Haircut,ปรับโครงสร้าง,ขึ้นศาล กับเจ้าหนี้ 9 ราย

มาแชร์ประสบการณ์หนี้ค่ะ เรามีทั้งหมด 9 ราย แต่ละรายก็จะจ่ายขั้นต่ำหมด จนเริ่มไม่ไหวตอนกลางปี 59 ค่ะ จึงเริ่มปฏิบัติการ แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเรามีทรัพย์สินคือบ้านเป็นชื่อเรา ที่ยังผ่อนกับธนาคารออมสินอยู่ค่ะ และเราไม่สามารถจะโอนย้ายไปให้ใครได้ค่ะ เลยต้องยอมปรับโครงสร้างหนี้เกือบทุกเจ้าค่ะ มาดูกันค่ะ
1. - บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ 59,000 จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 5,900
- ต้นปี 60 ได้โบนัสเคลียร์หมด แล้วยกเลิกบัตรเลย >> จบ

2. - บัตรเครดิตซิตี้แบงค์ M วีซ่า 32,000 หยุดจ่ายเดือน ก.ค.59
- พ.ย.59 ขอส่วนลดได้เหลือจ่าย 24,000
- รอหนังสือยืนยันการปิดยอด ถึงค่อยไปจ่าย บัตรเครดิตก็ถูกยกเลิกไปอัตโนมัติ >> จบ
- ป.ล. พนง.ทวงหนี้เจ้านี้ โทรจากซิตี้แบงค์คอนซูเมอร์ เท่าที่เรารับสาย พูดจาดี อ่อนหวาน และไม่จิกค่ะ 2-3 วันโทรมาครั้งนึง แต่ก่อนหน้านี้หลายเดือน โทรมาจาก B.E.S อะไรเนี่ย โทรวันละ 3รอบ และน้ำเสียงไม่ค่อยน่ารักค่ะ

3.- บัตรเครดิตกสิกรไทย 37,000 จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 3,700
- เก็บเงินได้สองเดือน ก็เอาไปเคลียร์หมด แต่ยังเก็บบัตรใบนี้ไว้ใช้ยามจำเป็นค่ะ >> จบ

4. - ซิตี้คอร์ปลีสซิ่ง สินเชื่อส่วนบุคคล 60,xxx จ่ายเดือนละ 4,974 หยุดจ่ายเดือน มิ.ย.59
- ธ.ค. 59 ได้ข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ จ่ายเดือนละ 2,474 ดอกเบี้ย 13% ต่อปีจากยอดเงินต้น
- ถือว่าพอรับไหว ดอกเบี้ยไม่เกิน15% เลยยอมปรับโครงสร้างค่ะ

5. - ซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด 105,000 จ่ายขั้นต่ำเดือนละ 7,200 หยุดจ่ายเดือน ก.ค.60
- ต.ค.60 ได้ข้อเสนอโครงการผ่อนสบาย จ่ายเดือนละ 2,000 ดอกเบี้ย10% ลดต้นลดดอกระยะเวลา 1 ปี
- หลังจากนั้นค่อยตกลงกันใหม่ ว่าจะยังไงต่อ ก็เลยตัดสินใจยอมรับข้อเสนอนี้ไปค่ะ อนาคตค่อยว่ากัน

6. - ทหารไทย สินเชื่อส่วนบุคคล 140,xxx จ่ายต่อเดือน 5,730 หยุดจ่ายเดือน พ.ค.59
- ธ.ค.59 ได้ข้อเสนอปรับโครงสร้าง ข้อแรก - ลดดอกเบี้ยให้ 100% ของ 3 งวดที่ค้าง (5,310 x 3 = 15,930) จ่ายแต่เงินต้นเข้าไป 9,000
- หลังจากนั้น จ่ายเดือนละ 2,100 ดอกเบี้ย MLR 6.775% ระยะเวลา 7 ปี คิดจากยอดเงินต้น
- สำหรับเราถือว่าเป็นข้อเสนอที่เมตตากรุณามากเลยค่ะ จากที่ผ่อนหนักๆ ค่อยรู้สึกโล่งไปได้เปลาะหนึ่ง

7. - อีซี่บาย บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส 163,xxx จ่ายขั้นต่ำเดือนละประมาณ 5,500 หยุดจ่ายเดือน ก.ค.60
- ตัวนี้กดมาจ่ายตัวอื่นๆค่ะ ซึ่งผิดมากๆค่ะ หนี้ก้อนเก่าไม่จบ หนี้ก้อนใหม่งอกเงย
- ก.ย.60 ยอมเซ็นปรับโครงสร้าง จ่ายเดือนละ 4,100 ดอกเบี้ย 15% ต่อปีลดต้นลดดอก คิดจากยอดเงินต้น
- อีซี่บายนี่ขึ้นชื่อเรื่องโทรทวงหนี้จริงๆค่ะ คอนเฟริ์มโทรมาวันละ 4 ครั้ง เช้าสายบ่ายเย็น ไม่รับสาย พวกโทรเข้าออฟฟิศทันทีที่ว่าให้เบอร์ตรงที่โต๊ะทำงานไว้ รับเองตลอด ด่าทุกครั้งที่โทรมาที่ทำงาน เครียดและปวดประสาทมากค่ะ ไม่เป็นอันทำงาน

8. - ธ.กรุงศรี สินเชื่อส่วนบุคคล 180,xxx จ่ายเดือนละ 6,230 หยุดจ่ายเดือน ส.ค.59
- พ.ย.59 แบงค์ให้ปรับโครงสร้างค่ะ แต่ว่าต้องจ่ายที่ค้างทั้งหมด 4 งวดก่อน ยอด 24,920 แล้วจ่ายเดือนละ 4,500 ไม่ไหวค่ะ แค่หามาจ่าย 4 งวดก็ไม่มีละค่ะ เลยต้องปล่อยไปตามกระบวนการ
- ก.ค.60 ได้รับหมายศาลมาเสียบที่หน้าบ้าน โชคดีที่เราเห็นเป็นคนแรก นัดขึ้นศาล ม.ค. 61
- ม.ค.61 ไปตามนัดค่ะ เราไปที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ตามทะเบียนบ้านที่เราอยู่ ไปถึงก่อนนัด 09.00น
- ไปถึงก็ไปดูที่กระดานนัดค่ะ ว่าชื่อเราอยู่บัลลังก์ไหน แล้วก็ไปนั่งรอหน้าห้อง
- พอเสมียนศาลมาเปิดประตูก็ไม่รอช้า เข้าไปนั่งในห้องเลยค่ะ เค้าก็ถามว่าเรามาคดีอะไร ก็แจ้งเค้าไป
- พอ 9โมงกว่า คุณทนายก็มาค่ะ เค้าก็เข้ามาแจ้งว่า แบงค์ให้ไกล่เกลี่ยได้ที่ จ่ายเดือนละ 9,500 x 24 เดือน ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี แต่เราก็สู้ไม่ไหวค่ะ เพราะต้องจ่ายตัวอื่นอีก
- คุณทนายบอกว่า งั้นก็กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องรอฟังศาลก็ได้ !!! หนอย ดีนะ ที่เราเข้ามาหาข้อมูลในชมรมนี้ก่อน
- เลยตอบไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ จะอยู่รอฟังศาลค่ะ” นางก็เลยขอตัวไปบัลลังก์อื่นค่ะ
- ประมาณ 10โมงครึ่งศาลท่านก็เรียกชื่อเราค่ะ คุณทนายไม่อยู่ ก็เลยมีแต่เราที่แหงนหน้าคุยกับศาลท่านค่ะ ศาลท่านก็พูดว่า “ไม่สู้คดีใช่มั้ย งั้นก็พิพากษาไปเลยนะ” เรา: “.....” อึ้งกิมกี่ค่ะ ไม่เข้าใจภาษาที่ท่านพูด เราก็บอกว่า ทนายให้เราจ่ายแบบนี้ เราไม่ไหว อยากจะขอลดลงกว่านี้ ท่านก็ตอบมาว่า ศาลไม่มีหน้าที่สั่งได้ว่า ให้จำเลยจ่ายได้เท่าไหร่ เค้ามีหน้าที่พิพากษา ถึงตรงนี้ เราได้แต่ยืนร้องไห้ในใจค่ะ ตอบออกมาได้คำเดียวว่า “ค่ะ” แล้วสักพักคุณทนายก็เข้ามา เสมียนศาลปริ๊นท์เอกสารออกมาให้เราเซ็น ก็กำลังจะอ่านว่ามีเนื้อความอะไรบ้าง คุณทนายก็รีบเร่งๆเซ็นตรงนี้เลยครับ เซ็นได้เลย แล้วก็กลับบ้านได้เลยครับ เราก็ อ่าว แล้วหลังจากนี้ยังไงต่อคะ เค้าก็เลยให้รอคุย สรุปว่า หลังจากขึ้นศาลวันนี้ รอคำพิพากษาออกมา ให้เรามาคัดแล้วก็โทรติดต่อกับสำนักงานกฏหมาย แล้วก็เจรจาเรื่องการจ่ายชำระเงินอีกที
- หลังจากไปคัดคำพิพากษา (ก็คือไปขอถ่ายสำเนาคำพิพากษาออกมาจากเล่มสำนวนน่ะค่ะ คำพิพากษามี 2 หน้า ค่าถ่ายเอกสารหน้าละ 3บาท) ต้องรอหลังวันไปขึ้นศาลประมาณ 2สัปดาห์ค่ะ สรุปให้เราจ่ายตามยอดฟ้อง 229,xxx ดอกเบี้ย 15%ต่อปี เราก็รีบติดต่อไปที่สนง.กฎหมายที่คุณทนายให้เบอร์ไว้ เราก็แจ้งความประสงค์ไปว่า สามารถจ่ายได้เดือนละ 5,000 ทางแบงค์ตกลงค่ะ ก็จบไปอีกหนึ่งรายค่ะ
9. – ยูโอบี สินเชื่อส่วนบุคคล 143,xxx จ่ายเดือนละ 4,510 หยุดจ่าย มิ.ย.59
- หยุดจ่ายได้ 3เดือน ได้รับโทรศัพท์ให้ปรับโครงสร้างหนี้ คือต้องจ่ายให้หมดภายใน 12เดือน ลดดอกเบี้ยให้ (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) เพราะไม่รู้จะจ่ายได้ยังไง เลยปล่อยไปตามกระบวนการค่ะ
- ส.ค.60 ได้รับหมายศาล มาเสียบที่หน้าบ้านเหมือนเดิม นัดขึ้นศาล ก.พ.61
- ก.พ.61 ไปตามที่ศาลนัดค่ะ ตอนนี้รู้งานละ 555 เจอคุณทนาย ก็ไกล่เกลี่ยได้ที่ 12เดือนเท่านั้น เดือนละหมื่นอัพขึ้นไป ดอกเบี้ย 13%ต่อปี ไม่ไหวเหมือนเดิมค่ะ ก็คิดว่าน่าจะต่อรองได้เหมือนกรุงศรี เลยรอให้ศาลท่านพิพากษาไป
- คัดคำพิพากษามาแล้ว ศาลท่านใจดี ให้ชำระที่เงินต้น 143,000 ดอกเบี้ย 12%ต่อปี เราก็รีบติดต่อไปที่ยูโอบีค่ะ คุณทนายแจ้งว่าให้ติดต่อที่ยูโอบีโดยตรง ไม่ได้ติดต่อสนง.กฎหมายค่ะ จนท.ก็บอกเหมือนเดิมว่า ให้จ่ายให้จบภายใน 12เดือน ฟังจนเซ็งค่ะประโยคนี้
- โดยที่ เดือนที่ 1-11 จ่ายเดือนละ 7,000 ส่วนเดือนที่ 12 จ่าย 136,500
- กัดฟันยอมค่ะ ส่งสำเนาบัตรไปทำเรื่อง พอวันรุ่งขึ้น จนท.โทรมาแจ้งว่าแบงค์ไม่อนุมัติค่ะ
- ให้เราจ่ายชำระก้อนเดียวที่เงินต้นเลย 143,500 ไม่คิดดอกเบี้ย ใจดีมากๆเลยค่ะ ไม่คิดดอกเบี้ย แต่...( T_T)
- เส้นตายคือสิ้นเดือนมี.ค.61 นี้เท่านั้น ด้วยแต้มบุญที่ยังพอเหลืออยู่ บังเอิญได้โบนัสมา 7หมื่น มีเงินเก็บ 2 หมื่น ส่วนที่เหลือ ต้องขอรบกวนยืมจากแฟน เพื่อมาจ่ายหนี้ก้อนนี้
- 26 มี.ค.61 ก็รีบติดต่อจนท.ไปว่าจะจ่ายงวดเดียว เค้าก็ให้เราส่งเอกสารภาระหนี้สินอื่นๆ เพื่อไปขออนุมัติส่วนลดดอกเบี้ยจากทางผู้หลักผู้ใหญ่ของยูโอบีค่ะ ลุ้นมากค่ะ ก็ได้รับคำตอบในวันเดียวกัน ทางผู้ใหญ่ยินยอมแบบไม่เต็มใจนักค่ะ (จนท.ที่เราติดต่อด้วยเค้าบอกมาแบบนี้) ก็ถือว่าประหยัดดอกเบี้ยไปได้ 7หมื่นกว่าเลยทีเดียว สำหรับเราถือว่าเจ้านี้คุยยากและใจร้ายที่สุดค่ะ และคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติขอลาขาดจากแบงค์นี้ค่ะ

รวมๆแล้วกว่าจะจัดสรรการใช้ได้ลงตัว ก็ใช้เวลาปีกว่าๆเลยค่ะ ที่ยอมปรับโครงสร้างหนี้ สาเหตุที่บอกไปตอนต้น คือเรามีบ้าน เราจัดการปัญหานี้โดยครอบครัวไม่รู้ (มีแค่แฟนเท่านั้นที่รู้ ที่คอยรับฟัง) และหน้าที่การงานเราเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆ และเงินเดือนค่อนข้างสูงค่ะ ด้วยกฏหมายการอายัดเงินเดือนที่ออกใหม่ เราจึงยอมให้อายัดเงินเดือนไม่ได้เลยค่ะ ต้องยอมรับสภาพนี้ไป แต่มันทำให้เรารู้จักวางแผนการใช้เงิน คิดก่อนจ่าย เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ค่ะ 555 เนื้อหาอาจจะยาวเพราะใช้เวลาเป็นปีปี หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ

เห็นด้วยกับที่ว่า UOB คุยยากค่ะ นี่เราก็กำลังจะโดนฟ้องของ UOB เหมือนกันค่ะ รอหมายศาล เพิ่งยื่นฟ้องไปเมื่อ 23 มี.ค. และตั้งแต่โทรทวงกันมา เราก็รอ H/C ก็ไม่เคยลดอะไรให้เลยค่ะ มาตอนนี้ก็บอกแค่ลดดอกเบี้ยให้เหมือนกันค่ะ จ่ายแต่เงินต้น 60,000 เราก็ยังไม่มีอยู่ดี แล้วเวลาคุยก็ไม่ค่อยบอกอะไรเรามากด้วย (ชื่อบริษัท นิติรัตน์) เห็นว่าถ้าตัดสินแล้วก็ต้องจ่ายเดือนละ 3,500 และก้อนสุดท้ายปิดจบเหมือนกัน 24 งวด แล้วถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ไม่ค่อยชัดเจน ฟ้องเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 28% เลยถามว่าทำไมถึงตั้ง 28% เขาก็ตอบเรากลับมาว่า ฟ้องเท่านี้ไปก่อนค่ะ นอกนั้นศาลท่านจะวินิจฉัยเอง ก็เลยขี้เกียจถามแล้วค่ะ รอไกล่เกลียทีเดียว เขี้ยวมากธนาคารนี้

และสำหรับส่วนบริษัท BES ของซิตี้นี่ก็เห็นด้วยเช่นกันค่ะ พูดจาห่วยแตกมาก ตอนนั้นเราก็เลยยอมปรับโครงสร้างหนี้ไปเหมือนกันค่ะ

สู้ๆนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน

ขอรบกวนปรึกษาค่ะ ถ้าเราจะแบบนี้จะได้มั้ยคะ
แบ่งหนี้เป็น 3ส่วน
1. ส่วนที่1ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประมาณ2xx,xxxกว่าบาท ที่จะหยุดจ่าย
เพื่อเก็บเงินรอสร้างปิดยอด
2.ส่วนที่ 2ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประมาณ 3xx,xxxกว่าบาทจะทำจ่ายไปจนกว่าส่วนที่1จะจบ
3.ส่วนที่3 บัญชีปรกติ ไม่ประบปรุงโครงสร้าง ยอด5xx,xxx รอทำHC
คิดแบบนี้ดีมั้ยคะ ส่วนค่าใช้จ่ายมีบ้านที่เป็นชื่อเราซื้อผ่อนกับธนาคารที่เป็นบัญชีปรกติ เงินเดือน เกือบ50,000 จะเก็บเดือนละ30,000กว่าจะครบรายการแรกจะทันไม่โดนฟ้องหรือถูกอายัดเงินเดือนมั้ย เพราะมีตำแหน่งในบริษัท คงยอมถึงขั้นนั้นไม่ได้ค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

kaewindy เขียน: เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ

เห็นด้วยกับที่ว่า UOB คุยยากค่ะ นี่เราก็กำลังจะโดนฟ้องของ UOB เหมือนกันค่ะ รอหมายศาล เพิ่งยื่นฟ้องไปเมื่อ 23 มี.ค. และตั้งแต่โทรทวงกันมา เราก็รอ H/C ก็ไม่เคยลดอะไรให้เลยค่ะ มาตอนนี้ก็บอกแค่ลดดอกเบี้ยให้เหมือนกันค่ะ จ่ายแต่เงินต้น 60,000 เราก็ยังไม่มีอยู่ดี แล้วเวลาคุยก็ไม่ค่อยบอกอะไรเรามากด้วย (ชื่อบริษัท นิติรัตน์) เห็นว่าถ้าตัดสินแล้วก็ต้องจ่ายเดือนละ 3,500 และก้อนสุดท้ายปิดจบเหมือนกัน 24 งวด แล้วถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ไม่ค่อยชัดเจน ฟ้องเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 28% เลยถามว่าทำไมถึงตั้ง 28% เขาก็ตอบเรากลับมาว่า ฟ้องเท่านี้ไปก่อนค่ะ นอกนั้นศาลท่านจะวินิจฉัยเอง ก็เลยขี้เกียจถามแล้วค่ะ รอไกล่เกลียทีเดียว เขี้ยวมากธนาคารนี้

และสำหรับส่วนบริษัท BES ของซิตี้นี่ก็เห็นด้วยเช่นกันค่ะ พูดจาห่วยแตกมาก ตอนนั้นเราก็เลยยอมปรับโครงสร้างหนี้ไปเหมือนกันค่ะ

สู้ๆนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน

UOB เขี้ยวมากจริงๆ ครับ กำลังตัดสินใจว่าจะปรับโครงสร้างหนี้ แต่ขอให้ตัดดอกเบี้ยที่ ค้างชำระออก เอาเฉพาะเงินต้น ที่คงค้างมาปรับโครงสร้าง

ถึงคุณ O12345 ค่ะ ถ้าปรับโครงสร้างหนี้ ก็ต้องดูว่าปรับจากยอดไหน ดอกเบี้ยลดมั้ย ปรับแล้วเราจ่ายต่อเดือนไหวมั้ย จ่ายแล้วยังเก็บเงินก้อนที่จะไป HC ตัวอื่นที่คุณว่าได้หรือไม่ การปรับโครงสร้างทำให้เราผ่อนเบากว่าเดิม แต่ต้องจ่ายตลอดอย่าได้ขาดเชียว ไม่งั้นเจ้าหนี้จะยื่นฟ้องเราเร็ว ,จขกท.เองที่ปรับโครงสร้างกับทหารไทย และอีซี่บาย ได้ลดดอกเบี้ยที่ค้างๆ แต่ๆๆๆ มันไปตั้งเป็นดอกเบี้ยตั้งพักค่ะ เมื่อไหร่ที่เราหยุดจ่ายอีก ดอกนั้นจะทบกลับมาเป็นเงินต้นทันทีแบบไม่มีข้อแม้ ถ้ายอดหนี้ค้างเป็นแสนๆล่ะก็ ถ้าหยุดจ่าย ไม่เกินปีได้รับหมายศาลแน่นอนค่ะ ถ้าคิดว่าจะใช้ช่วงเวลานี้เก็บเงิน ก้อเริ่มวางแผนได้เลยค่ะ เขียนไล่เลียงหนี้สินทั้งหมดที่มี ยอดหนี้รวม, ยอดเงินต้น, %ดอกเบี้ย, ยอดจ่ายต่อเดือน แล้วลองคิดดูว่าจะเริ่มตัดตัวไหนก่อน ถ้าไม่มี UOB อยู่ในลิสต์ เราว่าคุยได้หมดค่ะ 555 เราพลาดกับยูโอบีไปข้อนึง คือจนท.เค้าถามว่าเรามีหนี้กี่รายใครบ้างเท่าไหร่ แทนที่เค้าจะเห็นใจ กลับกลายเป็นว่าเค้าเห็นว่าเราก้อมีเงินผ่อนจ่ายเจ้าอื่นได้ เค้าเลยเล่นบังคับให้เราจ่ายก้อนเดียว เพื่อบีบจะไปอายัดเงินเดือน เพราะเค้าจะได้เยอะกว่าค่ะ ยังไงเป็นกำลังใจให้นะคะ ปัญหามันแก้ได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ไม่มีuobค่ะ ตอนนี้ปรับปรุงโครง
สร้างที่แจ้งไปหยุดจ่ายแล้วค่ะ รอเก็บเงิน เป็นกำลังใจด้วยนะคะ