ผมหมดหนี้แล้วครับ สู้กันมาเกือบ 5 ปี สู้ๆนะครับเพื่อนๆ ปิดทุกบัตรเรียบร้อย Hair Cut ทุกใบ

หนี้ที่ปิดไปทั้งหมดแล้ว
บัตรเครดิตกรุงศรี 50,000 ยอดปัจจุบัน 56,796 ปิด 29,000 ส่วนลด 48%
บัตรเครดิต กสิกร (ขายหนี้ให้บริหารสินทรัพทชโย) 48,503 ยอดปัจจุบัน 59,006 ปิด 30000 ส่วนลด 49%
บัตรกดเงินสด กสิกร (ขายหนี้ให้บริหารสินทรัพทชโย) 60,000 ยอดฟ้อง 137,000 ปิด 80,000 ส่วนลด 41%
บัตรเครดิต SCB 70,026 ยอดฟ้อง 70,046 บาท ปิด 53,000 ส่วนลด 24%
บัตรกดเงินสด SCB 51,281 ยอดฟ้อง 53,803.47 บาท ปิด 42,000 ส่วนลด 23%
บัตรเครดิตธนชาติ 29,000 ยอดปัจจุบัน 46,000 (ขายหนี้ให้๋ JMT) ขาดอายุความ ไม่ยอมฟ้อง ถ้าฟ้องเมื่อไรจะสู้เรื่องอายุความครับ


รายละเอียดข้างล่างคือเมือ่โพสวันแรกในการมาโพสที่เว็ปนี้



เงินเดือน 28,000 ,ค่าหอ+ค่ารถ 15,000 แล้ว เมื่อก่อนเงินเดือนเยอะกว่านี้ แต่มาทำที่ใหม่เงินเดือนลดลง และช่วงตกงานไป3 เดือน กดเงินมาใช้และกดเงินมาหมุนจ่าย เป็นหนี้หนัก 3 เดือนนี้เองช่วงตกงานเองครับ ชีวิต คนเรา


แต่เงินเดือนผมใช้แบงค์กสิกรอยู่ จะหยุดจ่ายทั้งหมดโดยใช้วิธีที่ 2 และรอเฮดคัด เลยจะดีไหม ไม่ไหวแล้วครับ ผ่อนขั้นต่ำบัตรต่อเดือน เดือนละ 20,000


รอโบนัสปลายปี และทำเฮดดัด ที่เดียวเลยจะดีไหม แต่ผมกลัวธนาคารกสิกรไทยนี้สิเพราะเป็นที่ออกเงินเดือนผม ครับ ทำอย่างไรดี

ถ้าไม่ไหวก็หยุดครับ ส่วนกสิกร ถ้าหยุดก็ต้องถอนเงินทันทีที่เงินเดือนเข้า หรือสมัครธนาคารทางอินเตอร์เน็ต ธนาคารทางมือถือ ไว้คอยแจ้งเตือนเงินเข้าออก และเอาไว้โอนเงินได้ครับ

เจ้าหนี้ของคุณเท่าที่อ่านส่วนใหญ่มีส่วนลดดี SCB เห็นเพื่อนสมาชิกได้กันที่ 30% ครับช่วงนี้

เจ้าอื่นก็ 40-50%

สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

หยุด จ่าย 3-4 เดือนแล้ว เฮดคัด เลยได้หรือเปล่าครับ หรือ ต้อรอ นานกว่านั้น

mmsvs เขียน: หยุด จ่าย 3-4 เดือนแล้ว เฮดคัด เลยได้หรือเปล่าครับ หรือ ต้อรอ นานกว่านั้น

เท่าที่อ่านข้อมูลมาน่าจะ 6 เดือน ขึ้นไป ไม่ต้องรีบ ไปเก็บเงินซะ

mmsvs เขียน: หยุด จ่าย 3-4 เดือนแล้ว เฮดคัด เลยได้หรือเปล่าครับ หรือ ต้อรอ นานกว่านั้น

ไหนบอกว่าอ่านกระทู้ปักหมุดมาแล้วไง
ถ้าอ่านแบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่อ่านแบบลวกๆ ก็คงไม่ถามแบบนี้หรอก

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=64

หยุดไปจะ2 เดือน ช่วงนี้โทรมาเรื่อยๆ นิ่มๆ ผมบอกผลัดไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีปฎิกริยาอะไร มีกรุงศรีเจ้าเดียวบอกจะดำเนินการตามระบบ

ไทยพาณิช โทรมาครั้งเดียว
กสิกรไทยครั้งเดียว

ซิตตี้แบง โทรบ่อยแต่ไม่รุนแรง ผลัดไปรื่อยๆ
ธนชาติ โทรมาครั้งเดียว


เก็บเงินอย่างเดียวครับ ตอนนี้ รอเป็นไทยปีหน้า

SCB นี้ส่วนลดยากมากหรอครับ 40-50% นี้มีโอกาสไหม

บัตรสปีชแคช และบัตรเครดิต วีซ่า

พอดีไล่อ่านหลายๆคน เจ้าหนี้ SCB เจ้านี้ มีใครได้ส่วนลด เกิน 30% บ้าง เห็นแต่ละคนได้น้่อยๆทั้งนั้น
บางทีลดยังไม่ถึงยอดหยุดเลย พอดีผมมีเจ้าหนี้รายนี้อยุ่ด้วย

เลยอยากทราบข้อมูล พี่ๆว่า เจ้าหนี้รายนี้ได้ส่วนลดเยอะๆกันบ้างไหมครับ

อัพเดทหนี้ที่แท้จริงครับ ด้านบนยอดประเมิน

ตอนนี้ทำตารางหนี้ มาเรียบร้อยแล้ว และก็เก็บเดือนละ 5000 ครับ

อดทน+อดกลั้นมีแรงใจที่ดีมุ่งมั่น อ่านและทำความเข้าใจในกระทู้ปักหมุดมากๆ หนทางที่สดใสรอคุณอยู่แน่นอนค่ะ เป้นกำลังใจให้น่ะค่ะ

ส่วนผมขอเป็นกำลังใจในด้านการเก็บเงินนะครับ

***ต้องระวัง*** เงินสดในมือให้ดีครับ เพราะมันจะหายไปแบบไม่รู้ตัว
ประสบการณ์ผมนะครับ รอ แฮร์คัด เหมือนกัน พอเห็นว่าเจ้าหนี้ไม่ให้ส่วนลด
ตามที่เราอยากได้ ก็เล่นตัวต่อ เผลอแป๊บเดียวเงินที่จะใช้ แฮร์คัด หายหมด
แล้วมันไปไหนครับ มาย้อนคิดดู ไม่ได้หมดกับการซื้ออะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรอกครับ
หมดกับ ของกิน สังสรรค์ ของใช้จิปาถะ (ของที่ไม่จำเป็นเพียงแต่อยาก และมีเงิน)

เก็บให้อยู่นะครับ ด้วยรักและปรารถนาดี ในเรื่องการเก็บเงินครับ...

ช่วงนี้ค้างจ่ายเดือนที่ 2 ก็มีการโทรมาเรื่อยๆ ผมใช้วิธีเลื่อนจ่ายไปเรื่อยๆ

แต่ละแบงค์ยังพูดจาดีอยู่ เคยลองพูดว่าไม่มี มีทำเสียงแข็ง เลยใช้วิธีบอกผลัดไปเรื่อยๆ ก็โอเคดี

สู้ๆครับ เงินเก็บผมแยกบัญชีไว้เฉย บัญชีนั้นไม่มี atm ทำให้ระมัดระวังมากขึ้นครับ เงินออกรีบโอนไปเก็บก่อน

และรีบจ่ายค่าใชจ่ายที่จำเป็นก่อน เพราะกลัวถือเงินเยอะแล้วจะไม่มีสติ

อัพเดท หน่อย

ตอนนี้เดือนที่ 2 ย่างเข้าเดือนที่ 3 มีโทรมาเรื่อยๆ รับทุกสายใช้เสียงนิ่งๆ เจ้าหนี้ก็พูดจาดีอยู่


โชคดีเดือนหน้าได้งานใหม่อีกแล้ว เงินเดือนขึ้นมา 8000 จะได้มีเงินเก็บเยอะๆ ครับ

แต่ผมเป็นคนเปลี่ยนงานบ่อย ไม่ค่อยอดทด อยากได้ขอเตือนสติในการทำงานจากพี่ๆหน่อยได้ไหมครับ หนี้ที่สร้างมานี้ก็มาจากการออกจากงานมาก่อนได้งานใหม่ และมานอนอยู่บ้านเฉยๆ ภาระก็มีที่ต้องจ่าย (แต่ผมตั้งใจไว้จะไม่ออกจากงานก่อนได้งานใหม่อีกแล้วครับ) สู้ๆ อยากอดทนในการทำงานมากๆจังเลย

อัพเดท ตอนนี้ น่าจะเข้า 4 เดือนครึ่ง เพิ่งถูกส่งออกจากสำนักงานกฎหมาย

กรุงศรี ยอดหนี้ตอนหยุด 49,000 ตอนนี้ 55,000 เจ้าแรกที่โทรมาบอกข่าวดีเลย บอกว่าพี่พอจะปิดบัญชีไหม มีส่วนลด ผมแกล้งโง่ไป ถามว่าคืออะไรครับ

คุยไปคุยมาก เขาบอกว่า ผมมีส่วนลดให้ จากยอด 55,000 ลดให้ เหลือ 36,000
คุยไปใกล้วางสายผมบอกไหว 25,000 เขาบอกลดได้สุดๆ 31,000 สนใจไหมครับให้คำตอบวันจันทร์ มีการบอกให้หยอดจ่ายเข้าไปก่อน 1 งวด ผมบอกไม่จ่ายครับ คุยแต่ส่วนลดอย่างเดียว

ลองคำนวนดูคราว ๆ ถ้า 31000 ตอนนี้จะได้ ส่วนลด 44% ลดไป 24000 บาท
แต่ผมอยากจ่ายแค่ 25,000 อยากได้ส่วนลดที่ 54% ครับ ลดไป 30,000
จะพยายามครับ ขอให้ทุกคนโชคดี

เรียนคุณ nr_panpan และ คุณ mmsvs , maruko ขอตอบตามที่ทั้ง2ท่านอยากทราบ(เท่าที่รู้มานะครับ)ดังคำตอบด้านล่างรายข้อแล้วครับ..
mmsvs เขียน:
ขอแชร์

1. บัตรเสริมสามารถถูกฟ้องพ่วงไปด้วยได้หรือไม่?
จริงๆแล้ว..ไม่สามารถครับ..เพียงแต่เจ้าหนี้มักจะฟ้องศาลเพื่อให้บัตรเสริมรู้สึกอึดอัดเล่น..และคาดหวังให้มากดดันบัตรหลักด้วยอีกทางหนึ่งเท่านั้น..อันนี้บัตรเสริมรอดเมื่อถึงขั้นศาล..แต่บัตรหลัก..ไม่รอด..ต้องรับผิดชอบในส่วนบัตรเสริมอยู่ดีนะครับ..
2. ข้อเสียของการยอมความหน้าศาล
ไม่ควรยอมความหน้าศาล(เป็นอย่างยิ่งครับผม)..หากไม่มีความจำเป็นยิ่งกว่าอื่นๆ เช่น กลัวการยึดบ้าน. ยึดทรัพย์สิน ที่มีความหมายต่อชีวิตเรามากๆ หรือความจำเป็นระดับเดียวกันด้านอื่นๆ เพราะ
2.1 หากทำยอมไปแล้วบังเอิญจ่ายไม่ตลอดรอดฝั่ง(หากคุณประเมินแล้วจ่ายได้ตลอดก็ไม่ว่ากัน) จ่ายไม่ไหวเมื่อใด..เจ้าหนี้ที่รอบจัด(อยู่แล้ว)จะรีบฟ้องศาลอีกครั้งในทันที..และศาลท่านจะไม่ช่วยเราเลย..เนื่องจาก..เอกสารที่ทำยอมนั้น..มีศาลร่วมเป็นพยานรับทราบอยู่ด้วย..ถือว่าเราตะบัดสัตย์ต่อศาล
2.2 เราไม่มีทางเลือก(เล่น)ในการจ่ายคืนเจ้าหนี้..เช่นอยากหักคอจ่ายก็ทำไม่ได้..อยากปล่อยให้อายัติเงินเดือน..ก็ไมได้..คือมันไม่ยืดหยุ่นในการดำรงชีวิตหลังจากนั้น..ต้องหามาจ่ายตามกำหนดให้ได้ไม่มีทางเลี่ยงอื่นเลย(มันจึงยากไง หากมีความจำเป็นในการดำรงชีวิตจะลำบากกว่าให้ศาลตัดสินไปเลยถ้าไม่มีอะไรโต้แย้งหรือสู้คดี)
3. การหักคอจ่าย..
หลังจากศาลท่านตัดสินเรียบร้อย(ต้องให้ศาลตัดสิน ไม่ว่าเป็นการยอมให้ท่านตัดสินหรือหลังการสู้คดี และต้องไปศาลและปฏิบัติตามขั้นตอนในขั้นศาลโดยละม่อม)..ศาลท่านไม่ได้บอกว่าให้จ่ายกันอย่างไร..เพียงแค่ให้จ่ายด้วยเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ ให้ครบภายในเวลาเท่าไหร..เนื่องจากเราเดือดร้อนอยู่เราก็สามารถจ่ายด้วยเงินและจำนวนงวดการจ่ายที่เราประเมินแล้วอยู่ในข่ายเราสามารถจ่ายได้ตลอดรอดฝั่ง..แต่ไม่เท่ากับที่ตกลงกับเจ้าหนี้หลังทราบคำตัดสิน 15วันดังที่รู้กัน แต่จำนวนเงินที่เราจ่ายต้องไม่น่าเกลียดหรือน้อยเกินไป โดยสามารถจ่ายได้ตลอด..อาจใช้ประโยคนี้ "แกเอาไปเดือนละเท่านี้แหละเจ้าหนี้เอ๋ย..รับรองว่าฉันจ่ายเสมอต้นเสมอปลายแน่นอน..แต่นานหน่อยนะ"..แต่ไม่ควรนานเกินไปจนเจ้าหนี้เขาหมั่นไส้นะครับ..อารมย์นี้แหละครับ..ไม่ทราบว่าพอจะเข้าใจหรือเปล่า
4. ดอกเบี้ยที่เป็นธรรมนั่นอยู่ตรงไหน?
ประเด็นนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน..ศัพท์ทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศน่าจะเป็น "ประเด็นอ่อนไหว" เอาเป็นว่าดอกเบี้ยตาม กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดอัตราดอกเบี้ย "เงินกู้" ไว้ห้ามคิดกับลูกหนี้เกิน 15% ต่อปี แต่สำหรับเงินกู้ในรูปแบบบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เจ้าหนี้กลับไปใช้ "ประกาศของแบงก์ชาติ" แทนโดย บัตรเครดิตคิดได้ที่ 20% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลคิดที่ 28% ซึ่งรวมเอาดอกเบี้ย15%รวมกับค่าธรรมเนียมเงินกู้+อะไรอีกต่ออะไร ที่เป็นประกาศของแบงก์ชาติให้สามารถคิดรวมเข้าไปได้ และพวกเราก็ยอมเซ็นต์สัญญากันก่อนปล่อยกู้ออกมา..กันอยู่นี้แหละครับ
ทำไมmarukoจึงบอกว่าเป็นประเด็นอ่อนไหว..เนื่องจาก..จากฎีกา(คำตัดสินของศาลที่เป็นอันสิ้นสุดเป็นคดีตัวอย่าง)ที่ผ่านมา..การคิดเกิน 15%ต่อปี..บางคดีเจ้าหนี้ก็ชนะ, หลายคดีลูกหนี้ก็ชนะ เลยบอกยากว่าจะเอา15%ตัวนี้ไปสู้คดีในชั้นศาลได้เต็มปากมากนัก..แต่น่าแปลกตรงที่..ไม่ว่าฝ่ายไหนจะแพ้หรือชนะ..ในคำตัดสินของศาลที่สั่งให้ลูกหนี้จ่ายแก่เจ้าหนี้ตามมูลหน๊ที่ฟ้องนั้น..ศาลท่านกลับให้จ่ายด้วยอัตราไม่เกิน 15%ต่อปีทุกฎีกา อาจจะ 7.5%, 10%,12% หรือสูงสุดก็ไม่เกิน 15%ต่อปี..มันแปลกดีนะครับ
marukoขอออกความเห็นส่วนตัวเรื่องการใช้ 15%ในการสู้คดีในขั้นศาล..marukoเห็นว่าศาลท่านจะมองว่าลูกหนี้ท่านนั้นๆที่ผ่านมา..มีเจตนาจ่ายคืนเจ้าหนี้..มาก/น้อย..เพียงใด..มากกว่า..ถ้าลูกหนี้จ่ายมาตลอดไม่เคยขาดเลยแม้แต่งวดเดียว..10ปีผ่านมาแล้ว..มีปัญหาช่วงหลังๆมานี้แหละที่จ่ายไม่ได้จนเรื่องถึงโรงถึงศาล..เจ้าหนี้เพียงแค่เอาเงินต้นมาเพาะต้นกล้าไว้..ได้แตเก็บเกี่ยวดอกผลอยู่ถ่ายเดียว 10ปีมาแล้ว..อันนี้ลูกหนี้..ชนะ แต่ตรงกันข้ามลูกหนี้จ่ายกระท่อนกระแท่น,หรือไม่จ่ายเข้ามาเลยแม้แต่งวดเดียวอันนี้ marukoก็คิดว่าลูกหนี้แพ้..แหงๆ..อย่าลืมว่า..เจตนาบริสุทธิ์/สกปรกคือประเด็นสำคัญที่ marukoเห็นว่าศาลท่านน่าจะมองที่จุดนี้เป็นหลักหนึ่งในการพิจารณา

นี้หน่อยสิครับ อยากรู้เหมือกกัน
อยากรู้เรื่องนี้เหมือนกันค่ะ. ยังไม่มีโอกาสไปฟังอบรมเลย. รบกวนคุณmarukoด้วยค่ะ
maruko หวังเป็นอย่างยิ่งว่าน่าจะเป็นคำตอบ..และได้มีส่วนช่วยเหลือสำหรับการตัดสินใจของ2ท่าน..ไม่มากก็น้อย..ขอให้สู้..สู้..ต่อไปครับ ช่วงนี้ลูกๆปิดเทอม..ช่วงนี้กำลังสะสมเงินสำหรับลูกๆของ marukoก่อนก็แล้วกัน..เจ้าหนี้ก็ได้โปรดเห็นใจด้วยก็แล้วกัน..ไหนๆก็ให้โอกาศ maruko มานาน 8เดือนเต็มแล้วก็ขอต่อไปอีกสักเล็กน้อย..ให้ลูกๆได้เล่าได้เรียนกันก่อน..ถือเสียว่าเป็นลูกเป็นหลานตาดำๆ 3คน..ขอฝากเจ้าหนี้ด้วยครับ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ

maruko ขอเพิ่มเติมนะครับ เนื่องจากคุณเด็กหญิงส้มโอได้กรุณาเพิ่มเติมในส่วนที่ maruko ได้แนะไว้ เพื่อให้คุณ mmsvs ได้ปรับความเข้าใจเรื่องการทำยอมหน้าศาลใหม่ ขอเอาข้อความคำตอบคุณเด็กหญิงส้มโอจากกระทู้คุณ nr_panpan มาฝากให้นะครับดังนี้


ข้อเสียการยอมความหน้าศาล

ขอเสริมคุณ maruko จาก
หากทำยอมไปแล้วบังเอิญจ่ายไม่ตลอดรอดฝั่ง(หากคุณประเมินแล้วจ่ายได้ตลอดก็ไม่ว่ากัน) จ่ายไม่ไหวเมื่อใด..
เจ้าหนี้ที่รอบจัด(อยู่แล้ว)จะรีบฟ้องศาลอีกครั้งในทันที..และศาลท่านจะไม่ช่วยเราเลย..
เนื่องจาก..เอกสารที่ทำยอมนั้น..มีศาลร่วมเป็นพยานรับทราบอยู่ด้วย..ถือว่าเราตะบัดสัตย์ต่อศาล

เป็น
หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ สัญญาประนีประนอมยอมความทั้งหมดจะถือว่าเป็น“โมฆะ”
และจะถูกย้อนให้กลับไปใช้ตัวเลขมูลหนี้ทั้งหมด ในอัตราสูงสุดของหมายฟ้องในครั้งแรกทันที
อีกทั้ง ทางฝ่ายโจทก์สามารถยื่นเรื่องผ่านไปที่“กรมบังคับคดี”ได้เลย โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำอีกแล้ว
และจำเลยก็ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ด้วย เพราะถือว่าจำเลยได้ทำการ“ตระบัดสัตย์”ต่อศาล(ในฐานะพยาน)ไปแล้ว

สรุป ไม่มีการฟ้องซ้ำ เจ้าหนี้จะใช้ไม้ที่ 2 คือ การบังคับคดีเลย

เดือนนี้เข้าเดือนที่ 6 แล้ว

กรุงศรี ที่รอบก่อน บอกจะลดหนี้ให้ แต่ดันเปลี่ยนบริษัทกฎหมายไปสะก่อน

รอบนี้มาใหม่ หนี้กรุงศรี ปัจจุบัน 56000 ตกลงให้จ่าย 29000 ลดไป 48% แบ่งจ่าย2งวด
งวดละ14500 บาท รอใบลดหนี้อยู่ รอ 1-2 วันครับ เดียวได้มาแล้วจะเอามาให้ดูครับ

ส่วนเจ้าอื่นๆ ก้โทรมาบ้าง ไม่บ่อยเท่าไร แต่ยังไม่ได้คุยส่วนลดเลย

เอกสารลดหนี้กรุงศรี มาแล้วครับ


ปิดบัตรใบที่1 บัตรเครดิตคกรุงศรีอยุธยา
ระยะเวลาหลังหยุดชำระหนี้ 5 เดือนกว่า
เงินต้น 50,000
ยอดปัจจุบัน 56,796
เงินที่ต้องชำระ 29,000 บาท แบ่งจ่าย 2 งวด เดือนละ 14,500
ส่วนลดที่ได้ 48 % ครับ

รูปไม่ขึ้น ทำไงครับ บอกที

เริ่มเคลียร์ได้แล้ว 1 ราย นั่นเท่ากับว่าหมดศัตรูไปแล้ว 1 ราย ยินดีด้วยครับ ผมเพิ่้งเริ่มหยุดได้ 1 เดือนเอง ยังอีกยาวไกลครับ แต่ก็ยืนยันจะขอสู้ต่อไป