สอบถามเรื่องไปศาลค่ะ

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103265 โดย panchy
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เดี๋ยวจะมารายงานผลเป็นระยะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103281 โดย Pheonix
ข้อ 2 ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 113/2547 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 พิพากษาโดยท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด ท่านวรนาถ ภูมิถาวร วางหลักกฎหมายในเรื่องเบี้ยปรับไว้ในหน้า 1 วรรค 2 ว่า ส่วนการคิดดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินนั้น ตามสัญญากู้เงิน ข้อ 4 ระบุถึงอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามที่ระบุในสัญญาข้อ 2 ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสำหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ และในกรณีที่มีการผิดนัดแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยซึ่งปฏิบัติผิดเงื่อนไขแล้วในอัตราผิดนัดสูงสุดสำหรับลูกค้าปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ได้ โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่ตกเป็นโมฆะ แต่การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูง อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 ซึ่งหากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามมาตรา 383 และในหน้า 5 วรรค 2 เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินรายนี้แล้ว เห็นว่าฯ อัตราดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดตามที่ระบุในสัญญากู้เงินข้อ 4 ที่กำหนดไว้เป็นอัตราผิดนัดสูงสุดตามประกาศธนาคารโจทก์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราสูงมาก เช่น บางช่วงอัตราร้อยละ 19 ต่อปี และบางช่วงสูงถึงร้อยละ 24 ต่อปี นับว่าเป็นเบี้ยปรับในลักษณะดอกเบี้ยที่สูงเกินส่วนไปมาก เห็นสมควรลดลงเหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี เท่านั้น ฯ (ไพโรจน์ วายุภาพ ปัญญา ถนอมรอด วรนาถ ภูมิถาวร)
หมายเหตุ ท่านปัญญา ถนอมรอด ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549
ท่านไพโรจน์ วายุภาพ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2554 (คำพิพากษาฎีกาปี พ.ศ. 2547 ตอนที่ 4 หน้า 539-550 จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา)
จำเลยกราบขอบารมีท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด และท่านวรนาถ ภูมิถาวร เป็นที่พึ่ง ขอให้การตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 113/2547 ดังกล่าวข้างต้นว่า ตามคำฟ้องข้อ 2. เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 จำเลยได้ขอวงเงินสินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช ต่อมาเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2558 โจทก์ได้อนุมัติในการให้สินเชื่อวงเงิน 260,000 บาท โดยจำเลยยินยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี จำเลยตกลงชำระหนี้ให้โจทก์เป็นงวดรายเดือน ผ่อนชำระทุกวันที่ 15 ของเดือน และตกลงจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 งวด งวดละไม่น้อยกว่า 6,610 บาท เริ่มชำระงวดแรกเดือนพฤษภาคม 2558 และงวดต่อไปชำระภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน จำเลยตกลงกับโจทก์ว่า หากจำเลยผิดนัดชำระหนี้งวดใดงวดหนึ่ง ให้ถือว่าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด ยินยอมให้โจทก์เรียกหนี้คืนได้ทันที พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี นับแต่วันผิดนัดจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ ตามคำฟ้องข้อ 3. นับแต่วันที่จำเลยกู้ยืมเงินไปจากโจทก์ ปรากฎว่าจำเลยไม่ชำระเงินให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา ถือว่าจำเลยผิดสัญญาต่อโจทก์ กล่าวคือ จำเลยไม่ชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตรงตามจำนวนและกำหนดระยะเวลาที่ตกลงไว้ในสัญญา โดยจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 จำนวน 6,610 บาท โจทก์นำไปจัดสรรหักเงินต้นและดอกเบื้ยได้เพียงบางส่วน หลังจากนั้นจำเลยไม่ได้ชำระเงินให้โจทก์อีกเลย ตามรายการคำนวณภาระหนี้ สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 11 จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์รวม 19 งวด ชำระหนี้ครั้งสุดท้ายวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ณ วันดังกล่าว จำเลยค้างชำระต้นเงินจำนวน 200,894.58 บาท ค้างชำระดอกเบี้ย 0.00 บาท หลังจากนั้น จำเลยไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์อีกเลย มีแต่รายการที่โจทก์คิดดอกเบี้ยเรื่อยมา โจทก์ปรับดอกเบี้ยเป็นอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2560 จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2560 จำนวน 264 วัน คิดเป็นดอกเบี้ยจำนวน 40,685.29 บาท และคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดร้อยละ 28 ต่อปี จนถึงวันฟ้อง และจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์ แต่การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ 28 ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 ซึ่งหากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามมาตรา 383 จำเลยขอให้การว่า ต้นเงินจำนวน 200,894.58 บาท คิดดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงินดอกเบี้ยปีละ 56,250.48 บาท คิดไป 5 ปี เป็นเงินดอกเบี้ยผิดนัด 281.252.40 บาท (คิดเป็น 140% ของต้นเงิน 200,894.58 บาท) รวมต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 482,146.98 บาท (240% ของต้นเงิน 200,894.58 บาท) จำเลยจะมีปัญญาชำระหนี้ให้โจทก์ได้อย่างไร และจำเลยยังมีปัญหาหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นอีก และต้องเลี้ยงดูบุตร มารดาและย่าทวดของภรรยา จำเลยจีงกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา เพื่อให้โอกาสจำเลยสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้ ข้อ 3. ตามคำฟ้องข้อ 4. โจทก์อ้างว่า การกระทำของจำเลยเป็นการผิดนัดผิดสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2561 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 2 ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ 1.55 ต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ยหลังสัญญาเลิกแล้ว ในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ 12 เดือน อัตราร้อยละ 1.55 ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ 26.45 ต่อปี (28 ลบ 1.55 เท่ากับ 26.45) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำร้อยละ 1.55 ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ 1,706.45 ของต้นทุนเงินฝากประจำ (26.45 หาร 1.55 คูณ 100 เท่ากับ 1,706.45) เป็นกำไรขั้นต้นที่สูงมาก จึงไม่ใช่ค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 ข้อ 4. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ 31 มกราคม 2561 สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 3 สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น 12.80 ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง 353,379 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 28 ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ย ปีละ 98,946.12 ล้านบาท (เกือบ 100,000 ล้านบาท) ถ้าผ่านไปอีก 5 ปี ดอกเบี้ยสะสม 494,730.60 ล้านบาท (เกือบ 500,000 ล้านบาท) ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ เศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุนต่างชาติเอาเงินของประชาชนผู้บริโภคไปเป็นอันมาก./

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103285 โดย panchy
:cry2: วันนี้หมีหมายศาลมาอีกฉบับของเฟิร์สช้อยส์ แงๆๆ ขอกำลังใจหน่อยค่าาาา ขอให้ได้เงินครบก่อนถึงกำหนดขึ้นศาลด้วยเถอะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103341 โดย mukgu
วันนี้เพื่อนไปศาลมา เค้าถ่ายมาให้ดู ว่าในนั้นระบุว่าตกลงชำระหนี้ทั้งสิ้น 49, xxx แล้วยอด 38, xxx คือยอดต้นเงินยังไงเหรอคะ และให้คิดดอกเบี้ย 7.5% ไม่เข้าใจ เพื่อนบอกว่าศาลสั่งให้ชำระ ตามในนั้นเลย ภายใน12งวด ถ้าชำระยอด 49, xxx แสดงว่า ยอดหนี้เจ้าหนี้ไม่ลดให้เลยค่ะ และศาลก็เอาตามยอดนั้นเลย ซึ่งคิดว่าศาลจะไกล่เกลี่ยให้เจ้าหนี้ลดให้ แล้วที่บอกดอก7.5% คืออะไรเหรอคะ คิดตอนไหน อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจจริงๅค่ะ ตอนนี้ตัวเองก็รอหมายเช่นกันค่ะ :sweat:
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103377 โดย annja15

panchy เขียน: :cry2: วันนี้หมีหมายศาลมาอีกฉบับของเฟิร์สช้อยส์ แงๆๆ ขอกำลังใจหน่อยค่าาาา ขอให้ได้เงินครบก่อนถึงกำหนดขึ้นศาลด้วยเถอะ


หยุดกี่เดือนคะได้หมายศาลแล้วว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #103423 โดย phatsita5454
ของเราก็ CIMB ค่ะ หมายศาลเพิ่งมาถึงวันนี้ 23.06.61 นัดไกล่เกลี่ยที่ศาลวันที่ 24.08.61 แต่ยอดขอเรา เงินต้น 193,000 แต่โดนดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนีม 28% กลายเป็น 245,000 แล้วมีค่าทวงถาอีก 300 ยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าเราจะได้รับส่วนลดมั้ย หรือคนที่เราเจรจาด้วยจะช่วยลดให้เราได้แค่ไหน หากคุณไปขึ้นศาลมาแล้ว มาอัพเดทให้หน่อยนะคะ จะรอติดตามคร้า.....ขอบคุณมากๆ นะคะ สำหรับข้อมูลที่มาแชร์ รู้สึกมีเพื่อนและอุ่นใจค่ะ ^^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103493 โดย panchy

mukgu เขียน: วันนี้เพื่อนไปศาลมา เค้าถ่ายมาให้ดู ว่าในนั้นระบุว่าตกลงชำระหนี้ทั้งสิ้น 49, xxx แล้วยอด 38, xxx คือยอดต้นเงินยังไงเหรอคะ และให้คิดดอกเบี้ย 7.5% ไม่เข้าใจ เพื่อนบอกว่าศาลสั่งให้ชำระ ตามในนั้นเลย ภายใน12งวด ถ้าชำระยอด 49, xxx แสดงว่า ยอดหนี้เจ้าหนี้ไม่ลดให้เลยค่ะ และศาลก็เอาตามยอดนั้นเลย ซึ่งคิดว่าศาลจะไกล่เกลี่ยให้เจ้าหนี้ลดให้ แล้วที่บอกดอก7.5% คืออะไรเหรอคะ คิดตอนไหน อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจจริงๅค่ะ ตอนนี้ตัวเองก็รอหมายเช่นกันค่ะ :sweat:



คือเงินต้นเรา 38,xxx แต่ยอดฟ้อง รวมดอก7.5% 49,xxxค่ะ ศาลท่านไม่ไกล่เกลี่ยให้ลดยอดนะคะ ลองกลับไปอ่านกระทู้แนะนำอีกทีค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103494 โดย panchy

annja15 เขียน:

panchy เขียน: :cry2: วันนี้หมีหมายศาลมาอีกฉบับของเฟิร์สช้อยส์ แงๆๆ ขอกำลังใจหน่อยค่าาาา ขอให้ได้เงินครบก่อนถึงกำหนดขึ้นศาลด้วยเถอะ


หยุดกี่เดือนคะได้หมายศาลแล้วว




1.6 ปีค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103496 โดย panchy

panchy เขียน:

ReFreshZzz เขียน:

panchy เขียน: ขอบคุณค่ะ อ่านอีกรอบนึงแล้วค่ะ
1.หากดิฉันยินดีที่จะปิดยอดตามที่จนท.แจ้ง (75,000฿) ดิฉันไม่ต้องไปศาล และปล่อยให้ศาลตัดสินเลย จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ค่ะ ดิฉันสามารถมาขอชำระกับทางแบงค์ในยอดนี้ได้ใช่ไหมคะ
2.หากดิฉันไปศาลและขอความเห็นใจกับท่าน ในส่วนของการขอลดดอกเบี้ยตามลิ้งค์แรกข้อ3 มีโอกาสจะได้ส่วนลดมากกว่ายอด 75,000฿ไหมคะ

พยายามอ่านเยอะๆและสร้างกำลังใจให้ตัวเองผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้อยู่ค่ะ
ขอบคุณที่ช่วยแนะนำนะคะ


ตอบ
1. ในกรณีที่มีหมายศาลออกมาแล้ว คุณจำเป็นจะต้องไปศาลครับ หรือ ถ้าคุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ได้ก่อน วันขึ้นศาล คุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ ให้ถอนฟ้องก่อนได้ครับ

2. คุณสามารถร้องขอความเมตตาจากศาลได้ครับ ในเรื่องดอกเบี้ย (แล้วศาลท่านจะพิจารณาตามเห็นสมควรต่อไปครับ)


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ช่วยได้เยอะเลย รบกวนมีคำถามเพิ่มค่ะ
1.ประมาณสิ้นเดือนเราจะมีเงินไปปิด เบื้องต้นเจรจาไว้ 75,000฿ เราจะมีโอกาสเจรจา h/c ยอดต่ำกว่านี้ได้ไหมคะ ต้น 69,xxx฿ค่ะ

รอให้ได้เงินมาอยู่ในมือก่อนว่าจะโทรไปเจรจาอีกทีค่ะ



ได้เงินมาแล้วค่ะ แต่สนง.กฏหมายยืนยันที่ 75,000บาทเท่านั้น ภายใน 29/6/61 ไม่เช่นนั้นเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อยากได้ส่วนลดอีกสักนิดค่ะ (ศาลเลื่อนสืบเป็น 9/8/2561) อยาก h/c ใจจะขาด แต่อยากได้ส่วนลดเผื่อเหลือเงินไปปิดเจ้าอื่น เราพอจะยื้อเวลาได้อีกไหมคะ และเค้ามีแนวโน้มจะยอมให้เราจ่ายถูกกว่านี้ไหมคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103497 โดย panchy

phatsita5454 เขียน: ของเราก็ CIMB ค่ะ หมายศาลเพิ่งมาถึงวันนี้ 23.06.61 นัดไกล่เกลี่ยที่ศาลวันที่ 24.08.61 แต่ยอดขอเรา เงินต้น 193,000 แต่โดนดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนีม 28% กลายเป็น 245,000 แล้วมีค่าทวงถาอีก 300 ยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าเราจะได้รับส่วนลดมั้ย หรือคนที่เราเจรจาด้วยจะช่วยลดให้เราได้แค่ไหน หากคุณไปขึ้นศาลมาแล้ว มาอัพเดทให้หน่อยนะคะ จะรอติดตามคร้า.....ขอบคุณมากๆ นะคะ สำหรับข้อมูลที่มาแชร์ รู้สึกมีเพื่อนและอุ่นใจค่ะ ^^



ยอดฟ้อง 80,xxxค่ะ ยอดต้น 69,xxx ยอดปิดที่สนง. กฏหมายให้จ่าย 75,000บาท
กำลังเจรจาขอลดอีกค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103498 โดย ReFreshZzz

panchy เขียน:

panchy เขียน:

ReFreshZzz เขียน:

panchy เขียน: ขอบคุณค่ะ อ่านอีกรอบนึงแล้วค่ะ
1.หากดิฉันยินดีที่จะปิดยอดตามที่จนท.แจ้ง (75,000฿) ดิฉันไม่ต้องไปศาล และปล่อยให้ศาลตัดสินเลย จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ค่ะ ดิฉันสามารถมาขอชำระกับทางแบงค์ในยอดนี้ได้ใช่ไหมคะ
2.หากดิฉันไปศาลและขอความเห็นใจกับท่าน ในส่วนของการขอลดดอกเบี้ยตามลิ้งค์แรกข้อ3 มีโอกาสจะได้ส่วนลดมากกว่ายอด 75,000฿ไหมคะ

พยายามอ่านเยอะๆและสร้างกำลังใจให้ตัวเองผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้อยู่ค่ะ
ขอบคุณที่ช่วยแนะนำนะคะ


ตอบ
1. ในกรณีที่มีหมายศาลออกมาแล้ว คุณจำเป็นจะต้องไปศาลครับ หรือ ถ้าคุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ได้ก่อน วันขึ้นศาล คุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ ให้ถอนฟ้องก่อนได้ครับ

2. คุณสามารถร้องขอความเมตตาจากศาลได้ครับ ในเรื่องดอกเบี้ย (แล้วศาลท่านจะพิจารณาตามเห็นสมควรต่อไปครับ)


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ช่วยได้เยอะเลย รบกวนมีคำถามเพิ่มค่ะ
1.ประมาณสิ้นเดือนเราจะมีเงินไปปิด เบื้องต้นเจรจาไว้ 75,000฿ เราจะมีโอกาสเจรจา h/c ยอดต่ำกว่านี้ได้ไหมคะ ต้น 69,xxx฿ค่ะ

รอให้ได้เงินมาอยู่ในมือก่อนว่าจะโทรไปเจรจาอีกทีค่ะ



ได้เงินมาแล้วค่ะ แต่สนง.กฏหมายยืนยันที่ 75,000บาทเท่านั้น ภายใน 29/6/61 ไม่เช่นนั้นเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อยากได้ส่วนลดอีกสักนิดค่ะ (ศาลเลื่อนสืบเป็น 9/8/2561) อยาก h/c ใจจะขาด แต่อยากได้ส่วนลดเผื่อเหลือเงินไปปิดเจ้าอื่น เราพอจะยื้อเวลาได้อีกไหมคะ และเค้ามีแนวโน้มจะยอมให้เราจ่ายถูกกว่านี้ไหมคะ


- คุณมีเงินในมือเท่าไรครับ?

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103645 โดย panchy

ReFreshZzz เขียน:

panchy เขียน:

panchy เขียน:

ReFreshZzz เขียน:

panchy เขียน: ขอบคุณค่ะ อ่านอีกรอบนึงแล้วค่ะ
1.หากดิฉันยินดีที่จะปิดยอดตามที่จนท.แจ้ง (75,000฿) ดิฉันไม่ต้องไปศาล และปล่อยให้ศาลตัดสินเลย จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ค่ะ ดิฉันสามารถมาขอชำระกับทางแบงค์ในยอดนี้ได้ใช่ไหมคะ
2.หากดิฉันไปศาลและขอความเห็นใจกับท่าน ในส่วนของการขอลดดอกเบี้ยตามลิ้งค์แรกข้อ3 มีโอกาสจะได้ส่วนลดมากกว่ายอด 75,000฿ไหมคะ

พยายามอ่านเยอะๆและสร้างกำลังใจให้ตัวเองผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้อยู่ค่ะ
ขอบคุณที่ช่วยแนะนำนะคะ


ตอบ
1. ในกรณีที่มีหมายศาลออกมาแล้ว คุณจำเป็นจะต้องไปศาลครับ หรือ ถ้าคุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ได้ก่อน วันขึ้นศาล คุณสามารถตกลงกับทางโจทก์ ให้ถอนฟ้องก่อนได้ครับ

2. คุณสามารถร้องขอความเมตตาจากศาลได้ครับ ในเรื่องดอกเบี้ย (แล้วศาลท่านจะพิจารณาตามเห็นสมควรต่อไปครับ)


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ช่วยได้เยอะเลย รบกวนมีคำถามเพิ่มค่ะ
1.ประมาณสิ้นเดือนเราจะมีเงินไปปิด เบื้องต้นเจรจาไว้ 75,000฿ เราจะมีโอกาสเจรจา h/c ยอดต่ำกว่านี้ได้ไหมคะ ต้น 69,xxx฿ค่ะ

รอให้ได้เงินมาอยู่ในมือก่อนว่าจะโทรไปเจรจาอีกทีค่ะ



ได้เงินมาแล้วค่ะ แต่สนง.กฏหมายยืนยันที่ 75,000บาทเท่านั้น ภายใน 29/6/61 ไม่เช่นนั้นเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อยากได้ส่วนลดอีกสักนิดค่ะ (ศาลเลื่อนสืบเป็น 9/8/2561) อยาก h/c ใจจะขาด แต่อยากได้ส่วนลดเผื่อเหลือเงินไปปิดเจ้าอื่น เราพอจะยื้อเวลาได้อีกไหมคะ และเค้ามีแนวโน้มจะยอมให้เราจ่ายถูกกว่านี้ไหมคะ


- คุณมีเงินในมือเท่าไรครับ?



75,000 พอดีค่ะ แต่อยากเหลือไว้ปิด ktc 25,000 วันนี้เค้าโทรมาขู่ว่าถ้าไม่ชำระเงินให้เค้าวันนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว เครียดจังค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103648 โดย jackTs

panchy เขียน: อยากเหลือไว้ปิด ktc 25,000 วันนี้เค้าโทรมาขู่ว่าถ้าไม่ชำระเงินให้เค้าวันนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว


.
ในปัจจุบันนี้ KTC ไม่มีนโยบายลดหนี้เงินต้นให้แล้ว ลดได้แต่ดอกเบี้ยอย่างเดียว (ไม่เหมือนกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ) ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต , หนี้บัตรกดเงินสด หรือหนี้สินเชื่อเงินกู้ก็ตาม

พูดง่ายๆก็คือ มันยอมเอาดอกเบี้ยออกไปให้ ขอเพียงเอาเงินต้นก่อนที่จะหยุดจ่ายกลับคืนมา
โดยการให้จ่ายเงินคืนแบบเต็มก้อนเดียว หรืออาจขอผ่อนต่อก็ได้ แต่ต้องเป็นการผ่อนระยะสั้นๆเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=41965&Itemid=64#58947

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41957&Itemid=64#58905

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41826&Itemid=64#57927

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=25879&limitstart=60&Itemid=64#56887

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41607&Itemid=64#55611

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41077&limitstart=40&Itemid=64#55324

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41554&Itemid=64#54911

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41540&Itemid=64#54826

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41410&Itemid=64#53330

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=41330&Itemid=64#52508


หากลูกหนี้ไม่มีเงินก้อนจ่ายคืน แต่ต้องการจะผ่อนต่อแบบยาวๆอีกซัก 3ปี ก็ต้องไปทำ"ยอมความ"ที่ชั้นศาล โดยเอาตัวเลขตามยอดที่ฟ้อง มาผ่อนจ่ายใหม่ โดยอาจมีส่วนลดให้บ้างเพียงเล็กน้อย
และเจ้าหนี้(KTC)จะขอคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ผ่อน(3ปี) ในอัตราร้อยละ 10ต่อปี(10% ต่อปี)ด้วย

ไปขึ้นศาลที่โดน KTC ฟ้องมา มีไฟล์เสียงมาให้เพื่อนๆฟังครับ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=40967&Itemid=64&limitstart=0#49259


อยากหยุดหนี้เพื่อเริ่มต้นใหม่
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=42103&limitstart=80&Itemid=64#80933


เป็นหนี้บัตรเครดิตกรุงไทย ได้ประนีประนอมที่ศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44003&Itemid=64#80210


สอบถามครับ ผมได้หมายนัดขึ่นศาล ที่รัตนบุรี สุรินทร์ วันที่ 2 นี้แล้ว
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42084&limitstart=20&Itemid=64#63603


หยุดจ่ายหนี้สองล้านกว่าขอกำลัง​ใจด้วยค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40430&limitstart=120&Itemid=64#54345

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #103649 โดย jackTs
.
วิธีพิจารณาการชำระหนี้แบบ Haircut
ควรเอาเงินไปจ่าย Haircut กับเจ้าหนี้รายที่มันให้ส่วนลดหนี้กับเรา แบบเยอะๆเอาไว้ก่อน...ส่วนรายไหนที่มันเขี้ยวมากๆ(ให้ส่วนลดน้อย) ก็ปล่อยให้มันรอต่อไป หรือไม่ก็ปล่อยให้มันฟ้องศาลไปเลย แล้วค่อยไปทำเรื่องขอผ่อนต่อกันใหม่ที่ชั้นศาลอีกครั้ง

และถ้าหากเมื่อใดที่เราเก็บตังค์จนมีเงินก้อนได้อีกครั้ง ก็ค่อยมาเจรจาทำ Haircut กันใหม่ ถึงแม้ลูกหนี้อย่างเราจะเคยถูกฟ้องศาลไปแล้วก็ตาม


อย่าลืมนะครับว่า

Haircut สามารถทำได้ตลอดชีพ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.714 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena