ขอคำแนะนำ ในการใช้ชีวิตที่มีหนี้สิน T T

เงินเดือนอายัดได้ทีละรายเดียวค่ะ

ต้องขอโทษทุกคนน่ะค่ะ ที่ใช้คำว่ายึดทรัพย์ เพราะ จริงๆไม่ใช่
แต่เราติดคำนี้ไปซะแล้ว เพราะ ก่อนหน้านี้ amex โทรมากรอหูทุกวันเลยค่ะ
ว่าจะยึดทรัพย์

2 ปีเต็มแล้วค่ะที่ไปขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ Amex
ผ่อนจ่ายขึ้นต่ำเดือนละ 4000 มา 1ปีค่ะ
มาหยุดจ่ายเมื่อปีที่แล้ว เพราะจนปัญญาจริงๆ T T

แล้วทำไมเลิกจ่าย AMEX ละค่ะ เสียดายเหมือนกันนะ
จ่ายไปแล้วตั้ง 48000 ใช่ไหมค่ะ แต่หากวันนี้ คุณไม่
มีอะไรให้กังวลเรื่องอายัด และไม่มีเงินเหลือพอที่จะไป
จ่ายต่อ ก็หยุดค่ะ สัญญาที่เซ็นปลอดดอกเบี้ยหรือเปล่าค่ะ
เพราะหากคุณหยุด เจ้าหนี้ก็กลับไปคิดดอกเบี้ยที่ตามปรกติ
คือ 15% ของยอดหนี้ที่เหลือค่ะ

เจ้านี้ เล่นยาก ไม่ว่าจะหักคอจ่าย หรือผ่อนจ่าย เข้าทางเขา
หมดค่ะ

สมมุติว่า คุณเหลือหนี้อีก 150000 บาท จากยอดประมาณ
200000 บาท ถ้าหากคุณมีเงินสัก 1 แสน อาจขอต่อรอง
กับเขาได้ ในฐานะที่คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่มีเงินชำระหนี้
คืนได้ค่ะ (เงินตัวเองที่มีเก็บนะค่ะ) แต่คิดว่า หยุดมา 8เดือน
ดอกเบี้ยคงวิ่งแซงหน้าไปโลด ยอดหนี้อาจไปไกลเกินยอด
ฟ้องมังค่ะ แต่หากไม่มี คงต้องปล่อยให้อายัดไปในวันที่คุณ
มีเงินเดือนค่ะ แม้จะหนักหน่อย ก็ต้องยอมจ่ายไปทีละเจ้าหนี้ค่ะ

ตอนที่ตัดสินใจจ่ายไป เพราะคิดว่าพี่ชายดิฉันจะยอมคืนเงินที่เค้ายืมเราไปค่ะ
เค้าบอกตลอดมีเงินจะคืนให้ หรือ ขายบ้านจะคืนให้ แต่เค้าโกหกเราไปวันๆค่ะ
(เค้ามีรายได้น่ะค่ะ)
จนท้ายที่สุด ต้องยอมปล่อยไปค่ะ amex พอผิดสัญญา ก็กลับมาคิดดอกเบี้ย 15 เปอร์เซนต์อีกแล้วค่ะ

เมื่อก่อนไม่เคยเข้าเวปนี้ ไม่มีความรู้ จริงๆดิฉันทยอยย่อยมาได้ก่อนประนอมหนี้แล้วค่ะ รวมแล้วน่าจะ 7 หมื่นได้ล่ะค่ะ
แต่ผิดสัญญากับเค้าเอง พอมาอ่านเวปนี้ รู้สึกเสียดายจริงๆ

ขอยกตัวอย่างลูกหนี้ของบัตร Amex ที่ต่อสู้แบบถึงพริกถึงขิงที่สุด ให้คุณอยากเริ่มใหม่ ให้อ่านดูเป็นแนวทาง ว่า “อย่ายอมแพ้”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=822&Itemid=29#1617 คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท ของพี่แก้วจ๋า

เริ่มด้วย AMEX (American Express) ค่ะ
เป็นบัตรแรกที่ฟ้องและสุดแสบมากค่ะ รวมทุกแบบทั้งพิพากษา หักคอจ่าย อายัดเงินเดือน และถอนอายัดเงินเดือน

ยอดหยุดที่ 192000 บาท แต่ฟ้องที่ยอด 244000 บาท เป็นอีกบริษัทฯ ที่ใช้บริการทวงหนี้ที่ชอบขู่อย่างเดียว ในฐานะมือใหม่ ก็โดนขู่ว่า ถ้าไม่จ่ายตามยอดที่เรียกเก็บ คือไม่มีลด จะส่งฟ้องแล้ว จะไม่มีการลดหย่อน ต้องเสียค่าทนาย ค่าธรรมเนียมสารพัดเป็นหมื่น คุยกับทนายก็บอกแบบใจเย็นมากๆๆ ว่า ทำงานมา 5ปี ไม่เคยลดให้ใคร บอกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม คือเสนอให้

1 จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 20000 บาท 10งวด หรือ
2 จ่ายเดือนละ 13000 บาทบวกดอกเบี้ย 12% เป็นเวลา 24เดือน

แต่เหตุการณ์กลับพลิกล็อก ทางโจทก์ถอนฟ้องหลังจากขอเลื่อนนัดศาลมาเจรจาใหม่ค่ะ เพราะเอกสารไม่ครบค่ะ อุตส่าห์เขียนคำให้การสู้เลยอดใช้ค่ะ หลังจากนั้นแก้วจ๋าก็ถือโอกาสย้ายสำมะโนครัวไปที่อื่นค่ะ อีกปีถัดไป ก็มาฟ้องใหม่ค่ะ ข้อเสนอแบบแผ่นเสียงตกร่อง เธอคนเดิมพูดเหมือนเดิมค่ะ เราคุยกันคนละภาษาค่ะ ในเมื่อเราทำไม่ได้ ก็ไม่รับค่ะจึง เป็นเคสเดียวที่ยอมให้ศาลพิพากษาคดีไปค่ะ คิดว่าจะได้รับความเมตตาบ้างค่ะ และท่านก็ให้ความเมตตาด้วยการพิพากษาให้เราจ่าย

เงินต้น 210000 บาท บวกดอกเบี้ย 13% จากยอด 203000 บาท นับจากเม.ย 52 (2ปี) ค่าทนายอีก 6000 บาท แพงกว่าที่อื่นยอดรวมประมาณ 270000 บาท

และก็ไม่มีการคุยเหมือนเดิม โทรหาก็โยนไปมาระหว่าง AMEX และสำนักงาน VR จนต้องใช้วิธีหักคอ และก็ได้เรื่อง จ่ายหักคอไปเดือนละ 5000 บาทเป็นเวลา 4เดือน ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่า เงียบจัง จึงโทรสอบถามกรมบังคับคดี จึงได้เรื่องว่า เพิ่งถูกส่งอายัดเงินเดือนเดือนแรก ตกใจที่ถูกอายัดเงินเดือนค่ะ ถามว่า ยอมให้อายัดคุ้มกว่าไหม ถ้าไม่ติดว่า เรายังไม่พร้อมที่จะให้อายัดและยังมีทางดิ้นรนได้ แก้วจ๋าอาจยอมให้อายัดเงินเดือน ซึ่งจะคุ้มกว่าค่ะ เพราะหนี้อื่นที่ยอมความไปก็ต้องแห้วค่ะ หลังจากเจรจาคุยกันหลายรอบกับ VR จึงได้ข้อสรุปให้จ่ายปิด โดยจ่าย 200000 บาท งวดแรก และอีก 5 หมื่นกว่า งวดที่ 2 (ได้รวมที่จ่ายไปแล้ว 20000 บาทแล้วค่ะ) ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่ายมัน 271000 บาทค่ะ ไม่ลดสักบาทค่ะ แต่หากยอมให้อายัดเงินเดือนไป เราจะต้องถูกหักค่าดอกเบี้ยที่ค้างจนครบก่อน (5หมื่นกว่าบาท) แล้วถึงไปหักเงินต้นใหม่ บวกดอกเบี้ย ซึ่งคิดว่า ยอดจะสูงกว่านี้ จึงยอมหาเงินมาจ่ายมันไป และไปรอรับหนังสือปิดถึงบริษัท ฯ AMEX ก่อนหน้านี้ ก็ไปถอนอายัดที่กรมบังคับคดีกับ VR ค่ะ ใช้เวลา ครึ่งวันค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ทั้งพิพากษา หักคอ อายัดเงินเดือน และถอนอายัด ในหนึ่งเดียวจริงๆค่ะ ไม่มีเจ้าไหนทำให้เหนื่อยได้มากเท่าเจ้านี้เลยค่ะ
By: พี่แก้วจ๋า

และที่กอบัวเสริมให้คุณเข้าไปอ่านในนี้ คือทำไม Amex มันถึงเขี้ยวนัก เขี้ยวหนา...
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=11682&Itemid=29#11866 ข้อควรระวังของการใช้วิธีหักคอจ่าย

คำแนะนำของพี่นกกระจอกเทศ

ข้อควรระวังอีกข้อ ในการใช้วิธีนี้ก็คือ หากเจ้าหนี้(โจทก์)มีการบริหารงานที่ขาดทุน สำหรับการลงทุนในประเทศไทย
จนกระทั่งมีนโยบายออกมาว่า ให้ปิดกิจการในประเทศไทยลง โดยไม่ยอมไปควบรวมกิจการกับสถาบันการเงินอื่นๆในประเทศไทย ที่ยังคงเหลืออยู่
(หรือเรียกง่ายๆว่า "เจ๊ง" หรือจวนจะเจ๊งแล้ว จึงจำเป็นต้องเลิก หรือปิดกิจการในประเทศไทย เพื่อจะขนเงินที่เหลือไปลงทุนทำอย่างอืนแทน หรือไปลงทุนกิจการเหมือนเดิม แต่เป็นประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ประเทศไทย)

สถาบันการเงินเหล่านี้ หากเป็นลูกหนี้ของมันจนกระทั่งถูกศาลพิพากษาแล้ว จะมาใช้กลยุทธ์"หักคอจ่าย"กับมัน มักไม่ค่อยได้ผล เพราะสถาบันการเงินเหล่านี้ มันจะพยายามเร่งรัดปิดกิจการในประเทศไทยให้ได้เร็วที่สุด จึงต้องใช้ทุกวิถีทางในการรวบรัดเอาเงินหนี้ทั้งหมดคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุดเช่นกัน
ดังนั้น มันจึงไม่ยอมรอเวลาให้ลูกหนี้จ่ายแบบ"หักคอ"กับมัน เพราะมันต้องใช้เวลาในการ"รอ"อีกหลายปีพอสมควร มันจึงหันไปใช้วิธีการ ส่งเรื่องไปให้กรมบังคับคดีเพื่อให้เกิดกระบวนการอายัดแทน ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนรวดเร็วกว่า ถึงแม้ว่าลูกหนี้รายนั้นๆ จะยังคงจ่ายชำระ"หักคอ"โดยสมน้ำสมเนื้ออยู่ก็ตาม...มันก็ไม่สน

สถาบันการเงินที่ไม่สนใจวิธีการหักคอจ่ายตามที่ผมได้อธิบายไป ที่ผ่านมาก็มี เซเทเลม , อเมริกันเอ็กซ์เพรส , ไดเนอร์...เป็นต้น
..........

กรณีของคุณไม่สามารถหักคอจ่ายได้ เพราะไปไกล่เกลี่ย ประนีประนอมยอมความแล้ว
การปล่อยให้อายัดเงินเดือน จึงเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุด
เพราะคุณมีเจ้าหนี้โคตรเขี้ยวถึงสองรายด้วยกันคือ Amex และบัวเน่า ที่ชอบยึดเงินในบัญชี
ทางออกสำหรับชีวิตวันนี้ พวกเราสมาชิก กรรมการพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้คุณ มาจนถึงเกือบปลายทางแล้ว เรื่องไม่เจ็บตัวเลยไม่มีหรอกค่ะ แต่ขอให้คุณเลือกเส้นทางที่เจ็บตัวน้อยที่สุด
เลิกมองไปข้างหลังแล้วท้อ...แต่ให้มองไปข้างหน้าเพื่อสู้...
ถ้าเราไม่ผ่านความทุกข์มาก่อน เราจะรู้ซึ้งถึงรสชาติของความสุขหรือคะ
ในความมืดมิดเราสามารถมองเห็นแสงดาวได้ชัดเจนที่สุด
เราจะรู้คุณค่าของตัวเองและคนรอบข้างได้ดีที่สุด
เดินต่อนะคะ...

เป็นกำลังใจให้ครับ ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีหนี้มีแม่ลูกภรรยาต้องดูแล อ่านจบแล้วปล่อยเขาไปเถอะครับพี่ชายสายเลือดเดียวกันก็จริง แต่หากไม่มีความกตัญญูแบบนี้แล้วก็ตัดขาดเลยดีกว่า ไว้เขาสำนึกได้จริงๆ ซักวันค่อยกลับมานับญาติกันใหม่ ในชมรมหนี้มีทางออกแน่นอนครับ เรามาถูกทางแล้วอย่าท้อแท้ท้อถอย ผมไม่ค่อยได้เข้ามาแต่รู้ไว้นะครับ คุณมีเืพื่อนในชมรมนี้คอยเป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณ คุณกอบัว คุณ The sun ค่ะ

เรื่องมันถึงที่สุดแล้ว หางานได้คงต้องโดนอายัดเงินเดือน
แล้ว ถ้าเราเก็บหอมรอมริบพอมีเงินซักก้อนไปปิดบัญชี เจ้าหนี้ที่กำลังอายัดเงินเดือนเค้าจะยอมให้ปิดมั๊ยค่ะ
(เค้าจะยอมลดหนี้ให้มั๊ยค่ะ หรือว่า อายัดเงินเดือน เจ้าหนี้เค้าจะคุ้มกว่า)

ขอร้อง อย่ามาแบบ 20 คำถาม นะค่ะ เพราะที่นี่ คนตอบแต่ละคน
ทำงานกันตลอด เวลาว่างถึงเข้ามาตอบได้ และสิ่งที่คุณถามนะ
คุณหาอ่าน เรื่อง Hair cut ได้ในห้องรู้ทันฯ ที่ชี้แนะไปหลายครั้งแล้ว
สมาชิกส่วนมากก็นั่งอ่่านเหมือนกันกับข้อมูลที่เราตั้งใจเขียนไว้ หาก
เป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้จริงๆ ค่อยตั้งคำถามค่ะ

ถ้าเป็นนักเรียนคงให้ไปยืนหน้าชั้น เพราะไม่ทำการบ้านเลย จะรอ
แต่ให้ป้อนอย่างเดียว คงไม่ไหวนะ


[/color][/size]

ขอโทษด้วยค่ะ

แต่ดิฉันนั่งไล่อ่านแล้ว (ยังไม่ทั้งหมด) ยังไม่เจอเคส amex เมื่อเรื่องเลยมาถึงขึ้นตอนอายัดเงินเดือน
เดี่ยวดิฉันนั่งอ่านทั้งหมดค่ะ เผอิญว่าช่วงนี้ต้องลงไปอยู่เป็นเพื่อนคุณพ่อเลยไม่มีเวลาใช้คอมพิวเตอร์เท่าไหร่
ขอโทษอีกครั้งค่ะ

สิ่งที่คุณตามหาเรื่อง AMEX คุณกอบัวก็นำมาให้อ่านแล้ว เพราะกรณี
ของ AMEX มีไม่กี่เคส มีของแก้วจ๋าที่เขียนไว้มากสุด แล้วก็ของคุณ
mom23 และคุณ Creditman แต่ละคนได้ดำเนินการจนปิดจบกับ
เจ้าหนี้ไปแล้ว ถ้าอยากค้นหา ต้องใช้ช่อง สืบค้น ข้างบนค่ะ

แต่คุณเข้ามานั่งแต่ถาม ไม่ค้นหา แล้วจะเจออะไรไหมค่ะ สิ่งที่
เราเขียนไว้เป็นเพียงแนวทาง แต่คุณต้องปรับให้เข้ากับตัวเอง
ไม่ใช่จะเลียนแบบ หรือจะลงเอยเหมือนกันค่ะ

คำถามว่า เจ้าหนี้จะลดไหม ใครจะตอบได้นอกจากเจ้าหนี้ ๆ เดียวกัน
ยังให้ลูกหนี้ไม่เหมือนกัน เขาดูสถานะของแต่ละคน เราถึงชี้แนะว่า
ให้อ่านเรื่อง Hair cut คืออะไร ทำได้แค่ไหน อ่านเป็นแนวทาง

ไม่มีเคสที่ตอบโจทย์ในใจของคุณโดยตรงให้อ่านค่ะ โปรดเข้าใจด้วย

แก้วจ๋าเคยโดนAMEX ขู่มากกว่าคุณอีก ยังผ่านมาได้ ด้วยการอ่าน
อย่างเดียว ค้นหาไปเรื่อยๆ แก้วจ๋าเองก็โดน AMEX อายัดเงินเดือน
แล้วเช่นกัน แต่ปิดไปแล้ว ต้องอ่านเอง ขนาดคุณกอบัวหามาให้อ่าน
ตรงหน้า คุณยังขาดสติสมาธิในการอ่านได้ขนาดนี้

ไม่เคยตั้งคำถามมากกว่า 2 ครั้งๆแรก
ถามว่า หนี้เท่าหนี้แบบนี้ ทำไงดี และ 2 ขอคำชี้แนะในเรื่องที่หา
ไม่เจอจริงๆ เท่านั้นค่ะ

แล้วนี่อะไรคะ ที่กอบัวนั่งโพสให้คุณ เรียงลำดับ ของพี่แก้วจ๋า ของพี่นกกระจอกเทศ

คุณอ่านบ้างหรือเปล่า

กอบัวอุตส่าห์หาเวลามาตอบคุณเหมือนกัน เสียใจนะเนี้ย? อุตส่าห์เปิดลิงค์กลับไปกลับมาให้คุณอ่านง่ายๆ
แต่ละคนก็มีเวลาต้องทำงาน กรรมการทุกท่าน สมาชิกทุกคนก็อาศัยเวลาว่าง หรือแว๊บๆเข้ามาอ่าน มาตอบ
เมื่อคืน ตอนที่บัวนั่งหาคำตอบให้คุณ บัวก็เดินไปเอาลูกนอน แล้วก็กลับมาพิมพ์ต่อ แล้วก็กลับไปนั่งคุยกับลูกสาวเรื่องการบ้าน เรื่องส่วนตัวของเขา
หนี้ของคุณ คุณสร้างเอง จะด้วยเหตุปัจจัยใดก็ตาม
กรรมการและเพื่อนๆ แค่ชี้แนะ ส่วนการเลือกเดิน หรือจะหยุดอยู่กับที่ เป็นเรื่องของคุณ
กอบัวคงจะไม่เข้ามากระทู้ของคุณสักระยะหนึ่ง จนกว่าคุณจะเริ่มอ่าน และเริ่มเดินหน้าเสียที
พี่แก้วจ๋า ขอบคุณมากๆค่ะ

กอบัว เขียน: ขอยกตัวอย่างลูกหนี้ของบัตร Amex ที่ต่อสู้แบบถึงพริกถึงขิงที่สุด ให้คุณอยากเริ่มใหม่ ให้อ่านดูเป็นแนวทาง ว่า “อย่ายอมแพ้”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=822&Itemid=29#1617 คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท ของพี่แก้วจ๋า

เริ่มด้วย AMEX (American Express) ค่ะ
เป็นบัตรแรกที่ฟ้องและสุดแสบมากค่ะ รวมทุกแบบทั้งพิพากษา หักคอจ่าย อายัดเงินเดือน และถอนอายัดเงินเดือน

ยอดหยุดที่ 192000 บาท แต่ฟ้องที่ยอด 244000 บาท เป็นอีกบริษัทฯ ที่ใช้บริการทวงหนี้ที่ชอบขู่อย่างเดียว ในฐานะมือใหม่ ก็โดนขู่ว่า ถ้าไม่จ่ายตามยอดที่เรียกเก็บ คือไม่มีลด จะส่งฟ้องแล้ว จะไม่มีการลดหย่อน ต้องเสียค่าทนาย ค่าธรรมเนียมสารพัดเป็นหมื่น คุยกับทนายก็บอกแบบใจเย็นมากๆๆ ว่า ทำงานมา 5ปี ไม่เคยลดให้ใคร บอกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม คือเสนอให้

1 จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 20000 บาท 10งวด หรือ
2 จ่ายเดือนละ 13000 บาทบวกดอกเบี้ย 12% เป็นเวลา 24เดือน

แต่เหตุการณ์กลับพลิกล็อก ทางโจทก์ถอนฟ้องหลังจากขอเลื่อนนัดศาลมาเจรจาใหม่ค่ะ เพราะเอกสารไม่ครบค่ะ อุตส่าห์เขียนคำให้การสู้เลยอดใช้ค่ะ หลังจากนั้นแก้วจ๋าก็ถือโอกาสย้ายสำมะโนครัวไปที่อื่นค่ะ อีกปีถัดไป ก็มาฟ้องใหม่ค่ะ ข้อเสนอแบบแผ่นเสียงตกร่อง เธอคนเดิมพูดเหมือนเดิมค่ะ เราคุยกันคนละภาษาค่ะ ในเมื่อเราทำไม่ได้ ก็ไม่รับค่ะจึง เป็นเคสเดียวที่ยอมให้ศาลพิพากษาคดีไปค่ะ คิดว่าจะได้รับความเมตตาบ้างค่ะ และท่านก็ให้ความเมตตาด้วยการพิพากษาให้เราจ่าย

เงินต้น 210000 บาท บวกดอกเบี้ย 13% จากยอด 203000 บาท นับจากเม.ย 52 (2ปี) ค่าทนายอีก 6000 บาท แพงกว่าที่อื่นยอดรวมประมาณ 270000 บาท

และก็ไม่มีการคุยเหมือนเดิม โทรหาก็โยนไปมาระหว่าง AMEX และสำนักงาน VR จนต้องใช้วิธีหักคอ และก็ได้เรื่อง จ่ายหักคอไปเดือนละ 5000 บาทเป็นเวลา 4เดือน ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่า เงียบจัง จึงโทรสอบถามกรมบังคับคดี จึงได้เรื่องว่า เพิ่งถูกส่งอายัดเงินเดือนเดือนแรก ตกใจที่ถูกอายัดเงินเดือนค่ะ ถามว่า ยอมให้อายัดคุ้มกว่าไหม ถ้าไม่ติดว่า เรายังไม่พร้อมที่จะให้อายัดและยังมีทางดิ้นรนได้ แก้วจ๋าอาจยอมให้อายัดเงินเดือน ซึ่งจะคุ้มกว่าค่ะ เพราะหนี้อื่นที่ยอมความไปก็ต้องแห้วค่ะ หลังจากเจรจาคุยกันหลายรอบกับ VR จึงได้ข้อสรุปให้จ่ายปิด โดยจ่าย 200000 บาท งวดแรก และอีก 5 หมื่นกว่า งวดที่ 2 (ได้รวมที่จ่ายไปแล้ว 20000 บาทแล้วค่ะ) ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่ายมัน 271000 บาทค่ะ ไม่ลดสักบาทค่ะ แต่หากยอมให้อายัดเงินเดือนไป เราจะต้องถูกหักค่าดอกเบี้ยที่ค้างจนครบก่อน (5หมื่นกว่าบาท) แล้วถึงไปหักเงินต้นใหม่ บวกดอกเบี้ย ซึ่งคิดว่า ยอดจะสูงกว่านี้ จึงยอมหาเงินมาจ่ายมันไป และไปรอรับหนังสือปิดถึงบริษัท ฯ AMEX ก่อนหน้านี้ ก็ไปถอนอายัดที่กรมบังคับคดีกับ VR ค่ะ ใช้เวลา ครึ่งวันค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ทั้งพิพากษา หักคอ อายัดเงินเดือน และถอนอายัด ในหนึ่งเดียวจริงๆค่ะ ไม่มีเจ้าไหนทำให้เหนื่อยได้มากเท่าเจ้านี้เลยค่ะ
By: พี่แก้วจ๋า

คุณกอบัว คุณ kaewja ดิฉันอ่านค่ะ
อ่านกรณีที่ คุณกอบัว นำมาฝากไว้ให้ เลยเกิดคำถาม

อย่างกรณี คุณแก้วจ๋า คุณแก้วจ๋าได้ตัดสินใจปิดยํญชีก่อนมีการอายัดเงินเดือน เดือนแรก (ตามที่อ่านแล้วเข้าใจน่ะค่ะ)
ซื่งทาง amex เค้ายอม เลยหันกลับมามองตัวเอง คือถ้าดิฉันยังไม่มีเงินไปปิด
แล้วปล่อยให้มีการอายัดเงินเดือนไปเรื่อยๆก่อน ทาง amex ที่ว่าเคี้ยวๆจากข้อมูลที่อ่านมา
ท่าทางจะไม่ยอมมีส่วนลดให้เลยในวันข้างหน้า เค้าคงปฎิเสธ คงให้มีการอายัดเงินต่อไป

จะอ่านและใช้วิธีสืบค้นให้มากที่สุดค่ะ ท้ายสุดแล้ว ดิฉันขอบคุณ และ ขอโทษด้วยน่ะค่ะ

บอกแล้วว่า เป็นแค่แนวทาง หนี้แต่ละคน ไม่มีวันเหมือนกันค่ะ
เพราะสถานะต่างกัน มุมมองของเจ้าหนี้ต่อลูกหนี้ต่างกัน

ไม่มาอธิบายอีกแล้วนะ เหมือนพายเรือในอ่างค่ะ คุณไม่ยอม
หลุดจากความคิดของคุณ มองให้ไกลนะดี แต่คิดทำวันนี้ให้ดีที่สุดดี
กว่าไหมค่ะ

ขอต่ออีกนิดว่า เจตนาที่แก้วจ๋าเขียนเรื่องหนี้ของตัวเองไว้
ให้อ่าน มิใช่แค่ให้รู้การเกิดแก่เจ็บตายของหนี้แต่ละตัว แต่
อยากให้รู้ว่า เราควรใช้สิทธิที่มีของเราสู้เพื่อให้ได้ตามที่เรา
ต้องการ

สำหรับแก้วจ๋า ไม่มีคำว่า เป็นไปไม่ได้ ชีวิตไม่สิ้น ต้องดิ้น
รนจนสุดปลายทาง แม้ใครบอกว่า ไม่ แต่ขอเพียงแค่เห็นแสง
ริบหรี่ แก้วจ๋าก็จะพยายามทะลุทะลวงจนได้มาซึ่งสิ่งที่ต้อง
การ ไม่มีคำว่า ยอมแพ้ ค่ะ และวันนี้ แก้วจ๋าก็เดินมาเกือบ
ถึงทางออกแล้ว ชีวิตกำลังดีขึ้น ด้วย 2 มือ 2 เท้า กับ 1 สมอง
ที่คิดอย่างมีสติทุกครั้งค่ะ ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ

ขอบคุณ คุณ keawja ค่ะ

อย่าเพิ่งเคืองดิฉันน่ะค่ะ ที่พิมพ์ไว้ด้านบน ตือ เป็นข้อความอธิยายค่ะ ว่าดิฉันได้อ่านและตีความในความเข้าใจ

อยากบอกว่า ได้อ่านน่ะค่ะ แต่ไม่เข้าใจเลยเกิดคำถาม
ตอนนี้ตามไปอ่านให้ละเอียด และ ได้รับคำแนะนำเพิ่ม
ว่าหนี้แต่ล่ะที่ไม่มีอะไรตายตัว ดิฉันเข้าใจมากขึ้นแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ ดิฉันโน้มรับคำตำหนิและจะนำคำแนะนำไปปรับใช้ค่ะ

ขอขอบคุณคุณ anakinครับ และคุุณ อยากเริ่มใหม่ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะอ่านให้เข้าใจเพราะบ้างที่คุณถามเหมือนไม่ได้อ่านเลย ขอบคุณครับ