หยุดจ่ายมาก 4-5 ปี ควรทำไงต่อค่ะ

พอดีหยุดชำระหนี้สินทุกอย่างทั้งแบงค์และ non bank มาตั้งแต่กลางปี 2549 จนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 4 ปีเกือบ 5 ปีแล้วค่ะ เนื่องจากว่าตอนนั้นออกจากงาน พอคลอดลูกคนเล็กก็มาเลี้ยงลูกอยู่เฉยๆ เลยไม่มีรายได้ ส่วนจดหมายที่ทวงหนี้เขาจะส่งไปอีกบ้านนึงตามทะเบียนบ้าน ไม่ได้สนใจจดหมายที่ส่งมาเลยส่วนมากจะทิ้งตลอด

แต่เนื่องจากตอนนี้ลูกเข้าเรียนแล้ว แล้วอยากจะกลับไปทำงานซึ้งถ้ากลับไปทำงาน ทางพวก bank และ non bank ต่างๆ คงจะรู้จากพวกประกันสังคม และภาษี และคงจะมาตามทวงกันเป็นแถว แต่ก็ทำใจแล้วว่าจะต้องจ่าย

อยากทราบว่าจะต้องทำยังไงบ้างค่ะ จากจดหมายทวงที่ผ่านๆมาจะเป็นจากสำนักงานทนายความ ไม่เคยเห็นหมายศาลนะค่ะ ถ้าจำไม่ผิด แต่ก็มีของ KTC ที่ยังส่งเป็นใบแจ้งหนี้คิดดอกอยู่

เลยอยากรบกวนขอสอบถามว่าถ้าลักษณะนี้ต้องทำยังไงต่อไปค่ะ

Nueng เขียน: พอดีหยุดชำระหนี้สินทุกอย่างทั้งแบงค์และ non bank มาตั้งแต่กลางปี 2549 จนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 4 ปีเกือบ 5 ปีแล้วค่ะ เนื่องจากว่าตอนนั้นออกจากงาน พอคลอดลูกคนเล็กก็มาเลี้ยงลูกอยู่เฉยๆ เลยไม่มีรายได้ ส่วนจดหมายที่ทวงหนี้เขาจะส่งไปอีกบ้านนึงตามทะเบียนบ้าน ไม่ได้สนใจจดหมายที่ส่งมาเลยส่วนมากจะทิ้งตลอด

แต่เนื่องจากตอนนี้ลูกเข้าเรียนแล้ว แล้วอยากจะกลับไปทำงานซึ้งถ้ากลับไปทำงาน ทางพวก bank และ non bank ต่างๆ คงจะรู้จากพวกประกันสังคม และภาษี และคงจะมาตามทวงกันเป็นแถว แต่ก็ทำใจแล้วว่าจะต้องจ่าย

อยากทราบว่าจะต้องทำยังไงบ้างค่ะ จากจดหมายทวงที่ผ่านๆมาจะเป็นจากสำนักงานทนายความ ไม่เคยเห็นหมายศาลนะค่ะ ถ้าจำไม่ผิด แต่ก็มีของ KTC ที่ยังส่งเป็นใบแจ้งหนี้คิดดอกอยู่

เลยอยากรบกวนขอสอบถามว่าถ้าลักษณะนี้ต้องทำยังไงต่อไปค่ะ

ไปขอคัดหมายศาลก่อนครับจะได้รู้ว่าจะทำอะไรต่อดีใช้บัตรประชนใบเดียวหรือที่เครดิตบูโร

วันนี้ไปเช็คบูโรมาแล้วค่ะ รายละเอียดดังนี้

1. ซิตี้แบงค์ - สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี ยอดหนี้ 30/9/11 - 24,912 แต่ 30/11/11 ยอดเพิ่มเป็น 41,207 บาท สถานะบัญชี 40 อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

2. UOB - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 22,289 บาท ค้างชำระ 211-240 วัน สถานะบัญชี 40

3. TMB - สินเชื่อบุคคล ยอดหนี้ 27,456 บาท ค้างชำระ >300 วัน สถานะบัญชี 20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

4. KTC - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 8,584 บาท ค้างชำชำระ >300 วัน สถานะบัญชี 40 (ตัวหนี้ดอกเบี้ยเดินอยู่เพิ่มขึ้นเดือนละไม่ถึง 100 บาท)

5. KTC - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 28,508 บาท ค้างชำชำระ >300 วัน สถานะบัญชี 40 (ตัวหนี้ดอกเบี้ยเดินอยู่เพิ่มขึ้นเดือนละ 200 กว่าบาท)

6. กรุงศรี - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 21,191 บาท ค้างชำระ 211-240 วัน สถานะบัญชี 40

7. AEON - สินเชื่อบุคคล ยอดหนี้ 0 บาท สถานะบัญชี 11 ปิดบัญชี

8. Easy Buy - สินเชื่อบุคคล ยอดหนี้ 26,010 บาท ค้างชำระ >300 วัน สถานะบัญชี 20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

9. Easy Buy - สินเชื่อเช่าซื้ออื่นๆ ยอดหนี้ 2,142 บาท ค้างชำระ >300 วัน สถานะบัญชี 20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

10. AYCAP อยุธยาแคปปิตอล - สินเชื่อบุคคล ยอดหนี้ 5,923 บาท ค้างชำระ 211-240 วัน สถานะบัญชี 40

11. AYCAP อยุธยาแคปปิตอล - สินเชื่อบุคคล ยอดหนี้ 0 บาท สถานะบัญชี 11 ปิดบัญชี

12. TCS เทสโก้ - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 21,178 บาท ค้างชำระ 211-240 วัน สถานะบัญชี 40

13. เจเนอรัล คาร์ด - บัตรเครดิต ยอดหนี้ 27,598 บาท ค้างชำระ 211-240 วัน สถานะบัญชี 40

หมดแล้วค่ะ สรุปแล้วคือมีสถานะ 11 ปิดบัญชี 2 ตัว ยอดหนี้ 0 ไม่ต้องไปทำไรมันใช่ปะค่ะ
สถานะ 20 หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน กับ สถานะ 40 อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

สถานะ 20 กะ 40 ต้องทำยังไงดีค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ลืมแจ้งไปนิดค่ะ การชำระหนี้ครั้งสุดท้ายของทุกรายการจะอยู่ในเดือน 3/06, 4/06 และมีแค่รายการเดียวที่ชำระครั้งสุดท้าย 7/06 ค่ะ

ถ้าดูตามอายุความ บัตรเครดิตทุกสำนัก เราจ่ายวันสุดท้ายเมื่อ เดือน 4 ปี 06 แสดงว่า หมดอายุความแล้วทุกตัว ใช่หรือเปล่าค่ะ

สินเชื่อเช่าซื้ออื่น ๆ จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อ เดือน 3 ปี 06 แสดงว่า หมดอายุความแล้วทุกตัว ใช่หรือเปล่าค่ะ

ถ้าเป็นตามนั้นแสดงว่ามี 6 บัตรเครดิต และ 1 สินเชื่อเช่าซื้อ = 7 รายการที่หมดอายุความไปแล้ว แล้วอย่างงี้ต้องทำยังไงค่ะ หรือไม่ต้องสนใจชั่งมันไปได้เลยเพราะหมดอายุความไปแล้ว

และเหลือ 1 รายการที่เปินการเบิกเกินบัญชี และ 4 รายการที่เป็นสินเชื่อบุคคล = 5 รายการ ที่ยังไม่หมดอายุความ ต้องทำไงกะมันดี

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ถ้าต้องจ่ายคงจะยังจ่ายได้ไม่เยอะเพราะว่าเงินเก็บก็ไม่มี ส่วนงานก็กำลังจะหางานไม่รู้จะได้เงินเดือนดีหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายในบ้านก็เยอะเพราะลูก 2 คน จะทำไงกะมันดีค่ะ

ความเห็นของผมนะครับ....

ไม่ต้องไปทำอะไรกับตัวไหนทั้งนั้น...หางานทำได้เลยครับ...เมื่อมันหาคุณพบแล้วมันก็จะ

กระหน่ำทวงคุณล่ะ...เหมือนที่คุณคาดการณ์ไว้...ตั้งรับไว้ให้ดี ไม่ต้องกลัว...เพราะว่า...

หนี้ทุกตัว ถ้าคุณแน่ใจว่า ชำระครั้งสุดท้ายเมื่อ 7/06 ก็หมายความว่า ผ่านมา 5 ปีกว่าแล้ว

หมดอายุความในการฟ้องแล้ว เพราะในบูโร ไม่มีตัวไหนที่แสดงว่าอยู่ในกระบวนการกฏหมาย

แต่ไม่ใช่ว่าฟ้องไม่ได้ ฟ้องได้ครับ ถ้าเกิดว่ามันฟ้องขึ้นมาจริงๆ คุณต้องสู้คดี เรื่องอายุความครับ

อย่าปล่อยให้พิพากษาไปเฉยๆล่ะ เดี๋ยวมันจะตามอายัดเงินเดือนได้..หรือยึดทรัพย์ได้ครับ

พยายามเก็บเงินให้ได้มากๆ...แล้วเจรจาปิดบัญชีในราคาที่ต่ำสุดๆไปเลยครับ...เพราะมัน

ไม่สามารถจะบังคับคดีได้อีกแล้ว

ถ้ามันขู่เรื่องฟ้องศาลก็ไต้องตกใจ หรือลนลานไปกับมันนะครับ เพราะตอนนี้คุณถือไพ่เหนือกว่าครับ...

....งงมั๊ย....

แสดงว่าพวกที่หมดอายุความแล้วเขาก็ยังฟ้องเราได้อยู่ ก็ปล่อยให้เค้าฟ้องไป แล้วเราค่อยไปต่อสู้ที่ศาลเรื่องอายุความว่าหมดอายุไปแล้ว เพลอๆ ถ้าศาลยกฟ้องเราก็ไม่ต้องจ่ายเลยซักบาท

ส่วนที่ยังไม่หมดอายุความก็รอให้มันติดต่อมา เราค่อยขอเจรจาลดหนี้ ไปทีละตัว ถ้าตัวไหนรอไม่ได้ก็ปล่อยให้ฟ้องไปแล้วค่อยรอศาลพิจารณาเอาว่าจะสรุปออกมาแบบไหนใช่ป่ะค่ะ

แล้วตามปกติศาลจะพิจารณามาประมาณไหนค่ะ ถ้าหมดอายุความแล้วยกฟ้องไปเลยหรือเปล่า แล้วถ้ายังไม่หมดอายุความศาลจะให้เราจ่ายแบบประมาณไหน ค่ะ ถ้าเกิดในกรณีที่เขาลดยอดหนี้ให้แล้วแต่เราไม่มีเงินก้อนไปชำระอะค่ะ

แล้วปกติกว่าเขาจะตามเราเจอว่าเราไปทำงานที่ไหนต้องใช้เวลากี่เดือนค่ะ แล้วเขาจะติดต่อมาที่บ้าน หรือบริษัทที่เราทำงานอยู่ก่อน จะได้เตรียมตัวรับมือถูกอ่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

Nueng เขียน: แสดงว่าพวกที่หมดอายุความแล้วเขาก็ยังฟ้องเราได้อยู่ ก็ปล่อยให้เค้าฟ้องไป แล้วเราค่อยไปต่อสู้ที่ศาลเรื่องอายุความว่าหมดอายุไปแล้ว เพลอๆ ถ้าศาลยกฟ้องเราก็ไม่ต้องจ่ายเลยซักบาท

ใช่แล้วครับ...ถ้าเรายื่นคำให้การสู้คดี ศาลจะยกฟ้องครับ แต่คุณยังต้องใช้หนี้คืนเขาอยู่นะครับ ไม่ได้แปลว่าหมดหนี้ เพียงแต่ให้ต่อรองราคาแฮร์คัทให้ต่ำสุดๆไปเลยครับ

ส่วนที่ยังไม่หมดอายุความก็รอให้มันติดต่อมา เราค่อยขอเจรจาลดหนี้ ไปทีละตัว ถ้าตัวไหนรอไม่ได้ก็ปล่อยให้ฟ้องไปแล้วค่อยรอศาลพิจารณาเอาว่าจะสรุปออกมาแบบไหนใช่ป่ะค่ะ

ถูกต้องครับ...แต่คุณมีแค่ซิตี้ ที่เป็นวงเงินเบิกเกินบัญชีเจ้าเดียวนี่ครับ..ถ้าฟ้องก็ทำยอมต่อหน้าศาลได้ครับ

แล้วตามปกติศาลจะพิจารณามาประมาณไหนค่ะ ถ้าหมดอายุความแล้วยกฟ้องไปเลยหรือเปล่า แล้วถ้ายังไม่หมดอายุความศาลจะให้เราจ่ายแบบประมาณไหน ค่ะ ถ้าเกิดในกรณีที่เขาลดยอดหนี้ให้แล้วแต่เราไม่มีเงินก้อนไปชำระอะค่ะ

หมดอายุความ ถ้ายื่นคำให้การสู้คดี ศาลจะยกฟ้องครับ
แต่ถ้าไม่หมด สามารถเจรจาทำยอม ขอผ่อนกับเจ้าหนี้ต่อหน้าศาลได้ครับ แล้วแต่จะตกลงกัน
แต่ถ้าให้ศาลตัดสินเลย คงต้องอยู่ที่ดุลพินิจของท่านครับ แต่ดอกเบี้ยไม่เกินกฏหมายกำหนดแน่นอนครับ

แล้วปกติกว่าเขาจะตามเราเจอว่าเราไปทำงานที่ไหนต้องใช้เวลากี่เดือนค่ะ แล้วเขาจะติดต่อมาที่บ้านหรือบริษัทที่เราทำงานอยู่ก่อน จะได้เตรียมตัวรับมือถูกอ่ะค่ะ

ใช้เวลาเท่าไหร่ไม่รู้ครับ แล้วแต่ความขยันของมัน มันจะติดต่อทุกที่ที่มันรู้ครับ คุณควรบอกคนที่ทำงานใหม่ให้รับรู้ด้วยนะครับ..

ขอบคุณค่ะ

รบกวนถามอีกนิดนะค่ะ คือในเอกสารบูโร สมมุติว่า ชำระครั้งสุดท้าย 04-04-2006 แต่ในวันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) จะเป็น 03-05-2011 อ่ะค่ะ งง เพราะมันหลังจากที่เราชำระครั้งสุดท้ายนานมาก แต่บางตัวห่างกันนิดเดียว

บางตัวชำระครั้งสุดท้ายวันที่ 05-07-2006 ในวันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) จะเป็น 05-04-2006 ตามความเข้าใจคิดว่าคงจะดูจากวันที่เราเริ่มต้นจ่ายช้าหรือเปล่าค่ะ

เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าไอ้หัวข้อ วันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) หมายถึงเขานับจากอะไรค่ะ

และอีกเรื่องที่สงสัยคือ ทำไม KTC ถึงยังเป็น ที่เดียวที่ยังคิดดอกอยู่ตลอดค่ะ จดหมายที่ส่งมาก็ยังเป็นใบแจ้งหนี้นะค่ะ ไม่ได้เป็นเอกสารจากสำนักทนายความเหมือนที่อื่น มีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า

รบกวนอีกครั้งนะค่ะ

Nueng เขียน: แสดงว่าพวกที่หมดอายุความแล้วเขาก็ยังฟ้องเราได้อยู่ ก็ปล่อยให้เค้าฟ้องไป แล้วเราค่อยไปต่อสู้ที่ศาลเรื่องอายุความว่าหมดอายุไปแล้ว เพลอๆ ถ้าศาลยกฟ้องเราก็ไม่ต้องจ่ายเลยซักบาท

ศาลยกฟ้องหมายความว่าฟ้องไม่ได้หมดอายุความ...เราก็ยังมีหน้าที่ต้องจ่ายคืนเขาอยู่ดีนะคะ..อย่าคิดว่าศาลยกฟ้องแล้วไม่ต้องจ่าย..จะเบี้ยวหนี้เขาหรือคะ..จ่ายในจำนวนที่เราจ่ายได้...เพราะถ้าเราไม่จ่ายเราก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหนี้เขาอยู่เหมือนเดิม

ส่วนที่ยังไม่หมดอายุความก็รอให้มันติดต่อมา เราค่อยขอเจรจาลดหนี้ ไปทีละตัว ถ้าตัวไหนรอไม่ได้ก็ปล่อยให้ฟ้องไปแล้วค่อยรอศาลพิจารณาเอาว่าจะสรุปออกมาแบบไหนใช่ป่ะค่ะ

เมื่อไหร่..ที่คุณทำงานเป็นหลักแหล่ง..รับรองว่าเขาโทรหาคุณแน่...เดี๋ยวนี้ข้อมูลมันถึงกันหมด...แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือเจรจาขอส่วนลด..เพื่อปิดบัญชี..หรือไม่ก็รอให้เขาฟ้องไป..มันก็จะไปเหมือนกับข้างบน

แล้วตามปกติศาลจะพิจารณามาประมาณไหนค่ะ ถ้าหมดอายุความแล้วยกฟ้องไปเลยหรือเปล่า แล้วถ้ายังไม่หมดอายุความศาลจะให้เราจ่ายแบบประมาณไหน ค่ะ ถ้าเกิดในกรณีที่เขาลดยอดหนี้ให้แล้วแต่เราไม่มีเงินก้อนไปชำระอะค่ะ

อ่านกระทู้ปักหมุดข้างบน..นะคะ..จะได้เข้าใจว่าต้องทำยังไงบ้าง...วิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่าน

แล้วปกติกว่าเขาจะตามเราเจอว่าเราไปทำงานที่ไหนต้องใช้เวลากี่เดือนค่ะ แล้วเขาจะติดต่อมาที่บ้าน หรือบริษัทที่เราทำงานอยู่ก่อน จะได้เตรียมตัวรับมือถูกอ่ะค่ะ

คำตอบ...วนๆ อยู่ในนี้แล้ว

ขอบคุณค่ะ

Nueng เขียน: รบกวนถามอีกนิดนะค่ะ คือในเอกสารบูโร สมมุติว่า ชำระครั้งสุดท้าย 04-04-2006 แต่ในวันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) จะเป็น 03-05-2011 อ่ะค่ะ งง เพราะมันหลังจากที่เราชำระครั้งสุดท้ายนานมาก แต่บางตัวห่างกันนิดเดียว

บางตัวชำระครั้งสุดท้ายวันที่ 05-07-2006 ในวันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) จะเป็น 05-04-2006 ตามความเข้าใจคิดว่าคงจะดูจากวันที่เราเริ่มต้นจ่ายช้าหรือเปล่าค่ะ

เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าไอ้หัวข้อ วันที่เริ่มต้นผิดนัดชำระ (ถ้ามี) หมายถึงเขานับจากอะไรค่ะ

และอีกเรื่องที่สงสัยคือ ทำไม KTC ถึงยังเป็น ที่เดียวที่ยังคิดดอกอยู่ตลอดค่ะ จดหมายที่ส่งมาก็ยังเป็นใบแจ้งหนี้นะค่ะ ไม่ได้เป็นเอกสารจากสำนักทนายความเหมือนที่อื่น มีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า

รบกวนอีกครั้งนะค่ะ

ง่ายๆเลยครับ.....ชำระครั้งสุดท้าย คือบิลสุดท้ายที่เราชำระ วันเริ่มต้นผิดชำระ คือบิลแรกที่ไม่ได้ชำระ

ถ้าคุณแน่ใจว่า คุณไม่ได้จ่ายอะไรเลยตั้งแต่ปี 2006 แต่ข้อมูลบอกว่า เริ่มต้นผิดชำระปี 2011

ไม่แน่ใจนะครับว่า จะมีผีตนไหนใจดีมาหยอดให้คุณหรือเปล่า...อันนี้ต้องเช็คที่เจ้าหนี้โดยตรง

แล้วก็ต้องสู้กันสักตั้งล่ะครับ....ร้องเรียนผ่าน ธปท.ได้ครับ...

ส่วน ktc. ไม่ต้องไปสนใจครับ ของผมก็มี ทั้งของ สนง. และของเจ้าหนี้เอง...

ไม่มีใครจ่ายให้แน่นอนค่ะ ระบบน่าจะผิดพลาดนะ เพราะถ้าดูจากบูโรที่ย้อนไป 25 เดือน วันที่ 30-11-2009 ยอด 22,289 บาท วันที่ 31-05-2011 ยอด 22,289 บาท วันที่ 30-11-2011 หนี้ก็ยังเป็น 22,289 บาท ยอดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถ้ามีจ่ายจริง ยอดก็ต้องมีลดลง เลยคิดว่าน่าจะผิดที่ระบบนะค่ะ

คิดถูกหรือเปล่าเอ่ยยยยยย????

Nueng เขียน: ไม่มีใครจ่ายให้แน่นอนค่ะ ระบบน่าจะผิดพลาดนะ เพราะถ้าดูจากบูโรที่ย้อนไป 25 เดือน วันที่ 30-11-2009 ยอด 22,289 บาท วันที่ 31-05-2011 ยอด 22,289 บาท วันที่ 30-11-2011 หนี้ก็ยังเป็น 22,289 บาท ยอดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถ้ามีจ่ายจริง ยอดก็ต้องมีลดลง เลยคิดว่าน่าจะผิดที่ระบบนะค่ะ

คิดถูกหรือเปล่าเอ่ยยยยยย????

ลองเช็คดูให้ดีๆนะครับ...มันมีผลเกี่ยวกับอายุความ...เวลามันฟ้อง คุณจะสู้เรื่องอายุความไม่ได้นะครับ

เจ้าหนี้มันแอบหยอดเงินให้คุณ ก็เพื่อผลประโยชน์ของมันเอง มันไม่ได้เอาไปตัดอะไรให้หรอกครับ....

batk เขียน:

Nueng เขียน: ไม่มีใครจ่ายให้แน่นอนค่ะ ระบบน่าจะผิดพลาดนะ เพราะถ้าดูจากบูโรที่ย้อนไป 25 เดือน วันที่ 30-11-2009 ยอด 22,289 บาท วันที่ 31-05-2011 ยอด 22,289 บาท วันที่ 30-11-2011 หนี้ก็ยังเป็น 22,289 บาท ยอดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถ้ามีจ่ายจริง ยอดก็ต้องมีลดลง เลยคิดว่าน่าจะผิดที่ระบบนะค่ะ

คิดถูกหรือเปล่าเอ่ยยยยยย????

ลองเช็คดูให้ดีๆนะครับ...มันมีผลเกี่ยวกับอายุความ...เวลามันฟ้อง คุณจะสู้เรื่องอายุความไม่ได้นะครับ

เจ้าหนี้มันแอบหยอดเงินให้คุณ ก็เพื่อผลประโยชน์ของมันเอง มันไม่ได้เอาไปตัดอะไรให้หรอกครับ....

อ้าววววว...........เวรกรรมละงั้น มีการหยอดเงินเองด้วยเหรอเนี่ย เพิ่งจารู้ แต่ไม่มีใครมาจ่ายให้หนึ่งอยู่แล้วหละแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์เลย แล้วงี้ทำไงต่อไปอะค่ะ หรือถ้าขึ้นศาลเราก็ยืนยันกะศาลอย่างเดียวละว่าเราไม่ได้เป็นคนจ่าย

หน้าตาในบูโรเป็นแบบนี้อะค่ะตามรูปที่แนบเลย

ลองตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อนครับ ว่ามันเป็นที่ระบบอย่างที่คุณว่าหรือเปล่า...

แต่ถ้าไม่ใช่ ถ้าผีจ่ายให้จริง ก็แจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเอาไว้ต่อสู้ในชั้นศาลได้

ลองอ่านเล่นๆก่อนนะครับ
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=25406

ยังไงก็....รอผู้รู้ขั้นเทพอีกทีนะครับ....

batk เขียน: ลองตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อนครับ ว่ามันเป็นที่ระบบอย่างที่คุณว่าหรือเปล่า...

แต่ถ้าไม่ใช่ ถ้าผีจ่ายให้จริง ก็แจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อเอาไว้ต่อสู้ในชั้นศาลได้

ลองอ่านเล่นๆก่อนนะครับ
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=25406

ยังไงก็....รอผู้รู้ขั้นเทพอีกทีนะครับ....

แล้วจะต้องตรวจสอบจากไหนค่ะ ต้องโทรไปที่บัตร หรือที่ไหนค่ะถึงจะทราบได้

Nueng เขียน: ไม่มีใครจ่ายให้แน่นอนค่ะ ระบบน่าจะผิดพลาดนะ

ระบบไม่ผิดพลาดหรอกครับ...ตัวคุณเอง อ่านแล้วเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า?

Nueng เขียน: เพราะถ้าดูจากบูโรที่ย้อนไป 25 เดือน วันที่ 30-11-2009 ยอด 22,289 บาท
วันที่ 31-05-2011 ยอด 22,289 บาท

เป็นวันที่ Update ข้อมูลในเครดิตบูโร

Nueng เขียน: วันที่ 30-11-2011 หนี้ก็ยังเป็น 22,289 บาท

ก็เป็นวันที่ Update ข้อมูลใหม่ เหมือนกัน
เห็นไหมว่า ผ่านมาตั้ง 6 เดือนแล้ว ยอดหนี้ก็ยังคงเป็น 22,289 บาท เท่าเดิมอยู่เลย

Nueng เขียน: ยอดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถ้ามีจ่ายจริง ยอดก็ต้องมีลดลง

ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น...
แต่ถ้ามีการจ่ายแต่น้อยๆ...แล้วทางเจ้าหนี้มันก็เอาไปตัดเป็น ค่าดอกเบี้ย , ค่าล่าช้า , ค่าเบี้ยปรับ เสียก่อน...ก็จะไม่เหลือพอนำไปหักเงินต้น (เงินต้นก็จะเหลือเท่าเดิม)

Nueng เขียน: เลยคิดว่าน่าจะผิดที่ระบบนะค่ะ

ระบบไม่ผิดหรอกครับ...ตัวคุณ น่ะมีความเข้าใจในการอ่านสถานะของเครดิตบูโรหรือเปล่า?

Nueng เขียน: คิดถูกหรือเปล่าเอ่ยยยยยย????

น่าจะคิดผิดนะ

เรียน คุณ Anakin

ฝาก Censor หมายเลขบัญชี(เลขที่บัญชี) ที่อยู่ในรูปภาพที่นำมาลงด้วยนะครับ