จุดอ่อนของพวกทวงหนี้

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14500 โดย Shofrets
:upset:

เจตนาของคุณคืออะไรกัน ทำไมชอบพูดวกไปวนมา
ถ้ามัวแต่มาทวงถามหาสัญญา แล้วสำเนาสัญญาคุณไม่ได้เก็บไว้ตอนไปเช่าซื้อ ผ่อนสินค้าหรือไงค่ะ

เพราะปกติเขาก็จะให้ copy สัญญาให้คุณด้วย หรือว่าคุณไม่ได้เก็บไว้เหมือนกัน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14523 โดย Napassawan
ตอบกลับ จขกท ก่อนก็แล้วกัน

1.ทำไมมันไม่เก็บสัญญาไว้ล่ะครับ หรือเพราะมันเกิน 5 ปี หรือเพราะอะไรกันแน่ ทั้งๆที่มันเปนหลักฐานสำคัญมาก หรือสัญญาในนั้น ไม่ใช่เช่าซื้อจริงๆ

ผมว่าเขาน่าจะเก็บสัญญาไว้ แต่เวลาจ้าง สนง.กฎหมายทวงหนี้

เขาไม่ได้เอาสัญญาให้สนง.กฎหมายให้ด้วยหรอก เขาคงให้แค่เลขที่สัญญา

ชื่อ สกุล ไปแค่นั้น

มันเป็นแค่ขั้นตอนการทวงหนี้ธรรมดาที่ไม่ได้สำคัญขนาด ต้องถือสัญญาตัวจริงมายืนทวงหรอก

การถูกทวงแบบที่คุณเจอนั้น ก็เห็นสมาชิกโดนกันอยู่เรี่อย สติแตกกันไปเยอะ

ก็ดีแล้วที่คุณตั้งรับได้ดี


ที่ถามว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อจริงหรือไม่ คุณตอบไว้ในกระทู้ก่อนหน้านี้เองแล้ว

หลักสำคัญของผมก็คือ สัญญาเช่าซื้อนั่นเองครับ ผมขอชำระหนี้ แต่ขอสัญญาเช่าซื้อมาดู ว่ามันชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อจะได้เอามาเทียบกับสัญญาเช่าซื้อของผม ว่ามันตรงกันไหม มีลายมือชื่อชัดเจนไหมดูก่อนนั่นเอง เพราะจะได้ไม่มีปัญหาว่า เจ้าหนี้มาบอกอีกอย่าง แต่ในสัญญาเขียนอีกอย่างครับ

สัญญา น่าจะเป็นตัวเดียวกันวันที่คุณทำสัญญา แล้วแบ่งกันไป

อันที่อยู่ในมือคุณคือตัวเดียวกันนั่นละ เขียนอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

อย่าเอาอะไรกับคนทวงหนี้เลย หนี้สินเชื่อ ก็พูดว่าหนี้บัตร ลูกหนี้งงมาเยอะแล้ว


2.แล้วถ้าเขาไม่มีสัญญาเช่าซื้อมาให้ผมผมควรจะทำไง ถ้าจะชำระหนี้ มันจะมีปัญหาทีหลังไหม เพราะไม่มีอะไรให้ผมดูสักอย่าง

อยากชำระหนี้ก็ขอบใบยืนยันส่วนลด มาว่าให้ชำระเท่าไหร่ กี่งวด ภายในกำหนดเท่าไหร่

มีเลขที่สัญญา มีรายละเอียดที่ถูกต้องชัดเจน มีตราประทับ ลายเซ็นรับรอง

มี คำประมาณว่าเมื่อชำระแล้ว ถือเป็นจบสิ้นกัน ไม่สามารถนำไปฟ้องร้องหรือ ตามทวงอีกได้

แค่ นี้ก็พอ สัญญาก็ไม่จำเป็น หรือ จะขอให้เขาแนบมาก็ได้นะ ถ้าเขาให้


3.ผมเคยไปถามผู้จัดการแบงค์คนหนึ่ง เขาบอกว่า แบล๊คลิสต์นั้น ไม่มีทางลบได้ แม้จะชำระหนี้แล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ไม่ทราบใครพอรู้บ้างครับ


ติดจนตายครับ คุณไป เอาเงินเขามาแล้วเบี้ยวเขา เขาก็เก็บชื่อคุณไว้ ตลอดนั่นล่ะ

นอกจากเขาจะไม่เข็ด

4.ผมเคยเข้ามาในบอร์ดนี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ไม่เห็นกระทู้เก่าๆ เยอะๆ ที่เคยเห็นแล้ว ไม่ทราบไปไหนครับ รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะในบอร์ดมีความรู้เยอะมาก :cry2:

เรื่องมันเศร้าครับ


ขอให้จบกันเท่านี้นะครับ




เรื่องข้อกฎหมายผมไม่มีความรู้ คงไม่ขอ Discuss กับคุณ

แต่คำตอบที่คุณต้องการน่าจะชัดแล้ว

การปิดหนี้ ไม่จำเป็นต้องมานั่งดูสัญญากัน ถ้าสามารถตกลงกันได้

อยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณคิดว่าคุณควรจะจ่ายเท่านี้ก็เสนอไป

ตกลงได้ก็รอหนังสือยืนยัน ตกลงไม่ได้ก็ให้เขารอไป

ไม่เห็นต้องอ้างสัญญาอะไรให้ปวดหัว


ส่วนเรื่องกฎหมาย เรื่องสัญญา ของคุณที่ถกกัน ก็หยุด กันแต่แค่นี้เถอะ อ่านแล้วงง

คอยช่วยตอบให้สมาชิกที่ไม่ค่อยมีความรู้ ที่กลัวนั่นกลัวนู่นกลัวนี่

จนไม่มีสติ ไม่เป็นอันทำมาหากิน หรือ อาจคิดสั้น ให้กลับมามีสติจะดีกว่า

เพราะสมาชิกกลุ่มนี้ยกข้อกฎหมายมาก็อ่านไม่รู้เรื่อง มีกระทู้แก้หนี้ให้ก็ไม่ค่อยจะอ่าน

น่าห่วงกว่าคุณเยอะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14527 โดย DOOMED
โอ้วววววววววววว ขอบคุณ คุณพี่จัง อีกคนนะครับ ที่มาช่วชี้แจง ให้ความรู้เพิ่มเติมมากมาย แบบละเอียดเห็นภาพชัดเจน

แต่ที่ผมเอาข้อมูลอะไรต่างๆนาๆ ให้ดูนั้น ไม่ใช่ว่าผมต้องการเถียงหรืออวดเก่งกว่าใครนะครับ แต่ผมอยากให้คนที่เข้ามาอ่านนั้น ได้รับรู้ข้อมูลในอีกหลายๆด้าน จากการแสดงความเห็นของคนอื่นๆ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย เขาจะได้รู้ข้อมูลอะไรมากขึ้น หลายด้านขึ้น

แล้วที่ผมได้ความรู้ใหม่อีกอย่างก็คือ แบล๊คลิสต์ จะคงอยู่ตลอดไป แม้ชำระหนี้แล้ว แต่จะติดแค่ใน บ.หรือ ธนาคารที่เราไปกูมาเท่านั้น แต่ถ้าเราชำระหนี้แล้ว เครดิตบูโร ก็จะลบแบล๊คสิสต์ของเราหลังจากชำระหนี้แล้ว 3 ปี

ไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือเปล่านะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14537 โดย ntps
แล้วที่ผมได้ความรู้ใหม่อีกอย่างก็คือ แบล๊คลิสต์ จะคงอยู่ตลอดไป แม้ชำระหนี้แล้ว แต่จะติดแค่ใน บ.หรือ ธนาคารที่เราไปกูมาเท่านั้น แต่ถ้าเราชำระหนี้แล้ว เครดิตบูโร ก็จะลบแบล๊คสิสต์ของเราหลังจากชำระหนี้แล้ว 3 ปี

ไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือเปล่านะ


ไม่เห็นใหม่เลยละ ที่นี่ เรารู้มานานแล้วละปู่ ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ก็มีบอก
กระทู้ปักหมุด วิธีแก้ปัญหาหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน ก็มีเขียนไว้

น้องอนาคิน อย่าไปอินกับคุณ doomed เลย เขาเป็นมนุษย์สารพัดช่าง
ถามนะ
ดีที่คุณ doomed บอกว่า อยากโต้ตอบทางความคิดค่ะ ความคิดดีที่ต้อง
การให้คนอื่นแลกเปลี่ยนข้อมูลหลากหลาย แล้วคุณพร้อมหรือยังที่จะยอมรับ
ข้อมูลที่คุณไปค้นหาจากที่อื่นมานั้นไม่แปลกสำหรับเราค่ะ การกระทำใดๆ
ที่จะพิสูจน์กันในศาล ทางกฎหมาย เราดูที่ เจตนา เ ป็นหลักค่ะ

มีข้อคิดเห็นว่า
1 ทำไมคุณมาเรียกร้องหาสัญญา ทั้งที่คุณ ต้องมีสำเนา 1 ฉบับ คุณเองก็ไม่มี จริงไหม
2 ถ้าเขาบอกว่า มี คุณจะเชื่อสัญญาที่เขาถือไหม คุณก็ต้องแย้งเขาอีก
3 ที่โทรมาแค่ สำนักงานทวงหนี้ คุณก็รู้ดี เพราะตั้งชื่อ ว่า จุดอ่อนของพวกทวงหนี้
4 หลักของการปลดหนี้ คือ การลดค่าใช้จ่ายเพื่อนำเงินออมมาปิดหนี้ คุณว่าจริงไหม
5 จะผ่านมากี่ปี กี่เดือน กี่นาที กี่วินาที คุณยังไม่ชำระหนี้ที่ต้างไว้ เจ้าหนี้มีสิทธิทวงค่ะ
6 รถที่หาย แปลกใจที่ไม่แจ้ง จะมีหรือไม่มีประกัน การแจ้งหาย เพื่อป้องกันตัวเองว่า
คุณไม่ได้มีเจตนายักยอกทรัพย์ หรือนำทรัพย์ไปขายต่อ แต่การไม่แจ้ง แปลได้ว่า
คุณมีส่วนรู้เห็นการกระทำนั้น จริงไหมค่ะ

ขอฝากว่า ถ้าเป็นไปได้ อยากเห็นคนมีข้อมูลมาช่วยกัน เติมความรู้ให้กับสมาชิกค่ะ
การเห็นต่างมีได้เสมอในสังคม แต่ไม่แตกแยก หรือโกรธกันนะค่ะ ขอให้เถียงกัน
แบบแมนๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับสาระค่ะ


ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14539 โดย DOOMED
ชัดเจนมากครับ คุณ keawja ผมชอบคนที่เข้าใจเรื่องการแลกเปลี่ยนความเห็นแบบคุณจริงๆครับ ตัวผมนั้นพร้อมยอมรับในความเห็นต่างมาตั้งแต่เริ่มตั้งกระทู้แล้วล่ะครับ ผมข้อตอบข้อที่สำคัญดังนี้นะ

1.สำเนาผมหาไม่เจอจริงๆครับแต่ะจะพยายามหา
6.ถ้าการที่ทรัพย์สินสูญหาย แล้วเจเาทุกข์ไม่ได้ไปแจ้งความ คนๆนั้นจะต้องมีความผิดฐาน สมรู้ร่วมเห็นในการยักยอกทรพย์ ทุกคนเลยงั้นหรือครับ ผมขอตัวอย่างกรณ๊ คนที่โดนข้อหานี้ คือทรัพย์สินหายแล้วไม่ได้แจ้ง แล้วโดนข้อหาว่ามีส่วนรู้เห็นหน่อยได้ไหมครับ จะได้เป็นความรู้ใหม่กับเพื่อนๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14543 โดย Napassawan
คุณไม่ได้เข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้จากที่นี่เลย แค่มารอถามตอบในกระทู้

เรื่องที่ผมพูดไปนั้นเป็นเรื่องพื้นฐานของที่นี่ที่ทุกคนแทบจะต้องรู้

เรื่องทางกฎหมายผมขอร้องเถอะ จบซะที

คุณแค่มารอคนที่จะหลงเข้ามาโต้เถียงกับคุณ

แล้วคุณก็เถียงกับเขา เพื่อรอข้อมูลที่คุณต้องการ

โดยไม่ได้สนใจหาความรู้ที่คนอื่นเขาให้มาเลย

ดักรออยู่แต่กระทู้นี้ล่ะ


เรื่องยังไม่ถูกฟ้อง ถูกไหม ยังไม่เห็นหมายศาล ถูกไหม

เถียงกันไปไม่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างมาเป็นร้อยคดี

เอาข้อกฎหมายมาอ้างหักล้างกันอย่างเต็มที่

แล้วมีประโยชน์อะไร ในเมื่อคุณยังไม่ได้ถูกฟ้อง


ไอ้คุณคุณชักแม่น้ำมาทั้ง 5 นั้นก็ไม่เห็นคุณจะมีปัญหาอะไร

โดนทวงคุณก็รับมือได้

เรื่องเครดิตบูโร เรื่อง Blacklist คุณค้นกฎหมาย คุณรู้อะไรของคุณตั้งมากมาย

มีเวลามาหาข้อหักล้างกับสมาชิกคนอื่น แต่คุณพึ่งจะมารู้เรื่อง Blcaklist กับ บูโร เมื่อสักครู่

มันขัดแย้งกันพอควร


ผมขอ ทุกคน โดยเฉพาะกรรมการ เอาเวลาไปตอบปัญหาคนอื่นเถอะ

ยังไม่โดนหมายศาล จะสมมุติอะไรขึ้นมาก็ได้ เราจะอธิบาย

ยกตัวอย่าง หาข้อกฎหมาย มาอธิบายคนที่ไม่ได้มีปัญหา เพื่อ???

แถมยังตอ้งหาเหตุผมมาหักล้างกันอีก จากสิ่งที่สมมุติขึ้น

ไว้รอให้ถึงขั้นนั้นขึ้นมาจริงๆ ค่อยมาว่ากัน



เถียงกันไปก็ไม่ได้อะไร จะเถียงกันไปทำไม เสียเวลา ปล่อยตก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14544 โดย DOOMED

พีจัง เขียน: คุณไม่ได้เข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้จากที่นี่เลย แค่มารอถามตอบในกระทู้

เรื่องที่ผมพูดไปนั้นเป็นเรื่องพื้นฐานของที่นี่ที่ทุกคนแทบจะต้องรู้

เรื่องทางกฎหมายผมขอร้องเถอะ จบซะที

คุณแค่มารอคนที่จะหลงเข้ามาโต้เถียงกับคุณ

แล้วคุณก็เถียงกับเขา เพื่อรอข้อมูลที่คุณต้องการ

โดยไม่ได้สนใจหาความรู้ที่คนอื่นเขาให้มาเลย

ดักรออยู่แต่กระทู้นี้ล่ะ


เรื่องยังไม่ถูกฟ้อง ถูกไหม ยังไม่เห็นหมายศาล ถูกไหม

เถียงกันไปไม่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างมาเป็นร้อยคดี

เอาข้อกฎหมายมาอ้างหักล้างกันอย่างเต็มที่

แล้วมีประโยชน์อะไร ในเมื่อคุณยังไม่ได้ถูกฟ้อง


ไอ้คุณคุณชักแม่น้ำมาทั้ง 5 นั้นก็ไม่เห็นคุณจะมีปัญหาอะไร

โดนทวงคุณก็รับมือได้

เรื่องเครดิตบูโร เรื่อง Blacklist คุณค้นกฎหมาย คุณรู้อะไรของคุณตั้งมากมาย

มีเวลามาหาข้อหักล้างกับสมาชิกคนอื่น แต่คุณพึ่งจะมารู้เรื่อง Blcaklist กับ บูโร เมื่อสักครู่

มันขัดแย้งกันพอควร


ผมขอ ทุกคน โดยเฉพาะกรรมการ เอาเวลาไปตอบปัญหาคนอื่นเถอะ

ยังไม่โดนหมายศาล จะสมมุติอะไรขึ้นมาก็ได้ เราจะอธิบาย

ยกตัวอย่าง หาข้อกฎหมาย มาอธิบายคนที่ไม่ได้มีปัญหา เพื่อ???

แถมยังตอ้งหาเหตุผมมาหักล้างกันอีก จากสิ่งที่สมมุติขึ้น

ไว้รอให้ถึงขั้นนั้นขึ้นมาจริงๆ ค่อยมาว่ากัน



เถียงกันไปก็ไม่ได้อะไร จะเถียงกันไปทำไม เสียเวลา ปล่อยตก




มีบรรทักไหน ข้อความไหนมั่งล่ะ ที่ผมแสดงเจตนาว่า แค่มารอคนที่จะหลงเข้ามาโต้เถียงกับคุณ

แล้วคุณก็เถียงกับเขา เพื่อรอข้อมูลที่คุณต้องการ

โดยไม่ได้สนใจหาความรู้ที่คนอื่นเขาให้มาเลย

ดักรออยู่แต่กระทู้นี้ล่ะ





การที่ผมตั้งกระทู้ ถ้าคุณอ่านให้ละเอียดคุณจะรู้ว่า มันเป็นการเล่าเรื่องของผมที่เกิดขึ้น และต้องการคำแนะนำว่าทำยังไงต่อดี แต่พอมีสมาชิกมาตอบเกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมาย ผมก็เอาเรื่องข้อกฎหมาย และเจตนามาแลกเปลี่ยนกับเขา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่คุณบอก

แล้วทำไมล่ะ การที่ผมยกข้อกฎหมาย และเรื่องกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นมา ทำไมคุณไม่คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างล่ะ คุรบอกให้ผมพอ แล้วคนอื่นที่เขาเข้ามาอ่าน ที่เขาต้องการความรู้ในมุมใหม่ๆล่ะ เขาคิดเหมือนคุณหรือเปล่า ทำไมต้องคิดแทนคนอื่น


แทนที่จะคิดว่าการที่เอาเหตุผลมาหักล้างกันมาตอบโต้ แลกเปลี่ยนกัน จะทำให้เกิดความคิดใหม่ๆเกิดขึ้น ความรุ้ใหม่ๆเกิดขึ้น กลับไม่คิด กลับคิดว่าเสียเวลา กลับไปคิดมองคนอื่นในด้านลบ ว่าเขามีเจตนาร้ายกับคนอื่น แบบนี้ถ้าคุณคิดอะไร แล้วมีคนเห็นต่างกับคุณ คนๆนั้น จะกลายเป็นคนที่ไม่ดีในสายตาคุณเลยงั้นสิ



ถ้าคุณไม่ชอบใจ คุณก็ไม่มาแสดงความเห็นก้ได้นี่ ใครจะไปว่าอะไร ถ้าคนฉลาดน่ะ เขาอ่านกระทู้ทั้งหมดเขาก็รู้แล้ว ว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนกันทางข้อมูล ทางความคิด เป็นเรื่อง ธรรมดา

แล้วเรื่อง บูโร ผมเคยรู้มาแต่ว่า มันจะลบไปใน สามปี แต่พอพนักงานแบงค์มาบอกแบบนี้ ผมเลยสงสัยต้องมาหาข้อมูลใหม่ ซึ่งมันก็คลุมเครืออยู่ แล้วถ้าจะพูดแบบ กำปั้นทุบดินก็คือ แล้วจะรู้ได้ยังไง ว่าเครดิตบูโร มันจะลบข้อมูลเราจริงๆ เพราะเราไม่ได้ไปเห็นกับตา ว่ามันลบหรือไม่ ถึงลบแล้ว แล้วคิดเหรอ ว่าข้อมูลที่เสียของเรา มันจะหามาใหม่ไม่ได้อีก คิดหรือว่านมันจะซื่อสัตย์กับเรา


กรรมการคนอื่นๆ และสมาชิกคนอื่นเขามีความคิดพอ และใครมีความคิดยังไง ก็มาแลกเปลี่ยนกันได้ ผมก็พร้อมที่ละแลกเปลี่ยนเสมอ แต่ตัวคุณล่ะ คิดแทนเขาว่าผมเจตนาร้าย แถมยังบอกว่าเสียเวลาที่จะมาตอบกระทู้นี้ แทนที่คนอื่นๆที่มาอ่าน จะได้ความรู้ใหม่ๆ เขาอาจจะต้องเสียโอกาสไป ถ้าเขาไม่ได้อ่านความเห็นดีๆในระหว่างสมาชิก และ กรรมการ จากความคิดที่มีอคติ ของคุณนั่นล่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14546 โดย Napassawan
เขาให้ไปอ่านในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ก็ไม่ไปอ่าน

กอบัว เขียน: คุณไปอ่านในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้นะ จะมีความรู้เก่าๆที่คุณถามหา แต่อัพเดทให้ทันกฎหมายใหม่
บอร์ดล่ม กรรมการช่วยกันกู้ ช่วยกันเก็บข้อมูลแล้วเอามาโพสใหม่
ไม่ถนัดตอบเพราะต้องจิ้มเอาทีละคำ ช่วยตัวเองหน่อยแล้วกัน


รอโต้ตอบแต่คนที่เข้ามาตอบชัดเจน

คอยแต่จะโต้เถียงคนที่เขาเข้ามาตอบ

ถ้าเข้าไปอ่านก็ต้องรู้เรื่องบูโรแล้ว

ไม่ได้เข้าไปอ่าน ใช่ไหม ถ้าเข้าไปอ่านก็ต้องเห็น



ลองมองย้อนดูไปข้างบน มีคนที่เสียความรู้สึกกับคุณไปกี่คนแล้ว


ที่ผมโพสไปก็เป็นความเห็นของผม

ทำไมคุณรับไม่ได้ อย่างนี้ไม่ถูกนี่

มีแต่คุณพูดวกไปวนมา ใครๆเขาก็เข้ามาติงกันทั้งนั้น

มองไม่เห็นเลยหรือ


คุณเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า มีแต่คนมาติงคุณทั้งนั้น ว่าไม่ยอมอ่าน


พอทักแทงใจดำเข้ามาหน่อยก็ออกมาตีโพยตีพายว่าผมจะทำให้เพื่อนๆ อดได้ความรู้

อยากให้ความรู้ก็เอามาโพสเลย ไม่ใช่มาเล่นตั้งคำถาม โต้ไปโต้มาแบบนี้

ยกกฎหมายไป ยกกฎหมายมา คนอ่านงงกันพอดี

ผมงง ผมก็บอกว่าผมงง ไม่เห็นรับฟังความคิดผมบ้างเลย

ผมก็มองว่า เถียงกันไปเถียงกันมาไม่มีประโยชน์ อ่านแล้วยิ่งสับสน

เดี๋ยวได้เดี๋ยวไม่ได้

อย่าเถียงกับผมเลย เถียงไปไม่ได้ประโยชน์


ปล. อย่าโทษผมครับ ถ้าเพื่อนไม่ได้ประโยชน์

ถามบ้าง ผมว่าคุณเจตนาร้ายตรงไหน ผมแค่อ่านแล้วไม่เห็นมันจะเป็นประโยชน์อะไรกับผมเลย

ก็เลยอยากให้หยุดโต้กันเสียที กรรมการก็มีความรู้ คุณก็มีความรู้

เอาเวลาไปช่วยตอบคนที่เอาตัวไม่รอดก่อนดีกว่า มันผิดตรง ไหนนนนนน น น .......

เหมือนเดิมครับ เพื่อนๆ ก็อยากให้ปล่อยตก อ่านไปอ่านมาก็มีแต่คนเถียงกัน
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14549 โดย ntps

DOOMED เขียน: ชัดเจนมากครับ คุณ keawja ผมชอบคนที่เข้าใจเรื่องการแลกเปลี่ยนความเห็นแบบคุณจริงๆครับ ตัวผมนั้นพร้อมยอมรับในความเห็นต่างมาตั้งแต่เริ่มตั้งกระทู้แล้วล่ะครับ ผมข้อตอบข้อที่สำคัญดังนี้นะ

1.สำเนาผมหาไม่เจอจริงๆครับแต่ะจะพยายามหา
6.ถ้าการที่ทรัพย์สินสูญหาย แล้วเจเาทุกข์ไม่ได้ไปแจ้งความ คนๆนั้นจะต้องมีความผิดฐาน สมรู้ร่วมเห็นในการยักยอกทรพย์ ทุกคนเลยงั้นหรือครับ ผมขอตัวอย่างกรณ๊ คนที่โดนข้อหานี้ คือทรัพย์สินหายแล้วไม่ได้แจ้ง แล้วโดนข้อหาว่ามีส่วนรู้เห็นหน่อยได้ไหมครับ จะได้เป็นความรู้ใหม่กับเพื่อนๆ


มาตอบในส่วนที่พาดพิง ^^ ในฐานะ แก้วจ๋าไม่ใช่ ทนาย ไม่ใช่นักกฎหมาย
แค่ปชช ธรรมดาที่พอจะรู้กฎหมายงูๆ ปลาๆ และไม่อยากให้ค้างคาใจ
อยากบอกว่า ถ้าในฐานะ ผู้ครอบครอง รถ เกิดรถหายไป คุณจะนิ่งดูดาย
ไม่ตื่นตกใจทำอะไรหรือค่ะ อาการแรก ตามปกติทั่วไป สำหรับคนที่ไม่มีเจตนา
ร้าย คือ
- ตกใจ กลัว เจ้าหนี้ ทรัพย์สินหายไป จะทำไง จะผิดไหม ต้องจ่ายค่างวดไหม
เป็นต้น

- อันดับ 2 ต้องไปแจ้งความลงบันทึกว่า รถหาย และแจ้งเจ้าทรัพย์ ยกเลิกสัญญา
เพราะไม่ใช่คนกระทำผิด

เพราะโดยปกติเมื่อของใดๆ หาย เราต้องแจ้งหายจริงไหม รถทั้งคัน ถ้าหาย
โดยเราไม่รู้ เราต้องสืบหา แจ้งความแล้ว แต่ถ้าไม่แจ้ง คุณจะตอบคำถาม
ศาลได้ไหมว่า ทำไม เพราะคนต้องสงสัยว่า คุณมีส่วนพัวพันกับการหายนี้แน่นอน
เท่ากับมีเจตนายักยอกทรัพย์ ดังนั้น คนๆ นั้นต้องโดนทั้งคดี แพ่ง และ
คดีอาญา จากเจ้าของทรัพย์

ทุกอย่างอยู่ที่ เจตนา ถ้าหากว่า คนครอบครองนั้นไม่รู้
ไม่เห็นการหายไป ด้วยเพราะว่า มีหลักฐาน ไปทำงานต่างประเทศ หรือนอน
ป่วยไม่รู้เรื่องราวในโรงพยาบาล เป็นเจ้าชายนิทรา ก็ถือว่า ไม่ผิดคดีอาญา
แต่ผิดและต้องรับผิดชอบคดีแพ่ง จริงไหม

แต่ถ้าคนจะใช้ช่องโหว่กฎหมาย เอาของเขามาแล้วไปปล่อยต่อ ไม่แจ้งความหาย
เพราะรู้ว่า สืบได้ไม่ยากว่า ไม่หายจริง แถมคนนั้นยังล่องหน เจ้าทรัพย์
หาตัวไม่เจอ คงคิดว่าชาตินี้ไม่ต้องจ่ายหนี้แล้ว แถมได้เงินจากการปล่อยของ ช่าง
มีความสุขบนความคิดที่ร้ายกาจ ดังนั้น ความคิดว่าจะลอยนวลได้นั้น คิดผิดนะ


แก้วจ๋าคงจบแค่นี้นะ ไม่อยากถูกมองเป็นอื่น

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #14555 โดย jackTs
กระทู้ : ไขปัญหา "หนี้ที่เกิดจากการผ่อนสินค้า"

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=514&Itemid=29



ขออนุญาตเข้ามาอธิบายเสริมให้กับ"คุณแก้วจ๋า"สักหน่อยนะครับ
ในกรณีรถที่ยังผ่อนอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ ถูกขโมยหายไป
ผู้ที่เป็นผู้เช่าซื้อรถ , ผู้ครอบครองหรือผู้ที่เป็นลูกหนี้ จะไม่สามารถเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สน.ได้นะครับ
เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของรถที่แท้จริง และตำรวจก็จะไม่รับแจ้งความให้

ดังนั้น ลูกหนี้จึงทำได้แค่เพียงไปแจ้งลงเป็น"บันทึกประจำวัน" ณ. สน.ในท้องที่เกิดเหตุเท่านั้น
เพื่อเป็นหลักฐานในเบื้องต้นว่า ลูกหนี้ไม่ได้มีเจตนาจะโกง หรือมีส่วนร่วมรู้เห็นกับหัวขโมย ในการลักทรัพย์ครั้งนี้

หลังจากนั้น ลูกหนี้จะต้องรีบแจ้งให้เจ้าหนี้(เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริง) ให้รับทราบว่ารถได้ถูกขโมยหายไปแล้ว
เพื่อให้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่แท้จริง มาแจ้งความ ณ. สน.ในท้องที่เกิดเหตุ ในฐานะ"เจ้าของรถตัวจริง"
ตำรวจจึงจะรับแจ้งความในเรื่อง"รถหาย , รถถูกขโมย"ให้

โดยจะมี"อายุความ"ในการเข้าแจ้งความ เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รู้ว่า"รถหาย , รถถูกขโมย"
มิฉะนั้น จะถือว่าคดีได้"ขาดอายุความ" และจะไม่สามารถแจ้งความใดๆได้อีก
ดังนั้น เจ้าหนี้(เจ้าของรถที่แท้จริง) พอมันทราบว่า"รถของมันหาย" มันก็จะรีบไปแจ้งความ ณ สน.ในท้องที่เกิดเหตุทันที
โดยเจ้าหนี้มันจะนัดให้เราไปพร้อมกับมันด้วย ในฐานะที่เราเป็นผู้ครอบครอง(ผู้ใช้รถ)และให้ปากคำถึงเหตุการณ์ก่อนที่รถจะหาย
เช่น...รถจอดที่ไหน? , จอดอย่างไร? , ได้ล็อครถเอาไว้หรือไม่ อย่างไร? , วันที่หายวันไหน เวลาประมาณกี่โมง?
มีใครรู้เห็นเป็นพยานอีกหรือไม่? , มีบุคคลต้องสงสัยหรือไม่ เพราะอะไร?...ฯลฯ...เป็นต้น



เอาล่ะ...ทีนี้ผมจะตอบคำถามของคุณ DOOMED บ้างล่ะนะ
เพราะผมชักเริ่มรำคาญที่เห็นคุณมา ต่อปาก-ต่อคำ ในเชิง"หัวหมอ"กับสมาชิกและกรรมการในนี้เต็มทีแล้ว

ก่อนอื่น...ผมขอถามคุณ DOOMED ด้วยคำถามนี้ก่อนนะครับว่า

คุณตอบได้ไหม?

ว่าทำไมคุณถึงไม่ดำเนินการเรื่องแจ้งความ ตามที่ควรจะเป็น


เพราะเหตุใด...ทำไมคุณถึงไม่รีบดำเนินการ?


เรื่อง"อายุความ"ในการเข้าแจ้งความตัวนี้ ทางฝ่ายเจ้าหนี้มันก็รู้ข้อกฏหมายนี้ดีนะครับ
แล้วมันก็ยังรู้อีกด้วยว่า หากผู้ครอบครองไม่เข้าแจ้งความร่วมเป็นพยาน หรือไม่ดำเนินการในทางกฏหมายใดๆเลย
ก็อาจเข้าข่ายต้องสงสัยในทางกฏหมายได้ว่า สร้างเรื่องเท็จว่ารถหาย หรือโกหกกุเรื่องขึ้นมาเอง จะได้ชดใช้"หนี้ส่วนต่าง"เพียงบางส่วนเท่านั้น

และถ้าหากในทางกฏหมายยังมองอยู่ว่า รถดังกล่าวคันนี้ยังอยู่กับตัวคุณเอง ไม่ได้ไปไหน(เพราะไม่เคยแจ้งความอะไรเอาไว้เลย)
อายุความในการฟ้องร้องทางคดีของคุณ จะเป็นไปตามนี้นะครับ

อายุความในคดีเช่าซื้อ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29

นกกระจอกเทศ เขียน: .
อายุความในคดีเช่าซื้อ

- ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ อายุความ 2 ปี
- ค่าเสียหายจากการที่ผู้เช่าซื้อใช้ทรัพย์สิน อายุความ 6 เดือน
- ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน อายุความ 10 ปี


อ่านแล้ว “งง” ไหมครับ?...งั้นผมขอแปลภาษากฏหมาย ให้เป็นภาษาชาวบ้านตามสไตล์ “ชาวยิ้มสู้หนี้” ให้ก็แล้วกัน

- ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ
กฎหมายว่าด้วยการเช่าซื้อ ไม่ได้บัญญัติเรื่องอายุความเอาไว้โดยตรง แต่ค่าเช่าซื้อก็เป็นค่าเช่าในการใช้ทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ดังนั้น หากผู้เจ้าหนี้ซึ่งเป็นพ่อค้าฟ้องเรียกร้องเอาค่าเช่าซื้อสังหาริมทรัพย์(ทรัพย์สิน) ที่ค้างชำระอยู่ จึงต้องฟ้องภายในอายุความ 2 ปี…กล่าวคือ ศาลฎีฏาท่านมองว่า เงื่อนไขในระหว่างที่ผิดนัดชำระของ “การทำสัญญาเช่าซื้อ” ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเงื่อนไขในระหว่างที่ผิดนัดชำระของ “การทำสัญญาเช่าสังหาริมทรัพย์” แบบธรรมดาทั่วไป...หากลูกหนี้ มีหนี้ค้างค่าเช่าสังหาริมทรัพย์กับเจ้าหนี้(ซึ่งมีอายุความ 2 ปี) ก็ให้นำเอา“อายุความ”เดียวกันนั้น มาใช้กับ “การทำสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ด้วย” เช่นกัน
กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ค่าเช่าที่ยังค้างอยู่ (หรือเรียกว่า ค่าส่งงวดในอดีตที่มันผ่านมาแล้ว แต่ลูกหนี้ยังไม่ได้จ่าย) เท่านั้น


- ค่าเสียหายจากการที่ผู้เช่าซื้อใช้ทรัพย์สิน
ในความหมายนี้...หมายถึง การที่ลูกหนี้ไม่ยอมผ่อนจ่ายค่างวด จนถึงขั้นที่เจ้าหนี้บอกยกเลิกสัญญา และส่งคนมายึดทรัพย์สินกลับคืนไป
แต่เมื่อเจ้าหนี้ได้ทรัพย์สินกลับคืนมาแล้ว กลับพบว่าทรัพย์สินนั้นๆ มีความชำรุดเสียหาย และเมื่อนำเอาทรัพย์สินนั้นออกไปประมูลขายแล้ว ได้เป็นเงินกลับมาน้อยกว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่พึงจะได้รับ(หรือเรียกว่าขายแล้วขาดทุน) เจ้าหนี้มีสิทธิ์ในการฟ้องลูกหนี้ ให้ชดใช้ค่าส่วนต่างที่ขาดทุนดังกล่าว โดยมีอายุความในการฟ้อง 6 เดือน โดยนับตั้งแต่วันที่ยึดทรัพย์สินกลับคืนมา
กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ส่วนต่างที่ขาดทุน จากการขายของที่ยึดกลับมาได้ เท่านั้น


- ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน
ในความหมายนี้...หมายถึง ค่าใช้จ่ายใดๆที่เจ้าหนี้ต้องเสียเงินจ่ายเพิ่ม หรือเจ้าหนี้อดได้ใช้ผลประโยชน์ จากทรัพย์สินของตัวเจ้าหนี้เอง หลังจากบอกยกเลิกสัญญาแล้วเช่น

*** ค่าติดตามทวงถามในการทวงทรัพย์สินของเจ้าหนี้คืน หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้
*** ค่าจ้างนักสืบ ในการสืบหาทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าหนี้ หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว
*** ลูกหนี้ได้หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินนั้นๆ(ไม่ยอมคืนของให้) ทำให้เจ้าหนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เพราะยึดทรัพย์คืนไม่ได้ (เรียกได้ว่า อดได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น...เอาไว้ใช้เอง , ให้คนอื่นเอาไปใช้แล้วเก็บค่าเช่า , หรือเอาทรัพย์นั้นไปขาย) ภาษากฏหมายเรียกว่า “ค่าขาดราคา” , “ค่าขาดผลประโยชน์”
เหล่านี้ทั้งหมด มีอายุความ 10 ปี
กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ค่าใช้จ่ายต่างๆ , ค่าความขาดทุน , ค่าความเสียหาย จากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เท่านั้น



เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

- หากลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เจ้าหนี้มีสิทธิ์ที่จะติดตามทวงเอาของคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์กรรมสิทธิ์ได้ตลอด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ
- ทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย ลูกหนี้ต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
- ถ้าลูกหนี้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายจ่ายโอน และไม่ยอมชำระเงิน ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และลูกหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ด้วย เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่


ดังนั้น...ถ้าจะอ้างตามข้อกฏหมายที่ถูกต้องแล้ว ขอให้อ้างอิงจากคำพิพากษาของศาลฎีกา ตามที่ผมอธิบายไว้ด้านบนจึงจะชัดเจนและถูกต้องกว่านะครับ

จึงขอสรุปข้อมูลที่เกี่ยวกับ “อายุความของสัญญาเช่าซื้อ” ว่ามีอายุความต่างๆ ดังต่อไปนี้
- 6 เดือน
- 2 ปี
- 10 ปี
แล้วแต่มูลเหตุ และประเภทของหนี้ที่ถูกตั้งเรื่องฟ้อง ตามรายละเอียดที่ผมได้อธิบายไว้แล้วในด้านบน


ดังนั้น...หากใครเป็นลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาเช่าซื้อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าซื้อสังหาริมทรัพย์ใดๆก็ตาม
ถ้ารู้ตัวเองว่าจ่ายไม่ไหวแล้ว ก็หยุดจ่ายซะเถอะครับ พร้อมกับบอกยกเลิกสัญญากับเจ้าหนี้ซะ...แล้วก็คืนทรัพย์นั้นๆให้กับเขาไป (อย่าไปทำการ ขาย , ถ่ายเท , โยกย้าย , โอน , หลบหนี...ทรัพย์ของเจ้าหนี้ เป็นอันขาด)
เท่านี้...ประเด็นอายุความ ในการฟ้องร้องลูกหนี้ ก็จะเหลือเพียงแค่ 6 เดือน และ 2 ปี เท่านั้น

สามารถตัดประเด็นในเรื่อง อายุความ 10 ปี

พร้อมกับคดีอาญา ออกไปได้เลยครับ...ฟันธง!


สังเกตุในข้อความนี้ให้ดีๆนะครับ

- ค่าขาดราคา ค่าขาดประโยชน์ ค่าติดตาม เรียกให้ส่งคืนหรือใช้ราคาแทน
ในความหมายนี้...หมายถึง ค่าใช้จ่ายใดๆที่เจ้าหนี้ต้องเสียเงินจ่ายเพิ่ม หรือเจ้าหนี้อดได้ใช้ผลประโยชน์ จากทรัพย์สินของตัวเจ้าหนี้เอง หลังจากบอกยกเลิกสัญญาแล้วเช่น

*** ค่าติดตามทวงถามในการทวงทรัพย์สินของเจ้าหนี้คืน หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้
*** ค่าจ้างนักสืบ ในการสืบหาทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าหนี้ หลังจากที่บอกยกเลิกสัญญาแล้ว
*** ลูกหนี้ได้หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินนั้นๆ(ไม่ยอมคืนของให้) ทำให้เจ้าหนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เพราะยึดทรัพย์คืนไม่ได้ (เรียกได้ว่า อดได้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น...เอาไว้ใช้เอง , ให้คนอื่นเอาไปใช้แล้วเก็บค่าเช่า , หรือเอาทรัพย์นั้นไปขาย) ภาษากฏหมายเรียกว่า “ค่าขาดราคา” , “ค่าขาดผลประโยชน์”
เหล่านี้ทั้งหมด มีอายุความ 10 ปี
กฏหมายในข้อนี้ พูดถึงเฉพาะ ค่าใช้จ่ายต่างๆ , ค่าความขาดทุน , ค่าความเสียหาย จากการที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เท่านั้น


- หากลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เจ้าหนี้มีสิทธิ์ที่จะติดตามทวงเอาของคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์กรรมสิทธิ์ได้ตลอด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ
- ทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย ลูกหนี้ต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
- ถ้าลูกหนี้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายจ่ายโอน และไม่ยอมชำระเงิน ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และลูกหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ด้วย เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่


และถ้าหากคุณไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่อง"รถหาย"ในครั้งนี้

ทำไมคุณถึงไม่รีบดำเนินการ ในเรื่องแจ้งความ

เสียตั้งแต่แรก?



ขอย้ำโดยอ้างอิงคำพิพากษาของศาลฎีกา ให้คุณได้"ชื่นใจ "อีกครั้ง

ฎีกา 2171/2536
ผู้เช่าซื้อไม่คืนรถ ผู้ให้เช่าซื้อจึงชอบที่จะติดตามเอารถคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ

หมายความว่า...ทางฝ่ายเจ้าหนี้เขาสามารถตามทวงรถคืนจากคุณได้เรื่อยไป"ตลอดชีวิต"...จนกว่าจะล้มหายตายจากกันไปข้างหนึ่ง

ฎีกา 728/2529
รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30

หมายความว่า...การที่คุณไม่ยอมคืนรถให้กับเจ้าหนี้(เจ้าของรถที่แท้จริง) โดยอ้างว่า"รถหาย" อายุความในการฟ้องของฝ่ายเจ้าหนี้ก็คือ 10 ปี
ดังนั้นการที่คุณหยุดจ่ายมานาน 5 ปีนั้น...ยังไม่ถือว่า"ขาดอายุความ"นะครับ...ฉะนั้น...คุณอย่าเพิ่งลำพองใจไป


แถมความรู้ให้อีกนิด เอามาจากในกระทู้นี้

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=14144&Itemid=64&view=topic&limitstart=20#14550

ก้อยสุพรรณ เขียน: ใครเคยเจอแบบดิฉัน บ้างค่ะ ต้องทำอย่างไรดี

แบบว่าผ่อนสินค้าไม่จ่ายเลย แม้แต่งวดแรก

เข้าไปอ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เข้าใจว่าต้องทำยังไงดี

วันนี้ อิออน ก็เร่งๆ มาใหญ่เลย ให้ไปจ่ายให้ได้


คุณจำได้ไหม?...ว่ามันเป็น"สัญญาเช่าซื้อ"หรือเปล่า?
แล้วสินค้าตัวนั้น มันยังอยู่กับคุณหรือไม่?...หรือถูกเจ้าหนี้มันมายึดเอาคืนไปแล้ว

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=7&id=514&Itemid=64&view=topic

แต่ถ้ามันเป็นสัญญาเช่าซื้อจริงๆ แล้วคุณดันเอาสินค้าตัวนั้นไปขายให้กับผู้อื่นโดยเจตนา อาจโดนฟ้องเป็นคดีอาญาในข้อหา"ยักยอกทรัพย์"ได้ด้วย

เกี่ยวกับการเช่าซื้อทรัพย์

เมื่อผู้เช่าซื้อทรัพย์(ลูกหนี้)เอาทรัพย์จากเจ้าของไปไว้ในครอบครอง หากผิดสัญญาไม่ชำระเงินค่าเช่าซื้อ แต่ผู้เช่าซื้อทรัพย์(ลูกหนี้)ไม่ยอมคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อนั้นคืนกลับไปให้เจ้าของทรัพย์
โดยที่ทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้เช่าซื้อ ก็เป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น

แต่ถ้าเอาทรัพย์ไปขายหรือจำนำ เป็นความผิดฐานยักยอก


*** หมายเหตุ ***

หนี้ที่เกิดจาก เงินกู้ , สินเชื่อ , บัตรเครดิต , บัตรกดเงินสด
สามารถฟ้องให้เป็นได้แค่เพียงคดีแพ่งเท่านั้น...ไม่สามารถฟ้องให้เป็นคดีอาญาไปได้...ไม่ว่าจะเคยจ่าย"งวดแรก"หรือไม่ก็ตาม


แต่หนี้ที่เกิดจาก"สัญญาเช่าซื้อ"จริงๆ...เจ้าของทรัพย์(เจ้าหนี้)สามารถฟ้องให้เป็นคดีอาญาในข้อหา"ยักยอกทรัพย์"ได้
ถ้าหากผู้เช่าซื้อทรัพย์(ลูกหนี้)นำเอาทรัพย์สินนั้นไป โยก , ย้าย , ขาย , โอน ให้กับผู้อื่นโดยเจตนา
โดยไม่สนว่าลูกหนี้จะเคยจ่ายเงินเป็นค่าผ่อน"งวดแรก"หรือไม่ก็ตาม


ถ้าคุณอ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วเพิ่งคิดได้ ก็อย่าไปหัวหมอ ด้วยการรีบไปแจ้งความ โดยโกหกกับตำรวจที่ สน.ว่า"รถเพิ่งหายเมื่อวานนี้ "นะครับ
เพราะคุณอาจโดนคดีอาญา...ในข้อหา"แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน"เพิ่มขึ้นอีกกระทงหนึ่งก็เป็นได้

ผมเตือนแล้วนะครับ


กระทู้เสริมความรู้ ว่าด้วยเรื่องการแจ้งความในกรณี"รถหาย "

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.debtclub.consumerthai.org/odebt/index.php?option=com_fireboard&func=view&catid=2&id=49773&Itemid=0

NALINRAT เขียน: ถาม : ไปดาวน์มอเตอร์ไซค์ให้ญาติเพื่อใช้ไปทำงานตอนแรกก็อยู่ด้วยกันแล้วก็บอกว่าจะไปย้ายไปอยู่ที่อื่น
ตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้ เราเป็นคนเช่าซื้อต้องผ่อนต่อไปทำยังไงดีรถก็ไม่ได้ใช้แถมยังต้องผ่อนให้อีก
ขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ สมาชิกด้วยค่ะ ปวดหัวมากเลย


ก็คงตอบเหมือนๆกับสมาชิกคนอื่นๆนั่นแหละครับว่า...ทำใจซะเถอะ

ตามขั้นตอนของกฏหมายแล้ว คุณไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์คันนี้ได้เลย
เพราะว่ารถจักรยานยนต์คันนี้...คุณบอกว่ายังผ่อนอยู่กับ บ.ไฟแนนซ์ หรือ บ.ลิสซิ่ง...ดังนั้น "คุณจึงไม่ใช่เป็นเจ้าของที่แท้จริง กับรถจักรยานยนต์คันนี้" คุณเป็นเพียงแค่ผู้ครอบครองในฐานะตามสัญญา "เช่าซื้อ" เท่านั้น

***ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า เจ้าของรถที่แท้จริงก็คือไอ้ บ.ไฟแนนซ์ หรือ บ.ลิสซิ่ง นั้นแหละ แต่ว่าเจ้าของที่แท้จริงมันอนุญาตให้คุณเอารถของมันไปยืมขับได้ตามใจชอบ ในระหว่างที่คุณยังผ่อนจ่ายอยู่กับมัน***

(ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปอ่านดูชื่อเจ้าของรถที่แท้จริง จากในสำเนาสมุดทะเบียนรถดูสิ...แล้วจะเห็นว่าใครกันแน่ ที่เป็นชื่อเจ้าของรถอยู่ในขณะนี้)

และในเมื่อคุณไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง...ดังนั้น การแจ้งความใดๆในทางกฏหมาย "คุณไม่สามารถทำได้เลย" ถ้าจะทำนิติกรรมทางกฏหมายใดๆกับรถคันนี้ จะต้องกระทำโดยเจ้าของรถที่แท้จริงเท่านั้น...คุณไม่สามารถทำได้ เพราะคุณไม่ใช่เจ้าของ

ฉะนั้น...ถ้าจะแจ้งความ คุณต้องไปบอกกับเจ้าของรถที่แท้จริงว่า "รถจักรยานยนต์ถูกลัก(ถูกขโมย) โดยญาติของคุณเอง ชื่อxxxxxxxx นามสกุลxxxxxxxxx แล้วปัจจุบันผู้ต้องหา(ญาติ) พักอาศัยอยู่ที่ xxxxx ตำบล xxxxxx อำเภอ xxxxxxx จังหวัด xxxxxxx
ด้วยข้อหาเจตนาลักทรัพย์ เพราะยืมรถไปใช้แล้วไม่ยอมนำมาคืน โดยคุณยินดีที่จะเป็นพยานให้กับเจ้าของรถที่แท้จริง ในการแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ด้วย"
แล้วที่เหลือก็ปล่อยให้ทางตำรวจออกหมายเรียก และหมายจับญาติของคุณ ตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป

ขอย้ำว่า...อย่าไปบอกกับเจ้าหนี้ ให้มันแจ้งความว่า "รถหาย" โดยคุณไม่รู้ไม่เห็นเป็นอันขาด

เพราะถ้าทำอย่างนั้น คุณจะถูกเรียกไปสอบปากคำในฐานะเป็นผู้ครอบครองและเป็นพยานด้วย โดยจะถูกซักถามว่า รถจอดไว้ที่ไหน? , ทำไมถึงหาย? , จอดไว้อย่างไร? , หายวันไหน? , หายตอนกี่โมง? , มีพยานรู้เห็นหรือไม่? , สงสัยว่าใครเป็นผู้ขโมยไหม?...ฯลฯ...แล้วก็จะทำการบันทึก การให้ปากคำของคุณไว้ทุกคำพูด ถ้าการให้ปากคำมีพิรุธหรือขัดแย้งกับหลักฐานที่สืบได้ ก็จะโดนเรียกไปสอบสวนให้การหนักขึ้นไปอีก

และถ้าในวันข้างหน้า...หากเจ้าหนี้(เจ้าของรถที่แท้จริง) หรือตำรวจเขาสืบหารถจักรยานยนต์คันนี้จนเจอ แล้วสาวไปถึงตัวญาติของคุณในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองรถคันนี้อยู่ เขาก็จะจับกุมญาติของคุณในข้อหาลักทรัพย์ ตามหมายจับที่ได้มีการแจ้งความเอาไว้...เมื่อนั้นแหละ...คุณจะซวยที่สุด

เพราะเมื่อถึงชั้นสอบสวน ญาติของคุณก็ต้องให้การรับสารภาพว่า "เอารถมาใช้จริง แต่ไม่ได้ขโมยมาโดยไม่มีใครรู้เห็น คุณ NALINRAT ให้ผมมายืมขับเองนะ เพราะเขาเป็นคนยื่นกุญแจรถให้กับมือผมเอง"...แล้วคุณจะตอบว่ายังไงล่ะทีนี้

คราวนี้แหละ คุณจะโดนตั้งข้อหา "เจตนายักยอกทรัพย์" และข้อหา "แจ้งความเท็จ" พร้อมกันทั้ง 2 กระทง ซึ่งเป็นข้อหาในคดีอาญาทั้ง 2 กระทงเลย...งานนี้คงรอด "คุก" ยากส์ส์ส์

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel, ntps, Tum Tawatchai 9999

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14562 โดย DOOMED
นี่ล่ะครับ คุณนกกระจอกเทศ สิ่งที่ผมเขียนไป คนอื่นตอบกลับมา แบบหลากหลายความคิดนี่ล่ะครับ มันจะทำให้คนอ่านได้มองเห็น มุมมองอะไรหลายๆอย่าง ว่ากรณีของผมที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดกับตัวลูกหนี้แล้ว เราจะรับมืออย่างไร จัดการอย่างไร กับการทวงหนี้ สัญญาเช่าซื้อที่ชัดเจนถ้าไม่มีจะทำยังำไง การโต้เถียงกันแบบนี้ก็เหมือน กรณีที่คุณนกกระจอกเทศไปออกรายการช่ิอง 9 เมื่อหลายปีก่อน คุณไป ดีเบต กับคนที่อยู่ตรงข้ามของคุณ

แล้วคุณคิดว่าการที่คุณไปออกรายการช่อง 9 แล้วได้ดีเบตกับคนที่เห็นต่างนั้น มันได้ประโยชน์กับคนดูใช่ไหมล่ะครับ

ดังนั้นการ ดีเบต กันนั้น ใช่ว่าจะมาเปนการหาเรื่องหาราว เปนการต่อปากต่อคำแบบโกรธเคืองกัน แล้วถ้าใครมาเห็นต่าง ถือว่าเขาผิด ถึงแม้จะเห็นต่างแค่ 1 เสียง แต่มันก็เป็นสิทธ์ที่จะแสดงความเห็นมิใช่หรือ

แล้วคุณพี่จัง รู้ได้ไงครับ ว่าคนอ่านเขาจะงง เขาอาจจะเข้าใจมากกว่าคุณก็ได้



แล้วผมอยากถามคุณพี่จัง ว่า ข้อความที่ผมเขียนมันเปนโทษกับคนอ่านตรงไหน
บ้าง

แล้วมีข้อความไหน ที่ผมบอกว่าไม่ฟัง คุณพี่จังครับ



คุณ keaw ถ้าคุณอ่านกระทู้ผมคุณจะเห็นว่า ผมต้องการชำระหนี้ แต่ต้องขอดูสัญญาเช่าซื้อก่อนไงครับ ว่าชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ แล้วคุณคิดว่าผมมีเจตนาไม่ชำระหนี้ ตรงไหนครับ มันชัดเจนอยู่แล้วววววววววววว


คราวนี้ตอบคำถามตัวโตๆ ขอบคุณนกกระจอกเทศนะครับ
รถผมเช่าซื้อมาใช้ได้สักระยะ แล้วให้ กิ๊ก ยืมใช้ไปหลายเดือนอยู่ แต่พอติดต่อขอเอารถกลับมาใช้ เธอบอกว่ารถหาย อ้าวแล้วกัน ผมถามว่าหายไปนานหรือยัง เธอบอกประมาณ 3-4 เดือนละ ผมเลยคิดว่า มันนานขนาดนี้มันคงไปอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะ เลยไม่ได้ไปแจ้งความ แต่พอหลังจากนั้นผมจะไปขอให้เธอชดใช้ เธอก็เปลี่ยนเบอร์โทร และย้ายหอพัก และผมก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14563 โดย Napassawan

DOOMED เขียน: นี่ล่ะครับ คุณนกกระจอกเทศ สิ่งที่ผมเขียนไป คนอื่นตอบกลับมา แบบหลากหลายความคิดนี่ล่ะครับ มันจะทำให้คนอ่านได้มองเห็น มุมมองอะไรหลายๆอย่าง ว่ากรณีของผมที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดกับตัวลูกหนี้แล้ว เราจะรับมืออย่างไร จัดการอย่างไร กับการทวงหนี้ สัญญาเช่าซื้อที่ชัดเจนถ้าไม่มีจะทำยังำไง การโต้เถียงกันแบบนี้ก็เหมือน กรณีที่คุณนกกระจอกเทศไปออกรายการช่ิอง 9 เมื่อหลายปีก่อน คุณไป ดีเบต กับคนที่อยู่ตรงข้ามของคุณ

แล้วคุณคิดว่าการที่คุณไปออกรายการช่อง 9 แล้วได้ดีเบตกับคนที่เห็นต่างนั้น มันได้ประโยชน์กับคนดูใช่ไหมล่ะครับ

ดังนั้นการ ดีเบต กันนั้น ใช่ว่าจะมาเปนการหาเรื่องหาราว เปนการต่อปากต่อคำแบบโกรธเคืองกัน แล้วถ้าใครมาเห็นต่าง ถือว่าเขาผิด ถึงแม้จะเห็นต่างแค่ 1 เสียง แต่มันก็เป็นสิทธ์ที่จะแสดงความเห็นมิใช่หรือ

แล้วคุณพี่จัง รู้ได้ไงครับ ว่าคนอ่านเขาจะงง เขาอาจจะเข้าใจมากกว่าคุณก็ได้



แล้วผมอยากถามคุณพี่จัง ว่า ข้อความที่ผมเขียนมันเปนโทษกับคนอ่านตรงไหน
บ้าง

แล้วมีข้อความไหน ที่ผมบอกว่าไม่ฟัง คุณพี่จังครับ



คุณ keaw ถ้าคุณอ่านกระทู้ผมคุณจะเห็นว่า ผมต้องการชำระหนี้ แต่ต้องขอดูสัญญาเช่าซื้อก่อนไงครับ ว่าชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ แล้วคุณคิดว่าผมมีเจตนาไม่ชำระหนี้ ตรงไหนครับ มันชัดเจนอยู่แล้วววววววววววว


คราวนี้ตอบคำถามตัวโตๆ ขอบคุณนกกระจอกเทศนะครับ
รถผมเช่าซื้อมาใช้ได้สักระยะ แล้วให้ กิ๊ก ยืมใช้ไปหลายเดือนอยู่ แต่พอติดต่อขอเอารถกลับมาใช้ เธอบอกว่ารถหาย อ้าวแล้วกัน ผมถามว่าหายไปนานหรือยัง เธอบอกประมาณ 3-4 เดือนละ ผมเลยคิดว่า มันนานขนาดนี้มันคงไปอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะ เลยไม่ได้ไปแจ้งความ แต่พอหลังจากนั้นผมจะไปขอให้เธอชดใช้ เธอก็เปลี่ยนเบอร์โทร และย้ายหอพัก และผมก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลย


ผมไม่เห็นว่าใครเห็นด้วยกับคุณเลย มีแต่เข้ามาเตือน



ก็ไม่เห็นมันจะเป็นประโยชน์อะไรกับใครเลย

คนอื่นเขาเข้ามาเตือนตั้งเยอะ ก็ไม่คิดจะทำ แถมยังถามย้อนเขา

ตอบโต้แต่ตรรกะของตนเอง ไม่ยอมรับความจริง

อย่ายก ดีบ่งดีเบต มาอ้าง มันคนละกรณี

อันนั้นเขาไปออกรายการเพื่อสิทธิ ของลูกหนี้

ไม่ใช่มาถกเถียงเพื่อให้ลูกหนี้ที่ ส่อเจตนา จะหัวหมอ

มานำให้สมาชิกในบอร์ด หัวหมอ ซึ่งไม่ใช่แนวทางของชมรม

กรณีของคุณ มันก็แค่จะพยายามจะเข้ามาบอกว่าตัวเองถูก คิดถูก แล้วหาแนวร่วม

ว่าความคิดคุณถูก

พอเจอ กรรมการ ค้านเข้าให้ ก็เถียงข้างๆคูๆ

ว่าหลักของคุณถูก ให้กรรมการยกเหตุผลมาหักล้าง

คุณรู้ไหม ว่าการที่กรรมการจะมาตอบเคสของ user ทั่วไปนั้น

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ต้องคิด ต้องพยายามนึก ภาพรวมของลูกหนี้

ต้องแนะนำให้เหมาะสม ไม่ใช่มีกลเม็ดอะไรก็ใส่ไปหน้าบอร์ด

ที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะ พวกเจ้าหนี้ หรือ สนง.กฎหมาย

ที่มีความรู้มากกว่าลูกหนี้ทั่วไป เข้ามาอ่านหาวิธีแก้เกมส์กันอยู่เนืองๆ

จะมา อวดวิชา ความรู้อะไรกันทำไม





แล้ว ที่ท่านประธานมาตอบให้ หรือ กรรมการมาตอบให้นั้น

พวกเขาไม่ได้มีอารมณ์มา "ถก" กับคุณ เข้าใจใหม่ด้วย

เขาเข้ามาตอบให้คุณมองความจริง แล้วก็รู้สถานะตัวเองซะ

ไม่มีใครมีเวลามานั่งจัดเสวนากับคุณหรอก

คุณก็ยังแถ สีข้างถลอก ว่าทุกคนเห็นด้วยกับคุณ

เลยเข้ามา "ถก" กับคุณ

มากเกินพอแล้ว ที่จะต้องพยายามอธิบาย ว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่มีประโยชน์

ในกระทู้ปักหมุด ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ ก็มีคำตอบพวกนี้อยู่แล้ว

คุณจะพยายามมาทำเหมือนว่าถ้ามาคุยกับคุณในนี้ทุกคนก้จะมีความรู้มากขึ้น

ผมว่าเอาเวลาไปอ่านกระทู้ปักหมุด กับห้องรู้ทันกำหมายหนี้จะดีกว่า

แล้วคำถามของคุณอันแรกผมก็ตอบชัดไปแล้ว

ที่เหลืออยู่ที่การยอมรับความจริงของคุณเท่านั้นล่ะ ว่าคุณพลาดอะไรไป

ไม่ต้องหาข้ออ้างอะไรมาอ้างอีกหรอก ไม่ได้แจ้งความ ก็คือ ไม่ได้แจ้งความ

จะอ้างอะไรก้ไม่ได้แจ้งความ ใช่ไหม

ฟังคำเตือนของ ประธาน และกรรมการไว้เถอะ อย่าพยามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอีกเลย

แล้วอย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับท่านประธานอีก

ท่านทำและเสียสละมากกว่าที่คุณทำแค่นี้แน่

อย่าหยิบอ้างมาอีก

สิ่งที่คุณทำผมไม่ได้รู้สึกว่าได้ประโยชน์อะไรเลย

รู้สึกแค่คุณพยายามทำเพื่อตัวเอง แต่เอาประโยชน์ของคนอื่นมาอ้าง

กับท่าทีที่ดูหัวหมอ และอาจทำให้คนอ่านที่ไม่รู้กฎหมายแต่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง

เอาไปใช้แล้วผิดพลาด จะทำให้ซวยหนักกว่าเดิมด้วย

ไม่เป็นไรหรอกเว้ย อ่ายมาแล้ว ซื้อรถมาผ่อนไฟแนนซ์อยู่ รถหาย

ช่างมัน ไม่ต้องแจ้งความหรอก อ่านมาแล้ว เดี๋ยวค่อยเคลียร์ที่ศาล

เกิดคิดกันแบบนี้ ฉิบหายกันพอดี


ยืนยัน คำตอบที่ประธานตอบและถาม และเตือน คุณนั้น อ่านดีๆ ก็เจออยู่แล้ว

ไม่ได้มีประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับผม และ ถ้าสมาชิกท่านอื่นได้อ่านในห้อง

รู้ทันกฎหมายหนี้ ก็ต้องรู้ แต่จะมีประโยชน์สำหรับคุณ

ถ้ารู้จักฟังคำเตือนของทุกท่านที่เข้ามาเตือนคุณ เว้นแต่ คุณจะไม่ได้มีปัญหานั้น

สิ่งที่คุณทำ ไม่ได้ทำให้ผมมีความรู้เพิ่มแต่อย่างใด

และย้ำ ไม่ได้มีใครเข้ามาเห็นดีเห็นงามกับคุณเลยนะ ที่ผมอ่านมา

มีแต่เข้ามาเตือนคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14565 โดย Napassawan
ลืม รู้จักคำนี้ไหม

"พายเรือวนอยู่ในอ่าง"

คำถามกับคำเถียงที่เกิดขึ้นนั้น

คุณรู้หรือเปล่าว่ามันวนอยู่เรื่องเดิม

แค่เปลี่ยนคนตอบไปเรื่อยๆ

แต่คำถาม คำตอบ ก็ยังเหมือนรูปเดิมไม่ได้เปลี่ยน

ผมไปละ ขอออกจากอ่างใบนี้ก่อน

เพราะผมก็เริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าพูดแต่เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา นานแล้ว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14566 โดย DOOMED
ชอบสองประโยคของคุณพี่จังนี้



ที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะ พวกเจ้าหนี้ หรือ สนง.กฎหมาย

ที่มีความรู้มากกว่าลูกหนี้ทั่วไป เข้ามาอ่านหาวิธีแก้เกมส์กันอยู่เนืองๆ

จะมา อวดวิชา ความรู้อะไรกันทำไม





เอาไปใช้แล้วผิดพลาด จะทำให้ซวยหนักกว่าเดิมด้วย

ไม่เป็นไรหรอกเว้ย อ่ายมาแล้ว ซื้อรถมาผ่อนไฟแนนซ์อยู่ รถหาย

ช่างมัน ไม่ต้องแจ้งความหรอก อ่านมาแล้ว เดี๋ยวค่อยเคลียร์ที่ศาล

เกิดคิดกันแบบนี้ ฉิบหายกันพอดี





ดีครับ ชื่นชมครับ ที่เขียนจุดประสงค์ชัดเจนว่่า กำลังกลัวในเรื่องดังกล่าว และคำพูดนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับการที่จะมีคนมาเขียนแบบผม เพราะถ้าเขียนแล้ว มันจะเกิดเรื่องที่ทำให้ลูกหนี้เสียเปรียบเขาคงจะไม่ทำ



ที่ว่าได้ประโยชน์จากการ ดีเบต นั้นคุณมองไม่เห็นเหรอครับ ที่คนอื่นๆเขียนมา มันก็มีประโยชน์ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะมองว่าที่ผมเขียนไม่มีประโยชน์ก็เถอะ แต่ความเห็นอื่นมันก็เป็นประโยชน์ไม่ใช่หรือ

ยังไงการดีเบต ที่คุณนกกระจอกเทศที่ออกช่อง 9 มันก็เป็นประโยชน์นั่นแหละ ก็คุณบอกเองมิใช่หรือว่า มันเป็นการทวงสิทธิ์ของลูกหนี้ แล้วการดีเบต มันจะไม่มีประโยชน์ยังไงล่ะ


ยังไงผมก็ยืนยันเจตนาเดิน ว่าไม่ได้มการมาหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แล้วหาแนวร่วม หรือพอใครพูดไม่ถูกใจก็ไปด่าว่าใคร คุณลองย้อนไปอ่านให้ครบ มันมีคำพูดไหนที่ผมได้ด่าทอ หรือดูถูกใครบ้างไหม


ผมมาแสดงความเห็น และขอความเห็น มีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนเท่านั้น


เอาเป็นว่า ผมอ่าน 2 ประโยคคุณแล้ว ผมชอบมาก ผมเข้าใจเจตนาของคุณแล้วล่ะ และผมเห็นชอบที่จะทำด้วย เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับลูกหนี้ในหลายๆอย่าง


สุดท้ายนี้ผมก็ยืนยันว่า การดีเบตแบบแลกเปลี่ยนความเห็นกันนั้น มันได้ความรู้กับคนที่อ่านหรือฟัง แน่นอน แต่ผมอาจจะลืมคิดไป ว่าการที่เราเขียนอะไรไป มันอาจเป็น ดาบสองคม


ผมขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาตอบ และผมมั่นใจว่า คำถามผมไม่ใช่เรื่องซ้ำๆกับในบทความใดๆ เพราะผมอ่านมาแล้ว ไม่มีกรณีของผมเลย


ดังนั้นเพื่อประโยชน์แก่ลูกหนี้ ผมต้องขออภัยมาตรงนี้ด้วย ที่ลืมคิดเรื่อง ดาบสองคม ไปครับ


ขอให้บอร์ดนี้คงอยู่ไปนานๆแล้ว ถ้าเป็นไปได้ กู้ข้อมูลเก่ามาด้วยล่ะ :laughing:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14568 โดย DOOMED
อ่อ ผมไม่ได้เอาผมไปเปรียบกับประธาน อย่างที่คุณว่านะครับ เข้าใจใหม่ด้วย ผมแค่พูดเรื่อง การดีเบตในช่อง 9 มันทำให้คนได้ประโยชน์ อย่าเข้าใจผิด



ไม่มีใครมีเวลามานั่งจัดเสวนากับคุณหรอก

คุณก็ยังแถ สีข้างถลอก ว่าทุกคนเห็นด้วยกับคุณ

เลยเข้ามา "ถก" กับคุณ



นี่ไงครับ การคิดแทนคนอื่น ผมไม่เคยบอกว่าใครเห็นด้วยกับผมเลย มีแต่แลกเปลี่ยนความเห็นกัน และถ้าไม่มีใครเห็นด้วย นั่นก็เป็นสิทธิ์ของเขา

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14585 โดย เอี้ยก้วย

ผมเป็นหนี้ บ.การเงินอยู่ ผมเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์มา แล้วขาดส่งไปแล้ว 5 ปี และเขาก็ติดตามทวงถามมาตลอด ผมก็บอกว่าจะจ่ายให้แน่ แต่รอเก็บเงินก่อน เพราะรถที่เช่ามามันถูกขโมยไป เห็นใจกันหน่อย


จะจ่ายให้แน่ แต่รอเก็บเงินก่อน (ยอมรับว่าจะจ่ายแต่รอเก็บเงินก่อน แสดงว่ารู้ตัวว่าเป็นหนี้เค้า)

ช่วยส่งรายละเอียดสัญญาเช่าซื้อทุกตัวที่มีกับ บ............ พร้อมทั้งหลักฐานการชำระค่างวด หลักฐานการจ่ายล่าช้า ว่าชำระงวดใดแล้วบ้าง จำนวนเท่าไหร่ วันที่เท่าไหร่ และค้างชำระเท่าไหร่ ตั้งแต่วันไหน สินค้าที่เช่าซื้อมีอะไรบ้าง เป็นลายลักษณ์อักษรให้โดยละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจที่จะทำการชำระหนี้ที่ค้างจ่าย .........


ขอเค้าแล้วทำไมตัวเองไม่เก็บหลักฐานไว้ละ หรือว่าอยู่ที่ "กิ๊ก"

1.ทำไมมันไม่เก็บสัญญาไว้ล่ะครับ หรือเพราะมันเกิน 5 ปี หรือเพราะอะไรกันแน่ ทั้งๆที่มันเปนหลักฐานสำคัญมาก หรือสัญญาในนั้น ไม่ใช่เช่าซื้อจริงๆ


คุณก็รู้ว่าเป็น"หลักฐานสำคัญมาก"แล้วทำไมคุณไม่เก็บไว้ละ(หรือว่า"กิ๊ก"เอาไปด้วย)

2.แล้วถ้าเขาไม่มีสัญญาเช่าซื้อมาให้ผมผมควรจะทำไง ถ้าจะชำระหนี้ มันจะมีปัญหาทีหลังไหม เพราะไม่มีอะไรให้ผมดูสักอย่าง


ส่อแววจะหาทาง"เบี้ยวหนี้"ใช่อะป่าว

3.ผมเคยไปถามผู้จัดการแบงค์คนหนึ่ง เขาบอกว่า แบล๊คลิสต์นั้น ไม่มีทางลบได้ แม้จะชำระหนี้แล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ไม่ทราบใครพอรู้บ้างครับ



**สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)**


เคยเข้าไปอ่านมะห้องนี้(ถ้าเคยก็ไม่น่าต้องถามอีก)

4.ผมเคยเข้ามาในบอร์ดนี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ไม่เห็นกระทู้เก่าๆ เยอะๆ ที่เคยเห็นแล้ว ไม่ทราบไปไหนครับ รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะในบอร์ดมีความรู้เยอะมาก


แสดงว่าไม่ใช่สมาชิกตัวจริง เค้ารู้มาตั้งนานแล้วว่า"บอร์ดเก่า"ล่ม.....เข้าใจ๋บ่....

และคุณนกกระจอกเทศ เคยบอกว่า ถ้าเราเคยชำระมาแล้วอย่างน้อย 1-2 งวด แสดงถึงเจตนาว่าเรา ไม่ได้ยักยอก เพราะเราได้แสดงเจตนาการชำระแล้ว จะมาแจ้งว่า ยักยอก ไม่ได้


5555.....จะหาแนวร่วมชวนท่านประธานเข้าคุกด้วยนะเนี๊ยะ

ผมยังติดใจที่มันบอกว่า "ถ้าจะเอาสัญญาที่แบบลงลายมือชื่อนั้น ไม่มีหรอกค่ะ" ผมติดใจตรงนี้แหละ ว่ามันจะเป็น นิติกรรมอำพราง หรือเปล่านี่


แล้วคุณละกะลังหาทางอำพรางอะไรหรือป่าว(นอกจาก"กิ๊ก")

คือคุณ anakin ครับ ผมได้ติดต่อกลับไปเพื่อจะขอชำระหนี้แล้ว แต่ก่อนจะชำระ ถ้าตามสามัญสำนึกคนปกติทั่วๆไป ยังไม่เห็นสัญญาอะไรสักอย่าง แล้วลูกหนี้ต้องการขอสัญญามาดูรายละเอียดต่างๆ ตามที่บอก แต่ทางเจ้าหนี้ไม่มีให้ ตามสามัญสำนึกของลูกหนี้แล้ว จะมีลูกหนี้สักกี่คน ที่จะยอมชำระโดยไม่ให้เขาได้ดูรายละเอียดสัญญาอะไรสักอย่าง



แล้วคุณละมี"สามัญสำนึก"หรือป่าว

รถหายไม่แจ้งความ ถึงมันจะหายไปแล้วเป็นชาติ(มี"กิ๊ก"ภาษาอะไร"กิ๊ก"ทำรถหาย 3-4 เดือนยังไม่รู้ )

คิดแต่ว่ารถหายไปนานแล้วคงไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

ต่อให้มันไปอยู่"ดาวอังคาร"ก็ต้องแจ้งความหรือ"ลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐานไง

นอกเสียจากว่าคุณกลัวข้อหา"แจ้งความเท็จ"

เรื่องรถ ผมไม่ได้ไปแจ้งความครับ ประกันอะไรไม่มีครับ แต่ถึงผมจะไปแจ้งหรือไม่ไปแจ้ง เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ แจ้งข้อหา ยักยอกได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่า ยักยอก และกฎหมายก็ไม่ได้บังคับว่า ถ้ารถหายแล้วไม่ไปแจ้งความ จะโดนข้อหายักยอก


จริงครับถ้ารถเป็นชื่อคุณ คุณเป็นเจ้าของ

แล้วคุณมีหลักฐานว่ารถหายหรือป่าวละ

"รถไม่ใช้แล้ว"ยังต้องแจ้งขนส่งนะครับท่าน

นี่ขนาด จำนำ ยังไม่ถือเป็นยักยอก แล้วของผมมันน่าคิดไหมล่ะครับ(ในกระทู้นี้นะ)


ที่คุณอ้างมาทั้งหมด เค้ามีหลักฐาน"ตั๋วจำนำ"

มันบ่งบอกถึง"เจตนา" ไงละคุณ คุณมีอะป่าวละ

มีเกร็ดความรู้ มาฝากครับ เพราะพวง พนักงานทวงหนี้ ชอบมาขู่ลูกหนี้ที่ผิดสัญญาเช่าซื้อว่า จะฟ้องคด ยักยอก ทรัพย์ ผมเลยเอาความรู้นี้มาฝากครับ


แล้วคุณเข้าใจทั้งหมดหรือป่าวละ ผมจบ ป.6 อ่านแล้วก็ เง็ง เง็ง แต่ก็พอรู้ว่า
เกี่ยวกับการเช่าซื้อทรัพย์ ผู้เช่าซื้อทรัพย์นั้นไปไว้ในครอบครอง เมื่อผิดสัญญาไม่ชำระเงินค่าเช่าซื้อ และไม่ยอมคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อนั้น จะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือไม่ต้องดูเจตนาทุจริตและข้อเท็จจริงอื่นประกอบด้วย ถ้าเพียงแต่ไม่ยอมคืนเฉยๆและทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้เช่าซื้อ เป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น แต่ถ้าเอาไปขายหรือจำนำขาด เป็นผิดฐานยักยอก

ยังไงก็ผิด ไม่"แพ่ง" ก็"อาญา"

ถ้าการที่ทรัพย์สินสูญหาย แล้วเจ้าทุกข์ไม่ได้ไปแจ้งความ คนๆนั้นจะต้องมีความผิดฐาน สมรู้ร่วมเห็นในการยักยอกทรพย์ ทุกคนเลยงั้นหรือครับ ผมขอตัวอย่างกรณ๊ คนที่โดนข้อหานี้ คือทรัพย์สินหายแล้วไม่ได้แจ้ง แล้วโดนข้อหาว่ามีส่วนรู้เห็นหน่อยได้ไหมครับ จะได้เป็นความรู้ใหม่กับเพื่อนๆ


อันนี้ผมเข้าใจว่า ทรัพย์สินนั้นเราเป็น"เจ้าของ"ไม่ใช่ "เช่าซื้อ"

จะหายไปก็ "ชั่งหัว"มัน ไม่ต้องแจ้งความ แค่รถคันเดียว

ซื้อใหม่ก็ได้ แบบว่า "มีกะตัง"อะ (แบบว่านะ จริงๆแล้วไม่มีอะ )

มีบรรทักไหน ข้อความไหนมั่งล่ะ ที่ผมแสดงเจตนาว่า แค่มารอคนที่จะหลงเข้ามาโต้เถียงกับคุณ

แล้วคุณก็เถียงกับเขา เพื่อรอข้อมูลที่คุณต้องการ

โดยไม่ได้สนใจหาความรู้ที่คนอื่นเขาให้มาเลย

ดักรออยู่แต่กระทู้นี้ล่ะ


อันนี้ก็ดูจากเวลาที่คุณเข้ามาต่อกระทู้ซิ

แล้วคุณพี่จัง รู้ได้ไงครับ ว่าคนอ่านเขาจะงง เขาอาจจะเข้าใจมากกว่าคุณก็ได้


ใช่ครับผมว่าคนอ่านจะเข้าใจแล้วว่า หาแนวร่วมและช่องทางเพื่อที่จะ "ผิดโดยสุจริต"

พอละได้เวลาเจ้าหนี้โทรทวงแล้ว ขอให้โชคดีนะท่าน บายยยยยยย



ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14590 โดย Ly89
ท่านประธาน ได้แนะนำไปแล้ว

กรรมการก็ได้แนะนำไปแล้ว....

พี่พีจัง ก็ได้อธิบายสิ่งที่มันสุ่มเสี่ยงไปแล้ว.....

เจ้าของกระทู้ก็มีความรู้พอตัวอยู่แล้ว.....

เพราะฉนั้น ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่าน หยุดโต้เถียงกันได้แล้ว....

ความรู้ในชมรม แนวทางการจัดการ และหัวใจสำคัญ มันอยู่ในบอร์ดหมดแล้ว

ไม่จำเป็นจะต้องรู้ข้อกฏหมายแบบเทพ เพื่อจะหลบเลี่ยงหัวหมอ

ไม่จำเป็นต้องมาถกเถียงแลกเปลี่ยนอะไรกันอีกแล้วครับ ไม่มีประโยชน์......

ขอให้กระทู้นี้จบเพียงเท่านี้เถิด.......

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #14608 โดย DOOMED
ครับคุณ batk ผมมองเห็นความสำคัญของคำว่า ดาบสองคม จากการแนะนำของคุณพี่จังครับ ผมคงต้องมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยไปดีกว่า อีกว่าจะเอามาเขียนต่อ แล้วจะกลายเป็น ดาบสองคม ที่อาจจะมีคนเอาไปใช้ผิดๆ


ยังไงผมก็ขอบคุณและยอมรับฟังทุกความเห็นครับ ขอบคุณที่แนะนำนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.372 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena