หนี้บัตรเครดิต ที่ สถานะเตรียมฟ้อง ไม่สามารถผ่อนชำระเป็น รายเดือนได้จริงหรือไม่ ?

หนี้บัตรเครดิต ที่ สถานะเตรียมฟ้อง ไม่สามารถผ่อนชำระเป็น รายเดือนได้จริงหรือไม่ ?

รบกวนขอคำปรึกษา เนื่องจาก เป็นหนี้บัตรเครดิต หลายธนาคาร กำลังพยายามเคลียร์ และล่าสุด มีเงินก้อนเล็กๆ อยุ่ 1 ก้อน จึงอยากทำเรื่องปิดบัญชีบัตรเครดิตธนชาติ ก่อนเนื่องจากยอดหนี้ไม่สูงมาก เงินต้น ประมาณ 30000 บาท จึงได้โทรติดต่อไปยังธนาคารเพื่อสอบถามยอดปิดบัญชี และ ได้ทราบว่า ทางธนาคารได้มีการขายหนี้ ให้กับบริษัท แห่งหนึ่ง และให้ เบอร์ติดต่อมา ซึ่ง พอเราติดต่อไป ก็เจรจา กัน เดือนที่แล้วให้ปิด ที่ 28000 บาท ณ ตอนนั้น เรามีเงิน อยู่แค่ 20000 จึงขอต่อรองสรุปคือ เราไม่สามารถปิดยอดที่ 20000 บาทได้ ต่อมา มีจนท. ติดต่อมา ถามว่า สะดวกเดินบัญชีไหม ซึ่ง เท่าที่เราทราบมา การทยอยจ่ายทีละ น้อยนั้นไม่มีประโยชน์ อะไรเลย เราจึงไม่ตกลง ทางบริษัท จึงแจ้งว่าหากไม่เดินบัญชี ก็ จะฟ้อง ในใจลึกๆ คิดว่า เราไม่ควรกลัวคำขู่ และแอบหวังลึกๆล่ะ ว่า เราเกริ่นแล้ว ว่าเรามี 20000 เค้าน่าจะเงียบหายไปแล้ว ติดต่อมาเสนอ ยอดปิดให้เราใหม่ ตามที่เราขอ แต่ เปล่าจ้าาาาาา เงียบไปเป็นเดือน ไม่โทรมา ด้วยความที่เรา อยากพยายามเคลียร์ให้จบ ไวๆ เลยโทรไปสอบถามอีกครั้ง โดยครั้งนี้ หวังว่า หากเค้าไม่รับเงิน 20000 ของเรา เราก็ ขอผ่อนจ่าย 28000 ทำสัญญากันเป็นรายงวด ก็ได้ แต่คำตอบที่ได้รับ คือ ยอดปิด 32000 ( 1 เดือน เพิ่มขึ้นมา 4000 บาท จากยอด 28000 ) เราจึงสอบถามว่า เราขอผ่อนเป็นรายเดือน ทำสัญญา สัก 12 งวด ได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ ตอนนี้ผ่อนจ่ายไม่ได้แล้ว ต้องปิดบัญชีเท่านั้น และ ต้องเป็นยอด 32000 บาท ด้วยไม่สามารถลดได้อีกแล้ว เนื่องจากเป็น บัญชีที่เตรียมฟ้อง

คำถามคือ
1. เราควรหาเงิน 32,000 บาท มาปิด ดี หรือไม่ ใจนึงก็ อยากให้จบไว อีกใจ ก็ ลังเล เพราะ ข้อ 2 (ด้านล่าง)
2. เท่าที่ถามเพื่อนๆ มา ควรปล่อยให้ฟ้อง แล้ว ไป ตกลงกันที่ศาล จะได้รับส่วนลด มากกว่า นั้น จริงหรอ? หากมันเป็นแบบนั้นจริง ทำไม เจ้าหนี้ไม่ลดซะตั้งแต่ตอนนี้ ล่ะ
3. ทำไมไม่สามารถผ่อนจ่ายได้แล้ว ในตอนนี้ เพราะ ถึงแม้ ไป ที่ศาล เท่าที่ทราบหากเราไม่ปิดบํญชี เค้าก็ต้องรอ เราจ่ายเป็นรายงวด อยู่ดี
4. บัญชีที่ถูกขายหนี้ไป ในเครดิตบูโร มันขึ้นสถานะ ปิดบัญชี (สถานะ 21 มั้งถ้าจำไม่ผิดแบบขายหนี้) หากเราปิดบัญชีไปแล้ว โดยปิดกับทางบริษัทที่ซื้อหนี้ไป เค้าจะส่งข้อมูลให้ทางบริษัท ข้อมุลเครดิต แห่งชาติ ทราบหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบมาหากเป็นหนี้ ธนาคาร แล้วเราเคลียร์ปิดแล้ว ผ่านไป 3 ปี ข้อมูลประวัติการชำระหนี้เสียๆของเรา จะหายไป เราจะกลับมาสามารถสร้างเครดิต ดีๆ ให้กับตัวเองได้อีกครั้ง ในกรณีเคสที่ ขายหนี้ นั้น จะเหมือนกันไหม คะ

รบกวนขอคำแนะนำผู้รู้ ด้วยว่าควรจัดการยังไง


กราบขอบพระคุณ ทุกความเห็น ล่วงหน้าค่ะ

.
เคสกรณีศึกษา และสิ่งที่คุณอยากรู้

ติดต่อขอชำระหนี้ครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=46103&Itemid=64#103118

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน

rotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน

อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่า

ยิ้มอ่อน เขียน:

rotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน

อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่า

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอบสอบถามนิดนึงค่ะ การเตรียมฟ้องของเค้า ถ้า สุดท้ายมีหมายศาลมาที่บ้านแล้ว เรายังสามารถ เจรจา ขอ ลดหนี้ได้อีกคร้งไหมคะ เพราะใจจริงๆ อยากปิดเพราะ ไม่อยากไป เสียเวลา ตอนไปศาล ค่ะ เพราะ ส่วนลดคงไม่ได้ มากมายอย่าง ที่คิด แน่ๆ

rotsukhon เขียน:

ยิ้มอ่อน เขียน:

rotsukhon เขียน: น้ำตาจะไหล ขอบคุณสำหรับคำตอบดี ๆ ได้ความรู้ใหม่เลยค่ะ รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามากขึ้น เพราะสิ่งที่กังวลอยุ่ คือ อยากให้ สถานะใน บูโร มันเคลียร์ ไว ที่สุด ไม่ได้ ตั้งใจจะเบี้ยวหนี้เรย แต่ อ่านแล้ว รู้สึก ว่าไหนๆ เค้าก็ ขายหนี้แล้ว อยากจ่ายเมื่อไร ก็ จ่ายได้ น่ะสิ๊แบบนี้ เจ้าหนี้ รายนี้เล่นตัวดีนัก ก็ ปล่อยไปก่อนแล้ว กัน

อดทนแล้วก็หนักแน่นไว้ค่ะ ถ้าเค้าขายหนี้ไปแล้วรอให้ติดต่อมาเอง อย่าง้อค่ะ เป็นผู้ถูกง้อจะดีกว่า

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอบสอบถามนิดนึงค่ะ การเตรียมฟ้องของเค้า ถ้า สุดท้ายมีหมายศาลมาที่บ้านแล้ว เรายังสามารถ เจรจา ขอ ลดหนี้ได้อีกคร้งไหมคะ เพราะใจจริงๆ อยากปิดเพราะ ไม่อยากไป เสียเวลา ตอนไปศาล ค่ะ เพราะ ส่วนลดคงไม่ได้ มากมายอย่าง ที่คิด แน่ๆ

H/C สามารถทำได้ตลอดเลยค่ะ ก่อนฟ้อง ฟ้อง ก่อนขึ้นศาล หลังขึ้นศาล สามารถขอส่วนลดหนี้ได้ตลอด เก็บเงินรอเค้าโทรมาให้ส่วนลดดีกว่านะคะ

อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)

*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **

วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )

จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่

ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ

1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน

วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี

rotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)

*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **

วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )

จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่

ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ

1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน

วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี

......มีชะตาเดียวกันคือเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อหลายใบ....ไม่รู้จะตอบเช่นไร?...
......แต่คิดว่า..ต้องศึกษากรณีของเพื่อนๆให้มากค่ะ..
รอติดตามและเอาใจช่วยนะคะ

rotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)

*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **

วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )

จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่

ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ

1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน

วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี

.......ลืมไปค่ะ.......รอขึ้นศาลแล้วสู้ด้วยเหตุที่ว่า......อายุการฟ้องบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อหมดอายุฟ้องร้องได้ค่ะ...โปรดศึกษาเรื่องอายุการฟ้องด้วยตัวเองนะคะ

ขอบคุณมากๆๆ ค่ะ สู้ไปด้วยกัน

thida28 เขียน:

rotsukhon เขียน: อัพเดท สรุป JMT ลดหนี้ให้เหลือ 29000 บาท จากที่บอกว่า ทั้งหมด 32000 (ยอดหนี้ก่อนถูกขายหนี้ ค้างเงินต้นจริงๆจากธนชาติประมาณ 33000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย)

*** เหลือ หนี้กับ JMT อีก 2 รายการ คือบัตรกสิกรไทย และ แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ **

วันนี้มีจนท. โทรมาทวงถามเรื่องหนี้ของบัตรกสิกร ซึ่งเป็นบัตรเครดิต 2 ใบและ บัตรกดเงินสด
ยอดหนี้อัพเดท วันนี้ 8/8/2561
บัตรใบที่ 1 ประมาณ 47000 บาท (เป็นเงินต้น 30,017 ที่เหลือดอกเบี้ย หยุดจ่ายปี 2014)
บีตรกสิกร ใบที่ 2 ประมาณ 43000 บาท (เป็นเงินต้น 29.608 บาท หยดจ่าย ปี 2014)
บัตรกสิกร กดเงินสด ประมาณ 28000 บาท (เป็นเงินต้น 20,183 บาท หยุดจ่าย ปี 2014 )

จากการเจรจาวันนี้ แจ้งให้ปิดยอดหนี้ที่ 67000 บาท ก่อนหน้านี้เสนอยอดปิดมาที่ 70,500 บาท ซึ่งขอลดเพิ่ม สรุปให้ปิดที่ 67,000 บาท ต่อรองขอจ่ายก่อน 20000 บาท ที่เหลือขอผ่อนชำระให้ครบภายใน 31/12/2561 นี้ ไม่ยินยอม อ้างว่า ต้องชำระงวดเดียวเท่านั้น หากจะ ผ่อนจ่าย จะเป็นอีกเงื่อนไขสรุปจึงไม่ปิดบัญชี จากกรณีสอบถามเรื่อง เงินต้นของแต่ละบัตร จึงได้สอบถาม จนท. ว่า หากทางเราปล่อยไว้ไม่ปิดบัญชี ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันนี้ ( 8/8/2561) จะคำนวณ 28% จากเงินต้นใช่หรือไม่

ทาง JMT แจ้งว่า หากละเลยปล่อยไว้ จนถึงวันฟ้อง ดอกเบี้ย จะถูกคิดจากยอดหนี้รวม ของวันนี้ แต่ จะคำนวณ ดอกเบี้ยย้อนหลัง ยกตัวอย่างบัตรใบที่ 1 ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดหนี้ 47000 บาท แล้วคำนวนดอกเบี้ย ย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ หยุดชำระ คือปี 2014 ถึงวันที่ ฟ้อง (สรุป ต้องโดนดอกเบี้ย ย้อนหลัง 4 ปี เต็ม ) จึงย้อนถาม จนท. ว่า มันจะคำนวณจาก 47000 ได้อย่างไร เพราะ

1. ยอด 47000 คือ เงินต้น+ดอกเบี้ย ปกติ ดอกเบี้ย ต้องคำนวณจากเงินต้น 30,017 บาทใช่หรือไม่
2. ทำไม JMT ถึงมีสิทธิ์คิดดอกเบี้ย ย้อนหลัง เพราะจริงๆ สถานะ ที่ JMT ได้เป็นเจ้าหนี้ของเรา น่าจะเริ่มเกิดขึ้น ณ วันที่ กสิกร ขายหนี้ ให้ JMT ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดดอกเบี้ยจากเงิน 47000 ดอกเบี้ยที่ สามารถคิดเพิ่มได้ น่าจะ เริ่มตั้งแต่ กสิกรขายหนี้ให้ ไม่น่ามีสิทธิ์มาคิดดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2014 มันเหมือน เป็นการเอาหนี้ที่มีการรวมดอกเบี้ย อยู่แล้ว มาคิดดอกเบี้ยใหม่ ดูซ่้ำซ้อน

วอนผู้รู้ช่วยตอบคำถาม 2 ข้อนี้หน่อยคร้าาา ว่า JMT สามารถทำได้จริงแบบที่ขู่ไว้ หรือ เปล่า ถ้าสามารถทำได้ นี่ คงตายแหงๆๆๆ 28% ต่อปี เป็นเวลาประมาณ 4 ปี

.......ลืมไปค่ะ.......รอขึ้นศาลแล้วสู้ด้วยเหตุที่ว่า......อายุการฟ้องบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อหมดอายุฟ้องร้องได้ค่ะ...โปรดศึกษาเรื่องอายุการฟ้องด้วยตัวเองนะคะ

อัพเดท 20/8/2561 เวลา 12.10น. มีจนท. จากบริษัทเจ โทรมาทวงถาม แจ้งยอดปิดบัญชี ของ SCBT จากยอด 170,500 บาท ให้ปิดที่ 111,000 บาท พอแจ้งว่ายังไม่สามารถชำระให้ได้ จนท.แจ้งว่ายังไงก็ ต้องมีการเดินบํญชี เข้ามา 3000 บาท แต่ เมื่อทางเราแจ้งว่า ไม่สามารถชำระได้ ทำไมถึงชำระไม่ได้ คะ แล้วก็ พูดอ้างว่า เราทำงาน ธนาคาร .... บลาๆๆๆ แล้ว สุดท้ายจบที่ หากไม่ชำระเข้ามา 3000 บาท จะมีการลงพท้นที่ ทางเรา เราจึงย้อนถามว่า คุณจะมาเพื่ออะไร มาทำให้อับอาย ให้เรา เสื่อมเสีย หรอ คุณเป็นบริษัท ทวงหนี้ คุณน่าจะทราบกฏหมายการทวงหนี้ ดี นะคะ ว่า หากทำให้ลูกหนี้ ได้รับความอับอายจะเป็นยังไง สุดท้าย ก็ย้อนกลับมา คำพูดเดิม ว่าต้องจ่ายๆๆ เรา จึงตัดปัญหาพูดว่า ในเมื่อคุณขอให้เราจ่าย แล้ว เราไม่จ่ายได้ คุณก็ทำตามขั้นตอน ฟ้องร้อง มาก่อนเลยค่ะ จนท. กลับแจ้งว่า เราฟ้องร้องคุณไม่ได้ หรอกค่ะ
ทำไม ฟ้องไม่ได้ ละคะ ในเมื่อคุณเป็นเจ้าหนี้

จนท. แล้วยังไงคะ ชัดๆ ค่ะ ชำระได้หรือไม่ได้ พูดมาค่ะ
เรา ไม่ได้ค่ะ
จนท. ทำไมไม่ได้ละคะ ทีตอนเอาเงินไป ทำไมไม่คิด
เรา สรุปว่า หากเราไม่สามารถชำระได้ ทางคุณจะทำอะไรกับเราได้บ้างคะ
จนท. ไม่ขอแจ้งข้อมูลแล้ว กันนะคะ พูดมาให้ชัดเจน ค่ะ ว่า ตกลง จะชำระ เข้ามาได้ หรือไม่ได้
เรา ไม่ได้ ค่ะ
จนท. สวัสดี ค่ะ วางสายยย

อยากสอบถาม เพื่อนๆ ว่า ใครเคยโดน บริษัท นี้ ลงพื้นที่ มาหาบ้างคะ มีวิธี รับมือ ยังไง รบกวนขอคำแนะนำค่ะ

อัพเดท วันนี้ บริษัท J โทรมาเสนอส่วนลดหนี้ สินเชื่อ ของ SCBT เงินต้น 169000 ให้ปิดที่ 103000 บาท ภายในเดือนนี้ หากไม่ปิด จะ ส่ง ฟ้อง T___T อยากรู้จังหมายศาล มาแล้ว สามารถเลื่อน นัด ไปได้อีก กี่ วัน

ของคุณ rotsukhon หยุดจ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมสังเกตุดูเจ้าหนี้คุณเหมือนจะบังคับให้จ่าย3000 เพื่อเดินบัญชี ไม่ใช่ของคุณมันหมดอายุความฟ้องแล้วเหรอ บัตรอะไรประเภทไหน คือโดยปรกตินะส่วนมากที่บริษัทตระกูลJ ตามทวงอยู่นะจะเป็นประเภทหมดอายุความแล้วเสียส่วนใหญ่ เพราะเขาซื้อหนี้เสียมา ถ้ามันยังไม่หมดอายุความนะเจ้าของหนี้ตัวจริงนะเขาจะฟองเอง ถ้าตระกูลJฟ้องนะส่วนมากหมดอายุความแต่เขาฟ้องเผื่อลูกหนี้ไม่ไปศาลตามฟ้อง ถ้าลูกหนี้ไม่ไปตามศาลนัดเขาก็จะชนะคดี คราวนี้เขาก็จะได้อำนาจบังคับคดีมาใหม่ตั้งแต่ศาลตัดสินไปอีก10ปี อย่าจ่ายไม่งั้นอายุความจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ ลองดูว่าของเรานะหมดอายุความยังไม่ต้องไปสนใจ ถ้าหมดอายุความแล้วถ้าเขาฟ้องมาจ้างทนายเขียนคำให้การสู้ครับ เดี๋ยวศาลก็ยกฟ้อง (ถ้าบริษัทนี้ฟ้องอย่างแรกที่คุณจะต้องดูคือมันหมดอายุความยัง อย่างแรกที่คุณต้องรู้คือบัตรของคุณเป็นประเภทอะไร อายุความกี่ปี มันมีอยู่3ประเภท อายุความ2ปี 5ปี 10ปี ถ้าตอนนี้จำรายละเอียดอะไรไม่ได้ ถ้าได้หมายศาลมารายละเอียดที่คุณจำไม่ได้จะอยู่ในนั้นทั้งหมดหนี้จริงเท่าไหร่ผิดนัดเมื่อไหร่จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ชนิดของบัตร ฟ้องเรื่ออะไร ไม่ต้องสนประนอมหนี้สนใจอายุความใว้ก่อน ถ้าดูไม่ออกไปปรึกษาทนายครับ ในเพจนี้ก็บอกอยู่ๆบ่อยๆว่าควรปรึกษาใคร ราคาค่าเขียนก็น่าจะยุธติธรรมกว่าข้างนอกครับ ผมเคยลองแล้ว) หมายเหตุ บัตรเคดิตคุณ ถ้าหยุดจ่ายตั้งแต่ปี2014 ไม่เคยจ่ายเพิ่มเข้าไปอีก หมดอายุความฟ้องแล้ว ถ้าฟ้องมาจ้างทนายสู้เลยครับเรื่องอายุความสู้นะครับให้ทนายเขียนคำให้การให้แล้วเราไปศาลเองก็ได้ บัตรกดเงินสดอายุความน่าจะ5ปีนับจากวันผิดนัด แต่ถ้าเขาฟ้องมา3อย่างรวมกันต้องให้ทนายเขียนให้ดีเพราะเท่าที่ดูบัตรกดเงินสดยังไม่หมดอายุความ

ไม่แน่ใจ เรียก ประเภทสินเชื่อ อะไรค่ะ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่บัตรเครดิตค่ะ ลักษณะเหมือนบัตรกดเงินสด ในบูโร ระบุ ประเภทสินเชื่อ เป็น สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี ค่ะไม่มีความรู้เลย ว่า ประเภทนี้มีอายุความกี่ปี เพราะ อ่านทีไร ก็ยังไม่เข้าใจสักที คงต้องเริ่มหาความรู้เรื่องนี้ อย่างจริงจังแล้ว ค่ะ จำได้ว่า หยุดจ่ายไปเมื่อปี 2557 ค่ะควรทำอย่างไร ดีคะ ตอนนี้ ทำใจแล้ว ว่าต้องปิดหนี้ ตามที่เค้า เสนอ เพียงแต่อยากปิดตอน สิ้นปี ค่ะ แต่ดูเหมือน บริษัท J เร่งเหลือเกิน เอะอะๆ ก็จะให้ จ่ายเดินบัญชีอยุ่ได้ เซ็งสุดๆๆ

eakkachai เขียน: ของคุณ rotsukhon หยุดจ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมสังเกตุดูเจ้าหนี้คุณเหมือนจะบังคับให้จ่าย3000 เพื่อเดินบัญชี ไม่ใช่ของคุณมันหมดอายุความฟ้องแล้วเหรอ บัตรอะไรประเภทไหน คือโดยปรกตินะส่วนมากที่บริษัทตระกูลJ ตามทวงอยู่นะจะเป็นประเภทหมดอายุความแล้วเสียส่วนใหญ่ เพราะเขาซื้อหนี้เสียมา ถ้ามันยังไม่หมดอายุความนะเจ้าของหนี้ตัวจริงนะเขาจะฟองเอง ถ้าตระกูลJฟ้องนะส่วนมากหมดอายุความแต่เขาฟ้องเผื่อลูกหนี้ไม่ไปศาลตามฟ้อง ถ้าลูกหนี้ไม่ไปตามศาลนัดเขาก็จะชนะคดี คราวนี้เขาก็จะได้อำนาจบังคับคดีมาใหม่ตั้งแต่ศาลตัดสินไปอีก10ปี อย่าจ่ายไม่งั้นอายุความจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ ลองดูว่าของเรานะหมดอายุความยังไม่ต้องไปสนใจ ถ้าหมดอายุความแล้วถ้าเขาฟ้องมาจ้างทนายเขียนคำให้การสู้ครับ เดี๋ยวศาลก็ยกฟ้อง (ถ้าบริษัทนี้ฟ้องอย่างแรกที่คุณจะต้องดูคือมันหมดอายุความยัง อย่างแรกที่คุณต้องรู้คือบัตรของคุณเป็นประเภทอะไร อายุความกี่ปี มันมีอยู่3ประเภท อายุความ2ปี 5ปี 10ปี ถ้าตอนนี้จำรายละเอียดอะไรไม่ได้ ถ้าได้หมายศาลมารายละเอียดที่คุณจำไม่ได้จะอยู่ในนั้นทั้งหมดหนี้จริงเท่าไหร่ผิดนัดเมื่อไหร่จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ชนิดของบัตร ฟ้องเรื่ออะไร ไม่ต้องสนประนอมหนี้สนใจอายุความใว้ก่อน ถ้าดูไม่ออกไปปรึกษาทนายครับ ในเพจนี้ก็บอกอยู่ๆบ่อยๆว่าควรปรึกษาใคร ราคาค่าเขียนก็น่าจะยุธติธรรมกว่าข้างนอกครับ ผมเคยลองแล้ว) หมายเหตุ บัตรเคดิตคุณ ถ้าหยุดจ่ายตั้งแต่ปี2014 ไม่เคยจ่ายเพิ่มเข้าไปอีก หมดอายุความฟ้องแล้ว ถ้าฟ้องมาจ้างทนายสู้เลยครับเรื่องอายุความสู้นะครับให้ทนายเขียนคำให้การให้แล้วเราไปศาลเองก็ได้ บัตรกดเงินสดอายุความน่าจะ5ปีนับจากวันผิดนัด แต่ถ้าเขาฟ้องมา3อย่างรวมกันต้องให้ทนายเขียนให้ดีเพราะเท่าที่ดูบัตรกดเงินสดยังไม่หมดอายุความ

อย่าสนใจจ่ายเดินบัญชี ที่เขาไม่ฟ้องเพราะเขารู้ว่าฟ้องไปคุณก็ไปสู้เรื่องอายุความ ถ้าคุณจ่ายเข้าไปอายุเริ่มนับหนึ่ง ถ้าเขาฟ้องมาคุณต้องจ่ายทั้งหมด ถ้าเขาฟ้องมาตอนนี้คุณสู้เรื่องอายุความบัตรเครดิตศาลยกฟ้องคุณไม่ต้องจ่ายสักบาท แล้วไปคัดเอาคำพิพากษาศาลยกฟ้องไปคัดชื่อออกจากเครดิตบูโรได้ แต่ถ้าเขาฟ้องมาแล้วฝ่ายโจทน์รู้ว่าเรามาศาลขอถอนฟ้อง คุณไม่ต้องสนใจเอาเอกสารคำให้การยื่นให้ศาลแล้วบอกศาลให้ตัดสินเลย ถ้าคุณไม่ยื่นคำให้การสู้ครั้งนี้ ถ้าเขาถอนฟ้องไปเดี๋ยวเขาจะมาฟ้องใหม่ได้อีก ถ้าคุณจะได้จ่ายก็แค่บัตรกดเงินสด ยังไงมันก็อายุความ5ปีนั่นแหละ ถ้าเป็นเงินกู้จะ10ปี บริษัทประเภทนี้ถ้าเก็บหนี้ได้จะได้กำไรประมาณ95% ถ้าคิดเป็นก็ลองคิดดูว่าเขาซื้อหนี้มาเท่าไหร่เพราะเขาเรียกว่าหนี้เสีย ทวงอย่างเดียวฟ้องไปก็แพ้ถ้าลูกหนี้ไปศาลยื่นคำให้การ แต่ส่วนมากลูกหนี้ไม่ค่อยไปมันจึงสุ่มฟ้อง ที่ลูกหนี้ไม่ค่อยไปอาจเป็นเพราะไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้วที่บ้านอาจไม่ได้บอก คดีพวกนี้ฟ้องที่จังหวัดตามที่อยู่บัตรประชาชนเราเอกสารถูกส่งไปที่นั่น ถ้าเรารอหมายศาลอยู่ต้องบอกที่บ้านใว้ หมายจะไปที่บ้านหลังจากนั้นเรามีเวลาประมาณ1เดือนถึงวันนัดศาลครั้งแรก

- หนี้บัตรเครดิต...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

- หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 10 ปี

- หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งบัตรกดเงินสด...อายุความ = 5 ปี (สัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ)

- หนี้เงินกู้...อายุความ = 10 ปี (สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว)

- หนี้ที่เกิดจาก สัญญาเช่าซื้อ...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

eakkachai เขียน: - หนี้บัตรเครดิต...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

- หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 10 ปี

- หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งบัตรกดเงินสด...อายุความ = 5 ปี (สัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ)

- หนี้เงินกู้...อายุความ = 10 ปี (สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว)

- หนี้ที่เกิดจาก สัญญาเช่าซื้อ...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

ขอบคุณมากๆเลยคร้าของ เราน่าจะยังไม่หมดอายุความค่ะเพราะยังไม่ครบ10ปี เห้ออออ คงต้องจำเป็นจะต้องไปศาล จริงๆแล้วสินะ ตอนนี้ได้แต่ภาวนาอย่างเดียวค่ะว่าขอให้ ทัน สิ้นปี เพราะไม่อยากเสียเวลาไปศาล

ชำระหนี้ให้ บริษัท เจ ฯ ไปเมื่อ วันที่ 31/7/2561 เพื่อปิดหนี้บัตรธนชาต ในเอกสารบอกรอ เอกสารภายใน 45 วันจะได้รับหนังสือยืนยันการปิด นี่ ผ่านมา 70 กว่าวันแล้ว ไม่ได้รับ หนังสือยืนยันการปิดบัญชี เลย ยังไม่ได้ ไปทำเรื่องแก้ไข บูโร สักที โทรไปตามก็ บอกว่า อีก 7 วันจะ ส่งให้ทางอีเมลล์ก่อน นี่ ผ่านมา 10 วันแล้ว ยังไม่ได้ รับเมลล์ ทำไง กับ บริษัท นี้ได้บ้าง ร้องเรียนที่ไหนดี ให้มันโดนหนักๆ เห็น มีแต่คนมีปัญหากับ บริษัทนี้ เรื่องนี้ มากๆๆ เหลืออีก 2 รายการที่ต้องปิดกับมัน กังวลขึ้นมาเลย บริษัทนี้ ทำงานแย่สุดๆ ทำไง กับมันดีเนี้ย

ชำระหนี้ให้ บริษัท เจ ฯ ไปเมื่อ วันที่ 31/7/2561 เพื่อปิดหนี้บัตรธนชาต ในเอกสารบอกรอ เอกสารภายใน 45 วันจะได้รับหนังสือยืนยันการปิด นี่ ผ่านมา 70 กว่าวันแล้ว ไม่ได้รับ หนังสือยืนยันการปิดบัญชี เลย ยังไม่ได้ ไปทำเรื่องแก้ไข บูโร สักที โทรไปตามก็ บอกว่า อีก 7 วันจะ ส่งให้ทางอีเมลล์ก่อน นี่ ผ่านมา 10 วันแล้ว ยังไม่ได้ รับเมลล์ ทำไง กับ บริษัท นี้ได้บ้าง ร้องเรียนที่ไหนดี ให้มันโดนหนักๆ เห็น มีแต่คนมีปัญหากับ บริษัทนี้ เรื่องนี้ มากๆๆ เหลืออีก 2 รายการที่ต้องปิดกับมัน กังวลขึ้นมาเลย บริษัทนี้ ทำงานแย่สุดๆ ทำไง กับมันดีเนี้ย

จริงๆการจะปิดหนี้งวดเดียวจบคุณต้องได้เอกสารมาก่อนค่อยจ่ายเงิน ถ้าคุณจ่ายเงินแล้วมารอเอกสารปิดทีหลังเขาไม่ทำกัน เพราะต้องมาลำบากต้องกลายมาเป็นคนไปตามทวงเขาหล่ะคราวนี้ ดีไม่ดีเผลอๆไม่ได้อีกด้วยซ้ำ นี่หล่ะที่คุณนกกระจอกเทศชอบบอกบ่อยๆว่า ใครอยากเป็นเหยื่อก็ไม่ต้องรอเอกสารปิดก่อนก็ได้ เรื่องร้องเรียนลืมไปได้เลยไม่มีใครสนใจหรอกครับ

เราได้หนังสือ ยืนยันการได้รับส่วนลดหนี้ มาเรียบร้อย แล้วค่ะก่อนจะชำระเงินเข้าไป แต่เอกสารที่เราไม่ได้รับคือ เอกสารยืนยันว่าเราหมดภาระหนี้กับเค้าแล้ว ซึ่งเรามองว่า ถ้าเรายังไม่ได้ชำระหนั้ให้เสร็จสิ้น ทางเจ้าหนี้ คงไม่มีทางออกให้เรา ไว้ก่อนรึเปล่า (เราอาจจะเรียก เอกสาร นั้นผิด รึจริงๆ เราเข้าใจผิดหรอ เราว่า เราศึกษาดีแล้วนะไม่น่าพลาดเรื่องนี้ )

eakkachai เขียน: ชำระหนี้ให้ บริษัท เจ ฯ ไปเมื่อ วันที่ 31/7/2561 เพื่อปิดหนี้บัตรธนชาต ในเอกสารบอกรอ เอกสารภายใน 45 วันจะได้รับหนังสือยืนยันการปิด นี่ ผ่านมา 70 กว่าวันแล้ว ไม่ได้รับ หนังสือยืนยันการปิดบัญชี เลย ยังไม่ได้ ไปทำเรื่องแก้ไข บูโร สักที โทรไปตามก็ บอกว่า อีก 7 วันจะ ส่งให้ทางอีเมลล์ก่อน นี่ ผ่านมา 10 วันแล้ว ยังไม่ได้ รับเมลล์ ทำไง กับ บริษัท นี้ได้บ้าง ร้องเรียนที่ไหนดี ให้มันโดนหนักๆ เห็น มีแต่คนมีปัญหากับ บริษัทนี้ เรื่องนี้ มากๆๆ เหลืออีก 2 รายการที่ต้องปิดกับมัน กังวลขึ้นมาเลย บริษัทนี้ ทำงานแย่สุดๆ ทำไง กับมันดีเนี้ย

จริงๆการจะปิดหนี้งวดเดียวจบคุณต้องได้เอกสารมาก่อนค่อยจ่ายเงิน ถ้าคุณจ่ายเงินแล้วมารอเอกสารปิดทีหลังเขาไม่ทำกัน เพราะต้องมาลำบากต้องกลายมาเป็นคนไปตามทวงเขาหล่ะคราวนี้ ดีไม่ดีเผลอๆไม่ได้อีกด้วยซ้ำ นี่หล่ะที่คุณนกกระจอกเทศชอบบอกบ่อยๆว่า ใครอยากเป็นเหยื่อก็ไม่ต้องรอเอกสารปิดก่อนก็ได้ เรื่องร้องเรียนลืมไปได้เลยไม่มีใครสนใจหรอกครับ