จุดอ่อนของพวกทวงหนี้

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14319 โดย DOOMED
สวัสดีครับ

ก่อนอื่นผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยคำถามสักเล็กน้อยอีกเล่นกันครับ
เรื่องมีว่า


ผมเป็นหนี้ บ.การเงินอยู่ ผมเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์มา แล้วขาดส่งไปแล้ว 5 ปี และเขาก็ติดตามทวงถามมาตลอด ผมก็บอกว่าจะจ่ายให้แน่ แต่รอเก็บเงินก่อน เพราะรถที่เช่ามามันถูกขโมยไป เห็นใจกันหน่อย

แต่มันก็ยังทวงมาเรื่อยๆ โทรหาผมถ้าผมไม่รับ มันก็โทรไปหาเบอร์แม่ผม ไม่รู้มันไปเอามาจากไหน แต่ที่แสบบบบบบบบที่สุด :upset: ก็คือ มันไปหาเบอร์ผู้ใหญ่บ้านที่ไหนมาไม่รู้นี่สิ ผู้ใหญ่บ้านรับสาย แล้วมันอ้างว่ามันโทรมาจาก สำนักงานปลัดอำเภอ จะถามหาผม คราวนี้แหละ ผมขึ้นเลย :upset: มันมีสิทธิ์อะไรโทรมาหาบุคคลที่สามวะ ผมก็สงสัย แล้วคิดว่ามันไม่ใช่แน่ๆ เพราะปลัดบ้าอะไร มาโทรทวงหนี้ให้สถาบันการเงิน ^^ ^^ ^^



ผมเลยไปขอเบอร์ที่โทรมาจากผู้ใหญ่บ้านแล้วโทรกลับไปถาม ปรากฎว่า ไม่ใช่ปลัดตามคาดครับ


จากวันนั้นผมถึงทำหนังสือไปความประมาณว่า

ช่วยส่งรายละเอียดสัญญาเช่าซื้อทุกตัวที่มีกับ บ............ พร้อมทั้งหลักฐานการชำระค่างวด หลักฐานการจ่ายล่าช้า ว่าชำระงวดใดแล้วบ้าง จำนวนเท่าไหร่ วันที่เท่าไหร่ และค้างชำระเท่าไหร่ ตั้งแต่วันไหน สินค้าที่เช่าซื้อมีอะไรบ้าง เป็นลายลักษณ์อักษรให้โดยละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจที่จะทำการชำระหนี้ที่ค้างจ่าย .........

การติดตามทวงถามหนี้นั้น ข้าพเจ้าอนุญาตให้ติดตามทวงถามได้เฉพาะตัวข้าพเจ้าเท่านั้น
ทั้งนี้หากมีการฝ่าฝืน หรือมีการติดตามทวงถามกับบุคคลที่สามและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอีก ข้าพเจ้าจำเป็นต้องฟ้องร้องดำเนินคดี


ปรากฎว่ามีพนักงานทวงโทรมาครับ ผมก็ถามกลับไปว่า คุณส่งมาหรือยังตามที่ผมร้องขอ เขาตอบกลับมาว่า ถ้าจะเอาสัญญาแบบลายลักษณ์ อักษร แบบที่ลงลายมือชื่อทางเราไม่มีคะ ...

เอ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อะไรเนี่ยยยยยยยยย ไม่มีอะไรให้ผมดู ผมจะรู้ได้ไง ว่าผมค้างเท่าไหร่ ชำระไปแล้วเท่าไหร่ ไม่มีสัญญาแบบนี้ ถ้าผมชำระไปมันจะมีปัญหาทีหลังนะ บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เขาก็บอกว่า มีแต่เลขที่สัญญาเท่านั้น และผมก็ถามว่า แล้วทาง บ.ที่ผมเปนหนี้ล่ะ เขาไม่เก็บอะไรไว้เลยเหรอ พนักงานก็บอกว่า เขาให้ทางเราจัดการหมดค่ะ ยังไงก็ต้องมาที่เราอยู่ดี


ตอนนั้นในใจผมเป็นแบบนี่้ครับ :laughing: :laughing: :laughing:



เขาก็ว่าผมต่างๆนาๆ บอกว่าผมจะบ่ายเบี่ยงและอื่นๆ เริ่มขึ้นเสียงละ ผมก็ขึ้นเสียงมั่ง เอาดี๊...... :ไม่ยอม:




ผมก็บอกไปว่า ฟังนะ ผมเอาสั้นๆเลย ผมเปนหนี้ ยังไงผมต้องใช้ แต่ก่อนจะใช้ ผมขอดูหนังสือสัญญาก่อนสิ เพื่อให้มันมีหลักฐานที่ชัดเจน เวลาชำระจะได้ไม่มีปัญหาอะไร เขาก็พยายาม แถถถถถถถถถถถถถถถถถถ ไปเรื่อยๆ อ่ะ ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้ายังโทรทวงกับบุคคลที่สามอีก คราวนี้ผมจะฟ้องร้องดำเนินคดีแน่นอน เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำ คราวนี้ผมเอาจริง และถ้าคุณโทรไปหาคนอื่น ถ้าผมรู้แล้ว ผมตกใจ แล้วไม่มีกระจิตกระใจ จะหาเงินมาใช้หนี้คุณจะทำไง.... :No:


ผมสรุปสุดท้ายว่า ให้ไปเอาสัญญาเช่าซื้อที่ผมต้องการมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน วางสาย... :bye:



คำถามก็คือ
1.ทำไมมันไม่เก็บสัญญาไว้ล่ะครับ หรือเพราะมันเกิน 5 ปี หรือเพราะอะไรกันแน่ ทั้งๆที่มันเปนหลักฐานสำคัญมาก หรือสัญญาในนั้น ไม่ใช่เช่าซื้อจริงๆ

2.แล้วถ้าเขาไม่มีสัญญาเช่าซื้อมาให้ผมผมควรจะทำไง ถ้าจะชำระหนี้ มันจะมีปัญหาทีหลังไหม เพราะไม่มีอะไรให้ผมดูสักอย่าง

3.ผมเคยไปถามผู้จัดการแบงค์คนหนึ่ง เขาบอกว่า แบล๊คลิสต์นั้น ไม่มีทางลบได้ แม้จะชำระหนี้แล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ไม่ทราบใครพอรู้บ้างครับ

4.ผมเคยเข้ามาในบอร์ดนี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ไม่เห็นกระทู้เก่าๆ เยอะๆ ที่เคยเห็นแล้ว ไม่ทราบไปไหนครับ รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะในบอร์ดมีความรู้เยอะมาก :cry2:

ขอบคุณล่วงหน้าครับ :wake:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14323 โดย Nok2865
คุณไปอ่านในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้นะ จะมีความรู้เก่าๆที่คุณถามหา แต่อัพเดทให้ทันกฎหมายใหม่
บอร์ดล่ม กรรมการช่วยกันกู้ ช่วยกันเก็บข้อมูลแล้วเอามาโพสใหม่
ไม่ถนัดตอบเพราะต้องจิ้มเอาทีละคำ ช่วยตัวเองหน่อยแล้วกัน

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14331 โดย Pych

DOOMED เขียน: คำถามก็คือ
1.ทำไมมันไม่เก็บสัญญาไว้ล่ะครับ หรือเพราะมันเกิน 5 ปี หรือเพราะอะไรกันแน่ ทั้งๆที่มันเปนหลักฐานสำคัญมาก หรือสัญญาในนั้น ไม่ใช่เช่าซื้อจริงๆ


ผมเดาว่าบริษัทที่โทรมาทวงเป็นบริษัท/สำนักงานรับทวงหนี้ ซึ่งจะไม่มีโอกาสได้รับสัญญาเช่าซื้อที่คุณทำไว้กับบริษัทการเงิน แต่บริษัทการเงินนั้น น่าจะยังคงเก็บรักษาสัญญาไว้เป็นอย่างดีครับ

แล้วคุณไม่ได้เก็บตัวสัญญาไว้เหรอครับ
อีกทั้งไม่มีจดหมายทวงหนี้ส่งมาหาคุณบ้างเหรอครับ เห็นคุณบอกว่ามีแต่โทรมาทวง

DOOMED เขียน: 2.แล้วถ้าเขาไม่มีสัญญาเช่าซื้อมาให้ผมผมควรจะทำไง ถ้าจะชำระหนี้ มันจะมีปัญหาทีหลังไหม เพราะไม่มีอะไรให้ผมดูสักอย่าง


โทรมาทวงเฉยๆ ไม่มีจดหมายยืนยันการลดหนี้ ไม่มีจดหมายทวงหนี้ ไม่มีจดหมายแจ้งรายการหนี้ ไม่มีหมายศาล คุณก็ไม่ต้องชำระเข้าสิครับ ชำระเข้าไปก็ไม่รู็จะไปหักได้แต่ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าโทรศัพท์บ้าบออะไรหรือเปล่า

ไปอ่านกระทู้นี้นะครับ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29

DOOMED เขียน: 3.ผมเคยไปถามผู้จัดการแบงค์คนหนึ่ง เขาบอกว่า แบล๊คลิสต์นั้น ไม่มีทางลบได้ แม้จะชำระหนี้แล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ไม่ทราบใครพอรู้บ้างครับ


คุณจะติดแบล็คลิสต์กับบริษัทการเงินนั้นๆ ตลอดไปครับ ถึงแม้คุณจะชำระหนี้เข้าไปแล้ว แต่บริษัทการเงินในประเทศไทยมีเป็นสิบๆ จะไปกลัวทำไมครับ

แต่ถ้าคุณไม่ชำระหนี้ให้หมดภาะหนี้ต่อกัน คุณจะมีชื่อติดอยู่ในเครดิตบูโร ตลอดไป หรือจนกว่าบริษัทการเงินนั้นๆ จะขายหนี้เน่าให้บริษัทหรือสำนักงานทวงหนี้ ซึ่งไม่มีสิทธิ์ส่งรายงานข้อมูลเครดิตให้เครดิตบูโร คุณก็รอแค่ 3 ปี ชื่อคุณก็จะหายไปจากเครดิตบูโร แต่คุณก็ยังเป็นหนี้กับบริษัทหรือสำนักงานที่รับซื้อหนี้ไปแล้วอยู่นะครับ เขาจะสามารถทวงคุณได้ตลอดไปเหมือนกันครับ ไม่มีอายุความ

อ่านรายละเอียดจากกระทู้นี้นะครับ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบู​โร (Credit Bureau)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1372&Itemid=29

DOOMED เขียน: 4.ผมเคยเข้ามาในบอร์ดนี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ไม่เห็นกระทู้เก่าๆ เยอะๆ ที่เคยเห็นแล้ว ไม่ทราบไปไหนครับ รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะในบอร์ดมีความรู้เยอะมาก :cry2:

ขอบคุณล่วงหน้าครับ :wake:


ตามที่พี่กอบัวบอกไว้เลยครับ
ข้อมูลที่สำคัญและอัพเดทยังคงมีอยู่ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ครับ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=showcat&catid=7&Itemid=29

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14332 โดย Pych
อ่านเรื่องอายุความของสัญญาเช่าซื้อจากกระทู้นี้นะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29#13995

เห็นบอกว่า รถโดนขโมยไป มันจะทำให้มีอายุความ 10 ปีครับ

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

- หากลูกหนี้ไม่ยอมคืนของ เจ้าหนี้มีสิทธิ์ที่จะติดตามทวงเอาของคืนในฐานะเจ้าของทรัพย์กรรมสิทธิ์ได้ตลอด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ
- ทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย ลูกหนี้ต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
- ถ้าลูกหนี้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายจ่ายโอน และไม่ยอมชำระเงิน ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และลูกหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ด้วย เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14365 โดย DOOMED
อ้อออออออ ขอบคุณทกท่านที่แนะนำนะครับ ขอตอบคุณ anakin เพิ่มเติมนะครับ

มีแต่จดหมายมาทวง กับโทรทวง ครับ ทวงมา 5 ปีละครับ หนี้รวมของผมทั้งหมด 90000 บาทครับ มีทั้งเช่าซื้อ มีทั้งบัตรเครดิต เช่าซื้อมี ทีวี กับ รถมอเตอร์ไซด์ครับ การขู่มันก็ขู่แบบว่า จะแจ้งข้อหา ยักยอก นั่นล่ะครับ แต่ผมอ่านในบอร์ดนี้แล้ว เข้าใจแล้ว ว่ามันจะแจ้งว่า ยักยอก มันต้องมีอะไรหลายอย่างครบองค์ประกอบก่อน ถ้าไม่มีการ จำหน่าย จ่าย โอน เบียดบัง ก็ไม่เข้าข่ายยักยอก และคุณนกกระจอกเทศ เคยบอกว่า ถ้าเราเคยชำระมาแล้วอย่างน้อย 1-2 งวด แสดงถึงเจตนาว่าเรา ไม่ได้ยักยอก เพราะเราได้แสดงเจตนาการชำระแล้ว จะมาแจ้งว่า ยักยอก ไม่ได้



ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ส่งสัญญามาให้ดู ทั้งๆที่จำนวนเงินก็เยอะนะ แล้วไม่ฟ้องสักที หรือเพราะผมอยู่ต่างจังหวัด มันเลยไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย

ผมยังติดใจที่มันบอกว่า "ถ้าจะเอาสัญญาที่แบบลงลายมือชื่อนั้น ไม่มีหรอกค่ะ" ผมติดใจตรงนี้แหละ ว่ามันจะเป็น นิติกรรมอำพราง หรือเปล่านี่ :laughing: :laughing: :laughing:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14367 โดย Champcyber99
คุณเป็นหนี้จริง
เจรจาจ่ายเท่าที่ทำได้ จะดีกว่าไหม เรื่่องมันเดินทางมาตั้ง 5 ปีแล้ว
จะได้จบไป หรือคุณคิดเช่นไร ในเมื่อเราเป็นหนี้จริง ทุกคนก็ต้องหาทางแก้ไขหนี้
อย่างถูกวิธี


เป็น นิติกรรมอำพราง หรือเปล่า

การที่เราเป็นหนี้แล้วเรื่องยังไปจบ เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ทวงถามหนี้ได้ ตลอดชิวิตของเรา
หาทางเจรจา เป็นเรื่องที่ดีที่สุด ถ้าอายุความหมดก็กดให้มิดด้าม

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14372 โดย DOOMED

chaowalert เขียน: คุณเป็นหนี้จริง
เจรจาจ่ายเท่าที่ทำได้ จะดีกว่าไหม เรื่่องมันเดินทางมาตั้ง 5 ปีแล้ว
จะได้จบไป หรือคุณคิดเช่นไร ในเมื่อเราเป็นหนี้จริง ทุกคนก็ต้องหาทางแก้ไขหนี้
อย่างถูกวิธี


เป็น นิติกรรมอำพราง หรือเปล่า

การที่เราเป็นหนี้แล้วเรื่องยังไปจบ เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ทวงถามหนี้ได้ ตลอดชิวิตของเรา
หาทางเจรจา เป็นเรื่องที่ดีที่สุด ถ้าอายุความหมดก็กดให้มิดด้าม


ขอบคุณที่แนะนำครับ ใช่ครับ เปนหนี้ผมก็ต้องใช้ แต่อันดับแรกที่ผมต้องการ อย่างที่บอกไปคือ รายละเอียดสัญญาเช่าซื้อ ว่าซื้อะไร ชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อที่ผมจะได้เอามาเป็นข้อมูลในการชำระหนี้ไงครับ อันนี้ไม่มีสัญญาให้ผมดูอ่ะ ผมก็คงต้องรอดูก่อนนะครับ ว่าสัญญาเป็นยังไง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14375 โดย Pych

DOOMED เขียน:

chaowalert เขียน: คุณเป็นหนี้จริง
เจรจาจ่ายเท่าที่ทำได้ จะดีกว่าไหม เรื่่องมันเดินทางมาตั้ง 5 ปีแล้ว
จะได้จบไป หรือคุณคิดเช่นไร ในเมื่อเราเป็นหนี้จริง ทุกคนก็ต้องหาทางแก้ไขหนี้
อย่างถูกวิธี


เป็น นิติกรรมอำพราง หรือเปล่า

การที่เราเป็นหนี้แล้วเรื่องยังไปจบ เจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ทวงถามหนี้ได้ ตลอดชิวิตของเรา
หาทางเจรจา เป็นเรื่องที่ดีที่สุด ถ้าอายุความหมดก็กดให้มิดด้าม


ขอบคุณที่แนะนำครับ ใช่ครับ เปนหนี้ผมก็ต้องใช้ แต่อันดับแรกที่ผมต้องการ อย่างที่บอกไปคือ รายละเอียดสัญญาเช่าซื้อ ว่าซื้อะไร ชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อที่ผมจะได้เอามาเป็นข้อมูลในการชำระหนี้ไงครับ อันนี้ไม่มีสัญญาให้ผมดูอ่ะ ผมก็คงต้องรอดูก่อนนะครับ ว่าสัญญาเป็นยังไง


แล้วที่ผมตอบไว้ ไม่ได้อ่านเหรอครับ

Anakin เขียน: ผมเดาว่าบริษัทที่โทรมาทวงเป็นบริษัท/สำนักงานรับทวงหนี้ ซึ่งจะไม่มีโอกาสได้รับสัญญาเช่าซื้อที่คุณทำไว้กับบริษัทการเงิน แต่บริษัทการเงินนั้น น่าจะยังคงเก็บรักษาสัญญาไว้เป็นอย่างดีครับ

แล้วคุณไม่ได้เก็บตัวสัญญาไว้เหรอครับ


ถ้าคุณมีความตั้งใจจริงที่จะใช้หนี้ก็โทรไปหาบริษัทการเงินนั้นสิครับ

เรื่องแจ้งความฐานยักยอก ผมก็บอกไปแล้วนี่ครับ

คุณบอกว่ารถหาย แล้วได้แจ้งความไว้ไหม มีประกันภัยไหม

เพราะ ถ้าคุณไม่ทำอะไรสักอย่าง

เจ้าหนี้ก็ยอ่มเข้าใจว่า คถณเอารถไปจำหน่าย ขายให้คนอื่น

ซึ่งก็ตรงกับที่ผมบอกไว้แล้ว

Anakin เขียน: ถ้าลูกหนี้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายจ่ายโอน และไม่ยอมชำระเงิน ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และลูกหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ด้วย เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่


ลิ๊งค์กระทู้ต่างๆ ผมก็วางไว้ให้ไปอ่าน

ทำไมไม่ไปอ่านให้ละเอียดล่ะครับ

แล้วมาร้องเรียกหากระทู้เก่าๆอยู่ทำไมล่ะครับ

:เฮ้อ: :เฮ้อ:

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14376 โดย DOOMED
คือคุณ anakin ครับ ผมได้ติดต่อกลับไปเพื่อจะขอชำระหนี้แล้ว แต่ก่อนจะชำระ ถ้าตามสามัญสำนึกคนปกติทั่วๆไป ยังไม่เห็นสัญญาอะไรสักอย่าง แล้วลูกหนี้ต้องการขอสัญญามาดูรายละเอียดต่างๆ ตามที่บอก แต่ทางเจ้าหนี้ไม่มีให้ ตามสามัญสำนึกของลูกหนี้แล้ว จะมีลูกหนี้สักกี่คน ที่จะยอมชำระโดยไม่ให้เขาได้ดูรายละเอียดสัญญาอะไรสักอย่าง


แล้วเรื่องที่คุณบอกว่า บ.เก็บสัญญาไว้น่ะ ก็ผมติดต่อไปที่ บ.การเงินนั่นแหละ แต่เขาปัดไปให้ บ.ทวงหนี้ เพราะเขาบอก เขามอบอำนาจให้หมดแล้ว แล้วจะให้ผมคิดว่า บ.การเงินเขามีสัญญาอยู่หรือเปล่าล่ะ ถ้ามีเขาน่าจะรีบส่งมา เพราะเป็นประโยชน์กับเขา

ผมได้อ่านที่คุณตอบแล้วครับ ลิ้งค์ที่วางก็อ่านแล้ว แต่ที่ผมถามมันไม่เกี่ยวกับลิ้งค์นั้นๆ ผมถามความเห็นในกรณีของผมครับ ว่าควรจะทำอย่างไร และทุกท่านมีความเห็นยังไง



เรื่องรถ ผมไม่ได้ไปแจ้งความครับ ประกันอะไรไม่มีครับ แต่ถึงผมจะไปแจ้งหรือไม่ไปแจ้ง เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะ แจ้งข้อหา ยักยอกได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่า ยักยอก และกฎหมายก็ไม่ได้บังคับว่า ถ้ารถหายแล้วไม่ไปแจ้งความ จะโดนข้อหายักยอก :laughing:


ผมอ่านละเอียดแล้วครับ แต่คำตอบมันไม่เกี่ยวกับที่ผมถาม ผมถามความเห็นครับ แต่ในลิ้งค์นั้นๆ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ สัญญาเช่าซื้อ เกี่ยวกับกฎหมาย ความหมาย อายุความ และอื่นๆ ผมอ่านหมดแล้ว แต่ที่ผมถามไป มันถามความเห็นครับ ไม่มีเรื่องไหนเกี่ยวกับเจ้าหนี้ ไม่มีสัญญาให้ลูกหนี้นี่ครับ


แต่ยังไงก็ขอบคุณที่อุตส่าห์แนะนำนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14377 โดย DOOMED
หลักสำคัญของผมก็คือ สัญญาเช่าซื้อนั่นเองครับ ผมขอชำระหนี้ แต่ขอสัญญาเช่าซื้อมาดู ว่ามันชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อจะได้เอามาเทียบกับสัญญาเช่าซื้อของผม ว่ามันตรงกันไหม มีลายมือชื่อชัดเจนไหมดูก่อนนั่นเอง เพราะจะได้ไม่มีปัญหาว่า เจ้าหนี้มาบอกอีกอย่าง แต่ในสัญญาเขียนอีกอย่างครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14378 โดย Pych
ถ้าถามความเห็น

ผมก็ตอบไปแล้วตั้งแต่ความเห็นแรกแล้ว
คุณจะมาย้ำคิดย้ำทำย้ำถามอีกทำไมครับ
ทำไมจะแจ้งว่ายักยอกไม่ได้ล่ะครับ
ผมก็วางลิ๊งค์ไว้แล้ว ข้อความบางส่วนก็ตัดมาวางไว้แล้ว
ยังจะบอกไม่ได้อีกเหรอครับ

กรรมสิทธิ์รถนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่ ไม่ใช่ของคุณ
บริษัทการเงินนั้น ย่อมมีหลักฐานเป็นสัญญาเช่าซื้อ
อีกทั้งหนังสือทะเบียนความเป็นเจ้าของรถ
อีกทั้งชื่อของคุณว่าเป็นผู้ครอบครอง
แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าหนี้ทวงถามรถคืน
คุณไม่สามารถหามาคืนให้เขาได้
เขาก็สามารถมาแจ้งข้อหายักยอกได้ครับ

ต้องให้อธิบายละอียดกันขนาดไหนครับ
เข้าใจอะไรยากจังเลย

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 6 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #14379 โดย Pych

Anakin เขียน:

DOOMED เขียน: 2.แล้วถ้าเขาไม่มีสัญญาเช่าซื้อมาให้ผมผมควรจะทำไง ถ้าจะชำระหนี้ มันจะมีปัญหาทีหลังไหม เพราะไม่มีอะไรให้ผมดูสักอย่าง


โทรมาทวงเฉยๆ ไม่มีจดหมายยืนยันการลดหนี้ ไม่มีจดหมายทวงหนี้ ไม่มีจดหมายแจ้งรายการหนี้

ไม่มีหมายศาล คุณก็ไม่ต้องชำระเขาสิครับ ชำระเข้าไปก็ไม่รู็จะไป

หักได้แต่ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าโทรศัพท์บ้าบออะไรหรือเปล่า

ไปอ่านกระทู้นี้นะครับ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29


นี่ไงครับ ความเห็นของผม

อ่านยังไงครับ ถึงไม่เห็น

ขนาดตัวคุณยังไม่คิดจะเก็บสัญญาเอาไว้เลย

:เฮ้อ: :เฮ้อ:

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14380 โดย Pych

DOOMED เขียน: หลักสำคัญของผมก็คือ สัญญาเช่าซื้อนั่นเองครับ ผมขอชำระหนี้ แต่ขอสัญญาเช่าซื้อมาดู ว่ามันชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อจะได้เอามาเทียบกับสัญญาเช่าซื้อของผม ว่ามันตรงกันไหม มีลายมือชื่อชัดเจนไหมดูก่อนนั่นเอง เพราะจะได้ไม่มีปัญหาว่า เจ้าหนี้มาบอกอีกอย่าง แต่ในสัญญาเขียนอีกอย่างครับ


เจ้าหนี้ไม่มาเสียเวลาค้นหาสัญญาเช่าซื้อของคุณ
ในขณะที่เขาจ้างให้สำนักงานทวงหนี้ทำหน้าที่ทวงหรอกครับ
แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาจะฟ้อง
เขาย่อมต้องมีสัญญาแนบกับหมายศาลมาแน่นอนครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14381 โดย DOOMED

Anakin เขียน: ถ้าถามความเห็น

ผมก็ตอบไปแล้วตั้งแต่ความเห็นแรกแล้ว
คุณจะมาย้ำคิดย้ำทำย้ำถามอีกทำไมครับ
ทำไมจะแจ้งว่ายักยอกไม่ได้ล่ะครับ
ผมก็วางลิ๊งค์ไว้แล้ว ข้อความบางส่วนก็ตัดมาวางไว้แล้ว
ยังจะบอกไม่ได้อีกเหรอครับ

กรรมสิทธิ์รถนั้น ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่ ไม่ใช่ของคุณ
บริษัทการเงินนั้น ย่อมมีหลักฐานเป็นสัญญาเช่าซื้อ
อีกทั้งหนังสือทะเบียนความเป็นเจ้าของรถ
อีกทั้งชื่อของคุณว่าเป็นผู้ครอบครอง
แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าหนี้ทวงถามรถคืน
คุณไม่สามารถหามาคืนให้เขาได้
เขาก็สามารถมาแจ้งข้อหายักยอกได้ครับ

ต้องให้อธิบายละอียดกันขนาดไหนครับ
เข้าใจอะไรยากจังเลย




๑.กรณีครอบครองทรัพย์ผู้อื่น แล้วนำไปจำนำ มีเจตนาไถ่ หรือ ให้บุคคลในครัวเรือนใช้ระหว่างผ่อนชำระ ไม่ถือว่ายักยอก
๒.กรณีซื้อสินค้าเงินผ่อนทุกประเภท หากงวดแรกไม่ผ่อนเลย แต่นำไปเล่นแร่แปรธาตุ...ย่อมชี้ถึงเจตนาฉ้อโกงทรัพย์แต่แรก
ไม่ใช่ยักยอก แม้จะเอาไปจำนำแล้วมีเจตนาไถ่...ต่างกับผ่อนไปบ้าง
ตามสมควรเกิดขัดสน นำไปเข้าร้านจำนำแล้วมีเจตนาไ่ถ่ อย่างนี้ไม่ผิดอาญา
๓.มีตัวอย่างฎีกา ตร.นำปืนหลวงไปจำนำ เจตนาไถ่ทุึกครั้งประมาณ ๗ ครั้งแล้ว สุดท้ายยังไม่ทันไถ่ หรือ ไถ่ไม่ทัน นายเรียกตรวจนี่แหละ ก็ไม่ผิดยักยอก
....ให้พิจารณาเจตนา้ร้ายเป็นเกณฑ์ครับ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
....กรณีตามกระทู้เป็นแพ่งแน่ พงสฯ ออกหมายเรียก อาจถูกฟ้องมิชอบได้ ถูกร้องก็ตั้ง กก.สอบวินัยได้ นอกหน้าที่ด้วย เกี่ยวอะไรกับธุรกิจทางแพ่ง....อก.ขอนแก่น สั่งไม่ฟ้องคดีแบบนี้เยอะมากเพราะเป็นแพ่ง รับเป็นอาญา


จาก www.sobsuan.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1335



นี่ขนาด จำนำ ยังไม่ถือเป็นยักยอก แล้วของผมมันน่าคิดไหมล่ะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14382 โดย DOOMED

Anakin เขียน:

DOOMED เขียน: หลักสำคัญของผมก็คือ สัญญาเช่าซื้อนั่นเองครับ ผมขอชำระหนี้ แต่ขอสัญญาเช่าซื้อมาดู ว่ามันชำระไปแล้วเท่าไหร่ ค้างเท่าไหร่ เพื่อจะได้เอามาเทียบกับสัญญาเช่าซื้อของผม ว่ามันตรงกันไหม มีลายมือชื่อชัดเจนไหมดูก่อนนั่นเอง เพราะจะได้ไม่มีปัญหาว่า เจ้าหนี้มาบอกอีกอย่าง แต่ในสัญญาเขียนอีกอย่างครับ


เจ้าหนี้ไม่มาเสียเวลาค้นหาสัญญาเช่าซื้อของคุณ
ในขณะที่เขาจ้างให้สำนักงานทวงหนี้ทำหน้าที่ทวงหรอกครับ
แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาจะฟ้อง
เขาย่อมต้องมีสัญญาแนบกับหมายศาลมาแน่นอนครับ



ครับ ผมก็จะลองดูว่า เขาจะค้นมาให้ผมหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ค้นมา และมีหมายศาลมา พร้อมสัญญาตามที่คุณบอก ผมก็จะได้เห็นชัดเจนว่า มันเป็นสัญญาเช่าซื้อจริงๆ ผมก็จะได้สบายใจในการที่จะชำระหนี้ต่อแล้ว เพราะเห็นรายละเอียดสัญญาชัดเจนแล้ว แบบนี้สบายใจทั้งสองฝ่ายในการชำระคืน

แต่เท่าที่เห็นสัญญาในการส่งจดหมายมาที่บ้าน มันบอกแต่เลขที่สัญญา ไม่มีรายละเอียดตามที่ขอไป ก็ต้องลองดูกันต่อไป ว่ามันจะหามาให้ผมหรือไม่ ต้องลุ้นกันครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14383 โดย Pych

ตกลงคุณจะมาหัวหมอใช่ไหมครับ

คุณไม่แจ้งความว่ารถหาย

ไม่มีหลักฐานว่ารถอยู่ที่ไหน

แล้วทำไมจะฟ้องว่ายักยอกไม่ได้ล่ะครับ

ถ้าเจ้าหนี้มันโง่ไม่ฟ้อง

ก็ถือว่าคุณโชคดีไปครับ

คุณหัวหมอขนาดนี้

ผมขี้เกียจมาเถียงกับคุณครับ

ผมแค่ต้องการให้ความรู้ ให้ความเห็น

ให้คำแนะนำ ก็ยังหาเรื่องมาเถียง

อยากลองวิชากับผมเหรอครับ

ผมไม่เล่นด้วยหรอกครับ ผมไม่ใช่คนหัวหมอ

ผมจะไม่มาตอบคำถามของคุณอีกแล้วครับ

ในเมื่อคุณเก่งขนาดนี้แล้ว

ขอให้โชคดีนะครับ

ไปนอนดีกว่าครับ


:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14384 โดย DOOMED
อ้าว ดันคิดงั้นไปเสีย ผมไม่ได้หัวหมอหรืออะไรทั้งนั้นล่ะครับ ก็แค่มีข้อมูลอีกอย่าง เอามาแลกเปลี่ยนกับข้อมูลของที่คุณมี แต่หลักความจริงนี่ มันก็ต้องไปวัดกันที่ข้อเท็จจริงอีกทีตอนฟ้องคดี

หรือผมเห็นว่า บอร์ดนี้ เป็นบอร์ดแลกเปลี่ยนความเห็นได้แบบเสรี ใครมีความเห็นอะไรก็เอามาแลกเปลี่ยน ชี้แจงกันไปเป็นข้อๆ ตามหลัก ประชาธิปไตย ถ้าใครเห็นอย่างไร มีข้อมูลอะไร ก็มาแลกเปลี่ยนกัน มาถกกันเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้วสรุปความเห็นของแต่ละคนลงไปนั่นเองครับ


อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วยครับ คุณเห็นนักศึกษา มธ.มานั่ง ถกกันเรื่องกฎหมาย ทุกวัน วันๆนึงหลาย ชม.ไหมล่ะครับ ที่เขาทำแบบนั้น เพราะเขาต้องการคุยแลกเปลี่ยนกันเพื่อหาข้อสรุป ใครเห็นต่าง เห็นแย้ง ก็คุยมา แลกเปลี่ยนกันมา มันเป็นหลักประชาธิปไตยง่ายๆนั้นเอง

ผมไม่มีเจตนาไม่ดีกับใครทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการแลกเปลี่ยนความเห็นกับทุกท่าน คุยกัน แลกเปลี่ยนกัน และไม่ได้มีเจตนาหัวหมอ หลบเลี่ยงใดๆครับ คือมันจะหลบยังไงล่ะครับ เปนหนี้มันต้องใช้แน่นอนอยู่แล้ว


ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ วันนี้ผมดีใจที่ได้มาแลกเปลี่ยนความเห็นกับทุกท่าน :wake:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14388 โดย Ly89
.

หัวใจของชมรมเราคือ.... หมดหนี้

ด้วยวิธีที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน ไม่เอาหนี้ไปปิดหนี้

ใช้หนี้เมื่อถึงเวลา เมื่อเก็บเงินได้ เพราะเราเป็นหนี้เขาจริงๆ

แต่เราอยากจ่ายคืนแบบเป็นธรรม

ไม่อยากเสียเปรียบเรื่องดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ....

เราใช้ข้อกฏหมายมาช่วยเพื่อประวิงเวลา

แต่สุดท้าย ก็ต้องใช้หนี้คืน ถือว่าหมดหนี้

ไม่ใช่ใช้ข้อฏกหมายเพื่อหลบเลี่ยง หัวหมอ ไม่อยากใช้หนี้


ถ้าคุณอยากเห็นสัญญาที่คุณว่า...

คุณต้องรอให้เขาฟ้องก่อนครับ

แล้วคุณจะได้เห็นสมใจคุณล่ะครับ


โชคดี.....

.

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14394 โดย DOOMED

batk เขียน: .

หัวใจของชมรมเราคือ.... หมดหนี้

ด้วยวิธีที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน ไม่เอาหนี้ไปปิดหนี้

ใช้หนี้เมื่อถึงเวลา เมื่อเก็บเงินได้ เพราะเราเป็นหนี้เขาจริงๆ

แต่เราอยากจ่ายคืนแบบเป็นธรรม

ไม่อยากเสียเปรียบเรื่องดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่างๆ....

เราใช้ข้อกฏหมายมาช่วยเพื่อประวิงเวลา

แต่สุดท้าย ก็ต้องใช้หนี้คืน ถือว่าหมดหนี้

ไม่ใช่ใช้ข้อฏกหมายเพื่อหลบเลี่ยง หัวหมอ ไม่อยากใช้หนี้


ถ้าคุณอยากเห็นสัญญาที่คุณว่า...

คุณต้องรอให้เขาฟ้องก่อนครับ

แล้วคุณจะได้เห็นสมใจคุณล่ะครับ


โชคดี.....

.[/quote

ถึงวันนั้น ผมและฝ่ายเจ้าหนี้จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย เพราะได้เห็นสัญญาแล้ว การชำระก็จะทำได้แบบเป็นธรรมครับ ขอบคุณที่แนะนำครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา #14411 โดย DOOMED
มีดกร็ดความรู้ มาฝากครับ เพราะพวง พนักงานทวงหนี้ ชอบมาขู่ลูกหนี้ที่ผิดสัญญาเช่าซื้อว่า จะฟ้องคด ยักยอก ทรัพย์ ผมเลยเอาความรู้นี้มาฝากครับ



ลักษณะการกระทำอย่างไร เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ พอสรุปได้ดังนี้

1. การครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น หมายถึงการครอบครองทรัพย์ตามความเป็นจริง ส่วนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ยังเป็นของผู้อื่นอยู่ เป็นการครอบครองไว้แทนเจ้าของทรัพย์เท่านั้น ไม่ใช่ครอบครองเพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง

2. จะต้องได้การครอบครองทรัพย์มาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ได้มาแต่เพียงการยึดถือ เช่น ให้ดูแลไว้เพียงชั่วคราว ไม่ถือว่าเป็นการครอบครองทรัพย์นั้นอย่างแท้จริง ถ้าเบียดบังเอาไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ยักยอก

3. การครอบครองทรัพย์อาจได้มาโดยตรง คือเจ้าทรัพย์ส่งมอบให้หรือโดยปริยายก็ได้

4. การได้มาซึ่งการครอบครองนั้น ต้องเป็นการมอบให้โดยความสมัครใจของเจ้าของทรัพย์หรือผู้แทนเจ้าของ และต้องไม่ได้เกิดจากการหลอกลวงให้ส่งมอบให้ด้วย มิฉะนั้นเป็นความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์

5. การครอบครองทรัพย์นั้นต้องไม่เป็นความผิดฐานอื่นเสียก่อน ถ้าได้ทรัพย์นั้นมาโดยการกระผิดฐานอื่นมาแล้วไม่เป็นความผิดฐานยักยอกอีก เช่น ลักทรัพย์ หรือฉ้อโกง ทรัพย์นั้นมา แล้วเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปขายเสีย ดังนี้ ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกอีก

6. การมอบทรัพย์ให้ไปขายโดยไม่จำกัดว่าจะต้องขายเท่าใด เจ้าของคิดราคาทรัพย์นั้นตามที่กำหนดไว้เท่านั้น จำเลยจะไปขายเท่าใดก็ได้ เพียงแต่ว่าจะต้องใช้ราคาทรัพย์ให้ ดังนี้เป็นการมอบกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นให้ไปทั้งหมด เพียงแต่มีความผูกพันธุ์ในทางสัญญาว่าจะต้องใช้ราคาเท่านั้น เมื่อผู้รับทรัพย์ไปขายแล้วเบียดบังเอาไว้เสียไม่ชำระราคา ไม่ผิดฐานยักยอก ถ้ามอบทรัพย์ไปขายในฐานะตัวแทนในการขายเท่านั้น ดังนี้เบียดบังเอาไว้เสียเป็นความผิดฐานยักยอก

7. การฝากเงิน ผู้รับฝากมีสิทธิเอาเงินนั้นไปใช้ได้ แต่จะต้องส่งคืนเต็มจำนวน ถ้าผู้รับฝากเอาเงินนั้นไปใช้เสียหมดแล้วไม่มีคืนให้ ไม่ผิดฐานยักยอก เว้นแต่จะปฏิเสธว่าไม่ได้รับฝากเงินนั้นไว้ ดังนี้ถือว่ามีเจตนาทุจริต ผิดฐานยักยอก

8. การมอบเงินให้ไปกรณีอื่น เช่นการให้ไปชำระหนี้แทน ให้ไปซื้อของมาให้ ให้ไปไถ่ทรัพย์ เป็นต้น ถ้าเบียดบังเอาไปโดยทุจริต มีความผิดฐานยักยอก

9. การรับฝากทรัพย์อื่นๆไว้ แล้วไม่ยอมคืนให้เจ้าของ โดยที่ทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของตน ยังไม่ผิด จะต้องมีการกระทำอื่นๆที่แสดงว่าได้มีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังทรัพย์นั้นด้วย เช่นเอาไปจำหน่าย หรือปฏิเสธว่าไม่ได้รับทรัพย์นั้นไว้ เป็นต้น

10. ทรัพย์นั้นเป็นของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ถ้าเขามอบกรรมสิทธิ์ให้โดยเด็ดขาดแล้ว การเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปก็ไม่ผิดฐานยักยอก

11. การซื้อขายทรัพย์เฉพาะสิ่ง ถ้ายังจะต้องนับ ชั่ง ตวง วัดหรือทำการอย่างอื่นหรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด อันเกี่ยวแก่ทรัพย์สิน เพื่อให้รู้กำหนดราคาทรัพย์สินนั้นแน่นอน เมื่อได้กระทำการดังกล่าวแล้ว กรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อทันทีแม้จะยังไม่ได้ชำระราคา แต่ระหว่างที่ยังไม่ได้ส่งมอบทรัพย์นั้น ความครอบครองยังอยู่กับผู้ขาย ถ้าผู้ขายเบียดบังเอาไว้โดยทุจริต มีผิดฐานยักยอก

12. เกี่ยวกับการเช่าซื้อทรัพย์ ผู้เช่าซื้อทรัพย์นั้นไปไว้ในครอบครอง เมื่อผิดสัญญาไม่ชำระเงินค่าเช่าซื้อ และไม่ยอมคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อนั้น จะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือไม่ต้องดูเจตนาทุจริตและข้อเท็จจริงอื่นประกอบด้วย ถ้าเพียงแต่ไม่ยอมคืนเฉยๆและทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้เช่าซื้อ เป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น แต่ถ้าเอาไปขายหรือจำนำขาด เป็นผิดฐานยักยอก

13. การเอาทรัพย์ที่รับฝากไปจำนำ จะเป็นความผิดยักยอกหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการเอาไปจำนำนั้นเป็นการจำนำขาดหรือเพียงชั่วคราว ถ้าจำนำเพียงชั่วคราวโดยเจตนาจะไถ่คืนมาดังนี้ ยังไม่ผิดยักยอก

14. การมอบทรัพย์ให้นั้น วัตถุประสงค์ต้องไม่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่นหนี้ในการพนัน เงินที่ให้เป็นค่าจ้างไปฆ่าคน ผู้รับมอบไปแล้วเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตนเสีย ไม่ผิดฐานยักยอก

15. การครอบครองทรัพย์ที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยแล้วเบียดบังเอาไปเป็นความผิดฐานยักยอก และถ้าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้อื่น เอาไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

16. เจตนาทุจริตเกิดขึ้นขณะใดย่อมเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ไว้แต่ขณะนั้นไม่จำต้องมีการแสดงเจตนา เปลี่ยนลักษณะการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองเพื่อตน โดยเพียงแต่ไปบอกขายทรัพย์นั้นแม้ยังขายไม่ได้ ก็ถือเป็นการเบียดบัง ถือเป็นการยักยอกสำเร็จแล้ว การเบียดบังเป็นการตัดกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์ การเบียดบังเอาทรัพย์เป็นของตนหรือบุคคลที่สามก็ได้

17. เจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์นั้นเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ทรัพย์นั้นมาไว้ในครอบครอง แต่อาจมีเจตนาทุจริตมาก่อนได้ เช่น คนใช้คอยโอกาสอยู่ เมื่อนายจ้างมอบให้ก็ยักยอกเอาทรัพย์นั้นไปเสีย

18. ความผิดฐานยักยอกนั้น ผู้ที่ไม่ได้ครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น ถ้าสมคบกับผู้ที่ครอบครองทรัพย์นั้นอยู่ ก็มีความผิดฐานสมคบกันยักยอกได้ ไม่ใช่สนับสนุน

19. การส่งมอบทรัพย์ให้แก่ผู้รับมอบทรัพย์นั้น ผู้รับทราบแล้วว่าผู้อื่นนั้นส่งให้โดยสำคัญผิด แต่ผู้รับมีเจตนาทุจริตในทันที ไม่ยอมบอกให้เขาทราบความจริง เป็นความผิดยักยอก แต่ถ้าขณะที่มีการส่งมอบทรัพย์ ผู้ส่งทรัพย์ถามว่า ผู้รับมอบทรัพย์เป็นบุคคลที่เขาต้องการมอบทรัพย์ให้ใช่หรือไม่ ถ้าผู้รับแสดงกิริยา ทำนองตอบรับ เช่น พยักหน้าเป็นการแสดงว่าใช่ เช่นนี้ ผู้รับมีความผิดฐานฉ้อโกง เพราะมีการกระทำที่แสดงออกมาเป็นการหลอกลวงให้ผู้ส่งมอบทรัพย์นั้นหลงเชื่อส่งทรัพย์ให้ไป ไม่ใช่เป็นการยักยอกทรัพย์

20. การที่เจ้าของทรัพย์วางของไว้เป็นที่ แต่เวลาทำกิจการเสร็จสิ้นแล้วลืมทิ้งไว้โดยไม่ได้เอาไปด้วย ไม่ใช่เป็นทรัพย์หาย ผู้เอาทรัพย์นั้นไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ เพราะยังไม่ได้สละการครอบครอง

21. ทรัพย์สินหาย เป็นเรื่องที่ทรัพย์นั้นหลุดพ้นไปจากความครอบครองยึดถือของเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยมิได้ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องสละการครอบครอง ผู้ใดเก็บเอาทรัพย์นั้นไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์เป็นรายๆไป คือถ้าเก็บเอาไปโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าทรัพย์นั้นเจ้าของกำลังติดตามหรือจะติดตามเพื่อเอาคืนก็เป็นลักทรัพย์ ถ้าไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ก็เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย

22. ถ้าทรัพย์สินที่ตกหายนั้น เจ้าของสละไปเลย คือไม่ต้องการทรัพย์นั้นอีกต่อไปแล้ว เป็นการสละกรรมสิทธิ์โดยเด็ดขาด ย่อมไม่ใช่ทรัพย์สินหาย ผู้เก็บได้ย่อมไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอก

www.police.go.th

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.129 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena