-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
ขอคำปรึกษาคะ เป็นหนี้บัตร
ขอคำปรึกษาคะ เป็นหนี้บัตร
-
Kneel1992
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
5 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #108095
โดย Kneel1992
เป็นหนี้บัตรเครดิต อยู่ 6 บัตร ควรทำไงดี
ใบที่1 ยูเมะ วงเงิน45,000บาท
ใบที่2 อิออน วงเงิน45,000 บาท
ใบที่3 บัตรเครดิตกสิกร 22,000 บาท
ใบที่4 บัตรtmb 27,000 บาท
ใบที่5 บัตรktc 27,000 บาท
ใบที่6 บัตรโลตัส 27,000 บาท
ตอนนี้เครียดมาก ไปขอสินเชื่อรีไฟแนนที่ไหนก้ไม่ผ่าน ควรทำไงต่อดีคะ
Last edit: 5 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา by Kneel1992.
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
-
Kneel1992
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
5 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #108111
โดย Kneel1992
ถ้าเราหยุดจ่ายหนี้บัตรแล้ว ติดเครดิตบูโร
แล้วถ้าสมมุติเราได้ส่วนลดปิดบัญชี เรียบร้อยแล้ว ชื่อเราจะหลุดจากบัญชีเครดิตบูโรไหมคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
-
จำนวนโพสต์: 5911
-
ขอบคุณที่รับ: 2590
-
-
5 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #108121
โดย jackTs
Kneel1992 เขียน: ถ้าเราหยุดจ่ายหนี้บัตรแล้ว ติดเครดิตบูโร
แล้วถ้าสมมุติเราได้ส่วนลดปิดบัญชี เรียบร้อยแล้ว ชื่อเราจะหลุดจากบัญชีเครดิตบูโรไหมคะ
เกร็ดความรู้เสริมเพิ่มเติม
การที่ลูกหนี้จะเป็น NPL หรือเป็น"หนี้เน่า"ได้นั้น เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้เป็นเวลานานติดต่อกันถึง 3เดือน แล้วหลังจากนั้น สถานะของลูกหนี้ดังกล่าว ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นหนี้ NPL ทันที
NPL หมายถึง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan) หรือที่เรียกกันว่าหนี้เสีย ซึ่งเกิดจากลูกหนี้เงินกู้ของสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้กับสถาบันการเงินที่ปล่อยให้กู้เป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไป โดยมีหลักการพิจารณาลูกหนี้ว่ามีการผิดนัดเกิน 3 เดือนหรือไม่ หากเกินจะถือว่าเป็นลูกหนี้ NPL ในทันที
ประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรสำหรับลูกหนี้ที่ใช้วิธีหยุดจ่าย
หลังจากที่ลูกหนี้หยุดจ่ายหนี้มานานจนครบ 3เดือนแล้ว ก็จะมีประวัติเป็น"
หนี้เสีย"(NPL)อย่างเป็นทางการ...ซึ่งก็หมายความว่าลูกหนี้ได้มีสถานะเป็น
Blacklist (บัญชีดำ) ในเครดิตบูโรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าหากวันใดที่ลูกหนี้ได้ทำการจ่ายปิดบัญชีหนี้จนหมดแล้ว
(โดยไม่สนใจว่าลูกหนี้จะจ่ายปิดบัญชีด้วยวิธีการ Haircut หรือด้วยวิธีการใดๆก็ตาม รวมทั้งการขายหนี้เน่าของลูกหนี้ออกไปด้วย) ลูกหนี้ก็จะต้องติด Blacklist อยู่ต่อไปอีกแค่
3ปี
เท่านั้น แล้วหลังจากนั้น ประวัติหนี้เสียที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปจนหมดสิ้น
แถมกฏหมายฉบับใหม่ของเครดิตบูโร ยังเขียนไว้ด้วยอีกว่า
ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายชำระหนี้คืนเลยก็ตาม และเจ้าหนี้ก็ไม่มีการขายหนี้ออกไปด้วย...ก็กำหนดให้ลูกหนี้ต้องติด"บัญชีดำ"(Blacklist)อยู่ในเครดิตบูโร เพียงแค่ 8ปีเท่านั้น หากเมื่อเกิน 8ปีไปแล้ว ต้องทำการลบล้างประวัคิเสีย(Blacklist)ของลูกหนี้ ออกจากระบบข้อมูลของเครดิตบูโรทันที
*** กำหนดไว้อยู่ใน ข้อ ๑๘ (๒) และ (๓) ของราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง ***
debtclub.consumerthai.org/media/kunena/attachments/10551/CreditBureau.PDF
ผมเคยอธิบายไว้มานานแล้ว อยู่ในกระทู้นี้ครับ
เหมือนเกิดใหม่"ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศชัด ล้างประวัติลูกหนี้แบล็คลิสต์ 6 แสนราย
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41892&Itemid=64#58267
ดังนั้น...ใครก็ตามที่ติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรมานานจนครบ 8ปีแล้ว
ต่อให้ลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ , ไม่ยอม Haircut , ไม่จ่ายหนี้เลย...ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้น ก็ตาม
ประวัติ
Blacklist (บัญชีดำ) ของลูกหนี้ที่มีอยู่ในเครดิตบูโร ก็จะถูกลบออกไปทันทีตามที่กฎหมายฉบับใหม่ได้บัญญัติเอาไว้
ไม่มีใครเขาติด Blacklist อยู่ในเครดิตบูโรไปจนตลอดชีวิตหรอกครับ
ถึงแม้จะไม่จ่ายหนี้เลยก็ตาม
อ้างอิงข้อมูลจาก
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
*** อยู่ในด้านล่างสุดของกระทู้ ***
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64#91954
ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20
.
อนณสุข ปรมาลาภา
ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Pheonix
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
5 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #108123
โดย Pheonix
ข้อ 1. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 4 สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น 13.270,644 บัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 373,184 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ 104,491.52 ล้านบาท ถ้าผ่านไปอีก 5 ปี ดอกเบี้ยสะสม 522,457.60 ล้านบาท ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ของโจทก์ร้อยละ 1.40 ต่อปี ซึ่งเป็นต้นทุนเงินให้สินเชื่อ จากยอดสินเชื่อคงค้าง 373,184 ล้านบาท คิดเป็นต้นทุนเงินให้สินเชื่อปีละ 5,224.58 ล้านบาท ถ้าผ่านไปอีก 5 ปี ต้นทุนเงินให้สินเชื่อสะสม 26,122.90 ล้านบาท น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยที่ได้รับ ประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ หนี้ครัวเรือนสูงมาก เศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ
ข้อ 2. สินเชื่อจาก Non bank ดอกเบี้ย 28% ต่อปี ต้องหยุดหมดครับ ถ้ายังใช้ต่อไป 5 ปี เท่ากับ 140% (28% คูณ 5 เ่ท่ากับ 140%) เงินต้น 100% ยังอยู่ครบ ยังไงก็ไม่ชนะ เลิกสนใจเครดิตบูโร วันนี้วันพ่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว รัชกาลที่ 9 ท่านสอนเราเศรษฐกิจพอเพียง ทำตามคำสอนแล้วชีวิตจะอยู่รอดได้ การฟ้องศาล ส่วนใหญ่ศาลจะพิพากษาให้ดอกเบี้ยเหลือ 10% ต่อปี หรือ 12% ต่อปี เมื่อศาลพิพากษาแล้ว อายัุดแล้วต้องเหลือให้เรา 20,000 บาท อายัดได้ทีละเจ้าเดียว ทุกอย่างทำตามกฎหมาย ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย ชีวิตก็อยู่รอดแล้ว
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ผู้ดูแล: Mommyangel, Badman, konsiam
-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
ขอคำปรึกษาคะ เป็นหนี้บัตร
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.460 วินาที