ได้หมายศาลมาแล้วค่ะ

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #20859 โดย สู้ยิบตา
ได้หมายศาลมาแล้วค่ะ was created by สู้ยิบตา
เป็นของบริษัท กรุงไทย ค่ะ ยอดเงินรวม 2 บัตร 1 แสนกว่าบาท

(เงินเดือนบัตรเครดิต 55,000+บัตรกดเงินสด 20,000) รวมนั่นนี่โน้น ยอดยื่นฟ้อง 1 แสนต้นๆ

ตอนนี้ไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ มีแต่เงินเดือนที่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เงินที่ใช้ระหว่างเดือนก็เงินแฟน ควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ

ควรจะบอกศาลว่าอย่างไรดี อยากผ่อนคืนเค้าน่ะค่ะ

1. มีแบบผ่อนนานที่สุด ผ่อนได้กี่ปี

2. จะขอความเมตตาต่อศาลเรื่องขอลดดอกเบื้ยได้หรือไม่

3. มีผ่อนแบบหยุดดอกเบี้ยหรือไม่คะ


อยากจะไปชมรมด้วยค่ะ จะไปวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ


ปล. หนี้บัตรเครดิตรายอื่นอีก 7 ใบ ใบละประมาณ 30,000-40,000 บาท ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #20862 โดย jackTs
.
ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=29

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #20863 โดย freedom_life
มาอีกหนึ่งราย ผู้เข้าร่วมเกมส์ 20 คำถาม :upset:

รู้จัก "กระทู้ปักหมุด" หรือเปล่า ???

หากรู้จักก็ลองไปกดๆ คลิกๆ เปิดอ่าน หากหาไม่เจอ ก็ลองใช้เครื่องมือ "ค้นหา"

ที่นี่ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป ไม่ใช่ call center ที่ถามปุ๊ปจะได้ตอบให้ทุกข้อสงสัย
ที่นี่ไม่ใช่ ศาล ถึงจะได้คาดเดาการพิจารณาหรือเลือกคำ พิพากษา ให้กับคุณได้ แต่หากอยากจะรู้คำตอบที่ถามมา 1-3
แต่ไม่อยากค้นหา อยากถามเอาให้ได้ไวๆ ก็ลองไปถามศาลท่านดูเอาเถิด

และก็คำถามที่ถามมา ไม่เห็นจะมีรายละเอียดหนี้ที่ถูกฟ้องเลยสักนิด มีแต่มูลหนี้ วันเวลาอะไรที่ยื่นฟ้อง ก็ไม่ได้บอกใครจะไปตรัสรู้กล้าตอบให้

คงได้ "สู้ยิบตา" ต่อไป
:sweat:

อ้อ !!! อ่านแล้วไม่ชอบคำตอบ หรือ อ่านแล้วบาดตาบาดใจ ก็ไม่เป็นไรนะ เหอๆ หนี้ใครสร้างมาเองก็ต้อง "แก้" ด้วยสมองและสองมือคนนั้นเองด้วย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #20886 โดย Pych
แนวทางการไปศาล ฉบับย่อของผม

1. เลื่อนนัดศาลเพื่อไปเจรจา Hair-Cut กับเจ้าหนี้ต่อ (เป็นการเลื่อนนัดปากเปล่าด้วยตัวจำเลยเอง จะเลื่อนได้ ประมาณ 1-2 เดือน เต็มที่ไม่เกิน 3 เดือน)
2. ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดี โดยเฉพาะถ้ามีประเด็นเรื่องหมดอายุความ หรือดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด(ปรึกษาคุณอาไพโรจน์ ที่ปรึกษาของชมรมหนี้ ติดต่อที่สายด่วนคนเป็นหนี้)
3. ทำประนอมยอมความหน้าศาล (มีเจ้าหนี้ที่ฟ้อง หรือมีโอกาสจะฟ้อง น้อยราย และมั่นใจว่าสามารถจ่ายได้ตลอดรอดฝั่ง)
4. ให้ศาลท่านพิพากษาเลย หลังจากคุณได้รับคำพิพากษาแล้ว คุณจะ
4.1 หักคอจ่าย (เจรจากับโจทก์ไม่ลงตัว แต่ก็ฝืนที่ะจ่ายให้เจ้าหนี้เข้าไป โดยยอดที่ชำระ ต้องชำระภายใน 15 วันหลังจากได้รับคำพิพากษา และเป็นยอดที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อคุณได้คำพิพากษา ผมจะช่วยคำนวณให้คร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่รับประกันว่าโจทก์จะไม่ไปอายัดเงินเดือนต่อหรือไม่ - เป็นวิธีที่ต้องวัดดวงเอา)
4.2 เจรจากับโจทก์เพื่อขอจ่ายแบบผ่อนชำระ xx งวดๆ ละ xxxx บาท (โจทก์จะยื่นข้อเสนอให้ผ่อนเท่ากันเป็นงวดๆ หรือเป็นขั้นบันได อาจจะปลอดดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยก็จะไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)
4.3 รอให้โจทก์ไปทำเรื่องให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีเงินฝาก สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ (การอายัดเงินเดือนจะทำได้ทีละเจ้าหนี้ๆ ที่ฟ้องทีหลัง ต้องรอจนกว่าเจ้าแรกได้รับชำระจนครบ หรืออาจไปสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์แทนเลย และข้าราชการจะไม่โดนอายัดเงินเดือน)

ขอนำแนวทางการไปศาลของคุณเก่ง Familyman ที่แนะนำไว้ ดังนี้ครับ

เมื่อได้รับหมายศาลแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง

1.ให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆในหมายศาล ดังนี้
- ดูว่าจะฟ้องที่ศาลไหน กำหนดวันขึ้นศาลเมื่อไร จะได้จัดตารางได้ถูกต้อง หากจำเป็นต้องลาล่วงหน้าจะได้แจ้งหัวหน้าไว้ก่อน
- ดูรายละเอียดเกี่ยวกับยอดหนี้ของคุณ เช่น ยอดตอนที่คุณหยุดจ่ายเท่าไหร่ และยอดที่ทางเจ้าหนี้ยื่นฟ้องว่าเป็นยอดทั้งหมดเท่าไหร่ เงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไหร่
- หากเจ้าหนี้เค้าฟ้องศาลพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของคุณ ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ (เนื่องจากคดีผู้บริโภคต้องฟ้องพื้นที่ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้น)

2.ตรวจสอบดูว่าทางเจ้าหนี้ฟ้องเกินอายุความฟ้องหรือไม่ โดยบัตรเครดิตอายุความฟ้อง 2 ปี ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความฟ้อง 5 ปี นับจากวันที่คุณผิดนัดชำระครั้งแรก.... หากเกินอายุความก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ หรือถ้าเกิดมีผีหยอดเงินเข้าไปเพื่อต่ออายุความให้คุณ ทั้งๆที่กำลังจะหมดอายุความแล้ว แบบนี้ก็สู้เหมือนกันครับ (แต่จะต้องทำอย่างไรไปหาอ่านในกระทู้เก่าเอง)

3.พิจารณาตัวคุณเองในเรื่องต่างๆ ดังนี้
-ว่ามีเงินก้อนในมือหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
-หากไม่มีเงินก้อนในมือมีความสามารถในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนมากน้อย
-มีหนี้ที่ได้รับหมายศาลมากน้อยเท่าไหร่ หนี้ที่ฟ้องแล้วอยู่ในระหว่างขั้นตอนใดบ้าง
-ในอนาคตอันใกล้จะได้รับเงินก้อนเข้ามา เช่น โบนัส หรือไม่ จำนวนเท่าไหร่

4.พิจารณาว่าทางเลือกต่างๆ และกำหนดจุดยืนที่เหมาะสมกับตัวคุณ โดยมีทางเลือกต่างๆดังนี้

4.1ไปเพื่อเจรจาหน้าศาล ขอ Haircut ปิดบัญชี
การไปเจรจา Haircut หน้าศาล เมื่อคุณไปศาล ทนายโจทก์จะเข้ามาพบคุณเพื่อเสนอเงื่อนไขของทางโจทก์ว่ามีอะไรบ้าง คุณก็สามารถเจรจาเพื่อขอส่วนลดปิดบัญชีได้ ในการเจรจานั้นบางทีก็สามารถเจรจากับทนายโจทก์ได้เลย แต่บางทีหากทนายโจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจในการเจรจากับลูกหนี้มา ทนายโจทก์ก็จะให้เบอร์ติดต่อเพื่อให้คุณโทรติดต่อไปเจรจาตอนนั้น หากได้ส่วนลดที่คุณต้องการ และเงินก้อนในมือพร้อมคุณก็สามารถทำการ Haircut ได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนในมือพร้อมเท่านั้น

4.2 ไปเพื่อเจรจาหน้าศาลผ่อนชำระเป็นงวดๆ
กรณีนี้จะคล้ายกับกรณี 4.1 เพียงแต่กรณีนี้คุณไม่มีเงินก้อนในมือ คุณก็สามารถเจรจาขอผ่อนชำระได้ หากข้อเสนอที่ฝ่ายโจทก์เสนอมา คุณคิดว่าคุณสามารถผ่อนชำระได้ คุณก็สามารถทำยอมหน้าศาลได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินเหลือสำหรับใช้หนี้ในแต่ละเดือนมากพอใน ระดับนึง และมีหนี้ที่ทยอยฟ้องไม่กระชั้นชิดกัน แต่กรณีนี้มีข้อเสียคือ หากคุณทำยอมหน้าศาลแล้ว และต่อไปคุณเกิดปัญหาด้านการเงินจนผ่อนไม่ไหว เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำเรื่องฟ้องอีกครั้ง

4.3ไปเพื่อขอเลื่อนนัดศาล
การไปขอเลื่อนนัดพิจารณา คุณสามารถทำได้โดยไปศาลและแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนพิจารณาคดี ซึ่งการขอเลื่อนคุณต้องเตรียมเหตุผลไปให้ดี เช่นคุณแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนเพื่อสู้คดี ศาลท่านจะถามคุณว่าคุณจะสู้ในประเด็นอะไร ดังนั้นคุณต้องทำการบ้านไปพอสมควร แต่ผมแนะนำว่าควรจะใช้เหตุผลว่าขอเลื่อนเพื่อไปเจรจาต่อรองกับโจทก์อีกครั้ง นึงจะดีกว่า ส่วนศาลท่านจะเลื่อนนัดให้คุณมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับศาลแต่ละพื้นที่ หากเป็นศาลพื้นที่ที่มีคดีเยอะคุณก็อาจได้เลื่อนนัดไปได้นาน มีเพื่อนคนนึงในเวปสามารถขอเลื่อนนัดได้เกือบ 10 เดือนเลยครับ แต่กรณีของผมขึ้นศาลแขวงธนบุรี ศาลท่านจะให้เลื่อนนัดได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อศาลท่านเลื่อนนัดให้คุณ คุณก็สามารถเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ได้ หาก Haircut ได้ก็ Haircut ไป แต่ถ้า Haircut ไม่ได้จริงๆ เมื่อถึงกำหนดนัดศาลอีกครั้ง และคุณต้องการจะสู้คดี คุณก็สามารถสู้คดีได้ ข้อดีของกรณีนี้คือคุณสามารถยืดเวลาออกไปได้ เหมาะสำหรับคนที่เก็บเงินใกล้ที่จะ Haircut ได้ หรือในอนาคตอันใกล้จะมีเงินก้อน เช่น โบนัสเข้ามา
ป.ล.ปัจจุบันนี้เนื่องจากการฟ้องร้องคดีบัตรเครดิตและสินเชื่อ เปลี่ยนจากใช้ วิ.แพ่งมาเป็น วิ.ผู้บริโภค ดังนั้นการขอเลื่อนนัดศาลจะขอเลื่อนไม่ได้นานเหมือนสมัยก่อน

4.4ไปเพื่อสู้คดี
การสู้คดีนั้นสามารถไปยื่นคำให้การด้วยวาจา หรือโดยลายลักษณ์อักษร ก็ได้ แต่แนะนำว่าควรยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และควรจะให้ทนายหรือผู้รู้เป็นผู้ร่างคำให้การ คุณไม่ควรที่จะเอาคำให้การสู้คดีของผู้อื่นมาดัดแปลง เนื่องจากว่าคดีต่างกัน ประเด็นต่อสู้ทางกฎหมายก็ต่างกัน การสู้คดีมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นคุณต้องดูก่อนว่าคดีของคุณเป็นคดีอะไร มีประเด็นที่สามารถต่อสู้ได้หรือไม่ และถ้าสู้แล้วสิ่งที่ได้กับสิ่งที่เสีย คุ้มกันหรือไม่ ข้อดีของการสู้คดีคือมูลหนี้ที่ฟ้องลดลง และคุณมีเวลาเก็บเงินเพื่อ Haircut เพิ่มขึ้น หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คุณยังสามารถเจรจา Haircut ได้อีก แต่ข้อเสียคือ หากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว และคุณยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้
คดีบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าสู้คดี เนื่องจากสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยค่อนข้างถูกต้องแล้ว ถึงสู้คดีไปก็อาจได้ลดมูลหนี้ที่ฟ้องไม่มาก ซึ่งไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ส่วนคดีสินเชื่อส่วนบุคคลของนอนแบงก์แนะนำว่าน่าจะสู้คดีครับ โดยเฉพาะควิกแคซ
ป.ล. ถ้าต้องการสู้คดี นัดแรกที่คุณไป คุณต้องไปยื่นคำให้การสู้คดีทันที

4.5ไปเพื่อขอความเมตตาจากศาลท่าน (ไม่สู้คดี)
กรณีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่โดนเจ้าหนี้หลายๆรายฟ้องพร้อมๆกัน ไม่มีเงินก้อนในมือ คาดว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้แน่นอน ถึงจะยืดเวลาออกไปก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก เป็นคดีที่ไม่มีประเด็นต่อสู้ ซึ่งคิดว่าการอายัดเงินเดือนเป็นทางออกทางเดียว กรณีนี้หากคุณไม่ลำบากในการไปศาลมาก ก็ไปศาลเพื่อขอความเมตตาจากศาลขอให้ศาลท่านเมตตาตัดในส่วนของดอกเบี้ยผิดนัด ชำระหรือค่าปรับลง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี กรณีนี้คุณต้องดูด้วยนะครับว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรหรือไม่

*************************************************************

ลองตัดสินใจดูว่า คุณจะเลือกแนวทางไหน


ไปศาล --- คลิ๊กที่ชื่อกระทู้ได้เลยครับ

หมายศาลจะถูกส่งไปที่ไหน

ความหมายของวันนัดไปศาล

หมั่นเช็คหมายศาล เพื่อป้องกันการแอบฟ้องจากเจ้าหนี้

ไปศาลแนวทางการจะไปศาล คุณเก่งFamilyManแนะนำดีมาก

ยอดฟ้องคิดจากยอดไหน พี่นกกระจอกเทศสอนว่าไปศาลแล้ว “อย่ามีปากไว้กินข้าวต่อหน้าศาล”

แนวทางการไปศาล

ข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง ที่ลูกหนี้ควรศึกษา

เวปศาลในประเทศไทย

ปิดหนี้ได้ก่อนไปขึ้นศาลอีกรอบ ต้องไปศาลอีกไหม

จ่ายกับแบงค์เป็นงวดๆในระหว่างฟ้องกันอยู่ แต่ยังไม่ครบ ต้องไปศาลไหม?

ไปศาลไม่ใช่แค่ทนายเท่านั้นที่ควรระวัง ของคุณ wijin

อธิบายเรื่องศาลจำขัง คดีแพ่งจะติดคุกไหม

การบังคับคดีที่เขียนว่าภายใน 15 วัน มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเสมอไป การจ่ายและข้อตกลงหลังไปศาล คุณเก่งกับพี่นกช่วยกันตอบ

ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 บริษัทเป็นจำเลยที่ 2 บริษัทต้องรับผิดชอบไหม

ข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง ที่ลูกหนี้ควรศึกษา

ขอบเขตอำนาจศาลปี 55

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #20948 โดย สู้ยิบตา
ศาลนัดวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ที่ศาลแขวงนนทบุรีค่ะ

ทะเบียนบ้านเราอยู่อำเภอบางบัวทอง


ที่คิดไว้คืออยากจะขอทะยอยจ่าย แต่ก็เกรงว่าจะไม่ไหวเหมือนกันค่ะ

อยากจะหักคอจ่ายจะได้จบๆ ไป ก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น

หยุดจ่ายบัตรกดเงินสดเมื่อเดือนธันวาคม 2553

หยุดจ่ายบัตรเครดติเมื่อมกราคม 2554

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #20950 โดย ntps
ตกลงว่า อ่านที่น้องอนาคินเขาวางไว้ให้หรือเปล่าค่ะ
:เฮ้อ: แต่ดูท่า จะไม่ อย่าเพียรหาคนที่จะบอกว่า
ต้องทำอะไร เพราะไม่มี มีแต่คุณเท่านั้นที่ต้องคิดว่า
อ่านแนวทางที่เขาบอก เลือกสิ่งที่ทำได้มากที่สุด
คำนวนเงินตัวเอง ความสามารถตัวเอง และยอมรับ
ความจริง การกอดหลายๆสิ่ง ไว้เป็นเจ้าข้าวเจ้า
ของเขา โดยไม่ปล่อยบ้าง มันหนัก มันเหนื่อยนะ
เกิดมาเรามาตัวเปล่า ทำไมวันนี้คุณจึงทำตัวให้ว่าง
เปล่าไม่ได้ละค่ะ
ช่วยไปอ่านเรื่องการอายัดเงินเดือนดีกว่าไหมค่ะ




ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: freedom_life

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21008 โดย สู้ยิบตา
คุณ kaewja

อ่านหมดแล้วค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21658 โดย สู้ยิบตา
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบัตรที่เข้ามาพบถึงบริษัท

ทั้งๆ ที่อ่านวิธีรับมือไว้แล้วเชียวนะ ยังจะตกใจ ใจเต้นโครมๆ

สู้ยิบตา : เลยบอกเค้าไปว่าถ้าพี่มี พี่ก็จ่าย แต่ตอนนี้พี่ยังไม่มี

พวกทวงหนี้ : เค้าก็ยังจะดื้อดึง ไม่งั้นพี่จะติดบัญชีดำนะ ลองหามาจ่ายได้ถึงวันพฤหัส

สู้ยิบตา : เลยบอกไปว่า จะติดก็ติดไปเลยแบล็คสีส พี่ไม่กลัว แต่ถ้าพี่เอาเงินไปจ่ายน้อง แล้วพี่ไม่มีเงินมาทำงาน พี่ตกงาน แล้วน้องจะทำยังไง

พวกทวงหนี้ : ถามไปแบบนี้เค้าถึงกับอึ้ง บอกเราว่า นะพี่ช่วยผมหน่อย

สู้ยิบตา : รับปากไปว่า จะลองหาดู ตัดรำคาญ ไม่ยอมไปสักที


สรุป : มันบอกว่าเราไม่รับสายมัน (จริงๆ รับบ้างไม่รับบ้าง) มันเลยต้องมาหาที่ทำงาน เอาใบเร่งให้ชำระมาให้

ปล. แนบไฟล์ไม่ได้ กดแล้วมันไม่ขึ้นค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21671 โดย Ploylyly
หุหุ เก็บไว้เป็นประสบการณ์ชีวิตครับ

ช่วยให้เรามีชีวิตชีวามากขึ้น เอิ๊กๆ

ใครจะไป ใครจะมาไม่ต้องสน ถ้าไม่มาทวงกับยามบริษัทเป็นพอ

เก็บเงิน รอเวลาHaircut อย่างเดียว

เป็นกำลังใจให้ครับ



ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21940 โดย สู้ยิบตา
ขอบคุณมากค่ะคุณ Goru

วันนี้มาอีกแล้วค่ะ สายจากเจ้าหนี้ โทรมาถามว่าจะปิดบัญชีก่อนขึ้นศาลมั้ย

เรา : ทำได้ด้วยเหรอคะ (บางครั้งการแกล้งไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน)

เจ้าหนี้ : ทำได้ครับ แต่เงินต้นลดไม่ได้นะครับ ลดได้เฉพาะดอกเบี้ย ตอนนี้ยอดฟ้องบัตรเครติดของคุณนั้น 73,000 บาท เงินต้นอยู่ที 55,000 บาท

ลดได้เฉพาะดอกเบี้ย 70% เท่ากับดอกเบี้ย 18,000 บาทลด 70% คงเหลือ 5,400 บาท บวกเงินต้น 55,000 เท่ากับถ้าคุณปิดบัญชี

ผมให้ได้ 2-4 งวด คุณสนใจจะปิดหรือไม่ครับ

เรา : สนใจมากค่ะ แต่ตอนนี้บอกตรงๆ เลยนะคะมีเงินแค่ 10,000 บาทเองค่ะ ถ้าจะขอปิดยอดอีกบัตรซึ่งเป็นบัตรกดเงินสด ยอด 20,000 ได้หรือไม่คะ
(อยากจะให้เค้าลดเหมือนกับที่เคยอ่านมา)

เจ้าหนี้ : ทำได้ครับ คือยอดเงินที่ฟ้องของคุณจะลดลงเท่านั้นนะครับ คุณควรจะไปศาลเพื่อไปยอมความ

เรา : ยอมความคือยังไงเหรอคะ

เจ้าหนี้ : เวลาคุณไปศาล พบทนาย ทนายจะมีเอกสารให้คุณลงชื่อเพื่อยอมความในการผ่อนระยะยาว ซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 36 งวด

เรา : ค่ะ แล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ ขอบคุณค่ะ



**********
**********


ขอปรึกษาหน่อยค่ะ เคยอ่านมาแต่ไม่แน่ใจ การปิดบัญชีบางคนบอกว่าได้ส่วนลด 50% คือลดเฉพาะดอกเบี้ยเหรอคะ
หรือว่าลดเงินต้นด้วย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21966 โดย Ploylyly
คุณสู้ยิบตา ครับ

การปิดบัญชีโดยมีส่วนลดที่ทางชมรมเรียกว่า Haircut
เราจะต่อรองเจรจาขอส่วนลดกันที่ ยอดหนี้หรือมูลหนี้ ณ ปัจจุบัน
เช่น ยอดหยุด 100,000 ผ่านไป 6 เดือน มีดอกเบี้ยรวมทั้งค่าติดตามทวงถาม เพิ่มเป็น 120,000
ดังนั้นให้เราเจรจาที่ยอดปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วทางพนักงานทวงหนี้ก็จะบอกเราว่า ตอนนี้คุณมียอดคงค้าง ณ วันนี้เป็นจำนวนเงินเท่านั้น เท่านี้ ชำระเข้ามาบ้างหรือยัง จะชำระได้เมื่อไหร่ สนใจประนอมหนี้มั้ย ผ่อนยาวๆ ดอกเบี้ย 10% หรือสนใจปิดบัญชีมั้ย ตอนนี้ทางบริษัทได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของลูกค้า มีส่วนลดในการปิดบัญชีให้ โดยทางเค้าจะบอกเป็นจำนวนเงินเข้ามา แต่ละที่จะเริ่มสตาร์ทไม่เหมือนกัน เช่น 30% บ้าง 40% บ้างหรือบางเจ้ามาจัดเต็มให้เลย 50%

พอเค้าเสนอมาเราก็ต่อรองไปได้เลยครับ ต่อเหมือนซื้อของตลาดนัดนั่นหล่ะครับ
ลดอีกหน่อยได้มั้ย ไม่ไหวจริงๆ มีเท่านี้จริงๆนะตัวเอง ไม่ได้โม้
ถ้าได้เท่านี้จะพยามยามหามาให้ ตอนนี้มีเท่านี้เดี๋ยวถ้าได้ยอดที่ตกลงจะไปขุดเงินที่ฝังไว้ในไหปลาร้าที่ใต้ถุนบ้านมาให้ :555:

โดยปัจจัยในการต่อรองก็คือเงินนั่นเอง โดยที่คุณต้องประเมินตัวเองก่อนว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าต่อรองจ่ายสิ้นเดือนจะมีเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ มีเจ้าหนี้ที่เราต่อรองอยู่ด้วยอีกมั้ย อันนี้หล่ะครับ ที่ผมเคยบอกไปในหลายๆกระทู้ว่า ต้องจัดทำรายการเงินสะสมออกมาไม่ว่าจะเป็นสมุดบันทึก หรือตารางเอ็กเซลในคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะมีประโยชน์ในการพยากรณ์เงินสะสมของตัวเอง เวลาต่อรองจะได้มั่นใจมากขึ้น ซึ่งผมจะบันทึกในเครื่องคอมที่ทำงานเลย เวลาต่อรองผมก็เปิดดูได้เลย และมีอีกตารางคือรายการหนี้บัตรต่างๆ เป้าหมายเป็น% ที่ผมตั้งไว้ 30% 40% 50% มันจะสะดวกมากในการต่อรอง เรามีเงิน และเป้าหมายส่วนลดอยู่ในใจแล้ว

ถ้าเราได้ข้อตกลงร่วมกันแล้วนั้นเค้าก็จะบีบเราอีกว่า ต้องจ่ายภายในวันนั้น วันนี้เท่านั้น
ให้เค้าออกเอกสารใบยืนยันเงื่อนไขปิดบัญชีโดยการแฟ็กซ์เข้ามา
พอเราได้รับเอกสารยืนยัน เราทำการตรวจสอบรายละเอียดที่ต้องมีประกอบไปด้วย

1. วันที่ออกเอกสาร
2. ชื่อ นามสกุล ที่ถูกต้องของเรา
3. เลขที่บัตร หรือเลขที่สัญญา (ให้ลงให้ครบทุกตัวเลข ไม่เอา XXXX )
4. เงื่อนไข
- ยอดหนีปัจจุบัน
- ส่วนลดในการปิดบัญชี
- จำนวนงวด (ถ้ามีการต่อรองมากกว่า 1 งวด)
- กำหนดวันที่ต้องชำระ
5. ผู้มีอำนาจในการลงนาม


และมีข้อความสำคัญที่คุณต้องอ่านเป็นข้อความเล็กๆ บรรทัดล่างหน้ากระดาษ จะเป็นการบอกว่าถ้าเลยกำหนดหรือผิดเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ ให้ถือว่าข้อตกลงนี้เป็นโมฆะ
อันนี้หล่ะครับถ้าคุณพลาดจ่ายขาด จ่ายไม่ครบ จ่ายเลยกำหนด ก็ชิบหายเลย เป็นอันว่าข้อตกลงเป็นโมฆะหรือว่างเปล่านั้นเอง ไอ้ที่ส่งมาแล้วก็เท่ากับว่านำไปลดยอดปัจจุบันเท่านั้น แล้วต้องเริ่มกระบวนการเจรจาใหม่ทันที :cry2:

แต่ส่วนที่คุณเจรจาอยู่นั้นอาจเป็นเป็นเพราะเค้ายื่นเรื่องฟ้องแล้ว เลยได้ส่วนลดน้อยก็เป็นได้
เพราะโดยส่วนใหญ่ถ้ายื่นเรื่องฟ้องแล้วเจรจายาก เนื่องจากเค้าได้ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อศาลไปแล้ว ซึ่งมันจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นค่ารถค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา ค่าทนาย ค่าศาลต่างๆ ประกอบกับคิดว่าถ้าฟ้องแล้วมักจะชนะหรือลูกหนี้ยอมความที่ยอดฟ้องหรือยอดเงินต้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ส่วนลดใดๆอีก ยังงัยก็ได้เงินอยู่ดี แต่ที่ผมพูดมาก็ไม่แน่เสมอไปเพราะบางที่เค้าก็ลดให้ก่อนฟ้อง 30% 40% ก็มี แล้วแต่ดวงแต่ต้องจ่ายภายในวันนี้ วันพรุ่งนี้เท่านั้น อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น อยากทำยอด อยากทำผลงานภายในสิ้นเดือน สามารถเคลียร์กับลูกหนี้โดยมีเป้าหมายที่ทางบริษัทวางไว้ เพื่อได้ค่าคอมมิชชั่น หรือาจมีการปรับตำแหน่ง เป็นsupper visor ก็เป็นได้

ส่วนที่ฟ้องร้องก็อย่าเพิ่งกลัวอะไร เพราะการไปศาลนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราไม่ได้ไปข่มขืนยายขายกล้วยแขกหรือปล้นร้านทองชั่ว เส็ง เคล็ง ซักหน่อย เป็นเพียงแค่คดีผู้บริโภค พอฟ้องร้องก็เข้าสู่กระบวนการ ไกล่เกลี่ย ถ้าตกลงได้ก็ยอมความหน้าศาล หรือถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็สู้คดีกันไป ก็ดูอีกทีว่าจะสู้ประเด็นไหน สู้เรื่องดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฏหมายหรือคำประกาศของทางธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดมั้ย ดอกเบี้ยทบต้น ทบดอก หรือเราตรวจสอบว่ามันเกินอายุความแล้วเราก็สู้เรื่องประเด็นหมดอายุความได้เช่นกัน โดยที่เราต้องยื่นเรื่องเขียนคำให้การต่อสู้คดีบนเอกสารทางศาลแบบฟอร์มที่มีตราครุฑ ซึ่งผมแนะนำให้ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านนี้เป็นผู้เขียนให้ดีกว่าครับ เช่นทนาย เพราะต้องใช้ภาษาทางกฏหมาย และต้องมีการเบิกพยานเอกสารต่างๆ เราก็ต้องแต่งตั้งทนายด้วย อันนี้พอถึงเวลาก็สามารถไปปรึกษาคุณอาทนายที่ปรึกษาชมรมที่สวนลุมวันอาทิตย์ได้ครับ

โชคดีครับ หวังว่าประโยคบอกเล่าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆสมาชิก และศิษย์ร่วมสำนักทั้งหลายนะครับ

:bye:


ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21987 โดย unlimited
ได้เอกสารส่วนลด H/C แบบผ่อน 3 งวด ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดจ่ายงวดแรก แล้วยังต้องไปศาลตามหมายนัดแรกอีกมั้ยคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22040 โดย tanitra
เราว่าควรไปนะคะ เพื่อที่เราจะได้ไม่เป็นคนหนีศาล

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22048 โดย Ploylyly

unlimited เขียน: ได้เอกสารส่วนลด H/C แบบผ่อน 3 งวด ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดจ่ายงวดแรก แล้วยังต้องไปศาลตามหมายนัดแรกอีกมั้ยคะ


ไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้ครับ :laughing:

ไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น :เฮ้อ:
โดยการนำหนังสือยืนยันส่วนลดที่ตกลงกับทางแบ็งค์ ให้ท่านผู้พิพากษาเป็นพยาน

ถ้าไม่ไปก็ได้ เพียงแต่คุณชำระเข้าไป ตามข้อตกลงในหนังสือยืนยันส่วนลด ไม่จ่ายขาด ไม่จ่ายล่าช้า
แล้วเก็บใบสลิป ถ้าเป็นคาร์บอนด์ของ เซเว่น ก็ให้นำไปถ่ายสำเนาเก็บเอาไว้ ทำอย่างนี้ครบ 3 งวด
แล้วเก็บใบยืนยันแม็กรวมกันกับใบเสร็จที่ชำระแต่ละงวด แค่นี้ก็เป็นไม้กันหมาได้แล้วครับ :No:

ส่วนทางศาลเดี๋ยวทางทนายโจทย์ จะถอนไปเองครับ :pray:

แต่ถ้าเป็นผมสะดวก ไม่ลำบากจนเกินไป
ผมไปแน่ครับ การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เสียเวลาอยู่ในศาลแค่ 2-3 ชั่วโมงเอง

โชคดีครับ ศิษย์น้องร่วมสำนัก
:ลั่ลล้า:

ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22185 โดย unlimited
ขอบคุณมากค่ะ

ต้องไปขึ้นศาลต่างจังหวัด ซึ่งช่วงนี้ลางานลำบากมากค่ะ

แต่ถ้าไม่ไปก็กลัวว่าจะศาลจะพิพากษาตามฝ่ายโจทย์เป็นยอดเดิมก่อนลด

ซึ่ง ต้องไปศาลวันที่20 กย. แต่ใบH/C กำหนดให้จ่ายไม่เกิน 28 กย.
จึงสงสัยว่าถ้าเราจ่ายหลังวันนัดศาล แล้วศาลจะรู้ได้อย่างไรว่าเราตกลงH/Cกันแล้ว เกิดฝ่ายโจทย์ไม่แจ้งต่อศาลว่าตกลงH/Cกัน

ซึ่งก็ต้องเก็บหลักฐานการชำระวันที่28ไว้ และทุกงวดไว้ต่อสู้อีกครั้ง หรือจ่ายเข้าไปวันที่19 ก่อนเลยดีคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22194 โดย Ploylyly

unlimited เขียน: ขอบคุณมากค่ะ

ต้องไปขึ้นศาลต่างจังหวัด ซึ่งช่วงนี้ลางานลำบากมากค่ะ

แต่ถ้าไม่ไปก็กลัวว่าจะศาลจะพิพากษาตามฝ่ายโจทย์เป็นยอดเดิมก่อนลด

ซึ่ง ต้องไปศาลวันที่20 กย. แต่ใบH/C กำหนดให้จ่ายไม่เกิน 28 กย.
จึงสงสัยว่าถ้าเราจ่ายหลังวันนัดศาล แล้วศาลจะรู้ได้อย่างไรว่าเราตกลงH/Cกันแล้ว เกิดฝ่ายโจทย์ไม่แจ้งต่อศาลว่าตกลงH/Cกัน

ซึ่งก็ต้องเก็บหลักฐานการชำระวันที่28ไว้ และทุกงวดไว้ต่อสู้อีกครั้ง หรือจ่ายเข้าไปวันที่19 ก่อนเลยดีคะ



จ่ายวันที่ 19 หรือวันที่ 28 ก.ย. มีค่าเท่ากันครับ แล้วคุณโทรไปตรวจสอบกับแบ็งค์โดยตรงแล้วหรือยังครับ ว่ามีเงื่อนไขนี้ ที่ทางตัวแทนโจทย์ยื่นข้อเสนอมา ถ้าข้อมูลตรงกันทั้ง 2 จุด ก็อุ่นใจได้ระดับหนึ่งแล้วครับ

โชคดีครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22204 โดย unlimited
เอกสารที่ได้มาจากCitiadvance หัวเอกสารของCiticorp ค่ะ
ผู้ที่คุยบอกว่าเป็นฝ่ายประนอมหนี้ และลงชื่อในเอกสารคือผู้จัดการฝ่ายเร่งรัดหนี้สิน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #25537 โดย สู้ยิบตา
เป็นหนี้ KTC 2 ใบค่ะ บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ยอดฟ้อง 103,000 บาท

ไปทำยอมที่ศาลจ่ายที่ 1,500 บาท 3 ปี ดอกเบี้ย 10%

แต่ที่สงสัยคือการไปจ่ายเงิน ทนายแจ้งว่าให้ไปจ่ายที่เค้าเตอร์ธนาคารกรุงไทยได้เลย

ดิฉันจะต้องมีเลขที่บัตรทั้ง 2 ใบแล้วแจ้งจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ได้เลยใช่หรือไม่คะ


ขอสอบถามการจ่ายเงินที่ถูกต้องหน่อยค่ะ ว่าจะต้องจ่ายยังไง

หรือเราจะต้องติดต่อฝ่ายสินเชื่อเพื่อขอเอกสารมาจ่ายเงินคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #25538 โดย Pych

ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 5 เดือน ที่ผ่านมา #25539 โดย Pych

สู้ยิบตา เขียน: เป็นหนี้ KTC 2 ใบค่ะ บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ยอดฟ้อง 103,000 บาท

ไปทำยอมที่ศาลจ่ายที่ 1,500 บาท 3 ปี ดอกเบี้ย 10%

แต่ที่สงสัยคือการไปจ่ายเงิน ทนายแจ้งว่าให้ไปจ่ายที่เค้าเตอร์ธนาคารกรุงไทยได้เลย

ดิฉันจะต้องมีเลขที่บัตรทั้ง 2 ใบแล้วแจ้งจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ได้เลยใช่หรือไม่คะ


ขอสอบถามการจ่ายเงินที่ถูกต้องหน่อยค่ะ ว่าจะต้องจ่ายยังไง

หรือเราจะต้องติดต่อฝ่ายสินเชื่อเพื่อขอเอกสารมาจ่ายเงินคะ


ดูในสัญญาประนอมยอมความก่อนครับว่า
ให้จ่ายบัตรเครดิตเท่าไหร่ และบัตรกดเงินสดเท่าไหร่ต่อเดือน
แล้วก้ไปจ่ายที่ธนาคาร โดยกรอกหมายเลขบัตรลงไปในแบบฟอร์มได้เลยครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.003 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena