ขอแบ่งปันประสการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์

9 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #60285 โดย Chokdee
ไม่ทราบว่ากระทู้เก่าข้างล่าง ในหัวข้อเรื่อง "ขอเตือนอีกครั้ง...สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาลด้วยตนเอง" เปิดไม่ได้คะ ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรคะ ขอบคุณมากคะ

ขอให้เข้าไปดู "ตัวอย่าง" บางกรณี ได้จากในกระทู้ข้างล่างนี้
old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=15506 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=15575http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=16971http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18249 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18363http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18458 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18480

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #67364 โดย Chokdee
Replied by Chokdee on topic ขึ้นศาล กรณี KTC
เห็นหลายคนเป็นกังวลกับการไปขึ้นศาลครั้งแรก เลยขอเล่าให้ฟังนะคะ

KTC หยุดชำระ 5 เดือนได้รับหมายศาลคะ ฟ้องรวมบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด cash revolve เป็นคดีบัตรเครดิตและเงินกู้

เมื่อไปถึงอาคาร ให้ดูว่าหมายเลขคดีเราหมายเลขนี้ต้องไปที่บันลังก์ไหน(ห้องพิจารณาคดีหมายเลขอะไร) มีชื่อเรา และโจทก์ บัตรกรุงไทย ดูเสร็จก็ไปนั่งรอหน้าห้องจนเจ้าหน้าที่ห้องนั้นมาเปิดห้อง เราก็ไปในห้องบอกชื่อว่าเรามาแล้ว เขาก็เช็คชื่อว่าเรามาแล้ว เรานั่งรอทนายฝ่ายโจกท์ในห้องพิพากษา

เมื่อทนาย KTC มาถึง เขาเรียกทุกคนที่โดน KTC ฟ้องออกมาเจรจานอกห้องประมาณเกือบ 10 คน
บอกว่าทุกคนให้เหมือนกันหมดคือ 1) ผ่อนได้ 36 งวดเท่านั้น 2) ดอกเบี้ยให้ 10% 3) ถ้าไม่ผ่อนให้ศาลตัดสินเลย
4) แจ้งว่า ยอด 100,000 จ่ายเดือนละ 1,000 ยอดเกิน 100,000 จ่ายที่ 3,000 ต่อเดือน

5) เมือถามว่าถ้าเราขอเลื่อน ทนายบอกว่าวันนี้ถ้ายอม คิดดอก 10% ถ้าเลื่อนคิดดอก 20%

ซึ่งข้อ3) ถ้าคนที่ไม่เตรียมตัวอ่านข้อมูลคงจะกลัวและเลือกที่จะผ่อนตามที่ KTC แจ้ง
ข้อ 5) คิดดอก 20% (เกินกว่า 15% ได้ด้วย)!!!

ทนายถามที่ละคนว่า ยอมชำระตามที่แจ้งไหม ถ้าใครยอม ทนายก็เข้าไปห้องพิพากษาและเตรียมเอกสารออกมาให้คนที่ยินยอมเซ็นต์เอกสาร

แล้วทุกคนกลับเข้าห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ของศาลเรียกที่ละคนว่าตกลงชำระ xxxx บาท ภายใน 36 งวด มีคนถามว่าถ้าไม่ได้ในอนาคต เจ้าหน้าที่บอกให้คุยกะธนาคาร

จากนั้นคนที่ขอเลื่อนได้เซ็นต์เอกสารเลื่อน รอผูัพิพากษาขึ้นบัลลังก์ ท่านดูเอกสารกองใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ศาลส่งให้ รวมทั้งกรณีเลื่อนศาลด้วย แล้วเรียกชื่อ ให้ยืนขึ้น บอกว่าเลื่อนไปเจอกันคราวหน้า กลับบ้านได้

บรรยากาศไม่ได้มีความน่ากลัวคะ อ่านข้อมูลเตรียมไว้เยอะๆ ช่วยได้เหมือนที่คนอื่นแชร์คะ ขอบคุณกรรมการชมรม และเพื่อนที่แบ่งปันคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #67669 โดย Pheonix
วันนี้ 29 เมษายน 2558 มีคนโทรมาปรึกษาว่า ไปศาลมานัดหนึ่งแล้ว ตกลงกันไม่ได้ หน้าบัลลังก์พิมพ์รายงานกระบวนพิจารณาคดีว่า จำเลยไม่ประสงค์ต่อสู้คดี ศาลก็ย้ำถามว่า ไม่ประสงค์จะต่อสู้คดีนะ ศาลให้เลื่อนนัดขึ้นศาลอีกนัดหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2558 จำเลยก็พยายามติดต่อทนายโจทก์ เพื่อเจรจาขอลดยอดหนี้ ตั้งใจว่าจะ Hair Cut ปิดจบ โทรไปหลายครั้ง ก็ติดต่อไม่ได้ ฝากขอให้โทรกลับ แต่ก็ไม่โทรกลับเลย
แต่วันนี้ โทรมาบอกลดหนี้เหลือ 45,000 บาท ลดหนี้ให้ประมาณ 3,000 บาท และบอกว่าต้องจ่ายวันพรุ่งนี้นะ ไม่ถ้าไม่จ่ายจะคิดเต็ม หยุดจ่ายมาประมาณ 2 ปีแล้ว จะทำอย่างไร
ก็บอกไปว่า ผมยังไม่เห็นสำนวนคดีว่า มีประเด็นขาดอายุความหรือไม่ แต่หยุดจ่ายมาประมาณ 2 ปีแล้ว นี่ก็เป็นประเด็นให้ต่อสู้คดีได้ว่า เมื่ีอลูกหนี้หยุดใช้บัตร และหยุดชำระหนี้แล้ว หลังจากนั้นมีแต่รายการคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน และค่าติดตามหนี้ต่อมาเท่านั้น จึงถือว่าสัญญาเลิกต่อกันแล้ว โจทก์ไม่สามารถคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน และค่าติดตามหนี้ตามสัญญาอีกต่อไป เพราะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่ว่งหน้าที่สูงเกินส่วนอันสมควร การไปศาลหากาจะเลื่อนนัดเพื่อไปเจรจาต่อรองลดหนี้ แต่พอหน้าบังลังก์พิมพ์ข้อความว่า จำเลยไม่ประสงค์จะต่อสู้คดี หรือจำเลยยอมรับในยอดหนี้ ข้อความอย่างนี้ต้องขอให้หน้าบังลังก์เอาออกครับ ถ้ามีข้อความอย่างนี้ ทนายโจทก์ก็ยิ้มเลย เพราะถ้าไม่ประสงค์ต่อสู้คดี หรือยอมรับในยอดหนี้ เท่ากับไม่มีประเด็นโต้แย้งใดๆ การขอลดหนี้ก็จะยากลำบาก ทนายโจทก์ก็จะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้ศาลตัดสินก็แล้วกัน อย่างนี้ก็เสร็จทนายโจทก์ เพราะถ้าไม่ได้ยื่นคำให้การต่อคดี เท่ากับไม่มประเด็นโต้แย้ง ศาลจะพิพากษาให้เต็มตามฟ้องโจทก์
ศาลสั่งให้ไปศาล เพื่อไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยาน จึงควรมีคำให้การไปยื่น จะได้มีประเด็นโต้แย้ง โดยเฉพาะประเด็นการคิดดอกเบี้ยนับแต่หยุดใช้บัตรและหยุดชำระหนี้ เจ้าหนี้จะคิดดอกเบ๊้ย 20% หรือ 28% มานาน เป็นการเอาเปรียบลูกหนี้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #67694 โดย Pych

Chokdee เขียน: ไม่ทราบว่ากระทู้เก่าข้างล่าง ในหัวข้อเรื่อง "ขอเตือนอีกครั้ง...สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาลด้วยตนเอง" เปิดไม่ได้คะ ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรคะ ขอบคุณมากคะ

ขอให้เข้าไปดู "ตัวอย่าง" บางกรณี ได้จากในกระทู้ข้างล่างนี้
old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=15506 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=15575http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=16971http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18249 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18363http://old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18458 old.consumerthai.org/compliant_board1/view.php?id=18480



เว็บ old.consumerthail.org ล่มไปแล้ว และกู้คืนไม่ได้นะครับ

แต่ก็มีข้อมูลดีๆ ใหม่ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ให้อ่าน

ซึ่งพี่นกกระจอกเทศมาอัพเดทให้ทันสมัยอยู่เรื่อยๆ ครับ


เตือนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาลด้วยตัวเองเพียงลำพัง
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=8372&Itemid=64




ความรู้ต่างๆ มีอยู่ในนี้หมดแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&Itemid=64&view=category&limitstart=0&limit=20


"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #70578 โดย Chokdee
ต้องการเปลี่ยนชื่อกระทู้ เพื่อจะขอแบ่งปันประสการณ์ที่ควรรู้ของตนเองกะเพื่อนๆ นะคะ แต่กฎให้ คนละกระทู้เลยขอเปลี่ยนชื่อกระทู้นี้เป็น ขอแบ่งปันประสการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ไม้่ทราบทาง admin ต้องเป็นคนเปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่ หรือทำเองได้คะ ช่วยแนะนำด้วยคะ ขอบคุณคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #77319 โดย Chokdee
Replied by Chokdee on topic ขึ้นศาล กรณี KTC
13 ตค 2558

หลังจากหยุดจ่ายมาประมาณ 10 เดือนได้รับหมายศาลของธนาคารต่างๆ ที่ทยอยส่งมา
ขอเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์นะคะ

1) การไปศาลนัดแรกเพื่อ เจรจา ไกล่เกลี่ย ทนายฝ่าย โจทก์จะให้ทำยอมความโดยมี การจ่ายขั้นต่ำ ต่อเดือน /ภายในระยะเวลา/ ดอกเบี้ย จากที่ได้ไปศาลมา คือ
1.1) ของ First Choice ทนายโจทก์บอกว่า หนี้เกิน 150,000 จ่ายต่อเดือน 3,000 บาท และให้ชำระให้หมดภายใน 36 งวดเท่านั้น ยอดต่ำกว่า 150,000 ให้จ่ายเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน และให้ชำระให้หมดภายใน 36 งวดเท่านั้น ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ให้ได้แค่นี้คะ จาก ประสบการณ์ ของ KTC และ First Choice เป็นแบบนี้คะ

เราเกิน150,000 มาหน่อยเลยขอจ่าย 2,000 ต่อเดือนเขาก็ยอมคะ

1. 2) กรุงศรี Master (HSBC) นโยบายคือให้จ่ายเดือนละ 2000 เท่านั้น สำหรับหนี้ไม่เกิน
200,000 ให้จ่าย 36 งวดให้หมด ดอก 7.5% แต่เห็นพี่อีกคน มากกว่า 200,000 ให้จ่าย เดือนละ 4,000

บาท – กรณีพี่คนนี้มีข้อสังเกต ที่น่าจะเป็น ประโยชน์ที่จะเล่าให้ฟังในภายหลังนะคะ

 ตอนแรก สนง กม.โทรมาให้เราปิดก่อนขึ้นศาล บอกว่าถามไปศาล ต้องจ่ายขั้นต่ำ 4,000 ต่อเดือน ซึ่งไม่จริงถ้ายอดหนี้เราไม่ถึง 200,000

เขาจะโทรมาว่าไม่อยากให้เราขึ้นศาล จะลดให้ยอดหนี้ต้องจะปิดจบ เป็นต้น

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #78215 โดย Chokdee
Replied by Chokdee on topic ขึ้นศาล กรณี KTC
เขียนเมื่อ 5 พย. 58

ขอเขียนต่อจาก คราวที่แล้ว กรณี บัตรกรุงศรี คือ พี่คนนี้เขาจะเกษียณจากรัฐวิสาหกิจ อีก 2-3 เดือน และขอให้ศาลตัดสินแลย ผู้พิพากษาถามว่าแน่ใจนะ ไม่มีปัญหากะที่บริษัทนะ ถ้าจ่ายไม่ได้โดนอายัดเงินเดือนนะ พี่เขาโอเค แต่ขอจ่ายน้อยกว่า 4,000 ผู้พิพากษาบอกทนายว่าให้ช่วยต่อรองหน่อย บอกว่าศาลขอ ทนายคนนั้นหายไปนานมาก เราก็นั่งรออยากรู้ แม่งกลับมาบอกว่าทางบริษัทให้จ่ายที่ 5,000 ต่อเดือน ผู้พิพากษาทำอะไรไม่ได้ พี่เขาต้องจ่ายตามนั้นหรือเปล่าไม่รู้ เพราะเราต้องรีบกลับก่อน ข้อสงสัยว่า ทำไม ทางบริษัทมันกลับขึ้นค่าผ่อนต่องวด หรือเพราะว่าพี่เขายอมให้ตัดสินเลย ก็ไม่รู้
ไม่ทราบว่า ถ้ายอมให้ตัดสินเลยฝ่ายโจทก์ถือว่าเขาได้เปรียบเราใช่ไหม เลยทำอย่างไรกับเราก็ได้

Chokdee เขียน: 13 ตค 2558

หลังจากหยุดจ่ายมาประมาณ 10 เดือนได้รับหมายศาลของธนาคารต่างๆ ที่ทยอยส่งมา
ขอเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์นะคะ

1) การไปศาลนัดแรกเพื่อ เจรจา ไกล่เกลี่ย ทนายฝ่าย โจทก์จะให้ทำยอมความโดยมี การจ่ายขั้นต่ำ ต่อเดือน /ภายในระยะเวลา/ ดอกเบี้ย จากที่ได้ไปศาลมา คือ
1.1) ของ First Choice ทนายโจทก์บอกว่า หนี้เกิน 150,000 จ่ายต่อเดือน 3,000 บาท และให้ชำระให้หมดภายใน 36 งวดเท่านั้น ยอดต่ำกว่า 150,000 ให้จ่ายเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน และให้ชำระให้หมดภายใน 36 งวดเท่านั้น ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ให้ได้แค่นี้คะ จาก ประสบการณ์ ของ KTC และ First Choice เป็นแบบนี้คะ

เราเกิน150,000 มาหน่อยเลยขอจ่าย 2,000 ต่อเดือนเขาก็ยอมคะ

1. 2) กรุงศรี Master (HSBC) นโยบายคือให้จ่ายเดือนละ 2000 เท่านั้น สำหรับหนี้ไม่เกิน
200,000 ให้จ่าย 36 งวดให้หมด ดอก 7.5% แต่เห็นพี่อีกคน มากกว่า 200,000 ให้จ่าย เดือนละ 4,000

บาท – กรณีพี่คนนี้มีข้อสังเกต ที่น่าจะเป็น ประโยชน์ที่จะเล่าให้ฟังในภายหลังนะคะ

 ตอนแรก สนง กม.โทรมาให้เราปิดก่อนขึ้นศาล บอกว่าถามไปศาล ต้องจ่ายขั้นต่ำ 4,000 ต่อเดือน ซึ่งไม่จริงถ้ายอดหนี้เราไม่ถึง 200,000

เขาจะโทรมาว่าไม่อยากให้เราขึ้นศาล จะลดให้ยอดหนี้ต้องจะปิดจบ เป็นต้น

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81455 โดย Chokdee
เราต้องยอมความทุกคดี หรือไม่ ถ้าเรากำลังจะต้องถูกอายัดเงินเดือน ตอนนี้ได้ทำยอมทุกเจ้า และจ่ายตามที่มีมีคำพิพากษา แต่ตอนนี้ไม่สามารถจ่ายได้ ตามสัญญาแล้วคะ คงต้องหยุดจ่ายแล้วให้อายัดเงินเดือนแทน

คำถามคือ 1. ระหว่างที่เรารอว่าจะมีใครมาทำเรื่องมาอายัดเรา แต่ยังมีแบงค์อื่นทยอย ฟ้องมา เรายังต้องไปศาลใช่ไหม เพราะจะได้ไม่เป็นการหนีศาล
2. ถ้าใช่ เราก็ต้องทำยอมไปก่อนเหมือนที่เคยทำมาใช่หรือไม่คะ

ขอบคุณคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81457 โดย Chokdee
เพิ่มเติมคะ
1.ที่เรายอมความทั้งๆที่เรามีหลายบัตรเพราะเราต้องการเวลาให้นานทีสุด เผื่อเราจะหารายได้เพิ่มทัน
2. ที่เราไม่ได้สู้คดีเพราะเราไม่มีเงินจ้างทนายทุกบัตรคะ (เราเคยสู้ของKTC บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด เคสแรกเคสเดียวและ ศาลตัดสินตามโจทก์ทุกประการและให้ชำระค่าธรรมเนียมศาล ทนายอัตราสูงสุด เราเลยเซ็ง)

คำถามเพิ่มเติมคะ ตอนนี้มีหมายศาลอีก 2 เจ้า เราควรไปแล้วให้ศาลตัดสิน ใช่ไหมคะ แล้วเมื่อเราไม่ชำระตามที่ศาลตัดสิน เราก็ถูกอายัดเงินเดือน หรือ เราบอกเจ้าหนี้เลยว่าให้อายัดเงินเดือนเรา (ดูไม่ค่อยฉลาดปละคะ) คือ ควรทำอย่างรัยดีคะ ขอบคุณมากคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81458 โดย jackTs

Chokdee เขียน: เราต้องยอมความทุกคดี หรือไม่ ถ้าเรากำลังจะต้องถูกอายัดเงินเดือน


ถ้ามีเจ้าหนี้หลายราย แล้วรู้ตัวเองว่าไม่สามารถ"ยอมความ"เพื่อจ่ายแบบผ่อนได้หมดทุกรายแน่ๆ...ผมก็ได้พิมพ์อธิบายเอาไว้แล้วนี่ครับ อยู่ในแนวทางที่ 2. ไงครับ

วิธีการนี้ เหมาะสำหรับลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้“เพียงรายเดียว”เท่านั้น...หรือ เหลือเจ้าหนี้แค่รายนี้“เป็นรายสุดท้าย”
เพราะถ้าหากลูกหนี้มีเจ้าหนี้หลายราย แล้วดันไปเซ็นต์สัญญา"ประนีประนอมยอมความ"ในชั้นศาล กับเจ้าหนี้หมดทุกราย แล้วจะมีปัญญาไปผ่อนจ่ายตามสัญญาหมดทุกฉบับไหวไหม?...มันก็เข้าอีหรอบเดิมเหมือนกับตอนที่ต้องผ่อนจ่ายหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทุกราย ก่อนที่จะถูกฟ้องศาลนั่นแหละ...จริงไหม?

ดังนั้น ตัวของลูกหนี้เอง จะต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า หากเซ็นต์ชื่อลงในสัญญาแล้ว จะต้องปฎิบัติให้ได้ตามข้อตกลงในสัญญา เพราะในสัญญาฉบับนี้ มีลายเซ็นต์ของผู้พิพากษาลงนามเป็นพยานด้วย หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่เซ็นต์ไปนี้ ก็จะถือว่าเป็น“โมฆะ” และจะถูกย้อนให้กลับไปใช้ตัวเลขตามมูลหนี้ทั้งหมด ที่ยังคงเหลือค้างอยู่ตามในสัญญาทันที

ถ้าหากลูกหนี้ทำการประเมินตัวเองแล้ว คาดว่าในภายภาคหน้าอาจจ่ายชำระตามข้อตกลงในสัญญาไม่ไหว ก็อย่าไปตกลงทำสัญญาดีกว่าครับ หันมาใช้วิธีการตามในแนวทางที่ 1 หรือแนวทางที่ 3 จะดีกว่า


อ้างอิงข้อมูลจาก
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64



Chokdee เขียน: ตอนนี้ได้ทำยอมทุกเจ้า และจ่ายตามที่มีมีคำพิพากษา แต่ตอนนี้ไม่สามารถจ่ายได้ ตามสัญญาแล้วคะ คงต้องหยุดจ่ายแล้วให้อายัดเงินเดือนแทน

คุณตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วครับ...ถ้าคุณมีแค่เงินเดือนเพียงอย่างเดียว
แต่ถ้าคุณมีทรัพย์สินอื่นๆที่เป็นชื่อของคุณอยู่ด้วย คุณจะถูกเจ้าหนี้มันทำเรื่องยึดทรัพย์ด้วยนะครับ

โดนอายัดบ้านจากคดีบัตรเครดิต วงเงิน 25,000 (หน้า1)
www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=9039&view=flat&catid=2


โดนอายัดบ้านจากคดีบัตรเครดิต วงเงิน 25,000 (หน้า2)
www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&func=view&id=9039&view=flat&catid=2&limitstart=6


กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=2194&Itemid=64



Chokdee เขียน: 1. ระหว่างที่เรารอว่าจะมีใครมาทำเรื่องมาอายัดเรา แต่ยังมีแบงค์อื่นทยอย ฟ้องมา เรายังต้องไปศาลใช่ไหม เพราะจะได้ไม่เป็นการหนีศาล

ถ้าคุณมีหนี้เยอะมากๆๆๆ... ขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว(หนี้หัวโต)
คุณจะไปศาลเพื่อใช้แนวทางที่ 3. หรือจะไม่ไปก็ได้ครับ เพราะถ้าไม่ไปศาล อย่างมากศาลก็จะพิพากษาไปตามที่โจทก์ฟ้องมาก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ติดคุกติดตะรางอะไรสักหน่อย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นแค่เพียงคดีแพ่งเท่านั้น



Chokdee เขียน: 2. ถ้าใช่ เราก็ต้องทำยอมไปก่อนเหมือนที่เคยทำมาใช่หรือไม่คะ

ได้อธิบายไปแล้วนะครับ อยู่ในกระทู้นี้

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64


ถ้าคุณไม่มีทรัพย์สินอะไรให้เจ้าหนี้มันสามารถยึดได้เลยสักอย่าง ก็ปล่อยให้พวกมันเข้าแถวอายัดเงินเดือนไปเถอะครับ

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64




เพราะไอ้เจ้าหนี้ที่มันมาเข้าแถว"รออายัดเงินเดือน"เป็นรายหลังๆ มันจะติดต่อกลับมาเพื่อขอเสนอราคา "Haircut แบบยิ่งยวด "(เสนอราคาส่วนลดกันแบบถล่มถลาย)กันใหม่อีกครั้ง

กระทู้"ตัวอย่าง"ที่แนะนำให้อ่าน (อยู่ในด้านล่างๆของกระทู้)

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=43850&limitstart=20&Itemid=64#79001 (อยู่ในด้านล่างๆของกระทู้)


debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42643&limitstart=20&Itemid=64#71301 (อยู่ในอันล่างสุดของกระทู้)

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81460 โดย Chokdee
ขอบคุณมากคะพี่นกกระจอกเทศ มีเงินเดือนอย่างเดียวคะไม่มีทรัพย์สินอะไรแล้วคะ

ขอวาระตรุษจีนนี้ ให้พี่นกกระจอกเทศแข็งแรงๆ มีความสุขมากๆ รำรวยๆ ค่ะ o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81462 โดย jackTs

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81959 โดย Chokdee
1) การไกล่เกลี่ย UOB ยอดหนี้ บัตรเครดิต และสินเชื่อแยกฟ้อง 2 ส่วน รวมทั้งสิ้นประมาณ 3xx,xxx ให้แค่ 18 เดือนคะ เอามูลค่าฟ้องตั้ง หาร 18 เดือน - ซึ่งเงินมากกว่าการถูกอายัดเงินเดือนอีกคะ

2) Citi Bank บัตรเครดิต ฟ้องรวมทุกใบคะ 4 ใบ ยอดหนี้ 2xx,xxx ดอกเบี้ยไม่คิด ให้จ่ายเดือนละ 7,000 เจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าCitibank โหดสุด 3 เดือนไม่จ่ายเขา ก็อายัด หรือยึดเลย อันนี้จริงไหมคะ

3) KTC หลังจากแพ้สู้คดี ได้รับคำบังคับ (คำพิพากษาของศาล) ให้จ่ายตามที่โจกท์แจ้ง ดอก 15% ค่าทนาย 6,000 ภายใน 15 วัน ไม่มีการติดต่อจาก KTC เรื่องผ่อนจ่ายอีกต่อไป

คำถามคือ ถ้าเรายังอยากยืดเวลาการถูกอายัดเงินเดือนเราควรจ่าย Citibank ไปก่อนไหม ส่วนเจ้าอื่นที่เราเคยทำยอมไว้ ก็จ่ายหยอดไป เพราะไม่มีเงินที่จะจ่ายได้ตามสัญญาแล้วนะคะ

ยอมรับว่าเครียดและกลัวการถูกอายัด แต่มันก็เป็นทางออกทางเดียว ของเรา ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้าคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81960 โดย pfs
ตามความเห็นน่าเลือกให้อายัดเงินเดือน ถ้าคุณไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึด เพราะเจ้าหนี้อายัดได้ทีละเจ้าเท่านั้น
อายัด 30% (ถ้ายื่นภาระขอลดการอายัดลงได้เป็น 15%) เพราะคุุณมีเจ้าหนี้หลายรายที่สิ้นสุดขบวนการในศาลแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #81968 โดย Na99
เข้ามาให้กำลังใจครับ หนี้หลายตัวเหมือนกัน พึ่งไปศาลของ ktcมาเหมือนกัน ก็ผ่อนไปละ รอhc เจ้าอื่น :เฮ้อ:

สู้ไปด้วยกันครับ :สู้ๆ: :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #82007 โดย Chokdee
ขอบคุณมากคะ สำหรับคำแนะนำ และกำลังใจคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #82182 โดย tb1
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆไปด้วยกันนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #82506 โดย Chokdee
รบกวนสอบถามคะ

1) ในการณีที่เราถูกอายัดเงินเดือนแล้ว ถ้าเราทำลดหย่อนได้ 15 % เราจะได้ลด 15% ตลอดไปไหม ถ้าสมมุติเจ้าแรกเราจ่ายหมด ใน 2 ปี เจ้าที่ 2 มาอายัดต่อ เราต้องทำเรื่องขอลดหย่อนใหม่อีกไหมคะ

2) ถ้าเราจะเกษียณในอีก 7 ปีข้างหน้า เท่ากับเราไม่มีรายได้ประจำแล้ว เงินเดือน เจ้าหนี้เขาจะจัดการกะเราอย่างไร ต่อไปคะ

3) Provident Fund- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เท่าที่อ่านในนี้ และข้างนอก บอกว่าเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ยึด บางที่บอกว่ายึดได้ ในกรณีไหนคะ ยึดได้ไหม

4) เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งกะเราว่า กรณีอายัดเงินเดือน สมมติว่าโดน อายัดที่ 6000 บาท เรามีเจ้าหนี้กี่เจ้า เขาจะมาหารเงิน 6000 นี้กันเอง ไม่ได้เข้าแถวที่ละเจ้า ซึ่งมันไม่ตรงกับที่เราคุยกันนะคะ เลยงง เล็กๆว่าทำไม ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ศาลไม่ตรงกับที่เราเข้าใจนะคะ

ขอบคุณทุกท่านนะคะ ทีให้กำลังใจคะ คะ สู้ๆคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 7 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #82510 โดย jackTs

Chokdee เขียน: 1) ในการณีที่เราถูกอายัดเงินเดือนแล้ว ถ้าเราทำลดหย่อนได้ 15 % เราจะได้ลด 15% ตลอดไปไหม

ไม่ตลอดไปครับ ลดหย่อนได้เฉพาะเจ้าหนี้ในรายปัจจุบันนี้เ่ท่านั้นครับ



Chokdee เขียน: ถ้าสมมุติเจ้าแรกเราจ่ายหมด ใน 2 ปี เจ้าที่ 2 มาอายัดต่อ เราต้องทำเรื่องขอลดหย่อนใหม่อีกไหมคะ

ถูกต้องแล้วครับ เจ้าหนี้รายที่สองมันก็จะยื่นเรื่องขออายัดเงินเดือนของคุณที่ 30%ใหม่อีกครั้ง
ถ้าหากคุณอยากได้ส่วนลดเหลือ 15% คุณก็ต้องไปทำเรื่องขอลดหย่อนที่กรมบังคับคดีใหม่อีกครั้งเช่นกัน



Chokdee เขียน: 2) ถ้าเราจะเกษียณในอีก 7 ปีข้างหน้า เท่ากับเราไม่มีรายได้ประจำแล้ว เงินเดือน เจ้าหนี้เขาจะจัดการกะเราอย่างไร ต่อไปคะ

พอคุณเกษียณแล้ว เจ้าหนี้มันก็อายัดเงินเดือนของคุณต่อไปอีกไม่ได้
และถ้าหากคุณไม่มีทรัพย์สินใดๆให้เจ้าหนี้มันยึดทรัพย์ได้เลยสักอย่าง เจ้าหนี้ที่เหลือทั้งหมดก็ต้องไปเตรียมหาซื้อผ้าเช็ดหน้า มาซับน้ำตากันเองแล้วล่ะครับ




เพราะถ้าหากเกิน 10ปีไปแล้ว อายุความในการยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือนของลูกหนี้ก็หมดลงแล้วครับ

กฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีหนี้สิน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=99:2011-12-17-02-39-30&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21



Chokdee เขียน: 3) Provident Fund- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เท่าที่อ่านในนี้ และข้างนอก บอกว่าเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ยึด บางที่บอกว่ายึดได้ ในกรณีไหนคะ ยึดได้ไหม

เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไม่สามารถอายัดได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม



Chokdee เขียน: 4) เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งกะเราว่า กรณีอายัดเงินเดือน สมมติว่าโดน อายัดที่ 6000 บาท เรามีเจ้าหนี้กี่เจ้า เขาจะมาหารเงิน 6000 นี้กันเอง ไม่ได้เข้าแถวที่ละเจ้า ซึ่งมันไม่ตรงกับที่เราคุยกันนะคะ เลยงง เล็กๆว่าทำไม ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ศาลไม่ตรงกับที่เราเข้าใจนะคะ

เจ้าหนี้รายที่มันมาเข้าแถวเป็นรายหลังๆ สามารถขอแบ่งเงินที่ถูกอายัดจากเจ้าหนี้รายแรกได้ แต่มันต้องไปทำเรื่องขออนุมัติคำสั่งจากศาลแพ่งเสียก่อน

อย่างเช่นในกรณีที่ลูกหนี้ถูกอายัดเงินเดือนจากรายเจ้าหนี้แรก เป็นเงินจำนวน 6,000 บาทต่อเดือน อยู่ในขณะนี้
เจ้าหนี้ที่มันมารอเข้าแถวเป็นรายที่สองและรายที่สาม สามารถไปทำเรื่องขอร้องจากศาลแพ่ง เพื่อให้มีส่วนร่วมของแบ่งเงินในก้อนนี้ได้...ดังนั้น...มันก็จะเป็นดังนี้

ลูกหนี้ถูกอายัดเงินเดือนจากเจ้าหนี้รายแรกที่ 6,000 บาท (ลูกหนี้เคยไปทำเรื่องขอลดหย่อนการอายัดเงินเดือนมาแล้ว จากเดิมโดนอายัดเงินเดือนที่ 30% ซึ่งเป็นเงิน 12,000 บาท...และได้รับการลดหย่อนเหลือ 15% ซึ่งเป็นเงิน 6,000 บาท)

- เจ้าหนี้รายแรก ได้ส่วนแบ่งเงินอายัด 2,000 บาท
- เจ้าหนี้รายที่สอง ได้ส่วนแบ่งเงินอายัด 2,000 บาท
- เจ้าหนี้รายที่สาม ได้ส่วนแบ่งเงินอายัด 2,000 บาท

รวมทั้งเจ้าหนี้ทั้งสามราย = 6,000 บาท

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ สามารถเกิดขึ้นได้...แต่...โอกาสเช่นนี้มีขึ้นได้น้อยมาก โอกาสที่จะเป็นเช่นนี้มีได้ประมาณ 2% จากเหตุการณ์อายัดเงินเดือนตามปกติทั่วไป
เพราะการทำเรื่องขอคำสั่งจากศาลแพ่ง มีค่าใช้จ่ายและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร แถมยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าศาลแพ่งจะมีคำสั่งอนุมัติ ดังนั้น เจ้าหนี้จึงมักไม่ค่อยทำกัน
.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Na99

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

8 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #82512 โดย rainy2016

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.855 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena