พึ่งเป็นสมาชิกสดๆร้อนๆ ช่วยครอบครัวของเราด้วยคะ

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17270 โดย preawpichy
:say: :say: :say:
กระทู้มือใหม่อยากหยุดจ่ายแล้ว

เพราะเริ่มเครียดกับการหาเงินมากจนเกือบจะเสียชีวิตจากโรคเครียด เพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ทำให้ต้องเข้าไอซียู นอนอยู่ไอซีอยู่เป็นเวลา5วัน พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้เมื่อวันที่18 กค ที่ผ่านมา สิ่งที่เสียใจที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ ไม่ได้ไปร่วมฉลองงานวันรับปริญญาของลูกสาวที่ม.เกษตรศาสตร์

สาเหตุของความเครียดมาจากหลายกรณีมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ ความเครียดจากงาน ความเครียดจากการที่ต้องหาเงงินจ่ายธนาคารให้ครบภายในกำหนดเวลาาของแต่ละเดือน เพราะกลัวจะเสียบูโร เพราะถ้าเสียบูโรแล้ว จะทำการกู้เงินจากสถาบันการเงินอื่นๆในอนาคตไม่ได้อีก
ปัจจุบันลูกสาวคนโตที่พึ่งเป็นจบจากม.เกษตรศาสตร์+นิติศาสตร์ รามคำแหง ในเวลาเดียวกัน(ลูกสาวจบปริญญาตรี2ใบคะ) เค้าก็อยากจะเรียนเนติบัณฑิตต่อ เพื่อจะสอบเป็นอัยการ แต่อีกใจลูกสาวก็บอกว่า ไม่อยากเรียนแล้ว อยากทำงานอะไรก็ได้ในเวลานี้ เพราะจะได้ช่วยแม่แบ่งเบาภาระ อย่างน้อยเค้าก็มีเงินเดือน แต่ดิฉันอยากให้เขาเรียนทีเดียวม้วนเดียวจบ เผื่อวันนึงสอบเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาได้ ได้เข้ารับราชการ ดิฉันจะได้หมดห่วง เราก็เป็นห่วงเค้า เค้าก็เป็นห่วงเรา
ส่วนลูกสาวคนเล็ก ตอนนี้เรียนอยู่ม.5ที่สวิซเซอร์แลนด์ (ได้ทุนAFS) ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน1ปี ดิฉันต้องโอนเงินด่ากินอยู่ให้ลูกสาวคนเล็กเดือนละ10000บาท ตัวสามีเองก็รับราชการ แต่ก็ไม่มีเงินเดือนเหลือได้รีบ เพราะเราเองกู้สหกรณ์มาลงทุนในกิจการตลอดเวลาที่อยู่กีนมา20ปี ทุกวันนี้ยอมรับว่ามีความเครียดและความกดดันสูงมากจนไม่มีเงินจะใช้จ่ายในครอบครัวเลย แต่ที่หามาได้ก็ยังจะต้องจ่ายค่าบ้านค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และเลี้ยงดู 4ชีวิต
ถ้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เกือบประมาณ2แสนต่อเดือน ที่ต้องหาให้ได้ แต่บางเดือนก้หาได้ไม่ถึง ก้จึงติดลบ เดือนแล้วเดือนเล่า จึงเป็นที่มาของการหากู้สินเชื่อธนาคาร ของตัวดิฉันก็ได้ประมาณ2ล้าน ส่วนของสามีได้มาประมาณ1.5ล้าน
บอกได้เลยว่าตลอดระยะเวลา 10ปี ไม่เคยจ่ายล่าช้า แม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะจ่ายแล้ว แม้แต่ขั้นต่ำก็ตาม
และเกรงว่า โรคหัวใจของตนเองจะกำเริบมาอีก เนื่องจากความเครียดและความกดดันในแต่ละเดือน ภาระในแต่ละเดือนที่ต้องพบเจอ เป็นห่วงลูกที่จะไม่มีบ้านอยู่
ดิฉันตั้งบริษัทมา3ปีแล้ว เป็นกรรมการผู้ถือหุ้น 40เปอเซน ลูกสาวอายุ22ปี ถือหุ้น40เปอเซน ส่วนสามีที่หย่ากัน(ก่อนจดบริษัท) ถือหุ้น20เปอเซน ขณะนี้ดิฉันอายุ51ปี สามีอายุ52ปี และคิดจะหาทางออกจากการเป็นกรรมการ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาสามีหรือลูกเป็นกรรมการแทนดี? และควรจะมีชื่อตัวเองอยู่ในกรรมการอีกดีหรือไม่?
เราพยายามหารายได้เข้าบริษัท เพื่อมียอดซื้อขายเยอะๆ จะได้กูSME ได้ (เงินก้อนโตมาหมุนเวียน) แต่เมื่อทำเรื่องกู้แล้ว เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก็ถูกปฎิเสธด้วยเหตุเพราะเมื่อ 8ปีก่อน ดิฉันเคยปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกสิกรไทย และได้ขายทรัพย์ชำระหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปีพ.ศ 2548
และในปัจจุบันนี้ ธ.กสิกรเอง ก็ยังอนุมัติบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลมาให้เช่นกัน

ดังนั้น ดิฉันจึงมีความทุกข์ใจและเหนื่อยใจอย่างมาก ที่มีปัญหาชีวิตรุมล้อมขนาดนี้ ดิฉันจึงอยากจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ และผู้รู้ทุกท่าน ช่วยดิฉันแก้ปัญหา
เพราะดิฉันคิดว่า จะหยุดการชำระหนี้เริ่มเดือนกรกฏาคม งวดนี้เป็นงวดแรก!!!!
แล้วปลของมันจะมีอะไรตามมาบ้าง? แล้วใช้เวลานานแค่ไหน?
((อาชีพของดิฉันคือ นายหน้าขายหินทราย วัสดุก่อสร้างคะ))

หนี้ทั้งหมดของดิฉันมีดังนี้คะ
1.ธนาคารนครหลวงไทย บัตรเครดิต เปิดบัญชีเมื่อ 24/03/2008 จำนวน 100000บาท
2.ธนาคารUOB บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นจำนวน 500000 บาท
3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นจำนวน 480000บาท
4.ธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด จำนวน 200000บาท
5.ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 50000บาท
6.อีออน บัตรกดเงินสด/ผ่อนสินค้า/เงินกู้ จำนวน 100000บาท
7.บัตรอยุธยาการ์ด สินเชื่อบุคคล จำนวน 200000บาท
8.บัตรกรุงศรีเฟิสช้อย สินเชื่อบุคคล อนุมัติ 28/06/2012 จำนวน 200000บาท
9.เช่าซื้อรถยนต์บริษัท BMW ขณะนี้เหลือ 500000บาท
ยอมรวมหนี้ ประมาณ 2xxxxxxx บาท

ส่วนหนี้ของสามี มีดังนี้คะ (สามีรับราชการ และถือหุ้น20เปอเซน ในบริษัท)
1.บัตรอีออน เงินผ่อน/เงินกูั/กดเงินสด 100000บาท
2.ธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิต 30000บาท
3.บัตรกรุงไทย 60000บาท (KTC)
4.ซิตี้ แอดวานส์ สินเชื่อเงินก้อน 150000บาท
5.ธนาคารออมสิน 1000000บาท
ยอดรวมหนี้ประมาณ 1.5ล้าน

สุดท้ายนี้ ขอความกรุณาจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและผู้รู้ทุกท่าน ช่วยดิฉันแก้ปัญหา หาทางออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ควรจะหยุดชำระหนี้ตัวไหน? หรือไม่ควรหยุดตัวไหน? ดิฉันอยากจะผ่านพ้นวิกฤตตรงนี้ไปโดยเร็ว ดิฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อรอดูความสำเร็จของลูกสาวทั้งสองคนคะ
อีกอย่างนะคะ มีสถาบันการเงินไหนแนะนำให้ดิฉันไปกู้ ขอสินเชื่อ เผื่อว่าวันนึงอยากจะล้มบนฟูกบ้าง ขอบคุณคะ :สู้ๆ: :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17279 โดย Pych
ยินดีต้อนรับ สมาชิกใหม่นะครับ ชมรมของเราให้ได้แค่แนวทาง ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของคุณเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัย ภาระ ตัวแปรที่แตกต่างกัน ไม่มีแนวทางที่ตายตัวและใช้ได้กับทุกคนนะครับ ชมรมของเรามีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ คือ Firstway Out, Secondway Out, และ Thirdway out ซึ่งบางคน ยังสามารถเอาแนวทางหลักๆ มาใช้แบบผสมผสานกันก็ได้

เริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ Firstway Out, Secondway Out คืออะไร ต้องอ่านกระทู้ต่อไปนี้เลยครับ


1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29

4. ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29

5. ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29

หลังจากนั้น สรุปแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะเป็น Firstway out หรือ Secondway out หรือ Thirdway out ก็เอาให้เหมาะกับรายรับ-รายจ่ายของคุณ ต่อจากนั้นก็แค่ทำตามที่กระทู้ข้างบนบอกไว้ครับ

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเลือก วิธีที่ 2 SECONDWAY OUT คุณต้องทำตามที่กรรมการแนะนำไว้ในกระทู้ ดังนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอด อย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์ (ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้ กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ.)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2. ต้องบอกครอบครัวให้รู้ จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไร และเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3. ต้องบอกที่ทำงาน( หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อน คนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร) ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไร และจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชี ห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักที ให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่า แล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานตามความเหมาะสม

4. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่ เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10000 เหลือ 5000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัว สำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดู ส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัว พยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม

5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆ ที่มีสารพัดรูปแบบและหาอ่านเพิ่มเติมตามเรื่องที่คุณต้องการรู้ได้จากการสืบค้นด้วยแท็บด้านบนหรือจะใช้ google ช่วยค้นหาก็ได้ โดยพิมพ์คำว่า site:consumerthai.org ต่อด้วยคำที่อยากหา เช่น site:consumerthai.org แฮร์คัท หรือ site:consumerthai.org ทวงหนี้


มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ โชคดีนะครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: preawpichy

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17284 โดย Ly89
อ่านตามที่คุณอนาคินวางลิงค์ไว้ให้ก่อนนะครับ...อ่านให้ละเอียด อ่านให้เข้าใจ...

ได้เรื่อง ได้แนวทางอย่างไรก็มาเล่าให้ฟังใหม่...พี่ๆน้องๆจะได้แนะนำได้ถูกจุด....

แต่ที่เห็นๆก็ไอ้เจ้า BMW น่ะ เปลี่ยนเป็น TOYOTA หรือ HONDA มือสองจะดีกว่าไหมครับ

เวลานี้ไม่ควรคำนึงถึงหน้าใหญ่ใจโตแล้วนะครับ....ทุกๆรายละเอียดที่เป็นเงิน...ควรจะประเมิณให้ดี

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17288 โดย Co2z
ตามด้านบนเลยครับอ่านให้เข้าใจก่อนว่ามีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร แต่อย่างแรกที่ต้องทำคือ รถที่ใช้อยู่ ขายดาวน์ไปแล้วเอาเงินดาวน์มาซื้อมือ 2 โดยที่ต้องไม่เป็นหนี้เพิ่ม มันก็จะลดหนี้ไปได้ส่วนหนึ่งซึ่งสูงพอสมควร ต่อมาทำบัญชีรายจ่ายทั้งหมด หาดูว่าใน 2แสนที่ต้องใช้ต่อเดือน อะไรไม่จำเป็นบาง คาดว่าเยอะพอควร

สุดท้าย จมให้ลง อยู่กับสิ่งที่เราทำมาให้ได้ ก่อนจะมีวันนี้ มันก็เริ่มจากศูนย์ ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีขนาดนี้ยังอยู่ได้ แล้วทำไม ณ ตอนนี้จะอยู่ไม่ได้ สู้ๆครับ อดทน และเอาตัวเองและครอบครัวให้อิ่มท้องก่อน หนี้สิน มาทีหลัง

อย่าพยายามหาหนี้มาใช้หนี้้ ถ้าทำเช่นนั้นแล้วมันก็ไม่หมดแก้ไม่ตก อย่างที่ท่านหนึ่งเคยบอกกับผมว่า หนี้กู้ต้องแก้ด้วยเงินกู ไม่ใช้แก้ด้วยเงินกู้ ค่อยๆอ่าน และค่อยๆคิดอย่าทำอะไรแบบรีบร้อน ใจเย็นๆครับ :สู้ๆ: ทุกกระทู้ปักหมุดมันมีคำตอบที่ถามมาทั้งหมดครับ ถ้าไม่กระจ่าง ก็กลับมาถามใหม่ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17290 โดย preawpichy
กระทู้มือใหม่อยากหยุดจ่ายแล้ว

เพราะเริ่มเครียดกับการหาเงินมากจนเกือบจะเสียชีวิตจากโรคเครียด เพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ทำให้ต้องเข้าไอซียู นอนอยู่ไอซีอยู่เป็นเวลา5วัน พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้เมื่อวันที่18 กค ที่ผ่านมา สิ่งที่เสียใจที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ ไม่ได้ไปร่วมฉลองงานวันรับปริญญาของลูกสาวที่ม.เกษตรศาสตร์

สาเหตุของความเครียดมาจากหลายกรณีมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ ความเครียดจากงาน ความเครียดจากการที่ต้องหาเงงินจ่ายธนาคารให้ครบภายในกำหนดเวลาาของแต่ละเดือน เพราะกลัวจะเสียบูโร เพราะถ้าเสียบูโรแล้ว จะทำการกู้เงินจากสถาบันการเงินอื่นๆในอนาคตไม่ได้อีก
ปัจจุบันลูกสาวคนโตที่พึ่งเป็นจบจากม.เกษตรศาสตร์+นิติศาสตร์ รามคำแหง ในเวลาเดียวกัน(ลูกสาวจบปริญญาตรี2ใบคะ) เค้าก็อยากจะเรียนเนติบัณฑิตต่อ เพื่อจะสอบเป็นอัยการ แต่อีกใจลูกสาวก็บอกว่า ไม่อยากเรียนแล้ว อยากทำงานอะไรก็ได้ในเวลานี้ เพราะจะได้ช่วยแม่แบ่งเบาภาระ อย่างน้อยเค้าก็มีเงินเดือน แต่ดิฉันอยากให้เขาเรียนทีเดียวม้วนเดียวจบ เผื่อวันนึงสอบเป็นอัยการหรือผู้พิพากษาได้ ได้เข้ารับราชการ ดิฉันจะได้หมดห่วง เราก็เป็นห่วงเค้า เค้าก็เป็นห่วงเรา
ส่วนลูกสาวคนเล็ก ตอนนี้เรียนอยู่ม.5ที่สวิซเซอร์แลนด์ (ได้ทุนAFS) ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน1ปี ดิฉันต้องโอนเงินด่ากินอยู่ให้ลูกสาวคนเล็กเดือนละ10000บาท ตัวสามีเองก็รับราชการ แต่ก็ไม่มีเงินเดือนเหลือได้รีบ เพราะเราเองกู้สหกรณ์มาลงทุนในกิจการตลอดเวลาที่อยู่กีนมา20ปี ทุกวันนี้ยอมรับว่ามีความเครียดและความกดดันสูงมากจนไม่มีเงินจะใช้จ่ายในครอบครัวเลย แต่ที่หามาได้ก็ยังจะต้องจ่ายค่าบ้านค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และเลี้ยงดู 4ชีวิต

ถ้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เกือบประมาณ2แสนต่อเดือน ที่ต้องหาให้ได้ แต่บางเดือนก้หาได้ไม่ถึง ก้จึงติดลบ เดือนแล้วเดือนเล่า จึงเป็นที่มาของการหากู้สินเชื่อธนาคาร ของตัวดิฉันก็ได้ประมาณ2ล้าน ส่วนของสามีได้มาประมาณ1.5ล้าน
บอกได้เลยว่าตลอดระยะเวลา 10ปี ไม่เคยจ่ายล่าช้า แม้แต่ครั้งเดียว แต่ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะจ่ายแล้ว แม้แต่ขั้นต่ำก็ตาม
และเกรงว่า โรคหัวใจของตนเองจะกำเริบมาอีก เนื่องจากความเครียดและความกดดันในแต่ละเดือน ภาระในแต่ละเดือนที่ต้องพบเจอ เป็นห่วงลูกที่จะไม่มีบ้านอยู่
ดิฉันตั้งบริษัทมา3ปีแล้ว เป็นกรรมการผู้ถือหุ้น 40เปอเซน ลูกสาวอายุ22ปี ถือหุ้น40เปอเซน ส่วนสามีที่หย่ากัน(ก่อนจดบริษัท) ถือหุ้น20เปอเซน ขณะนี้ดิฉันอายุ51ปี สามีอายุ52ปี และคิดจะหาทางออกจากการเป็นกรรมการ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาสามีหรือลูกเป็นกรรมการแทนดี? และควรจะมีชื่อตัวเองอยู่ในกรรมการอีกดีหรือไม่?
เราพยายามหารายได้เข้าบริษัท เพื่อมียอดซื้อขายเยอะๆ จะได้กูSME ได้ (เงินก้อนโตมาหมุนเวียน) แต่เมื่อทำเรื่องกู้แล้ว เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก็ถูกปฎิเสธด้วยเหตุเพราะเมื่อ 8ปีก่อน ดิฉันเคยปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกสิกรไทย และได้ขายทรัพย์ชำระหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปีพ.ศ 2548
และในปัจจุบันนี้ ธ.กสิกรเอง ก็ยังอนุมัติบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลมาให้เช่นกัน

ดังนั้น ดิฉันจึงมีความทุกข์ใจและเหนื่อยใจอย่างมาก ที่มีปัญหาชีวิตรุมล้อมขนาดนี้ ดิฉันจึงอยากจะมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ และผู้รู้ทุกท่าน ช่วยดิฉันแก้ปัญหา
เพราะดิฉันคิดว่า จะหยุดการชำระหนี้เริ่มเดือนกรกฏาคม งวดนี้เป็นงวดแรก!!!!
แล้วปลของมันจะมีอะไรตามมาบ้าง? แล้วใช้เวลานานแค่ไหน?
((อาชีพของดิฉันคือ นายหน้าขายหินทราย วัสดุก่อสร้างคะ))


หนี้ทั้งหมดของดิฉันมีดังนี้คะ
1.ธนาคารนครหลวงไทย บัตรเครดิต เปิดบัญชีเมื่อ 24/03/2008 จำนวน 100000บาท
2.ธนาคารUOB บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นจำนวน 500000 บาท
3.ธนาคารไทยพาณิชย์ บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นจำนวน 480000บาท
4.ธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสด จำนวน 200000บาท
5.ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 50000บาท
6.อีออน บัตรกดเงินสด/ผ่อนสินค้า/เงินกู้ จำนวน 100000บาท
7.บัตรอยุธยาการ์ด สินเชื่อบุคคล จำนวน 200000บาท
8.บัตรกรุงศรีเฟิสช้อย สินเชื่อบุคคล อนุมัติ 28/06/2012 จำนวน 200000บาท
9.เช่าซื้อรถยนต์บริษัท BMW ขณะนี้เหลือ 500000บาท
ยอมรวมหนี้ ประมาณ 2xxxxxxx บาท

ส่วนหนี้ของสามี มีดังนี้คะ (สามีรับราชการ และถือหุ้น20เปอเซน ในบริษัท)
1.บัตรอีออน เงินผ่อน/เงินกูั/กดเงินสด 100000บาท
2.ธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิต 30000บาท
3.บัตรกรุงไทย 60000บาท (KTC)
4.ซิตี้ แอดวานส์ สินเชื่อเงินก้อน 150000บาท
5.ธนาคารออมสิน 1000000บาท
ยอดรวมหนี้ประมาณ 1.5ล้าน

สุดท้ายนี้ ขอความกรุณาจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและผู้รู้ทุกท่าน ช่วยดิฉันแก้ปัญหา หาทางออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ควรจะหยุดชำระหนี้ตัวไหน? หรือไม่ควรหยุดตัวไหน? ดิฉันอยากจะผ่านพ้นวิกฤตตรงนี้ไปโดยเร็ว ดิฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อรอดูความสำเร็จของลูกสาวทั้งสองคนคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17291 โดย Pych

ผมแนะนำให้ไปอ่าน แล้วทำไมไม่ไปอ่านก่อนล่ะครับ

แล้วมาตั้งกระทู้ใหม่ทำไม แถมยังไปตั้งห้องเรื่องเล่าชาวหนี้

ห้องนั้น ห้ามถามปัญหาหนี้ครับ

กรุณาเคารพกฎ กติกา มารยาทของชมรมฯ ด้วยครับ

ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: preawpichy

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17292 โดย preawpichy
โอเคคะ พอดีเมื่อกี้จะเข้าไปลบกระทู้ในห้องเรื่องเล่าชาวหนี้ แต่พอดีหาไม่เจอ ก็ขอบคุณที่ลบให้เรียบร้อยแล้วนะคะ แล้วก็กำลังศึกษาอยู่คะ อาจมีผิดๆถูกๆไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17296 โดย เหยียบย่ำความเหงา
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆศึกษา ทำความเข้าใจกะหนี้ที่เกิดขึ้น ปรับเปลี่ยนแนวคิดปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต สิ่งไหนจำเป็นไม่จำเป็น สิ่งไหนมีก็ได้ไม่มีก็ได้ สิ่งไหนปล่อยวางได้บ้าง" สุดท้ายคือการยอมรับความจริง"ยอมรับความจริงว่าเราเป็นหนี้ หาวิธีประหยัดรายจ่าย หาหนทางเพิ่มรายได้ อย่ายึดติดกะวัตถุภายนอก มองหาสิ่งไหนไม่จำเป็นตัดออกไป
สุดท้ายขอให้คุณโชคดีหาหนทางแก้ไขปัญหาให้ใด้ด้วยการอ่านแนวทางต่างๆที่มีบอกไว้อย่างชัดเจน
อยากจะบอก ดิฉันก็เป็นหนี้เท่าๆกันกะของคุณ ปัจจุบันหมดหนี้แบงค์แล้วเหลือหนี้ญาติอีกล้าน ดิฉันผ่านมาได้ก็ด้วยการอ่านหาความรู้จากในนี้เหมือนกันค่ะ สู้ๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17322 โดย ntps


สิ่งที่คุณ preawpichy เล่ามา ถือว่า เป็น 1 ก้าว แห่งความกล้า
แต่จะดีกว่านี้ ถ้าคุณและครอบครัวจะ ยอมรับความจริง




คุณไม่ผิดที่จะพยายามไข่วคว้าสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง และครอบครัว แต่
จะดียิ่งขึ้น ถ้าคุณและครอบครัวพร้อมที่จะมี ที่จะทำ ไม่ใช่ยืม หรือยืนบน
สิ่งที่ไม่ใช่ของคุณเอง ของทั้งหลายแม้แต่ตัวคุณเอง ล้วนไม่จีรัง ไม่มีใคร
เป็นเจ้าของทั้งสิ้น เราเกิดมา ก็ไม่มีอะไร พอตายไปก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้
เช่นกัน

หนี้ที่ทำร้ายและทำลายชีวิตคุณอยู่ เพราะคุณยังไม่ยอมปล่อยวางนั้นเอง
หากคุณจะกอดทุกอย่างไว้ หนี้ก็ไม่มีวันปลดได้ค่ะ คุณควรสำรวจทรัพย์
สินใดที่จะช่วยคุณรอดได้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง
ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินได้เพื่อเป็นทุนในการปลดหนี้ ไม่ใช่เพื่อไปต่อหนี้ หรือ
สร้างหนี้ใหม่ ก็ทำเถอะค่ะ

อายุเราเท่ากัน แต่ตอนนี้แก้วจ๋าปลดหนี้ได้แล้ว ในเวลา 3ปี หนี้ 4-5ล้าน
ก็กลายเป็นอดีต เป็นบทเรียนที่ไม่มีวันลืม สอนให้แก้วจ๋าลุกมาปฎิวัติตัวเอง
มาเปลี่ยนทัศนคติ การใช้ชีวิตของตัวเองใหม่ ความไม่รู้นั้นไม่ผิดแต่ความ
ดันทุรังที่จะแก้แบบผิดๆ คือ ความผิดอย่างมหันต์ การแก้ไขมิใช่แก้ตัว

เราไม่อยากรู้หรอกว่า หนี้เกิดมาจากไหน แต่ประเด็นตอนนี้ คือ จะแก้ไข
อย่างไร

พ่อหลวงตรัสบ่อยมากเรื่อง ความพอเพียง แต่ไม่มีใครคิดและเข้าใจในสิ่ง
ที่ท่านตรัสอย่างถูกต้อง แล้วนำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง ความหมายคือ
การใช้ชีวิตอย่างเพียงพอกับสิ่งที่เรามี มี 1 บาท ใช้ 1 บาท ไม่ใช่ มี 1บาท
ใช้ 10 บาท เป็นต้น

คุณยังไม่สายที่จะเริ่มต้น ยอมรับ การเป็นหนี้ด้วยวิธีหยุดหนี้ ไม่ใช่สิ่งผิด
ไม่ใช่การเบี้ยวไม่จ่ายหนี้ แต่เราจ่ายเมื่อเราพร้อมจ่าย แล้วโรคภัยต่างๆ
ก็จะหายไปเองค่ะ

เรามีข้อมูลมากมายทั้งบนปักหมุดสีแดงข้างบน ในห้องเล่าหนี้ และในห้อง
รู้ทันกฎหมายหนี้
ที่จะช่วยคุณรอดได้ค่ะ



ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17324 โดย ntps



วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน

สโลแกนของชมรมหนี้ฯ

“เราสอนให้เพื่อนจับปลา
เราต่อต้านการทวงหนี้โหด
เราไม่ส่งเสริมการชักดาบ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17333 โดย mlek
เข้ามาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่ "สติ" และการ "ปรับแนวความคิดใหม่" นะคะ
ทุก ๆ คนที่นี่ ทำตามแนวทางที่ทางชมรมฯ แนะนำน่ะค่ะ "อ่านเยอะ ๆ" มันไม่ได้น่ากลัวหรือน่าเกรงเหมือนที่ "ใจคุณคิด" ก็ได้นะคะ ทุก ๆ คนที่นี่ต่างก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันคือ "ความมุ่งมั่น และความหวัง"

"หนี้" มันเกิดขึ้นมาได้มันก็ต้องจบได้ค่ะ เพียงแต่มันต้องมี "ระยะเวลา" จะมากหรือจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นว่า "ยึดติด" กับมันมากน้อยแค่ไหน

ทุกคนในที่นี้มี "ครอบครัว" กันทั้งนั้นแหละค่ะ ทุก ๆ คนไม่อยากให้ปัญหามันบานปลายหรอกนะคะ คุณต้อง ใจเย็น ๆ และมีสติเยอะ ๆ ค่ะ

คุณอา, ท่านประธาน, กรรมการ ในชมรมฯ นี้ เค้าสอนให้ "จบหนี้ด้วยตัวเองค่ะ" เพราะ "เราเป็นคนสร้างหนี้ขึ้นมาเอง" กรณีอยากปรึกษาก็ติดต่อได้ตามวันและเวลาที่ทางชมรมฯ กำหนดนะคะ ส่วนทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย ก็สามารถไปปรึกษากับคุณอา,กรรมการ, พี่ ๆ เพื่อน ๆ ได้ค่ะ

สู้สู้นะคะ เพื่ออนาคตที่สดใส....:สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17426 โดย tonhom
เข้ามาเป็นกำลังให้อีกคนครับ สู้ๆ :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17454 โดย preawpichy

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17505 โดย preawpichy
สรุปยอดหนี้สินของครอบครัวดิฉันนะคะ

1.ของตัวดิฉันเอง (ถรรยา)
มีบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล จำนวนเงิน 1.8ล้าน (10สถาบัน 16บัญชี)
ยังไม่รวมหนี้สินบ้าน ซึ่งเหลืออีก5แสนบาท และรถอีก 1คัน 5แสนบาท
-ของดิฉันตั้งใจจะใช้วิธี Second Way Out


2.ของสามี
มีบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล และผ่อนสินค้า บริษัทอีออน จำนวน3.5 แสน (4สถาบีน 5บัญชี)
- ของสามีดิฉันจะใช้วิธี First Way Out

ด้วยเหตุผลว่า หนี้สินของดิฉันมีมากกว่าสามี เพราะได้รับวงเงินอนุมัติมามากกว่าในฐานะเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท (แต่ตอนนี้เปลี่ยนตัวผู้จัดการ ให้สามีขึ้นไปเป็นแทนแล้ว)
*เราหย่ากันไปเมื่อปี 2552 ก่อนจดบริษัท แต่มีชื่อเป็นกรรมการอยู่ด้วย

แต่วิธีของดิฉัน(Second Way) คิกว่าถ้าเป็นบัตรเครดิตจะชำระขึ้นต่ำไปเรื่อยๆดีกว่าไหม? เพราะชำระวันนี้ พรุ่งนี้ก็กดมาไปชำระบัตรอื่นๆ ได้อีกหลายบัตร แต่ทั้งๆที่รู้ว่าหนี้ไม่ลด แต่อยากจะรักษาสภาพบัตรเครดิตไว้ก่อนจะดีมั้ยคะ?
แต่สินเชื่อเงินก้อนที่ชำระเป็นงวดๆ 48,60 บ้าง ก็หยุดจ่ายแล้ว เพราะไม่มีเงินก้อนที่จะจ่าย แล้วออกจากกระเป๋าไปแล้วไม่ได้กลับ (บ้านและรถจ่ายต่างหาก ไม่เกี่ยวกับแบงค์ที่มีบัตรเครดิตอยู่)

ที่คิดอยากรักษาบัตรเครดิตเพราะว่า เผื่ออนาคตจะได้วงเงินบัตรมาใช้ยามครอบครัวฉุกเฉินได้ หรือว่าถ้าเราหยุดจ่ายสินเชื่อเงินก่อนแต่ละที่ไปแล้ว บูโรก็จะโชว์ประวัติเสียอยู่ดี? ยังไงอนาคตก็ไม่มีทางได้วงเงินบัตรเครดิตใช้ อย่างที่คิดไว้ ใช่หรือไม่?

ถ้าอนาคตลูกและสามีใช้บริษัทเข้ายื่นกู้ขอสินเชื่อบ้าน/ธุรกิจSME ธนาคารจะเชคประวัติของเราที่มีหนี้เสียไหม? เพราะขณะนี้เราก็ลงมาเป็นแค่ กรรมการผู้ถือหุ้น20เปอเซน (ไม่มีอำนาจลงนาม) (กรรมการบริษัทใช้ 3คน)
*แต่ละแบงค์ที่อนุมัติมา มีอย่างละ 2 - 3บัญชี จะมีทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล และวิธีที่คิดปรับปรุงหนี้ จะมีประโยชน์ไหม ถ้าทำแบบนี้?

ขณะนี้.... รายได้ของบริษัท เฉลี่ย 5-6หมื่น ต่อเดือนเอง ทุกอย่างดิฉันต้องรับผิดชอบคนเดียวล้วนๆเลยคะ

เริ่มหยุดจ่าย SCB loan 18 กค 55 เป็นรายแรก งวดแรก (หนี้4.5แสน)
และกำลังจะต่อด้วย UOB(หนี้ 5แสน) FIRST choice(2แสน) อยุธยาการ์ด(2แสน) กสิกร(2แสน) บัตรกรุงไทย(1แสน)

มีSCB/K bank/UOB มีบัตรเครดิตร่วมด้วย อย่างละ1-2ใบทุกแบงค์
ถ้าหยุดชำระ SCB กค 55 นี้ ............ แล้วหลังจากนี้ อาจโดนทวงภามทุกวี่ทุกวัน แล้วอีกประมาณกี่วันกี่เดือน จะมีหมายศาลมาถึง มาส่งแบบไหน? เพื่อนข้างบ้านจะรู้เรื่องของเราไหม? จะเหมือนที่ศาลมาปิดหมายเหมือนพวกถูกยึดบ้านไหม?


แล้วถ้าวันที่ต้องไปศาลจริงๆ อยากจะมีทนายของทางชมรมไปเป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษาด้วยจะมีมั้ยคะ เพราะจะได้นำเสนอเรื่องขอลดหนี้แบบไหน? วิธีไหนที่เหมาะ? หรือว่าอย่างไรถึงจะต้องมีขอเลื่อนนัดศาลเหมือนเพื่อนๆสมาชิกท่านอื่นคะ

วันนี้ได้รับจดหมายที่ถูกตีพิมพ์โดยระบบอัตโนมัติ จากสินเชื่อสปีดดี้ โลน ของSCB เป็นรายแรก เพราะผิดนัดมา 7 วัน จนท.โทรมาแนะนำให้ทยอยผ่อนจนกว่าบิลรอบใหม่จะมาถึงก็ได้ ยอดชำระ12000ต่องวด

*อยากได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกมากๆเลยคะ จะเป็นพระคุณอย่างสูงคะ ขอบคุณคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17511 โดย ntps
:upset: คุณหายไปหลายวัน นึกว่าได้สติ อ่านกระทู้เราแล้วเสียอีก
:เฮ้อ: แต่ผิดหวังอย่างสูง ไม่เคยมีใครทำเช่นคุณมาก่อนเลย



แต่วิธีของดิฉัน(Second Way) คิกว่าถ้าเป็นบัตรเครดิตจะชำระขึ้นต่ำไปเรื่อยๆดีกว่าไหม? เพราะชำระวันนี้ พรุ่งนี้ก็กดมาไปชำระบัตรอื่นๆ ได้อีกหลายบัตร แต่ทั้งๆที่รู้ว่าหนี้ไม่ลด แต่อยากจะรักษาสภาพบัตรเครดิตไว้ก่อนจะดีมั้ยคะ?

คุณเข้าใจ วิธี First และ Second Way อย่างไรค่ะ

3.1firstway out
การจ่ายขั้นต่ำเพื่อรักษาบัญชีและเครดิต
3.2secondway out
การหยุดจ่ายทุกบัญชี เก็บเงินรอแฮร์คัตเจรจาชำระหนี้ครั้งเดียวเพื่อปิดบัญชีหนี้
3.3thirdway out
การรวมหนี้หลายที่ไว้ที่เดียวกัน แล้วชำระที่เดียว

แค่คุณขึ้นต้นว่า ใช้ second way แต่ขอจ่ายขั้นต่ำ ดิฉัน :cry2:

หนี้คุณขนาดล้านขึ้นไป ยังกลัวเสียเครดิต (ไม่อ่าน ไม่เข้าใจเรื่องเครดิตบูโรอีกเรื่อง)
แล้วยังบอกต่อว่า จะกดไปชำระบัตรอื่นต่อหลังจากจ่ายเข้าไป

พูดไม่ออกบอกไม่ถูกแล้ว :sweat: อ่านให้เข้าใจ แล้วกลับมาบอกใหม่ดีกว่าไหมค่ะ





ถ้าใจยังไม่สงบ สติไม่กลับมา ยากที่จะเข้าใจแนวทางของเรา



ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17514 โดย Pachiby8
เป็นกำลังใจให้นะคะ ถ้าเลือกจะหยุดจ่ายก็ต้องหยุดทุกบัญชีค่ะ

1 พอจะขายบ้าน ขายรถ มาใช้หลังเล็กลง รถเล็กลงได้ไหมคะ
2 shop, กิน, เที่ยว แบบธรรมดาติดดิน
3 บอกให้ลูก ๆ รับรู้ว่าตอนนี้ที่บ้านมีปัญหาทางการเงิน ให้ช่วยกันประหยัด หรือหารายได้ระหว่างเรียน
4 อะไรที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ลองเปลี่ยนดูค่ะ เช่น มีที่ทางเยอะ คุ้มกว่าไหมถ้ายอมขายมาปลดหนี้ ระหว่างที่หยุดก็จะมีส่วนลดมาเสนอให้ล่ะค่ะ
5 เรื่องเสียเครดิต คงต้องปล่อยไปนะคะ เพราะอนาคตการใช้เงินสดมันสดใจที่สุดเลยค่ะ

ลองดูนะคะ สู้ๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17562 โดย Co2z
ตามที่ท่านแก้วจ๋าบอกเลย คุณยังไม่พร้อมกับการยอมรับว่าเป็นหนี้ ( พูดตรงไปเป่าหว่า ) คนที่เข้ามาที่นี่เค้าก็มีปัญหาหมด ไม่มีปัญหาคงไม่เข้ามาหรอก เข้ามาแล้วก็ถามว่าต้องทำยังไง แก้ไขยังไง ทั้งๆที่ใช้อารมณ์อ่าน ไม่ได้ใช้ใจอ่าน อ่านแบบไม่มีสติ วันๆคิดแต่ว่า จะทำยังไงว่ะ เอาเงินที่ไหนมาโป๊ะ จะไปกู้แบงค์ไหนดีว่ะ ต้องรักษาเครดิต ทุกอย่างเนี๊ยะ คุณกำมันไว้ คุณก็ยังมองไม่เห็นหรอกว่าในมือมีอะไร ลองปล่อยวางซะบ้างครับ เรื่องเครดิตเนี๊ยะ อ่านในปักหมุดก็จะมีบอกว่า ต่อให้คุณจ่ายขั้นต่ำ คุณก็เสียเครดิตแล้ว เพราะภาระหนี้สินเยอะ กู้ยาก ที่ทำได้คือ ยอมรับความจริงก่อนแล้วคุยกันในครอบครัว ว่านี้เราเป็นหนี้นะ เราต้องทำยังไง ปัญหาไม่ใช่แก้คนเดียวได้เสมอไป เวปบอร์ดนี้ก็ทำได้แค่ เล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น เคยพบเจอมา เพื่อที่จะให้ เรา เตรียมตัว เตรียมใจรับ กับสิ่งที่มันต้องเกิดขึ้น อย่าเอาปัญหาใหญ่ๆมาแก้คนเดียว หลายหัวดีกว่าหัวเดียวเสมอ ทุกคนในที่นี้เค้าก็อยากช่วยคุณนะ แต่ คุณไม่อยากให้ช่วยตัวเอง ประมาณว่า คุณตกบ่อโคลน แต่คนในนี้โยนเชือกให้ คุณไม่รับมัน คุณควานหาเชือกเส้นอื่นซึงมันทำให้คุณยิ่งจม

คำตอบทั้งหมดมันอยู๋ในปักหมุดแล้ว ตั้งใจอ่าน ไม่ใช่สักแต่ว่าพอมีเรื่องก็จะเอาคำตอบเอาวิธีแก้ปัญหาแบบเป๊ะๆให้ได้ อย่าลืมว่า ตอนเวลาใช้เงิน คนในนี้เค้าไม่ได้ร่วมสุขด้วยนะ พอมีปัญหา อยากให้คนอื่นช่วยทั้งๆที่ตัวเองยังยอมรับไม่ได้

ถ้าถามผมว่าถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร
1. ผมจะยอมรับมันว่าหนี้ที่ก่อมันคือหนี้ที่ผมทำ และหาทุกทางให้มันหมด
2. อ่านๆๆๆ แล้วก็เอาใจความที่ได้ว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไร คุยกับคนในครอบครัว
3. สิ่งแรกที่ผมต้องขาย คือ BMW เพราะมันยังเป็นหนี้อีกครึ่งล้าน เพราะถ้าให้เดา ตัวนี้ผ่อนอย่างน้อย เกือบ 2 หมื่น ดีไม่ดี 2 อัพด้วย ขายดาวน์แล้วไปออกมือสองคันใหม่ ( จ่ายสดด้วยนะ เอาเงินที่ขายดาวน์นั้นล่ะ ) แบบว่าไม่ต้องเพิ่มเงิน ยิ่งเหลือยิ่งดี แต่หากไม่ทำเป็นจริงๆ ผมกำเงินก้อนไว้โป๊ะหนี้ดีกว่า เพราะยังไงมือไม่ขาดขาไม่ด้วน สติยังมี ผมหาใหม่ได้ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ
4. หยุดจ่ายมันทุกใบ ไม่มีอะไรที่ต้องห่วง เพราะกิจการเป็นของตนเอง ไม่มีเงินเดือนเข้าบัญชี
5. สำรวจเงินรั่วไหล โดยเขียนว่าแต่ละเดือนเงินมันไปไหนหมด ตัดได้ตัด พยายามกำเงินก้อนไว้ ( มันทวงมาชิ้งแม่งเลย อิอิ แต่อันนี้ไม่แนะนำ )
6. ถ้ายังสามารถผ่อนบ้านไหว ผ่อนต่อไป ถ้าผ่อนไม่ไหวค่อยหยุด ต่อให้โดนยึดขายทอดตลาดมันก็มีวิธีไปช้อนซื้อกลับมาในราคาถูก อันนี้หาอ่านได้
7. สุขสบายกับการไม่ต้องจ่ายบัตรต่างๆในแบบฉบับอดออมเก็บก้อนเพื่อตัดจบ

ทั้งนี้ทั้งนั้นผมอ่านแค่ไม่กี่หน้า + หนังสือที่แนะนำในปักหมุด ( อันนี้เพราะผมขี้เกียจอ่านทุกๆหน้า คิดว่าหนังสือสรุปมาหมดล่ะ ) ผมหาทางออกได้แล้ว แล้วคิดว่าถ้าคุณอ่านแล้วจะหาทางออกไม่ได้เชียวหรอ ลองมันซักตั้ง ของทุกอย่างมันใช้เวลา ก่อนสร้างหนี้คุณใช้เวลากี่ปี แล้วคุณมาหาคำตอบมันจะได้ในเวลาชั่วพริบตาเชียวหรือ

สู้ๆครับ ทุกคนในนี้เป็นกำลังใจให้ได้เสมอ แต่กำลังใจที่ดีที่สุดคือคนในบ้าน หากในบ้านไม่ให้กำลังใจ ทุกคนในนี้เป็นกำลังใจให้ครับ อย่ายอมแพ้ ขอแค่ยอมรับมันให้ได้ แล้วรู้จักปล่อยวางเท่านั้นครับ เครียดกับหนี้มันมาเยอะอยู่กับมันมานาน นอนไม่หลับมาก็หลายอยู่ ลองอ่านสักนิดไม่เสียเวลาหรอกครับ แล้วจะได้สบายใจขึ้นว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น ขอแค่ไม่สร้างหนี้เพิ่มก็พอ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17591 โดย ntps
ดีใจที่รู้จักคนแบบคุณ Co2z ขอปรบมือกับคำแนะนำที่ดีค่ะ

แก้วจ๋าเพียงเข้ามาบอกว่า เวลานั้นไม่รอใคร เห็นใจ เข้าใจ
คนทำธุรกิจเช่นคุณ preawpichy คงทำใจลำบากจะยอมรับ
การหยุดชำระหนี้ กลัว และ อาย ที่ใครจะรู้ สมัยนี้คนทำธุรกิจ
ส่วนมากมีใครบ้างไม่เป็นหนี้ เขาก็เป็นหนี้ทั้งนั้น แต่ละคนก็
ใช้วิธีหมก สร้างภาพ นั่งรถหรู รูดบัตรระดับ platinum หรือ
diamond กินอาหารต้องเลิศต้องหรู แต่หารู้ไหมว่า สิ่งที่หมก
อยู่ในใจ คือ ทุกข์เพราะหนี้ วันๆ เอาแต่ปิดยอดนั้นเสร็จก็ต้อง
วิ่งเอาไปปิดยอดโน้น ใช่ว่า แก้วจ๋าและคนในนี้ไม่เป็น เราเป็น
กันทุกคน แต่พอเรามาเจอบ้านหลังนี้ ความรู้แบบนี้ จากคนที่
กำลังจมน้ำ จมกองหนี้ตาย เรากลับพลิกฟื้นมามีชีวิตใหม่ทั้ง
กายและใจ คนที่ควรอายต้องเป็นคนที่มองเราแบบผิดๆ คนที่
ควรกลัวต้องเป็นเจ้าหนี้

อย่าลืมว่า ยอดหนี้คุณนั้นสูง ดอกเบี้ยก็วิ่งเป็นรายวัน หาก
จะทำอะไรที่ช่วยตัวเองและครอบครัวก็รีบทำ




ถ้ายังไม่มั่นใจก็หาเวลาไปคุยกับคุณอาที่มพบ.อาทิตย์ที่เขามีอบรมฟรีค่ะ
คนที่เป็นหนี้มาหาเรามีตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับเจ้าของธุรกิจหลายล้าน
มีตั้งแต่หนี้ระดับ 1000 บาทจนถึง 40 กว่าล้านบาท คงทำให้คุณอายน้อยลงนะค่ะ
[/color][/size]

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #17638 โดย papa
เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ สู้ สู้ นะคะ ขอว่าอย่าท้อแท้กับมัน บ้านหลังนี้มีแต่กำลังใจ และ ความอบอุ่น ใครที่เข้ามาส่วนใหญ่จะได้ความสบายใจกลับไป นอนหลับเต็มตา :sleep: ผ่อนคลายความเครียด :555: ความครัวมีความสุข
o_) :wo:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.284 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena