หมายศาลมาแล้ว citiเครดิต

สู้ๆค่ะ

k-effect เขียน:

k-effect เขียน: ผมน่าจะไกล้แล้ว หยุดมา จะเข้า 3 เดือนแล้ว

ผมวันนี้โทรมาเจรจาให้ปรับโครงสร้างหนี้ แล้วจะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 13% แต่ให้จ่ายมาก่อน 1 เดือน
ผมเลยบอกว่ายังไม่พร้อมหลอกครับ

ประมาณ สองเดือนที่เข้ามาอยู่ในนี้
เห็นเพื่อนๆที่เจอปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวเยอะมาก

เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และได้พบว่าปัญหาของเรามันช่างดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับใครหลายๆคนที่เจอ

สิ่งที่มีผลกับใจที่สุด เห็นจะเป็นความรู้สึกของคนที่เรารัก มากกว่าเห็นหมายศาลแปะหราที่ประตูบ้าน

การยอมรับความจริงและตั้งหลักสู้กับปัญหาที่เราก่อไว้
จึงเป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ได้

อยากขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคนที่เจอเรื่องเดียวกันนะคะ
จะบอกว่าจากวันที่เริ่มก่อหนี้ จนวันนี้ที่มานั่งเคลียร์ปัญหาที่เราเองก่อไว้
มันช่างต่างกันเหลือเกิน แต่เราก็ต้องสู้กันไปค่ะ
ทุกวันนี้จะใช้จ่ายอะไร คิดแล้วคิดอีก สิ้นเดือนก็มานั่งแบ่งสรรปันส่วน
เห็นเงินเหลือเก็บไว้ใข้หนี้เค้าก็ดีใจเหลือเกิน


เวิ่นมานาน สาระไม่มีค่ะ แค่จะบอกว่าเข็ดแล้ว เข็ดจริงๆ
ถ้าแก้หนี้ที่แบกไว้ได้ก็จะไม่ทำอีกแล้ว ไม่มีเงิน ไม่ซื้อไม่รูดเด็ดขาดค่ะ

วันนี้เงินเดือนออก เงินเต็มกระเป๋า เงินเราแทบไม่มี
ฉลองด้วยมาม่า วันนี้มีตังค์ ใส่หมูสับซะหน่อย

"พอเงินดือนออก ความกระจอกก็จะหายไป"

สู้ๆนะคะ Mochi เอง

ขอข้อมูลอีกคนค่ะ พอดีเป็นหนี้บัตรกดเงินสด citi เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ผ่อนขั้นต่ำมาตลอด แต่ปีก่อนตกงานเกือบปี(เลยต้องเอาเงินส่งมามาใช้ เหมือนเริ่มนับส่งใหม่) ตอนนี้เพิ่งเริ่มงานใหม่ ช่วงนี้หมุนเงินไม่ทันเลยหยุดผ่อนไป 3 เดือน แต่พอดีเราเปลี่ยนที่อยู่ เบอร์โทร แล้วเขาติดต่อเราไม่ได้ ติดต่อได้แค่ทางอีเมลล์ แล้ววันนี้เขาเพิ่งอีเมลล์ว่ามีโปรโมชั่นได้ติดต่อกลับภายใน 30 สิงหานี้ จะมีโปรโมชั่นลดให้ 30% เราควรตะคิดต่อกลับมั้ยค่ะ หรือควรจะหาเงินไปส่งขั้นต่ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดแทน

ขอถามหน่อยค่ะ วันนี้คนจากซิตี้แบงค์มาตามที่ออฟฟิศค่ะ ให้โทรคุยกับพนักงาน ยอดหนี้99000 ลดให้เหลือ 64000 แล้วก็บอกว่าเรื่องกำลังจะส่งศาลสิ้นเดือนนี้ อยากรู้ว่าถ้าขึ้นศาลยอดจะลดลงได้มากกว่านี้ไหมคะ หรือว่าแค่นี้ก็เต็มที่แล้วของ ซิตี้แบงค์

nong4616 เขียน: ขอถามหน่อยค่ะ วันนี้คนจากซิตี้แบงค์มาตามที่ออฟฟิศค่ะ ให้โทรคุยกับพนักงาน ยอดหนี้99000 ลดให้เหลือ 64000 แล้วก็บอกว่าเรื่องกำลังจะส่งศาลสิ้นเดือนนี้ อยากรู้ว่าถ้าขึ้นศาลยอดจะลดลงได้มากกว่านี้ไหมคะ หรือว่าแค่นี้ก็เต็มที่แล้วของ ซิตี้แบงค์

ส่วนลดของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ถ้าเราไหวหรือมีเงินก้อนอยู่ในมือ ลองต่อรองกับเจ้าหนี้ดูคะ บางเคทได้ถึง 50% จ่ายก้อนเดียว แต่ถ้าขึ้นศาลส่วนมากจะคิดยอดเต็มนะคะ แล้วก็ไกล่เกลี่ยยอดผ่อนจ่ายกันกับทนายอึกที

รอหมายศาลเช่นกันค่ะ ของเรา
city ready 110,000
city ส่วนบุคคล 108,000
หยุดจ่าย มี.ค.61 ตอนนี้เสนอส่วนลด 40%
ตัวสินเชื่อส่วนบุคคล ชอบให้จ่ายเข้าไปก่อนบ้าง บอกจ่าย 1500 เพื่อจะไม่ส่งฟ้อง
ส่วนบัตรเรดดี้ จนท.ที่ทวงไม่ค่อยโอเค ชอบโทรหยอดบ่อยๆและโทรมาให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บอกถ้าไม่ปรับโครงสร้างจะส่งฟ้องให้จ่ายเดือนละ 4000 ถ้าให้เราจ่าย 4000 เรายอมให้หักเงินเดือนน่ะ
เราเงินเดือน 22500 มีผ่อนรถ มีค่าห้อง มีบัตรอีก 2 ใบ ออมสิน ktc ยอดไม่หนักมากกำลังพยายาม อดออม ประหยัดเพื่อปิดอยู่

ตอนนี้เงินได้เก็บน้อยนิด ไม่พอปิดเลย เศร้า ปั่นป่วนในลำไส้

จะไปขึ้นศาลนัดแรกเดือนหน้านี้แล้ว
ยังเก็บเงิบไม่ถึงเบย

กะว่าขอเลื่อนไปอีกค่ะ
ระหว่างนี้ทุกต้นเดือน กลางเดือน สนง.กฏหมายโทรมาให้ข้อเสนอเดิมอยู่ไม่ขาด
ซึ่งไม่ลดให้เลย้หมือนวันแรกที่คุยกัน

ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เก็บเงินรอต่อไป
สู้ๆนะคะทุกคน

ใครไปขึ้นศาล citibank มาบ้างแล้ว
ฝากเล่าประสบการณ์ให้มือใหม่ฟังด้วยคร้า

ต่อรองอะไรได้บ้างไหม

เป็นอีกคนนึงที่ต้องเข้ามาอ่านบ่อยๆเพื่อหาข้อมูลของ Citi เดือนนี้เริ่มหยุดเดือนแรกค่ะ เป็นกำลังให้กันและกันนะค่ะ

พรุ่งจะไปขึ้นศาล citi แล้วค่ะ
ได้เรื่องยังไงจะกลับมาเล่าให้ฟังนะคะ

ไปขึ้นศาลมาแล้ว วันนี้เอง

จะมาเล่าบรรยากาศการไปศาลให้ฟังนะคะ

ของเราศาลท่านนัดบ่าย แต่พี่ๆในนี้บอกว่าให้ไปก่อน
เราก็ไปซะตั้งแต่สิบโมงครึ่งเลยจ้า

ไปถึงแล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าดูรายชื่อตรงไหน
เจ้าหน้าที่ใจดี น่ารัก แนะนำเราอย่างเต็มที่
สรุปว่าคดีของเราต้องไปห้องพิจารณาที่สอง ตอนบ่ายโมงครึ่ง

ดูนาฬิกา พึ่งสิบโมงกว่าๆ เลยขอเดินสำรวจให้คุ้นชินสถานที่สักนิด
เดินหาห้องพิจารณาคดีของเรา และสังเกตผู้คนว่าเค้าต่องทำหรือห้ามทำอะไรบ้าง หน้าห้องมีป้ายแปะไว้
1 ห้ามนำของกิน เครื่องดื่มเข้าห้องพิจารณาคดี
2 ห้ามเล่นมือถือ ปิดเสียงด้วยจ้า
3 ห้ามใส่รองเท้าแตะ
4 ห้ามนั่งไขว่ห้างระหว่างอยู่ในห้องพิจารณา

ประมาณนี้จ้ะ

หน้าห้องพิจารณาจะมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ ไว้นั่งรอ แต่ถ้าถึงเวลานัดแล้ว
อย่านั่งตรงนี้นะจ้ะ พุ่งตัวเข้าห้องไปเลยไม่ต้องเขิล

เห็นประตูห้องพิจารณาแล้วก็สบายใจ
ไปหาข้าวกลางวันทานเพิ่มพลังก่อน

ตัดมาเวลาช่วงบ่ายโมง เราทำธุระเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
อาการติ่นเต้นใจสั่นก็เริ่มกำเริบ

เราเดินไปหน้าประตูห้องพิจารณาฯ เปิดเข้าไป เห็นคนอยู่ข้างในสี่ ห้าคน คนนึงน่าจะเป็นเสมียนศาล นางเสียงดังและเกรี้ยวกราด
ที่เหลือน่าจะเป็นทนาย ทุกคนง่วนอยู่กับเอกสารคำฟ้องกองโต

เราเดินเข้าไปเงียบๆ นั่งลงที่ม้านั่งยาว ถอนหายใจเบาๆ
แล้วเสียงเสมียนศาลก็ตะโกนถาม ว่ามาคดีอะไร
เราตอบว่า ซิตี้แบงค์ค่ะ
พี่เสมียน: นั่งรอก่อน ทนายโจทก์ยังไม่มา
เราก็กลับมานั่งตัวลีบเช่นเคย

ระหว่างนั้นบรรยากาศจะแบบนี้เลยค่ะ ใครมาถึงแล้วต้องไปแสดง
ตัวให้เสมียนฯศาลเห็นว่าเราชื่ออะไร มาคดีอะไร หากทนายมาแล้ว
เค้าจะแจ้งทนายให้เรียกออกไปใกล่เกลี่ย

เวลาผ่านไป 13.30 ได้เวลาพิจารณาคดี
ศาลท่านเปิดประตูเข้ามา
ทุกคนยืนตัวตรง เคารพศาล

ศาลท่านเริ่มเรียกคดีโดยไล่จากกองเอกสารเสมียนฯเตรียมไว้ให้
ซึ่งทนายโจทก์และจำเลยจูงมือกันออกไปไกล่เกลี่ยกันมาแล้ว

ทนายโจทก์เรามาแล้วค่ะ หน้าตาสวย แต่นางมาสายนิดนึง

นางนั่งไล่ดูเอกสารคำฟ้องรีบๆและเริ่มเรียกจำเลยออกไปตกลงกัน
ข้างนอกห้องทีละคน

สักพักถึงคิวเรา นางพยักหน้าเรียกเราออกไปคุยนอกห้อง
ทนายโจทก์ : ก่อนหน้านี้แบงค์ติดต่อไปไม๊คะ
เรา :ค่ะ ติดต่อ มีส่วนลดให้นิดหน่อย แต่เราจ่ายทีเดียวไม่ไหว
ทนายโจทก์ : ค่ะ งั้นวันนี้จะมาดูเป็นเงื่อนไขทำยอมผ่อนชำระนะ
แต่ทางเราให้ผ่อนได้ไม่นาน (นางกดเครื่องคิดเลข)
12เดือน เดือนละ แปดพันกว่า ยังไม่รวมดอกเบี้ยอีก 15%

เรา: ยอดต่อเดือนสูงมากค่ะ ไม่ไหวหรอก ถึงทำยอมไปก็ผ่อนไม่ได้
ทนายโจทก์นางเริ่มจิ๊ปาก แล้วไหวที่เท่าไหร่คะ นางถามเสียงเหวี่ยง

เรา: วันนี้มาเพื่อขอเลื่อนศาลค่ะ เพื่อหาเงินและเจรจากับแบงค์เพิ่มเติม

ทนายโจทก์: เลื่อนไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ให้เลื่อนนางกล่าว ด้วยเสียงหงุดหงิด

เรา: ไม่เปนไรค่ะ เดี๋ยวจะไปขอศาลเมตตา ขอเลื่อนด้านในห้อง
พิจารณาก่อน

ทนายโจทก์ : แล้วจะเลื่อนไปนานเท่าไหร่คะ เลื่อนทำไม ถึงเลื่อนก็ไม่ได้เกิน 7วันหรอก!!!

เรา : ดิฉันต้องการเวลาเพื่อเจรจากับแบงค์และเก็บเงินค่ะเพราะปลายปี
จะมีเงินก้อนเข้ามาอีก

ทนายโจทก์ :นางบอกแปปนะ ลุกหนีเข้าห้องพิจารณาไปเลย
แล้วออกมาพร้อมจำเลยอีกคน บอกให้เราไปรอในห้อง

ขอคั่นนิดนะคะ ถึงตรงนี้ การอ่านข้อมูลจากพี่ๆในห้องนี้
มีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะถ้าไม่รู้อะไรเลย อาจจะต้องทำยอม
ตามเงื่อนไขไปแล้วเพราะทนายโจทก์ นางบีบบังคับ อยากให้
ลูกหนี้ทำยอมทั้งนั้นเลย และหากเราทำยอมง่ายๆ
แล้วเราจ่ายไม่ไหว ผลลัพธ์ก็คือ ถูกบังคับคดี

ขอบคุณความรู้ที่พี่ๆในห้องนี้ ให้ไว้จริงๆค่ะ

ไว้มาเล่าต่อ ตอนไปยืนต่อหน้าศาลนะคะ

**ดอกจันตัวโตๆ อย่าไว้ไจทนายโจทก์ค่ะ ให้เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว
แม้จะถูกกดดันอย่างไรก็ตาม

ขอบคุณครับ
เป็นขอมูลที่เป็นประโยชน์มากเลยครับ
รอติดตามต่อนะครับ

แล้วเลื่อนได้ ระยะเวลาเท่าไร ขอบคุณครับสำหรับ การมาเล่าสู่กันฟัน ของผม 16 มค. 2562 ขึ้นศาลครับ
จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง

กลับมาเล่าต่อค่ะ

ความเดิมจากที่เจรจากับทนายโจทก์แล้วไม่เป็นผล
นางไม่ยอมให้เลื่อน และให้เรากลับมานั่งรอในห้องพิจารณาคดี

สักพักเสมียนศาลก็นำคำฟ้องเราเสนอต่อศาล
ศาลท่านพิจารณาแล้วจึงให้เรียกทนายและเรามายืนต่อหน้าศาล
(เดินออกไปยืนข้างหน้าเลยค่ะ)

ศาลท่านอ่านเอกสารคำฟ้องให้เราและทนายโจทก์ฟังแบบสรุปคร่าวๆ
แล้วเริ่มต้นถามเราว่า

ศาล: จำเลยตกลงกับทนายโจทก์เขาว่าอย่างไร
เรา: หลังจากเจรจากันแล้ว ไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขได้ค่ะ
เพราะทางทนายโจทก์เสนอยอดผ่อนต่อเดือนสูงเกินกว่าจะผ่อนไหวและระยะเวลา
ที่ให้ผ่อนก็สั้นมาก ดิฉันไม่สามารถรับเงื่อนไขได้

ศาล: เอ้า แล้วทางโจทก์จะว่าอย่างไร
ทนายโจทก์ : ทางจำเลยขอไปหาเงินก่อนค่ะท่าน แจ้งว่าผ่อนไม่ไหว
ศาล : สรุปทางจำเลยประสงค์จะดำเนินการอย่างไรหากทำตามที่เขา
แจ้วมาไม่ได้น่ะ แล้วจะไปหาเงิน แล้วมันจะจบอย่างไร
เรา : ดิฉันขออนุญาติศาลเลื่อนไปอีกนัดค่ะ เพื่อต่อรองกับทางธนาคาร
โดยตรง
ศาล : ปกติคดีแบบนี้ ศาลไม่ได้ให้เลื่อนกันไปเรื่อยๆหรอกนะ
จำเลยคิดว่าประสงค์ จะเลื่อนไปอีกนานสักเท่าไหร่

เรา : ขอสองเดือนจะได้หรือไม่คะ เพื่อจะเก็บเงินเพิ่ม
ศาลท่านหัวเราะเรา แล้วบอกว่าคดีแบบนี้อายุมันไม่นานขนาดนั้น
ที่จะให้เลื่อนกันสองเดือน
เรา: แต่จะให้ดิฉันยอมรับเงื่อนไขตรงนี้ ณ วันนี้ ดิฉันก็ยังทำตามเงื่อนไขของโจทก์ไม่ได้อยู่ดีค่ะ ดิฉันยังไม่มีเงินขนาดนั้น

ศาล: เห็นแก่จำเลยมีเจตนาจะไปเจรจากับเจ้าหนี้ ศาลจะเลื่อนให้
1เดือนนะ นัดหน้าเป็นวันไหนดี ทางโจทก์ว่าอย่างไร

ทนายโจทก์ : วันที่ 17 ธ.ค ค่ะ

ศาล :เอ้า เอาเป็นว่าตามนั้นนะ แต่จำเลยรู้ใช่ไหม ว่าสามารถคุยกับโจทก์เค้าได้นะ หาก 12 เดือนไม่ไหว ก็เป็น 24,36 เดือน ได้คุยกับโจทก์เค้าไหม

เรา : ทางโจทก์แจ้งแค่ 12เดือนเท่านั้นค่ะ ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมเลย

ทนายโจทก์นางทำท่าทางหลุกหลิก แล้วนางก็บอกว่า จำเลยต้องการเลื่อนนัดค่ะ ไปหาเงินก่อน และเจราจาปิดยอด(นางรีบชิงพูดสวนออกมา)

ศาล : เอาล่ะ ครั้งหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะมายืนตรงนี้ ให้ไปตกลงกันมาซะให้เรียบร้อยก่อนนะ ไม่เอาอย่างวันนี้น่ะ จะเอาอย่างไรก็มาแจ้งต่อศาลเลย (โดนดุไป 1ที) ส่วนจำเลยครั้งหน้าศาลไม่อนุญาติให้เลื่อนแล้วนะ ไปคุยกับเค้าให้เรียบร้อย จะสู้หรืออะไรก็ไปหาทนายมานะ

เรา : ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ศาล: เอ้า ทั้งคู่ฟังนะ แล้วศาลก็สรุปความการเลื่อนและนัดครั้งหน้าให้เราและทนายโจทก์ฟังอีกครั้ง และบอกเราว่า ให้รอก่อนศาลจะมีหนังสือให้เซ็นต์

เราจะกลับไปนั่งที่
สักพักไม่ถึงสามสิบวิ ไม่ทันจะเดินถึงเก้าอี้
ทนายโจทก์ก็เอาเอกสารเลื่อนนัดมาให้เซ็นต์

ศาลท่านตะโกนออกมา อ่านซะก่อนนะ อ่านให้เข้าใจแล้วจึงเซ็นต์

เราก็เซ็นต์เอกสารแล้วทนายโจทก์ก็เอาเอกสารไปคืนเสมียนศาล

กลับได้ค่ะ เสมียนศาลกล่าว

เราก็เดินไปหยิบกระเป๋าและเดินออกมาจากห้องพิจารณา

ผ่านไปได้แล้วสำหรับการไปศาลครั้งแรก

จะบอกว่าที่เราเขียนเล่ากับความเป็นจริง อารมณ์มันต่างกันนะ

ตอนที่เรายืนอยู่ มันมีทั้งความกดดัน และตื่นเต้น และกลัวมาก
อาจเป็นเพราะ เจอทนายโจทก์สายโหด ไม่คุยดี ไม่อ่อนข้อ
และเดินหน้ากดดัน

แต่ความโชคดีของเราคือ ศาลท่านสังเกตเห็น ว่าการเจรจาของเรากับทนายโจทก์ ไม่ได้เป็นไปแบบ เจรจากันดีๆ และให้โอกาสเราในการเลือกเงื่อนไขมากนัก

ไม่รู้ของท่านอื่นๆเป็นอย่างไร แต่ของเราเจอของแข็ง จะให้ยอมหน้าศาลท่าเดียว
กะปิดจ้อบสะบัดบ้อบกลับบ้านสวยๆงี้

โชคดีที่ศาลท่านยังเมตตาและมองเห็นค่ะ

นัดหน้าคิดอยู่ว่าหากจำนวนยอดผ่อนต่อเดือนยังสูงจะทำอย่างไรดี
(เพราะทางนู้นไม่ยอมแน่ๆ)

วันนี้ทางสนง. โทรมา น่าจะโทรมาคุยต่อรองกับเราล่ะ
แต่เรายังไม่รับสาย เพราะเงินยังมีไม่ครบ กำลังคิดอยู่ค่ะว่าควรทำอย่างไรดี จะมีเงินครบก็เดือน เม.ย 2562 นู่น
ยอมหน้าศาลก็ยังจ่ายไม่ไหว

หรือจะให้ศาลตัดสินไปเลย
แล้วไปหักคอจ่าย ผ่อนต่อเดือนเอา จนเก็บเงินได้แล้วเจรจาhair cut

ข้อกังวลคือตอนนี้การหักคอจ่าย ยังใช้ได้อยู่ไหมคะ
หากจ่ายประจำไม่ขาดเลย เจ้าหนี้จะบังคับคดีได้หรือไม่

พี่ๆเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

ขอบคุณมากเลยครับ
เป็นประโยชน์มากเลย ของผมก็เรื่อมเตรียมตัวเตรียมใจแล้วครับ ยอก city ของผมหนักจริงๆ
หยุดจะเข้ารอบเดือนที่ 5 แล้ว เจรจาลดได้แค่30%เอง สำหรับ บัตร ready กับ บัตรเครดิต
ส่วนสินเชื่อ ไม่ลดต้นเลยครับ บอกว่าเอกสารรอฟ้องแล้ว รวมๆ3 ก้อนก็ 5xx,xxx
คงต้องเตรียมตัวไปศาลแล้วครับ

อยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าหักคอจ่ายคือให้ศาลตัดสิน แล้วเรายังสามารถผ่อนอีกได้มั้ยคะ หรือต้องจ่ายตูมเดียวเลย

สู้ค่ะ เก็บเงินนะคะ เร่งปิดตัวยอดน้อยๆก่อน
ของเราเมื่อเดือน เม.ย 61 ปิดของ readyไป ได้ส่วนลด40%
ถัดจากนั้นอีกสามเดือนโดนฟ้องบัตรเครดิต มีเวลาสองเดือนกว่าเพื่อมาขึ้นศาลนัดแรก รวมๆแล้ว มีเวลาเกือบๆห้าเดือนที่จะเก็บเงินค่ะ
ทุกอย่างต้องใข้เวลา เป็นกำลังใจให้นะคะ

setzero เขียน: ขอบคุณมากเลยครับ
เป็นประโยชน์มากเลย ของผมก็เรื่อมเตรียมตัวเตรียมใจแล้วครับ ยอก city ของผมหนักจริงๆ
หยุดจะเข้ารอบเดือนที่ 5 แล้ว เจรจาลดได้แค่30%เอง สำหรับ บัตร ready กับ บัตรเครดิต
ส่วนสินเชื่อ ไม่ลดต้นเลยครับ บอกว่าเอกสารรอฟ้องแล้ว รวมๆ3 ก้อนก็ 5xx,xxx
คงต้องเตรียมตัวไปศาลแล้วครับ

เท่าที่อ่านในห้องนี้มาบ้างแล้ว หากศาลตัดสินแล้ว
ต้องจ่ายเต็มค่ะ ตามยอดที่ศาลท่านตัดสินมา
แต่ในกระทู้เก่าๆเห็นพี่ๆแนะนำให้หักคอจ่ายตามกำลังที่ไหว จ่ายอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ลองไปหากระทู้เก่าๆอ่านดูค่ะ

แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังใช้แนวทางนี้ได้อยู่หรือไม่
รอพี่ๆที่มีประสบการณ์มาชี้แนะค่ะ

ty099 เขียน: อยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าหักคอจ่ายคือให้ศาลตัดสิน แล้วเรายังสามารถผ่อนอีกได้มั้ยคะ หรือต้องจ่ายตูมเดียวเลย

อยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าหักคอจ่ายคือให้ศาลตัดสิน แล้วเรายังสามารถผ่อนอีกได้มั้ยคะ หรือต้องจ่ายตูมเดียวเลย

การจ่ายหนี้หลังศาลตัดสินแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะขอส่วนลดไม่ได้นะ คือมันอยู่ที่ว่าถ้าเรามีทรัพย์สินหรือเงินเดือนมากๆเจ้าหนี้เป็นต่อ แต่ถ้าเราไม่มีทรัพย์สินให้อายัดบังคับคดี หรือเงินเดือนน้อยไม่พอให้เขาอายัดเราเป็นต่อก็ลองยื่นเสนอเงินปิดก้อนเดียวได้เขาจะลดให้เท่าไหร่ก็แล้วแต่การตกลงกับเจ้าหนี้ เอกสารการปิดก็เหมือนกับเราทำh/c

ขอบคุณค้า