อาชีพขายของตามนัด ถ้าโดนฟ้องให้จ่ายตามฟ้อง ไม่มีจ่าย จะเป็นอย่างไรคะ

สวัสดีค่ะสมา่ชิกทุกท่าน ดิฉันเพิ่งสมัครสมาชิกค่ะ ได้อ่านกระทู้ของหลาย ๆ ท่าน ได้ความรู้มากมาย
ทำให้รู้ว่าไม่ใช่ตนเองที่ทุกข์หนักอยู่คนเดียว ไม่รู้จะปรึกษาใคร ดิฉันดีใจมากที่ได้เข้ามาพบเจอเว็บนี้
ก็ยังไม่สายไป ดิฉันเป็นหนี้่บัตรเครดิตอยู่ 6 ใบ ยอดเงินรวมประมาณ 220,000 บาท ปัจจุบันอาชีพ
ขายกิ๊ปชอปตลาดนัด ขอเรียนถามท่านสมาชิกค่ะ ถ้าถึงขั้นสุดท้ายศาลสั่งให้จ่ายตามที่แบงก์ยื่นฟ้อง
และดิฉันไม่มีจ่า่ย จะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ไม่มีงานประจำ ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ (ได้อ่่านกระทู้ต่าง ๆ ส่วนมาก
มีแต่คนทำงานประจำ) ขอรบกวนด้วยนะคะ ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ

คุณลองไปอ่านกระทู้ที่พี่นกกระจอกเทศ เขียนไว้สำหรับลูกหนี้ที่ไม่มีเงินเดือนและทรัพย์สินดูนะคะ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29
ถ้ามีข้อสงสัยอะไร หรือต้องการเล่าเรื่องราวต่างๆ ต้องการแชร์ ต้องการกำลังใจ ให้มาต่อกระทู้เดิมนะคะ

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คุณกอบัว รู้สึกมันจุกที่คอ ตื้นตัน ไม่คิดว่าจะได้รับคำแนะนำเร็วขนาดนี้ ดิฉันหยุดจ่ายมา 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ กค.55 กลัวเหมือนกันค่ะ ถ้ามีเจ้าหน้าที่มาทวงที่บ้าน ตอนนี้พยายามอ่านกระทู้เยอะ ๆ อยู่ ค่ะ

ยินดีต้อนรับครับ

ศึกษากระทู้ปักหมุด และกระทู้ต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง

ประหยัด อดออม วางแผนให้เป็น ไม่นานก็หมดหนี้

มีปัญหา ไม่เข้าใจ ต้องการกำลังใจ มาต่อกระทู้ตัวเองเรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง และเป็นประโยชน์แก่คนอื่นต่อ


เป็นกำลังใจให้ครับ

คุณนุชครับ ผมก็คนหนึ่งที่เพิ่งหยุดจ่ายในเดือนสิงหาคม 55 นี้และก็ไม่ได้มีงานประจำทำด้วย ช่วยงานที่ร้านของพ่อแม่ และทำงานพวกขายตรง ผมก็กังวลแบบคุณเหมือนกัน แต่มันไม่มีจะจ่ายเขาจริงๆครับ ก็เหมือนโชคดีที่ได้เข้ามาเจอเวปนี้เช่นกัน ก็กำลังอ่านกระทู้ต่างๆ ในเวป ได้กำลังใจจากสมาชิกที่เข้ามาในกระทู้ของผม และได้คำแนะนำต่างๆ จนใจเริ่มดีขึ้น ไม่กลัวอะไรๆที่จะเกิดขึ้นแล้วครรับ ขอให้คุณนุช สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ( เดือนนี้ผมก็โดนตามทวงหลายเจ้าครับ )

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำ คุณ GOKU คุณ nu11 ดิฉันเครียดมากจนป่วย
ตอนนี้ จนท.แบงก์ ต่าง ๆ ต่างก็โทรมาให้ปรับโครงสร้างหนี้ ก็ตอบไปว่ายังไม่พร้อม เพราะไม่มีจ่ายจริง ๆ
เขาก็วางสายไป

...อ่านลิงค์หรือยังครับ...

แล้วก็ไปอ่านปักหมุดให้มากๆนะครับ...จะได้ยิ้มออก...ไม่ต้องเครียดจนป่วยอีก

ถาม : หากกรณีลูกบ้านเป็นลูกหนี้ แต่ลูกหนี้เป็นคู่สมรส(สามี/ภรรยา)กับเจ้าบ้าน โดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้อง ตามกฏหมายแล้วสามารถยึดทรัพย์สินภายในบ้านได้หรือไม่ ถ้าหากเจ้าบ้าน(สามี/ภรรยา)ไม่ยอมให้ยึด โดยอ้างว่าเจ้าบ้านเป็นผู้ที่ซื้อหาทรัพย์มาเอง

ตอบ : ถ้าเป็นกรณีที่เป็นสามีภรรยาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ให้ถือว่าทรัพย์สินภายในบ้านเป็นสินสมรส โจทก์มีสิทธิ์นำชี้แถลงยืนยันต่อ จพค. พร้อมนำส่งเอกสารประกอบการยึดทรัพย์ได้ หากทรัพย์ภายในบ้านเป็นสินสมรสจริง


จากข้อความถาม-ตอบ ข้างบน ถ้าดิฉันไปจดทะเบียนหย่า และย้่ายไปทะเบียนบ้านอื่น จะดีกว่าไหมคะ

คือสามีเป็นเจ้าบ้าน ปลูกในที่ดินของน้องสาวค่ะ ทรัพย์ฺสินไม่มีอะไรมากมาย
แต่สามีมีปืนที่จดทะเบียนหลายกระบอก ไม่รู้ว่าต้องโดนยึดทรัพย์ด้วยหรือไม่
(ทรัพย์ของสามีที่กล่าวมา มีมาก่อนที่จะแต่งงานกัน)

นุช เขียน: ถาม : หากกรณีลูกบ้านเป็นลูกหนี้ แต่ลูกหนี้เป็นคู่สมรส(สามี/ภรรยา)กับเจ้าบ้าน โดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้อง ตามกฏหมายแล้วสามารถยึดทรัพย์สินภายในบ้านได้หรือไม่ ถ้าหากเจ้าบ้าน(สามี/ภรรยา)ไม่ยอมให้ยึด โดยอ้างว่าเจ้าบ้านเป็นผู้ที่ซื้อหาทรัพย์มาเอง

ตอบ : ถ้าเป็นกรณีที่เป็นสามีภรรยาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ให้ถือว่าทรัพย์สินภายในบ้านเป็นสินสมรส โจทก์มีสิทธิ์นำชี้แถลงยืนยันต่อ จพค. พร้อมนำส่งเอกสารประกอบการยึดทรัพย์ได้ หากทรัพย์ภายในบ้านเป็นสินสมรสจริง

จากข้อความถาม-ตอบ ข้างบน ถ้าดิฉันไปจดทะเบียนหย่า และย้่ายไปทะเบียนบ้านอื่น จะดีกว่าไหมคะ

ถ้าเป็นสินสมรส "จริง" สามารถยึดได้ค่ะ
แต่ถ้ามีหลักฐานยืนยันว่า ไม่ใช่สินสมรส ยึดไม่ได้ค่ะ
ใช้หลักฐานคือสมุดจดทะเบียนอาวุธปืนว่า เป็นของสามีคุณ ดูวันเดือนปีทีี่่จดทะเบียน ก่อนการสมรสหรือไม่
หรือหลักฐานการซื้อขายอาวุธปืน ว่าซื้อหามาก่อนจดทะเบียนสมรส ก็สามารถยืนยันได้ค่ะว่า ไม่ใช่ "สินสมรส"
คุณไปอ่านเพิ่มเติมในนี้นะคะ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=2194&Itemid=29 กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สิน ภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้) By: พี่นกกระจอกเทศ

กรณีผู้ที่เป็น“เจ้าบ้าน”(ที่มิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา) ยังไม่ได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกอื่นใดเข้ามาในตัวบ้าน หากบุคคลภายนอกอื่นใดเข้าไปภายในอาณาบริเวณพื้นที่ครอบครองของ“เจ้าบ้าน” โดยที่ยังไม่ได้รับการ“อนุญาต” อาจมีความผิดในข้อหา“บุกรุกเคหสถาน”ได้

กรณีที่ได้เข้าไปตรวจสอบยึดทรัพย์สินภายในบ้านแล้ว ถ้าหากลูกหนี้มีทรัพย์สินจำพวก เครื่องนุ่มห่มหลับนอน เครื่องใช้ในครัวเรือน หรือเครื่องใช้สอยส่วนตัว โดยประมาณราคารวมกันไม่เกิน 50,000 .- บาท จะถูกจัดว่าเป็นทรัพย์ที่ไม่อยู่ภายใต้การบังคับคดี ให้เจ้าพนักงานบังคับคดี“ไม่ยึด” พร้อมกับรายงานศาลขอปลดเปลื้องความรับผิด ป.วิแพ่ง ม. 283

สรุปความก็คือ เครื่องใช้สอยภายในบ้าน ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันโดยปกติ ดังนี้

- อุปกรณ์เครื่องนอน เช่น ที่นอน , หมอน , มุ้ง , ผ้าห่ม

- อุปกรณ์เครื่องครัว เช่น ถ้วย , จาน , ชาม , ช้อน , กระทะ , กะละมัง , ขัน , หม้อ , เตา

- อาภรณ์สวมใส่ เช่น เสื้อ , กางเกง , กระโปรง , ถุงเท้า , รองเท้า , กกน.

- อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตทั่วไปที่ควรมี เช่น ถังแก๊สสำหรับใช้ทำอาหารในครัว , หม้อหุงข้าวไฟฟ้าใบเล็กๆ , พัดลมตั้งโต๊ะเก่าๆเอาไว้ใช้คลายร้อน , โทรทัศน์รุ่นเก่าขนาดเล็กๆ + วิทยุเครื่องเล็กๆ เอาไว้ใช้ติดตามฟังข่าวสาร , ตู้เย็นเก่าๆขนาดเล็กๆ เอาไว้ใช่แช่เย็นถนอมอาหาร…เป็นต้น

ตัวอย่างต่างๆเหล่านี้ ถ้าเอาทั้งหมดมากองรวมกัน แล้วประเมินราคารวมกันแล้วไม่เกิน 50,000.-บาท...ก็ไม่ยึด
(แต่อย่าลืมนะครับ ว่าการประเมินราคาดังกล่าว จะกระทำโดย จพค.เป็นผู้ประเมิน ดังนั้น อย่าหัวหมอโดยการประเมินราคาเข้าข้างตัวเอง)

กรณีที่เจ้าหนี้ขอยึดเครื่องมือหรือเครื่องใช้ที่จำเป็น ในการเลี้ยงชีพหรือประกอบวิชาชีพ ราคารวมกันประมาณไม่เกิน 100,000.- บาท เป็นทรัพย์สินที่ไม่อยู่ภายใต้การบังคับคดีให้ เจ้าพนักงานบังคับคดี“ไม่ยึด” ตามที่เจ้าหนี้นำชี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับรายงานศาลปลดเปลื้องความรับผิด ป.วิแพ่ง ม. 283

สรุปความก็คือ อุปกรณ์/เครื่องมือ ของลูกหนี้ที่จำเป็นต้องมี เพราะเป็นอาชีพของลูกหนี้มาแต่ดั้งเดิม หากมีมูลค่าไม่เกิน 100,000.-บาท ห้ามยึด เช่น

- สว่านไฟฟ้า , ไขควง , ประแจ , คีม , เครื่องเจียรตัดเหล็ก , ตู้เชื่อมไฟฟ้า(ตู้อ๊อกเหล็ก) , กล่องเครื่องมือช่าง
เครื่องมือเหล่านี้ หากรวมกันแล้วไม่เกิน 100,000.-บาท ก็ไม่ต้องยึด...ถ้าลูกหนี้มีอาชีพเป็น ช่างซ่อมเครื่องยนต์ , ช่างซ่อมรถยนต์ หรือเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือต่างๆเหล่านี้ในการประกอบอาชีพ

- เครื่องถ่ายเอกสารเก่าๆเพียงไม่กี่เครื่อง หากรวมกันแล้วไม่เกิน 100,000.-บาท ก็ไม่ต้องยึด...ถ้าลูกหนี้มีอาชีพรับจ้างถ่ายเอกสาร

- เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมฯ หากรวมกันแล้วไม่เกิน 100,000.-บาท ก็ไม่ต้องยึด...ถ้าลูกหนี้มีอาชีพรับจ้างเขียนโปรแกรมขาย , รับแปลและพิมพ์งานเอกสาร เป็นต้น

อุปกรณ์/เครื่องมือ ของลูกหนี้ ที่จำเป็นต้องมีเพื่อการดำรงชีวิตลูกหนี้ (เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับความอันตราย หรือความ เป็น-ตาย ของลูกหนี้) ห้ามยึด ไม่ว่าจะมีมูลค่าสูงแค่ไหนก็ตาม เช่น เครื่องช่วยหายใจ , เครื่องฟอกไตประจำบ้าน , เครื่องช่วยชีวิต , เครื่องวัดชีพจร , เครื่องวัดความดัน , แขนเทียม , ขาเทียม , รถเข็นสำหรับผู้พิการ...เป็นต้น

ในกรณีคำถามว่า จดทะเบียนหย่า และย้ายไปบ้านอื่นดีไหม?
คำตอบอยู่ที่ว่า คุณมีหลักฐานการเป็นเจ้าของทรัพย์ หรือมีหลักฐานว่า ทรัพย์ที่มีเป็นของสามีก่อนสมรส มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีหลักฐาน(แบบที่กอบัวบอกเรื่องทะเบียนอาวุธปืน) หรือมีหลักฐานทรัพย์ที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพอย่างอื่น เช่น มีใบเสร็จทีวี สเตอริโอ เครื่องเล่น DVD มีใบรับประกันสินค้าเป็นชื่อสามีก่อนจดทะเบียน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องหย่า เพราะผลกระทบเรื่องยึดทรัพย์น้อยมาก
หรือหากคุณอยากมีความสบายใจ ไว้ใจซึ่งกันและกัน หย่าแล้ว ไม่ใช่สามีถือโอกาสไปมีเมียใหม่ คุณจะหย่าการเมือง ก็ไม่ว่ากัน
ที่สุดแล้ว ความรัก ความเข้าอกเข้าใจ จะช่วยฟันฝ่าเรื่องหนี้ได้ดีที่สุด

ส่วนจะย้ายทะเบียนบ้านดีไหม? คุณย้ายออกไป ก็ดีกับการยึดทรัพย์ของจพค. ที่ไม่สามารถเข้ามาในบ้านของสามี(เจ้าบ้าน) คุณได้ เพราะถือว่าอยู่คนละบ้าน ค่ะ
คุณย้ายออกน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

ขอขอบพระคุณ คุณกอบัว กับคำแนะนำที่ดี มาก ๆ ค่ะ

สอบถามหน่อยค่ะ มีจนท.แบงก์โทรมาทวงหนี้ พูดจากวนประสาทมาก ดิฉันกำลังไม่สบาย เครียดมาก
เลยด่าคำหยาบมาก ๆ ตอบกลัีบไป ถ้าอัดเทปไว้ เขาจะเอาผิดเราได้หรือไม่ค่ะ

สภาทนายความ ดิฉันเครียดเรื่องหนี้บัตรเครดิตมาก (หนี้ในระบบ+นอกระบบ 300,000 บาท) จนป่วยทางกาย และทางใจ พบจิตแพทย์ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า-ทานยา (เหมือนโลกนี้มีเราทุกข์อยู่คนเดียว)
รู้ตัวว่าป่วย ต้องทานยานะ พยามบอกตัวเองตลอด ขณะนั้น กค.55 หยุดจ่าย เพราะไม่มีจะจ่ายแล้ว จะกินยังไม่มี ปรึกษาเพื่อนก็ไม่มีใครรู้จริง ได้โทรไปที่สภา.......ที่ให้ความช่วยเหลือตอบปัญหาด้านกฎหมาย
ผู้หญิงรัึบ
ดิฉัน ได้ถามเรื่องเป็นหนี้บัตรเครดิตและการโดนฟ้องบังคับคดียึดทรัพย์ฺ (ตอนนั้นไม่มีความรู้อะไรเลย)
สามีเป็นเจ้าบ้าน ที่ดินของคนอื่น จะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
จนท. ก็ต้องโดนยึดทรัพย์ภายในบ้านขายทอดตลาด ทรัพย์ของคุณและสามี จนกว่าจะครบที่เป็นหนี้
ดิฉัน ทรัพย์ฺในบ้านมีอะไรบ้า่งที่เขาจะยึดค่ะ (ตอนนี้ปากสั่น เสียงสั่น กำลังจะร้องไห้)
จนท. ทุกอย่าง ยกเว้น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ที่นอนผ้าห่ม
ดิฉัน หม้อหุงข้าวไฟฟ้า พัดลม เตารีด เตาแก๊สฯ ก็ยึดเหรอค่ะ เพราะเป็นอุปกรณ์ฺทำอาหาร
จนท. ยึดหมดค่ะ เหลือหม้อหุงข้าวที่เป็นหม้ออลูมิเีนียมให้
ดิฉัน ถ้าย้ายออกไปอยู่ที่บ้านคนอื่น ละค่ะ
จนท. ก็ต้องโดนยึดทรัพย์สินภายในบ้านขายทอดตลาดเหมืิอนกัน

ดิฉัน ไม่ใช่ทรัพย์สินของดิฉันนี่ค่ะ
จนท. ก็ต้องมีเอกสารมายืนยัน การที่เอาคนที่ไม่ดีเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็ต้องเดือดร้อนอย่างนี้แหละ
ดิฉัน น้ำตาไหล มือปิดปาก กลัวได้ยินเสียงร้องไห้
จนท. คุณเข้าใจทีึี่่ดิฉันอธิบายแล้วนะ แล้วเธอก็วางสาย

ดิฉันกินยา บอกสามีว่าเวียหัว จะนอน เข้าห้องปิดประตู แล้วร้องไห้ กับคำที่ว่า การที่เอาคนไม่ดีเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็ต้องเดือดร้อน ทุกคนต้องมาเดือดร้อนเพราะดิฉันคนเดียว

ขณะนี้ ดิฉันรู้แล้วว่าไม่เลวร้ายอย่างที่ เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดเลย ไม่รู้จิตใจเธอทำด้วยอะไร
ดิฉันขอขอบพระคุณท่านประธานกรรมการ ท่านกรรมการทุกท่าน และท่านสมาชิกทุก ๆ ท่าน ที่ให้ความรู้ เผื่อแผ่ข้อมูล ฯลฯ สุดที่จะหาคำพรรณณาความมีเมตตาของทุก ๆ ท่านได้

ดิฉันแค่อยากเล่าค่ะ เพราะสบายใจขึ้นมาก อาการป่วยทางจิตก็ดีขึ้น

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=21493&Itemid=29

คุณนุชอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่านด้วย..ค่อยๆ อ่าน ไม่เข้าใจซ้ำอีกรอบ
และยังมีห้องต่างๆ อีก 4 ห้อง อ่านให้หมด อ่านให้ครบ เหมือนห้องหัวใจเราที่มี 4 ห้องเหมือนกัน
อะไรที่ผ่านไปแล้ว..ก็ให้ผ่านไป อย่าไปซีเรียสเครียดกับมัน ไม่ได้ช่วยอะไรเรา
หนี้เราแค่พลาด แต่มันแก้ไขได้ ..
ปล.ไปลงชื่อเข้าอบรมหรือยัง ถ้ายังก็ไปลงชื่อเข้าอบรมนะ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ
จดคำถามไว้ถามเวลาเข้าอบรม ความรู้จะได้แน่น..
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร

ขอบคุณที่คุณมาแชร์ให้เราฟัง กรณีที่ไปเจอ อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่
ที่ไม่ประสีประสากฎหมายจนแตกฉาน เพราะคุณยังไม่ได้ถามชื่อสกุล
ตำแหน่งเธอมา เธออาจแค่รู้งูๆปลาๆ แล้วมาให้คำปรึกษาคุณก็ได้ค่ะ

อย่าเพิ่งเหมาเข่งเรื่องทนายนะค่ะ ส่วนเรื่องหนี้ของคุณ ในระบบนั้นไม่
น่าห่วงเท่ากับนอกระบบ จัดการนอกระบบให้จบแล้วค่อยมาใส่ใจแก้
ในระบบต่อดีกว่าค่ะ

คิดในแง่บวก คุณได้เปรียบกว่าคนอื่น เพราะคุณเป็นคนที่ไม่มีอะไรจะเสีย
เจ้าหนี้ทั้งหลายต้องกลัวคุณมากกว่าคุณกลัวเขา แล้วขอถามหน่อยนะ
ว่า คุณกลัวเขามายึดของ ยึดบ้านจนเครียด เพราะ เหตุผลว่า

1 ของในบ้านคุณมีมูลค่าสูงกว่าหนี้ ไม่ใช่แค่หม้อ ตู้ โต๊ะ เตียงธรรมดาหรือเปล่าค่ะ
2 ราคาบ้านคุณมีส่วนต่างมากหรือเปล่า
3 ที่สำคัญคุณเป็นเพียงผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่หรือค่ะ

ถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาติใครเข้ามาในบ้าน เขาก็มายึดอะไรไม่ได้ค่ะ ได้แค่ขู่แค่
รังแกเท่านั้น อย่างมาก ถ้าผ่านกระบวนการฟ้องมาแล้ว ซึ่งใช้เวลาพอสม
ควร และคุณยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ หรือตกลงกันได้ เขาอาจจะ ถ้า
คุณยอมให้เข้าบ้าน มายึดของไป เพราะเขาทำอะไรคุณไม่ได้ หากถึง
วันนั้น ก็ปล่อยให้เขายึดทีวี ตู้เย็นสมัยสาวๆ แล้วให้เขียนว่า ยึดของไปแล้ว
เป็นอันจบหนี้ ดีไหมค่ะ

จะต้องถึงกับหย่าการเมืองหรือไม่ คุณต้องตอบคำถามข้างต้นก่อนค่ะ

ลองอ่านเรื่อง ปี 2555 หนี้ข้าต้องจบ ของพี่ชาย devil&angel ดูนะค่ะ
และอ่านสิ่งที่น้องๆ แนะนำอย่างใจเย็น อย่างข้าม แล้วคุณจะไม่เครียด
หรือนั่งตำหนิตัวเอง คนทุกคนทำผิดพลาดกันได้ แต่อยู่ที่ใครจะรู้ตัวแล้ว
กลับตัวมาแก้ไข มากกว่า แก้ตัวค่ะ อย่าดูถูกค่าของตัวเองแบบนั้นค่ะ


อ้อ ยังไม่สายที่จะลงชื่อเข้าอบรม แล้วคุณจะเข้าใจชีวิตที่ต้องอยู่กับหนี้มากขึ้น

อ่านที่คุณนุชเจอแล้ว นึกดีใจที่เรายังอยู่ที่นี่ และยังมีชมรมหนี้ฯ เป็นที่ล้อเป้า เอ๊ย...เป็นที่พึ่งของคนเป็นหนี้จริงๆ
ปัญหาในการทำงานในชมรมฯ มีบ้าง ประกอบกับงบประมาณเราไม่เคยมี ไม่เคยได้
เราหาเงินมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทางเดียวคือ รับงานฝึกอบรมข้างนอก ตามบริษัท ร้านค้า โรงงาน ที่ฝ่ายบุคคลเขามีโครงการให้ความรู้เรื่องหนี้กับพนักงาน เขาก็จ้างเราไป
เงินที่ได้จากการอบรม เราจะหักนิดหน่อยให้เป็นสินน้ำใจกับกรรมการที่ไปเป็นวิทยากร
ที่เหลือเราจะเก็บเข้ากองกลาง เพื่อเอาไว้ทำกิจกรรมเพื่อสมาชิก เช่น อบรมฟรีทุกๆสามเดือน เราก็เอาไปจ่ายเป็นค่าห้องประชุมให้กับ มพบ.ซึ่งคิดราคามิตรภาพมากๆ
เราคิดว่า จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เผื่อว่าสักวัน เราจะได้ไปอบรมนอกสถานที่ ต่างจังหวัดบ้าง เพื่อให้โอกาสกับคนที่เป็นหนี้ ที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ

กรรมการทุกคนที่อาสามาทำงานตรงนี้ บัวยอมรับว่า หน้าด้าน เอ๊ย...มีจิตอาสาจริงๆ
คุณอาไพโรจน์ เคยพูดกับกอบัวว่า "เมื่อเราเห็นคนเดือดร้อนมาอยู่ตรงหน้า เราจะใจดำไม่ช่วยได้อย่างไร เรามีโอกาสทำบุญแล้ว สะสมบุญไปเถิด"
บัวได้ยินแล้ว น้ำตาจะไหล...
บางครั้งเหนื่อย ท้อแท้ ก็จะฮึดสู้ขึ้นมาทุกครั้ง
คิดถึงรุ่นพี่ กรรมการก่อนหน้านี้ ที่ช่วยกันแผ้วทาง และช่วยกันจุดคบไฟแห่งความหวังให้กับเราทุกๆคน
บัวรักชมรมฯ นี้ตรงที่ เราไม่เคยคิดเงินในการให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะในเว็บบอร์ด เราก็ไม่เคยเก็บค่าสมาชิก ไปสวนลุม ก็จะเจอคุณอา เจอกรรมการคนขยันแบบคุณเชาวเลิศ ไปให้คำปรึกษาเรื่องหมายศาลที่นั่น ฟรี
โทรสายด่วน Hotline ก็ฟรี (นอกจากค่าโทรของคุณเอง)
เรามีประธานที่ตีนหนัก เอ๊ย...ที่เอาจริงเอาจัง เข้มแข็ง เป็นหัวเรือชูธง พาเราเดินหน้า (กอบัวหลบอยู่ข้างหลัง) 555++
ถ้าคุณนุช สบายใจขึ้น เพราะได้แนวทางสำหรับตัวเอง บัวก็ดีใจค่ะ ทุกคนก็ดีใจ
ถือเสียว่า เราเคยทำบุญร่วมกันมาก่อน เราเลยได้มาเจอกัน
ทุกคนเป็นกำลังใจให้กันและกัน
อย่ายอมแพ้เพียงเพราะคุณเป็นหนี้...นะคะ...