ไกล่เกลี่ยที่ศาลมาขอคำปรึกษาครับ

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #363 โดย LemonSSS
เมื่อ19ธ.ค.54ไปไกล่เกลี่ยที่ศาลยอมความกับ geแคปปิตอลกรุงศรีเฟริส์ช้อยสินเชื่อ่วนบุคคลโดยยอดเงินต้นที่เริ่มหยุดจ่าย2600ผ่านมา2ปี
ยอดฟ้อง41000ทำสัญญายอมความผ่อนขั้นต่ำ1000ต่อเดือนระยะ1ปีสัญญากำหนดให้ชำระหมด1ปีไม่คิดดอกถามทนายโจทก์
ว่าภ้าจ่ายขั้นต่ำ1ปีจะทำให้ชำระไม่หมดทนายบอกเมื่อถึงเวลาให้ทำสัญญาผ่อนต่อคิดดอกเบี้ย15%ต่อปีโดยคิดเงินต้น
จำนวนที่เราส่งไปแล้วภายใน1ปีแบบลดต้นลดดอกคำถามครับ
1.สิ่งที่ทนายโจกท์บอกสามารถทำได้จริงหรือไม่ครับ
2.ในระยะ1ปีที่ชำระรายเดือนแล้วสัก2เดือนแล้วปิดยอดทั้งหมคจะได้ส่วนลดมากน้อยแค่ไหนเพราะในสัญญา
ต้องชำระให้หมดภายใน1ปีอย่างนี้เขาจะใช้ข้อนี้ไม่ลดให้เราหรือไม่
3.วิธีไกล่เกลี่ยถูกต้องหรือไม่
4.บัตรเครคิตกับสินเชื่อบุคคลความหมายคืออะไรครับมีหลายใบครับประเภทให้เงินมาก้อนเดียวกับให้วงเงินในบัตร
เมื่อนำไปใช้ในแต่ละครั้งต้องเซ็นสลิปใช่บัตรเครคิตหรือเปล่าครับ
ขอขอบคุณทุกท่านและขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #367 โดย Nok2865

phurin เขียน: 1.สิ่งที่ทนายโจกท์บอกสามารถทำได้จริงหรือไม่ครับ

ตอบ ทำได้จริง แต่ต้องมีหนังสือไกล่เกลี่ยที่ออกจากหน้าบัลลังก์ มีเสมียนศาลเป็นคนพิมพ์ มีคุณ(จำเลย) มีทนาย(โจกท์) มีผู้พิพากษา และมีเสมียนศาลเป็นพยาน เซ็นชื่อ
โดยทางเสมียนจะอ่านให้คุณรับทราบ ว่าที่เขียนๆมาเนี้ย เป็นแบบที่คุณและทนายตกลงกัน ถูกต้องไหม?
เมื่อคุณอ่านแล้ว ถูกต้องเป็นไปตามที่ตกลงกัน ก็เซ็น
หนังสือนี้ข้อตกลงระหว่างคุณกับเจ้าหนี้ หากปฏิบัติไม่ได้ตามที่เซ็นไว้ เจ้าหนี้สามารถส่งบังคับคดีได้เลย ไม่ต้องฟ้องซ้ำอีก

2.ในระยะ1ปีที่ชำระรายเดือนแล้วสัก2เดือนแล้วปิดยอดทั้งหมคจะได้ส่วนลดมากน้อยแค่ไหนเพราะในสัญญา ต้องชำระให้หมดภายใน1ปีอย่างนี้เขาจะใช้ข้อนี้ไม่ลดให้เราหรือไม่

ตอบ ขอยืมคำพูดมาจากพี่นกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นคำพูดศักดิ์สิทธิ์ของชมรมคือ "แฮร์คัททำได้ตลอดชีพ"
การไกล่เกลี่ยมีข้อดีตรง หากประเมินตัวเองแล้ว ไหว ก็ผ่อนชำระไป (ต้องเหลือหนี้น้อยราย) เก็บเงินส่วนหนึงไว้แฮร์คัท
ถามกลับกัน หากคุณเป็นเจ้าหนี้ อยากได้หนี้คืนเร็วๆเป็นก้อน หรืออยากได้เบี้ยหัวแตก
ส่วนลดจะได้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของเจ้าหนี้ บางทีถ้าส่วนลดจ่ายก้อนเดียวได้ลดน้อย ก็สู้ผ่อนเยอะๆหน่อยแต่ปลอดดอกไปปีหนึ่ง ตัดสินใจเอาเองค่ะ

3.วิธีไกล่เกลี่ยถูกต้องหรือไม่

ตอบไปแล้วในข้อหนึ่ง

4.บัตรเครคิตกับสินเชื่อบุคคลความหมายคืออะไรครับมีหลายใบครับประเภทให้เงินมาก้อนเดียวกับให้วงเงินในบัตร เมื่อนำไปใช้ในแต่ละครั้งต้องเซ็นสลิปใช่บัตรเครคิตหรือเปล่าครับ

ตอบ เสียดายลิงค์ที่พี่นกกระจอกเทศ และน้อง pikolo ทำเอาไว้หาย อธิบายความหมายของบัตรแต่ละใบ และาอยุความของแต่ละบัตรได้ชัดเจนมาก
กอบัวขี้เกียจพิมพ์ และพูดภาษากฎหมายไม่เก่งเหมือนพี่นก จะอธิบายให้ฟังค่ะ


บัตรเครดิต คือบัตรที่ให้วงเงินมาก้อนหนึ่ง ใช้ได้ทั้งรูดซื้อของ และกดเงิน เวลารูดซื้อของ ต้องเซ็นสลิปทุกครั้ง บัตรนี้ มีอายุความในการฟ้องนับตั้งแต่ ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย จนถึงวันฟ้อง 2 ปี
บัตรกดเงินสด คือมีวงเงินมาให้ แล้วคุณถือบัตรไปกดเงินที่ตู้ ATM ใช้มา จ่ายไป วงเงินคืนให้ ก็กดไปกดมา จนกว่าวงเงินจะเต็ม กดไม่ได้
บัตรนี้ มีอายุความในการฟ้องนับตั้งแต่ ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย จนถึงวันฟ้อง 2 ปี
สินเชื่อส่วนบุคคล คือสถาบันการเงินให้เงินก้อนมาก้อนหนึ่ง โยนโครมใส่บัญชีมาให้ก้อนเดียว แล้วคุณก็ผ่อนชำระเป็นงวดๆ จนกว่าจะครบตามสัญญา
บัตรนี้ มีอายุความในการฟ้องนับตั้งแต่ ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย จนถึงวันฟ้อง 5 ปี

การนับวัน ให้นับจากวันครบกำหนดชำระ แล้วคุณ "เบี้ยว" เช่น คุณมีกำหนดชำระทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน
คุณชำระครั้งสุดท้ายไปเมื่อ 1 ธันวาคม 2554
ถ้าเป็นบัตรเครดิต คุณจะหมดอายุความในวันที่ 1 มกราคม 2556 ค่ะ

และยังมีพวกสินเชื่อพวกผ่อนสินค้า เงินกู้ มากมาย
อันนี้มีให้อ่านในลิงค์เก่า "ไขปัญหาที่เกิดจากการผ่อนสินค้า" ที่พี่นกอธิบายไว้ ไปหาอ่านได้


เอาไว้หลังปีใหม่แล้ว กรรมการชมรมฯ จะพยายามทำลิงค์ และกู้ข้อมูลเก่าๆมาให้มากที่สุด
และประธานชมรมฯ อาจจะ อาจจะ...May be ค่ะ (เพราะประธานงานส่วนตัวยุ่งมาก)
เขียนกระทู้เด็ดๆ รวมทั้งกระทู้สุดยอดในดวงใจ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับสมาชิกบอร์ด ต้องติดตามต่อไป

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.370 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena