รบกวนขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ค่ะ

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19422 โดย Ahliyah
รบกวนสอบถามผู้มีประสบการณ์ทุกท่านด้วยค่ะ จริงๆ แอลสมัครสมาชิกมาซักพักนึงแล้ว แต่เป็นผู้ติดตามอ่านซะมากกว่าแล้วก็ยังไม่เคยตั้งกระทู้เลย ถ้าผิดมารยาทประการใดรบกวนแนะนำด้วยนะคะ ก่อนอื่นขอสรุปยอดหนี้คร่าวๆดังนี้ค่ะ

1. UOB -- บัตรเครดิต + บัตรกดเงินสด --- 200,xxx.-
2. SCB -- สินเชื่อบุคคล --- 120,xxx
3. SCB -- บัตรเครดิต--- 87,xxx
4. Standard Charter -- สินเชื่อบุคคล--- 150,xxx.-
5. HSBC -- สินเชื่อบุคคล--- 140,xxx.-
6. กรุงศรี HomePro--บัตรเครดิต---82,XXX
7. กรุงศรี --สินเชื่อบุคคล---140,xxx

ที่ไม่สามารถลงจำนวนที่แน่นอนได้ก็เพราะเอกสารไม่อยู่กับตัวตอนนี้ค่ะ

สาเหตุที่เป็นหนี้ก็เพราะมีความจำเป็นต้องซื้อบ้าน หาไม่แล้ว พ่อแม่ก็จะไม่มีที่อยู่ พอซื้อแล้วก็ต้องต่อเติม ซื้อของเข้าสารพัด หนี้มันบานจากตรงนี้แหละค่ะ..เฮ้อ

รายรับต่อเดือน 35,000.- หักค่าผ่อนบ้าน,ค่าใช้จ่ายในบ้าน,ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ไปแล้วก็จะเหลือเงินประมาณ 10,000 (น้อยเว่อร์) บางทีก็น้อยกว่านี้ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งตอนนี้ตั้งใจจะเก็บสะสมไว้เป็นค่าเทอมที่เหลือต้องจ่ายอีก 70,000 (พอดีเรียนโทด้วยค่ะ เหลืออีก 2 เทอมเท่านั้น ไม่อยากดร็อปเลย)

ตอนแรกก็กลุ้มใจมากมายค่ะ แต่พอได้อ่านข้อมูลจากเว็บนี้ก็เหมือนเห็นแสงสว่าง เลยปฏิบัติตามโดยการหยุดจ่ายทุกอย่าง (ตั้งแต่ มี.ค.) แล้วก็จริงอย่างที่พี่ๆบอกไว้ค่ะ ช่วง 3 เดือนแรกนี่เหนื่อยมาก ต้องลุกอออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแทบทุกชั่วโมง แต่โชคดีที่ยังไม่เจอเจ้าหน้าที่คนไหนพูดจาไม่ดีใส่ แต่ก็กดดันจิตใจไม่ใช่น้อย ก็ได้อาศัยเว็บนี้แหละค่ะปลอบประโลมจิตใจ

ช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาก็เริ่มมีจดหมายจากสำนักงานกฎหมาย เนื้อความก็ประมาณว่าให้ติดต่อกลับ แต่แอลก็ไม่ได้ติดต่อเพราะว่ายังไม่พร้อม ประกอบกับเคยเห็นกระทู้แนะนำว่าเราไม่จำเป็นต้องติดต่อกลับ พอมาช่วงนี้ก็เริ่มมีติดต่อมาให้ส่วนลดบ้างแล้วค่ะ ได้แก่

1. กรุงศรี HomePro จ่ายงวดเดียว 55,000 ถ้าแบ่งจ่าย 6 งวด 72,000 (งวดละ 12,000)
2. SCB เครดิตการ์ด จ่ายงวดเดียว ลด 20 % ถ้าแบ่งจ่ายเค้าคิด 0% 10 เดือน (ไม่มีส่วนลด)
3. UOB โทรมาแค่ถามว่าพอจะจ่ายเข้ามาได้มั๊ย ไม่เสนอส่วนลดอะไรเลย พอบอกยังไม่พร้อม เค้าก็บอกว่า ถ้างั้นก็จะต้องดำเนินการส่งฟ้อง

ที่เหลือยังเงียบๆอยู่ค่ะ

ปัญหาในตอนนี้คือ แอลคาดว่าจะเก็บเงินค่าเทอมที่เหลืออีก 70,000 ครบประมาณ ก.พ. นี้ค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ คิดว่าแอลยังพอจะประวิงเวลาจนถึงตอนนั้นแล้วค่อยๆกลับมาจัดการปัญหากับพวกบัตรนี้ได้มั๊ยคะ หรือมีตัวไหนควรรีบตะครุบปิด (แต่เทอมหน้าคงต้องดร็อปเรียนเป็นแน่) ตอนนี้ยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเงื่อนไขของใครไปค่ะ แล้ว UOB จากที่อ่านๆมาเหมือนจะใจดี ตอนนี้เค้าเปลี่ยนนโยบายแล้วเหรอคะ หรือเพราะยอดหนี้แอลเยอะเกินไป

ยังไงก็ขอขอบคุณล่วหน้านะคะ (o_O)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19461 โดย Kas93
การศึกษาสำคัญกว่าเพราะเป็นอนาคตของคุณ อีกอย่างคือเรียนมาใกล้จบแล้ว... ส่วนเรื่องหนี้ก็ต้องปล่อยไปก่อน พร้อมค่อยว่ากัน แก้ปัญหาไปที่ละเปราะ

สู้ๆๆ เป็นกำลังใจให้ครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Nok2865

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19462 โดย Kas93
การศึกษาสำคัญกว่าเพราะเป็นอนาคตของคุณ อีกอย่างคือเรียนมาใกล้จบแล้ว... ส่วนเรื่องหนี้ก็ต้องปล่อยไปก่อน พร้อมค่อยว่ากัน แก้ปัญหาไปที่ละเปราะ

สู้ๆๆ เป็นกำลังใจให้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19520 โดย Ahliyah
ขอบคุณ คุณ chaowalert กับ คุณ FamilyMan ที่สละเวลาตอบกระทู้

คุณ chaowalert คะ ที่คุณแนะนำให้อ่านนี่พยายามอ่านและทำความเข้าใจอยู่ค่ะ แต่ก็มีงงๆ อยู่บ้าง ตอนนี้บ้านที่อยู่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่างแอลกับน้องค่ะ (กู้ร่วม) แต่ใช้ชื่อแอลเป็นเจ้าบ้าน ถ้าตามความเข้าใจของแอลคือ ถ้าในท้ายที่สุดถึงขั้นบังคับคดีแล้วจะเริ่มจากการอายัดเงินเดือนก่อนยึดทรัพย์สินอื่นๆใช่มั๊ยคะ

เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ คือตอนที่คุยกะกรุงศรี ก็บอกเค้าไปว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมนะคะจะพร้อมผ่อนอีกทีก็ประมาณเดือนกุมภาตามที่บอกไว้น่ะค่ะ แต่ทางโน้นเค้าต่อรองว่าเดือนนี้จ่ายเข้ามาก่อนได้มั๊ย 12,000 แล้วเค้าจะทำเรื่องให้เริ่มผ่อนจ่ายที่เหลือเดือนกุมภา ขอคำตอบภายในวันที่ 20 ส.ค. นี้ เพราะหลังจากนั้นเรื่องจะไม่อยู่ที่สำนักงานนี้แล้ว

คำถามคือ อันนี้คือเค้าหลอกล่อให้เราจ่ายหยอดใช่มั๊ยคะ ถามย้ำเพื่อความแน่ใจจะได้ไม่เสียรู้ค่ะ

ส่วน SCB เค้าบอกว่าถ้าผ่อนจ่ายเดือนละ 9000 ไปเรื่อยๆ แล้ววันไหนมีเงินก้อนก็ปิดได้จะลดให้ 20% จากยอดหนี้ที่เหลือ (เงินเก็บ 10,000 ผ่อนเดือนละ 9000 แล้วมันจะมีเงินก้อนไปได้ยังไงล่พแม่คุณ ถ้าไม่ถูกหวยน่ะ)

ตอนนี้คิดว่าจะปฏิเสธทั้งสองที่ไปก่อนค่ะ คิดๆดูแล้วยังไม่ค่อยพร้อมเท่าที่ควร :sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19545 โดย Nok2865

Ahliyah เขียน: ก่อนอื่นขอสรุปยอดหนี้คร่าวๆดังนี้ค่ะ

1. UOB -- บัตรเครดิต + บัตรกดเงินสด --- 200,xxx.-
2. SCB -- สินเชื่อบุคคล --- 120,xxx
3. SCB -- บัตรเครดิต--- 87,xxx
4. Standard Charter -- สินเชื่อบุคคล--- 150,xxx.-
5. HSBC -- สินเชื่อบุคคล--- 140,xxx.-
6. กรุงศรี HomePro--บัตรเครดิต---82,XXX
7. กรุงศรี --สินเชื่อบุคคล---140,xxx

รายรับต่อเดือน 35,000.- หักค่าผ่อนบ้าน,ค่าใช้จ่ายในบ้าน,ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ไปแล้วก็จะเหลือเงินประมาณ 10,000 (น้อยเว่อร์) บางทีก็น้อยกว่านี้ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งตอนนี้ตั้งใจจะเก็บสะสมไว้เป็นค่าเทอมที่เหลือต้องจ่ายอีก 70,000 (พอดีเรียนโทด้วยค่ะ เหลืออีก 2 เทอมเท่านั้น ไม่อยากดร็อปเลย)

ปัญหาในตอนนี้คือ แอลคาดว่าจะเก็บเงินค่าเทอมที่เหลืออีก 70,000 ครบประมาณ ก.พ. นี้ค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ คิดว่าแอลยังพอจะประวิงเวลาจนถึงตอนนั้นแล้วค่อยๆกลับมาจัดการปัญหากับพวกบัตรนี้ได้มั๊ยคะ หรือมีตัวไหนควรรีบตะครุบปิด (แต่เทอมหน้าคงต้องดร็อปเรียนเป็นแน่) ตอนนี้ยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเงื่อนไขของใครไปค่ะ แล้ว UOB จากที่อ่านๆมาเหมือนจะใจดี ตอนนี้เค้าเปลี่ยนนโยบายแล้วเหรอคะ หรือเพราะยอดหนี้แอลเยอะเกินไป

ตอบตรงนี้ก่อนนะคะ
เจ้าหนี้ของคุณ นโยบายของเขา ณ.ขณะนี้ 2555 ไม่มี่เจ้าหนี้รายไหนน่าหนักใจเลย แต่ยอดหนี้ UOB ค่อนข้างสูง ได้ข่าวหลายรายถูกฟ้องเร็ว แต่ไม่แน่เสมอไป
เจ้าหนี้รายนี้ ค่อนข้างทวงโหด เสียดสี แดกดัน กระทบกระเทียบ เป็นที่น่ารำคาญใจมาก
และเป็นเจ้าหนี้ที่เข้ามาอ่านเว็บบอร์ดของเราประจำ เพราะมันพูดศัพท์ของเราถูกเป๊ะทุกคำ
อย่าใส่ใจ...เจ้าหนี้คุณ จะเป็นยังไงก็ช่าง "เก็บเงิน" ให้ได้มากๆ
คุณเข้าใจคำว่า ไม่มีของฟรีในโลกไหม?
คุณอยากได้อนาคต คุณไปเรียนต่อปริญญาโท คุณก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้
คุณเอาเงินเขามา คุณหยุดจ่าย คุณก็ต้องแลกกับการทวง
คุณต้อง "อดทนมากๆ" ย้ำว่า "มาก มาก"

หลายๆคนในนี้ ไม่เคยได้ดูหนัง ไม่เคยได้กินอาหารนอกบ้าน เพราะอยากปลดหนี้เร็วๆ
กอบัวไม่ได้ให้คุณแอล ประหยัดขนาดนั้น แต่อยากให้ "เอาจริงเอาจัง" มากๆ
เพราะ ไม่อยากให้คุณต้องทิ้งการเรียน แบบที่คุณ FamilyMan แนะนำ
พ่อบ้านกอบัว ก็เรียนต่อโท เรียนต่อในสภาวะที่เรากำลังจะไปไม่ไหว แต่กอบัวไม่กล้าบอกเขา เพราะเห็นว่าสิ่งที่เขาทำ มันคือ "อนาคตของเขา"
บัวไปกดเงินของ HSBC มาจ่ายค่าเทอมเขา คุณเชื่อไหม?
กว่าจะรู้เรื่อง บัวต้องบอกเขาทั้งน้ำตา และขอร้องเขาว่า จะหยุดจ่ายบัตร แต่พ่ออย่าหยุดเรียน
ทุกวันนี้เขาเรียนจบ หนี้บัตรก็หมด เพราะกอบัวเข้มแข็ง
หยุดจ่ายบัตร รับสายทุกสายเท่าที่เวลาสะดวกให้รับ พ่อบ้านก็ไปเรียนจนจบ
กอบัวไปศาลของ HSBC และจ่ายหลังจากเลื่อนนัดครั้งที่สอง

เรื่องที่คุณจะประวิงเวลาเจ้าหนี้บอกเขาว่า รอฉันหน่อยได้ไหม รอเดือนกุมภา แล้วฉันจะจ่ายให้ ตามที่คุณถามในนี้

ตอนที่คุยกะกรุงศรี ก็บอกเค้าไปว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมนะคะจะพร้อมผ่อนอีกทีก็ประมาณเดือนกุมภาตามที่บอกไว้น่ะค่ะ แต่ทางโน้นเค้าต่อรองว่าเดือนนี้จ่ายเข้ามาก่อนได้มั๊ย 12,000 แล้วเค้าจะทำเรื่องให้เริ่มผ่อนจ่ายที่เหลือเดือนกุมภา ขอคำตอบภายในวันที่ 20 ส.ค. นี้ เพราะหลังจากนั้นเรื่องจะไม่อยู่ที่สำนักงานนี้แล้ว
คำถามคือ อันนี้คือเค้าหลอกล่อให้เราจ่ายหยอดใช่มั๊ยคะ ถามย้ำเพื่อความแน่ใจจะได้ไม่เสียรู้ค่ะ

ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนคอยหรอกค่ะ ไม่ง้านสมาชิกทุกคนอาจจะบอกกันทุกคนเลยว่า
"กอบัวจะถูกหวยงวดเดือนมกรา ปี 56 คุณค่อยมาเก็บหนี้ตอนนั้นนะ"
"นกกระจอกเทศ จะได้รับโบนัส 50 เท่าของเงินเดือน ค่อยมาเอาสิ้นปี"
ป้าดดดดด ใครมันจะยอม

หยุดก็หยุดไปเลย ไม่ต้องไปสนใจหน้าอินทร์ หน้าพรหมไหนทั้งนั้น
แล้วที่มันบอกว่า ให้เราจ่ายก่อน 12,000 บาท แล้วจะให้ผ่อนจ่ายอีกเดือนกุมภา
บอกให้มันทำหนังสือยืนยันมา ลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จ่ายหนี้ 12,000 จากยอดหนี้....ที่เหลือ...จะเริ่มจ่ายอีกทีในเดือนกุมภาพันธ์
ถ้ามันไม่มีหนังสือยืนยัน ก็ไม่ต้องไปจ่ายมันเลย
หยุดแล้ว หยุดเลย อดทน อดออม มากๆ
อ่านกระทู้ต่างๆให้มาก อ่านเคสของเพื่อนๆเยอะๆ ปรับประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง
แล้วสักวัน คุณจะหมดหนี้พร้อมได้รับใบปริญญาไปพร้อมๆ กับเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตัวของคุณเอง
มีอะไรมาถาม มาเล่าในนี้ได้ ทุกคนเป็นกำลังใจให้คุณ


มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Lazio009, 3190400254488B

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19618 โดย Ahliyah
ขอบคุณกรรมการทุกท่านนะคะที่ให้คำแนะนำและกำลังใจดีๆ

เจ้าหนี้โหดสุดแอลโหวตให้ Standard Charter ค่ะ ไม่รับสายเมื่อไหร่เป็นโทรเข้าออฟฟิศตลอด

แต่แอลได้รับภูมิคุ้มกันจากที่นี่ไปเยอะ ก็พอจะต้านทานไหวค่ะ

ตอนนี้ก็ได้แต่อดทน อดออมและรอเวลาค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23177 โดย Ahliyah
ไม่ได้เข้ามาซะนาน อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดค่ะ ตอนนี้ได้หมายศาลจากยูโอบี เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ยอดฟ้องอยู่ที่ 18x,xxx รวม 4 บัญชี

ขึ้นศาลนัดแรก 13 ต.ค. นี้ค่ะ ได้หมายศาลตั้งแต่ 10 ก.ย. แต่ติดภาระกิจเรื่องสอบเลยไม่ได้ตั้งกระทู้อัพเดท หลังจากนั้นนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกฎหมายโทรมา แต่ก็ไม่ลดเลยซักบาท ถามว่ามีข้อเสนออะไรมั๊ยคะ ก็แค่บอกว่าผ่อนตามยอดฟ้องไม่เกิน 12 เดือน ตกเดือนละหมื่นห้ากว่าๆ
พระเจ้า..มากว่าอายัดเงินเดือนอีก จะต่อรองต่อ เจ้าหน้าที่ก็ตัดบทบอกไว้คุยกันหน้าศาลก็แล้วกัน

แนวทางที่พอจะทำได้ ณ ขณะนี้คือเต็มที่เดือนละหมื่นซึ่งก็พอๆกับการอายัดเงินเดือน แต่ก็ต้องผ่อนมากกว่า 12 เดือน ไม่รู้จะยอมแอลรึเปล่า

เรื่องขึ้นศาลอยากคอนเฟิร์มความเข้าใจของแอลดังนี้นะคะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะหากแอลเข้าใจผิด

1. ไปตามนัดก่อน ถ้าเจรจาไม่ลงตัวก็เลื่อนออกไป ซึ่งนัดต่อไปนี่ศาลท่านจะเป็นผู้กำหนดใช่มั๊ยคะ
2. นัดที่สอง ก็ยังเจรจาเรื่องตัวเลขกันได้อยู่ แต่ถ้าไม่ได้ก็ยื่นขอสู้คดี แล้วศาลก็จะนัดวันสืบพยาน
3. นัดที่สาม สืบพยาน เรียบร้อยแล้ว ศาลจะนัดวันฟังคำพิพากษา


จริงๆบัญชีที่หยุดจ่ายมีแค่ 3 บัญชีเอง อีกบัญชีนึงยังจ่ายปกติ แต่มันฟ้องมารวมกันเลย ก็เลยงงๆ ตกลงไอ้บัญชีที่ไม่ได้หยุดนี่เราไม่ต้องจ่ายแล้วใช่มั๊ย ไหนๆก็ฟ้องรวมมาแล้ว

ตั้งใจจะเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุม วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. นี้ ไม่ทราบว่าจะช้าเกินไปมั๊ยคะ แต่ที่ผ่านมาทำงานทุกวันอาทิตย์เลยค่ะ

แล้วก็มีคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินดังนี้ค่ะ

- แอลมีบ้านซึ่งกู้ร่วม + กรรมสิทธิ์ร่วมกับน้อง แต่ใช้ชื่อแอลเป็นเจ้าบ้าน ยังผ่อนปกติ ยอดเหลือติดจำนองประมาณ 3 ล้านกว่าๆ ในกรณีนี้เจ้าหนี้ยังสามารถยึดบ้านเราได้มั๊ยคะ หรือ
แอลควรทำยังไงให้เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดบ้านและทรัพย์สินในบ้านได้ถ้าถามว่าทำไมไม่ขายบ้านใช้หนี้ซะตั้งแต่ตอนนี้ ก็ต้องตอบว่าเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวค่ะ
แค่นี้พ่อแม่ก็เครียดมากแล้ว เลยอยากให้การขายบ้านเป็นทางเลือกสุดท้าย

ส่วนสถานการณ์หนี้เจ้าอื่นๆ กรุงศรี Homepro โทรมาเสนอส่วนลด 45 % ผ่อน 3 เดือน ค่ะ กับไทยพาณิชย์โทรมาเสนอให้ประนอมหนี้ 5 ปี แต่แจ้งเค้าไปทั้งสองที่ค่ะว่าขอให้คำตอบหลังขึ้นศาลกับยูโอบีก่อน
เจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าจะติดต่อมาอีกที

ยังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ตื่นเต้นปนเครียดมากเลยค่ะช่วงนี้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23180 โดย น้ำมนต์

Ahliyah เขียน: ไม่ได้เข้ามาซะนาน อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดค่ะ ตอนนี้ได้หมายศาลจากยูโอบี เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ยอดฟ้องอยู่ที่ 18x,xxx รวม 4 บัญชี

ขึ้นศาลนัดแรก 13 ต.ค. นี้ค่ะ ได้หมายศาลตั้งแต่ 10 ก.ย. แต่ติดภาระกิจเรื่องสอบเลยไม่ได้ตั้งกระทู้อัพเดท หลังจากนั้นนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกฎหมายโทรมา แต่ก็ไม่ลดเลยซักบาท ถามว่ามีข้อเสนออะไรมั๊ยคะ ก็แค่บอกว่าผ่อนตามยอดฟ้องไม่เกิน 12 เดือน ตกเดือนละหมื่นห้ากว่าๆ
พระเจ้า..มากว่าอายัดเงินเดือนอีก จะต่อรองต่อ เจ้าหน้าที่ก็ตัดบทบอกไว้คุยกันหน้าศาลก็แล้วกัน

แนวทางที่พอจะทำได้ ณ ขณะนี้คือเต็มที่เดือนละหมื่นซึ่งก็พอๆกับการอายัดเงินเดือน แต่ก็ต้องผ่อนมากกว่า 12 เดือน ไม่รู้จะยอมแอลรึเปล่า

เรื่องขึ้นศาลอยากคอนเฟิร์มความเข้าใจของแอลดังนี้นะคะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะหากแอลเข้าใจผิด

1. ไปตามนัดก่อน ถ้าเจรจาไม่ลงตัวก็เลื่อนออกไป ซึ่งนัดต่อไปนี่ศาลท่านจะเป็นผู้กำหนดใช่มั๊ยคะ
2. นัดที่สอง ก็ยังเจรจาเรื่องตัวเลขกันได้อยู่ แต่ถ้าไม่ได้ก็ยื่นขอสู้คดี แล้วศาลก็จะนัดวันสืบพยาน
3. นัดที่สาม สืบพยาน เรียบร้อยแล้ว ศาลจะนัดวันฟังคำพิพากษา


จริงๆบัญชีที่หยุดจ่ายมีแค่ 3 บัญชีเอง อีกบัญชีนึงยังจ่ายปกติ แต่มันฟ้องมารวมกันเลย ก็เลยงงๆ ตกลงไอ้บัญชีที่ไม่ได้หยุดนี่เราไม่ต้องจ่ายแล้วใช่มั๊ย ไหนๆก็ฟ้องรวมมาแล้ว

ตั้งใจจะเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุม วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. นี้ ไม่ทราบว่าจะช้าเกินไปมั๊ยคะ แต่ที่ผ่านมาทำงานทุกวันอาทิตย์เลยค่ะ

แล้วก็มีคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินดังนี้ค่ะ

- แอลมีบ้านซึ่งกู้ร่วม + กรรมสิทธิ์ร่วมกับน้อง แต่ใช้ชื่อแอลเป็นเจ้าบ้าน ยังผ่อนปกติ ยอดเหลือติดจำนองประมาณ 3 ล้านกว่าๆ ในกรณีนี้เจ้าหนี้ยังสามารถยึดบ้านเราได้มั๊ยคะ หรือ
แอลควรทำยังไงให้เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดบ้านและทรัพย์สินในบ้านได้ถ้าถามว่าทำไมไม่ขายบ้านใช้หนี้ซะตั้งแต่ตอนนี้ ก็ต้องตอบว่าเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวค่ะ
แค่นี้พ่อแม่ก็เครียดมากแล้ว เลยอยากให้การขายบ้านเป็นทางเลือกสุดท้าย

ยึดได้ค่ะ ในส่วนของคุณ แต่มันจะมีกระบวนการทางกฏหมาย....
ให้คนอื่นเป็นเจ้าบ้านดีกว่าไหมคะ เพราะการเป็นเจ้าบ้านนั้น ทางกฏหมายถือว่าทรัพย์สินภายในบ้าน
หลังนั้นเป็นของคุณ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ จะต้องเสียเวลาหาหลักฐานมายืนยัน

บ้านเป็นอสังหาที่ต้องใช้เวลาในการขาย และ มีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ทำเล (ง่ายต่อการขายหรือไม่) ราคา (พอใจกับราคาหรือเปล่า) มันอาจไม่ทันการณ์นะคะ .....
ยังมีวิธีอื่นอีก....ลองหาอ่านในกระทู้นะคะ...บอกตรงนี้ไม่ได้ค่ะ



ส่วนสถานการณ์หนี้เจ้าอื่นๆ กรุงศรี Homepro โทรมาเสนอส่วนลด 45 % ผ่อน 3 เดือน ค่ะ กับไทยพาณิชย์โทรมาเสนอให้ประนอมหนี้ 5 ปี แต่แจ้งเค้าไปทั้งสองที่ค่ะว่าขอให้คำตอบหลังขึ้นศาลกับยูโอบีก่อน
เจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าจะติดต่อมาอีกที


น้ำมนต์ก็มีของ ไทยพาณิชย์ค่ะ เคยได้รับข้อเสนอแบบนี้เหมือนกัน..แต่ปฏิเสธไปค่ะ...เพราะไม่พร้อมค่ะ
น้ำมนต์แก้ไขปัญหาหนี้ ด้วยการให้อายัดเงินเดือนค่ะ (ตัดสินใจและทำทางไปสู่ทางนี้ค่ะ)

ยังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ตื่นเต้นปนเครียดมากเลยค่ะช่วงนี้


ยังไงรอผู้ที่มีความรู้ และ ประสพการณ์มาแนะนำนะคะ......

แต่ความรู้แทบทุกอย่างสำหรับแก้ไขปัญหาหนี้....หาอ่านได้ในปักหมุดค่ะ...

โชคดีนะคะ




ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23214 โดย mlek
ขอเข้ามาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ เล็กก็มี UOB แต่ยอดไม่เท่าคุณ หยุดจ่ายเดือน เมย. ที่ผ่านมาค่ะ ปัจจุบันยังไม่ได้หมายศาล ก็คงเป็นอย่างที่พี่ ๆ กรรมการชมรมฯ บอกคร่าว ๆ ว่า แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ แล้วก็แต่ละสถาบันก็ไม่เหมือนกัน ยอดหนี้มากหนี้น้อยแตกต่างกันออกไปก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เค้าพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องมั้งคะ

ยังงั้ยซะเห็นคุณยังเรียนต่อโทอยู่ด้วย ค่าใช้จ่ายก็คงเยอะพอตัวอยู่ ยังงั้ยก็อดทนเข้าไว้นะคะ ส่วนเรื่องที่มีจดหมายจากสนง.กฎหมายเข้ามาเยอะแยะนั้น ทุก ๆ คนในที่นี้ก็ได้รับกันมาทั้งนั้นแหละค่ะ เล็กก็ได้มาเป็นกะตั้งเลย แรก ๆ 1-2 ซองเปิดอ่านค่ะ แต่พอส่งมาทั้งที่บ้านและที่ทำงานก็ไม่เปิดอ่านค่ะ มีนาน ๆ มาแกะซองแล้วเรียงลำดับวันที่ล่าสุดของแต่ละสถาบันไว้ (ไว้เป็นแรงบันดาลใจ) 5555

ยังงั้ยก็ท่อง 3 อ. ไว้เยอะ ๆ นะคะ แล้วทุกอย่างจะดีเองมาลำดับค่ะ

สู้สู้ค่ะ :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23232 โดย Ploylyly

Ahliyah เขียน: ขึ้นศาลนัดแรก 13 ต.ค. นี้ค่ะ ได้หมายศาลตั้งแต่ 10 ก.ย. แต่ติดภาระกิจเรื่องสอบเลยไม่ได้ตั้งกระทู้อัพเดท หลังจากนั้นนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกฎหมายโทรมา แต่ก็ไม่ลดเลยซักบาท ถามว่ามีข้อเสนออะไรมั๊ยคะ ก็แค่บอกว่าผ่อนตามยอดฟ้องไม่เกิน 12 เดือน ตกเดือนละหมื่นห้ากว่าๆ
พระเจ้า..มากว่าอายัดเงินเดือนอีก จะต่อรองต่อ เจ้าหน้าที่ก็ตัดบทบอกไว้คุยกันหน้าศาลก็แล้วกัน

แนวทางที่พอจะทำได้ ณ ขณะนี้คือเต็มที่เดือนละหมื่นซึ่งก็พอๆกับการอายัดเงินเดือน แต่ก็ต้องผ่อนมากกว่า 12 เดือน ไม่รู้จะยอมแอลรึเปล่า

เรื่องขึ้นศาลอยากคอนเฟิร์มความเข้าใจของแอลดังนี้นะคะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะหากแอลเข้าใจผิด

1. ไปตามนัดก่อน ถ้าเจรจาไม่ลงตัวก็เลื่อนออกไป ซึ่งนัดต่อไปนี่ศาลท่านจะเป็นผู้กำหนดใช่มั๊ยคะ

ตอบ ใช่ครับ ศาลท่านเป็นผู้อนุมัติครับ ว่าจะให้เลื่อนโดยเราต้องไปสอบถามเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังค์ว่าจะขอเลื่อนโดยให้เหตุผลว่า จะไปเจรจากับทางแบ็งค์โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง (แต่ของผมทนายโจทย์เลื่อนให้เองยังไม่ได้ร้องขอเลย) จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ศาลจะดูตารางศาลว่าว่างวันไหนบ้าง ประมาณ 1เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน จากนั้นก็จะถามโจทย์และจำเลยว่าพร้อมกันมั้ย แต่ส่วนใหญ่ก็จะแกมบังคับโดยยึดเอาทางทนายโจทย์เป็นหลัก พอตกลงวันเวลากันได้ ก็จะมีเอกสารที่ทางเจ้าหน้าที่ศาลพิมพ์เลื่อนนัดให้เราเซ็นต์รับทราบ ไม่ได้ให้เอกสารกลับบ้านมา เราต้องจำหรือบันทึกเอาเองนะ

2. นัดที่สอง ก็ยังเจรจาเรื่องตัวเลขกันได้อยู่ แต่ถ้าไม่ได้ก็ยื่นขอสู้คดี แล้วศาลก็จะนัดวันสืบพยาน

ตอบ ถุกต้องแล้วครับ ถ้าเจรจากันไม่ได้เราก็ต้องยื่นคำให้การต่อสุ้คดีโดยใช้แบบฟอร์มทางศาล แนะนำให้แต่งตั้งทนายและเขียนคำให้การสู้คดี ดีกว่าครับ เพราะต้องใช้ภาษาทางกฏหมาย และประเด็นข้อโต้แย้งโดยอ้างอิงข้อกฏหมายตามมาตราต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยหน้าบัลลังค์จะให้ไปเคาน์เตอร์ด้านนอกที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลตารางศาลอีกที เพื่อทำการนัดสืบพยานอีกที โดยจะได้เลื่อนออกไปอีก ประมาณ 2 เดือน - 2 เดือนครึ่ง แล้วแต่ความชุกของคดีของศาลนั้น

3. นัดที่สาม สืบพยาน เรียบร้อยแล้ว ศาลจะนัดวันฟังคำพิพากษา

ตอบ นัดสืบพยาน คุณต้องให้ทนายที่คุณแต่งตั้งมาว่าความด้วยครับ พอว่าความกันเสร็จ ศาลท่าจะนัดให้มาฟังคำพิพากษา อีกประมาณ 1 เดือน พอถึงวันนัด คุณไม่ต้องไปก็ได้ครับ เพราะว่าถ้าไปก็แสดงว่าเรารับทราบแล้วต้งอปฏิบัติตามคำสั่งศาลเลย โดยที่ถ้าคุณไม่ไปให้คุณรอคัดคำพิพากษาจากศาล รออีกประมาณ 3 - 4 สัปดาห์ หรือรออยู่บ้านก็ได้ครับเดี๋ยวเค้าจะจัดส่งไปตามที่อยู่ทะเบียนบ้านเองครับ

จริงๆบัญชีที่หยุดจ่ายมีแค่ 3 บัญชีเอง อีกบัญชีนึงยังจ่ายปกติ แต่มันฟ้องมารวมกันเลย ก็เลยงงๆ ตกลงไอ้บัญชีที่ไม่ได้หยุดนี่เราไม่ต้องจ่ายแล้วใช่มั๊ย ไหนๆก็ฟ้องรวมมาแล้ว

ตอบ ไม่ต้องไปจ่ายแล้วครับ รอทีเดียวเลย
ตั้งใจจะเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุม วันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. นี้ ไม่ทราบว่าจะช้าเกินไปมั๊ยคะ แต่ที่ผ่านมาทำงานทุกวันอาทิตย์เลยค่ะ

ตอบ ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่สะดวกไปหาคุณอาที่สวนลุมในนัดแรก ไปเลื่อนเองได้เลยครับ ไว้กลับมาแล้วค่อยไปให้ท่านช่วยดูอีกทีหนึ่งก็ได้ครับ

แล้วก็มีคำถามเกี่ยวกับทรัพย์สินดังนี้ค่ะ

- แอลมีบ้านซึ่งกู้ร่วม + กรรมสิทธิ์ร่วมกับน้อง แต่ใช้ชื่อแอลเป็นเจ้าบ้าน ยังผ่อนปกติ ยอดเหลือติดจำนองประมาณ 3 ล้านกว่าๆ ในกรณีนี้เจ้าหนี้ยังสามารถยึดบ้านเราได้มั๊ยคะ หรือ
แอลควรทำยังไงให้เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดบ้านและทรัพย์สินในบ้านได้ถ้าถามว่าทำไมไม่ขายบ้านใช้หนี้ซะตั้งแต่ตอนนี้ ก็ต้องตอบว่าเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวค่ะ
แค่นี้พ่อแม่ก็เครียดมากแล้ว เลยอยากให้การขายบ้านเป็นทางเลือกสุดท้าย

ตอบ เจ้าหนี้สามาถยึดได้ครับ แต่กว่าจะถึงขั้นตอนนั้นยังอีกไกล (ผมก็มีบ้านติดผ่อนกับแบ็งค์อยู่เหมือนกัน) ส่วนใหญ่แล้วจะอายัดเงินเดือนก่อนครับ เพราะแค่เค้าไปยื่นเรื่องที่กรมบังคับคดี แล้วทางเจ้าหน้าที่บังคัดคดีก็มาแจ้งกับบริษัทต้นสังกัดเรา แค่นี้เอง มันง่ายกว่ายึดบ้านครับ เพราะว่าต้องประเมินราคาอีก กว่าจะขายทอดตลาด รอประมูลอีก ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนตามยอดฟ้องรึเปล่า เพราะว่าถ้าขายได้แล้วต้องนำเงินไปชำระคืนกับทางแบ็งค์ที่เราผ่อนบ้านอยู่กับเค้าก่อน แล้วเหลือเท่าไหร่ถึงจะนำมาชำระคืนแก่โจทย์ที่ฟ้องได้ ถ้าไม่พอเราก็ยังเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิม

ส่วนสถานการณ์หนี้เจ้าอื่นๆ กรุงศรี Homepro โทรมาเสนอส่วนลด 45 % ผ่อน 3 เดือน ค่ะ กับไทยพาณิชย์โทรมาเสนอให้ประนอมหนี้ 5 ปี แต่แจ้งเค้าไปทั้งสองที่ค่ะว่าขอให้คำตอบหลังขึ้นศาลกับยูโอบีก่อน
เจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าจะติดต่อมาอีกที

ตอบ เจ้าไหนเสนอส่วนลดมามากที่สุดแล้วมีเงินอยู่ในมือก็ไปจ่ายเจ้านั้น ส่วนที่ฟ้องศาลอย่าเพิ่งกังวลยังมีเวลาอีกไกล
ค่อยคิดค่อยหาทางกันไป อย่างมีแบบแผน จงจำไว้ว่าเราจะทำให้เงินนั้นคุ้มค่าที่สุด



ยังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ ตื่นเต้นปนเครียดมากเลยค่ะช่วงนี้



คงหวังว่าคำแนะนำของผมจะช่วยให้คลายกังวลและกลับมาใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างมีสติได้ในเร็ววันนะครับ

(ผมเข้าใจครับผมก็เอาบัตรมาหมุนตอนเรียนปริญญาโทเหมือนกัน)

โชคดีครับ ศิษย์น้องร่วมสำนัก



ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23352 โดย Ahliyah
ขอบคุณทุกท่านมากนะคะที่ให้คำตอบแลกำลังใจ โดยเฉพาะคอมเม้นต์คุณ Goku ทำให้หายหวาดกลัวไปเยอะ ตอนนี้ก็ลุ้นวันไปศาลนัดแรกอย่างเดียว สวดมนต์ทุกวันขอให้เลื่อนได้นานๆ แล้วก็มีคำถามเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ

- ถ้าจะไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุม นอกจากหมายศาลแล้วต้องนำหลักฐานอะไรไปเพิ่มมั๊ยคะ

- วันไปศาลนี่เราต้องเอาเอกสารอะไรไปบ้างคะ

- ถ้าเรื่องถึงขั้นศาลพิพากษามาแล้ว เรายังสามารถผ่อนจ่ายได้อยู่หรือต้องก้อนเดียวจบคะ

ตอนนี้เครียดเรื่องหนี้บ้าง เรื่องค่าเทอมบ้าง เรื่อง IS บ้างสลับๆกันไปค่ะ แต่กำลังใจยังดีอยู่

ช่วงนี้ฝนตกทุกวันระวังสุขภาพนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #23373 โดย Nok2865
-ไปปรึกษาสวนลุม มีหมายศาลไปก็พอค่ะ หรือคุณจะทำโน้ตสำหรับตัวเองและคุณอา กับคุณเชาวเลิศ (กรรมการที่ไปประจำสวนลุม) ว่ามีหนี้อะไรบ้าง แยกแยะออกมาให้เห็นชัดๆ รายได้สุทธิเท่าไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

-วันไปศาลเอาแค่บัตรประชาชน ไปก็พอ จะติดหมายศาลไปด้วยก็ไม่แปลกค่ะ
หรือจะไปอ่านที่พี่นกกระจอกเทศเขียนเอาไว้ดังนี้

นกกระจอกเทศ เขียน: ถาม : การไปศาล จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรหรือไม่
ตอบ : ค่าใช้จ่ายในการไปขึ้นศาล มีดังนี้ครับ

- ค่าเดินทางในการไปศาล (เช่น ค่ารถเมล์ , ค่ารถแท๊กซี่ , ค่าจ้างวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง...ฯลฯ)

- ค่าอาหารกลางวัน ถ้าบังเอิญติดช่วงพักเที่ยง (เช่น ค่าข้าวราดแกง , ค่าก๋วยเตี๋ยว , ค่าอาหารตามสั่ง ที่สามารถซื้อได้จากในโรงอาหารของศาล)...ยกเว้น คุณจะหิ้วปิ่นโตไปเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย

- ค่าขนม/ของกินเล่น หลังจากทานอาหารแล้ว หากคุณเป็นคนที่ชอบกินของหวานหลังจากกินข้าว (เช่น น้ำแข็งใส , ลอดช่อง , เฉาก๊วย , ผลไม้ต่างๆ)...ยกเว้น คุณจะหอบหิ้วเอา ขนม/ผลไม้ ไปกินเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย

- ค่าน้ำดื่มเวลากระหายน้ำ (เช่น น้ำโอเลี้ยง , กาแฟเย็น , น้ำอัดลม , น้ำขวดต่างๆ...ฯลฯ ที่สามารถซื้อได้จากในโรงอาหารของศาลเช่นกัน)...ยกเว้น คุณจะหิ้วกระติกน้ำไปเอง อันนี้ ก็ไม่ต้องเสีย

- ค่าซื้อบุหรี่ หากคุณเป็นคนที่ชอบสูบบุหรี่ในยามว่างหรือยามเหงาปาก แล้วบุหรี่ดันหมดพอดี

- ค่าเบี้ยปรับในการสูบบุหรี่ หากคุณเป็นคนที่ชอบ"สูบบุหรี่"ไม่เป็นที่เป็นทาง แล้วดันทะเล่อทะล่าไปสูบในอาคารที่เขามีป้ายเขียนเอาไว้ว่า"ห้ามสูบบุหรี่" คุณก็จะต้องเสียค่าปรับในส่วนนี้ด้วย

- ค่าซื้อล็อตเตอรี่ หากคุณเป็นคนที่ชอบเล่นหวย (จะมีพวกที่ขายล็อตเตอรรี่ เดินขายกันเพ่นพล่านอยู่หน้าศาลเต็มไปหมด ตั้งแต่ประตูทางเข้า-ออก , ลานจอดรถ ไปจนถึงบันไดทางขึ้นศาล) ถ้าหากคุณใจอ่อน และเป็นคนประเภท"คอหวย"อยู่แล้ว คุณก็จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาด้วย



ค่าใช้จ่ายต่างๆในการไปขึ้นศาล...ก็มีประมาณนี้แหละครับ
.


-ถึงขั้นไปศาล ถ้าคุณไกล่เกลี่ยได้ หรือไปฟังเจ้าหนี้ให้ข้อเสนอที่คุณพอใจ คุณก็สามารถผ่อนได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นก้อนเดียวเสมอไป
หลายๆคนผ่อนไปได้ปี สองปี จึงแฮร์คัท หรือผ่อนได้สองสามเดือน ก็ขอแฮร์คัท เงินพร้อมเมื่อไหร่ หนี้ก็สามารถปิดจบได้เมื่อนั้น
กรรมการขอย้ำว่า "การเจรจาต่อรอง" เป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่าท้อ ลองตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยๆ
ถ้าวันนี้ข้อเสนอยังไม่ถูกใจคุณ แต่พอจะทำได้ ก็ลองผ่อนไปก่อน มีเงินก้อนเมื่อไหร่ก็ขอแฮร์คัทได้ตลอดค่ะ



มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ploylyly, BBNP, Lazio009

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #24133 โดย Ahliyah
รายงานผลการไปศาลกับยูโอบีวันนี้ค่ะ ครั้งแรกในชีวิต ไปคนเดียว เปรี้ยวมาก แม่จะไปด้วยก็ไม่ยอมให้ไป สรุปว่าเลื่อนไปได้อีกเดือนนึงค่ะ ทนาย เจ้าหน้าที่ศาลพูดจาดี นัดคราวหน้า 14 พ.ย. แล้วก็มีคำถามมาถามพี่ๆอีกแล้วค่ะ

- ยอดฟ้องของแอล 18x,xxx วันนี้ทนายบอกว่าถ้าจะผ่อนแบงค์ให้ได้ 18 งวด ถ้าพี่โอเค ก็ให้ศาลพิพากษาวันนี้เลย ซึ่งศาลอาจจะลดดอกเบี้ยให้ เงินที่ต้องจ่ายก็จะลดลงแต่ยังไงก็ไม่เกินยอดฟ้องแน่นอน พอคำพิพากษาไปถึงบ้านปุ๊บพี่ก็ยังไม่ต้องจ่ายเลยก็ได้ แต่ยังไงก็ให้ติดต่อไปยังธนาคารก่อนบังคับคดีซึ่งก็ประมาณหกเดือนหลังพิพากษา ฟังแล้วเคลิ้ม เกือบตกลง แต่สงสัยว่ามันจริงอย่างที่ทนายเค้าบอกรึเปล่าคะ มันฟังดูดีเกินไป งงตรงที่บอกว่า "ศาลอาจจะลดดอกเบี้ยให้" เรายังไม่ยื่นขอสู้คดีเลยนะ ศาลจะพิจารณาลดดอกเบี้ยจริงๆเหรอคะ ทนายโม้รึเปล่า แล้วก็ตรง "พอคำพิพากษาไปถึงบ้านปุ๊บพี่ก็ยังไม่ต้องจ่ายเลยก็ได้ แต่ยังไงก็ให้ติดต่อไปยังธนาคารก่อนบังคับคดีซึ่งก็ประมาณหกเดือนหลังพิพากษา" แบงค์ใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ ให้เรากอดคำพิพากษาเล่นๆหกเดือนเนี่ยนะ วานผู้รู้ตอบที่ค่ะ

- ถ้าเราให้เหตุผลในการขอเลื่อนว่าต้องการไปเจรจากับแบงค์ แต่ถ้าที่สุดเราเจราจาไม่ลงตัวเราเปลี่ยนใจสู้คดีในนัดสองได้มั๊ยคะ พอดีตอนขอเลื่อนเจ้าหน้าที่ศาลแกถามย้ำว่า ไม่ประสงค์สู้คดีใช่มั๊ยคะ แล้วแอลก็เผลอตอบรับไปแบบงงๆ (เหตุผลที่แท้จริงคือคุยกับทนายแล้วมึน ขอกลับมาตั้งหลักปรึกษากับชมรมก่อน)

- กรณีเปลี่ยนใจสู้คดีได้ ต้องยื่นคำร้องในนัดสองนี้เลยใช่มั๊ยคะ

อาทิตย์หน้าเจ้าหนี้รายอื่นๆคงกระหน่ำโทรมาฟังคำตอบ กลุ้มอยู่ค่ะว่าจะตอบยังไงดี เงินก้อนคงไม่มียันมกรา (จ่ายค่าเทอมหมด) ถ้าผ่อนยูโอบีต่อก็ยาวไปอีกปีครึ่ง จะรอกันไหวมั๊ยนั่น

คงต้องหาเวลาไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุมอีกที ตอนนี้ปั่นๆๆ IS แล้วก็พยายามหางานใหม่ให้ได้อยู่ค่ะ เผื่อยังไงจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น เอาใจช่วยแอลด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #24135 โดย Nok2865
คุณแอลไปอ่านในกระทู้นี้นะคะ พี่นกกระจอกเทศ อธิบายเรื่องความหมายของคำพิพากษา ได้ชัดเจนมากhttp://www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=2082 การบังคับคดีที่เขียนว่าภายใน 15 วัน มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเสมอไป การจ่ายและข้อตกลงหลังไปศาล คุณเก่งกับพี่นกช่วยกันตอบ

คุณอย่าไปเชื่อลมปากของเจ้าหนี้ ระแวงไว้เป็นดี เจ้าหนี้รายไหนๆ เขาก็อยากได้เงินคืนทั้งนั้น “ขึ้นอยู่กับความขยันของเจ้าหนี้” ว่าจะตามคดีของคุณหรือเปล่า
เหมือนที่พี่นกอธิบายไป...ไปอ่านอีกหลายๆรอบ
ส่วนคำถามของคุณที่ถามว่า ไปศาลรอบสอง ยื่นคำให้การสู้คดีได้ไหม “ต้องยื่นค่ะ” เพราะนัดแรกคุณเลื่อนเพื่อไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ คุณจะเอาเหตุผลอะไรไปบอกกับศาลในการนัดครั้งต่อไป
ถ้าคุณอยากซื้อเวลา คุณก็ต้องยื่นคำให้การสู้คดี เพื่อยืดเวลาไปอีกระยะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบอกไม่ได้ว่า ยืดได้นานแค่ไหน อาจจะได้แค่เดือนเดียวแบบนัดแรก หรืออาจจะได้หลายเดือนแบบที่คุณต้องการ ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของคดีในศาลนั้นๆ

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Lazio009

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #24534 โดย somcha78
ขอเขียนถึง UOB หน่อย
เพราะ คลุกคลี กับ UOB มาเกือบ 2 ปี

(เขียนจากประสบการณ์ที่เจอมาจริงๆ ทั้งในศาล นอกศาล
ทนายของเรา ทนายของโจทกฺ ได้คุยกับผู้ที่ถูกฟ้องเหมือนเรา ในศาล
คุยกันหลายครั้ง เพราะมาศาลหลายครั้ง )

ตั้งแต่ ประนอมหนี้ครั้งสุดท้ายไม่สำเร็จ คือ ธันวาคม 2553
ตอนนั้น เป็นหนี้เงินกู้+บัตรเงินสด+บัตรเครดิต ของ UOB รวมกันประมาณ
200,000 บาท

ก่อน ตุลาคม 2553 เป็นหนี้บัตรรวมกันทุกอย่าง ทุกสถาบัน ประมาณ 1 ล้านบาท

ถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนก็คงเหมือนๆ กัน

1 จิตตก
2 เครียด

3 คิดไปต่างนาๆ ทั้งเรื่อง
3.1 บ้านจะเป็นอย่างไร
3.2 เงินเดือนจะถูกยึดไหม
3.3 จะถูกฟ้องศาลเมื่อไหร่

4 อนาคตจะเป็นอย่างไร ครอบครัวจะเป็นอย่างไร

5 บางคนคิดไปถึง เครดิตบุโร ก็มี ซึ่งไม่น่าไปคิดถึงมันเลย
มาถึงขณะนี้แล้ว อยากให้ลืมการขอสินเชื่อไปเลย
ตัดหางปล่อยวัดไปได้เลย ลืมไปได้ หนี้ดีของเรา
เพราะ มันหมดไปตั้งแต่ มีเรื่องแล้ว
เลิกไปให้หมด สินเชื่อนั้นแหละ

ขอเข้าเรื่อง UOB

เดือน กันยายน 2553 จากหนี้ประมาณ 200,000 บาท
ประนอมหนี้ได้ 130,000 บาท แบ่งจ่าย 3 งวด
สังเกตุนะ UOB 2553 ลดให้แค่นี้จริงๆ พูดอย่างไร
ก็ได้แค่นี้ ลดไม่เยอะ

เราอยากปิด ทั้งที่งวดที่ 3 ไม่มั่นใจว่า จะหามาได้หรือไม่
จ่ายแบบขั้นบันได้ 30000 40000 60000

ปรากฏว่า งวดที่ 3 หามาปิดไม่ได้ ทั้งที่ 2 งวด จ่ายไป 7 หมื่นแล้ว

เชื่อไหมว่า เจ้าหน้าที่คนต่อๆมา มันไม่สนใจ หรือเข้าใจเจตนาของเรา
หรอกว่า ในอดีต เรามีความตั้งใจจะปิดอย่างไร
งวดสุดท้าย 60000 คุยกับมัน ขอยืดเป็น 3 งวด

มันไม่ยอม อ้างโน่น อ้างนี่ ส่งเอกสารมาใหม่
แล้วมันก็ไม่ยอมอนุมัติให้

ต่อมา มันส่งเรื่องเข้าผนกฟ้องศาล
จิตใจไม่นึกถึงห้ว อก ของลูกหนี้แต่อย่างใด

ขู่มาตลอดเวลาว่า ตอนนี้ ได้หลายเลขฟ้องมาแล้ว
เราก็ขอยอดส่วนลด เท่ากับงวด ที่ 3 60,000 บาท ได้ไหม

(เดือน มิถุนายน 2554 ยอดมันขึ้นไปเป็น 150,000 บาท
มันรวมทุกอย่างเข้าไปอีก ทั้ง ค่าปรับ ดอกเบี้ย ทวงถาม)

มันไม่ยอมท่าเดียว

ขู่อย่างเดียว

จนในที่สุด มันฟ้องศาล เดือน กรกฎาคม 2554

ให้ไปขึ้นศาล เดือน กันยายน 2554

เรามีความรู้สึกว่า เราอยากปิด แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ เราต้องสู้
เราต้องสู้ จะไม่ยอมมันเด็ดขาด ค่าทนาย เรื่องเล็ก
แต่จะไม่ยอมมันเรื่องการขู่ และเรื่องไม่เห็นอกเห็นใจกันเลย

ทั้งที่มันแดก ดอกเบี้ย เราไปเป็นแสนแล้ว
25 % 20 % 23 % 3 ใบ ( 5-7 ปี)

เป็นอะไร เป็นกัน กะสู้กันฎีกาเลย

ท่านคงสงสัยว่า แล้วมีประเด็นอะไรไปสู้มันหรือ(เราตั้งทนายส่วนตัวสู้)

1 อย่างแรก ก็คงดอกเบี้ยนั้นเอง
สู้ไปเถอะ คิดดอกเบี้ยผิด ผิดหรือไม่ผิด อีกเรื่อง
ถ้าสู้ ก็เรื่องนี้ เรื่องแรก (แต่สำหรับเรา UOB คิดผิดจริงๆ
เพราะตรวจสอบอย่างหนัก สิบรอบๆ แล้ว)

2 คิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่ระบุ

3 ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะ ไม่ได้มอบอำนาจกันจริงๆ

4 ฟ้องเครือคลุม

5 เอาเปรียบผู้บริโภค ถือว่าเป็นสัญญาไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 4(8)
พรบ ว่าด้วยข้อสํญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ 2540

ุ5 ดอกเนี้ย 20 % ถือเป็นดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม (ข้อนี้ กะหาข้อมูล
รวบรวมให้มากๆในศาลชั้นต้น เพื่อเอาไว้ฏีกาในข้อกฏหมาย)

ข้อนี้ ถ้าชนะ เป็นข่าวแน่นอน

6 มีอีก แต่เก็บไว้


ท่านคงทราบดีว่า ที 2554 มีน้ำท่วม
คดี UOB ของเรา เลื่อนไป 6 ครั้ง
จนสุดท้าย ได้ฤกษ์ สืบพยานนัดแรก พฤศจิกายน 2555

(ทนาย UOB ไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ ในศาล)

ได้แต่มาศาล และถามจำเลย ว่า จะจ่ายหรือยัง เมื่อไหร่
ครั้งที่1-3 ครั้ง ยังพอเลื่อนได้ แต่ครั้ง 4-5 ต้องมีเหตุผลมากหน่อย

เราก็เล่นบท พร้อมที่จะปิดตลอด แต่ต้องยอดที่เรายอมรับ
ถ้าทนายก็ใบ้ เพราะไม่มีอำนาจ ก็ต้องโยนกลับไปที่ UOB
โยนไป โยนมา อยู่อย่างนี้

สุดท้าย พอ UOB รู้ว่าเลื่อนครั้งที่ 6 สืบพยาน พ.ย 2555

ก็คิดหนัก

เราบอกว่า ถ้าสืบพยาน เราชนะเรื่องดอกเบี้ย 100 %

มันก็ยอม เรื่องดอกเบี้ยหมดเลย ไม่คิดแล้ว ตั้งแต่ ตุลาคม 2553


ขอแค่เงินต้นคืน (ยัง งก อยู่เหมือนเดิม)

ใจเรา อยากปิดให้จบไปตั้งนานแล้ว

ไม่เคยคิดจะยืดเยื้อมาขนาดนี้

แต่เป็นเพราะ UOB ไม่เห็นอก เห็นใจลูกหนี้ มากกว่า

สุดท้าย ก็ตกลงที่เงินต้น 100,000 จ่าย 4 งวด

เราก็ยอม จะได้จบกันไป

งวดที่ 4 จ่ายก่อนสืบพยาน ปลาย พ.ย 2555

ซึ่งไม่ปัญหาแต่อย่างใด สำหรับเรา


สุดท้าย ก็คือ UOB ต้องถอนฟ้องเรา ในที่สุด

จำหน่ายคดี ออกจากศาลไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น




(สำหรับ ดอกเบี้ย ที่ศาล ไม่น่าเกิน 12 % ศาลลดให้จริงจากที่ฟ้องมา)


ที่เขียนมาทั้งหมด เพื่อลูกหนี้ที่เป็นหนี้ทุกคน

ทุกอย่างมีทางออก สุดท้ายก็แค่หมดตัว และหาเงินใหม่ เพราะเรายังไม่ตาย

อย่าไปผ่อนดอกเบี้ย+ค่าปรับ+ค่าทวงถาม มหาโหด อีกต่อไป

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #24606 โดย Ploylyly
UOB ฟ้องแล้วคุยยาก เล่นตัว ต้องสู้อย่างนี้สิครับ สะใจโก๋

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #25084 โดย Ahliyah
ถูกค่ะ UOB โหดมาก วันที่ไปศาลก็เจอพี่คนนึงโดนคล้ายๆคุณ Somcha 78 เลย แต่เห็นพี่เค้าหงุดหงิดเลยไม่กล้าถามรายละเอียด

ที่แอลเจอกับตัวคือฟ้องงงๆค่ะ คือแอลมี 3 บัญชี หยุดจ่ายจริงๆแค่ 2 บัญชี อีกบัญชีชื่อแอลกู้ก็จริงแต่ที่บ้านเป็นคนจ่ายซึ่งเค้าก็ยังจ่ายปกติ

แต่ปรากฎว่าเวลาฟ้องมันฟ้องครบเลยค่ะ 3 บัญชี ซึ่งจริงๆจะว่าไปมันก็เป็นประโยชน์ต่อที่บ้านนะ จะได้หยุดจ่ายครบทุกบัญชีเก็บเงินไว้รอจ่ายทีเดียวเลย

แต่แอลก็ยังสงสัยอยู่ วันไปศาลเลยลองถามทนายดูว่าทำไมไม่ฟ้องแค่ 2 บัญชีซึ่งเป็นบัญชีที่หยุดจ่ายจริงๆ ทนายก็หน้ามึนๆ ตอบไม่ชัดถ้อยชัดคำไงก็ไม่รู้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #25131 โดย powerfully
นั่นซิคุณแอล ของ powerfully เอง ก็มี 3 บัญชี ตัวสินเชื่อบุคคล เหลืออีกแค่หมื่นกว่าบาท กะจะกัดฟันส่งให้หมด แต่คนทวงพูดจาน่าโมโห บอกพี่ต้องจ่ายทุกตัวนะ ถ้าพี่จ่ายตัวใดตัวหนึ่งเวลายกเลิกบัตรก็ต้องยกเลิกทั้งหมด คำพูดนี้ทำให้เราตัดสินใจหยุดจ่ายสินเชื่อบุคคลไปด้วยเลย ตอนนี้ไม่กลัวโดนฟ้องและไม่กลัวการไปศาล แต่ไม่อยากให้สถาบันแย่ ๆ แบบนี้ ได้เงินจากเราไปเร็ว อยากให้สถาบันอื่นที่เขาพูดจาดี แต่เราก็ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะคงเก็บเงินไม่ทัน แล้วมันก็ฟ้องเร็วด้วย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #27195 โดย Ahliyah
ตอนนี้แอลปวดหัวกะ UOB มากค่ะ เหมือนว่าเค้าใช้หลายแผนกดูแล วันนึงฝ่ายกฎหมายโทรมาเสนอให้ผ่อนจ่ายยอดพิพากษา 18 งวด อีกวัน มีอีกคนโทรมาให้แอลแฟกซ์บัตรประชาชนกับภาระหนี้เข้าไปแล้วจะทำเรื่องให้ 12 งวด แอลก็บอกว่าคุยกับฝ่ายกฎหมายไปแล้วนะคะ เค้าให้แอล 18 งวด นางก็เถียงคอเป็นเอ็นไม่ยอมท่าเดียว

สุดท้ายแอลต้องโทรไปเหวี่ยงกะฝ่ายกฎหมาย จะให้แอลฟังใครกันแน่ เรื่องเยอะปล่อยให้อายัดเงินเดือนซะเลยดีกว่ามั๊ยนั่น เฮ้อ...

พ้นช่วงทวงมหาโหดใช่ว่าชีวิตจะหายวื่นวือ เพลียมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29496 โดย Woravut8
ของผม UOB เป็นหมายตัวที่สอง ขึ้นนัดเเรกนี้ 22 มค 56 นี้ครับ ยอดฟ้อง 155xxx วันนี้มันโทรมา ให้เงินต้นที่ 100xxx ใครจะไหว ขอ 60000 มันไม่บอกว่าไม่ได้ ช่างมัน บอกมันไปเจอกันที่ศาลก็เเล้วกัน

อยากจัดหนักกับมันสะหน่อย เป็นกำลังใจให้นะครับสู้ๆๆไปพร้อมกันครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.199 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena