ขอคำแนะนำ เมื่อคิดจะจ่าย แต่ยังสับสนไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

จริงๆ เคยเข้ามาศึกษาในเวปนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกคะ เกริ่นก่อนเลยนะคะ เรามีหนี้ อยู่ 3 บัญชี เป็นอิออนทั้ง 3 บัญชี ทุกบัญชีเราหยุดจ่ายไปตั้งแต่ปี 2548 แล้วเราก็ไม่เคยไปติดต่อ กับใครที่ไหนเลย และเราก็ไม่ได้อยู่บ้าน แต่ที่บ้านก็มีจดหมายจาก สำนักงานบัญชีมาเรื่อยๆ แต่พอมาตอนนี้เราพอจะมีเงินก้อน แต่ไม่เต็มยอดหนี้ทั้ง 3 บัญชี แต่อยากจะเคลียร์หนี้ เป็นไปได้หรือไม่คะ ที่เราจะทำ Hair cut หรือ และควรเริ่มต้นอย่างไร

เราไปเช็คบูโรมา รายละเอียดมีดังนี้

ตามเครดิตบูโร มีหนี้อยู่ 3 บัญชี คือ

1. อิออน ประเภทหนี้ สินเชื่อเช่าซื้ออื่นๆ (เอกสารไม่ได้ระบุ แต่เราจำได้ คือ รถจักรยานยนต์)
วงเงิน 37480 บาท
ยอดหนี้คงเหลือ 46,934 บาท
สถานะบัญชี 40 - อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

2. อิออน ประเภทหนี้ บัตรเครดิต
วงเงิน 20,000 บาท
ยอดวงเงินที่ใช้ไป 21,190 บาท (เกินมาจากไหนหว่า)
สถานะบัญชี 40 - อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

3. อิออน ประเภทหนี้ สินเชื่อเช่าซื้ออื่นๆ (เอกสารไม่ได้ระบุ แต่เราจำได้ คือ โทรสับมือถือ)
วงเงิน 9900 บาท
สถานะบัญชี 42 - โอนหรือขายหนี้

เรามีเงินก้อนแต่ไม่ถึงยอดหนี้แน่นอนเลยไม่แน่ใจว่าจะเคลียร์ได้หรือไม่ รบกวนเพื่อนๆในนี้แนะนำหน่อยนะ
จะเป็นพระคุณอย่างสูง

pukky02 เขียน: จริงๆ เคยเข้ามาศึกษาในเวปนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ทำอะไรไม่ถูกคะ เกริ่นก่อนเลยนะคะ เรามีหนี้ อยู่ 3 บัญชี เป็นอิออนทั้ง 3 บัญชี ทุกบัญชีเราหยุดจ่ายไปตั้งแต่ปี 2548 แล้วเราก็ไม่เคยไปติดต่อ กับใครที่ไหนเลย

ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว...ถ้าเขายังไม่ฟ้องร้อง ก็ขาดอายุความการฟ้องร้องแล้วครับ ไปอ่านกระทู้นี้
อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=52

และเราก็ไม่ได้อยู่บ้าน แต่ที่บ้านก็มีจดหมายจาก สำนักงานบัญชีมาเรื่อยๆ แต่พอมาตอนนี้เราพอจะมีเงินก้อน แต่ไม่เต็มยอดหนี้ทั้ง 3 บัญชี แต่อยากจะเคลียร์หนี้ เป็นไปได้หรือไม่คะ ที่เราจะทำ Hair cut หรือ และควรเริ่มต้นอย่างไร

เริ่มด้วยการเจรจาน่ะสิครับ
นิยาม" ของคำว่า Hair-cut
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52

อยากขอคำแนะนำพี่ๆเพิ่มอีกนิดคะ ว่า เราควรจ่ายแค่ 2 บัญชีแรกก่อนใช่หรือไม่คะ เพราะเงินไม่พอ

แล้วส่วนในเรื่องรถจักรยานยนต์(รถไม่อยู่กับเราตั้งนานแล้วคะ) นี่ขอถามอีกนิดว่า
เค้าจะฟ้องร้องเราคดีอาญาได้หรือไม่คะ (เห็นคุณbatkมาแปะลิงค์ให้ แต่เรา เห็น เป็นอายุความเกี่ยวกับคดีแพ่ง หนี้เงินประมาณนี้ เราไม่ค่อยมีความรู้คะ แต่เห็นบางกระทู้ว่า ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์อาจอยู่ใน ประเภทหนี้สัญญาเช่าซื้อ ซึ่งถ้าทรัพย์ไม่อยู่แล้ว อาจจะฟ้องร้องคดีอาญา ข้อหา ยักยอกทรัพย์ได้ เรากังวลใจคะ) แต่เราจะจ่ายอยู่คะ แต่กลัวเค้าไม่ยอมลดให้เรา ถ้ารู้ว่ารถไม่อยู่แล้ว

ส่วนบัญชีหลังที่มีสถานะ ขายหนี้ ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็คือ ไม่ได้มีผลอะไรในเครดิตบูโรและไม่สามารถฟ้องได้แล้วถูกต้องหรือไม่คะ(แต่เราจะจ่ายอยู่นะคะ แต่ เอาไว้เก็บเงินได้อีกก้อนก่อน)

ขอบพระคุณมากคะ

ขอบคุณ คุณAnakinมากนะคะ

เราไม่ได้กำลังจะซื้อบ้านหรือรถคะ แต่พอดีป้าเราได้เงินจากงานศพมา 1 ก้อน เค้าอยากช่วยเราใช้หนี้ บอกว่าเราจะได้ไม่ต้องมีเรื่องหนี้ติดตัว บวกกับเราเก็บเงินได้ 1 ก้อนคะ

รถจักรยานยนต์เราขายให้คนอื่นไปแล้วคะ เพราะตอนนั้นเราย้ายที่อยู่บ่อยไม่สะดวกเอารถไปด้วย(จริงๆเราก็ผิดนะคะ สำนึกผิดเมื่อสาย) แต่เราขอคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องจบดีคะ เพราะเราจะไปเจรจาจ่ายเงินกับเค้า แต่เรากลัวเค้าก็ยังจะฟ้องเราอยู่ดี ในคดียักยอกทรัพย์ คะ

ส่วนเจ้าหนี้รายใหม่(ที่ไม่ใช่อิออน)เราก็จะจ่ายคะ แต่เราจะเก็บเงินอีกก้อนก่อนคะ

ขอบพระคุณพี่ๆ ที่มาให้คำแนะนำนะคะ

.
ข้อควรระวังในการขายรถที่ยังผ่อนอยู่กับ สถาบันการเงิน/ไฟแนนซ์/ลิสซิ่ง

มีเพื่อนสมาชิกหลายคนสอบถามมาเกี่ยวกับการขายดาวน์รถ ซึ่งอยู่ในระหว่างการผ่อนชำระค่าซื้อกับ สถาบันการเงิน/ไฟแนนซ์/ลิสซิ่ง แต่ผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหว เนื่องจากมีปัญหาทางด้านการเงิน
จึงเอารถไปขายเต้นท์หรือขายให้กับพรรคพวกเพื่อนฝูง ที่เรียกว่าขายดาวน์ต่อ โดยมีเงื่อนไขให้ผู้รับช่วงซื้อต่อ
ไปผ่อนชำระกับสถาบันการเงินเอาเอง การกระทำดังกล่าวเกิดปัญหากับผู้เช่าซื้อมากมายหลายประการ

ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทไฟแนนซ์ยื่นโนติสยกเลิกสัญญา และเรียกให้ส่งมอบรถคืน
แต่ผู้เช่าซื้อไม่มีปัญญาส่งมอบรถคืนให้ได้ เนื่องจากผู้ที่รับช่วงซื้อต่อได้นำรถไปซุกซ่อน
หรือไปขายให้กับบุคคลภายนอกต่อไปอีก

ดังนั้น บุคคลผู้เช่าซื้อ(ผู้ครอบครองเดิม)ที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับ สถาบันการเงิน/ไฟแนนซ์/ลิสซิ่ง
จึงต้องรับผิดตามกฎหมายในฐานะผู้เช่าซื้อ และไม่สามารถจะยกเหตุผลอื่นใดมาหักล้างเพื่อให้พ้นความรับผิดได้

จึงขอแนะนำว่า การขายดาวน์หรือขายรถไปให้กับบุคคลอื่นภายนอก จะต้องแจ้งให้กับ สถาบันการเงิน
/ไฟแนนซ์/ลิสซิ่ง รับทราบก่อน และนัดหมายให้ผู้รับช่วงซื้อต่อ ไปทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อจากเดิม
ให้เป็นผู้เช่าซื้อรายใหม่ ให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน
มิฉะนั้นผู้เช่าซื้อเดิมรายเดิมต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อเดิมอยู่ต่อไป

นอกจากนี้ผู้เช่าซื้ออาจต้องรับผิดชอบทางอาญา ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์อีกทางหนึ่ง
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



ตัวอย่าง : คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7727/2544

จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัท อ. โดยชำระเงินในวันทำสัญญาบางส่วน
ที่เหลือผ่อนชำระเดือนละงวด รวม 36 งวด มีชาวบ้านที่จำเลยจ้างมาเป็นผู้ค้ำประกัน
หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อและรับรถไปแล้ว จำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อ และไม่ติดต่อกับผู้เสียหายอีกเลย
บริษัท อ. จึงบอกเลิกสัญญา แต่จำเลยไม่ส่งมอบรถคืนเมื่อสอบถามจำเลย
จำเลยแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่าขายให้แก่ผู้ใด
ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อและชำระเงินล่วงหน้าก็เพื่อให้ได้รถยนต์ไปไว้ในครอบครอง
มิได้มีเจตนาจะชำระราคาอีก พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัท อ.
ที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไปโดยทุจริต
เป็นความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเพียงการกระทำผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่
.

ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศมากนะคะ

นี่แหละคะที่กังวล แล้วแบบนี้เรามีทางแก้ไขอย่างไรบ้างคะ ที่จะไม่ต้องโดนพิพากษา โดนโทษจำคุก รบกวนแนะนำด้วยคะ เพราะเราจะจ่ายเค้าคะ แต่อยากลดราคาลงคะ

ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยคะ

pukky02 เขียน: ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศมากนะคะ

นี่แหละคะที่กังวล แล้วแบบนี้เรามีทางแก้ไขอย่างไรบ้างคะ ที่จะไม่ต้องโดนพิพากษา โดนโทษจำคุก รบกวนแนะนำด้วยคะ เพราะเราจะจ่ายเค้าคะ แต่อยากลดราคาลงคะ

ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยคะ

ไม่สามารถให้คำแนะนำในนี้ได้ครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=2247&Itemid=52#2450

pukky02 เขียน: ขอบคุณ คุณAnakinมากนะคะ

เราไม่ได้กำลังจะซื้อบ้านหรือรถคะ แต่พอดีป้าเราได้เงินจากงานศพมา 1 ก้อน เค้าอยากช่วยเราใช้หนี้ บอกว่าเราจะได้ไม่ต้องมีเรื่องหนี้ติดตัว บวกกับเราเก็บเงินได้ 1 ก้อนคะ

รถจักรยานยนต์เราขายให้คนอื่นไปแล้วคะ เพราะตอนนั้นเราย้ายที่อยู่บ่อยไม่สะดวกเอารถไปด้วย(จริงๆเราก็ผิดนะคะ สำนึกผิดเมื่อสาย) แต่เราขอคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องจบดีคะ เพราะเราจะไปเจรจาจ่ายเงินกับเค้า แต่เรากลัวเค้าก็ยังจะฟ้องเราอยู่ดี ในคดียักยอกทรัพย์ คะ

หากคุณจะเจรจาปิดหนี้กับเขา สามารถทำได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปกล่าว

ย้อนอดีตเรื่องเดิมค่ะ เจ้าหนี้ไม่รู้ก็ไม่จำเป็นต้องบอกทุกอย่าง มีเงิน

ซะอย่าง เขารับอยู่แล้วค่ะ เขาไม่สนใจจะยึดหรอกค่ะ

เรื่องยอดหนี้ คุณหยุดจ่าย แต่ดอกเบี้ยไม่หยุดเดินนะค่ะ ยอดหนี้จึงเพิ่ม

ขึ้น และอยู่ที่เทคนิคการต่อรองให้เขาลดหนี้ พอที่คุณจะปิดได้ค่ะ


ส่วนเจ้าหนี้รายใหม่(ที่ไม่ใช่อิออน)เราก็จะจ่ายคะ แต่เราจะเก็บเงินอีกก้อนก่อนคะ

ขอบพระคุณพี่ๆ ที่มาให้คำแนะนำนะคะ

ขอความกรุณา ถามอีกนิดนึงนะคะ ยอดหนี้ที่เราต้องชำระ นี่เป็นจำนวนเดียวกับที่โชว์ในเครดิตบูโรหรือไม่คะ หมายถึง ตัวอย่างของเรา

บัญชีแรก คือ ยอดหนี้คงเหลือ 46,934 บาท คือยอดที่ต้องชำระจริง หรือว่ามีสิทธิ์ที่ดอกเบี้ยจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ จะได้เอามาคำนวณเปอร์เซ็นต์ไปทำ Hair cut ถูก

และอีกข้อคะ ถ้าเราจะโทรไปเจรจาจ่ายหนี้ เราต้องโทรเข้าที่อิออน หรือสำนักงานทนายความที่ส่งจดหมายมาที่บ้านเรา ( พอดีที่บ้านทิ้งจดหมายพวกนั้นไปหมดแล้ว เลยไม่รู้จะติดต่ออย่างไร และจำไม่ได้ว่า สำนักงานทนายความชื่ออะไรคะ )

ขอโทษที่รบกวนเยอะนะคะ แต่อยากจะจบเรื่องไวๆคะ

ขอบพระคุณมากนะคะ

พี่แก้วจ๋า เพิ่งจะตอบไปเองนะครับ....

คุณต้องเจรจาเท่าที่คุณมีกำลังครับ....เกินกว่านั้นก็ยังไม่ต้องจ่าย

ไอ้เรื่องเปอร์เซ็นต์ส่วนลดน่ะ มันไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกครับ สำคัญที่ได้หมดหนี้มากกว่า
บางคนได้ส่วนลดดี เพราะอยู่ในจังหวะที่ดี บางคนได้น้อย แต่มีเงินพอและพอใจปิดน่ะครับ

ยอดหนี้ที่เราต้องชำระ นี่เป็นจำนวนเดียวกับที่โชว์ในเครดิตบูโรหรือไม่คะ หมายถึง ตัวอย่างของเรา

ยอดตัวเลขที่แสดงอยู่ในเครดิตบูโร เป็นตัวเลขที่ไม่ได้ Update ให้ถูกต้องครับ
ใช้เป็นหลักยึดถือ หรืออ้างอิงโดยตรงไม่ได้



บัญชีแรก คือ ยอดหนี้คงเหลือ 46,934 บาท คือยอดที่ต้องชำระจริง หรือว่ามีสิทธิ์ที่ดอกเบี้ยจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้

ดอกเบี้ยมันจะเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดครับ



จะได้เอามาคำนวณเปอร์เซ็นต์ไปทำ Hair cut ถูก

ในกระทู้ Hair-cut ก็มีคำอธิบายบอกไว้นี่ครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52

"นิยาม" ของคำว่า Hair-cut

Hair-cut ก็คือการจ่ายชำระมูลหนี้ ที่มีการค้างชำระกันไว้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ โดยมีข้อตกลงเจรจาเป็นการนำเสนอที่จะทำการลดมูลหนี้ที่คงค้างกันอยู่...ว่าจะมีการลดหนี้ให้เป็นจำนวนเท่าไหร่?

โดยคิดจากมูลหนี้ที่คงค้างทั้งหมด จากยอด ณ.ปัจจุบัน

ซึ่งก็คือยอดหนี้ของ ณ.วันนี้ นั่นเอง

วันที่เรากำลังเจรจาต่อรองเรื่องส่วนลดหนี้กันอยู่ ณ.ขณะนี้

(ไม่ใช่ยอดหนี้ของเงินต้นในอดีต...ไม่ใช่ยอดหนี้ของวันที่เราเริ่มต้นหยุดจ่าย)

ถ้าเราจะโทรไปเจรจาจ่ายหนี้ เราต้องโทรเข้าที่อิออน หรือสำนักงานทนายความที่ส่งจดหมายมาที่บ้านเรา ( พอดีที่บ้านทิ้งจดหมายพวกนั้นไปหมดแล้ว เลยไม่รู้จะติดต่ออย่างไร และจำไม่ได้ว่า สำนักงานทนายความชื่ออะไรคะ )

ติดต่อกับใครก็ได้ครับ ที่มันสามารถออกหนังสือยืนยัน Hair cut ให้กับเราได้

ตัวอย่างเอกสารใบ Haircut (มีตัวอย่างของอิออนด้วย อยู่ด้านล่างสุด)
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=8&id=829&Itemid=52

ตื่นเต้นมากคะ โทรไปเจรจาลดหนี้มาแล้ว สำนักงานกฏหมายลดให้แต่ไม่ได้ตามเป้า ยอด 2 บัญชีรวมกัน

ยอดหนี้ 71000 กว่าบาท แต่ลดให้เหลือ 50000 บาท พี่ๆเพื่อนๆ คิดว่าน่าปิดหรือไม่คะ (แต่เงินเราก็ยังไม่ถึง เป็นไปได้หรือไม่คะที่เค้าจะยอมลดให้เหลือ 40000 บาท )

ขอความคิดเห็นเพื่อนๆพี่หน่อยคะ



ปล.สำนักงานกฎหมายบอกว่าให้จ่ายภานในวันนี้ บ่าย 3 ไม่งั้นถือว่ายอดลดนี้ เป็นโมฆะ เค้าขู่หรือเปล่าคะ หรือว่า ถ้าไม่ได้เค้าก็จะไม่ลดให้จริงๆ แล้วเค้าก็ไม่เห็นพูดถึงเอกสารการจ่ายเงินว่าจะให้เราจ่ายอย่างไร จ่ายแบบไหน เอาอะไรไปจ่าย เราก็เลยงงๆคะ หมายความว่าอย่างไรพอจะแนะนำได้หรือไม่คะ

ขอบพระคุณมากนะคะ

ไม่มีใบยืนยันการลดหนี้มา ก็อย่าไปจ่าย

หลายคนโดนหลอกให้จ่าย แล้วก็ไม่ได้ปิด เสียค่าโง่ไป

ไปดูห้องนิทรรศการเอกสารหนี้นะครับ

ขอบคุณมากนะคะ คุณNarasingh

แล้วแบบนี้เราต้องให้เค้าโทรมาใช่หรือเปล่าคะ คืด ถ้าเราโทรไป เรากลัวเค้าจะคิดว่าเราอยากจ่ายมาก(ซึ่งจริงๆก็อยากจ่ายให้เรื่องจบ) แต่กลัวเค้าลดให้ไม่เยอะ

แล้วถ้าพอเค้าลดให้เราจริงๆ เราก็สอบถามเอกสารยืนยันการลดหนี้ ถ้าเค้าไม่มีให้เราก็อย่าเพิ่งจ่าย เข้าใจถูกต้องหรือไม่คะ

ขอบพระคุณนะคะ

ถามอีกสักนิดนะคะ ถ้าเราจ่ายปิดบัญชีแล้ว เท่ากับจักรยานยนต์เป็นของเรา ทางอิออนไม่สามารถฟ้องเราข้อหายักยอกทรัพย์ได้ใช่หรือไม่คะ แล้วเราต้องขอหนังสือนืนยันความเป็นเจ้าของอะไรอีกหรือไม่คะ หรือแค่หนังสือยืนยันปิดบัญชีก็จบคะ

ขอบพระคุณมากนะคะ

หายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ แล้วไปอ่านกระูทู้ที่คุณนกกระจอกเทศ มาตอบเถิดครับ

คำตอบอยู่ในนั้นแหละครับ

ถ้าคุณโทรไปก่อน แปลว่า คุณแบไต๋ อีนี่มีตังค์จ่ายนี่หว่า แต่เขี้ยวไม่จ่าย

แต่ถ้ารอให้เขาโทรมา คุณก็ต่อรองไป อันไหนจะเข้าท่ากว่ากันล่ะ คิด คิด คิด

ขอบพระคุณทุกท่านนะคะ โทรมาจริงๆคะ เริ่มลดลงมาอีกแต่ไม่เยอะ ยังไม่เข้าเป้าเลยปฏิเสธไป ว่าไม่พอจ่าย ทางพนักงานก็บอกจะไปคุยกับผู้มีอำนาจ จะขอลดให้อีก

คิดว่าถ้าได้ตามเป้าก็จะจ่ายจะได้จบกันคะ

แต่อยากจะขอถามอีกข้อ ไม่ทราบว่าถามทางกระทู้นี้จะได้หรือไม่ ผิดกฎหรือไม่ ถ้าผิดกฎต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ แต่อยากขอคำแนะนำคะ

หนี้สัญญาเช่าซื้อรถมอไซค์ ถ้าเราปิดบัญชีไปแล้ว เราจะสามารถขอให้เค้าโอนรถมาเป็นชื่อเราได้หรือไม่ มันถูกต้องหรือไม่อย่างไร (คือเราก็ไม่ได้หัวหมอ เพียงแต่เราอยากทราบว่าถ้าจ่ายแล้ว เราจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของหรือไม่คะ) ต้องขอเอกสารอะไรเพิ่มเติม รบกวนพี่ๆแนะนำหน่อยนะคะ แต่ถ้าผิดกฎ ต้องกราบขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากนะคะ