อยากปลดหนี้กับ KTC

สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนปรึกษาครับ

คือเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี 2551 ผมมีทำบัตรเครดิต KTC ให้แฟนใช้เพราะทนแฟนเค้าพูดเหมือนเราไม่เชื่อใจเค้าบ่อยๆ ไม่ไหว เอกสารก็ให้ส่งไปที่บ้านของแฟนผม โดยช่วงแรกแฟนก็จ่ายเงินค่าบัตรครบทุกครั้ง ไม่เคยติดหนี้ ผมจึงวางใจ แต่หลังจากนั้นพอปี 2553 เราได้มีปากเสียงกันแล้วทะเลาะและเลิกกัน ผมจึงขอบัตรคืน เค้าบอกว่าให้ผมเอาไป พร้อมหนี้ 94,000 บาทด้วย แล้วก็ผมก็ตกใจไม่คิดว่าจะมากเท่านี้เพราะตอนเปิดบัตรมา วงเงินแค่ 30,000 บาทเอง แต่ก็ทราบและเข้าใจดีว่า ผมต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อหนี้นี้ เพราะผมเป็นเจ้าของบัตร ทางแฟนก็บอกจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น

เมื่อเดือน สิงหาคม 2553 ทาง KTC ก็ได้มีการโทรมาทวงเงินกับผม และผมได้สอบถามข้อมูลกับทาง KTC จึงแจ้งผมว่า ผมได้ชำระแต่เงินเข้ามาทุกเดือน ๆละ 10,000 บาท หลังจากนั้นก็กดเงินสดออกไปใหม่ทุกเดือน ๆ มาประมาณปีกว่าๆแล้ว
ผมจึงปรึกษาเรื่องนี้กับทาง KTC และทาง KTC จึงได้แนะนำให้ผมไปแจ้งความ เพื่อนำใบบันทึกประจำวันและให้ส่งแฟ๊กไปให้ทาง KTC ทำเรื่องตรวจเช็คภาพจากวงจรปิด ว่าคนที่เข้ามากดเงินเป็นใคร คนที่ที่เข้ามาชำระเงินในแต่ละงวดเป็นใคร แล้วทาง KTC ก็แจ้งผมมาว่า ผมต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้ แล้วทางผมจะต้องไปเรียกร้องกับทางคนที่นำเงินไปใช้เอง หลังจากผมได้ส่งเอกสารใบแจ้งความไปให้ทาง KTC แล้ว ทาง KTC ก็เงียบหายไป จะมีมาแต่คนที่โทรมาทวงเงินเป็นระยะๆ โดยผมก็ได้แจ้งไปว่าผมทำเรื่องกับทาง KTC อยู่ แต่ก็ยังมีคนโทรมาทวงอยู่เรื่อยๆ จนมาเดือน พฤษภาคม 2555 ก็มีหมายศาลมาที่บ้านผมแทน โดยนัดให้ผมไปขึ้นศาลเดือนสิงหาคม 2555 ผมจึงได้โทรไปที่ KTC อีกครั้งเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิด ทาง KTC กลับแจ้งว่า เรื่องนานแล้ว ภาพจากวงจรปิดไม่มีเหลือแล้ว

เมื่อถึงวันขึ้นศาล ผมไปที่ศาลตามที่นัด แต่ทางทนายของ KTC ที่ดูแลคดีของผมกับไม่มา โดยให้ทนายคนอื่นมาแทน และทางทนายที่มาแทนก็แจ้งแค่ว่าให้ทางเค้าตัดสินใจให้ส่วนลดอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของคดีนอกจากให้ผ่อนเดือนละ 10,000 บาทเป็นจำนวน 1 ปี หรือไม่ก็ให้ผมทำเลื่อนนัด โดยที่ผมก็ตกลงทำเลื่อนนัดเพราะต้องการคุยกับทนายที่ดูแลคดีของผม จึงขอเลื่อนไปอีก 1 เดือน หลังจากนั้นพอถึงวันขึ้นศาลทางบริษัทผมมีงานด่วนให้ผมต้องไปภาคใต้ั ผมจึงได้โทรไปคุยกับทางทนาย ทางทนายแจ้งว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวทำเลื่อนให้ แต่พอหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนโทรมาทวงเงินอีก ผมก็ได้แจ้งกับทางคนที่ทวงเงินไปว่าจะไปคุยกับทนายที่ศาลอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ที่โทรมาทวงเงินแจ้งว่านัดอะไร ศาลตัดสินไปแล้ว ให้ผมต้องชดใช้เงิน รวมเป็นเงินประมาณ 124,000 บาท (รวมค่าศาล,ค่าทนาย,อื่นๆแล้ว)
ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้แต่ทำใจว่าต้องจ่ายอย่างเดียวแล้ว หรือผมสามารถทำอย่างไรได้หรือไม่ครับ

ตอนนี้ผมพอจะหาเงินได้ประมาณ 8หมื่น แต่ขอทางเจ้าหน้าที่แล้วเค้าแจ้งว่าลดได้แค่ 100,000 บาท เพราะ KTC ไม่มีนโยบายลดให้มากกว่าเงินต้น เพราะผมไม่มีผมจึงอยากขอรบกวนช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ ผมอยากจบเรื่องนี้ครับเพราะว่าผมมีโครงการจะไปซื้อบ้านในอีกปีหรือ 2 ปีนี้ครับ

ขอบคุณมากครับ
วุธ

kurenei เขียน: สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนปรึกษาครับ

เมื่อถึงวันขึ้นศาล ผมไปที่ศาลตามที่นัด แต่ทางทนายของ KTC ที่ดูแลคดีของผมกับไม่มา โดยให้ทนายคนอื่นมาแทน และทางทนายที่มาแทนก็แจ้งแค่ว่าให้ทางเค้าตัดสินใจให้ส่วนลดอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่เจ้าของคดีนอกจากให้ผ่อนเดือนละ 10,000 บาทเป็นจำนวน 1 ปี หรือไม่ก็ให้ผมทำเลื่อนนัด โดยที่ผมก็ตกลงทำเลื่อนนัดเพราะต้องการคุยกับทนายที่ดูแลคดีของผม จึงขอเลื่อนไปอีก 1 เดือน

หลังจากนั้นพอถึงวันขึ้นศาลทางบริษัทผมมีงานด่วนให้ผมต้องไปภาคใต้ั ผมจึงได้โทรไปคุยกับทางทนาย ทางทนายแจ้งว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวทำเลื่อนให้ แต่พอหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนโทรมาทวงเงินอีก ผมก็ได้แจ้งกับทางคนที่ทวงเงินไปว่าจะไปคุยกับทนายที่ศาลอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ที่โทรมาทวงเงินแจ้งว่านัดอะไร ศาลตัดสินไปแล้ว ให้ผมต้องชดใช้เงิน รวมเป็นเงินประมาณ 124,000 บาท (รวมค่าศาล,ค่าทนาย,อื่นๆแล้ว)
ซึ่งตอนนี้ผมก็ได้แต่ทำใจว่าต้องจ่ายอย่างเดียวแล้ว หรือผมสามารถทำอย่างไรได้หรือไม่ครับ

คุณพลาดแล้วค่ะ..ไม่ไปศาล..ศาลท่านก็จะตัดสินไปเลย....ทนายโจทย์เขาไม่ช่วยอะไรคุณหรอกค่ะมีแต่เขาจะให้รีบๆ ตัดสินไปจะได้หมดหน้าที่เขา..

ตอนนี้ผมพอจะหาเงินได้ประมาณ 8 หมื่น แต่ขอทางเจ้าหน้าที่แล้วเค้าแจ้งว่าลดได้แค่ 100,000 บาท เพราะ KTC ไม่มีนโยบายลดให้มากกว่าเงินต้น เพราะผมไม่มีผมจึงอยากขอรบกวนช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ

คุณเห็นคำพิพากษาหรือยังคะ...ทนายเขาคัดมาให้คุณหรือยัง....คุณเห็นยอดเงินที่ศาลท่านตัดสินหรือยังคะ....คุณต้องรู้ก่อน แล้วค่อยต่อรองค่ะ...อาจจะไม่ใช่ยอดที่เขาบอกมาก็ได้นะคะ...ศาลท่านอาจเมตตาให้จ่ายน้อยกว่านี้....รอคำพิพากษา..หรือไม่ก็ไปขอคัดเองที่ศาลนะคะ

ข้อเสนอแนะ...ถ้าเขาไม่ยอมลดให้จริงๆ ก็เจรจาขอผ่อน...เดือนละหมื่น..หรือที่เราพอไหว..แต่อาจเสียดอกเบี้ยเพิ่มอีก..ก็ลองคำนวณดู..เอาที่เราไหวนะคะ...มีเงินเก็บพอสมควร..ยอดนี้พี่ลีคิดว่า เขาน่าจะยอม

ผมอยากจบเรื่องนี้ครับเพราะว่าผมมีโครงการจะไปซื้อบ้านในอีกปีหรือ 2 ปีนี้ครับ


ขอบคุณมากครับ
วุธ

ขอบคุณมากครับ คุณพี่ลี

ยังไม่เห็นคำพิพากษาครับ ผมต้องไปติดต่อขอที่ศาลที่นัดผมไม่ขึ้นใช่หรือไม่ครับ
หรือขอกับประนอมหนี้ที่โทรมาครับ

ขอบคุณครับ

คำพิพากษา...ที่จริงแล้ว..ทนายความของโจทย์ต้องเป็นคนไปคัดมาให้เรา...เพื่อให้เราทราบว่าเราต้องใช้หนี้เขาเท่าไร...ถ้าเขาคัดมาให้เราช้า..เราก็รับรู้หนี้ช้า..ก็เป็นประโยชน์สำหรับเรา...เราก็ใช้หนี้เขาช้าออกไป

แต่ถ้าเราใจร้อนอยากรู้ยอดหนี้ที่ศาลท่านตัดสิน...รอทนายโจทย์ไม่ไหว..หรือมีเงินพร้อมแล้วอยากปิดหนี้...ไม่อยากให้เขาดำเนินการขั้นต่อไป...เราก็ไปขอคัดเองได้เลย..ที่ศาลจังหวัดที่เราไปขึ้นมาครั้งแรกนั่นแหละคะ...เีสียค่าทำเนียมคัดเอง...รู้ยอดหนี้เร็ว...ก็ใช้หนี้เร็ว....ก็หมดหนี้เร็วๆ นะคะ...

ขอให้โชคดี

สวัสดีค่ะ ของแฟนน้ำมนต์เพิ่งไปศาลคดีของ KTC เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา....

เข้าใจว่าตอนนี้ทาง KTC มีนโยบาย เรื่องให้ผ่อนชำระยอดเงินต้น โดยมีส่วนลด ๓๐% ของเฉพาะตัว

ดอกเบี้ย แล้วผ่อนชำระได้ ๑๒ งวด ปลอดดอกเบี้ย แต่บางท่านเห็นต่อลองเหลือเฉพาะยอดเงินต้น..

แล้วผ่อน ๑๒ งวด ปลอดดอกเบี้ย...คุณลองโทรคุยกับเจ้าหนี้ดูซิคะ...ถ้าหากคุณพร้อมเรื่องเงิน

ขอให้โชคดีค่ะ...

นโยบายเคทีห่วย เป็นแบบนี้ค่ะ สำหรับปีนี้ โหดมาก
ปีก่อนๆ ส่วนลดเขาดี ปีนี้ซีอีโอมันบ้าเลือด ให้ส่วนลดแค่ไม่เกินเงินต้นที่ยืมมา
คุณคำนวณเงินในกระเป๋าตัวเองค่ะว่า จ่ายไหวไหมสำหรับยอดหนึ่งแสนบาท (หาเพิ่มอีกสองหมื่น)
หรือขอจ่ายสองงวด งวดละเท่าไหร่ก็ตกลงกันไป
คุณมีสิทธิ์ต่อรองเจรจาเขาได้ตลอด เจ้าหนี้หน้าไหนๆก็ล้วนอยากได้เงินคืน
ถ้าคุณคุยกับเจ้าหนี้ ยืนยันเจตนารมณ์จะชำระหนี้ ไม่ยากเกินความต้องการหรอกค่ะ
คุณเป็นคนรับผิดชอบดีมาก ไม่กล่าวโทษฝ่ายหญิง (ถึงแม้พฤติกรรมมันจะตื๊บก็ตามที)
และคุณยังโชคดีที่มีหนี้ตัวนี้แค่รายเดียว เปรียบเทียบกับคนอื่นๆแล้ว คุณโชคดีกว่ามาก
แค่นี้ อย่าถอดใจง่ายๆ

ขอบคุณครับ คุณพี่ลี, คุณน้ำมนต์, คุณกอบัว

รบกวนสอบถามคุณกอบัวครับ
แล้วถ้าหากว่าทาง KTC ไม่ยอมลดให้ ผมยังไม่ชำระ รอจนกว่าทางนั้นจะส่งเอกสารจากทางศาลมา แล้วปล่อยให้เรื่องไปถึงปีหน้าเผื่อ KTC เปลี่ยนนโยบายจะเป็นไปได้หรือไม่ครับ

ส่วนเงินอีก 20,000 บาท ไม่ไหวแล้วครับ เพราะตอนนี้มีผ่อนค่ารถด้วยครับ (อันนี้ใช้เงินเก็บส่วนตัวจะมาเคลีย)

ขอบคุณครับ