่ายังไงค่ะ
1 ถ้าเป็นกรณี หมายศาลมาถึงมือแล้ว จะสู้ เพราะดอกเบี้ย
คุณต้องเอาหมายไปหาทนายให้เขียนคำให้การ ทนายก็ต้อง
คำนวณว่า เขาคิดดอกถูกหรือผิด สู้ได้หรือไม่ก่อนค่ะ
(ไม่ใช่ทุกกรณีจะสู้ได้ค่ะ) และคำให้การไม่ใช่นิยาย เขียนเอง
ไม่ได้ เพราะต้องใช้ภาษากฎหมาย ยกเว้นคุณเรียนมาค่ะ จะ
ลอกแบบเอาก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูก เพราะต้องมีคำพูดที่เกี่ยวเชื่อม
โยงกับหนี้ของลูกหนี้ด้วย

2 ถ้าเป็นกรณี ที่ไม่ได้หมายศาล สำหรับ KB เขาลดดอกให้
คุณได้แน่อยู่แล้วค่ะ แต่คุณจะเอาหรือ? เราหยุดเพื่อต้องการ
เก็บเงินมาใช้หนี้ที่เป็นธรรมค่ะ การขอลดดอกเบี้ยนั้นไม่อาจ
ช่วยคุณปลดได้อย่างแท้จริง ลองคำนวณเอาก็ได้ค่ะ
เรื่อง ผ่อนจ่าย KB ก็มีให้ เวลาไปขึ้นศาล ก็ถามหาข้อเสนอเขา
และถ้าทำได้ ต้องทำให้ได้ตลอดจนจบ คุณก็เซ็นยอมหน้าศาล
การผ่อนที่ดีต้องปลอดดอกเบี้ยค่ะ

อ่านปักหมุดข้างบนมาก ๆ หลายๆรอบนะค่ะ (ขอโทษภาพเก่าไปหน่อย)


ขอลดดอกเบี้ย กับการขอผ่อน ขึ้นอยู่กับเราคุยครับ

อาจขอจ่ายขั้นบันได ปีแรกเบาหน่อย ปีต่อไปหนักขึ้น ซึ่งมัีนไม่มีสูตรตายตัวว่าจะเป็นอย่างไร เราต้องลองต่อรองดูครับ

เอ้า เป็นกำลังใจให้นะครับ


[/color][/size]


ขอบคุณคุณ kaewja ครับ
ผมจะลองอ่านดูครับ ถ้าไม่เข้าใจยังไงผมจะมาปรึกษาอีกทีครับ
สำหรับคำว่าลองสู้ดูของผม หมายความว่าหมายศาลมาถึงแล้วครับ แต่ผมลองดูในกระทู้อื่น ๆ และ ที่ได้ตั้งกระทู้ถามสมาชิกในเว็บ รวมถึงกระทู้ตอบของคุณ kaewja แล้ว ผมคงไม่สู้แล้วเพราะผมไม่สะดวกเข้ากรุงเทพน่ะครับ (อยู่ ตจว) คงต้องหาแนวทางอื่น

แต่ว่าที่คุณบอกว่าเซ็นต์ยอมหน้าศาล สามารถ
1.ขอลดดอกเบี้ยได้มั๊ย
2.ระหว่างผ่อนขอปลอดดอกเบี้ย และงดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้มั๊ย

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6366 โดย nathee
ขอขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ครับ ได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย
แต่ว่าพอจะแนวทาง หรือ ตัวอย่างการเจรจา ให้ผมบ้างมั๊ยครับ ในกรณี
ที่ผมจะขอลดดอกเบี้ย ขอปลอดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน และ ขอผ่อน

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6388 โดย ntps
ตัวอย่างการเจรจา ให้ผมบ้างมั๊ยครับ ในกรณี
ที่ผมจะขอลดดอกเบี้ย ขอปลอดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน และ ขอผ่อน

ไม่มี จดลิขสิทธิไว้แล้ว ของสงวน :laughing: ล้อเล่นต่ะ
คุณขา การต่อรองเป็นศิลปะ บวกจิตวิทยาเล็กน้อยนะค่ะ
แก้วจ๋าคิดว่า ทุกคนก็เป็นค่ะ เวลาไปเดินตลาด ซื้อของ
คุณไม่เคยต่อราคาแม่ค้าหรือค่ะ อย่าบอกว่า ไม่เคย ซื้อของ
ในห้างเท่านั้น

ที่ KB เขามักเสนอดอก + ผ่อนยาวนะ ลองเสนอไปตามที่คุณทำได้
ลดดอกให้สุดแล้วกัน ได้ต่ำกว่า 10 ยิ่งดีค่ะ :สู้ๆ:
ของนะยิ่งเน่ายิ่งเก่ายิ่งลดมาก คนมีความเสี่ยงยิ่งมากยิ่งได้ลด ขอ
อะไรไปดูให้สมน้ำสมเนื้อ กับยอดฟ้อง คนอื่นจ่ายประมาณเท่าไร
รายได้ในกระเป๋าที่จะผ่อนมีมากแค่ไหน อย่างไหนคุ้มกว่า
บอกได้แค่นี้ เดี๋ยวเจ้าหนี้มารู้แกวหมด
อยากรู้ต้องไปสมัครอบรมฟรีค่ะ :laughing:

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6395 โดย nathee

kaewja เขียน: ตัวอย่างการเจรจา ให้ผมบ้างมั๊ยครับ ในกรณี
ที่ผมจะขอลดดอกเบี้ย ขอปลอดดอกเบี้ยระหว่างผ่อน และ ขอผ่อน

ไม่มี จดลิขสิทธิไว้แล้ว ของสงวน :laughing: ล้อเล่นต่ะ
คุณขา การต่อรองเป็นศิลปะ บวกจิตวิทยาเล็กน้อยนะค่ะ
แก้วจ๋าคิดว่า ทุกคนก็เป็นค่ะ เวลาไปเดินตลาด ซื้อของ
คุณไม่เคยต่อราคาแม่ค้าหรือค่ะ อย่าบอกว่า ไม่เคย ซื้อของ
ในห้างเท่านั้น

ที่ KB เขามักเสนอดอก + ผ่อนยาวนะ ลองเสนอไปตามที่คุณทำได้
ลดดอกให้สุดแล้วกัน ได้ต่ำกว่า 10 ยิ่งดีค่ะ :สู้ๆ:
ของนะยิ่งเน่ายิ่งเก่ายิ่งลดมาก คนมีความเสี่ยงยิ่งมากยิ่งได้ลด ขอ
อะไรไปดูให้สมน้ำสมเนื้อ กับยอดฟ้อง คนอื่นจ่ายประมาณเท่าไร
รายได้ในกระเป๋าที่จะผ่อนมีมากแค่ไหน อย่างไหนคุ้มกว่า
บอกได้แค่นี้ เดี๋ยวเจ้าหนี้มารู้แกวหมด
อยากรู้ต้องไปสมัครอบรมฟรีค่ะ :laughing:


ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6432 โดย nathee
มีสมาชิกท่านอื่น ๆ จะให้คำแนะนำผมมั๊ยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6755 โดย nathee
คดีที่ 2 วีซ่า บ.บัตรกรุงศรีฯ

ตั้งแต่เริ่มหยุดแรกๆ ก็ติดตามกันเอง
ต่อมา ใช้ สนง.กม. วิชั่น คอนซัลแตนท์ ตามอยู่พักนึง ผมก็ยืนยันตามเดิมว่ายังชำระไม่ได้ ขอให้รอไปก่อน ก็ส่งกลับให้กรุงศรีตามเองอีกครั้ง เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะตกลงอะไร
สุดท้ายมาจบที่ ยูพี สนง.งานนี้ก็สุดยอดพอตัวทีเดียว
ถึงเวลา ทางทนายยูพีก็ส่งเรื่องฟ้อง ยอดเงินที่ฟ้อง 6 หมื่นกว่าบาท

ผมยื่นคำให้การต่อสู้คดี ถึงแม้ว่าจะเป็นบัตรเครดิตก็เถอะ เพื่อให้ได้เวลาในการเก็บเงินเพิ่ม
ศาลนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องข้ามปี คล้ายๆ กับของทหารไทย
ฟ้องกันปี 48 มานัดสืบพยานอีกทีปี 49
ท้ายที่สุด ทางสนง. กม. โทรมาให้ส่วนลด เหลือ 2 หมื่นแปดพันถ้วน
ปิดจบในปลายปี 49 โดยชำระเข้าบัญชีของบัตรกรุงศรี ที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา

*****************************************************

ผมคัดลอกมาจากระทู้เก่าของกรรมการชมรมนะครับ เพราะว่าคล้าย ๆ กับคดีของผม
ผมอยากทราบว่าสามารถนำหลักการมาใช้ได้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6758 โดย Ly89

nathee เขียน: คดีที่ 2 วีซ่า บ.บัตรกรุงศรีฯ

ตั้งแต่เริ่มหยุดแรกๆ ก็ติดตามกันเอง
ต่อมา ใช้ สนง.กม. วิชั่น คอนซัลแตนท์ ตามอยู่พักนึง ผมก็ยืนยันตามเดิมว่ายังชำระไม่ได้ ขอให้รอไปก่อน ก็ส่งกลับให้กรุงศรีตามเองอีกครั้ง เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะตกลงอะไร
สุดท้ายมาจบที่ ยูพี สนง.งานนี้ก็สุดยอดพอตัวทีเดียว
ถึงเวลา ทางทนายยูพีก็ส่งเรื่องฟ้อง ยอดเงินที่ฟ้อง 6 หมื่นกว่าบาท

ผมยื่นคำให้การต่อสู้คดี ถึงแม้ว่าจะเป็นบัตรเครดิตก็เถอะ เพื่อให้ได้เวลาในการเก็บเงินเพิ่ม
ศาลนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องข้ามปี คล้ายๆ กับของทหารไทย
ฟ้องกันปี 48 มานัดสืบพยานอีกทีปี 49
ท้ายที่สุด ทางสนง. กม. โทรมาให้ส่วนลด เหลือ 2 หมื่นแปดพันถ้วน
ปิดจบในปลายปี 49 โดยชำระเข้าบัญชีของบัตรกรุงศรี ที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา

*****************************************************

ผมคัดลอกมาจากระทู้เก่าของกรรมการชมรมนะครับ เพราะว่าคล้าย ๆ กับคดีของผม
ผมอยากทราบว่าสามารถนำหลักการมาใช้ได้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ


คุณจะใช้แนวทางนี้ก็ได้ ไม่มีใครว่า

แต่คุณประเมิณตัวเองหรือยังครับ...คุณจะเก็บเงินได้ทันหรือเปล่า

การสู้คดี ก็มีค่าใช้จ่าย และดอกเบี้ยมันก็จะเดินเป็นเงาตามต้ว...เมื่อถึงเวลา

ถ้าไม่สามารถเก็บเงินได้จริง มันจะเสียเวลาเปล่านะครับ...แต่ถ้ามั่นใจว่าเก็บเงินได้

แน่นอน...จะสู้คดีเพื่อประวิงเวลาก็ย่อมทำได้....

การยอมความ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายนะครับ ถ้าหากว่าเจรจาตกลงกันได้ด้วยดีทั้งสองฝ่าย

คุณต้องคิดถึงหนี้ที่เหลืออยู่ด้วยนะครับ...ไม่ใช่ว่าจบแค่ตัวนี้ แล้วเกิดปัญหากับที่เหลืออีก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6760 โดย nathee

batk เขียน:

nathee เขียน: คดีที่ 2 วีซ่า บ.บัตรกรุงศรีฯ

ตั้งแต่เริ่มหยุดแรกๆ ก็ติดตามกันเอง
ต่อมา ใช้ สนง.กม. วิชั่น คอนซัลแตนท์ ตามอยู่พักนึง ผมก็ยืนยันตามเดิมว่ายังชำระไม่ได้ ขอให้รอไปก่อน ก็ส่งกลับให้กรุงศรีตามเองอีกครั้ง เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่พร้อมที่จะตกลงอะไร
สุดท้ายมาจบที่ ยูพี สนง.งานนี้ก็สุดยอดพอตัวทีเดียว
ถึงเวลา ทางทนายยูพีก็ส่งเรื่องฟ้อง ยอดเงินที่ฟ้อง 6 หมื่นกว่าบาท

ผมยื่นคำให้การต่อสู้คดี ถึงแม้ว่าจะเป็นบัตรเครดิตก็เถอะ เพื่อให้ได้เวลาในการเก็บเงินเพิ่ม
ศาลนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องข้ามปี คล้ายๆ กับของทหารไทย
ฟ้องกันปี 48 มานัดสืบพยานอีกทีปี 49
ท้ายที่สุด ทางสนง. กม. โทรมาให้ส่วนลด เหลือ 2 หมื่นแปดพันถ้วน
ปิดจบในปลายปี 49 โดยชำระเข้าบัญชีของบัตรกรุงศรี ที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา

*****************************************************

ผมคัดลอกมาจากระทู้เก่าของกรรมการชมรมนะครับ เพราะว่าคล้าย ๆ กับคดีของผม
ผมอยากทราบว่าสามารถนำหลักการมาใช้ได้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ


คุณจะใช้แนวทางนี้ก็ได้ ไม่มีใครว่า

แต่คุณประเมิณตัวเองหรือยังครับ...คุณจะเก็บเงินได้ทันหรือเปล่า

การสู้คดี ก็มีค่าใช้จ่าย และดอกเบี้ยมันก็จะเดินเป็นเงาตามต้ว...เมื่อถึงเวลา

ถ้าไม่สามารถเก็บเงินได้จริง มันจะเสียเวลาเปล่านะครับ...แต่ถ้ามั่นใจว่าเก็บเงินได้

แน่นอน...จะสู้คดีเพื่อประวิงเวลาก็ย่อมทำได้....

การยอมความ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายนะครับ ถ้าหากว่าเจรจาตกลงกันได้ด้วยดีทั้งสองฝ่าย

คุณต้องคิดถึงหนี้ที่เหลืออยู่ด้วยนะครับ...ไม่ใช่ว่าจบแค่ตัวนี้ แล้วเกิดปัญหากับที่เหลืออีก



ขอบคุณมากครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21153 โดย nathee
สอบถามเรื่องการเปลี่ยนที่ทำงานขณะถูกอายัดเงินเดือน ต้องแจ้งเจ้าหนี้หรือป่าวครับหรือว่าเจ้าหนี้จะสืบทราบเองว่าเราเปลี่ยนที่ทำงาน แล้วจะอายัดในอัตราอายัดเดิมหรือป่าวครับ

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21244 โดย Pych
ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21246 โดย Pych

nathee เขียน: สอบถามเรื่องการเปลี่ยนที่ทำงานขณะถูกอายัดเงินเดือน ต้องแจ้งเจ้าหนี้หรือป่าวครับหรือว่าเจ้าหนี้จะสืบทราบเองว่าเราเปลี่ยนที่ทำงาน แล้วจะอายัดในอัตราอายัดเดิมหรือป่าวครับ

ขอบคุณครับ


ไม่ต้องแจ้งครับ เดี๋ยวเจ้าหนี้ก็ตามสืบและไปอายัดต่อเองครับ
การอายัดก็เกณฑ์เดิมครับ 30% แต่ต้องเหลือให้มีใช้ไม่น้อยกว่า 10,000 บาท

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=3&id=12878
เกณฑ์การอายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน หุ้น โบนัสต่างๆ ของพี่กรีนนี่

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #28081 โดย nathee
สวัสดีครับ ผมได้รับหมายอายัดเงินเดือนเมื่อ กย 2554 แล้วไปทำเรื่องขอส่วนลดที่กรมบังคับดคีได้เหลืออายัด 15% ก็อายัดเรื่อยมา จนเมื่อเดือน สค 2555 ผมลาออกจากงานทืี่เก่ามาเข้าที่ใหม่ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการอายัดต่อครับ ผมขอสอบถามว่า
1.การอายัดต่อเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ถูกมั๊ย
2.เจ้าหนี้สามารถรู้ได้มั๊ยยว่าเราทำงานใหม่ที่ไหน
3.ถ้าไปขอเจ้าหนี้ว่าจะชำระตรงกับเจ้าหนี้เลยได้มั๊ย

ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.725 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena