เป็นห่วงสุขภาพและความรู้สึกของแม่ครับ รบกวนด้วยครับ

สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ของชมรม รบกวนด้วยครับ
คือตอนนี้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมแล้วประมาณ 1.4 ล้านครับ ตอนนี้จ่ายไม่ไหวแล้ว
เลยมีความคิดว่าจะหยุดจ่ายทั้งหมด แล้วไปรอ h/c เอา แต่ติดตรงที่ว่า ผมเป็นห่วงสุขภาพและความรู้สึกของแม่ครับ ตอนนี้ครอบครัวผมเหลือแค่ผมกับแม่กันแค่สองคน แม่อายุ78แล้ว และมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ ความดัน โรคลมชัก และพาร์คินสัน ก่อนหน้านี้ ประมาณสองปีที่แล้ว ผมมีหนี้สินที่เป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงภาระในการนำเงินมาโปะจากขาดทุนของธุรกิจทุกๆเดือนครับ และรวมถึงยอดภาระค่าใช้จ่ายในธุรกิจดั้งเดิมอีกตัวนึงที่ค้างจ่ายเค้ามานาน ตอนนั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงตัดสินใจบอกแม่ แม่จึงนำเงินเก็บเกือบทั้งหมด ประมาณเกือบสี่ล้านมาช่วยและปิดหนี้ไปเกือบหมดครับ ณ ตอนนั้นแม่เครียดมากและกังวลเรื่องนี้มากๆครับ อาการของทุกโรคที่เป็นกำเริบมากขึ้น แม่ก็ดูเหมือนจะเริ่มเป็นโรคซึงเศร้าด้วย ผมรู้สึกแย่มากที่ต้องเป็นภาระให้แม่ขนาดนี้ และเหมือนเป็นต้นเหตุให้อาการของแม่แย่ลง หลังจากนั้นมาผมก็พยายามพาแม่หาหมอตลอด มีกี่หมอพาไปหมด พาไปทานข้าว พาไปออกกำลัง อยากไปไหนพาไปหมด แม่ก็เริ่มๆดีขึ้นมาบ้าง จนตอนนี้เรียกได้ว่าโอเคแล้วครับ แต่ธุรกิจตัวนั้นที่ขาดทุนผมก็ยังดำเนินการต่อ เพราะเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่เรารักและทำด้วยความตั้งใจจริง มันจะต้องดีขึ้น แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น ตัวเลขหนี้สินเริ่มพุ่งขึ้นมาอีกแล้ว จนในที่สุดผมต้องตัดสินใจปิดกิจการไปเมื่อครึ่งปีที่แล้ว พร้อมกับยอดหนี้ 1.4 ล้านในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้ แม่ไม่ทราบครับว่าผมกลับไปมีหนี้สินอีกแล้ว จนได้มาเจอชมรมนี้ ทำให้ผมเริ่มเห็นแนวทางในการปลดหนี้ ตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับที่จะดำเนินการตามแนวทางของชมรม แต่ปัญหาคือ จะเป็นไปได้ไหมที่ตลอดกระบวนการที่เราจะทำไปจนถึงได้ h/c หรือไปขึ้นศาล ที่แม่จะไม่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรพวกนี้ของผมอีกครับ พูดง่ายๆคือ ผมไม่อยากให้แม่ต้องเป็นแบบเดิมแล้ว อยากให้ท่านได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายได้อย่างมีความสุขและสงบสุขที่สุดครับ พอจะมีทางไหมครับ มาคิดๆแล้ว ผมนี่คือตัวทำลายล้างชั้นดีเลยจริงๆ ขอบคุณมากครับ

คงจะยากนะครับ ที่คิดจะปิดบังเรื่องหนี้ไม่ให้คนทางบ้านรู้
เพราะว่าบรรดาพวกเจ้าหนี้ทั้งหลาย พวกมันจะส่งจดหมายทวงหนี้หรือส่งพนักงานทวงหนี้ โดยส่งไปยังทุกๆสถานที่ เท่าที่มันมีข้อมูลของลูกหนี้อยู่ในมือของมัน โดยไม่สนว่าข้อมูลที่มันมีอยู่นั้น จะเป็นข้อมูลใหม่หรือข้อมูลเก่าก็ตาม

หากมันมีข้อมูลสถานที่ติดต่อของลูกหนี้ 10ที่ มันก็จะส่งจดหมายทวงหนี้ไปยังสถานที่ตามข้อมูลนั้นๆ 10ที่เช่นกัน(ส่งจดหมายไป 10ฉบับ) ทั้งที่บ้านและที่ทำงานของลูกหนี้...ตามเท่าที่มันมีข้อมูล

ทางชมรมฯ จึงได้เขียนแนะนำในกระทู้ปักหมุดเอาไว้ว่า

ใครเลือกใช้วิธีที่ 2
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
1.หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอดอย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์
(ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2.ต้องบอกครอบครัวให้รู้จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไรและเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3.ต้องบอกที่ทำงาน(หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อนคนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร)ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไรและจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชีห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักทีให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่าแล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนรวมงานตามความเหมาะสม

4.จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10,000 เหลือ 5,000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3,500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1,500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัวสำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดูส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัวพยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม
5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆที่มีสารพัดรูปแบบ

อ้างอิงข้อมูลจาก
วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64#216




โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากถูกหมายศาลฟ้องแล้ว หมายศาลจะถูกบังคับให้ส่งไปแขวนประจานไว้ที่หน้าบ้านด้วยนะครับ

หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=6974&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20

ขอบคุณมากครับ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ทั้งคุณและคุณแม่ด้วยค่ะ
ค่อย ๆ อ่าน กระทู้ แก้ปัญหาไปทีละเปราะ ทีละก้อน มันจะค่อย ๆ หมดเองค่ะ
สู้ ๆ นะค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ไว้มีอะไรจะมาอัพเดทให้อีกครับ ขอบคุณจริงๆครับ

สวัสดีครับ จากครั้งแรกที่ผมมาเขียนกระทู้ก็นับได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วครับ ที่หายไปนานไม่ใช่เพราะอะไรนะครับ ไปรวบรวมความคิดให้ตกผลึกครับ รวมถึงเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมเอกสารเตรียมวิธีการเตรียมออกแบบการใช้ชีวิตและเตรียมทางหนีที่ไล่สำหรับเงินในบัญชีรออมทรัพย์ที่เป็นที่เดียวกับเจ้าหนี้รายนึงจากทั้งหมด 9 รายน่ะครับ ผมตัดสินใจแล้วว่า ผมจะหยุดจ่ายหนี้ที่เป็นหนี่้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด รวมแล้ว 9 ราย ยอดเงินรวมประมาณ 1.4 ล้านครับ จริงๆถามว่ามีจ่ายไหมกับการจ่ายดอกและหมุนวนบัตรไปเรื่อยๆ มันก็พอมีและหาทางรอดมาได้หลายปีละ แต่ว่า เมื่อไหร่มันจะหมด เมื่อไหร่จะจบสิ้นกันซักที ผมคิดวนไปวนมา น่าจะมีวิธีเดียวคือหยุดจ่ายและเก็บเงินเพื่อปิดบัญชี อันไหนต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป ขอความเป็นธรรมจากศาลท่านกันไป แบบนี้ยังพอเห็นทางออกและแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ครับ ส่วนเรื่องของแม่ ยังไงก็คงต้องบอกท่านครับ ความจริงก็คือความจริง คงจะบอกท่านเร็วๆนี้ครับ รายละเอียดหนี้สินต่างๆ ผมจะแจ้งอีกทีครั้งหน้านะครับ อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้ผมเริ่มหยุดจ่ายเป็นเดือนแรกแล้วครับ นับเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.นี้มาก็จะเดือนละ เจ้าไหนที่ถึงกำหนดแล้วแต่ผมยังไม่จ่ายก็โทรมากันบ่อยเลย อิออนนี่บ่อยมากเกือบทุกวัน ยูโอบีก็ตามมาติดๆ นอกนั้นก็ยังนิดๆหน่อยๆอยู่ครับ อ้อ ลืมบอกไปว่าก่อนหยุดจ่ายผมทำเรื่องแจ้งย้ายที่อยู่ปัจจุบันและเบอร์โทรบ้านปัจจุบันกับทั้ง 9 เจ้า และให้ที่อยู่ใหม่กับเบอร์เป็นอีกที่นึงที่แม่ไม่ได้อยู่ครับ จริงๆก็รู้ว่ามันอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก แค่ทำให้กระทบความรู้สึกแม่น้อยหน่อยก็ยังดี เรามาดูกันต่อไปว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง ขอบคุณและสวัสดีครับ

สู้ๆครับ ตอนแรกแม่ผมก็ด่าเหมือนกัน แม่ผมอยู่ ตจว ผมมาใช้ชีวิตในเมือง แรกๆแกก็ด่าครับ

หลังๆก็เข้าใจ สู้ๆครับ

เป็นความรู้สึกเดียวกันคะ ตอนที่จะบอกแม่ เป็นกำลังใจให้คะ

เราบอกท่านว่ามันเป็นหนี้ต่อเนื่องของธุรกิจเก่า พร้อมทั้งบอกวิธีที่เราจะจัดการกับหนี้อย่างไร ให้ท่านเห็นว่าเราจัดการมันได้ และบอกว่ามากสุุดจะเกิดอะไรขึ้น ทรัพย์สินเราจัดการไม่ให้เป็นชื่อของเราก่อนหมายศาลมานะคะ

และเราแจ้งธนาคารเรื่องเปลี่ยนที่อยู่ติดต่อ และเราย้ายตัวเองออกจากทะเบียนบ้าน ด้วย เวลามีจม.ทวงหนี้ และ หมายศาลมาก็จะส่งให้ที่บ้านที่เราย้ายไปคะ

ลดเอกสารไม่ต้องส่งไปบ้านแม่ได้บ้างแต่ ก็มีบ้างที่ส่งไปที่บ้าน และทีโทรเข้าที่บ้านบ้าง ที่บ้านก็บอกว่าเราย้ายออกไปแล้วคะ

สู้ๆคะ แม่เขาเป็นห่วงเราหนะ แต่เราก็ต้องทำให้เห็นว่าคราวนี้ การจัดการปํญหาครั้งนี้ แก็ปัญหาทั้งหมดได้จริง มันจะไม่เป็นแบบที่เคยเกิดอีก ให้ท่านสบายใจ

ขอบคุณมากครับ สู้ๆเช่นกันครบ

Chokdee เขียน: เป็นความรู้สึกเดียวกันคะ ตอนที่จะบอกแม่ เป็นกำลังใจให้คะ

เราบอกท่านว่ามันเป็นหนี้ต่อเนื่องของธุรกิจเก่า พร้อมทั้งบอกวิธีที่เราจะจัดการกับหนี้อย่างไร ให้ท่านเห็นว่าเราจัดการมันได้ และบอกว่ามากสุุดจะเกิดอะไรขึ้น ทรัพย์สินเราจัดการไม่ให้เป็นชื่อของเราก่อนหมายศาลมานะคะ

และเราแจ้งธนาคารเรื่องเปลี่ยนที่อยู่ติดต่อ และเราย้ายตัวเองออกจากทะเบียนบ้าน ด้วย เวลามีจม.ทวงหนี้ และ หมายศาลมาก็จะส่งให้ที่บ้านที่เราย้ายไปคะ

ลดเอกสารไม่ต้องส่งไปบ้านแม่ได้บ้างแต่ ก็มีบ้างที่ส่งไปที่บ้าน และทีโทรเข้าที่บ้านบ้าง ที่บ้านก็บอกว่าเราย้ายออกไปแล้วคะ

สู้ๆคะ แม่เขาเป็นห่วงเราหนะ แต่เราก็ต้องทำให้เห็นว่าคราวนี้ การจัดการปํญหาครั้งนี้ แก็ปัญหาทั้งหมดได้จริง มันจะไม่เป็นแบบที่เคยเกิดอีก ให้ท่านสบายใจ

ขอบคุณมากๆครับ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณคิดถูกแล้วค่ะ ที่เลือกแนวทางนี้หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมดแล้วหาทางปิดไปทีละเจ้า
ค่อย ๆอธิบายให้แม่เข้าใจว่าเราจะหาวิธีปิดหนี้แบบนี้ และมีหลายท่านจบหนี้ได้แน่นอน
สู้ ๆนะค๊ะ และขออวยพรให้คุณแม่และคุณสุขภาพแข็งแรง ปิดหนี้ได้ตามคาดหมายค่ะ

คนเรา ล้มลุกคลุกคลาน ก้าวพลาดก้าวผิด ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ พี่ศึกษาแนวทางของชมรมให้คล่องๆ

รุ่นพี่ในนี้ สิบล้าน ห้าล้าน สี่ล้าน สามล้าน หมดหนี้กันทุกคนครับ

ส่วนผม หนี้ ร่วม ๆ สามแสน ปีนี้ปีที่ ห้า เพิ่งจะหมดหนี้ครับ 55555555

นานเกิ้นนนนน

เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆครับ

คุณ tomyumkung หายไปนานเลย พอมาก็ปิดหนี้หมดแล้วดีใจด้วยค่ะ ของ pfs ยังเหลือ 2 เจ้า
ผ่อนจ่ายเจรจาในศาล KTC กับ เฟริสช้อย วางแผนไว้ว่ารวมเงินเก็บบวกเงินโบนัสจะปิดเฟริสช้อยภายในสิ้นปีหรืออย่างช้าต้นปีหน้าเจรจาส่วนลดอยู่ถ้าจบก็จะเหลือ KTC ผ่อนกันไปยาวๆ (ก็ไม่มีส่วนลดให้)

ขอบคุณครับ คุณ pfs ผมก็ยังมีภาระตกค้างอีกนิดหน่อย ปล่อยประกันชีวิตขาดตลอดช่วงที่จ่ายหนี้บัตรกับสิน

เชื่อ ตอนนี้จะหาเงินไปต่อ 40000 เพราะเสียดายที่จ่ายไปก่อนหน้าจะขาด แล้ว 20000 แน่ะ

ktc เป็นจ้าวสุดท้ายที่ผมจ่ายเหมือนกันครับ เขี้ยวจริงๆครับจ้าวนี้ แต่ก็อย่างว่าละครับ

เป้าหมายของพวกเราคือปลดหนี้ จ้าวไหนลดเยอะเราก็ยินดี จ้าวไหนลดน้อยก็รอไปคิวสุดท้ายก้ว่ากันไป

ยินดีล่วงหน้ากับคุณ pfs ด้วยครับ

ปล.รบกวนพื้นที่ พี่ เอกกี้ นิดนึงนะครับ

chanisorn เขียน: เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณคิดถูกแล้วค่ะ ที่เลือกแนวทางนี้หยุดจ่ายหนี้ทั้งหมดแล้วหาทางปิดไปทีละเจ้า
ค่อย ๆอธิบายให้แม่เข้าใจว่าเราจะหาวิธีปิดหนี้แบบนี้ และมีหลายท่านจบหนี้ได้แน่นอน
สู้ ๆนะค๊ะ และขออวยพรให้คุณแม่และคุณสุขภาพแข็งแรง ปิดหนี้ได้ตามคาดหมายค่ะ

ขอบคุณมากครับ

tomyumkung เขียน: คนเรา ล้มลุกคลุกคลาน ก้าวพลาดก้าวผิด ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ พี่ศึกษาแนวทางของชมรมให้คล่องๆ

รุ่นพี่ในนี้ สิบล้าน ห้าล้าน สี่ล้าน สามล้าน หมดหนี้กันทุกคนครับ

ส่วนผม หนี้ ร่วม ๆ สามแสน ปีนี้ปีที่ ห้า เพิ่งจะหมดหนี้ครับ 55555555

นานเกิ้นนนนน

เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆครับ

ขอบคุณมากๆครับผม ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

tomyumkung เขียน: ขอบคุณครับ คุณ pfs ผมก็ยังมีภาระตกค้างอีกนิดหน่อย ปล่อยประกันชีวิตขาดตลอดช่วงที่จ่ายหนี้บัตรกับสิน

เชื่อ ตอนนี้จะหาเงินไปต่อ 40000 เพราะเสียดายที่จ่ายไปก่อนหน้าจะขาด แล้ว 20000 แน่ะ

ktc เป็นจ้าวสุดท้ายที่ผมจ่ายเหมือนกันครับ เขี้ยวจริงๆครับจ้าวนี้ แต่ก็อย่างว่าละครับ

เป้าหมายของพวกเราคือปลดหนี้ จ้าวไหนลดเยอะเราก็ยินดี จ้าวไหนลดน้อยก็รอไปคิวสุดท้ายก้ว่ากันไป

ยินดีล่วงหน้ากับคุณ pfs ด้วยครับ

ปล.รบกวนพื้นที่ พี่ เอกกี้ นิดนึงนะครับ

ยินดีครับ แล้วแวะมาอีกนะครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเลยครับ

สวัสดีครับ

เจอกันอีกทีก็สิ้นปีเลยนะครับ วันนี้ผมมาแจ้งยอดหนี้ทั้งหมดและอัพเดทสถานการณ์ล่าสุดครับ ตอนนี้ผมหยุดจ่ายมาได้ 2 เดือนเต็มแล้วครับ เดือนหน้าก็จะเข้าเดือนที่ 3 รายละเอียดหนี้มีดังนี้ครับ

1. บัตรเครดิต AEON Platinum ยอดหนี้ประมาณ 260,000
2. บัตรเครดิต UOB Titanium ยอดหนี้ประมาณ 82,000
3. บัตรเครดิต TMB Platinum ยอดหนี้ประมาณ 62,000
4. บัตรเครดิต KBank SME Platinum ยอดหนี้ประมาณ 164,000
5. บัตรเครดิต Citibank Platinum ยอดหนี้ประมาณ 197,000
6. บัตรเครดิต Krungsri Platinum ยอดหนี้ประมาณ 170,000
7. บัตรกดเงิน KTC Cash Revolve ยอดหนี้ประมาณ 155,000
8. บัตรกดเงิน Thanachart Flash ยอดหนี้ประมาณ 103,000
9. บัตรกดเงิน Krungsri Smile Cash ยอดหนี้ประมาณ 203,000
รวมแล้วประมาณ 1,400,000 บาทครับ อันนี้คือหนี้สินที่ตัดสินใจหยุดจ่ายครับ นอกจากนี้แล้วผมยังมีหนี้สินอีก 2 รายการ เป็นหนี้รถยนต์และสินเชื่อวงเงินโอดีสำหรับ sme ครับ
1. ยอดผ่อนรถประมาณเดือนละ 15,000 บาท เหลืออีกปีครึ่ง ต้องผ่อนต่อไปเพราะต้องใช้ทำงานและพาแม่ไปหาหมอครับ
2. สินเชื่อวงเงินโอดีของแบงค์กสิกรไทย 700,000 บาท (มีที่ดินราคาประเมิน 1.1 ล้าน เป็นหลักประกันอยู่ครับ) ตัวนี้ต้องจ่ายดอกปีละ 10% ตกเดือนละ 6,400 กะว่าจะจ่ายไปก่อนเพราะดอกไม่แพงเท่าบัตรเครดิตครับ และตอนนี้ประกาศขายที่ดินผืนนี้ไปแล้วด้วย ถ้าขายได้ก็โปะหนี้ไปเลยครับ ถ้าขายไม่ได้ก็รอให้หมดหนี้ 1.4 ล้านข้างต้นก่อน ค่อยมาจัดการตัวนี้ต่อ

ตอนนี้หยุดจ่ายครบ 2 เดือน สถานการณ์ล่าสุดคือ คุณพี่อ้อน(อีอ้อนไม่สุภาพครับ) หายไปหลายวันละครับ ส่วนบัตรอื่นๆก็โทรมาเรื่อยๆ ยังไม่บ่อยมากครับ และก็กรุงศรีสไมล์แคชเริ่มมีปากมีเสียงนิดหน่อยครับ ทะเลาะกันไปนิดนึงเหมือนผัวเมียอ่ะครับ 555 และตอนนี้เริ่มมี 2 รายที่เริ่มเกริ่นเรื่องปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วครับ คือ กรุงศรีสไมล์แคช กับ ซิตี้แบงค์ ผมก็ทำบ่ายเบี่ยงไปนิดนึงกะดึงๆไว้หน่อย เผื่อเวลาเก็บเงินครับ อยากทราบว่าเพื่อนๆมีมุขในการปฎิเสธอย่างไรกันบ้างครับ จะเอาไปทำตามครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับคุณ eakie ผมเป็นกำลังใจให้ทั้งเรื่องคุณแม่ของคุณและขอให้คุณหมดหนี้ไว้ๆนะครับ ผมมีหนี้พอๆคุณเลยครับและพึ่งเริ่มหยุดจ่ายเมื่อต้นเดือนนี้ 3 แบ็งค์จากทั้งหมด 10 แบ็งค์ครับและคิดว่าต้นเดือน ม.ค. นี้จะหยุดจ่ายทั้งหมดละครับ

ผมมีหนี้บัตรเครดิตบัตรเงินสดรวม800000 ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจาเอามาลงทุนแต่ไปไม่รอด ไม่ได้เอาไปเที่ยวเล่นการพนัน ตอนแรกก็หมุนเงินเอาบัตรโน้นมาปิดบัตนี้เอารถไปรีไฟแนนมาปิดบัตรสุดท้ายหนี้กลับมาหมดจากที่เคยมีเงินติดกระเป๋าไปทำงานเป็นหลักพันเดี๋ยวนี้เหลือไม่เกินร้อย จากที่ไม่เคยประหยัดเดียวนี้กลายเป็นคนประหยัดไปโดยอัตโนมัติ พ่อแม่ท่านไม่รู้ว่าเรามีหนี้เยอะขนาดนี้เพราะผมกลัวท่านรับไม่ได้กลัวไม่สบายใจผมปิดท่านมาได้1ปีในการหยุดจ่ายเเล้วเริ่มปิดหนี้จนเหลือแค่400000 โชคดีที่เจ้าหนี้มันไม่โทรไปหาพ่อแม่ จนเมื่อผมกลับไปเยี่ยมท่านผมเลยตัดสินใจบอกท่านทุกอย่าง พอท่านได้ฟังท่านบอกกับผมว่า ดีแล้วจะได้รู้ว่าการมีหนี้มันลำบากแค่ไหน จงจำเอาไว้ต่อไปก็ประหยัด รีบหาตังไปใช้เค้าถ้าขาดเหลือก็โทรมาบอก นี่แหละคือพ่อแม่ ถึงท่านจะด่าจะว่าเราแต่จริงๆแล้วมันคือคำสั่งสอนของท่านทำให้ผมมีกำลังใจสู้ขึ้นมาอีกเยอะครับ ตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าพ่อแม่จะไม่สบายใจแล้วครับปี2559ถ้าโชคดีคงได้ปิดหนี้ให้หมดครับ