ศรีจะไม่ทน กับการจ่ายขั้นต่ำ

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100107 โดย noo.sun

kluaylso เขียน: Ubdate 1/2/61

:wake: Tmb—-โทรน้อยคะ มะวานคุยกันครั้งสุดท้ายเค้าบอกให้จ่ายเข้ามา 4000฿ ไม่งั้นเรื่องจะไปที่ฝ่าย กฏหมายคะ เลยไม่ได้จ่ายไปคะ
:เฮ้อ: Umay+ ——-อันนี้โมโหมากคะ เนื่องจากงานน้องต้องออกพื้นที่คะ รับบ้างไม่รับบ้าง วันนี้นางโทรมารัวๆ ไม่ได้รับ เพราะอยู่ข้างนอกไม่ได้ยิน นางขอโทรเข้าออฟฟิต ขอคุยกับหัวหน้างานเราเลยค่ะ อันนี้เรางงมากเค้ามีสิทธิ์คุยกับหัวหน้างานเราด้วยหรอคะ ไม่ใช่รายชื่อของคนที่เราให้ติดต่อได้นะ

:wake: Uob -โทรมาน้อยมากคะ คุยสุภาพดีคะ

:wake: Citibank - โทรน้อย ยังสุภาพอยู่คะ

:wake: KTc —- โทรน้อยมากคะ


****ถามจริงๆนะคะ เค้ามีสิทธิ์คุยกับหัวหน้างานเราจริงหรอคะ

เจอเหมือนกันค่ะ #ยูเมะ
แต่พอดีทำหน้าที่รับโทรศัพท์ส่วนกลางค่ะ
บางครั้งเราก็อ้างว่าหัวหน้าประชุม/ไม่ว่าง
เพราะถ้าคุยกับหัวหน้ายังไงเกิดผลเสียแน่นอน
มือถือไม่ได้ใช้เวลาทำงาน ยูเมะโทรเข้า ที่ทำงานรัวๆค่ะ
เฉลี่ยวันละ3ครั้ง ตอนนี้เพิ่งเข้าเดือนที่2ค่ะ
วันนี้โทรเข้ามาเป็นการโชว์เบอร์ เรารับสายแล้วทางนั้นวาง
สายล่าสุดมีเอฟเฟคเสียงปรบมือให้ด้วยตอนเรารับสาย แล้วเค้าก์วางไป
เพื่ออะไรไม่รู้ ใครรู้ตอบทีค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100464 โดย kluaylso

noo.sun เขียน:

kluaylso เขียน: Ubdate 1/2/61

:wake: Tmb—-โทรน้อยคะ มะวานคุยกันครั้งสุดท้ายเค้าบอกให้จ่ายเข้ามา 4000฿ ไม่งั้นเรื่องจะไปที่ฝ่าย กฏหมายคะ เลยไม่ได้จ่ายไปคะ
:เฮ้อ: Umay+ ——-อันนี้โมโหมากคะ เนื่องจากงานน้องต้องออกพื้นที่คะ รับบ้างไม่รับบ้าง วันนี้นางโทรมารัวๆ ไม่ได้รับ เพราะอยู่ข้างนอกไม่ได้ยิน นางขอโทรเข้าออฟฟิต ขอคุยกับหัวหน้างานเราเลยค่ะ อันนี้เรางงมากเค้ามีสิทธิ์คุยกับหัวหน้างานเราด้วยหรอคะ ไม่ใช่รายชื่อของคนที่เราให้ติดต่อได้นะ

:wake: Uob -โทรมาน้อยมากคะ คุยสุภาพดีคะ

:wake: Citibank - โทรน้อย ยังสุภาพอยู่คะ

:wake: KTc —- โทรน้อยมากคะ


****ถามจริงๆนะคะ เค้ามีสิทธิ์คุยกับหัวหน้างานเราจริงหรอคะ

เจอเหมือนกันค่ะ #ยูเมะ
แต่พอดีทำหน้าที่รับโทรศัพท์ส่วนกลางค่ะ
บางครั้งเราก็อ้างว่าหัวหน้าประชุม/ไม่ว่าง
เพราะถ้าคุยกับหัวหน้ายังไงเกิดผลเสียแน่นอน
มือถือไม่ได้ใช้เวลาทำงาน ยูเมะโทรเข้า ที่ทำงานรัวๆค่ะ
เฉลี่ยวันละ3ครั้ง ตอนนี้เพิ่งเข้าเดือนที่2ค่ะ
วันนี้โทรเข้ามาเป็นการโชว์เบอร์ เรารับสายแล้วทางนั้นวาง
สายล่าสุดมีเอฟเฟคเสียงปรบมือให้ด้วยตอนเรารับสาย แล้วเค้าก์วางไป
เพื่ออะไรไม่รู้ ใครรู้ตอบทีค่ะ

สู้ๆคะ สู้ไปด้วยกันเพื่อวันหมดหนี้คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100465 โดย kluaylso
Update 15/2/61

KTC—-เงียบคะ มี sms/พนง ทวงสุภาพค่ะ
TMB—-น่าจะส่งไปที่บริษัทข้างนอกคะ หรือไม่งั้นคงเปลี่ยน คนทวง สืบเนื่องจาก ทวง1:บอกให้ ปปน.:2000฿/7ปี แต่ต้องจ่ายเข้ามา 4,000฿ ภายใน 1/2/61 แต่เราไม่ได้จ่ายคะ ทำให้ 3 วันที่แล้ว ]ทวง2: ให้จ่ายเข้าไป4000฿ เช่นเดิมถึงจะเสนอ ปปน แต่รอบนี้ 3-5 ปีคะเราก้อยังมะจ่าย
citibank——ทางมา1รอบบิลคะ /สุภาพ/ไม่เสนออารายยยยเลยยนยย
uob——ทวงพร้อมกัน2สินเชื่อคะ ให้ชำระก่อน 1 งวด ทวงเช้า ตกบ่าย ได้รับ จม.จากบริษัท กฎหมายมาทวง คือแบบ คุณคะ 3 เดือนเองข่ะ!!!!เร็วเว่อวัง
Umay+ ——— โทรทวงยิ่งกว่าบ่อยยิ่งกว่าคนในครอบครัว เนื่องจากได้บอกให้สามีทราบเรื่องการโทรทวง ว่าบอกเค้าไปเลยว่าแยกกันอยุ่ (ความจริงก้อเหมือนแยกกันอยุ่เพราะทำงานคนละที่555)เพราะเราจะรับผิดชอบเอง นางก็เลยแจ้ง umay ไป แต่เค้าก้อยังโทรมาให้ไปชำระหนี้แทน โทรบ่อยมากสามีทนไม่ไหวถึงจั้นด่าเลยทีเดียว#1 ต่อมา เรื่องหัวหน้างาน เนื่อจากเบอร์กลางอยุ่ที่โต๊ะพี่ พนง ท่านหนึ่ง เราเคยระบายปัญหาให้แกฟังคะ วันนึง umay+ โทรมา ขอสายหัวหน้า พี่เค้าเลยสวมรอยเป็นหัวหน้าให้เรา เค้าบอกว่าเราเปนหนี้เค้าไม่จ่ายติดต่อไม่ได้เป็นเวลานาน Umay+ เค้าคงกินสตอเบอรี่มาเยอะ คือคือเพิ่งคุยกันตอนเช้าเอง เที่ยงบอกติดต่อไม่ได้เป็นเวลานาน ฮึๆๆๆๆ2# วันถัดมา เราออกพื้นที่อีก คราวนี่โทรไปหาน้อง พนง ส่งเอกสาร เนื่องจากว่ามีที่อยุ่ที่ทำงานเดียวกัน(อันนี้คิดเองนะคะ)โทรมาหาน้องเค้าขอสายเรา ชึ่งก็บอกน้องเค้าเช่นเดิมคะ ขาดการติดต่อเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้พุดเรื่องหนี้ เออ แต่คุณคะไม่บอกใครเค้าก้อรุ้ไหมคะ และคำว่านานของคุณนิคือกี่นาทีคะ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรคะ พนง ส่งเอกสาร ก้อไม่เว้น เพลียกะนาง หัวหน้างานแล้วยังมา พนง ส่งเอกสาร สองคนนี้เกี่ยวไรด้วยคะ

สรุปตอนนี้เพลียร่างมากข่ะ ปล บืมบอกคะ umay+ช่วงที่ตั้งใจหยุดเดือนแรกลืมบอกสามี นางโทรหาสามี เราด้วย สามีตกใจเลยไปจ่ายให้ กลายเปนว่าตอนนี้เพิ่งเข้าเดือนที่ 2เองคร้าาาา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100466 โดย number
Kluaylso เหมือนดิฉันเลยค่ะ umay+ ไม่ได้รับสายแค่สายเดียว
ประมาณว่า วิ่งมารับปุ๊บ วางปั๊บ จากนั้นโทหาบุคคลอ้างอิงทันทีเลยค่ะ
บอกแล้วจะค่ะ ว่าแยกกันอยุ ก็ไม่ฟัง สุดยอดจิง :เฮ้อ: ดิฉันหยุดเข้ารอบบิลที่2แล้วค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100467 โดย FrozenHeart

kluaylso เขียน: Update บ่าย14:30

Umay +
-เสียงผู้ชายโทรมา ขู่ว่าถ้าไม่จ่ายจะมีผลเวลาโทรตามที่ทำงาน
มีความหมายเป็นนัยว่าชั้ลจะโทรไปกวนเทอทร่ทำงาน ข่ะ
อดทนสุดชีวิตเพื่อจะแฮร์คัด


เค้าโทรจจริงคะไม่ได้ขู่ ไม่ได้รับมีฝากข้อความให้โทรกลับด่วนด้วยคะ จากอีซี่บาย เลยโทรด่วนกลับไปตามชื่อที่ให้ไว้คะ พร้อมกับให้บทเรียนชุดใหญ่ (ด่าไฟแลบแบบไม่หายใจไม่เว้นวรรค) ยังมาบอกอีกนะว่าก็เราไม่รับมือถือ เลยบอกว่ารับตลอดแต่พวกคุณโทรกันคนละครั้งคนละรอบ รับทั้งวันต้องให้โดนไล่ออกก่อนหรือไง ให้โทรมาเวลานี้นี้เท่านั้น ถ้าโทรมาไม่ตามกำหนด แม่ด่าเปิงจิงนะ ช่วงแรกมีคนลองของคะ โทรมานอกเวลากำหนดก็บอกดีดีว่าไม่สะดวกรับโทรมาเวลากำหนดเท่านั้นแล้วตัดสายเลย ถ้ายังมีลองของมาอีกก็จัดชุดใหญ่ให้ เค้าก็ทำตามหน้าที่เค้าคะ เค้ากำหนดจำนวนเวลาโทรไม่ได้ก็จัดให้เค้าคะ ยอมรับว่าตอนต่อว่ากลับไปเนี่ย เหมือนได้ปลดปล่อยยังไงไม่รู้ :laughing:
เป็นกำลังในนะคะ ไม่แปลกถ้าจะกลัว แต่อย่าถอยนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100468 โดย Oreo_
เมื่อวาน (15/2:18) เป็นวันปล่อยของของeasy buyปะคะ โทรเข้าออฟฟิส เพราะเรารับไม่ทัน(1ครั้ง) น้องคนที่นั่งตรงข้ามรับให้ หน้าตกใจมาก เราเลยรับมาสวัสดีค่ะ แล้ววางสาย เลยโทรกลับเข้าเบอร์ที่โทรมา โทร2รอบ ให้รอรับสาย2รอบ อีกครึ่งชม.พ่อโทรมาอีก บอกeasy buyโทรมาอีกแล้วนะ เราปรี๊ดแตกที่สุด โกรธจนตัวสั่น โทรกลับไปคุยประมาณ15นาที อะไรนักหนา บอกไปแล้วว่าห้ามโทรหาบุคคลที่สามอีก ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง เราให้นางโทรไปขอโทษพ่อเราเลย เค้าไม่ควรมาเกี่ยวมั้ยอะ ลูกค้าคุณก็ไม่ได้เป็น เราโกรธมากที่สุดดดดด นี่รอบบิลแรกนะเนี่ย จะต้องเจออะไรอีก :pray: :pray: :pray:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100481 โดย kluaylso

number เขียน: Kluaylso เหมือนดิฉันเลยค่ะ umay+ ไม่ได้รับสายแค่สายเดียว
ประมาณว่า วิ่งมารับปุ๊บ วางปั๊บ จากนั้นโทหาบุคคลอ้างอิงทันทีเลยค่ะ
บอกแล้วจะค่ะ ว่าแยกกันอยุ ก็ไม่ฟัง สุดยอดจิง :เฮ้อ: ดิฉันหยุดเข้ารอบบิลที่2แล้วค่ะ


รอบบิลที่ 2เหมือนกันเลยคะ สู้คะ อดทนเพื่อปลดหนี้คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100483 โดย kluaylso

FrozenHeart เขียน:

kluaylso เขียน: Update บ่าย14:30

Umay +
-เสียงผู้ชายโทรมา ขู่ว่าถ้าไม่จ่ายจะมีผลเวลาโทรตามที่ทำงาน
มีความหมายเป็นนัยว่าชั้ลจะโทรไปกวนเทอทร่ทำงาน ข่ะ
อดทนสุดชีวิตเพื่อจะแฮร์คัด


เค้าโทรจจริงคะไม่ได้ขู่ ไม่ได้รับมีฝากข้อความให้โทรกลับด่วนด้วยคะ จากอีซี่บาย เลยโทรด่วนกลับไปตามชื่อที่ให้ไว้คะ พร้อมกับให้บทเรียนชุดใหญ่ (ด่าไฟแลบแบบไม่หายใจไม่เว้นวรรค) ยังมาบอกอีกนะว่าก็เราไม่รับมือถือ เลยบอกว่ารับตลอดแต่พวกคุณโทรกันคนละครั้งคนละรอบ รับทั้งวันต้องให้โดนไล่ออกก่อนหรือไง ให้โทรมาเวลานี้นี้เท่านั้น ถ้าโทรมาไม่ตามกำหนด แม่ด่าเปิงจิงนะ ช่วงแรกมีคนลองของคะ โทรมานอกเวลากำหนดก็บอกดีดีว่าไม่สะดวกรับโทรมาเวลากำหนดเท่านั้นแล้วตัดสายเลย ถ้ายังมีลองของมาอีกก็จัดชุดใหญ่ให้ เค้าก็ทำตามหน้าที่เค้าคะ เค้ากำหนดจำนวนเวลาโทรไม่ได้ก็จัดให้เค้าคะ ยอมรับว่าตอนต่อว่ากลับไปเนี่ย เหมือนได้ปลดปล่อยยังไงไม่รู้ :laughing:
เป็นกำลังในนะคะ ไม่แปลกถ้าจะกลัว แต่อย่าถอยนะคะ



นับถือคะ เรายังไม่กล้าด่าคะ ได้แต่โกรธ แต่แค่อยากรุ้ว่าบุคคลที่ไม่ได้ระบุในเอกสาร ที่เค้าติดต่อ เราสามารถร้องเรียน พนง umay+ได้ไหมคะ
ตอนนี้ออกพื้นที่ตลอดเลยคะไม่รับสายนางคะ มา 5 วันละคะ เพื่อนที่ทำงานให้ความร่วมมือดีมากคะ เพราะแค่งานเราก้อเครียดพอแล้วสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าจะรบกับนางใหม่คะ
ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์นะคะ จะตั้งรับแบบสุ้ไม่ถอยคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100484 โดย kluaylso

Oreo_ เขียน: เมื่อวาน (15/2:18) เป็นวันปล่อยของของeasy buyปะคะ โทรเข้าออฟฟิส เพราะเรารับไม่ทัน(1ครั้ง) น้องคนที่นั่งตรงข้ามรับให้ หน้าตกใจมาก เราเลยรับมาสวัสดีค่ะ แล้ววางสาย เลยโทรกลับเข้าเบอร์ที่โทรมา โทร2รอบ ให้รอรับสาย2รอบ อีกครึ่งชม.พ่อโทรมาอีก บอกeasy buyโทรมาอีกแล้วนะ เราปรี๊ดแตกที่สุด โกรธจนตัวสั่น โทรกลับไปคุยประมาณ15นาที อะไรนักหนา บอกไปแล้วว่าห้ามโทรหาบุคคลที่สามอีก ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง เราให้นางโทรไปขอโทษพ่อเราเลย เค้าไม่ควรมาเกี่ยวมั้ยอะ ลูกค้าคุณก็ไม่ได้เป็น เราโกรธมากที่สุดดดดด นี่รอบบิลแรกนะเนี่ย จะต้องเจออะไรอีก :pray: :pray: :pray:


สู้ไปด้วยกันคะ หนทางเรายังอีกยาวไกลคะ เดินทางไปตามรุ่นพี่คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #100489 โดย Pheonix
ตัวอย่างการต่อสู้่คดี สัญญาเลิกต่อกันแล้ว
ข้อ ๒. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๒ หนี้ ลักษณะ ๒ สัญญา หมวด ๑ ก่อให้เกิดสัญญา หมวด ๒ ผลแห่งสัญญา มีพื้นฐานมาจากเสรีภาพของบุคคล ตามหลักของความศักดิ์สิทธิ์ของการแสดงเจตนา ซึ่งรัฐจะไม่เข้าแทรกแซงแม้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เว้นแต่จะเป็นการต้องห้ามโดยกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้มีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเหนือกว่าถือโอกาสอาศัยหลักดังกล่าว เอาเปรียบคู่สัญญาซึ่งอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจด้อยกว่า ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม ดังนั้น เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้ เพื่อความสงบสุขในสังคม จึงได้มีบทบัญญัติในหมวด ๔ เลิกสัญญา เป็นบทบัญญัติที่กำหนดเพื่อความสงบสุขของสังคม และเพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้ได้ ดังนี้ มาตรา ๓๘๖ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญา หรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นว่านั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนี่ง การแสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่ มาตรา ๓๘๗ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่ทั้งนี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกหาได้ไม่ วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้นหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ มาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น มาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ตามคำฟ้องข้อ ๓. จำเลยตกลงชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ ๒,๗๔๐ บาท (เงินต้นและดอกเบี้ย) เริ่มผ่อนชำระงวดแรก และในเดือนต่อไป ชำระตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือนของทุกเดือนถัดไป แต่ทั้งนี้ต้องให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือน นับตั้งแต่การชำระงวดแรกเป็นต้นไป หลังจากจำเลยได้รับเงินกู้ไปเรียบร้อยแล้วตามฟ้องข้อ ๒. จำเลยได้ผ่อนชำระแก่โจทก์เพียงบางส่วน และผิดนัดผิดสัญญาไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ปรากฏยอดหนี้ ณ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ จำเลยค้างชำระเป็นต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๘,๓๖๗.๔๑ บาท เบี้ยปรับจำนวน ๐.๐๐ บาท รวมเป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท หลังจากนั้นไม่เคยชำระอีกเลย การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โจทก์และจำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญากันอีกต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเลิกต่อกันแล้วโดยปริยาย โจทก์และจำเลยจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญาหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายได้ ตามมาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละ ๗.๕๐ ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้องวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๒ แต่เป็นกำไรที่สูงเกินส่วนไปเป็นมาก ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ยหลังเลิกสัญญาแล้ว ในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) เป็นกำไรขั้นต้นที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก จึงไม่ใช่ค่าเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๒
ข้อ ๓. ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ พิพากษาโดยท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด ท่านวรนาถ ภูมิถาวร วางหลักกฎหมายในเรื่องเบี้ยปรับไว้ในหน้า ๑ วรรค ๒ ว่า ส่วนการคิดดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินนั้น ตามสัญญากู้เงิน ข้อ ๔ ระบุถึงอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามที่ระบุในสัญญาข้อ ๒ ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสำหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ และในกรณีที่มีการผิดนัดแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยซึ่งปฏิบัติผิดเงื่อนไขแล้วในอัตราผิดนัดสูงสุดสำหรับลูกค้าปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ได้ โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่ตกเป็นโมฆะ แต่การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูง อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ซึ่งหากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามมาตรา ๓๘๓ และในหน้า ๕ วรรค ๒ เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินรายนี้แล้ว เห็นว่าฯ อัตราดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดตามที่ระบุในสัญญากู้เงินข้อ ๔ ที่กำหนดไว้เป็นอัตราผิดนัดสูงสุดตามประกาศธนาคารโจทก์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราสูงมาก เช่น บางช่วงอัตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี และบางช่วงสูงถึงร้อยละ ๒๔ ต่อปี นับว่าเป็นเบี้ยปรับในลักษณะดอกเบี้ยที่สูงเกินส่วนไปมาก เห็นสมควรลดลงเหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เท่านั้น ฯ (ไพโรจน์ วายุภาพ ปัญญา ถนอมรอด วรนาถ ภูมิถาวร) หมายเหตุ ท่านปัญญา ถนอมรอด ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙
ท่านไพโรจน์ วายุภาพ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (คำพิพากษาฎีกาปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ตอนที่ ๔ หน้า ๕๓๙-๕๕๐ จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา)
จำเลยกราบขอบารมีท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด และท่านวรนาถ ภูมิถาวร ขอให้การตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ ดังกล่าวข้างต้นว่า ตามคำฟ้องข้อ ๓. วรรค ๓ การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ หากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วนก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา ๓๘๓ ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ถ้าคิดดอกเบี้ยอันถือเป็นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก ข้อ ๔. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น ๑๒.๗๘ ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง ๓๕๔,๒๙๔ ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ ๙๙,๒๐๒.๓๒ ล้านบาท (เกือบ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถ้าคิดไปอีก ๕ ปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยสะสม ๔๙๖,๐๑๑.๖๐ ล้านบาท (เกือบ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุนต่างชาติเอาเงินของประชาชนผู้บริโภคไปเป็นอันมาก จำเลยกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา เพื่อให้จำเลยสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #100531 โดย kluaylso
อ่านแล้วเปนประโยชน์อย่างมากคะ ขอบพระคุณคะ :love:

Pheonix เขียน: ตัวอย่างการต่อสู้่คดี สัญญาเลิกต่อกันแล้ว
ข้อ ๒. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๒ หนี้ ลักษณะ ๒ สัญญา หมวด ๑ ก่อให้เกิดสัญญา หมวด ๒ ผลแห่งสัญญา มีพื้นฐานมาจากเสรีภาพของบุคคล ตามหลักของความศักดิ์สิทธิ์ของการแสดงเจตนา ซึ่งรัฐจะไม่เข้าแทรกแซงแม้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เว้นแต่จะเป็นการต้องห้ามโดยกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้มีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเหนือกว่าถือโอกาสอาศัยหลักดังกล่าว เอาเปรียบคู่สัญญาซึ่งอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจด้อยกว่า ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม ดังนั้น เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้ เพื่อความสงบสุขในสังคม จึงได้มีบทบัญญัติในหมวด ๔ เลิกสัญญา เป็นบทบัญญัติที่กำหนดเพื่อความสงบสุขของสังคม และเพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้ได้ ดังนี้ มาตรา ๓๘๖ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญา หรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นว่านั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนี่ง การแสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่ มาตรา ๓๘๗ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่ทั้งนี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกหาได้ไม่ วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้นหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ มาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น มาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ตามคำฟ้องข้อ ๓. จำเลยตกลงชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ ๒,๗๔๐ บาท (เงินต้นและดอกเบี้ย) เริ่มผ่อนชำระงวดแรก และในเดือนต่อไป ชำระตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือนของทุกเดือนถัดไป แต่ทั้งนี้ต้องให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือน นับตั้งแต่การชำระงวดแรกเป็นต้นไป หลังจากจำเลยได้รับเงินกู้ไปเรียบร้อยแล้วตามฟ้องข้อ ๒. จำเลยได้ผ่อนชำระแก่โจทก์เพียงบางส่วน และผิดนัดผิดสัญญาไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ปรากฏยอดหนี้ ณ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ จำเลยค้างชำระเป็นต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๘,๓๖๗.๔๑ บาท เบี้ยปรับจำนวน ๐.๐๐ บาท รวมเป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท หลังจากนั้นไม่เคยชำระอีกเลย การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โจทก์และจำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญากันอีกต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเลิกต่อกันแล้วโดยปริยาย โจทก์และจำเลยจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญาหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายได้ ตามมาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละ ๗.๕๐ ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้องวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๒ แต่เป็นกำไรที่สูงเกินส่วนไปเป็นมาก ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ยหลังเลิกสัญญาแล้ว ในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) เป็นกำไรขั้นต้นที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก จึงไม่ใช่ค่าเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๒
ข้อ ๓. ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ พิพากษาโดยท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด ท่านวรนาถ ภูมิถาวร วางหลักกฎหมายในเรื่องเบี้ยปรับไว้ในหน้า ๑ วรรค ๒ ว่า ส่วนการคิดดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินนั้น ตามสัญญากู้เงิน ข้อ ๔ ระบุถึงอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามที่ระบุในสัญญาข้อ ๒ ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสำหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ และในกรณีที่มีการผิดนัดแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยซึ่งปฏิบัติผิดเงื่อนไขแล้วในอัตราผิดนัดสูงสุดสำหรับลูกค้าปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ได้ โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่ตกเป็นโมฆะ แต่การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูง อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ซึ่งหากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามมาตรา ๓๘๓ และในหน้า ๕ วรรค ๒ เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินรายนี้แล้ว เห็นว่าฯ อัตราดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดตามที่ระบุในสัญญากู้เงินข้อ ๔ ที่กำหนดไว้เป็นอัตราผิดนัดสูงสุดตามประกาศธนาคารโจทก์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราสูงมาก เช่น บางช่วงอัตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี และบางช่วงสูงถึงร้อยละ ๒๔ ต่อปี นับว่าเป็นเบี้ยปรับในลักษณะดอกเบี้ยที่สูงเกินส่วนไปมาก เห็นสมควรลดลงเหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เท่านั้น ฯ (ไพโรจน์ วายุภาพ ปัญญา ถนอมรอด วรนาถ ภูมิถาวร) หมายเหตุ ท่านปัญญา ถนอมรอด ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙
ท่านไพโรจน์ วายุภาพ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (คำพิพากษาฎีกาปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ตอนที่ ๔ หน้า ๕๓๙-๕๕๐ จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา)
จำเลยกราบขอบารมีท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด และท่านวรนาถ ภูมิถาวร ขอให้การตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ ดังกล่าวข้างต้นว่า ตามคำฟ้องข้อ ๓. วรรค ๓ การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ หากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วนก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา ๓๘๓ ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ถ้าคิดดอกเบี้ยอันถือเป็นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก ข้อ ๔. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น ๑๒.๗๘ ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง ๓๕๔,๒๙๔ ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ ๙๙,๒๐๒.๓๒ ล้านบาท (เกือบ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถ้าคิดไปอีก ๕ ปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยสะสม ๔๙๖,๐๑๑.๖๐ ล้านบาท (เกือบ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุนต่างชาติเอาเงินของประชาชนผู้บริโภคไปเป็นอันมาก จำเลยกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา เพื่อให้จำเลยสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #100532 โดย kluaylso
:เฮ้อ: Update 20/2/61
Citi เริ่มโทรถี่ขึ้นคะ แต่พูดจาสุภาพน่าฟังคะ
Ktc ยังสุภาพ ไม่รบกวนคะ
Tmb หายคะ
Uob โทรมา ไม่ได้รับคะ
Umay+ วันนี้ นางขอสายคนที่ใหญ่กว่าหัวหน้าสายงานคร้าาาาา เอาแบ ผู้บังคับบัญชาเลยทีเดียว
รับสายช่วงบ่าย พูดสำเนียงใต้คะ บอกเราว่าเปนชุดที่สองคะ(เออ....กำลังเข้าเดือนที่2 นิเปลี่ยนชุดละเดือนเลยรึ) นางถามถึงแนวทางการชำระหนี้
เรา::: เราก้อบอกว่าลำพังบ้านก้อต้องเช่าเขาอยู่ รถก้อต้องผ่อน แถมเลิกกับสามีต้องดูแลลูก2ปีกับอีกคน10เดือน นิเราก็สาหัสมากแล้ว แต่ถ้าถามเจตนาเราไม่เคยคิดอยากจะผิดนัด...บลา.......บลา........แต่เงินเดือนเรากำลังจะขึ้นพอมีส่วนต่างแต่ประมานการได้ว่าน่าจะกู้ได้ 50,000฿(อันนี้กู้แบบไม่มีดอกคะ สวัสดิการคะ)ถ้ามันสามารถปิดหนี้ก้อนนี้ได้เราก๊อยากปิดเพราะถ้าให้ชำระงวดต่อเราไม่ไหวคงต้องปล่อยให้ฟ้องค่ะ นางเงียบ.....
Umay::: นางบอกว่า ให้ชำระเข้าไป ก่อนหนึ่งงวดแต่มีส่วนลดค่างวดให้จากที่จ่าย 3,xxx เป็น 2,800.-฿ ถ้าชำระยอดนี้แล้ว เค้าบอกว่าถึงจะมีส่วนลด ให้เราคุยกับหัวหน้าเราเลยแต่ต้องชำระมาหนึ่งวดก่อน เราก้อบอกตอนนี้มีติดตัว 500฿ จ่ายได้แค่ 300฿ นางก้อบอกจ่ายมาก่อนได้ครับเหลืออีก 2,xxx฿ ให้จ่ายก่อน 23/2/61 จ่ายเสดแล้วให้โทรหาหัวหน้าได้เลยคับเบอร์............ชื่อ.........ครับ
ช่วงเย็ยจะให้เจ้าหน้าที่โทรมาสอบถามการชำระนะครับ ........และแล้วก้อโทรมา และแล้วก้อไม่ได้จ่าย...

พรุ่งนี้นับศึกต่อ และจะโทรหาหัวหน้านางเรื่องส่วนลดก่อนจะจ่ายไป55555

ปล.
1.งงคะ อ่านของชมรม ส่วนใหญ่นิ นาทีทองเค้าอยุ่ที่เดือนที่ 5-6 รึเปนเพราะเราไปบอกเค้าว่าจะมีเงินกุ้นะ โง่อีกละ
2.อันนี้ ค้าง 2รอบ เค้าจะให้ส่วนลดจริงรึป่าว รึหลอกให้จ่ายหยอดคะ รบกวนเพื่อนๆพี่ๆชมรมด้วยคะ ว่ามีแฮร์คัด ช่วงนี้ด้วยหรอคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #100555 โดย ReFreshZzz

kluaylso เขียน: :เฮ้อ: Update 20/2/61

ปล.
1.งงคะ อ่านของชมรม ส่วนใหญ่นิ นาทีทองเค้าอยุ่ที่เดือนที่ 5-6 รึเปนเพราะเราไปบอกเค้าว่าจะมีเงินกุ้นะ โง่อีกละ
2.อันนี้ ค้าง 2รอบ เค้าจะให้ส่วนลดจริงรึป่าว รึหลอกให้จ่ายหยอดคะ รบกวนเพื่อนๆพี่ๆชมรมด้วยคะ ว่ามีแฮร์คัด ช่วงนี้ด้วยหรอคะ


ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64

ข้อเสียของการ "จ่ายหยอด" เพื่อเดินบัญชี
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=19608&Itemid=64

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #101107 โดย Barcode910

Pheonix เขียน: ตัวอย่างการต่อสู้่คดี สัญญาเลิกต่อกันแล้ว
ข้อ ๒. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๒ หนี้ ลักษณะ ๒ สัญญา หมวด ๑ ก่อให้เกิดสัญญา หมวด ๒ ผลแห่งสัญญา มีพื้นฐานมาจากเสรีภาพของบุคคล ตามหลักของความศักดิ์สิทธิ์ของการแสดงเจตนา ซึ่งรัฐจะไม่เข้าแทรกแซงแม้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เว้นแต่จะเป็นการต้องห้ามโดยกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้มีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเหนือกว่าถือโอกาสอาศัยหลักดังกล่าว เอาเปรียบคู่สัญญาซึ่งอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจด้อยกว่า ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม ดังนั้น เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้ เพื่อความสงบสุขในสังคม จึงได้มีบทบัญญัติในหมวด ๔ เลิกสัญญา เป็นบทบัญญัติที่กำหนดเพื่อความสงบสุขของสังคม และเพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้ได้ ดังนี้ มาตรา ๓๘๖ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญา หรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นว่านั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนี่ง การแสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่ มาตรา ๓๘๗ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ไซร้ อีกฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม แต่ทั้งนี้จะให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่สิทธิของบุคคลภายนอกหาได้ไม่ วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญานั้นหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ มาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น มาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละเจ็ดกึ่งต่อปี ตามคำฟ้องข้อ ๓. จำเลยตกลงชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ ๒,๗๔๐ บาท (เงินต้นและดอกเบี้ย) เริ่มผ่อนชำระงวดแรก และในเดือนต่อไป ชำระตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือนของทุกเดือนถัดไป แต่ทั้งนี้ต้องให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือน นับตั้งแต่การชำระงวดแรกเป็นต้นไป หลังจากจำเลยได้รับเงินกู้ไปเรียบร้อยแล้วตามฟ้องข้อ ๒. จำเลยได้ผ่อนชำระแก่โจทก์เพียงบางส่วน และผิดนัดผิดสัญญาไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ปรากฏยอดหนี้ ณ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ จำเลยค้างชำระเป็นต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๘,๓๖๗.๔๑ บาท เบี้ยปรับจำนวน ๐.๐๐ บาท รวมเป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท หลังจากนั้นไม่เคยชำระอีกเลย การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โจทก์และจำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญากันอีกต่อไป สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเลิกต่อกันแล้วโดยปริยาย โจทก์และจำเลยจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม วรรค ๔ การใช้สิทธิเลิกสัญญาหากระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายได้ ตามมาตรา ๒๒๒ การเรียกเอาค่าเสียหายนั้น ได้แก่เรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๔ หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละ ๗.๕๐ ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้องวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายเช่นที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้นแต่การไม่ชำระหนี้นั้น ตามมาตรา ๒๒๒ แต่เป็นกำไรที่สูงเกินส่วนไปเป็นมาก ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี ถ้าคิดดอกเบี้ยหลังเลิกสัญญาแล้ว ในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) เป็นกำไรขั้นต้นที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก จึงไม่ใช่ค่าเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๒
ข้อ ๓. ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ พิพากษาโดยท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด ท่านวรนาถ ภูมิถาวร วางหลักกฎหมายในเรื่องเบี้ยปรับไว้ในหน้า ๑ วรรค ๒ ว่า ส่วนการคิดดอกเบี้ยหลังจากที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินนั้น ตามสัญญากู้เงิน ข้อ ๔ ระบุถึงอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ ให้คิดในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามที่ระบุในสัญญาข้อ ๒ ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสำหรับลูกค้าที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ และในกรณีที่มีการผิดนัดแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยซึ่งปฏิบัติผิดเงื่อนไขแล้วในอัตราผิดนัดสูงสุดสำหรับลูกค้าปฏิบัติผิดเงื่อนไขตามประกาศธนาคารโจทก์ได้ โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย จึงไม่ตกเป็นโมฆะ แต่การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูง อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ซึ่งหากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามมาตรา ๓๘๓ และในหน้า ๕ วรรค ๒ เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินรายนี้แล้ว เห็นว่าฯ อัตราดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดตามที่ระบุในสัญญากู้เงินข้อ ๔ ที่กำหนดไว้เป็นอัตราผิดนัดสูงสุดตามประกาศธนาคารโจทก์ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราสูงมาก เช่น บางช่วงอัตราร้อยละ ๑๙ ต่อปี และบางช่วงสูงถึงร้อยละ ๒๔ ต่อปี นับว่าเป็นเบี้ยปรับในลักษณะดอกเบี้ยที่สูงเกินส่วนไปมาก เห็นสมควรลดลงเหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี เท่านั้น ฯ (ไพโรจน์ วายุภาพ ปัญญา ถนอมรอด วรนาถ ภูมิถาวร) หมายเหตุ ท่านปัญญา ถนอมรอด ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙
ท่านไพโรจน์ วายุภาพ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (คำพิพากษาฎีกาปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ตอนที่ ๔ หน้า ๕๓๙-๕๕๐ จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา)
จำเลยกราบขอบารมีท่านไพโรจน์ วายุภาพ ท่านปัญญา ถนอมรอด และท่านวรนาถ ภูมิถาวร ขอให้การตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๓/๒๕๔๗ ดังกล่าวข้างต้นว่า ตามคำฟ้องข้อ ๓. วรรค ๓ การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๓,๔๓๘.๕๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดร้อยละ ๒๘ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๘๕,๐๗๑.๑๗ บาท นับตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้อง คิดดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖๑,๖๗๐.๗๗ บาท (๗๒.๔๙% ของเงินต้น อัตราสูงมาก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๑๕๕,๑๐๙.๓๕ บาท (๑๘๒.๓๓% ของเงินต้น เป็นอัตราสูงมาก) ซึ่งโจทก์ขอถือเอาเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในการฟ้องเป็นคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคล และสำเนาภาพถ่ายใบบันทึกรายการยอดหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๖ และ ๗ จำเลยขอให้การว่า การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ หากศาลเห็นว่าสูงเกินส่วนก็มีอำนาจพิพากษาลดเบี้ยปรับลงเหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา ๓๘๓ ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา ของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ธนาคารทหารไทยกำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๐.๗๕ - ๑.๐๐ ต่อปี การกำหนดให้โจทก์คิดดอกเบี้ยสูงมากถึงร้อยละ ๒๘ ต่อปี อันเนื่องมาจากการที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ อันเป็นการผิดสัญญา เท่ากับเป็นข้อสัญญาที่กำหนดค่าเสียหายในลักษณะเป็นดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า อันถือเป็นเบี้ยปรับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๙ ถ้าคิดดอกเบี้ยอันถือเป็นเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี หักด้วยต้นทุนเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน อัตราสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒๗ ต่อปี (๒๘ ลบ ๑ เท่ากับ ๒๗) เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนเงินฝากประจำสูงสุดร้อยละ ๑ ต่อปี โจทก์มีกำไรขั้นต้นอัตราร้อยละ ๒,๗๐๐ ของต้นทุนเงินฝากประจำ (๒๗ หาร ๑ คูณ ๑๐๐ เท่ากับ ๒,๗๐๐) จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนไปเป็นอันมาก ข้อ ๔. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ จำนวนบัญชีทั้งสิ้น ๑๒.๗๘ ล้านบัญชี ยอดสินเชื่อคงค้าง ๓๕๔,๒๙๔ ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ ๙๙,๒๐๒.๓๒ ล้านบาท (เกือบ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถ้าคิดไปอีก ๕ ปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยสะสม ๔๙๖,๐๑๑.๖๐ ล้านบาท (เกือบ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ เศรษฐกิจของประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุนต่างชาติเอาเงินของประชาชนผู้บริโภคไปเป็นอันมาก จำเลยกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตา เพื่อให้จำเลยสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้


ขอบคุณมากครับ ตอนนี้กำลังโดนฟ้อง 28 % แล้วมีหนังสือบอกเลิกสัญญาด้วยครัย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

6 ปี 4 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #101232 โดย แก้วกลางดง

ZZZ เขียน:

Ebumohsu เขียน: สู้ๆครับ ของผมหยุดมา 5 เดือนละครับ
มี Kbank เสนอ ส่วนลด50% ปิดจบ จ่ายงวดเดียว
มี SCB เสนอ30 % ผ่อน 3 งวด
ทนกับการทวง อดทนรอๆๆๆๆๆ อย่าไปกลัวครับ


Kbank ของผมยอด 16xxxx หยุดชำระมา 3 เดือน เดือนหน้าส่งเรื่องออกข้างนอกละครับ. ถ้าได้ส่วนลด 50% คงพร้อมจบ

มีบัตรเครดิตกสิกรเหมือนกันค่ะ ถ้าลดได้ขนาดขนาดนี้น่าจะดีค่ะ รอๆ เพิ่งะหยุดเมื่อ 7/3/61 นี่เอง หยุดที่ 79,000

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.916 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena