ไม่ได้ชำระหนี้มา 7 ปีแล้ว

รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ พอดีว่ามีหนี้สินเชื่อหลายที่ บวกกับประสบปัญหาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ออกจากงานเพราะมีน้อง ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เลยไม่มีรายได้ ก็เลยไม่ได้จ่ายหนี้สินเชื่อ ตอนนี้มีน้อง 2 คน รายจ่ายเยอะมาก เพราะต้องหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว อยู่บ้านเลี้ยงน้องอยู่ 2 ปี ก็กลับมาทำงาน เปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะกลัวเจ้าหนี้ตามเจอจากประกันสังคม ไม่รู้เข้าใจถูกรึป่าวว่าเจ้าหนี้ตามเจอจากประกันสังคม เรียกว่าเปลี่ยนงานปีละที่เลย จนปัจจุบันทำงานที่นี้มาได้เข้าเดือนที่ 7 แล้ว ปรากฎว่าเมื่อเช้าหัวหน้าโทรมาบอก ซิตี้โลนให้ติดต่อกลับ ควรจะติดต่อกลับดีรึป่าวคะ ใจไม่อยากติดต่อกลับ เพราะยังไม่มีเงินที่จะเคลีย ทุกวันนี้เงินจะกินข้าวยังไม่ค่อยมีเลยคะ มีแต่หนี้สิน เพราะตอนนี้ก็กำลังไล่ใช้หนี้เพื่อนๆ อยู่ บวกกับค่าใช้จ่ายของลูก เพราะลูกกำลังเรียนอยู่ ป.1กับ ป.2 รายจ่ายเดือนนึงก็ 2หมื่นก่าบาท ยังไม่รวมค่ากินค่าน้ำมันค่าโรงแรมเวลาทำงานออกต่างจังหวัด ใจจริงตั้งใจไว้ว่า เคลียหนี้เพื่อนจบประมาณต้นปีหน้า ก็จะเก็บตังค์ ปิดบัญชีทีละบริษัท เพราะถ้าจะให้ไปเริ่มผ่อนอีกคงไม่ไหว ชาตินี้คงใช้หนี้ไปตลอดชีวิต อายเพื่อน อายหัวหน้าที่ทำงาน กลัวเค้าไม่เข้าใจ จะทำยังงัยดีคะ จะโทรไปคุยหรือไม่คุยดี

เริ่มด้วยการไปเช็คเครดิตบูโร ตามลิงค์นี้
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=12215วิธีเช็คเครดิตบูโร ,ยังไงๆ ก็ต้องติดแบล็กลิส 3 ปีนับจากวันจ่ายหนี้หมด
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1372&Itemid=29 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร

ดูว่ามีเจ้าไหนฟ้องๆไปแล้วมั่ง...เจ้าไหนที่ยังไม่ฟ้อง เพราะ 7 ปี มันขาดอายุความในการฟ้องร้องไปแล้ว

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29 อายุความในการฟ้องร้องคดีแพ่ง(หนี้เงิน)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1897&Itemid=29ข้อต่อสู้ในคดีแพ่งที่ลูกหนี้ควรศึกษา


แล้วถ้ามีเจ้าที่ฟ้องไปแล้ว ก็ให้อ่านลิงค์นี้
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=3&id=12878เกณฑ์การอายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน หุ้น โบนัสต่างๆ ของพี่กรีนนี่
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=2742 หลักเกณฑ์การอายัดเงินเดือน และการลดอายัดเงินเดือนสามารถทำได้ไหม พี่นกอธิบายละเอียด
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=801&catid=2&limitstart=6 อายัดเงินเดือน คิดจากยอดรายได้ทั้งหมด
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=2194&Itemid=29 กฏเกณฑ์ การอายัด(ยึด)ทรัพย์สินภายในบ้านของจำเลย(ลูกหนี้)

แล้วถ้าคุณไม่มีทรัพย์สินอะไรอีก ก้อ่านลิงค์นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร ?

ยังงี้เค้าตามเราเจอ เราก็ต้องถูกอายัดเงินเดือนซิคะ แต่เงินเดือนฉัน 9000 แต่มันมีเบี้ยเลี้ยงค่าโรงแรมค่าน้ำมันเวลาไปทำงานต่างจังหวัด อันนี้ต้องนับรวมด้วยรึป่าวคะ ค่าคอมมิชชั่นด้วย บางเดือนก็ปิดได้บางเดือนก็ปิดไม่ได้ สรุปแล้ว เราต้องโทรไปคุยกับเค้าใช่ไหมคะ (ตอนนี้ดิฉันทำงานเป็นเซลล์อ่ะคะ รายได้รวมเบี้ยเลี้ยงค่าโรงแรมค่าน้ำมันค่าคอม รวมอยู่ประมาณ 20000-30000 บาท)

คุณรู้แล้วหรือครับ ว่าเจ้าหนี้เจ้าไหนฟ้องแล้วบ้าง....
กลับไปอ่านที่ผมโพสต์อีกรอบ.....

ส่วนการอายัดเงินเดือน เขาคิดที่รายได้รวมทุกอย่างก่อนหักรายจ่าย แล้วอายัด 30%

พรุ่งนี้ว่าจะไปเช็คเครดิตบูโรที่ บีทีเอสศาลาแดงคะ แล้วสมมุติว่า รายได้รวม 20000กว่าบาท หักไป 30% แล้วจะเหลือไปทำงานต่างจังหวัดได้ยังงัยละคะ ไปต่างจังหวัด เดือนละ 10 วัน ค่าที่พักค่าน้ำมันก็ปาไป 8000แล้ว มันมีบิลโรงแรมบิลน้ำมันที่ต้องส่งให้บริษัททุกเดือน ไหนคะค่าใช้จ่ายลูก 2 คน อีกเดือนละ 8000 เพราะให้ย่าเค้าเลี้ยงให้ ย่าเค้าไม่มีรายได้จากทางอื่นนอกจากได้จากเรา รถก้อต้องผ่อนเดือนละ 7400 ถ้าไม่มีรถก้อทำงานเซลล์ไม่ได้ แต่รถไม่ใช่ของเรา เป็นของแฟนใหม่ แล้วเราเอามาใช้แล้วก้อผ่อนต่อ ส่วนค่าคอมมิชชั่นบางเดือนก้อไม่ได้ บางเดือนก้อได้ 4000 บางเดือนก้อได้ 10000 แล้วเค้าจะเอามาตรฐานตรงไหนมาคิดคะ เดือนไหนไม่ได้ค่าคอม รถงวดรถก้อค้างไป ค้างมา 2 เดือนแล้วด้วย

การคิดเงินอายัด คิดจากฝ่ายการเงินออกให้ตามใบ จ่ายเงิน หรือใบสำคัญจ่าย หรือ สลิปเงินเดือน ไงครับ
ผู้จัดการการเงินต้องรายงานว่าคุณมีรายรับจากบริษัทรวมเท่าไรต่อเดือน
เจ้าหนี้ก็จะคำนวนจากตรงนี้ครับ
เพราะบริษัทจะจ่ายเงินให้ใคร
หรือลูกจ้าง ต้องมีหลักฐานการจ่ายเงิน
แล้วบริษัทนั้นๆ จะต้องรายงานต่อกรมสรรพากรในแต่ละเดือน
แล้วคุณคิดว่า มาตรฐานการจ่ายเงินให้คุณเจ้าหนี้รู้มาจากไหนกัน

เงินจะกินยังแทบไม่มีก็หาเงินกินเถิดครับ คุณคิดถูกแล้วครับไปดูที่เครดิบูโรก่อน แล้วมันจะมีทางออก
ว่าจะยังไงต่อดี
ถ้าเจ้าหนี้ฟ้องไปแล้วเรื่องเงินเดือนก็หนีไม่รอดอยู่ดี

อ๋อ..ขอบคุณมากคะ ตอนนี้เริ่มเครียดอีกแล้ว ไม่อยากออกจากงานอีก เพราะถ้าหนีก้อต้องหนีไปตลอด ไม่จบไม่สิ้นซะที อุตส่าห์วางแผนไว้แล้วว่าต้นปีหน้าจะเริ่มเก็บแล้วค่อยๆ เคลียทีละบริษัท เพราะปีนี้ยังใช้หนี้นอกระบบเดือนละ 6000 อยู่ จบสิ้นปีพอดี มันดันมาเร็วก่าที่คิด

พอดีกู้มาติดแก๊สรถ เพราะรถใช้งาน วิ่งน้ำมันไม่ไหว

ใจเย็นๆ สู้ปัญหาอย่างมีสติ ถ้าคุณหนีปัญหา ปัญหาก็จะตามคุณไปไม่จบไม่สิ้น
ขอให้ตั้งใจอ่านกระทู้ข้างบน และกระทู้ปักหมุด แล้วคุณจะพบทางสว่าง

เป็นหนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องโดนไล่ออกเสมอไปนะครับ
ลองพูดกับเจ้านายเรื่องนี้หรือยัง
รอบข้างอาจมีคนมีหนี้เหมือนกัน แต่ไม่แสดงออกก็ได้นะครับ

เกณฑ์การยึด-อายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=3&id=12878

ถ้าอ่านจนหมดแล้ว...จะเห็นได้ว่า สรุปก็คือ

การอายัดเงินเดือน หมายถึง “การอายัดรายได้ทั้งหมด ทุกๆรายรับที่ลูกหนี้ได้รับจากนายจ้างในแต่ละเดือน โดยรายได้นั้นๆ ต้องถูกนำไปหักเป็นภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ตาม ภงด.91”
โดยไม่สนใจว่ารายได้นั้นๆจะมาจาก เงินเดือนแท้ๆ , ค่าตำแหน่ง , ค่าทำงานล่วงเวลา(O.T) , ค่าคอมมิชชั่น , ค่าน้ำมัน , ค่าเข้ากะ , ค่าเบี้ยขยัน , ค่าครองชีพ , ค่าสวัสดิการต่างๆ...ฯลฯ
หากรายได้นั้นๆ ไปโผล่อยู่ในใบสลิปเงินเดือนของลูกจ้าง(ลูกหนี้) และถูกนำไปหักคำนวนเป็นภาษี หรือประกันสังคม
ในทางกฏหมายจะถูกมองว่า..."รายได้รวมทั้งหมดในใบสลิปนั่นแหละครับ ก็คือเงินเดือนที่จะต้องถูกอายัดตามกฏหมาย"

ขอยกตัวอย่างเช่น
นาย ก.ทำงานเป็นพนักงานขายของ(Salesman)ของบริษัทAAA
โดย บริษัทAAA ได้กำหนดอัตราจ้าง + รายได้ และคุณสมบัติ ของ นาย ก. เอาไว้เป็นดังนี้

- นาย ก.จะต้องมีรถยนต์เป็นยานพาหนะของตนเอง ในการประสานงานและการติดต่อกับลูกค้า
- กำหนดเงินเดือนให้ นาย ก. 9,000.-บาท(ตามอัตราจ้างค่าแรงขั้นต่ำของกฏหมายแรงงาน ณ.ปัจจุบัน)
- ค่าน้ำมันรถยนต์ 3,000.-บาท/เดือน
- ค่าคอมมิชชั่น 3% จากยอดเงินที่ขายของได้
- หากยอดขายของในเดือนใด มียอดขายของในเดือนนั้นเกินกว่าสองล้านบาทต่อเดือน จะได้รับ"ค่าเบี้ยขยัน"เพิ่มให้อีก 20,000.-บาท สำหรับเดือนนั้นๆ

ซึ่งที่ผ่านมา นาย ก.ขายของได้เก่งมาก ได้ยอดขายเกินกว่าสองล้านบาทเป็นประจำทุกเดือน

ดังนั้น รายได้ของ นาย ก.ต่อเดือน ก็จะเป็นไปดังนี้
เงินเดือน 9,000 + ค่าน้ำมันรถ 3,000 + ค่าคอมมิชชั่น(ไม่น้อยกว่า)60,000 + ค่าเบี้ยขยัน 20,000
รายรับทั้งหมดของ นาย ก.จึงไม่ต่ำกว่า 92,000.-บาท/เดือน(เป็นอย่างน้อย)

เมื่อนาย ก.ถูกหมายอายัดเงินเดือน(หลังจากที่ไม่ชำระหนี้ตามที่ศาลพิพากษา)...แล้วนาย ก.ก็ไปชี้แจงต่อกรมบังคับคดีว่า

เงินเดือนแท้ๆของนาย ก.นั้น จริงๆแล้วเพียงแค่ 9,000.-บาทเท่านั้น
กฏหมายกำหนดเอาไว้ว่า เงินเดือนต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทอายัดไม่ได้ ดังนั้นในกรณีของ นาย ก.นี้ จึงไม่สามารถอายัดเงินเดือนได้เลยแม้แต่บาทเดียว
ส่วนรายได้อื่นๆต่อเดือน ที่ได้เพิ่มมาอีกแปดหมื่นกว่าบาทนั้น มันไม่ใช่เงินเดือน เพราะมันไม่ได้ถูกเรียกชื่อว่า"เงินเดือน"
กรณีนี้ทำให้ไม่สามารถอายัดเงินเดือนของนาย ก.ไม่ได้เลยสักบาท ถึงแม่ว่ารายได้รวมทั้งหมดของนาย ก.จะมากถึงเกือบแสนบาทต่อเดือนก็ตาม
จึงขอให้ทางกรมบังคับคดี ช่วยทำเรื่องไถ่ถอนอายัดเงินเดือนให้กับนาย ก.ด้วย

แล้วคุณคิดว่าเจ้าพนักงานบังคับคดี เขาจะฟังเหตุผลของนาย ก.ไหมครับ?

หวังว่าคงเข้าใจและมองเห็นภาพแล้วนะครับ ว่าทำไมกฏหมายอายัดเงินเดือน จึงถูกกำหนดมาให้เป็นเช่นนี้

ไปเช็คเครดิตบูโรมาแล้วคะ สรุปขึ้นมา 6 ที่ จริง ๆ มันมี บัตรผ่อนสินค้าของอิออนด้วย แต่ไม่มีในรายการ
รายการที่ 1 KTC ผิดนัดชำระ 16-05-2006 จำนวนเงิน 66713 บาท สถานะบัญชี 30-อยู่ในกระบวนการทาง
กฏหมาย
รายการที่ 2 อีซี่บาย31-03-2011 ยอดหนี้คงเหลือขึ้นเป็น 0 บาท แต่จำนวนเงินกู้ 49900 บาท
สถานะบัญชี 42-โอนหรือขายหนี้
รายการที่ 3 อยุธยา แคปปิตอล ผิดนัดชำระ 28-01-2006 จำนวนเงิน 19939 บาท
สถานะบัญชี 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี
รายการที่ 4 เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิส ผิดนัดชำระ 25-01-2006 จำนวนเงิน 33790 บาท
สถานะบัญชี 40- อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี
รายการที่ 5 เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กระบะซึ่งบริษัทได้ทำการยึดไปแล้วแต่ไม่เคยรู้เลยว่่ามีส่วนต่างอยู่
170605 บาท ตกใจมาก ผิดนัดชำระ 06-12-2005
สถานะบัญชี 30-อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย
รายการที่ 6 ซิตี้คอร์ปลิสซิ่ง ผิดนัดชำระ ไม่มีข้อมูล วงเงินสินเชื่ออนุมัติ 36000 บาทยอดหนี้70511บาท
**สถานะบัญชี 31- อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม** ที่ที่ 6 เป็นที่ที่ได้ติดต่อ
มาทางบริษัทแล้วเมื่อวาน โดยทิ้งเบอร์ไว้ให้ติดต่อกลับ แต่เรายังไม่กล้าโทรไปอ่ะ

เอางี้นะ....

คุณไปไล่อ่านกระทู้ต่างๆในห้องนี้นะ

ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=2

แล้วลองพิจรณาดู ว่าคุณจะทำอย่างไรต่อไปกับหนี้แต่ละตัว....

ผมอยากให้คุณลองหาความรู้ในนี้ แล้วบูรณาการทางความคิดดูก่อน เช่น

หนี้ที่ฟ้องแล้วถูกบังคับคดีแล้ว จะทำอย่างไร

หนี้ที่ยังไม่ฟ้องจะทำอย่างไร....

หนี้รถจะทำอย่างไร......

หากไม่เข้าใจหรือสงสัยก็มาถามใหม่นะครับ.....

เรื่องของเรื่องไม่เข้าใจภาษากฏหมายตรงสถานะบัญชีอ่ะคะ สรุปของ ซิตี้แบงค์ ฟ้องแล้วตัดสินไปแล้ว ถูกต้องไหมคะ ส่วนที่อื่นยัง อ่านเจอเคสนึง เค้าไปตรวจสอบข้อมูลที่ศาลว่าตัดสินคดีเค้าว่ายังงัย นี้กำลังคิดว่าจะไปตรวจสอบข้อมูลที่ศาลอ่ะคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เพราะบางทีอ่านแล้วก้องงๆ

101022 เขียน: เรื่องของเรื่องไม่เข้าใจภาษากฏหมายตรงสถานะบัญชีอ่ะคะ สรุปของ ซิตี้แบงค์ ฟ้องแล้วตัดสินไปแล้ว ถูกต้องไหมคะ ส่วนที่อื่นยัง อ่านเจอเคสนึง เค้าไปตรวจสอบข้อมูลที่ศาลว่าตัดสินคดีเค้าว่ายังงัย นี้กำลังคิดว่าจะไปตรวจสอบข้อมูลที่ศาลอ่ะคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เพราะบางทีอ่านแล้วก้องงๆ

ตามนั้นครับ....ไปตรวจสอบที่ศาลก่อน แล้วค่อยว่ากันครับ...

วันนี้ได้ไปติดต่อขอดูคำพิพากษาที่ศาลมาแล้วคะ ที่แรกไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรีก่อน เพราะเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ปรากฏว่า ไิอ้ที่ติดบูโรทั้ง 6 ที่ มีคำพิพากษามาแล้ว 2 ที่

รายการที่ 1 ของ KTC พิพากาาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 28168.82 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของเงินต้น 23753.19 นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก/

รายการที่ 2 บริษัท ซัมมิท(รถกระบะที่ยึดคืนไปแล้ว) พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 130800 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง 19 พ.ย.51 จนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 4000 บาท

แต่บูโรขึ้น 6 ที่ ประกอบกับ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง ขึ้นสถานะว่า อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม เลยไม่แน่ใจ ก้อเลยไปที่ ศาลธนบุรีอีกที่ เพื่อเช็คว่า มีฟ้องไหม เพราะ ของ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง เราเซ็นสัญญาที่บางบอน ไปเช็ค ปรากฏว่าไม่มีที่ไหนฟ้องเลย

อย่างนี้มันมีโอกาสไปฟ้องที่ศาลอื่นอีกไหมคะ นอกจาก ศาล ที่อยู่ในเขตตามทะเบียนบ้าน กับศาลที่อยู่ แถวที่เราเซ็นสัญญา เช่น ศาลแถว สำนักงานใหญ่ของบริษัทอ่ะคะ อยากเช็คให้ชัวร์

เราจะได้เริ่มชำระที่ที่ฟ้องเราก่อน

101022 เขียน: วันนี้ได้ไปติดต่อขอดูคำพิพากษาที่ศาลมาแล้วคะ ที่แรกไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรีก่อน เพราะเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ปรากฏว่า ไิอ้ที่ติดบูโรทั้ง 6 ที่ มีคำพิพากษามาแล้ว 2 ที่

รายการที่ 1 ของ KTC พิพากาาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 28168.82 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของเงินต้น 23753.19 นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก/

รายการที่ 2 บริษัท ซัมมิท(รถกระบะที่ยึดคืนไปแล้ว) พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 130800 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง 19 พ.ย.51 จนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 4000 บาท

แต่บูโรขึ้น 6 ที่ ประกอบกับ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง ขึ้นสถานะว่า อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม เลยไม่แน่ใจ ก้อเลยไปที่ ศาลธนบุรีอีกที่ เพื่อเช็คว่า มีฟ้องไหม เพราะ ของ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง เราเซ็นสัญญาที่บางบอน ไปเช็ค ปรากฏว่าไม่มีที่ไหนฟ้องเลย

อย่างนี้มันมีโอกาสไปฟ้องที่ศาลอื่นอีกไหมคะ นอกจาก ศาล ที่อยู่ในเขตตามทะเบียนบ้าน กับศาลที่อยู่ แถวที่เราเซ็นสัญญา เช่น ศาลแถว สำนักงานใหญ่ของบริษัทอ่ะคะ อยากเช็คให้ชัวร์

เราจะได้เริ่มชำระที่ที่ฟ้องเราก่อน

ไม่รู้ว่าคุณติดหนี้ citi มานานแค่ไหน

ถ้าเป็นคดีผู้บริโภค ฟ้องได้ศาลเดียวคือศาลตามภูมิลำเนาของลูกหนี้ (ตามทะเบียนบ้าน ณ วันฟ้อง)

ลองโทรไปหาเลยก็ได้ไม่ต้องวิ่งวุ่น

สอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้มาให้หมด ถูกฟ้องเมื่อไหร่ เลขที่คดีอะไร ศาลไหน

ขอข้อมูลเขามาเลยก็ได้ ลองถามหาเงื่อนไขจากเขาดูก่อนก็ได้ ว่าจะเสนออะไรมา

ไม่ต้องไปกลัวหรอก โดนตัดสินไปหลายศาลแล้ว ยังไม่เห็นเจออะไรไม่ใช่หรือ

เจ้าอื่นน่าจะตามอายัดทรัพย์สินเงินเดือนคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอใช่ไหม

โทรไปถามเลยจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่น ได้เรื่องอย่างไร ค่อยมาว่ากัน

หากถูกฟ้องหลายๆเจ้า ต้องผ่อนจ่ายเยอะ ก็ต้องลองเอามาคำนวนดู

ว่าปล่อยให้อายัด 30% ทีละเจ้า ดีกว่าไปไล่ผ่อนหลายๆเจ้าพร้อมกันไหม

101022 เขียน: แต่บูโรขึ้น 6 ที่ ประกอบกับ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง ขึ้นสถานะว่า อยู่ระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม เลยไม่แน่ใจ ก้อเลยไปที่ ศาลธนบุรีอีกที่ เพื่อเช็คว่า มีฟ้องไหม เพราะ ของ ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง เราเซ็นสัญญาที่บางบอน ไปเช็ค ปรากฏว่าไม่มีที่ไหนฟ้องเลย

อย่างนี้มันมีโอกาสไปฟ้องที่ศาลอื่นอีกไหมคะ นอกจาก ศาล ที่อยู่ในเขตตามทะเบียนบ้าน กับศาลที่อยู่ แถวที่เราเซ็นสัญญา เช่น ศาลแถว สำนักงานใหญ่ของบริษัทอ่ะคะ อยากเช็คให้ชัวร์

เราจะได้เริ่มชำระที่ที่ฟ้องเราก่อน

คำตอบอยู่ในนี้ครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6974&Itemid=29



ผมว่าคุณควรเข้าใปอ่านใน"ห้องรู้ทันกฏหมายหนี้"ซะก่อนจะดีกว่านะครับ ในนั้นมีความรู้ต่างๆมากมายเลย

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29