สมาชิกใหม่

ดิฉันเพิ่งได้เข้ามาในกลุ่มตอนแรก ได้อ่านสมาชิกท่านอื่นที่มีปันหา คือปันหาของดิฉัน คือ หนี้บัตร เฟริสช้อย 190000 ขาดส่งมาประมาน5งวด หลังจากดิฉันได้ทำเรื่องผ่อนผัน ส่งเดือนละ5200 แต่คิดไปมาและยิ่งได้มาอ่าน ในกลุ่มนี้ คือแบบส่งไปก้อไร้ค่า มีแต่ดอกเลยคิดว่าหยุดส่งและให้ฟ้องศาล ซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีหมายศาลมาแปะไว้หน้าบ้าน ตอนแรกไม่รู้จะทำยังไง ได้เข้ามาอ่านในกลุ่มนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ดิฉันจะไปศาลตามที่นัด 22 สิงหาคม 2560 และดิฉัน มีบัตรเครดิต กสิกรอีก1ใบ ซึ่งชำระหนี้แล้วก็กดเงินสดออกมาใช้ จนบัตรกมดอายุ ตู้ได้ดูดบัตรไป ตั้งแต่กุมภาพันธ์ และดิฉันก็ไม่ได้ชำระ เป็นจำนวนเงิน 36000 ซึ่งมี จม.มาทวงและบอกว่าไม่จ่าจะห้องศาลและจะมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาล ดิฉันคิดว่าฟ้องก้อฟ้องคะ อีกบัตรคือ อิอนน ได้ทได้ทำเรื่องประนอมหนี้ผ่อนเดือนละ1050 บาทมาจำจวน 2ปี ตอนนี้ยอดอยู่ที ประมาน40000 ดิฉันควรผ่อนต่อ หรือปล่อยให้ห้อง ดิฉันผ่อนรถอยู่คะแต่ค่ารถไม่ได้ติดค้างอะไร และมีบ้านคะ ในโฉนดชื่อดิฉันกับน้องชาย แต่ในทะเบียนบ้านชื่อแม่เป็นเต้าบ้านคะ ขอปรึกษาสมาชิกและแอตมินคะ ว่าดิฉันควรทำยังไงดี มีลูก 2คนที่ต้องส่งเสีย สามีหน่าร้างคะ ขอบคุณคะ

ช่วยตอบหน่อยนะคะ เดือดร้อนจริงคะ

Yanisa เขียน: ดิฉันเพิ่งได้เข้ามาในกลุ่มตอนแรก ได้อ่านสมาชิกท่านอื่นที่มีปันหา คือปันหาของดิฉัน คือ หนี้บัตร เฟริสช้อย 190000 ขาดส่งมาประมาน5งวด หลังจากดิฉันได้ทำเรื่องผ่อนผัน ส่งเดือนละ5200 แต่คิดไปมาและยิ่งได้มาอ่าน ในกลุ่มนี้ คือแบบส่งไปก้อไร้ค่า มีแต่ดอกเลยคิดว่าหยุดส่งและให้ฟ้องศาล ซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีหมายศาลมาแปะไว้หน้าบ้าน ตอนแรกไม่รู้จะทำยังไง ได้เข้ามาอ่านในกลุ่มนี้รู้สึกสบายใจขึ้น ดิฉันจะไปศาลตามที่นัด 22 สิงหาคม 2560 และดิฉัน มีบัตรเครดิต กสิกรอีก1ใบ ซึ่งชำระหนี้แล้วก็กดเงินสดออกมาใช้ จนบัตรกมดอายุ ตู้ได้ดูดบัตรไป ตั้งแต่กุมภาพันธ์ และดิฉันก็ไม่ได้ชำระ เป็นจำนวนเงิน 36000 ซึ่งมี จม.มาทวงและบอกว่าไม่จ่าจะห้องศาลและจะมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาล ดิฉันคิดว่าฟ้องก้อฟ้องคะ อีกบัตรคือ อิอนน ได้ทได้ทำเรื่องประนอมหนี้ผ่อนเดือนละ1050 บาทมาจำจวน 2ปี ตอนนี้ยอดอยู่ที ประมาน40000 ดิฉันควรผ่อนต่อ หรือปล่อยให้ห้อง ขอปรึกษาสมาชิกและแอตมินคะ ว่าดิฉันควรทำยังไงดี มีลูก 2คนที่ต้องส่งเสีย สามีหน่าร้างคะ ขอบคุณคะ

วิธีแก้หนี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64&limitstart=0#214

Yanisa เขียน: ดิฉันผ่อนรถอยู่คะแต่ค่ารถไม่ได้ติดค้างอะไร และมีบ้านคะ ในโฉนดชื่อดิฉันกับน้องชาย แต่ในทะเบียนบ้านชื่อแม่เป็นเต้าบ้านคะ

กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64

Yanisa เขียน: ช่วยตอบหน่อยนะคะ เดือดร้อนจริงคะ

ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

ขอบคุณแอตมินคะ อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ คือเจ้าหนี้สามารถมายึดทรัพย์ได้หรอ คะเพราะว่าอ่านดูบอกว่าศาลไม่มีหน้าที่อายัดยึดทรัพย์ ตรงข้อกฎหมายที่ควรต้องจำอ่ะคะ เพราะดิฉัน ยังไม่ได้ขึ้นศาลและแค่มีความประสงค์จะชำระผ่อนให้ลดหนี้ ตามที่ขึ้นศาลหรือต่อรองกับเจ้าหนี้ คะช่วยอธิบายให้หน่อยนะคะ รบกวนแอตมินด้วยคะ

แอตมินช่วยอธิบายหน่อยนะคะ ไม่เข้าใจเลยคะ เครียดจัง ต้องมีทนายเขียนคำให้ด้วยหรอคะ

ช่วยอธิบายทีนะคะ อ่านแล้วคะไม่เข้าใจเลยคะ และวันไปศาลเราต้องมีทนายเขียนให้หรือป่าวคะ เร่่องมีทรัพย์สิน บ้านเค้ายังทำไรเราไม่ได้ใช่ไหมคะเพราะว่ายังไม่ถึงบังคับคดี ขอบคุนนคะ

ไปขึ้นศาลตามนัดได้เลยค่ะ ไม่ต้องมีทนายเขียนคำให้การอะไร ถ้าในกรณีที่ยังไม่หมดอายุความนะคะส่วนเรื่องการอายัดทรัพย์สิน ถ้าศาลตัดสินแล้วคุณไม่ได้ชำระหนี้เข้าไป เจ้าหนี้ก็จะไปสืบทรัพย์ของลูกหนี้ เพื่อยื่นกับกรมบังคับดคดี ทำการยึดทรัพย์สินนั้นมาชำระหนี้แทนไงคะ

เรื่องมีอยุ่ว่า เมื่อวานได้ไปขึ้นศาลคะ ไปถึงเจอชื่อเราเข้าห้องไปรอ ในห้องมีคนประมาน20คนได้คะมีหลายธนาคารมากคะ ทนายมาเรียกชื่อและขอเบอร์โทศัพท์ไปคะสัก10นาทีมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาคะ ดิฉันเปนหนี้16000และดอกค่าติดตาม30000 กว่า รวม190000 กว่าคะ เค้าเสนอมาให้ผ่อน4000*24 งวดคะ ตอนนั้นไม่ได้คำนวนเพราะในใจตั้งไป3000 บาทคะ เลยถามว่าแล้วส่งไป แล้วมีเงินHCจะลดได้เท่าไหร่คะ เค้าบอกว่าบอกไม่ได้ครับว่าลดได้เท่าไหร่ แต่ลดแน่ ดิฉันบอกไม่ไหวคะ พอมานั่งคิด 4000*24 =96000 บาทอ้าวอีกแสนหละคะ เค้าบอก งวดสุดท้ายจ่าย1แสน ตายแล้วใครจะมีเงิน ถามว่าลดอีกได้ไหมเค้าบอกไม่ได้ เลยบอกว่ารอศาลพิพากษาคะ เลยรอ ศาลเรียกชื่อคนอื่น ส่วนมากคือยอมกันคะ แต่พอเรียกชื่อดิฉัน ศาลถามว่า ทำงานอะไร ขายอาหารตามสั่งคะ แล้วไม่ไหวใช่ไหม ดิฉันตอบว่าคะ แล้วมีไรให้เค้ายึด ดิฉันบอกไม่มีคะ ก้อ งง ศาลบอกให้รอ จดหมายจะส่งไป ศาลจะลดต้นดอกให้10% แล้วรอจดหมาย ดิฉันเดินกลับมาด้วยความ งง เลยเดินไปถามทนาย สรุปคือยังไง ทนายบอกว่า คุณรอจดหมายแล้วจ่ายตามที่ศาลสั่ง ดิฉันบอกถ้าไม่มีเงินก้อนต้องทำยังไง ทนายบอก ต้องจ่ายถ้าไม่จ่ายยึดทรัพย์ ดิฉันตกใจ เพราะดิฉันมีบ้านกับน้องชายคนละครึ่ง ราคา6-7 ล้านบ้าน มีแค่นี้เพราะพ่อแม่ ยกให้ รถผ่อนอยู่ อุปกรณ์ ประกอบอาชีพ แฟนใหม่ซื้อให้ ดิฉันไม่มีเงินซื้อหรอกคะ เพราะเลี้ยงลูก2คน แต่เสียดายเอาใบจ่ยสลิปต่างๆไปไม่ได้ให้ศาลเพราะศาลพุดไม่กี่คำ ไล่ดิฉันบอกกลับบ้านรอ จดหมาย พอคุยกะทนายเค้าจะให้เรายอมผ่อนเดือนละ4000 *24 เดือน งวดสุดท้ายอีกแสน ดิฉันคิดว่า ไม่ไหวแน่ เลยบอกเค้าไป ตามที่คิดเพราะส่งไป4000 ถึงเวลางวดสุดท้ายไม่มี ต้องเปนคดีอยุ่ดีคะ เลยคิดว่า รอคำสัางจากศาลดีกว่า แล้วมาขอไกล่เกลี่ย อยากสอบถามท่านผู้รู้ หรือมีประสบการณ์ ว่าต้องทำอย่างไรบ้างคะ ดิฉันไม่อยากโดนยึดทรัพย์หรืออะไร แต่พร้อมจ่สยตามที่ไหว ไม่คิดโกง และคิดHC ด้วยคะ รอผ่อนรถหมดก่อนคะ ขอบคุณคะ

Yanisa เขียน: เรื่องมีอยุ่ว่า เมื่อวานได้ไปขึ้นศาลคะ ไปถึงเจอชื่อเราเข้าห้องไปรอ ในห้องมีคนประมาน20คนได้คะมีหลายธนาคารมากคะ ทนายมาเรียกชื่อและขอเบอร์โทศัพท์ไปคะสัก10นาทีมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาคะ ดิฉันเปนหนี้16000และดอกค่าติดตาม30000 กว่า รวม190000 กว่าคะ เค้าเสนอมาให้ผ่อน4000*24 งวดคะ ตอนนั้นไม่ได้คำนวนเพราะในใจตั้งไป3000 บาทคะ เลยถามว่าแล้วส่งไป แล้วมีเงินHCจะลดได้เท่าไหร่คะ เค้าบอกว่าบอกไม่ได้ครับว่าลดได้เท่าไหร่ แต่ลดแน่ ดิฉันบอกไม่ไหวคะ พอมานั่งคิด 4000*24 =96000 บาทอ้าวอีกแสนหละคะ เค้าบอก งวดสุดท้ายจ่าย1แสน ตายแล้วใครจะมีเงิน ถามว่าลดอีกได้ไหมเค้าบอกไม่ได้ เลยบอกว่ารอศาลพิพากษาคะ เลยรอ ศาลเรียกชื่อคนอื่น ส่วนมากคือยอมกันคะ แต่พอเรียกชื่อดิฉัน ศาลถามว่า ทำงานอะไร ขายอาหารตามสั่งคะ แล้วไม่ไหวใช่ไหม ดิฉันตอบว่าคะ แล้วมีไรให้เค้ายึด ดิฉันบอกไม่มีคะ ก้อ งง ศาลบอกให้รอ จดหมายจะส่งไป ศาลจะลดต้นดอกให้10% แล้วรอจดหมาย ดิฉันเดินกลับมาด้วยความ งง

ก็คุณบอกต่อหน้าศาลเองนี่ครับ

ว่าคุณไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยสักอย่าง

แล้วจะมา"งง"อะไรอีกล่ะครับ?


หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8746&Itemid=64

Yanisa เขียน: เลยเดินไปถามทนาย สรุปคือยังไง ทนายบอกว่า คุณรอจดหมายแล้วจ่ายตามที่ศาลสั่ง ดิฉันบอกถ้าไม่มีเงินก้อนต้องทำยังไง ทนายบอก ต้องจ่ายถ้าไม่จ่ายยึดทรัพย์ ดิฉันตกใจ เพราะดิฉันมีบ้านกับน้องชายคนละครึ่ง ราคา6-7 ล้านบ้าน มีแค่นี้เพราะพ่อแม่ ยกให้ รถผ่อนอยู่ อุปกรณ์ ประกอบอาชีพ แฟนใหม่ซื้อให้ ดิฉันไม่มีเงินซื้อหรอกคะ เพราะเลี้ยงลูก2คน แต่เสียดายเอาใบจ่ยสลิปต่างๆไปไม่ได้ให้ศาลเพราะศาลพุดไม่กี่คำ ไล่ดิฉันบอกกลับบ้านรอ จดหมาย พอคุยกะทนายเค้าจะให้เรายอมผ่อนเดือนละ4000 *24 เดือน งวดสุดท้ายอีกแสน ดิฉันคิดว่า ไม่ไหวแน่ เลยบอกเค้าไป ตามที่คิดเพราะส่งไป4000 ถึงเวลางวดสุดท้ายไม่มี ต้องเปนคดีอยุ่ดีคะ

สรุปว่า...คุณมีทรัพย์สิน

หรือไม่มีทรัพย์สินกันแน่ครับ?


ข้อสังเกตุ กรณีความเป็นเจ้าของบ้าน(เจ้าบ้าน)

และความเป็นเจ้าของที่ดิน(เจ้าของโฉนด)

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64#54671

อ้างอิงข้อมูลจาก
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64#2194

Yanisa เขียน: เลยคิดว่า รอคำสัางจากศาลดีกว่า แล้วมาขอไกล่เกลี่ย อยากสอบถามท่านผู้รู้ หรือมีประสบการณ์ ว่าต้องทำอย่างไรบ้างคะ ดิฉันไม่อยากโดนยึดทรัพย์หรืออะไร แต่พร้อมจ่สยตามที่ไหว ไม่คิดโกง และคิดHC ด้วยคะ รอผ่อนรถหมดก่อนคะ ขอบคุณคะ

ถ้ามีคำสั่งของศาล(คำพิพากษา)ออกมาแล้ว จะไม่มีคำว่า"ไกล่เกลี่ย"อีกแล้วครับ

เพราะการฟ้องศาล สามารถฟ้องได้แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่สามารถฟ้องใหม่หรือฟ้องซ้ำได้อีก

สรุปก็คือ
ศาลแพ่งหรือศาลผู้บริโภค มีหน้าที่แค่พิจารณาหนี้ไปตาม คำร้อง/คำโต้แย้ง ของคู่ความเท่านั้น
โดยใช้ข้อกฏหมาย(มาตราต่างๆ)เป็นตัวพินิจพิเคราะห์
และเมื่อพิจารณาเสร็จแล้วก็จะออกเป็นคำสั่ง“พิพากษา”เพื่อบังคับให้ใช้หนี้ระหว่างกัน โดยเสียดอกเบี้ยไม่เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด (อาจเป็นร้อยละ 7.5 , 10 , 12 , 15 ต่อปี...แล้วแต่ศาลเป็นผู้พิจารณา)
และเมื่อศาลพิพากษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หมดสิ้นหน้าที่ของศาล เรื่องต่างๆต่อจากนี้ ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับศาลอีกต่อไปแล้ว จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการชดใช้หนี้ระหว่างโจทก์และจำเลย โดยอาจมีกรมบังคับคดีมามีส่วนเกี่ยวข้อง
ถ้าหากจำเลยไม่ยอมชดใช้หนี้ตามที่ศาลสั่ง หรือจำเลยทำผิดจากข้อตกลงที่ได้ไปเซ็นต์สัญญาไว้ต่อศาล โจทก์สามารถร้องขอให้ทำการ ยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน ของจำเลย...ตามที่โจทก์ไปยื่นคำร้องไว้ที่กรมบังคับคดีได้เลย




ข้อกฏหมายที่ต้องจำ

ศาลไม่มีหน้าที่ไปอายัดหรือยึดทรัพย์ใดๆของลูกหนี้

หน้าที่ในการอายัดหรือยึดทรัพย์ของจำเลย เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีเท่านั้น...ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์...แม้กระทั่งตัวของเจ้าหนี้เอง...ก็ไม่มีสิทธิ์

โดยกระบวนการอายัดหรือยึดทรัพย์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
ต้องจบสิ้นคดีในการฟ้องร้องต่อศาลแล้ว โดยศาลได้มีคำสั่งให้ลูกหนี้ต้องจ่ายหนี้ ตามคำพิพากษาที่ศาลสั่ง

หากลูกหนี้ยังคงเพิกเฉย ไม่ยอมปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลอีก (ลูกหนี้"ดื้อแพ่ง")
เจ้าหนี้ก็จะเอาคำพิพากษาของศาลในคดีดังกล่าว ไปยื่นคำร้องต่อ"กรมบังคับคดี"
เพื่อให้ทางกรมบังคับคดีเป็นผู้ออกคำสั่ง ยึด/อายัด (หมายบังคับคดี)

โดยเจ้าหน้าที่บังคับคดีจะเป็นผู้ดำเนินการ ในการยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนของลูกหนี้ (ซึ่งเจ้าหนี้อาจยื่นคำร้อง ขอให้ทำการยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือน พร้อมๆกันเลยก็ได้) เพื่อนำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลต่อไป

อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ

มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20