รบกวนปรึกษาคะ /มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาให้ชำระเงินหลังจากศาลพิพากษาไป 1 วันควรจ่ายดีไหมค่ะ !?

สวัสดีคะพี่ๆทุกคน......

มีข้อสงสัยอยากจะสอบถามพี่ๆ หรือคนที่มีประสบการณ์หลังจากไปศาล (บัตรเฟิ้สช้อย) เราไปศาลวันที่ 22/1/62 แต่เราไม่ได้เข้าห้องพิพากษา ให้ศาลพิาพากษาตัดสินไปเลย และวันที่ 23/1/62 มี พนง.ติดต่อมาให้เราจ่ายเท่าที่เราไหว เราควรจ่ายหรือไม่ค่ะ ** กรณีศาลพิพากษาไปแล้ว 1 วัน แต่คำพิพากษายังไม่ออกมาและยังไม่ทราบจำนวนเงินที่แท้จริง

เงินต้น 44,218.24 บาท
หนี้หลังฟ้องในหมายศาล 56,035.66 บาท
** ดอกเบี้ยปรับร้อยละ 15 ต่อปี
** ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ร้อยละ 13 ต่อปี



วันที่ 22/1/62 ศาลได้ให้ไปไกล่เกลี่ย แต่เราไม่ได้เข้าไปในห้องพิพากษา ทนายยื่นข้อเสมอมา 3 ทางเลือก
1.ปิดทั้งก้อน
2.เซ็นต์ประนอมหนี้ชำระเดือนละไม่ตำ่กว่า 2,000
3.ใ้หศาลพิพากษาเลย (ไม่ทราบจำนวนยอดที่แท้จริง ) + ค่าทนาย 3,000 และรอสืบทรัพย์ตามกระบวนการ

ซึ่่งก่อนหน้านี้เราได้หาข้อมูลเกี่ยวกับการไปไกล่เกลี่ยมาแล้วว่า ***ถ้าทนายให้กลับบ้าน ห้ามกลับ ** แต่ให้รอเข้าไปในห้องพิพากษาเพื่อขึ้นบัลลังค์ ขอความเห็นใจจากศาล แต่แล่วเราก็พลาดจนได้ ทนายให้เรากลับบ้าน เพราะเราพาลูกมาด้วย และตอนนั้นลูกก็ร้องกวน ส่วนเหตุผลที่พาลูกเพราะไม่มีคนฝากเลี้ยง ตอนนั้นเราเลือกให้ศาลพิพากษาขอความเห็นใจ แต่ทนายกับผู้ช่วยหน้าห้องแจ้งว่า ถ้าเราเข้าไปในห้องพิพากษา คำพิพากษาเราต้องมาคัดเอง คำพิพากษาไม่สามารถออกให้ได้ในวันเดียว ต้องรออีก 2 อาทิตย์เอกสารถึงจะมา แต่ถ้ากลับเลยตอนนี้คำพิพากษาจะถูกส่งไปให้ตามทะเบียนบ้านที่แจ้งไว้ แต่ยอดพิพากษาเท่าไหร่ไม่ทราบนะ ต้องรอให้ศาลอ่านและพิจารณาก่อน ตอนนั้นเราเริ่มลังเล เพราะเราไม่สะดวกในการเดินทางมาศาล ด้วยระยะทางที่ไกล และลูกยังเล็ก เราจึงเลือกให้ศาลพิพากษาเลยโดยไม่ต้องขึ้นบันลังค์ชี้แจงกับศาล ทนายยังต่อท้ายอีกว่า ถ้ามั่นใจว่าไม่มีสมบัติหรือของที่เป็นชื่อเราให้ยึดก็กลับได้เลย ส่วนถ้าคำพิพากษาออกมาแล้ว ให้เราติดต่อทางบริษัทอีกครั้งก็ได้เพื่อขอต่อรองค่างวดที่ต้องจ่าย เราตอบตกลงแบบงงๆ เพราะตอนนั้นคนเยอะมาก เสียงดัง มีเวลาคิดแค่นิดเดียว เราเลยเลือกทางที่ผิด กลับมานอนไม่หลับทั้งคืน

วันที่ 23/1/62 ช่วง 8.46 น. ได้มี พนง.จาก สนง.ทนายความโทรมาถามเราว่าทำไมเราไม่ไปศาล เราเลยชี้แจงให้ จนท.คนนั้นทราบ แล้ว จนท.คนนั้นก็บอกว่า ให้เราชำระเท่าที่เราไหว เราก็พยามถามยอดแล้วว่า ทางบริษัทให้จ่ายได้เท่าไหร่ แต่เขาไม่ยอมตอบ จนเราเสนอไปว่า จ่าย 1,000 ได้ไหม เราไม่มีจริงๆ ตอนนี้ตกงานมาปีกว่า และต้องเลี้ยงลูกด้วย ไม่มีเงินไปจ่าย 2,000 ตามเอกสารประนอมหนี้หน้าศาลหรอก เขาก็ตอบ ok. แต่เราก็ถามแล้วว่า ยอดที่ชำระ 1,000 มันไปตัดในส่วนของเงินต้น + ดอกด้วยหรือเปล่าว พนง.แจ้งว่าตัด แต่จะตัดยอดเท่าไหร่ เขายังไม่ตอบไม่ได้ เพราะคำพิพากษายังไม่มา แต่สามารถจ่ายได้แล้วให้เก็บบิลไว้ทุกบิล หรือถ้าเราอยากทราบว่าตัดต้น ตัดดอกกี่บาทก็ให้โทรมาสอบถามได้ พนง.แจ้งว่าเมื่อเรได้ทำงานหรือมีเงินก้อน ก็ค่อยโทรมาขอส่วนลดหรือยอดปิดก็ได้ ** ถ้าเราจ่ายไปแบบนี้เขาเรียกว่าจ่ายหยอดหรือป่าวค่ะ

มีรถมอไซต์ 1 คัน ซื้อตั้งแต่ปี 2551 รถคันนี้ใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ในการขับไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ กรมบังคับคดีสามารถยึดได้หรือไม่ค่ะ ชื่อเจ้าของรถเป็นของดิฉันเอง ส่วนคนใช้รถเป็นน้องชายคะ ตอนนี้กังวลมากเลยคะ กลัวจะโดนยึด

Tarn9999 เขียน: มีรถมอไซต์ 1 คัน ซื้อตั้งแต่ปี 2551 รถคันนี้ใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ในการขับไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ กรมบังคับคดีสามารถยึดได้หรือไม่ค่ะ ชื่อเจ้าของรถเป็นของดิฉันเอง ส่วนคนใช้รถเป็นน้องชายคะ ตอนนี้กังวลมากเลยคะ กลัวจะโดนยึด

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ReFreshZzz เขียน:

Tarn9999 เขียน: มีรถมอไซต์ 1 คัน ซื้อตั้งแต่ปี 2551 รถคันนี้ใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ในการขับไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ กรมบังคับคดีสามารถยึดได้หรือไม่ค่ะ ชื่อเจ้าของรถเป็นของดิฉันเอง ส่วนคนใช้รถเป็นน้องชายคะ ตอนนี้กังวลมากเลยคะ กลัวจะโดนยึด

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

ขอบคุณคะ // ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดนะค่ะ ถ้ากรมบังคับคดีมาตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้าน เขาจะมาพร้อมหมายค้นหรือไม่คะ กรณีที่เจ้าบ้านไม่อนุญาติให้เข้าบ้าน

ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดนะค่ะ ถ้ากรมบังคับคดีมาตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้าน เขาจะมาพร้อมหมายค้นหรือไม่คะ กรณีที่เจ้าบ้านไม่อนุญาติให้เข้าบ้าน


การบังคับคดียึดทรัพย์ จะไม่มีหรอกหมายค้นเจ้าหนี้เขาต้องสืบทรัพย์ก่อนว่าคุณมีอะไรให้ยึดบ้าง ถ้าบ้านเป็นชื่อคนอื่นยิ่งยากที่จะสืบทรัพย์ยึดได้ ถ้าสืบแล้วไม่มีอะไรพอให้ยึดเขาก็ไม่ส่งเรื่องไปให้กรมบังคับคดีหรอกแต่อายุความสืบทรัพย์มันนาน10ปี ตกงานต้องเลี้ยงลูกด้วย ถ้าไม่มีทรัพย์อะไรเป็นชื่อเราเช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ ไม่ต้องไปสนใจจ่ายหรอกร้อยเดียวก็ไม่ต้องจ่ายคุณไม่มีอะไรให้ เขาก็บังคับอะไรไม่ได้ไม่่มีการจับไม่มีการติดคุก เอาตัวเราเลี้ยงลูกให้รอดก่อนหนี้ที่ศาลพิพากษาไปแล้วถ้าคุณไม่จ่ายเขาก็ได้ไปแค่ใบพิพากษานั่นแหละ ส่วนมอไซค์รถเก่าเขาไม่ยึดหรอกเสียเวลายื่นเรื่องบังคับคดีเปล่าๆ ส่วนคนที่โทรมาตามให้คุณจ่ายคุณไม่ต้องไปสนใจแล้วถือว่าคดีนี้สิ้นสุดที่ศาลเป็นผู้ตัดสินแล้ว ถ้าเขาอยากได้ก็ให้รอสืบทรัพย์ยึดเอาตอนนี้ถือว่าเขาหมดอำนาจในการทวงแล้วด้วยเหตุที่ศาลตัดสินแล้วให้เราจ่ายตามฟ้องถ้าเราไม่มีก็ไม่ต้องจ่าย

eakkachai เขียน: ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดนะค่ะ ถ้ากรมบังคับคดีมาตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้าน เขาจะมาพร้อมหมายค้นหรือไม่คะ กรณีที่เจ้าบ้านไม่อนุญาติให้เข้าบ้าน


การบังคับคดียึดทรัพย์ จะไม่มีหรอกหมายค้นเจ้าหนี้เขาต้องสืบทรัพย์ก่อนว่าคุณมีอะไรให้ยึดบ้าง ถ้าบ้านเป็นชื่อคนอื่นยิ่งยากที่จะสืบทรัพย์ยึดได้ ถ้าสืบแล้วไม่มีอะไรพอให้ยึดเขาก็ไม่ส่งเรื่องไปให้กรมบังคับคดีหรอกแต่อายุความสืบทรัพย์มันนาน10ปี ตกงานต้องเลี้ยงลูกด้วย ถ้าไม่มีทรัพย์อะไรเป็นชื่อเราเช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ ไม่ต้องไปสนใจจ่ายหรอกร้อยเดียวก็ไม่ต้องจ่ายคุณไม่มีอะไรให้ เขาก็บังคับอะไรไม่ได้ไม่่มีการจับไม่มีการติดคุก เอาตัวเราเลี้ยงลูกให้รอดก่อนหนี้ที่ศาลพิพากษาไปแล้วถ้าคุณไม่จ่ายเขาก็ได้ไปแค่ใบพิพากษานั่นแหละ ส่วนมอไซค์รถเก่าเขาไม่ยึดหรอกเสียเวลายื่นเรื่องบังคับคดีเปล่าๆ ส่วนคนที่โทรมาตามให้คุณจ่ายคุณไม่ต้องไปสนใจแล้วถือว่าคดีนี้สิ้นสุดที่ศาลเป็นผู้ตัดสินแล้ว ถ้าเขาอยากได้ก็ให้รอสืบทรัพย์ยึดเอาตอนนี้ถือว่าเขาหมดอำนาจในการทวงแล้วด้วยเหตุที่ศาลตัดสินแล้วให้เราจ่ายตามฟ้องถ้าเราไม่มีก็ไม่ต้องจ่าย

ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ โล่งใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ส่วนชื่อเจ้าบ้านเป็นชื่อแม่คะ ดิฉันเป็นแค่ผู้อาศัย ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ประจำค่ะ

ใช้หนี้ที่ค้าง ใช้เมื่อไหร่ก็ได้ตอนนี้เราลำบากและมีภาระก็ทำหน้าที่เราให้ดีก่อน เมื่อเรามีเมื่อไหล่อยากเคลียร์ให้จบค่อยเคลียร์ทีหลัง

eakkachai เขียน: ใช้หนี้ที่ค้าง ใช้เมื่อไหร่ก็ได้ตอนนี้เราลำบากและมีภาระก็ทำหน้าที่เราให้ดีก่อน เมื่อเรามีเมื่อไหล่อยากเคลียร์ให้จบค่อยเคลียร์ทีหลัง

รบกวนสอบถามอีกนิดนึงคะ พอดีดิฉันได้ย้อนไปอ่านประสบการณ์เป็นหนี้ของท่านอื่นๆมาในเพจ แล้วเกิดความสงสัยว่า ..... ถ้ากรมบังคับคดีมาที่บ้านตามเลขที่แจ้งในระบบ แล้วเจอรถคันที่สงสัยว่าจะเป็นชื่อของดิฉันจอดอยู่ภายในรั้วบ้าน แต่ทางเจ้าบ้าน (แม่) ไม่ได้ให้ จนท.กรมบังคับคดีเข้ามาภายในบริเวณบ้าน แต่ได้ยืนยันปากเปล่าวว่ารถมอไซต์คันดังกล่าวเป็นของแม่แต่เพียงผู้เดียว จนท.กรมบังคับคดีสามารถบังคับยึดไปได้ไหมค่ะ แล้วแม่ต้องเอาเอกสารไปยืนยันไหมคะหรือไม่ต้องยืนยัน

อัฟเดทเฟริส์ช้อย หลังได้รับคำพิพากษาค่ะ

วันนี้ 25/3/2562 ดิฉันได้รับ โทรศัพท์จาก สนง.ทนายความ ของเฟิรส์ช้อย์ เรื่องการชำระหลังคำพิพากษา ยอดหลังคำพิพากษา 56,035.66 จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ไม่รวมค่าทนาย ซึ่งเป็นยอดเงินเท่ากับตอนที่ฟ้อง ไม่มีส่วนลดเลยซักบาท ดิฉันได้ขอส่วนลดเพิ่ม จนท.มีให้ 2 ทางเลือกคือ
1.ชำระเดือนละ 6,000 เป็นเวลา 10 เดือน
2.จ่ายปิดบัญชีทีเดียว 50,000 บาทถ้วน
ดิฉันจึงทำใจดีสู้เสือ (ยังไม่มีเงินก้อน) ขอลดอีกจาก 50,000 จนท.แจ้งว่า ไม่สามารถลดให้ได้แล้ว เนื่องจากศาลพิพากษาไปแล้ว ดิฉันจึงแย้งกลัีบไปว่า ปกติเฟิรส์ช้อยเขาสามารถลดให้ได้สูงสุดถึง 75% เลยไม่ใช่เหรอค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอลดเป็น 50% ได้ไหมค่ะ จนท.เลยตอบว่าไม่ได้ เพราะเขาลดได้แค่ 10% เท่านั้นหลังคำพิพากษา ถ้าจะให้ลดมากกว่านั้นก็ต้องเป็นก่อนฟ้องค่ะ ดิฉันเลยบอก จนท.ไปว่า ตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่ายหรอกค่ะ เพราะลูกพึ่งออกจาก รพ.มา (ติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนี้ยังไม่หายดี) และตอนนี้ก็ยังตกงานอยู่ แต่ก็กำลังพยามหางาน ส่วนถ้าจะจ่ายทีเดียว 50,000 ยอดมันยังสูงเกินไป ต้องรอคุยกับที่บ้านก่อนว่าเขาจะโอเคไหม หรือจให้เงินเราไหม อีกอย่างถ้าให้เลือกจ่ายเดือนละ 6,000 ก็ไม่ไหวอีกเช่นกันค่ะ จนท.เลยตัดบทสนทนาว่า งั้นวันที่ 28/3/62 ค่อยติดต่อกลับมาใหม่นะค่ะ

** รบกวนสอบถามค่ะ **
1.เราสามารถขอส่วนลดเพิ่มหลังคำพิพากษาได้ไหมค่ะ !?
2.ต้องรับมือกับ จนท.คนนี้ตอ่ไปยังไงดีค่ะ

Tarn9999 เขียน: อัฟเดทเฟริส์ช้อย หลังได้รับคำพิพากษาค่ะ

วันนี้ 25/3/2562 ดิฉันได้รับ โทรศัพท์จาก สนง.ทนายความ ของเฟิรส์ช้อย์ เรื่องการชำระหลังคำพิพากษา ยอดหลังคำพิพากษา 56,035.66 จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ไม่รวมค่าทนาย ซึ่งเป็นยอดเงินเท่ากับตอนที่ฟ้อง ไม่มีส่วนลดเลยซักบาท ดิฉันได้ขอส่วนลดเพิ่ม จนท.มีให้ 2 ทางเลือกคือ
1.ชำระเดือนละ 6,000 เป็นเวลา 10 เดือน
2.จ่ายปิดบัญชีทีเดียว 50,000 บาทถ้วน
ดิฉันจึงทำใจดีสู้เสือ (ยังไม่มีเงินก้อน) ขอลดอีกจาก 50,000 จนท.แจ้งว่า ไม่สามารถลดให้ได้แล้ว เนื่องจากศาลพิพากษาไปแล้ว ดิฉันจึงแย้งกลัีบไปว่า ปกติเฟิรส์ช้อยเขาสามารถลดให้ได้สูงสุดถึง 75% เลยไม่ใช่เหรอค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอลดเป็น 50% ได้ไหมค่ะ จนท.เลยตอบว่าไม่ได้ เพราะเขาลดได้แค่ 10% เท่านั้นหลังคำพิพากษา ถ้าจะให้ลดมากกว่านั้นก็ต้องเป็นก่อนฟ้องค่ะ ดิฉันเลยบอก จนท.ไปว่า ตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่ายหรอกค่ะ เพราะลูกพึ่งออกจาก รพ.มา (ติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนี้ยังไม่หายดี) และตอนนี้ก็ยังตกงานอยู่ แต่ก็กำลังพยามหางาน ส่วนถ้าจะจ่ายทีเดียว 50,000 ยอดมันยังสูงเกินไป ต้องรอคุยกับที่บ้านก่อนว่าเขาจะโอเคไหม หรือจให้เงินเราไหม อีกอย่างถ้าให้เลือกจ่ายเดือนละ 6,000 ก็ไม่ไหวอีกเช่นกันค่ะ จนท.เลยตัดบทสนทนาว่า งั้นวันที่ 28/3/62 ค่อยติดต่อกลับมาใหม่นะค่ะ

** รบกวนสอบถามค่ะ **
1.เราสามารถขอส่วนลดเพิ่มหลังคำพิพากษาได้ไหมค่ะ !?
2.ต้องรับมือกับ จนท.คนนี้ตอ่ไปยังไงดีค่ะ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64