หนี้ก่อนสมรส

มีข้อข้องใจจะสอบถามผู้รู้ดังนี้คะ
-สามีเป็นหนี้เป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อหลายสถาบันก่อนจดเบียนสมรส (หนี้เกิดก่อนจดทะเบียนสมรสแต่เงินที่กู้ เค้านำมาเป็นสินสอดตอนแต่งงานคะ) ขณะนี้มีคำพิพากษาแล้วปล่อยให้อายัดเงินเดือน แต่มีที่รอคิวซึ่งพิพากษาแล้วอยู่อีกหลายที่ด้วย ไม่ทราบว่าหนี้ส่วนหนี้เค้าจะมาฟ้องร้องกับดิฉันได้หรือไม่
- ส่วนที่รอคิวอายัดเงินเดือน เค้าจะมาสืบทรัพย์หรือยึดทรัพย์ของดิฉันด้วยหรือไม่
(ดิฉันมีเงินเดือนประจำ ,เงินฝากธนาคาร,และเป็นผู้จัดการมรดกของทางบ้านก่อนจะจดทะเบียนสมรสซึ่งยังไม่มีการโอนแบ่งทรัพย์สินกัน)
(ในส่วนของสามีไม่มีทรัพย์สิน มีเฉพาะเงินเดือน และรถยนต์กำลังผ่อนอยู่คงเหลือ30 งวด)

ลองอ่านลิงค์นี้ไปก่อนนะครับ....

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=33351

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=4851&Itemid=29

มีข้อข้องใจจะสอบถามผู้รู้ดังนี้คะ
-สามีเป็นหนี้เป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อหลายสถาบันก่อนจดเบียนสมรส (หนี้เกิดก่อนจดทะเบียนสมรสแต่เงินที่กู้ เค้านำมาเป็นสินสอดตอนแต่งงานคะ) ขณะนี้มีคำพิพากษาแล้วปล่อยให้อายัดเงินเดือน แต่มีที่รอคิวซึ่งพิพากษาแล้วอยู่อีกหลายที่ด้วย ไม่ทราบว่าหนี้ส่วนหนี้เค้าจะมาฟ้องร้องกับดิฉันได้หรือไม่

ไม่ได้ครับ เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ฟ้องคุณ เพราะเรื่องเงินเดือนเป็นของแต่ละคน ถึงจะจดทะเบียนสมรส เจ้าหนี้สามีก็ไม่มีสิทธิ์ฟ้อง
แต่เจ้าหนี้อายัดเงินในบัณชีของคุณได้ 50% เพราะเจ้าหนี้ถือว่าเป็นสินสมรถครับ


ดิฉันมีเงินเดือนประจำ ,เงินฝากธนาคาร,และเป็นผู้จัดการมรดกของทางบ้านก่อนจะจดทะเบียนสมรสซึ่งยังไม่มีการโอนแบ่งทรัพย์สินกัน)

เจ้าหนี้เขาไม่มีสิทธิ์ไปรู้เรื่องของการมีทรัพย์ของคนอื่นๆได้ ยกเว้นวันใดทรัพย์สินต่างๆโอนมาเป็นชื่อคุณ
และคุณถือกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้อายัดได้ ครึ่งหนึ่ง ถือว่าหามาได้ในระหว่างสมรถครับ

คุณก็น้าจะรู้นะครับว่าการมีทะเบียนสมรถนั้นทุกอย่างคนละครึ่ง ก็แค่กระดาษแผ่นเดียว จะมีมันทำไม่ละครับ
สำหลับคนมีหนี้

ขอถามเนื่องว่า
-การจดทดเบียนหย่าจะมีผลทางการเงินทันทีหรือไม่คะ /เพิ่งจดทะเบียนกันเดือนเมษายน 2555 ไม่ถึง 3 เดือนจะจดทะเบียนหย่าได้หรือไม่/ ในการจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสเดิมอีกครั้งมีข้อกำหนดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่

(พวกธุรกรรมการเงินบัญชีเงินฝากต่างๆยังไม่ได้เปลี่ยนใหม่เลยคะ เพราะเพิ่งจดทดเบียนกันได้ไม่นาน แต่พวกบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านได้แก้ไขตามทะเบียนสมรสแล้วในวันที่จดทะเบียน)

พอดีว่าชมรมนี้เป็นชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

ผมจึงไม่สามารถตอบได้ว่า 3 เดือนจะจดทะเบียนหย่าได้หรือไม่

และในการจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสเดิมอีกครั้งมีข้อกำหนดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่

อันนี้ต้องไปถามนายทะเบียนที่เขต หรืออำเภอเอาเองครับ....


แต่ก็เคยได้ยินข่าวอยู่นะ....จดทะเบียนวันนี้ พรุ่งนี้ไปอย่า อาทิตย์หน้ากลับมาคืนดีกัน ก็ไปจดใหม่

แต่การที่จะหย่าการเมือง จะต้องทำให้มันถูกเวลา ไม่ใช่ว่าพอเจอหมายศาลฟ้องมาแล้ว ก็รีบไปอย่า

ไปโอนทรัพย์สิน...เดี๋ยวจะกลายเป็นคดีอาญาเอาได้ ถือเป็นการ ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์เพื่อไม่ต้องใช้หนี้

จะทำอะไรก็รีบๆทำซะ.....

หากมีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปศาลแทน กรณีตกลงกับโจทย์ไม่ได้ อยากขอให้ศาลตัดสินโดยขอความเมตตาเรื่องดอกเบื้ย(ไม่ได้ยื่นคำให้การ) สามารถทำได้โดยผู้รับมอบอำนาจทำแทนได้เลยหรือไม่คะ หรือว่าต้องเลื่อนไปก่อน ให้จำเลยไปศาลเองเท่านั้น
อีกประการ สอบถามดังนี้คะ กรณีทำยอมแล้วมิได้ชำระตามยอม หากโจทย์เข้าสู่ขั้นตอนการอายัดเงินเดือนหรืออายัดทรัพย์ มูลหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่จะอายัดจะเป็นไปตามสัญญายอมความหรือไม่ หรือจะอิงจากไหนคะ (ในสัญญายอมความโจทย์ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดไว้)

การที่คุณมอบอำนาจให้ใครไปศาลแทนก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะทนายความ หรือบุคคลธรรมดา จำเลยไม่จำเป็นต้องไปก็ได้
และตกลงกับเจ้าหนี้ไม่ได้ ศาลท่านก็ตัดสิน
แต่ถ้าไปนัดแรกจำเลยมีโอกาส ขอเลื่อนศาล 1 นัด
การคิดเงินจากศาลตัดสินแล้ว
ให้ดูจากยอดเงินที่มีเจ้าหน้าที่ศาลส่งใบคําพิพากษา มาให้
ไม่มีคำว่าผิดนัดอีกต่อไป
เจ้าหนี้หมหมดสิทธิ์ไปแล้ว ถ้าคุณไม่ทำตามที่ยอมความไว้
เจ้าหนี้ก็ทำการอายัดเงินเดือนหรืออายัดทรัพย์ ต่อไป
จบ

k12 เขียน: หากมีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปศาลแทน กรณีตกลงกับโจทย์ไม่ได้ อยากขอให้ศาลตัดสินโดยขอความเมตตาเรื่องดอกเบื้ย(ไม่ได้ยื่นคำให้การ) สามารถทำได้โดยผู้รับมอบอำนาจทำแทนได้เลยหรือไม่คะ หรือว่าต้องเลื่อนไปก่อน ให้จำเลยไปศาลเองเท่านั้น

สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่น ไปศาลแทนได้หรือไม่

การมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ที่มิใช่ทนายความ) เพื่อให้ติดต่อกระทำนิติกรรมใดๆ แทนตัวจำเลยนั้น...สามารถกระทำได้
โดยการทำเป็นหนังสือมอบอำนาจให้แก่บุคคลผู้นั้นไป และที่สำคัญ "ต้องติดอาการสแตมป์" เป็นจำนวนเงิน 30 บาทด้วย (อันที่จริงติดอาการสแตมป์เพียงแค่ 10 บาทก็ได้ แต่จะเป็นการมอบอำนาจได้เพียงแค่ ชั่วครั้ง-ชั่วคราว แบบเป็น ครั้ง-ต่อครั้ง เท่านั้น...แต่ถ้าติดอาการสแตมป์ 30 บาท จะเป็นการมอบอำนาจในระยะยาว ตลอดจนกว่านิติกรรมนั้นจะเสร็จสิ้น)

แต่การมอบอำนาจเช่นนี้ มีข้อจำกัดอยู่ว่า...ให้สามารถกระทำนิติกรรมแทนจำเลยได้เพียงแค่บางอย่างเท่านั้น เช่น

- ขอถ่ายเอกสารคดีที่เกี่ยวข้องกับจำเลย แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาไกล่เกลี่ยกับโจทก์(โดยไม่ได้พบกับผู้พิพากษา) แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมายื่นเอกสาร “คำให้การ ในการต่อสู้คดี” แทนตัวจำเลย (ยื่นเอกสารอย่างเดียวเท่านั้น ยื่นเสร็จแล้วกลับบ้านไปเลย)
- ขอมาฟังคำพิพากษาของศาล แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาส่งเอกสารให้กับศาล ว่าจำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลตามนัด ในวันนี้ได้ จึงขอมาเป็นตัวแทนจำเลยในวันนี้ เพื่อขอความเมตตาจากศาล ให้ช่วยเลื่อนคดีออกไปก่อน...ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
เช่น...จำเลยประสบอุบัติเหตุถูกรถชน(โดยมีหลักฐานเป็นใบแจ้งความ หรือใบบันทึกประจำวันของตำรวจ มาแสดงให้เห็นด้วย) หรือ จำเลย ป่วย , ไม่สบาย ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล(โดยมีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ มาแสดงให้เห็นด้วย)...เป็นต้น

แต่ถ้าเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่น ให้มาขึ้นศาลแทนตัวจำเลย เพื่อการสืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)นั้น...ไม่สามารถทำได้ครับ

ต่อให้จ้างทนายความมาขึ้นศาลแทน แต่ตัวจำเลยกลับไม่ยอมมาศาลในวันที่สืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)...ยังทำไม่ได้เลยนะครับ

ถ้าสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือแม้กระทั่งทนายความก็ตาม) ให้สามารถสู้คดีแทนตัวจำเลยได้ทุกประการ...ป่านนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงมอบหมายอำนาจให้ ทนายความ , คนขับรถ , คนสวน มาขึ้นศาลแทนไปนานแล้วล่ะครับ

อ้างอิง....
ความหมายของ วันนัดไปศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6915&Itemid=29#8748

อีกประการ สอบถามดังนี้คะ กรณีทำยอมแล้วมิได้ชำระตามยอม หากโจทย์เข้าสู่ขั้นตอนการอายัดเงินเดือนหรืออายัดทรัพย์ มูลหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่จะอายัดจะเป็นไปตามสัญญายอมความหรือไม่ หรือจะอิงจากไหนคะ (ในสัญญายอมความโจทย์ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดไว้)

ดอกเบี้ยสูงสุดตามกฏหมาย 15% ต่อปีครับ...

แนะนำให้จำเลยไปเองดีกว่าครับ จะสู้จะยอมหรือขอส่วนลดเจรจาเองเป็นดีที่สุดครับ ส่วนดอกเบี้ยพิพาทษาตามยอมกระทู้บนครับ

chaowalert เขียน: การที่คุณมอบอำนาจให้ใครไปศาลแทนก็แล้วแต่
ไม่ว่าจะทนายความ หรือบุคคลธรรมดา จำเลยไม่จำเป็นต้องไปก็ได้
และตกลงกับเจ้าหนี้ไม่ได้ ศาลท่านก็ตัดสิน
แต่ถ้าไปนัดแรกจำเลยมีโอกาส ขอเลื่อนศาล 1 นัด
การคิดเงินจากศาลตัดสินแล้ว
ให้ดูจากยอดเงินที่มีเจ้าหน้าที่ศาลส่งใบคําพิพากษา มาให้
ไม่มีคำว่าผิดนัดอีกต่อไป
เจ้าหนี้หมหมดสิทธิ์ไปแล้ว ถ้าคุณไม่ทำตามที่ยอมความไว้
เจ้าหนี้ก็ทำการอายัดเงินเดือนหรืออายัดทรัพย์ ต่อไป
จบ

ข้อแรกยังงี้คะ เมื่อตกลงกับเจ้าหนี้ไม่ได้ แล้วศาลตัดสินคือตัดสินในวันนั้นเลยใช่มั้ยคะ กรณีเป็นผู้รับมอบอำนาจอยากขอความเมตตาเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากศาลแทนจำเลย(ไม่ได้ยื่นคำให้การ) สามารถทำได้หรือเปล่าคะ คือสงสัยว่าเมื่อเข้าห้องพิพากษาคดี ผู้รับมอบอำนาจทำขั้นตอนนี้แทนจำเลยได้หรือไม่ หรือในขั้นตอนนี้ต้องเป็นจำเลยมาเองเท่านั้น

ที่จะสอบถามในประเด็นที่สองคนละคดีกับข้อแรกคะคือว่า กรณีเซ็นยอมความคือตกลงผ่อนกับโจทย์ได้แล้วเซ็นยอมตอนนัดไกล่เกลี่ย ไม่ได้ให้ศาลตัดสิน ทางเจ้าหน้าที่ศาลจะให้กระดาษมาแค่ใบเดียวในวันที่เซ็นยอมเลย (เงื่อนไขตามที่ตกลงจะชำระหนี้ให้กับโจทย์) โดยไม่มีคำพิพากษาส่งมาที่บ้านอีกมิใช่หรือคะ
คือสงสัยว่าจากนั้นไม่ได้ชำระตามสัญญายอมความที่เซ็นไป เช่น ยอดทั้งสิ้น 148000 ให้ชำระ 48 งวด งวดละไม่ต่ำกว่า 3100 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปีจากต้นเงิน 120000
แล้วมิได้ชำระตามนั้น เมื่อเข้าสู่การอายัดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนเจ้าหนี้จะคิดเงินต้นหรือดอกเบี้ยจากไหนคะจากสัญญาที่ยอมความกันหรือเปล่า เพราะไม่ได้มีคำพิพากษาส่งมาที่บ้านเลยคะ มีอะไรแค่ใบเดียวได้มาตอนวันเซ็นยอมแล้ว

batk เขียน:

k12 เขียน: หากมีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปศาลแทน กรณีตกลงกับโจทย์ไม่ได้ อยากขอให้ศาลตัดสินโดยขอความเมตตาเรื่องดอกเบื้ย(ไม่ได้ยื่นคำให้การ) สามารถทำได้โดยผู้รับมอบอำนาจทำแทนได้เลยหรือไม่คะ หรือว่าต้องเลื่อนไปก่อน ให้จำเลยไปศาลเองเท่านั้น

สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่น ไปศาลแทนได้หรือไม่

การมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ที่มิใช่ทนายความ) เพื่อให้ติดต่อกระทำนิติกรรมใดๆ แทนตัวจำเลยนั้น...สามารถกระทำได้
โดยการทำเป็นหนังสือมอบอำนาจให้แก่บุคคลผู้นั้นไป และที่สำคัญ "ต้องติดอาการสแตมป์" เป็นจำนวนเงิน 30 บาทด้วย (อันที่จริงติดอาการสแตมป์เพียงแค่ 10 บาทก็ได้ แต่จะเป็นการมอบอำนาจได้เพียงแค่ ชั่วครั้ง-ชั่วคราว แบบเป็น ครั้ง-ต่อครั้ง เท่านั้น...แต่ถ้าติดอาการสแตมป์ 30 บาท จะเป็นการมอบอำนาจในระยะยาว ตลอดจนกว่านิติกรรมนั้นจะเสร็จสิ้น)

แต่การมอบอำนาจเช่นนี้ มีข้อจำกัดอยู่ว่า...ให้สามารถกระทำนิติกรรมแทนจำเลยได้เพียงแค่บางอย่างเท่านั้น เช่น

- ขอถ่ายเอกสารคดีที่เกี่ยวข้องกับจำเลย แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาไกล่เกลี่ยกับโจทก์(โดยไม่ได้พบกับผู้พิพากษา) แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมายื่นเอกสาร “คำให้การ ในการต่อสู้คดี” แทนตัวจำเลย (ยื่นเอกสารอย่างเดียวเท่านั้น ยื่นเสร็จแล้วกลับบ้านไปเลย)
- ขอมาฟังคำพิพากษาของศาล แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
- ขอมาส่งเอกสารให้กับศาล ว่าจำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลตามนัด ในวันนี้ได้ จึงขอมาเป็นตัวแทนจำเลยในวันนี้ เพื่อขอความเมตตาจากศาล ให้ช่วยเลื่อนคดีออกไปก่อน...ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
เช่น...จำเลยประสบอุบัติเหตุถูกรถชน(โดยมีหลักฐานเป็นใบแจ้งความ หรือใบบันทึกประจำวันของตำรวจ มาแสดงให้เห็นด้วย) หรือ จำเลย ป่วย , ไม่สบาย ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล(โดยมีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ มาแสดงให้เห็นด้วย)...เป็นต้น

แต่ถ้าเป็นการมอบอำนาจให้บุคคลอื่น ให้มาขึ้นศาลแทนตัวจำเลย เพื่อการสืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)นั้น...ไม่สามารถทำได้ครับ

ต่อให้จ้างทนายความมาขึ้นศาลแทน แต่ตัวจำเลยกลับไม่ยอมมาศาลในวันที่สืบพยาน(หรือที่เรียกกันว่าสู้คดีความ)...ยังทำไม่ได้เลยนะครับ

ถ้าสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่น(ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือแม้กระทั่งทนายความก็ตาม) ให้สามารถสู้คดีแทนตัวจำเลยได้ทุกประการ...ป่านนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงมอบหมายอำนาจให้ ทนายความ , คนขับรถ , คนสวน มาขึ้นศาลแทนไปนานแล้วล่ะครับ

อ้างอิง....
ความหมายของ วันนัดไปศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6915&Itemid=29#8748

อีกประการ สอบถามดังนี้คะ กรณีทำยอมแล้วมิได้ชำระตามยอม หากโจทย์เข้าสู่ขั้นตอนการอายัดเงินเดือนหรืออายัดทรัพย์ มูลหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่จะอายัดจะเป็นไปตามสัญญายอมความหรือไม่ หรือจะอิงจากไหนคะ (ในสัญญายอมความโจทย์ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดไว้)

ดอกเบี้ยสูงสุดตามกฏหมาย 15% ต่อปีครับ...

ขอบคุณมากนะคะ ผู้ตอบ ตอบได้ชัดเจนและเข้าใจได้ดีมากคะ
เพิ่มเติมนะคะ ประการแรกเข้าใจแล้วคะ ขอถามเพิ่มว่าหากตกลงกับโจทย์ไม่ได้แล้วศาลตัดสิน ผู้รับมอบอำนาจจะขอความเมตตาจากศาลเรื่องดอกเบี้ยแทนจำเลยได้หรือไม่คะ (ไม่ได้ยื่นคำให้การสู้คดี)
ที่ผู้ตอบให้ความรู้ว่า มาไกล่เกลี่ย(โดยไม่ได้พบกับผู้พิพากษา) แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง ก็เลยคิดว่าหากเป็นดังที่ถามจะได้มั้ยหนอ

ประการที่สอง ดอกเบี้ย 15 % แล้ว เงินต้นคิดตามสัญญายอมที่เซ็นไปใช่มั้ยคะ (ในสัญยายอมระบุเงินต้น 148000 ผ่อน 3100*48 อัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ย 12.5 จากต้นเงิน120000 ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยผิดนัด)

k12 เขียน: เพิ่มเติมนะคะ ประการแรกเข้าใจแล้วคะ ขอถามเพิ่มว่าหากตกลงกับโจทย์ไม่ได้แล้วศาลตัดสิน ผู้รับมอบอำนาจจะขอความเมตตาจากศาลเรื่องดอกเบี้ยแทนจำเลยได้หรือไม่คะ (ไม่ได้ยื่นคำให้การสู้คดี)

ไม่ได้ครับ

จำเลยสามารถแต่งตั้ง"ทนายความ"ให้ไปขึ้นศาล ในฐานะตัวแทนของจำเลยได้
แต่ถ้าหากเป็นบุคคลธรรมดาอื่นๆทั่วไป ที่มิใช่"ทนายความ" จะไม่มีโอกาสพบหรือได้พูดคุยกับศาลเลย ยกเว้นแต่บุคคลผู้นั้นจะทำหน้าที่เป็น"พยาน ปาก"ในการสอบสวนคดี ในชั้นสู้คดีความ

ที่ผู้ตอบให้ความรู้ว่า มาไกล่เกลี่ย(โดยไม่ได้พบกับผู้พิพากษา) แทนตัวจำเลยที่ไม่ได้มาด้วยตนเอง ก็เลยคิดว่าหากเป็นดังที่ถามจะได้มั้ยหนอ

ขอตอบซ้ำอีกครั้งว่า...ไม่ได้ครับ

ประการที่สอง ดอกเบี้ย 15 % แล้ว เงินต้นคิดตามสัญญายอมที่เซ็นไปใช่มั้ยคะ (ในสัญยายอมระบุเงินต้น 148000 ผ่อน 3100*48 อัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ย 12.5 จากต้นเงิน120000 ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยผิดนัด)

ผมว่าคุณไปอ่านกระทู้นี้ก่อนดีกว่านะครับ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29

k12 เขียน: ประการที่สอง ดอกเบี้ย 15 % แล้ว เงินต้นคิดตามสัญญายอมที่เซ็นไปใช่มั้ยคะ (ในสัญยายอมระบุเงินต้น 148000 ผ่อน 3100*48 อัตราดอกเบี้ยดอกเบี้ย 12.5 จากต้นเงิน120000 ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยผิดนัด)

โดยที่ตัวของลูกหนี้ จะต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า หากเซ็นต์ชื่อลงในสัญญาแล้ว จะต้องปฎิบัติให้ได้ตามข้อตกลงในสัญญา เพราะในสัญญาฉบับนี้ มีลายเซ็นต์ของผู้พิพากษาลงนามเป็นพยานถึง 2 ท่าน หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ สัญญาทั้งหมดจะถือว่าเป็น“โมฆะ” และจะถูกย้อนให้กลับไปใช้ตัวเลขมูลหนี้ทั้งหมด ในอัตราสูงสุดของหมายฟ้องในครั้งแรกทันที
อ้างอิง
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29

ขอบคุณพี่นกครับ....ขนาดตอบและวางลิงค์แทบทุกวันยังลืมๆเลยครับ....

.

ได้รับหมายศาลสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารทหารไทย แต่เมื่ออ่านรายละเอียดคำบรรยายฟ้องผิด
ย่อๆดังนี้คะ โจทย์บรรยายว่า
โอนเงินกู้ให้จำเลยเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ 2 หมายเลขบัญชี 281-XXXXXX-8 ชื่อนายเอ รักเมืองไทย(ชื่อจำเลย) เลขบัญชีเงินกู้ XXXX จำนวนเงิน XXXXXXบาท และไห้ถือว่าจำเลยได้รับเงินกู้ไปจากโจทย์ครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจำเลยจะเบิก-ถอนต้นเงินกู้จากบัญชีดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม)
จุดที่ผิดคือธนาคารที่โจทย์โอนเงินเข้าไม่ใ่ช่ธนาคารทหารไทยแต่เป็นธนาคารไทยพานิชย์ สาขาและเลขบัญชี รวมทั้งชื่อจำเลยเป็นของบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ทั้งสิ้น
หลักฐานท้ายคำฟ้องที่โจทย์นามมา ก็บัญชีธนาคารไทยพานิชย์แต่บรรยายฟ้องเป็นธนาคารทหารไทย

บัญชีพยานหลังสุดของคำฟ้องที่เป็นตาราง ก็ระบุ รายการเดินบัญชีธนาคารทหารไทย(ที่ถูกคือไทยพานิชย์) จำกัด(มหาชน) สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ 2 ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 281-XXXXXX-8 ชื่อนายเอ รักเมืองไทย(ชื่อจำเลย) รายการเดินบัญชีระหว่างวันที่ 1 เมษายน จนถึง 30 มิถุนายน 2555

การบรรยายฟ้องผิดลักษณะนี้สามารถเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลหากเรายื่นคำให้การได้หรือไม่คะ

ตอนแรกอ่านแล้วงงมาก พอจับใจความได้ถึงทราบว่าทนายโจทย์บรรยายผิด

k12 เขียน: ได้รับหมายศาลสินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารทหารไทย แต่เมื่ออ่านรายละเอียดคำบรรยายฟ้องผิด
ย่อๆดังนี้คะ โจทย์บรรยายว่า
โอนเงินกู้ให้จำเลยเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ 2 หมายเลขบัญชี 281-XXXXXX-8 ชื่อนายเอ รักเมืองไทย(ชื่อจำเลย) เลขบัญชีเงินกู้ XXXX จำนวนเงิน XXXXXXบาท และไห้ถือว่าจำเลยได้รับเงินกู้ไปจากโจทย์ครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจำเลยจะเบิก-ถอนต้นเงินกู้จากบัญชีดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม)
จุดที่ผิดคือธนาคารที่โจทย์โอนเงินเข้าไม่ใ่ช่ธนาคารทหารไทยแต่เป็นธนาคารไทยพานิชย์ สาขาและเลขบัญชี รวมทั้งชื่อจำเลยเป็นของบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ทั้งสิ้น
หลักฐานท้ายคำฟ้องที่โจทย์นามมา ก็บัญชีธนาคารไทยพานิชย์แต่บรรยายฟ้องเป็นธนาคารทหารไทย

บัญชีพยานหลังสุดของคำฟ้องที่เป็นตาราง ก็ระบุ รายการเดินบัญชีธนาคารทหารไทย(ที่ถูกคือไทยพานิชย์) จำกัด(มหาชน) สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ 2 ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 281-XXXXXX-8 ชื่อนายเอ รักเมืองไทย(ชื่อจำเลย) รายการเดินบัญชีระหว่างวันที่ 1 เมษายน จนถึง 30 มิถุนายน 2555

การบรรยายฟ้องผิดลักษณะนี้สามารถเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลหากเรายื่นคำให้การได้หรือไม่คะ

ตอนแรกอ่านแล้วงงมาก พอจับใจความได้ถึงทราบว่าทนายโจทย์บรรยายผิด

กฎ กติกา มารยาท ในการตั้งกระทู้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=8062&Itemid=29

ขอโทษมากมายคะ