Ray2520 เขียน: ผมพึ่งโดนอายัดเงินเดือนเมื่อสิ้นเดือนมกราคม2560นี้เองครับและเมื่อวันที่11 มิ.ย.2560 ผมโดน uob มีหมายยึดบ้านอีก ผมมืดแปดด้านเลยตอนนี้เพราะผมเข้าใจมาตลอดว่าผมมีเงินเดือนเค้าจะไม่ยึดบ้านโดยที่ผมไม่รู้ว่าผมมีเงินเดือนแต่เค้าสามารถจะยึดบ้านได้ด้วย
ข้อกฏหมายที่ต้องจำ
ศาลไม่มีหน้าที่ไปอายัดหรือยึดทรัพย์ใดๆของลูกหนี้
หน้าที่ในการอายัดหรือยึดทรัพย์ของจำเลย เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีเท่านั้น...ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์...แม้กระทั่งตัวของเจ้าหนี้เอง...ก็ไม่มีสิทธิ์
โดยกระบวนการอายัดหรือยึดทรัพย์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ
ต้องจบสิ้นคดีในการฟ้องร้องต่อศาลแล้ว โดยศาลได้มีคำสั่งให้ลูกหนี้ต้องจ่ายหนี้ ตามคำพิพากษาที่ศาลสั่ง
หากลูกหนี้ยังคงเพิกเฉย ไม่ยอมปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลอีก (ลูกหนี้"ดื้อแพ่ง")
เจ้าหนี้ก็จะเอาคำพิพากษาของศาลในคดีดังกล่าว ไปยื่นคำร้องต่อ"กรมบังคับคดี"
เพื่อให้ทางกรมบังคับคดีเป็นผู้ออกคำสั่ง ยึด/อายัด (หมายบังคับคดี)
โดยเจ้าหน้าที่บังคับคดีจะเป็นผู้ดำเนินการ ในการยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนของลูกหนี้ (ซึ่งเจ้าหนี้อาจยื่นคำร้อง ขอให้ทำการยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือน พร้อมๆกันเลยก็ได้) เพื่อนำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลต่อไป
อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64
Ray2520 เขียน: ถึงตอนนี้ผมต้องทำไงบ้างครับผมหาอ่านมาหลายกะทู้มากแล้วไม่ค่อยตรงกับผมเท่าไหร่
บางกะทู้ตรงผมไม่สามารถเข้าไปอ่านได้ครับ
ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20
Ray2520 เขียน: ผมไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อไปผมเลยจะขอรบกวนให้คำชี้แนะผมหน่อยครับผมควรทำไงดีครับ บังคับคดีประเมินบ้านผมในราคา 1030000 บาท ผมติดจำนองกับ ธอส.อยู่1200000บาท มีทั้งหมด3บัญชี ผมเป็นหนี้ uob รวมดอกเบี้ยประมาณ 130000บาท
กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64
*** ซึ่งเขียนเอาไว้อยู่ในด้านล่างๆของกระทู้ว่า ***
บ้าน/ที่ดิน ที่ยังติดผ่อนอยู่ สามารถถูกยึดได้
และผมก็เคยทำ Link อันนี้ แปะให้คุณไปอ่านแล้วด้วย
(เมื่อ2ปีที่แล้ว)...คุณไม่ยอมอ่านเองนี่ครับ
ดังนั้น...กรุณาอย่ามาอ้างว่า"
เข้าใจมาตลอดว่าผมมีเงินเดือน เค้าจะไม่ยึดบ้าน
โดยที่ผมไม่รู้ว่าผมมีเงินเดือนแต่เค้าสามารถจะยึดบ้านได้ด้วย"...มันฟังไม่ขึ้นหรอกครับ
Ray2520 เขียน: ผมติอต่อธนาคาร ธอส. ธนาคารบอกว่า ขายทอดตลาดได้เท่าไหร่ต้องปิดกับ ธอส.ให้หมดก่อน uob ถึงจะได้ แต่ถ้าขายทอดตลาดได้แค่ 800000 บาท uob ก็จะไม่ได้สักบาทแถมผมต้องเป็นหนี้เพิ่มจากส่วนต่างที่บังคับขายอีก
การขายทอดตลาดบ้านที่ถูกยึดมาโดยกรมบังคับคดี จะเป็นไปได้อยู่ 3 แนวทาง ดังนี้
1.
ประมูลขายบ้าน แล้วมีคนสนใจยกมือขอซื้อประมูล โดยให้ราคาที่สูงกว่าราคาหนี้ของบ้านที่ยังติดหนี้ผ่อนอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้บ้าน ณ ปัจจุบัน
*** ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้บ้าน ในภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า"เจ้าหนี้จำนอง"
แต่ในทางกฎหมาย เขาเจ้าหนี้บ้านเรียกว่า"เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์
" ซึ่งหมายความว่า เป็นเจ้าหนี้ที่ได้รับสิทธิ์สูงสุด ในการเรียกเงินค่าหนี้ของบ้านได้ก่อนเป็นรายแรก...หากมีการนำบ้านไปประมูลขายทอดตลาด***
ในกรณีตามข้อ 1.นี้...แสดงว่าขายบ้านไปแล้วมีกำไร
(ขายบ้านได้ราคาที่สูงมาก) ทางกรมบังคับคดีก็จะทำการเรียก
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์(เจ้าหนี้บ้าน) ให้มารับเอาเงินหนี้ทั้งหมดของตัวมันเองไปก่อน
(หรือเรียกได้ว่า"เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์
"จะต้องกินให้อิ่ม
เสียก่อน เป็นรายแรก)
หาก
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ได้รับเงินของตัวมันเองไปจนหมดแล้ว แต่ยังมีเงินเหลืออยู่อีก ทางกรมบังคับคดีถึงจะทำการเรียก
เจ้าหนี้บัตรฯต่างๆที่ฟ้องศาลแล้ว และมา
เข้าคิวรอเอาเงินจากการขายบ้านหลังนี้ ให้มารับเอาเงินที่เหลือในส่วนนี้ไปในภายหลัง
โดยใช้วิธีการ
เฉลี่ยแบ่งเค๊กให้เท่าๆกัน
(ถ้าหากมีเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆ มารอเข้าคิวอยู่หลายราย) แบ่งเงินกันได้คนละเท่าไหร...ก็เท่านั้น...เพราะมันมีเงินเหลืออยู่แค่นี้...เนื่องจาก
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์เอาไปกินจนหมดแล้ว หากยังจ่ายหนี้บัตรฯต่างๆได้ไม่หมดอีก
(เจ้าหนี้บัตรฯยังกินไม่อิ่ม) ไอ้พวกบรรดาเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆเหล่านี้ ก็ต้องไป"
เข้าแถว"รออายัดเงินเดือนของลูกหนี้ต่อไป...เพราะลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สมบัติเหลือให้ยึดอีกแล้ว
แต่ถ้าหากขายบ้านได้ในราคาที่สูงมากๆๆ จนกระทั่งเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ และเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆ
กินอิ่มกันหมดจนทั่วหน้าแล้ว แต่ก็ยังมีเงินเหลืออยู่อีก ทางกรมบังคับคดีถึงจะทำการเรียก
เจ้าของบ้านที่เป็นลูกหนี้ในคดีนี้ ให้มารับเอาเงินทอนที่เหลือในส่วนนี้กลับไปอีกที
2.
ประมูลขายบ้าน แล้วมีคนสนใจยกมือขอซื้อประมูล โดยให้ราคาที่เท่ากับราคาหนี้ของบ้านที่ยังติดหนี้ผ่อนอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้บ้าน ณ ปัจจุบัน พอดี
ในกรณีตามข้อ 2.นี้...แสดงว่าขายบ้านไปแล้ว ได้ราคาที่เพียงพอกับการชดใช้หนี้บ้านได้พอดี ทางกรมบังคับคดีก็จะทำการเรียก
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์(เจ้าหนี้บ้าน) ให้มารับเอาเงินหนี้ทั้งหมดของตัวมันเองไปทั้งหมด
ส่วนไอ้พวกบรรดาเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆ ทั้งหลายแหล่นั้น...ต่างก็"อด แ_d_ก
"กันหมดทุกราย
3.
ประมูลขายบ้าน แล้วมีคนสนใจยกมือขอซื้อประมูล โดยให้ราคาที่ต่ำกว่าราคาหนี้ของบ้านที่ยังติดหนี้ผ่อนอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้บ้าน ณ ปัจจุบัน
ในกรณีตามข้อ 3.นี้...แสดงว่าขายบ้านไปแล้ว เจ้าหนี้บ้านขาดทุน
(เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ขาดทุน) ทางกรมบังคับคดีก็จะทำการเรียก
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์(เจ้าหนี้บ้าน) ให้มารับเอาเงินหนี้ทั้งหมดของตัวมันเองไปทั้งหมด
ส่วนไอ้พวกบรรดาเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆ ทั้งหลายแหล่นั้น..."
อด แ_d_ก
"กันตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว
แต่
...เรื่องมันจะไม่จบอยู่เพียงแค่นี้นะครับ เพราะไอ้
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ที่มันขาดทุน มันก็จะมาทวงหนี้เอาใน"
ส่วนต่าง"ที่มันขาดทุน กับลูกหนี้อีกที ไม่ว่ามันจะขาดทุนกี่หมื่น , กี่แสน หรือ กี่ล้านบาทก็ตาม
หากลูกหนี้ไม่ยอมชดใช้หนี้ ในส่วนต่างที่มันขาดทุนนี้ มันก็จะถือว่าลูกหนี้ยังมีหนี้ค้างชำระกับมันอยู่ แล้วมันก็จะทำการฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีแพ่งอีกคดีหนึ่งต่อไป
(มันจะฟ้องให้เป็นเหมือนกับคดีหนี้ทั่วๆไป ที่เจ้าหนี้บัตรฯต่างๆ มันใช้ฟ้องกับลูกหนี้นั่นแหละครับ ถ้าหากลูกหนี้ไม่มีเงินชดใช้หนี้ตามที่ศาลสั่งอีก มันก็จะต้องไป"เข้าแถว"รออายัดเงินเดือน เหมือนกับเจ้าหนี้บัตรฯต่างๆเช่นเดียวกัน)
ปล. ข้อเท็จจริงในการขายทอดตลาดบ้านแทบทุกคดี มักจะมีการขายบ้านได้จริง ในราคาที่ต่ำกว่าราคาหนี้ของบ้านที่ยังผ่อนอยู่กันแทบทั้งนั้น...เผลอๆ อาจขายไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินของกรมที่ดินเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น...ส่วนใหญ่ เหตุการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นจริง จึงเป็นไปตามในกรณีข้อที่ 3. เสียแทบทั้งสิ้น
ตัวอย่าง
สมาชิกใหม่ครับ
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=45304&Itemid=64#94622
อ้างอิงข้อมูลจาก
อยากหมดหนี้ 8 แสน เพื่อชีวิตใหม่
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=43560&limitstart=80&Itemid=64#94787
Ray2520 เขียน: คืออย่าพึ่งด่าผมนะครับถ้าผมอ่านเจอ
ผมเข้าไปอ่านได้ผมก็ไม่เข้ามาถามซ้ำๆหรอกครับแล้วผมก็ใช้คอมฯไม่คล่องถ้าผิดกติกาของชมรมไปบ้างผมก็อภัยไว้ด้วยนะครับ
คุณเป็นสมาชิกที่ชมรมฯแห่งนี้มา 2ปีกว่าแล้วนะครับ คุณอย่ามาอ้างว่า
อ่านไม่เจอ
จะดีกว่าครับ
สมาชิกคนอื่นๆ เขาหมดหนี้กันไปถึงไหนต่อไหน กันหมดแล้ว แต่คุณกลับมาอ้างว่า
อ่านไม่เจอ/อ่านไม่ได้
ทั้งๆที่ผมก็เข้ามาตอบกระทู้อยู่
ทุกวี่-ทุกวัน
ว่า
ความรู้ต่างๆ
มีอยู่ในนี้หมดแล้ว
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20
คุณหายหัวไปเกือบ 2ปี โดยไม่เข้ามาหาอ่านความรู้อะไรเลย พอเดือดร้อนที ก็เข้ามาตั้งกระทู้ถามที
มันถึงได้เป็นอย่างนี้ยังไงล่ะครับ
คุณอย่าลืมนะครับครับว่า หนี้ทุกบาททุกสตางค์ของคุณ...คุณสร้างด้วยตัวของคุณเองทั้งสิ้น
พวกเราในชมรมฯแห่งนี้ ไม่ได้เป็นผู้สร้างหนี้ให้กับคุณเลยแม้แต่น้อย แล้วจะให้พวกเราต้องมาใช้หนี้แทน ให้กับคุณหรือไงครับ?
ถ้าเป็นหนี้แล้วไม่ยอมรู้จักขวนขวายหาความรู้
เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาหนี้ด้วยตัวเอง
มันก็เหมือนกับการผูกปมเชือกเอาไว้เอง
แล้วเรียกร้องให้คนอื่นมาแก้เชือกให้นั่นแหละครับ