ขออนุญาติสอบถามนะคะ

ตอนนี้ดิฉันได้รับหมายศาล มา 2 หมาย คือ citibank ขึ้นศาลวันที่ 5 มี.ค.59 นี้ และ First choice ขึ้นศาลวันที่ 15 มี.ค.59 นี้ ดิฉันคิดว่าจะเดินแนวทาง ปล่อยอายัดเงินเดือน เพราะยังเหลือเจ้าหนี้อีก 3 รายที่ยังไม่ฟ้องและดิฉันไม่มีเงินที่จะจ่ายปิดด้วย เรื่องที่อยากสอบถามเพื่อความแน่ใจคือ

1. รถยนต์มือสองของดิฉันจะหมดค่างวดกับกรุงศรีออโต้ ในเดือน พฤษภาคม 59 นี้ ดิฉันไม่อยากโดนยึดทรัพย์เมื่อโอนเป็นชื่อดิฉันแล้ว** ณ ตอนนี้ดิฉันควรไปทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาผู้ครอบครองรถเป็นญาติเลยถูกต้องมั้ยคะ

จากที่อ่านกระทู้แนวทางแล้ว ดิฉันเข้าใจแบบนี้รบกวนกวนผู้รู้เข้ามาให้คำแนะนำหน่อยนะคะ

ตอบกันตรงๆในนี้ไม่ได้หรอกครับ

เหตุผล
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40552&Itemid=64#45365

คะ พอดีหนูแจ้งลบกระทู้ไว้อยู่หนูเพิ่งเห็นคำตอบของคุณนกกระจอกเทศ ที่แนะนำกระทู้อื่นไว้คะ

รบกวนสอบถามคะ ตอนนี้บัตรเฟิสช้อย ของดิฉันอยู่ในขั้นตอนรอคำพิพากษาจากศาล เนื่องจากปล่อยให้ศาลตัดสินเลย ระหว่างที่รอนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานกฏหมายที่ฟ้อง ได้โทรมาให้ทางเลือกว่า ให้ดิฉันผ่อนเดือนละ 1,000 บาท ไปเรื่อยๆ จนกว่ายอดหนี้จะหมดจะได้ไม่ถูกยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือน จากที่ฟังดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นวิธีหักคอจ่าย แต่ที่สงสัยคือ
1. เจ้าหน้าที่ให้ดิฉันเริ่มจ่ายสิ้นเดือนเมษายนนี้เป็นเดือนแรก ทั้งๆ ที่คำพิพากษาของศาลยังไม่มาดิฉันสามารถทำตามที่คุยกับเจ้าหน้าที่ได้เลยมั้ย หรือต้องรอคำพิพากษาศาลมาถึงดิฉันก่อนค่อยเริ่มจ่าย

umapoc50 เขียน: รบกวนสอบถามคะ ตอนนี้บัตรเฟิสช้อย ของดิฉันอยู่ในขั้นตอนรอคำพิพากษาจากศาล เนื่องจากปล่อยให้ศาลตัดสินเลย ระหว่างที่รอนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานกฏหมายที่ฟ้อง ได้โทรมาให้ทางเลือกว่า ให้ดิฉันผ่อนเดือนละ 1,000 บาท ไปเรื่อยๆ จนกว่ายอดหนี้จะหมดจะได้ไม่ถูกยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือน จากที่ฟังดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นวิธีหักคอจ่าย แต่ที่สงสัยคือ
1. เจ้าหน้าที่ให้ดิฉันเริ่มจ่ายสิ้นเดือนเมษายนนี้เป็นเดือนแรก ทั้งๆ ที่คำพิพากษาของศาลยังไม่มาดิฉันสามารถทำตามที่คุยกับเจ้าหน้าที่ได้เลยมั้ย หรือต้องรอคำพิพากษาศาลมาถึงดิฉันก่อนค่อยเริ่มจ่าย

คุณจะจ่ายในตอนนี้ ตามที่เจ้าหน้าที่มันบอกก็ได้ครับ
หรือ จะรอให้คำพิพากษามาก่อน แล้วค่อยไปทำการ"หักคอจ่าย"ภายใน 15วัน หลังจากที่มีคำพิพากษามาปิดไว้ที่หน้าบ้าน...ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

สอบถามเรื่องขึ้นศาลค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40812&Itemid=64#47926


วิธี"หักคอจ่าย" ในกรณีนี้เป็นหน๊้ 320,000
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43715&Itemid=64#76608


การหักคอจ่าย แล้วค่อยมา Haircut ทีหลัง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=38002&Itemid=64#69307


รบกวนสอบถามผู้รู้ด้วยครับ เรื่องหมายศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43866&Itemid=64#78324


สมาชิกใหม่ขอปรึกษามีหมายศาลบัตรเคดิตกรุงศรีมาครั้งแรกคะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44236&Itemid=64


อ่านมา 1 ปีแล้ว ครับ ขอความรู้หน่อยครับ โดนเหมือนกัน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43979&Itemid=64&limitstart=0#82368

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43979&Itemid=64&limitstart=20


ไม่ได้ไปศาลในกรณีบัตรของ KTC
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43934&limitstart=40&Itemid=64#83755

ขอบคุณนะคะ

รบกวนสอบถามคะ ตอนนี้ได้คำบังคับมาแล้วตามไฟล์แนบอยากขอให้ช่วยคิดตารางหักคอจ่าย และควรจะหักคอจ่ายเดือยละเท่าไหร่คะยังงัยรบกวนผู้รู้ช่วยด้วยนะคะ

.
ยอดหนี้ทั้งหมด ที่ลูกหนี้จะทำการผ่อนแบบ"หักคอจ่าย"ก็คือ ยอดหนี้ตัวเลขสูงสุดของคำพิพากษา + ดอกเบี้ยย้อนหลังไปจนถึงวันที่ฟ้อง + ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี(ตามคำสั่งของศาล)เดินตามตูดไปเรื่อยๆ + ค่าฤชาธรรมเนียมศาล(อีกกี่พันบาทก็ไม่รู้) + ค่าทนายโจทก์ 3,000 บาท(ตามคำสั่งของศาล)

คุณต้องไปติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนนะครับ ว่าค่าฤชาธรรมเนียมศาลในคดีของคุณ...มันเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่?
หากได้ตัวเลขของค่าฤชาธรรมเนียมศาลมาแล้ว จึงจะสามารถทำตรารางคำนวณต่อไปได้


คุณต้องไปเช็คค่าฤชาธรรมเนียมศาลมาเสียก่อนนะครับ

ไม่งั้นก็ไม่สามารถทำตารางคำนวณได้


ตัวอย่าง การทำตารางคำนวณการหักคอจ่าย
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43979&Itemid=64&limitstart=20#83139


ปล.ช่วยลงรูปคำสั่งท้ายคำพิพากษาด้วยนะครับ ว่าศาลท่านสั่งให้จำเลยต้องฎิบัติตามคำสั่งศาลภายในกี่วัน?

ดังตัวอย่างในรูปนี้เป็นต้น

โทรสอบถามมาแล้วคะ ค่าฤชาธรรมเนียมศาล 2,000 บาทค่ะ แนบไฟล์ใหม่ให้แล้วนะคะ รบกวนคุณนกกระจอกเทศช่วยคิดด้วยค่ะ

umapoc50 เขียน: โทรสอบถามมาแล้วคะ ค่าฤชาธรรมเนียมศาล 2,000 บาท ค่ะ แนบไฟล์ใหม่ให้แล้วนะคะ รบกวนคุณนกกระจอกเทศช่วยคิดด้วยค่ะ

ปล. ถ้าอยากเห็นรูปหมายศาล(ด้านบน)ให้เป็นภาพใหญ่ ให้เลื่อนเมาส์ไปที่รูปภาพนั้น...แล้วกดคลิ๊กขวา
แล้วเลือกที่บรรทัดแรก คำว่า Open link in new tab จะได้เห็นรูปหมายศาลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น




เอกสารที่คุณได้รับฉบับนี้ มันคือ"คำบังคับ "(คำพิพากษา)อย่างเป็นทางการของศาล (ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการพิพากษาโดยวาจาไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5/มี.ค./2559...ในวันที่คุณไปขึ้นศาลนั่นแหละ)
โดยให้มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายนับตั้งแต่วันที่ 6/ส.ค./2559 เป็นต้นไป(วันที่มีคำพิพากษาฉบับนี้ มาปิดที่หน้าบ้านของคุณ)...ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. บังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน 43,697.35 บาท

2. บังคับให้จำเลยต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินร้อยละ 10ต่อปี(10% ต่อปี) โดยดอกเบี้ยที่ว่านี้ ให้คิดคำนวณจากเงินต้นที่ 32,962.65 บาท และให้มีการคิดดอกเบี้ยที่ว่านี้"ย้อนหลัง"ไปอีกด้วย โดยให้เริ่มคิดดอกเบี้ยย้อนหลัง นับจากวันที่โดนฟ้องเป็นต้นไป(ฟ้องวันที่ 22/มกราคม 2559)...และดอกเบี้ยจำนวนนี้ จะเดินตามตูดลูกหนี้ทุกเดือน(มีการคิดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆทุกเดือน) จนกว่าจะชำระหนี้ให้หมด

3. บังคับให้จำเลยต้องจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล จำนวน 2,000.-บาท

4. บังคับให้จำเลยต้องจ่ายค่าทนายความของฝ่ายโจทก์ เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท

5. ส่วนคำลงท้ายที่ศาลสั่งว่า ให้จำเลยต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15วัน(โดยให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6/ส.ค./2559 เป็นต้นไป เพราะเป็นวันที่ศาลเอาคำสั่งฉบับนี้มาแปะไว้ที่หน้าบ้าน)...หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับดังกล่าว จะต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับและจำขัง ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น
*** มันเ้ป็นคำลงท้ายที่เป็นมาตราฐานโดยทั่วๆไปของศาล ที่ศาลจะต้องกล่าวลงท้ายไว้เป็นเช่นนี้...ไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรก็ตาม จะเป็นคดีเล็กๆน้อยๆ หรือเป็นคดีประเภทขี้หมูรา-ขี้หมาแห้ง หากมีการพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ศาลก็ต้องกล่าวลงท้าย(กล่าวปิดท้าย)ไว้เป็นเช่นนี้ทุกคดีด้วยกันทั้งนั้น ***
แต่ว่า...เนื่องจากว่าคดีนี้ เป็นเพียงแค่คดีแพ่งเท่านั้น(คดีที่ฟ้องร้องกันว่าด้วยเรื่อง"หนี้เงิน"เพียงอย่างเดียว) ดังนั้น จึงไม่มีบทลงโทษในทางกฎหมายให้ลูกหนี้ต้องติดคุกติดตะรางแต่อย่างใด (ถึงแม้ศาลจะกล่าวลงท้ายเอาไว้ว่า"ต้องถูกจับและจำขัง"ก็ตาม) เนื่องจากในคดีแพ่งไม่ได้มีบทบัญญัติให้ลูกหนี้ต้องติดคุกแทนการใช้หนี้...แต่...ก็มีบทบัญญัติเอาไว้ว่า ให้เจ้าหนี้สามารถทำการ"ยึดทรัพย์"หรือ"อายัดเงินเดือน"ของลูกหนี้เพื่อนำไปชำระหนี้แทนได้ ซึ่งเป็นบทลงโทษที่สูงที่สุดแล้ว สำหรับในคดีแพ่ง


สรุปก็คือ...เรื่องการฟ้องศาลของคุณกับเจ้าหนี้ในคดีนี้ มันได้จบลงไปแล้ว และไม่สามารถย้อนกลับไปทำการแก้ไขที่ชั้นศาลได้อีกแล้ว เพราะศาลได้ทำหน้าที่พิพากษาไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคุณต้องปฏิบัติตามที่ศาลสั่งภายในไม่เกิน 15วัน(นับตั้งแต่วันที่ 6/ส.ค./59 เป็นต้นไป) หากคุณไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ยื่นเรื่องของคุณไปที่"กรมบังคับคดี" เพื่อให้ทำการยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือนของคุณต่อไป


เราลองมาคิดคำนวณทั้งดอกเบี้ยย้อนหลัง และดอกเบี้ยเดินหน้า(ดอกเบี้ยเดินตามตูด) ตามที่ศาลสั่งกันก่อนดีกว่า

ศาลสั่งว่า การคิดดอกเบี้ยดังกล่าวนี้ให้คิดจากยอดเงินต้นที่ 32,962.65 บาท...ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยเอาจากยอดหนี้สูงสุดที่ศาลพิพากษา(43,697.35 บาท)
โดยดอกเบี้ยที่ว่านี้ ตามคำสั่งศาล ให้คิดในอัตราร้อยละ 10ต่อปี...ซึ่งถ้าคิดเป็นดอกเบี้ยต่อเดือน ก็จะได้เท่ากับ
= ดอกเบี้ย 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หารด้วย 12 เดือน
= 10 ÷ 12 = ร้อยละ 0.83ต่อเดือน (0.83% ต่อเดือน)

เอาเงินต้นตั้ง คูณด้วยดอกเบี้ยต่อเดือน(ตามบัญญัติไตรยางศ์) ก็จะได้ดังนี้
= เงินต้น 32,962.65บาท ÷ 100 x 0.83

= ดอกเบี้ย 274.69 บาท ต่อเดือน

ดอกเบี้ยจำนวน 274.69 บาทต่อเดือนนี้ ให้จำเลยต้องจ่ายย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 22 มกราคม 2559 และดอกเบี้ยที่ว่านี้ จะเดินตามตูดจำเลยไปเรื่อยๆจนกว่าจะชำระหนี้ให้หมด โดยอัตราดอกเบี้ยจำนวนนี้ จะไม่ลดลงเลยจนกว่ายอดหนี้ที่คงเหลือ(ยอดหนี้ที่เหลืออยู่) จะมีจำนวนน้อยกว่ายอดหนี้เงินต้นจากที่ศาลสั่ง(32,962.65 บาท)...และเมื่อใดก็ตาม ที่ยอดหนี้คงเหลือ มียอดตัวเลขเหลือน้อยกว่าเงินต้นจากที่ศาลสั่งแล้ว ดอกเบี้ยที่ว่านี้จึงจะลดลงเป็นไปในอัตราอัตรา"ลดต้น-ลดดอก"ต่อไป

ทีนี้มาดูดอกเบี้ย"ย้อนหลัง"กันก่อน...ศาลสั่งให้จำเลยต้องจ่ายดอกเบี้ย"ย้อนหลัง"ไปจนถึงวันที่ 22 มกราคม 2559 ด้วย
โดยมีคำพิพากษาของศาล(คำบังคับ)ฉบับนี้ มาติดไว้ที่หน้าบ้านของจำเลยในวันที่ 6 สิงหาคม 2559

นั่นก็หมายความว่า จำเลยต้องจ่ายดอกเบี้ยย้อนหลังทั้งหมด เป็นจำนวน 7เดือนกว่าๆ (ดอกเบี้ยย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 22/ม.ค./59 จนถึงปัจจุบัน)...แต่วันนี้ เป็นวันที่ 10 สิงหาคม 2559 แล้ว จึงต้องคิดดอกเบี้ยย้อนหลังเป็นจำนวนรวมทั้งหมดเท่ากับ 8เดือน (ต้องปัดเศษขึ้นให้เป็นจำนวนเต็ม)

= ดอกเบี้ย 274.69 บาท x 8 เดือน = 2,197.51 บาท...นี่คือดอกเบี้ยย้อนหลังทั้งหมด ที่จำเลยจะต้องจ่ายด้วย…ตามที่ศาลสั่ง

แล้วจำเลยยังจะต้องมีดอกเบี้ยเดินตามตูดไปอีกทุกๆเดือน เดือนละ 274.69 บาท นับตั้งแต่วันที่จำเลยเริ่มผ่อนชำระหนี้แบบ"หักคอจ่าย"เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระหนี้ให้หมด โดยดอกเบี้ยจำนวนนี้ จะปรับลดลงได้ก็ต่อเมื่อ จำเลยมียอดหนี้ที่ค้างชำระเหลือน้อยกว่าเงินต้นจากที่ศาลสั่ง(32,962.65 บาท)...แล้วหลังจากนั้น ดอกเบี้ยเดินตามตูดที่ว่านี้ จึงจะลดลงไปเป็นในอัตรา ลดต้น-ลดดอก ต่อไป

ดังนั้น ยอดหนี้จำนวนเต็มที่ลูกหนี้จะต้องจ่ายก็คือ ยอดหนี้ตัวเลขสูงสุดของคำพิพากษา + ดอกเบี้ยย้อนหลังไปอีก 8เดือน + ค่าฤชาธรรมเนียมศาล + ค่าทนายโจทก์ + ดอกเบี้ย 0.83% ต่อเดือน เดินตามตูดไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่ผ่อน

ก็จะได้ตามนี้

ยอดหนี้ที่ศาลสั่ง 43,679.35 บาท + ดอกเบี้ยย้อนหลัง 2,197.51 บาท + ค่าฤชาธรรมเนียมศาล 2,000 บาท + ค่าทนายโจทก์ 3,000 + ดอกเบี้ยเดินตามตูด 274.69 บาท ต่อเดือน (จนกว่ายอดหนี้ค้างชำระ จะเหลือน้อยกว่า 32,962.65 บาท)

= 50,876.86 บาท (ยอดหนี้รวมทั้งหมด ณ วันนี้)

หากจำเลยจะใช้วิธี"หักคอจ่าย" จำเลยจะต้องผ่อนจ่ายหนี้ทั้งหมด เป็นจำนวนเงิน 50,876.86บาท + ดอกเบี้ยเดินตามตูดอีก 0.83% ต่อเดือน...ให้หมดภายใน 5ปี

หากคิดตามตารางคำนวณ(Excel) ก็จะได้ตัวเลขการผ่อนอยู่ที่เดือนละ 1,050 บาท


ซึ่งหากทำเป็นตารางผ่อนจ่าย ก็จะได้ดังตารางนี้






หากลูกหนี้มีเจ้าหนี้มากราย(หลายราย) ลูกหนี้ไม่สามารถทำเรื่องผ่อนจ่ายต่อหน้าศาลในระยะเวลาอันสั้นได้หมดทุกราย(ผ่อนได้แค่ 1-3ปี ต่อเจ้าหนี้ที่ฟ้องศาลในแต่ละคดี) เพราะถ้าผ่อนจ่ายในระยะเวลาอันสั้นดังกล่าว กับเจ้าหนี้ที่ฟ้องศาลหมดทุกราย ยังไงลูกหนี้ก็ผ่อนจ่ายกับทุกรายไม่ไหวอยู่ดี

ลูกหนี้อาจใช้วิธีปล่อยให้ศาลพิพากษาไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ใช้วิธี"หักคอจ่าย"(หน้าด้านจ่าย)...แล้วค่อยมา Haircut ทีหลังก็ได้ครับ

สอบถามเรื่องขึ้นศาลค่ะ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=40812&Itemid=64#47926

การหักคอจ่าย แล้วค่อยมา Haircut ทีหลัง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=38002&Itemid=64#69307


ปล. ถ้าอยากดูตารางที่เป็นภาพชัดเจน ให้เลื่อนเมาส์ไปคลิ๊กที่ ไฟล์แนบ: (ด้านบน)


จะได้เห็นภาพตารางที่อยู่ในรูปแบบของ .pdf ไฟล์
.

ขอบคุณคุณนกกระจอกเทศมากๆ เลยนะคะ คุณให้ความรู้ได้ละเอียดมากคะ ต่อไปก็ต้องเริ่มจ่ายตามตารางแล้ว มีเงินอีกทีค่อยขอ Hair cut คะ

.
ที่สำคัญของการใช้ยุทธวิธี"หักคอจ่าย"ก็คือ จำเลยต้องรีบทำการ"หักคอจ่าย"(หน้าด้านจ่าย) ภายในไม่เกินวันที่ศาลกำหนดไว้ในคำพิพากษา
(เช่น...ถ้าในคำพิพากษา ศาลสั่งให้จำเลยต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล ภายใน 15วัน ลูกหนี้ก็ต้องรีบทำการ"หักคอจ่าย"งวดแรก ภายในไม่เกิน 15วัน ตามคำสั่งของศาล)

อย่างในกรณีของคุณ ภายใน 15วันที่ว่านี้...ให้เริ่มนับจากวันที่ศาลเอา"คำบังคับ"(คำพิพากษา)มาปิดไว้ที่หน้าบ้านของคุณ (ให้เริ่มจ่ายวันไหนก็ได้ ภายใน 15วัน นับตั้งแต่วันที่ 6/ส.ค./59 เป็นต้นไป)

โดยห้ามจ่ายน้อยกว่า 1,050.-บาทต่อเดือน(ในกรณีของคุณ) ห้ามจ่ายๆหยุดๆ หรือ จ่ายเดือนเว้นเดือน (ห้ามจ่ายแบบฟันหลอ) และต้องจ่ายทุกเดือน ภายในไม่เกินวันที่เดียวกันกับที่เริ่มจ่ายของเดือนแรก (เดือนแรกเริ่มจ่ายในวันที่เท่าไหร่? เดือนต่อๆไปก็ห้ามจ่ายเกินกว่าวันที่นั้นๆของทุกเดือน)
.

รับทราบคะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

.
สำหรับสมาชิกของชมรมฯท่านใด ที่อยากได้ตาราง Excel การผ่อนแบบ"หักคอจ่าย"เพื่อเอาไว้ใช้คำนวณเอง
ให้ไป Download ตัวอย่างของคุณ umapoc50 ได้จากใน Link นี้นะครับ

www.zabzaa.com/upload/download.php?file=587umapoc50.xlsx







หมายเหตุ การใส่ตัวเลขลงในตาราง Excel

เพิ่งได้เห็นกระทู้นี้ สนใจไฟล์คำนวณการหักคอจ่าย รบกวนอัพไฟล์ให้อีกครั้งได้ไหมครับ ลิ้งค์เดิมไฟล์ไม่อยู่แล้วครับ