เป็นหนี้เพราะความรัก.....ลูก(New version)

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4192 โดย CFC1996
รอคอยน้องบัว...คนสวยงานยุ่ง..เหยิง...ให้ดึงข้อมูลเก่ามูลเหตุแห่งหนี้ของพี่mom23มาแบ่งปัน

รอแล้วรอเล่า..เฝ้าแต่รอ..จนอารมณ์เริ่มสุนทรีย์พอจะรวบรวมเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

เริ่มต้นสายปลายเหตุแห่งหนี้แล้วกัน...ก็..เกรงใจพรรคพวกถ้าจะเริ่มเรื่องตั้งแต่เกิด..เดี๋ยวจะกลายเป็นมหากาพย์ไป

ชีวิตคนเรา..มีขึ้นมีลง เป็นสัจธรรมจริงๆ สมัยเฟื่องฟูตอนยังไม่มีครอบครัว เป็นคนเรียนเก่ง ประมาณว่าสอบเรียนต่อที่ไหนไม่มีพลาด

สนุกมากกับการเรียนพร้อมกันสองสถาบัน มีปริญญาติดตัว ๕ ใบ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศทั้งสิ้น(ยืนยันว่าชอบเรียนจริง)

แต่ขอไม่เอ่ยชื่อ เกรงใจสถาบัน เอาเป็นว่าตอนนั้นรู้สึก"ยืด" สุดๆ แล้วสาขาวิชาที่จบใบแรกนั้นเราไม่ต้องดิ้นรนหางานหรือสอบแข่งขันกับใคร

ได้บรรจุเลยแต่เงินเดือนจิ๊บๆเมื่อเทียบกับเนื้องานที่ต้องรับผิดชอบ และด้วยเหตุที่ไม่ต้องดิ้นรนนี้..ชีวิตเลยเรื่อยๆมาเรียงๆ

ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น และไม่เคยข้องแวะกับคำว่า"หนี้"

เปิดกระทู้ไว้ก่อน...วันหน้ามาต่อใหม่
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: fay

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4201 โดย 0834368962

เป็นหนี้เพราะความรัก...ลูก ที่พี่ mom23 เคยโพสต์ไว้เมื่อ 24 ม.ค. 2009, 1:11น.


ขอเล่าเรื่องตัวเอง เรียกเรตติ้งดูบ้าง
เริ่มต้นสายปลายเหตุแห่งหนี้แล้วกัน เกรงใจคนอ่านถ้าจะเล่าเรื่องตั้งแต่เกิด ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง เป็นสัจธรรมจริงๆ สมัยเฟื่องฟูตอนยังไม่มีครอบครัว เป็นคนเรียนเก่ง ประมาณว่าสอบเรียนต่อที่ไหน ไม่เคยพลาด สนุกมากกับการเรียนพร้อมกัน ๒ สถาบัน มีปริญญาติดตัว ๕ ใบ (ยืนยันว่าชอบเรียนจริงๆ) ไม่บอกนะว่าจบที่ไหนมาบ้าง เกรงใจสถาบัน เอาเป็นว่ารู้สึกยืดมากๆในตอนนั้น แล้วก็วิชาที่จบมาเราไม่ต้องดิ้นรนหางาน ได้บรรจุเลยแต่เงินเดือนไม่มากนะตอนเริ่มต้น ด้วยเหตุที่ไม่ต้องต่อสู้แข่งขันหางานกับใครเขา ชีวิตก็เลยเรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้น และไม่เคยข้องแวะกับคำว่า "หนี้"
ตัดตอนมาเข้าเรื่องตัดสินใจมีครอบครัวดีกว่า ด้วยเหตุที่มัวแต่เรียนๆๆๆ เลยเกือบลืมไปว่าต้องแต่งงาน สมัยสาวๆไม่สวยมากหรอกนะ แค่พอไปวัดได้ไม่ต้องบังเสา โชคดีที่ยังพอมีคนดีเหลืออยู่ และถึงจะแต่งงานช้าแต่ก็โชคดีครั้งที่ ๒ ท้องเป็นแฮะ ได้ลูกสาวน่ารักมา ๑ คน มีปัญญาท้องได้แค่คนเดียวแหละ
ลูกสาวคนนี้ คือแก้วตาดวงใจ วันแรกที่รู้ว่าตัวเองท้องนะดีใจสุดๆ ช่วงที่ท้องเป็นเวลาที่เราทำงานหนักทั้งสอนนักศึกษา ทั้งเรียนต่อปริญญาโท ใกล้คลอดแล้วยังนั่งทำวิทยานิพนธ์ส่งอาจารย์อยู่เลย เขาเป็นกำลังใจให้เราสู้งานหนักตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่เคยท้อไม่เคยถอย มีแต่เดินหน้า ตอนนี้ยังนะ...ยังไม่เป็นหนี้
พักเล่าไว้ก่อน....ดึกแล้ว....ชักมึน...ไว้มาเล่าต่อค่ะ

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4202 โดย 0834368962
มาเล่าต่อแล้ว....ตามคำเรียกร้อง

ตอน ๒.... เลี้ยงลูกแบบบุฟเฟ่

อย่าตกใจนะว่าไม่เหลียวแล ให้ลูกหาอะไรๆเอง เราหมายถึงไม่ประคบประหงมเท่าไหร่นักเพราะมีแนวคิดว่าแม้เขาจะเป็นหญิงและเป็นลูกโทน การสอนให้เขาอยู่ได้ด้วยตัวของเขาเองโดยมีเราเป็นพี่เลี้ยง เป็นเพื่อนคอยชี้แนะลู่ทางที่เหมาะสมน่าจะดีที่สุดกับสภาวะสังคมปัจจุบัน

การเลี้ยงแบบนี้...โดนอัดจากญาติ-ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายสามี เราก็เข้าใจผู้ใหญ่นะว่าเขาหวังดีแล้วตัวเราเองลูกโทนเหมือนกันถูกเลี้ยงต่างกันลิบลับกับการเลี้ยงลูกในแบบของเรา เราได้รับการประงบประหงมสุดๆเรียกว่า"มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม" แอบหวังลึกๆว่า อยากทำอะไรโลดโผน...ไม่ซ้ำซากจำเจบ้าง ก็ไม่ได้รับการอนุญาตฺให้ทำ วิเคราะห์แล้วท่าจะไม่ดีแน่ถ้าเลี้ยงลูกแบบที่เราถูกเลี้ยงมา(เราไม่ได้ตำหนิติติงใครนะ....และเคารพการตัดสินใจของผู้มีพระคุณที่ผ่านมาเสมอ)

ด้วยแนวคิดเช่นนี้นะ....ต้องขอบพระคุณพ่อของลูก อย่างที่บอกว่าโชคดีแต่งงานช้าได้เจอคนดี เหมือนถูกลอตเตอรีรางวัลที่ ๑ เลย เขาเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่าเราหลายปีเขาช่วยแบ่งเบาภาระเราได้ทุกอย่าง ทั้งๆที่เราควรอาบน้ำ(ตอนลูกยังแบเบาะ)แต่งตัว ป้อนข้าวให้ลูกและแม้กระทั่งการลุกมาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกตอนดึกๆ เขากล่อมลูกเก่งมากๆ เราเองแม้ว่าจะเป็นคนสอนการปฏิบัติอย่างที่กล่าวมานี้ให้นักศึกษาหลายต่อหลายคน ก็เก่งแต่การสอนดูแลลูกคนอื่นพอเป็นลูกตัวเองไม่ค่อยกล้าทำเอง กลัวพลาด คือไม่ค่อยมั่นใจไงและดูแล้วเขาทำได้ดีกว่าเรา เล็กๆลูกสาวเลยติดพ่อเพราะเขาดูแลผูกพันกันมาก

แต่แปลกนะพอลูกโต พ่อกับลูกชักจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็คงเพราะลูกวัยรุ่นมีความคิดเป็นตัวของตัวเองสูง(น่าจะมาจากแนวคิดการเลี้ยงดูแบบของเรา) และพ่อคนรุ่นก่อนมีช่องว่างทางความคิดเยอะ เราเลยมีหน้าที่คอยอย่าศึกเพิ่มมาอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันก็...ผ่านไปแล้วด้วยดี

ที่ว่าบุฟเฟ่ ต่ออีกนิด.....ว่าด้วยเรื่องการเรียนของเขา......เผื่อว่าอาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน และขออย่าเข้าใจว่าโอ้อวด มิได้มีเจตนาเช่นนี้เลย....

อย่างที่เล่านะ...เราทำตัวเป็นเพื่อน..เป็นพี่เลี้ยงชี้แนะและที่ดีสุดคือเราช่างสังเกต ทำให้เราเปิดแนวทางการศึกษาให้เขาได้อย่างเหมาะสม ให้เขาในเวลาที่เขาพร้อมรับ...ยกตัวอย่างนะ...สมัยเขาเรียนอนุบาล ตำราหลายเล่มบอกลูกมักงอแงเวลาแม่หรือพ่อพาลูกไปส่งเข้าโรงเรียนและไม่อยากให้พ่อแม่จากเขาไป..แต่ลูกเราไม่ใช่เขาชอบใจมากที่จะได้เรียน ขอเข้าเรียนเอง บอกแม่ว่าส่งลูกแล้วแม่กลับได้เลย...ลูกอยู่เองได้และไม่เคยงอแงให้หนักใจ
มีช่วงหนึ่งของชีวิตเขานะ เนื่องจากเรา๒สามี-ภรรยาบ้างาน กลับบ้านมืดค่ำเสมอๆเลยต้องฝากลูกกับน้าสาวเขาแล้วเกิดอุบัติเหตุกับลูกสาวเขาหกล้มคางแตกถึงเลือดตกยางออก ค่อนข้างมากต้องพาไปเย็บแผลเขาไม่กลัวและไม่ร้องไห้เลย น้าเขาเสียอีกร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงว่าเขาเข้มแข็ง
แถมยังเล่าให้แม่-พ่อฟังเป็นเรื่องวีรกรรมของตัวเองเสียอีก...ห้าวไหมล่ะ...ตอนนั้นอายุเขาประมาณ ๗-๘ขวบ

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4203 โดย 0834368962
ต่อเรื่องเรียนของลูกอีกนิด......เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่จะเข้าไปสู่การรู้จักคำว่า"หนี้"
พอลูกเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมฯโรงเรียนดังนะ....เขาได้เชื้อเรียนเก่งแม่มา...ได้ประกาศเกียรติคุณเรียนได้เกรด ๔ ทุกชั้นปีและที่โชคดี(อีกแล้ว) เขาเริ่มสนใจวิชาภาษาอังกฤษมากๆ(ลูกจะเรียนเก่งตามความชอบครูผู้สอน) เราเลยสนองแบบทันเวลาหาครูสอนภาษาชาวต่างชาติทันที ตอนนั้นเขาอยู่แค่ป.๓เองนะ ครูชาวอังกฤษคนนี้คือผู้จุดประกายเริ่มต้น เขาสอนแบบธรรมชาติมากๆไม่เน้นแกรมม่าแต่เน้นการเข้าถึงภาษา ให้กล้าที่จะไม่เดินหนีชาวต่างชาติและสามารถพูด-อ่าน-ฟังแบบชัดเจน ลูกสาวเขาสมบูรณ์แบบในการรับวิธีสอนแบบนี้จริงๆและมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าแม้จะใช้เวลาเรียนเพิ่มเติมแค่อาทิตย์ละชั่วโมงเท่านั้น(ตอนแรกไม่แน่ใจว่าครูที่สอนเขาชื่นชมลูกเราอย่างนี้จริงหรือเปล่าหรือเขากลัวไม่ได้สตังค์ค่าสอนจากเรา...แอบคิดลบเล็กน้อย) แต่เราเห็นประจักษ์เอง...เลยได้ข้อสรุปว่า...ถ้าเราให้เขาในช่วงจังหวะที่เหมาะสม...ย่อมเกิดประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้นเราต่อยอดความสนใจของลูกต่อเนื่อง พยายามหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดทางภาษานี้ให้เขาเสมอเรื่องนี้เราไม่ได้ใช้การบังคับหรือพาเขาไปเรียนพิเศษในช่วงปิดภาคเลยนะ ช่วงว่างจากการปิดภาคเรียนเราให้โอกาสเขาฝึกความแข็งแกร่งด้วยทักษะทางกีฬาที่เขามีอยู่ และเขาก็เล่นกีฬาได้ดีแทบจะทุกประเภทแต่เขาเลือกเอาดีในกีฬาบาสฯมีโอกาสติดทีมเยาวชนเขตของกทม.ด้วย

จาก ๒ กรณีที่เล่าคือทักษะทางภาษาอังกฤษผนวกกับความเก่งในกีฬาที่เขาเลือก เลยเป็นการเปิดสิ่งดีๆให้กับชีวิตเขา มีฝรั่งใจดีมีเมตตาเปิดโอกาสให้ทุนเด็กที่มีทักษะ ๒ อย่างนี้มาโชว์ความสามารถและมีเงื่อนไขต้องสอบผ่านข้อเขียนเป็นภาษาอังกฤษของโรงเรียนนานาชาติที่เขาจะให้ทุน เขาคัดเลือกเด็กที่มีทักษะกีฬาไว้ ๖-๗ คน ลูกเราโชคดีกว่าเพื่อนผ่านการคัดเลือกทั้ง ๒ รูปแบบเพียงคนเดียว ได้เข้าไปเรียนรร.นานาชาติดังในกทม.แบบไม่ต้องเสียเงินสักบาท......ดูเหมือนที่เล่ามามีแต่เรื่องดีทั้งนั้น...แล้วเป็นหนี้ได้ไง...หว่า
เดี๋ยว...มาเล่าต่อนะขอทำธุระก่อน

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4204 โดย 0834368962

ตอนที่ ๓....มรสุมชีวิต...เริ่มใกล้ชิดคำว่า"หนี้"


ก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ เขาติดเพื่อนๆไม่อยากเปลี่ยนสังคมใหม่ แม้จะไม่ค่อยแฮปปี้กับรร.มัธยมที่เรียนเก่าของเขาสักเท่าไหร่(คนละรร.กับชั้นประถมแต่ก็เป็นรร.ดังที่ผู้ปกครองหลายท่านอยากให้ลูกได้เข้าเรียน) แต่จากการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผลจึงเทน้ำหนักมาที่รร.นานาชาติ และอีกประการหนึ่งถ้าหากลูกไม่พร้อมเรื่องภาษาและการใช้ชีวิตเราก็คงไม่จับเข่าคุยกัน

ชีวิตในช่วงเรียนรร.นานาชาติ เขาได้อะไรมากมายกับชีวิต เพราะเขาต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวและเป็นคนต่างชาติต่างภาษา อยู่ในวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่เขาโชคดีที่ปรับตัวได้และดูเหมือนจะดีเกินไปด้วยซ้ำ ในช่วงนี้ลูกต้องไปอยู่กับผู้ให้ทุนเพื่อไม่ต้องเหนื่อยในการเดินทางไปเรียนและสามารถจัดเวลาให้กับการเรียนได้เต็มที่

ช่วงนี้จึงทำให้เราค่อนข้างห่างกับลูกและชักจะไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่ แล้วเราก็ต้องทำงานหนักเพราะทำงานระดับผู้บริหาร และมาแล้ว....เงินพลาสติกใบแรก จริงๆเรากลัวมันนะและไม่อยากมีไว้ใช้เลยแต่ทนออดอ้อนของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว และคิดเอาเองนะว่าน่าจะถึงเวลาจำเป็นต้องใช้แล้วเลยหลวมตัวเปิดบัตรพอมีใบแรกใบที่ ๒-๓และ....ก็ตามมา

ช่วงแรกๆมีวินัยในการใช้จ่ายมากเลยจะใช้ก็เฉพาะการศึกษาของลูกและของตัวเองเท่านั้น(ยังไงแม้ลูกจะได้ทุนแต่เรื่องหนังสือเราต้องรับภาระบางส่วนและหนังสือเรียนของรร.นานาชาติไม่ถูกแน่นอน) ใช้เท่าไหร่คืนเท่านั้นไม่จ่ายขั้นต่ำเลย

ขึ้นหัวเรื่องว่ามีมรสุมชีวิต....มันเป็นยังไงกันล่ะ......คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้
การที่ลูกอยู่ในสังคมรร.นานาชาติ ทำให้เขาหวงแหน"ความมีอิสรภาพ"มากๆจนถึงขนาดไม่อยากเล่า ไม่อยากคุยความเป็นไปในชีวิตของเขาในรั้วรร.และในบ้านผู้มีพระคุณ จนวันหนึ่งเขามาบอก (แจ้งเพื่อทราบไม่ใช่ปรึกษา)ว่าเขาจะได้ทุนไปเรียนที่อเมริกานะ ถ้าการไปโชว์ทักษะทางกีฬาของเขาเข้าตากรรมการที่นั่นแต่ตอนไปโชว์ต้องหาเงินไปเองเป็นแสนๆ(ค่ากินอยู่ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน) เราสดุ้งเลย ทำไงดี แต่ทุกข์ไม่นาน ยังไม่ใช้บัตรเครดิตรูดปรี้ดนะ ลูกเขาบอกจะหาเงินเองเพราะที่รร.นานาชาติเขาสนับสนุนเด็กที่มีความตั้งใจ เขาทำสารพัด ทั้งหาของถูกมาสร้างมูลค่าเพิ่มขายในวิลล่า ทำคุกกี้ขาย รับจูงสุนัขในหมู่บ้านชาวต่างชาติที่เขาพักและอื่นๆที่ทำเงินได้ แล้วที่สุดก็สำเร็จมีเงินเก็บจากการดำเนินงานอย่างนี้ เป็นแสนบาทและโชคดีของเขาอีกนะค่าเครื่องบินที่แม่ต้องรับภาระจ่ายตามที่ตกลงกันไว้ เขาก็ได้รางวัลในการซื้อสินค้าในฐานะสมาชิกที่แม่เปิดบัตรไว้ให้เขา ตั้ง๕หมื่นบาทแน่ะ

อ้าวๆแล้วมันจะไปเกิดหนี้ได้ยังไงล่ะ ใกล้ล่ะ....
การได้โอกาสครั้งนี้ของเขานี่แหละ เป็นจุดเริ่มต้นอะไรๆที่จะป็นจุดวิกฤติในชีวิตเลยแหละ

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4205 โดย 0834368962
จัดให้...ตามเสียงเรียกร้อง กั๊กไว้นานเดี๋ยวพวกเรากริ้ว...จะเป็นบาป

ตอนที่ ๔...สิ่งดีๆ...ในชีวิต..ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น

จบตอนที่ ๓ ไว้ว่าลูกสาวเขากำลังจะได้รับโอกาสที่ดีในชีวิต เพราะจะได้เหินฟ้าไปโชว์ผลงานแถมยังบอกเราด้วยว่าถ้าเขาได้รับเลือก การเดินทางครั้งนี้ run ยาวเลย อย่างน้อยๆก็ ๔ ปี โอ้โห...เราจำความรู้สึกตอนนั้นได้เลยว่า...มันหวิวๆยังไงพิกล ทั้งๆที่เราเองก็เลี้ยงแบบบุฟเฟ่อย่างที่บอกและก็ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันนอกจากนี้ยังเกิดความไม่ค่อยเข้าใจกันอีก แล้วทำไมยังเกิดอาลัยอาวรณ์มากกว่าปกติ ก็นะ...เขาเป็นลูกโทนของเรานี่ และเขาก็น่ารัก..ใสๆ...สวยหล่อ..ผิดพ่อ..ผิดแม่เลยแหละ(เขียนไม่ผิดนะ"สวยหล่อ"เขาไม่ค่อยนุ่มนิ่ม...ลืมบอกไป...มหัศจรรย์นะสำหรับเราเพราะ..ตอนคลอดเขาออกมา สวยหวานเป็นหญิง เลี้ยงไปเลี้ยงมากลายเป็นสวยหล่อไปได้ มีหญิงมาติดตรึม นักกีฬาก็ยังงี้แหละ)

ทีนี้พอเขาเดินทางไปจริงๆ แม้เราจะเข้มแข็งแค่ไหนก็อดห่วงอดกังวลกับอนาคตเขาไม่ได้ เนื่องจากที่เขาไปไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าต้องได้รับเลือก ที่สำคัญนะ..หากพลาดโอกาสก็เคว้งคว้าง เพราะเราต้องลาออกจากโรงเรียนนานาชาติที่เรียนอยู่จบเกรด ๑๐ แล้วล่ะ และที่กังวลที่กลัว..ก็เป็นจริง โค๊ชที่อเมริกาเขาไม่เลือกเรา
ลูกเราเขายอมรับในการตัดสินครั้งนี้แต่ไม่ยอมแพ้นะ ช่วงนี้ยังไม่ใช่วิกฤติที่น่ากลัว

แล้ว...วิกฤติมันคืออะไรล่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อเขาเดินทางกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ lifestyle เปลี่ยนไป ตอนนั้นอายุเขาประมาณ๑๕-๑๖ปี ชอบแต่งตัวแบบเซอร์ๆ กางเกงตัวใหญ่ๆขอบเอวกางเกงเกือบหลุดก้นและสวมหมวกแก๊ปแบบเท่ห์ๆทั้งอยู่ที่บ้านและนอกบ้าน(ตอนนี้เขายังอยู่กับฝรั่งที่ให้ทุนซึ่งรักและเอ็นดูเขามาก เหมือนเป็นลูกคนหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ แถมยังสอนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเรื่องดีๆทั้งนั้นให้เขา เรื่องหนึ่งที่ชัดเจนก็คือคำแนะนำในการหาเงินทุนไปอเมริกาครั้งนี้)

การที่เขาพลาดโอกาสทุนที่อเมริกา(ขอเรียกว่าครั้งที่ ๑) ฝรั่งที่สนับสนุนทุนให้ลูกสาวเรียนรร.นานาชาติเขาก็ไม่ทอดทิ้งนะ เขาพยายามหาที่เรียนดีๆที่อเมริกาให้ จนกระทั่ง...โอเค มีรร.ระดับไฮสคูลตอบรับให้เข้าเรียนเกรด ๑๑ และฝรั่งท่านนี้ก็ยินดีจ่ายค่าเรียนให้อีก แต่ค่าที่พักเราต้องรับผิดชอบเอง จริงๆเราก็ไม่ได้มีเงินมากมายแต่มั่นใจว่าต้องหาให้เขาได้

คราวนี้...เพื่อนรู้ไหมอะไรเกิดขึ้น...โชคชะตาเล่นตลก...กำลังยินดีปรีดาปราโมทย์อยู่ดีๆและลูกเราก็มีความสุขมากๆเลย ฮัมเพลงฝรั่งทั้งวัน(ช่วงนี้กลับมาเตรียมตัวเดินทางอยู่ที่บ้านเรา) ความเศร้ามาเยือนแบบ.....ไม่ทันตั้งตัว ฝรั่งที่เขาให้ทุนเราประกาศิตเปรี้ยงมาในเวลาก่อนเดินทางเพียง ๑ สัปดาห์เลยว่ายกเลิก และที่ลูกเสียใจมากๆแบบร้องไห้จนช็อคไปเลยก็คือเขาพูดรุนแรงมากซึ่งลูกไม่เคยเจอเลยตั้งแต่อยู่กับฝรั่งท่านนี้(เขาสุภาพมากๆ)เรียกว่าลูกเสียขวัญแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตเขา

วันที่ลูกร้องไห้อย่างมากมาย...๑ ชั่วโมง..กว่าเขาจะตั้งสติได้และโทรหาแม่...เราตกใจมากเพราะเสียงที่เขาส่งมาตามสายมันสื่อถึงความเจ็บปวด..ชอกช้ำ แม่อย่างเรารีบแจ้นกลับบ้านเลย...งานการทำไม่ได้แล้ว...ณ วินาทีนั้น...เขาต้องการเรา...และเราก็ต้องเข้มแข็ง ร้องไห้ไปกับเขาไม่ได้ ต้องตั้งสติ...อะไรเกิดขึ้น...ทำไม..ทำไม..เป็นคำถามที่วนเวียนในความคิดของเราระหว่างนั่งรถกลับบ้านไปหาเขา

ในวิกฤติชีวิตครั้งนี้แหละ...เรากลับได้สิ่งดีๆกลับมา...ลูกสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริงของแม่และพ่อ...เราปลอบขวัญเขาด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น ปล่อยให้เขาทลายทำนบน้ำตาให้เต็มที่ เมื่อเขาตั้งสติได้...เขาเข้มแข็งมากและพร่ำบอกแม่ว่าเขาโชคดีที่มีเราเป็นแม่และเข้าใจเขา เขารักแม่ที่สุดในโลกเลย...แล้วสองคนเราแม่-ลูกก็ยิ้มทั้งน้ำตาและด้วยความเข้าใจกันและกัน(ตอนนี้เรากลั้นไม่ไหวแล้ว) เราได้ลูกกลับมาแล้ว

พักตอนไว้ก่อนนะ...จะกลับมาเฉลยว่า"ทำไมชีวิตถึงเป็นอย่างนี้"

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4206 โดย 0834368962
ต่อ...ตอน ๔...เฉลย...ทำไมชีวิตถึงเป็นอย่างนี้

คงจำกันได้ที่เราบอกว่า...โชคชะตาเล่นตลก...ลูกสาวเราต้องผิดหวังเป็นครั้งที่ ๒ ครั้งนี้..ดูจะโหดร้ายกับชีวิตมากๆเลย ขนาดตั้งสติกันแล้วก็ยัง..งงๆๆๆเพราะ

๑. อะไรนะที่ทำให้เขางดทุน เราคงโกรธเขาไม่ได้และไม่ควรโกรธด้วย นี่เป็นสิทธิ์ของเขาเพียงแต่..เราอยากรู้สาเหตุ เพื่อเราจะได้แก้ไข ล้มแล้วจะได้ลุกขึ้นใหม่อย่างสง่างาม
๒. จะทำอย่างไรกับอนาคตของลูกดีนะ เนื่องจากช่วงที่ถูกงดทุนนั้นเป็นช่วงปลายภาคเรียนที่ ๑ของโรงเรียนต่างๆในระบบการศึกษาไทย จะกลับไปต่อโรงเรียนนานาชาติเดิมก็คงยาก

ทำไงดีล่ะ...ทำไม..ชีวิตถึงต้องได้พร้อมเสียด้วยนะ

มึนๆกันอยู่หลายวัน..หลายสัปดาห์ คำตอบที่อยากรู้ในข้อ ๑ ก็ได้รับการเฉลย ฝรั่งท่านนี้เขาให้เกียรติกับครอบครัวเรามาก เชิญให้พวกเราไปรับทราบเหตุผลและในช่วงที่เรางงๆนั้น เขาเอง ก็กระทบกระเทือนใจที่ตัดสินใจงดทุนจนตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาล ดีที่ของลูกเราแค่ซึมๆไม่สดใสเท่านั้น ต้องชมลูกน่ะ..เขาเข้มแข็งและแข็งแกร่งมาก ร้องไห้หนักๆเพียงครั้งเดียวหลังจากนั้นตัดใจได้ไม่ร้องไห้ด้วยสาเหตุนี้อีกเลย

สิ่งที่เขาพยายามสื่อให้เราเข้าใจก็...คือ...เขาเห็นความไม่ mature (ขออภัยต้องใช้ภาษาอังกฤษ..เกรงว่าใช้ภาษาไทยจะไม่ครอบคลุม) ในพฤติกรรมของลูกที่เขาเฝ้าสังเกตมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่อยู่กับเขา ซึ่งเขาพยายามมองข้ามและคิดว่าจะดีขึ้นแต่มาได้บทสรุปที่เขายอมรับไม่ได้ในช่วงที่ลูกต้องเตรียมตัว เตรียมเครื่องแต่งกายที่ต้องเรียบร้อยสุดๆ ต้องสวมกระโปรงยาวคลุมเข่า เสื้อทีเชิร์ตที่เรียบร้อยสีไม่ฉูดฉาด...และอื่นๆอีกมากมายรวมทั้งต้องปรับตัวเอง ดูแลตัวเองมากกว่าปกติ...แต่ลูกดื้อกับสิ่งที่เขาแนะนำและยังชอบแต่งตัวอย่างที่เล่าให้ฟังแล้ว ถ้าเรื่องนี้ลูกแก้ไขตัวเองไม่ได้ เกิดมีเรื่องใหญ่ๆในเวลาที่เขาต้องดูแลตัวเองคนเดียวที่อเมริกาแล้วตัดสินใจผิดพลาดไป พวกเรา..ทั้งครอบครัวเขาและครอบครัวเรา..คงต้องเสียใจใหญ่หลวงแน่

และ...ที่ซาบซึ้งกับแนวคิดของเขามากๆก็คือ..เขาบอกเราว่า..ที่ให้ทุนมาตั้งแต่แรกนั้น(เป็นการให้เปล่านะ ไม่มีสัญญาผูกมัดต้องชดใช้ใดๆทั้งสิ้น) เขาขอเพียงว่าทำให้เขามีโอกาสสนับสนุนเด็กดีๆคนหนึ่งให้กลับมาสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและช่วยเหลือสังคมต่อไปเท่านั้น

ตอนนั้น...หลังจากรู้และเข้าใจพร้อมยอมรับเหตุผลของเขาแล้ว...เรารู้สึกเลยว่า...ชีวิตเราและครอบครัวเราช่างโชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสรู้จักครอบครัวดีๆเช่นนี้ เป็นสิ่งดีๆที่ยิ่งใหญ่มากกับชีวิตครอบครัวเรา

หลังจากรู้คำตอบข้อ ๑ แล้วเรายังได้รับการเปิดหนทางให้กับอนาคตของลูกสำหรับคำตอบข้อ ๒ ด้วย สิ่งที่เขาแสดงออกคือเขาไม่ทอดทิ้งเราแต่กลับใส่ใจและช่วยประสานที่เรียนใหม่ให้เป็นรร.ในระบบการศึกษาไทยที่เขาส่งเสริมนักกีฬาบาสฯ ลูกเรามีความสามารถด้านนี้อยู่และพร้อมสู้ด้วยการพัฒนาทักษะบาสฯเอาไปแข่งขันขอรับทุนในอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง พวกเราตกลงหลังจากกลับไปคิดอยู่หลายวัน

แต่แล้ว.....ชีวิตมันไม่สวยหรูอย่างที่คิด...พอเดากันออกไหมคะ...เด็กเคยเรียนในระบบที่ให้อิสระในการคิดการใช้ชีวิต ต้องมาอยู่ในอีกระบบ ซึ่ง..ลูกเราเขาพยายามต้องเรียกว่ามากๆๆๆถึงมากที่สุดกับการใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับการเรียนการสอนของโรงเรียนใหม่นี้และที่แย่ที่สุดกับชีวิตเขาก็คือการถูกบ่นว่าแบบไร้เหตุผลและใช้อารมณ์ของครูหลายๆท่าน(เช่นเขาเสนอความคิดเห็นในชั่วโมงเรียน โต้ตอบครูสอนภาษาอังกฤษด้วยความสามารถที่เขาสั่งสมมาจากรร.เดิมแต่ถูกสั่งให้หยุดพูด เป็นต้น)นอกจากนี้เพื่อนหลายๆคนยังออกอาการหมั่นไส้ไม่อยากคบหาสมาคม....เฮ้อ...ชักรู้สึกลูกอยู่ผิดที่ผิดทางแล้วหล่ะ...เขาไม่ค่อยเล่าให้ฟังหรอกนะเกรงว่าแม่จะทุกข์ใจ แต่เราคอยสังเกต เป็นเพื่อน ปลอบใจให้อดทนเข้าใจเพื่อนเข้าใจครู

ในที่สุด....ไม่ไหวแล้ว...แต่ก็ยังอดทนจนจบ ม. ๔ นะ ที่ประหลาดมาก เรียนแบบต้องเรียกว่าขอไปทีไม่ได้ทุ่มเท แต่เขากลับสอบได้ที่ ๑ ของชั้นเรียนด้วย

จบตอนไว้แค่นี้ก่อน....แล้วจะมาเล่าเรื่องสนุกๆให้อ่านต่อ

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4207 โดย 0834368962
ก่อนอื่น...ขอแก้ไขตัวเลขที่พิมพ์ผิด ท้ายตอนที่แล้ว จากจบ ม. ๔ เป็นจบ ม. ๕นะคะ แล้วขอเริ่มตอนต่อตอน

ตอนที่ ๕...เปิดประตูสู่การเป็น " หนี้ "

เล่าเรื่องเสียยืดยาว...เจตนา..เพื่อ..ถ่ายทอดแบบอย่างชีวิตอีกเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษจริงๆๆ มอบให้กับเพื่อนๆในชมรมหนี้แห่งนี้...ยังไม่เคยรวบรวมเขียนเล่าที่ไหนมาก่อน พอดีว่า...ได้รับการกระตุ้นต่อมอยากเขียนจากคุณหมูสมิง คุณ Familyman......เลยอดไม่ได้ที่จะต้องหาเวลามาตั้งกระทู้ของตัวเอง เขียนเล่าเรื่องบ้าง
อย่างน้อย..ก็เป็นนวนิยายจากชีวิตจริงที่หาซื้ออ่านไม่ได้ตามท้องตลาดทั่วไปล่ะนะ...

เอาล่ะ....เข้าเรื่องเสียที

ตอนนี้แหละ....เริ่มเปิดประตู...สู่การเป็น " หนี้ " ขนานแท้แล้ว สยองขวัญสำหรับตัวเองน่าดูเลย

เรื่องก็มีอยู่ว่า...พอลูกสาวเริ่มทนไม่ไหว แม่อย่างเราก็ต้องหาทางอะไรสักอย่าง เพื่อชุบชีวิตสดใสของลูกกลับคืนมาเพราะอนาคตเขาอีกยาวไกล แต่...มันยังนึกไม่ออก นึกๆๆๆ จนปวดหัว แสดงอาการเครียดอยู่บ่อยๆแล้ววันหนึ่ง..สวรรค์หรืออะไรก็ไม่รู้ชี้ทางออกให้

มาลงตัวกับการที่ลูกสาวก็พยายามหาสิ่งดีๆให้กับชีวิตตัวเองอยู่เพราะเขามีเป้าหมายชีวิต ต้องไปเรียนต่อที่อเมริกาให้ได้ ทำท่าจะได้ไปถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ก็มีเหตุให้เป็นไป อดเสียงั้น และเขาก็ชัดเจนแล้วว่า ไม่เหมาะที่จะเรียนในระบบโรงเรียนไทย ความรู้สึกเขาย่ำแย่ลงไปทุกวัน...เลยเหมือนฟางเส้นสุดท้ายหรือระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ

เมื่อ..ความต้องการเขาสุกงอม เขาเอ่ยขอว่า..พอจะเป็นไปได้ไหม ถ้าเขา..จะขอไปเรียนต่อต่างประเทศเลยหลังจบม.๕ เขาทนเรียนต่อม.๖ไม่ได้แน่ๆ และเขาก็พยายามหาข้อมูลต่างๆมาให้ช่วยกันตัดสินใจอยู่เสมอๆ

เอาล่ะสิ...เราชักสยอง..แล้วเงินเราจะมีพอให้เขาไหม มันต้องใช้เงินเท่าไหร่นะ ช่วงนั้น เงินสด กำลังขาดสภาพคล่องอยู่พอดี แต่ก็มีนะ จากเงินอนาคตของบัตรเครดิตที่มีอยู่ประมาณ ๖-๗ ใบแล้ว ทั้งของBankและnonbank (มีไว้แบบไม่อยากใช้ เพราะเรายังกลัวอยู่มากๆ) เรื่องมีบัตรนี่ไม่พยายามบอกสามี อุบไว้...คิดโก้คนเดียวว่าเครดิตดี มีแต่คนมาขอให้เปิดบัตร หารู้ไม่...นรกชัดๆ...ถ้าไม่รู้จักใช้ เฮอะๆๆๆ สมน้ำหน้า..คิดไม่เป็น

ตอนนั้นสามีเขาไร้เดียงสาด้านการใช้เงินมากๆและไม่สนใจด้วย ทำแต่งานอย่างเดียว(แบบหัวหน้าดีเด่น...ลูกน้องไม่ต้อง...หัวหน้าเหนื่อยเอง)

ในที่สุด...ok...ที่ออสเตรเลีย เพราะหลักสูตรเขาสามารถรับเด็กที่ยังไม่จบม.๖ เรียนต่อได้เลย ถ้าเด็กความรู้ภาษาอังกฤษดี transcriptสวย สอบผ่านตามแบบทดสอบของเขา ขอบอกว่าโชคดีอีกครั้ง เรามีเพื่อนที่สามารถติดต่อเป็นธุระประสานให้จนลงตัว ที่เรียนรับแล้วไม่มีปัญหา ที่พักก็ราบรื่น(ลูกสาวอายุ ๑๗ ปีในตอนนั้น ต้องพักกับ hostชาวออสซี่ ตามเงื่อนไขของประเทศนี้) มาสะดุดก็เรื่องเงินเรานี่แหละ ต้องใช้ไม่ต่ำกว่า ๒ แสนบาทขึ้นไป

ในสภาวะนี้...เรายึดเรื่อง" การฟื้นฟูชีวิตและอนาคตของลูกเป็นสิ่งสำคัญสุด "และยอมทุกอย่าง เพื่อสนับสนุนหนทางสดใสให้กับชีวิตเขา ครั้งแรก...พยายามจนถึงที่สุดในการหลีกเลี่ยงไม่เอาเงินอนาคตจากบัตรเครดิตมาใช้ โดยพยายามหาความเมตตาจากเพื่อนๆที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าเขาสามารถช่วยเหลือให้เรายืมเงินได้ แต่..ผิดคาด..เขาปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่า "ไม่ได้" คำเดียวเป็นคำตอบสุดท้าย ก็..ว่าอะไรเขาไม่ได้ เงินเขา..การตัดสินใจ..ของเขา

ทุกข์มากๆ..ช่วงนั้น โทษตัวเองว่า...ทำไมนะ...เราไม่เตรียมพร้อมหาเงินให้มากๆไว้..สำหรับอนาคตเขา เขาพร้อม..แต่เรา..ไม่พร้อม แล้วเราจะดับความพร้อมของเขาด้วยความไม่พร้อมของเราหรือ...

สุดท้าย...นี่คือ..หนทางที่เราเลือก และลูกก็รับรู้ เราเอาเงินล่วงหน้าจากบัตรควิกแคชซึ่งให้วงเงินไว้ถึง ๒ แสนบาทมาใช้ มันอาจจะดูไม่เข้าท่า..สำหรับความคิดใครหลายๆคนที่กลัวการเป็น" หนี้ "...แต่เราไม่...กล้าและบ้าบิ่นมากในการเปิดประตู...สู่การเป็น" หนี้ " ครั้งแรกสามีไม่เห็นด้วย แต่เราดื้อและไม่ฟังเสียงคัดค้านเพราะเราเชื่อมั่นในการตัดสินใจ เป็นไงเป็นกัน เด็ดขาดสุดๆ เราต้องแก้ไขอะไรๆได้ตลอดรอดฝั่งแน่นอน

ชีวิตเรา...ผ่านมาหลายพรรษาแล้วทำงานมาก็หลายที่ จบปริญญาตรี-โทมาก็หลายใบ เอาตัวไม่รอดให้มันรู้ไป อะไรมันจะเกิดก็แก้ไขมันไป ก็เท่านั้นเอง ชีวิตยังมีเรื่องสวยงามอีกตั้งหลายอย่างรอเราอยู่...ไม่เคยเสียใจเลยนะกับการตัดสินใจครั้งนี้

และแล้ว...ลูกก็ได้เหินฟ้าไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียจนได้...นีเข้าใกล้ปัจจุบันแล้ว...รอตอนหน้านะ...ชีวิต..ติดกับดัก.." หนี้ " รับรองสนุก..ปนเศร้า..555

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4208 โดย 0834368962
มาเล่าต่อแล้วนะ......

ตอนที่๖...ชีวิต..ติดกับดัก.. " หนี้ "

ระหว่าง ๑ ปีที่ลูกเรียนที่ออสเตรเลีย เขาใช้ชีวิตอิสระ..ตามแบบที่เขาต้องการจริงๆ..แต่..มันเป็นความอิสระที่ไม่ได้สวยหรูอย่างลูกผู้มีอันจะกินเขาเป็นกัน...เพราะ..เราไม่ใช่เศรษฐี แต่เป็น..พ่อ-แม่ที่กำลังเริ่มเป็น.."หนี้"และกำลังจะติดกับดัก" หนี้ "

เพราะฉนั้น...ความลุ่มๆดอนๆของชีวิตลูกย่อมเกิดขึ้นแน่นอน

บางทีนะ..ช่วงต้องจ่ายค่าเทอม...หวาดเสียวมาก...แม่หมุนเงิน..ตัวเป็นเกลียว..หัวเป็นน็อตเลย

ส่วนใหญ่..อาศัยบัตรเครดิตจ่ายค่าเรียน (โปรด..อย่าลอกเลียนแบบ..ถ้าใช้บัตรแล้ว..จ่ายคืนเต็มจำนวนไม่ได้จะเป็นหนี้..ทั้งปีทั้งชาติ)

ลูกสาวเขาก็น่ารัก..กลับไม่ย่อท้อ..ยังช่วยแม่ผ่อนภาระเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาด้วยการหางานทำ

โชคดีอีกแล้ว..เขาสมัครงานที่ไหน..ก็ได้รับการตอบรับด้วยดี(ลูกใช้ภาษาได้ดี..สื่อสารชัดเจน..มีความคล่องตัวสูง)แต่ช่วงแรกลำบาก ขยับอะไรไม่ค่อยได้เพราะอายูยังไม่ครบ ๑๗ ปี ที่ออสฯห้ามทำงานต้องรอจนอายุครบตามเกณฑ์ ช่วงต้นเทอม ๒ จึงได้โอกาสสมัครทำงาน ไม่ต้องอาศัยกับhostและออกมาเช่าบ้านพักกับเพื่อนๆชาวเอเซีย แชร์ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายส่วนกลางอื่นๆด้วยกัน

เขาเลือกงานที่ร้าน KFC เพราะสะดวกและให้โอกาสเขาจัดเวลางานได้เอง เขาจึงสามารถบริหารเวลางานกับเวลาเรียนได้ลงตัว แต่งานมักจะเป็นช่วงบ่ายถึงค่ำ บางทีเลิกเที่ยงคืนและบางวัน..ถ้าไม่มีเรียนก็ควงทั้งวันยันค่ำ

ลูกสาวเล่าว่า..ที่ออสฯ เมืองที่เขาเรียนและพักอยู่เงียบสงบดี(เขาเลือกเอง..แบบไม่ค่อยมีคนไทยไปเรียนต่อมากนัก..และสถาบันที่เขาเรียนก็แทบไม่มีคนไทยไปเรียนสักเท่าไหร่) ที่ประเทศนี้มีระบบความปลอดภัยสูงมาก แม้จะต้องเดินทางกลับบ้านในยามค่ำคืนดึกดื่นแค่ไหน..ก็..ไม่มีอันตราย สามารถเลือกเดินกลับบ้านพักคนเดียวได้แบบไม่น่ากลัวใครจะมาทำร้ายหรือจี้ปล้น...เราเลยสบายใจไม่น่าห่วง

ลูกสาวเขาใช้ความอดทนสูงมากๆกับการทำงานหนัก บางครั้ง..แม้จะเหนื่อยหรือเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานหรือเจ็บป่วยเช่นมือพองบวมแดงเป็นแผลเนื่องจากโดนน้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น อื่นๆจิปาถะฯลฯเขาก็ไม่ปริปากเล่าหรือบ่นให้เราร้อนใจ แต่เรารู้ได้จากการถามเมื่อสังเกตเสียงที่พูดคุยผ่านโทรศัพท์หรือวิเคราะห์จากการเขียนอีเมล์ของเขา พอรู้..ก็อดสะท้อนใจไม่ได้
เฮ้อ....คิดถูก..คิดผิด..นะเนี่ย สนับสนุนให้เขาไปเรียน

ลูกบอกเราว่า...ที่เขาไม่อยากบ่น..ไม่อยากเล่า..เพราะ..เป็นหนทางที่เขาเลือกเอง ดังนั้น..เขาต้อง..อดทนให้มันผ่านไปให้ได้ เขาจึงต้องทั้งเรียนทั้งทำงานไปพร้อมๆกัน โดยยึดถือ..ความสุขและความมุ่งมั่นเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองเป็นเป้าหมายสำคัญ

การเรียนของเขาไม่เสียหายเลยนะ กลับเรียนได้ดีและยังใช้ความสามารถเฉพาะตัวรับจ้าง edit ภาษาในรายงานให้เพื่อนๆชาวเอเซียที่พักอยู่ด้วยกันและเพื่อนในชั้นเรียน(หลายคนไม่ชอบเขียนรายงานและส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีนัก) ลูกเลยมีเงินใช้ส่วนตัวพอกล้อมแกล้มไปได้

ช่วงก่อนเรียนเทอม ๓(สถาบันนี้เรียน ๓ เทอมใน ๑ ปีตามหลักสูตร) เราให้โอกาสลูกกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทย เรา..แอบคิดเอาเอง..เผื่อว่า..ลูกอาจสนใจจะกลับมาเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยเมืองไทยบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก โน้มน้าวไม่สำเร็จ..สู้เหตุผลเขาไม่ได้

ช่วงที่เขากลับมาพักผ่อนนี้..เป็นสภาวะที่เรากำลังมืดมน เจอหนทางตันเรื่องการเงินเพราะเราบริหารมันไม่เป็น เริ่มรู้จักที่จะจ่ายขั้นต่ำของบัตรเครดิต กดบัตรนั้นมาจ่ายบัตรนี้ กู้เพิ่ม ได้บ้างไม่ได้บ้าง ยอดหนี้เขยิบขึ้นเรื่อยๆและยังให้สามีเปิดบัตรเครดิตเพิ่มอีก ไม่ค่อยใส่ใจกับยอดหนี้สนใจแค่หมุนจ่ายขั้นต่ำได้ครบทุกบัตรและสามารถให้ค่าเรียนค่าเดินทางของลูกได้เท่านั้น

เป็นไงล่ะ...แถมอีกนะ..เจอเรื่องเครียดด้านการงานของตัวเองกดดันด้วย เริ่ม..ไม่สบอารมณ์กับการทำงาน
มีเรื่องกับใครก็ไม่มี..ดันไปมีเรื่องกับเจ้านาย..จะเหลือหรือ..เจ้านายไม่มีวันผิดอยู่แล้ว

ทนทำงานต่อไม่ได้แล้ว...จน..ถึงจุดระเบิดในความรู้สึกของตัวเอง..ต้องลาออก..สถานเดียว
อยู่ไม่ได้..ก็...ไม่ต้องทน เชื่อ...ไม่อดตายแน่นอน ถ้า..ไม่งอมืองอเท้า ความรู้ก็มีอยู่กับตัวจะกลัวอะไร

เห็นพัฒนาการทางความคิดและความประพฤติเราไหม..จาก..เรียบๆ..เรื่อยๆมาเรียงๆ..ไม่โลดโผน
ไต่ระดับ...บ้าระห่ำ...กล้าลาออก..ทิ้งหัวโขนหนักๆที่ต้องแบกไว้..ไม่ต้องรอเกษียณอีกหลายปี...
ทนไม่ไหว...แล้ว..โว้ย

คิดเรื่องนี้..ถามสามีคนเดียว"เลี้ยงก่อน..พักหนึ่ง..ไหวไหม"(เขารู้ปัญหามาโดยตลอด) เขาตอบ"ได้"คำเดียว ไม่สน ไม่ฟังใครอีกเลย วางใบลาออกไว้..แล้วเดินคอแข็งออกมาเลย..นี่ก็เป็นอีกเรื่อง..ที่ไม่เคยเสียใจในการตัดสินใจอย่างนี้(แต่ละคนมีเส้นทางชีวิตเป็นของตนเองนะ...ไม่แนะนำให้ทำตามแบบอย่างนี้)

แต่..ช่วงนี้นะยังรู้สึกดีและขอบคุณบัตรเครดิตทั้งหลายแหล่นี้นะ เพราะ..อย่างน้อย..ก็ทำให้เราปะทังชีวิตลุ่มๆดอนๆของครอบครัวไปได้(อย่าเข้าใจว่า..สนับสนุนให้มีบัตร..ใช้บัตรเยอะๆนะ ไม่ๆๆๆๆๆแน่นอน)

จริงๆไม่อยากจะเล่าความขมขื่นของชีวิตช่วงนี้เลย..แต่..ซะหน่อยละกัน..

บางวัน..มีเงินติดกระเป๋าไม่ถึงร้อยบาท แต่..อาศัยลักษณะดูดีมีสตางค์ เลยไม่มีใครรู้ว่า..ไม่รวย
ส่วนสามี..เขายังคงสมถะและไม่เดียงสาด้านการเงินเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เงินสดที่มีใช้จ่าย ใช้หนี้ก็มาจากเงินเดือนราชการของเขาซึ่งไม่มาก(๒หมื่นกว่าๆเอง)บวกกับเงินที่ทำธุรกิจของเราซึ่งได้ไม่แน่นอน

สำหรับลูกสาว..เกือบจะไม่ได้กลับไปเรียนต่อเทอม ๓ ที่ออสฯอีก แต่..โชคช่วย เจ้านายสามีหลายๆคนใจดีมาก ทั้งให้ยืมและให้เปล่าเป็นของขวัญหลานเพราะเอ็นดูและตอบแทนที่พ่อเขาทำงานให้แบบสุดตัวทุ่มเท

ในความโชคร้าย...ก็...ยังมีโชคดี...เจือปนอยู่

และแล้ว...ลูกก็ได้กลับไปเรียนจนจบที่ออสเตรเลีย

นี่แหละหนา...แม้..ติดกับดัก " หนี้ "ก็..ยังมี..สิ่งดีๆในชีวิตมาทดแทน แต่เรื่องยังไม่จบนะ..รอตอนต่อไป
บริหารชีวิต..ชำระจิตใจ มีอะไรดีๆให้ติดตามอีกมากมายค่ะ...

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4209 โดย 0834368962
เงียบหายไปหลายวัน...เดี๋ยวเพื่อนๆจะลืมเลือน...ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างแต่ก็..ขอเป็นเรื่องคั่นรายการเป็นตอนเสริมพิเศษ " ชีวิตหมุนวน...ของคนเป็นหนี้ "

เพื่อนๆคงนึกสภาพของหนูติดจั่นออกนะ...เรา..ก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตหมุนวน.ไม่ต่างอะไรกับสภาพหนูติดจั่นนี้แหละ

ตอนที่ยอมให้หนี้พันธนาการตัวเองนะ ชีวิตที่ผ่านไปแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี เป็นวัฎจักรเลย

ต้นเดือน...หาเงินจ่ายหนี้(ขั้นต่ำ) ตามวัน เวลาที่เจ้าหนี้แต่ละบัตรกำหนดอย่างเคร่งครัด..แบบ..ลูกหนี้ดีเด่น

กลางเดือน...ถ้าจำเป็นใช้เพื่อธุรกิจ/เพื่อการศึกษาลูก..ก็..รูดปรี๊ดๆๆหรือกดเงินสดออกมาโดยไม่สนใจจะดูดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมการกดบัตรแต่อย่างใด ขอแค่มีเงินหรือวงเงินเท่าที่จำนวนต้องใช้เป็นพอ

ปลายเดือน...ถ้าต้องจ่ายบัตรไหนที่กำหนดจ่ายช่วงนี้ ก็เอาเงินที่กดมาชำระหนี้ไปเพื่อรักษาประวัติ รักษาเครดิต ไม่ให้ด่างพร้อย (งี่เง่าแบบไร้สติ)

แล้ว..คิดเองเออเองอีกนะ..เรานี่เก่งชมัด..บริหารการจ่ายเงินได้ครบถ้วน ไม่เสียเครดิตเลย ยังนึกอีกนะ...เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองป็นคนมีวินัยทางการเงิน ละเอียดเพราะจดมูลหนี้อย่างชัดเจนมีจำนวนเต็ม ขั้นต่ำ วันครบกำหนดชำระครบถ้วน มีสมุดบันทึกสวยหรูเลยนะแถมจดอย่างต่อเนื่อง แต่แปลก..ไม่เคยคิดที่จะบวกยอดเงินรวมที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนเลย

เห็นไหม...วิธีใช้เงินแบบคนจนถาวร...เพราะนึกถึงคนอื่นก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย
นี่นะ..ถ้าฉุกคิดสักนิด ชีวิตก็ไม่ต้องหมุนวนแบบลูกข่างหาทางออกไม่เจออย่างที่ผ่านมา

จนวันหนึ่ง...โชคดี...ฟ้าเปิดหนทางใหม่ให้..ได้พบกับกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเดียวกัน
เธอผ่านชีวิตการเป็นหนี้ทั้งในระบบ นอกระบบมาอย่างโชกโชน

เธอ..อาศัยประสบการณ์การเป็นหนี้ การแก้ไขหนี้ของเธอ ผนวกกับการค้นคว้าข้อมูลอย่างจริงจังทั้งจากตำราด้านการเงิน เว็ปไซด์ที่เกี่ยวข้องต่างๆและอื่นๆอีกมากมายจนมีความรู้รอบและชอบที่จะถ่ายทอด แบ่งปัน ให้การอบรม" บริหารหนี้ บริหารเงินอย่างไรได้ล้านแรก " จนทำให้เราตาสว่าง และกล้าก้าวออกมาจาก" ชีวิตหมุนวนแบบคนเป็นหนี้ "ได้

ที่สำคัญสุด..ต่อยอดความโชคดี เพราะหนึ่งในเวปไซด์ที่เธอแนะนำคือเวปของชมรมหนี้ฯแห่งนี้และนี่เป็นที่มาของการสะสมภูมิคุ้มกันของเรา และเรายังได้รับสิ่งดีๆจากมหามิตรที่ยิ่งใหญ่ด้วยแบบอย่างทางความคิดผู้ซึ่งยินดีถ่ายทอดแบ่งปันประสบการณ์ให้เราเป็นแนวทางก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

ขอถือโอกาสนี้...ขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับเพื่อนๆในชมรมทุกๆท่าน(ขออนุญาตใช้คำว่าเพื่อนเพราะคิดว่าคำนี้เลอค่าในความรู้สึกของเราจริงๆ)

ความรู้ต่างๆที่เราได้รับ..สามารถสร้างคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงให้เราใช้เป็นแนวทาง" ปลดหนี้ "อย่างมีคุณภาพและมีคุณค่ากับชีวิตเป็นอย่างยิ่ง แม้ในปัจจุบัน..เราเพียงแค่อยู่ในขั้นเริ่มต้นปลดโซ่ตรวนที่พันธนาการชีวิตเราเท่านั้นและหนทางหมดหนี้ยังอีกยาวไกล

แต่...เรารู้แล้วหละว่าโชคดีแห่งชีวิตเป็นอย่างไร

แม้ชีวิตตอนนี้..จะเหลือเพียงช่องเล็กๆให้รอดไป แต่เบื้องหลังของช่องเล็กๆนี้มีแต่แสงสว่างเจิดจ้ารอเติมเต็มให้ชีวิตเราอยู่..แน่นอน เราขอบอกเพื่อนๆว่า.....

ไม่ต้องกลัวเจ้าหนี้ที่มีมาก
ไม่ต้องกลัวคมปากที่ถากถาง
ถ้าเขาพูดสิ่งใดใดไม่ถูกทาง
โต้เขาบ้างหรือฟ้องกลับจับรู้ทัน

ขอให้เพื่อนเชื่อมั่นอย่าหวั่นไหว
ตัดสินใจอย่างไรให้มุ่งมั่น
ต้องแข็งแกร่งไม่ท้อถอยมุ่งฝ่าฟัน
เพราะคุณนั้นผู้ลิขิตชีวิตคุณ...

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: fay

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4210 โดย 0834368962
มาขอ up date กระทู้ของตัวเองซะหน่อย...เกรงเพื่อนๆจะลืม..เดี๋ยวต่อเรื่องไม่ติด

คงยังไม่เริ่มตอนใหม่...และเรื่องชีวิตการเป็นหนี้กว่าจะจบคงอีกยาวไกล...คาดว่าถ้าดำเนินไปตามแผนที่ตั้งเป้าหมายไว้และไม่มีอะไรมาสะดุดก็คงปลดหนี้ทั้งของตัวเองและสามีรวมกันประมาณล้านกว่าบาทได้ภายใน ๓ ปีซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ลูกสาวคนเดียวของเราสำเร็จการศึกษา(ตอนนี้เขาไปเรียนอยู่ที่ อเมริกา ขึ้นปี ๒ แล้ว)แต่เขาจะกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยหรือไม่ก็แล้วแต่เขาเป็นผู้เลือก...เราให้อิสระและเคารพการตัดสินใจของเขา

ช่วงนี้..เราเองค่อนข้างยุ่ง..เพราะมีเรื่องต้องตัดสินใจกับชีวิตตัวเองอยู่...กำลังได้รับโอกาสเพิ่มรายได้ประจำและได้ตกปากรับคำเขาไปแล้วรอลงนามสัญญาจ้างกันอยู่แต่คาดว่าอาจช่วยทำงานให้เขาไม่นานเพราะชักจะติดชีวิตอิสระไม่ชอบการถูกพันธนาการด้วยเวลา..เช้าตอกบัตรเข้า..เย็นตอกบัตรออก(ขออภัยมิได้หมายความว่าลักษณะนี้ไม่ดี...เพียงแต่ตัวเองอารมณ์ศิลปินไม่พิสมัยวิธีการแบบนี้)...เฮ้อ..ขออนุญาตบ่น

ที่ไม่ค่อยกล้าหยิ่งหรือปฏิเสธงานก็เพราะค่าจ้างนี่แหละ...เยอะอยู่...น่าจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูกและกันบางส่วนไว้ปลดหนี้ได้บ้างซึ่งน่าจะคุ้มกับความอดทนยอมปรับลดชีวิตอิสระของตัวเองลงบ้าง

โอกาสหน้า...เคลียร์ชีวิตลงตัว...จะมาเล่าตอนต่อไปแน่นอน...อย่าลืมรออ่านนะ

ขอบคุณ...สำหรับความสนใจและกำลังใจที่ทุกท่านมอบให้

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4211 โดย 0834368962
หายไปเกือบหนึ่งเดือน...มาขอเล่าต่อความคืบหน้าของชีวิตตัวเองสักเล็กน้อย...

ช่วงที่ผ่านมา...บอกไว้ว่ากำลังตัดสินใจรับทำงานประจำอีกครั้งหลังจากห่างหายไปหลายปี

ต้องบอกว่ามึนกับชีวิตพอควร...หลังจากคิดทบทวนกลับไปกลับมาและชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว...ก็เลยหักดิบ..ยุติการรับทำงานประจำ...โชคดีที่ตัวเองยังชลอการทำสัญญาผูกมัดเพื่อเข้าทำงานครั้งนี้เลยไม่เสียหายอะไร...เปิดโอกาสให้เขาหาคนเหมาะสมกว่าเรามาทำดีกว่า

ก็...เสียดายรายได้นะ...และจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อการลงทะเบียนของลูกในเดือนที่ผ่านมา...มากโขอยู่(เกือบแสนบาท)...แต่พิจารณาระยะยาวแล้วไม่รับงานนี้ดีกว่าเพราะต้องการอิสระเรื่องเวลาซึ่งจะต้องนำไปทุ่มเทกับธุรกิจของตัวเอง(มั่นใจว่าหนทางนี้ปลดหนี้ได้เร็วแน่นอน)

ตอนนี้...เมื่อตัดสินใจชัดเจนแล้วเลยเดินหน้าแก้ปัญหาทีละเปราะ...คิดแต่เรื่องบวกๆให้ชีวิตมีความสุข

ถูกทวงหนี้..ก็ใจเย็นสุดๆไม่เอาคำพูดมารกสมอง...ใครเสนอส่วนลด..สนใจนะแต่ยังไม่เหมาะจะจ่ายเพราะต้องรวบรวมเงินให้ลูกลงทะเบียนแถมได้รับหมายศาลฉบับแรกจากซิตี้แบงก์ด้วย(ไม่ตกใจนะ...มีที่ปรึกษาดี..ไม่ใช่ใครทีไหนหรอกค่ะ...เพื่อนผู้รู้และที่ปรึกษากฎหมายของชมรมนี้แหละค่ะ)

และแล้ว...ก็สำเร็จ...หาเงินครบจนได้...เหนื่อยใจหลายครั้ง...เกือบหมดพลัง...แต่ดึงกำลังใจตัวเองขึ้นมาได้จากเพื่อนคู่ชีวิต...ลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของเรารวมทั้งเพื่อนๆน้องๆในชมรมนี้

ขอบคุณทุกกำลังใจ(ทั้งทางตรงและทางอ้อม)

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4212 โดย 0834368962
ขออัพเดทกระทู้ตัวเองหน่อย...

หลังจากเขียนเล่าเหตุแห่งหนี้ของเรา...เผลอแป๊บเดียว...ผ่านไปเกินแปดเดือนแล้ว...

วันเวลาผ่านไปเร็วจัง...

นี่เราเป็นสมาชิกชมรมหนี้เกือบปีแล้วนะ...ฉลาดเรื่องแก้ไขหนี้ขึ้นมากเลย

เดินตามรุ่นพี่ๆ(ส่วนใหญ่เป็นน้อง)ต้องประสบผลสำเร็จปลดหนี้เป็นไทยได้แน่นอน...

อย่างน้อยก็ปิดบัญชีหนี้ไป 2 บัญชีแล้วล่ะ...

ยังเหลืออีกหลายบัญชี...แต่ไม่ค่อยกังวลแล้วเพราะเดินอย่างมีทิศทาง..

ไว้โอกาสดีๆ...อารมณ์บรรเจิด..จะมาเล่าเรื่องสนุกๆให้อ่านต่อไปนะคะ...

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4213 โดย 0834368962
ดึงกระทู้ตัวเองขึ้นมาหน่อย...

- วันนี้...วันดี..เป็น"วันแม่"....12 สิงหาคม 2553

- คุณแม่ของเราและสามี...จากเราไปหลายปีแล้ว...สิ่งที่ทำได้คือระลึกถึงท่าน....

- แต่..เราคือ"แม่" ที่"ลูกสาว"คนเดียวของเราอยู่ห่างกันด้วยระยะทาง...เขายังเรียนอยู่ที่อเมริกา..ปี 3 แล้ว

- วันนี้..ลูกสาวทำเซอร์ไพร์ส เขาสั่งดอกไม้ช่อสวยงามส่งมาให้แม่อย่างเราถึงบ้านในเมืองไทยพร้อมคำอวยพรในการ์ดที่ติดมากับช่อดอกไม้....และยังโทรศัพท์ข้ามประเทศมาอวยพรด้วย

- ปลื้มและชื่นใจที่สุดๆๆๆ....นี่คือ "กำลังใจ" ที่ยอดเยี่ยมให้เราฝ่าฟัน "ปัญหา" และเดินหน้า"ปลดหนี้" ให้เร็วที่สุด จะได้เริ่มชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

- ตอนนี้ไม่ค่อยกังวลกับค่าใช้จ่ายของเขาเท่าไหร่ เขาช่วยตัวเองในการหารายได้ได้ดี แม้จะเหน็ดเหนื่อยอย่างมากก็ตาม เพราะช่วงนี้ปิดภาคเรียนทำให้เขาจัดเวลากับการเพิ่มรายรับได้มากขึ้น และเราติดต่อกันตลอดเวลา ผ่านระบบ skype บ้างหรือใช้ sim true inter คุยกัน ประหยัดค่าใช้จ่ายและยิ่งถ้าเขาเป็นฝ่ายโทรมา ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งเขาและเรา

- 4 วันนี้ ใครที่รับราชการคงได้หยุดยาว...ดีเหมือนกัน..ได้ใช้เวลาทบทวนชีวิต...อ่านหนังสือดีๆและมีเวลามาเขียนกระทู้ของตัวเอง

- วันนี้มีความสุข เลยมาแบ่งปันความสุขให้เพื่อนๆในชมรมค่ะ...มีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4214 โดย 0834368962
กระทู้นี้ของเรา..เกือบลืมไปแล้วนะ...ผ่านมาตั้งสองปีกว่าแล้ว

อ่านเรื่องตัวเอง..ก็ยังน้ำตาซึมเลย...

ตอนนี้...เข้าที่เข้าทางพอควร..ในเรื่องปลดหนี้

สำหรับเรื่องลูกสาว..เขาก็หนักเอาการ..สู้ชีวิตสุดๆ

เขาหางานทำ พร้อมเรียน งานที่ทำก็ 2 แห่ง..เป็นร้านอาหารเกาหลี..กับร้านขายเสื้อผ้า..ช่วยแม่ผ่อนแรงเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือนน่าดู...บางวันควงงานทั้งวันทั้งคืน..ทำไงได้..ความรวยยังหลบในอยู่

ก่อนจะได้งานนี้..มีช่วงวิกฤติ..เพราะร้านอาหารไทยที่ทำอยู่เดิม..เจ้าของร้านคนไทยเกิดอารมณ์เสียอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้..ให้ลูกจ้างทุกคนพักงานหมด..เนื่องจากโดนเจ้าหน้าที่รัฐของ las vagas มาตรวจค้น..แม้แต่ลูกสาวที่เคยเป็นที่โปรดปรานของเจ้าของร้านยังโดนหางเลขให้พักงานด้วย...ลูกสาวเขาอึดอัดกับนิสัยเจ้าของคนนี้นานแล้ว..เขาเลยหางานใหม่..แบบเดินเข้าไปขอสมัครงานเอง..แล้วก็โชคดีตอบรับทั้งสองแห่ง..แถมที่เก่าก็มาเรียกกลับไปทำงาน..แต่เขา..say no...ไม่ใช่ no vote นะ

เรา..เลยพอลุ้น..จะหนักใหม่ก็คงเป็นเดือนสิงหาฯ..ต้องรีบปัมเงินไว้จ่ายค่าเทอมซึ่งตกลงกับลูกไว้ว่าเป็นความรับผิดชอบของเรา

ยังไง..ไม่ว่าอะไรจะเกิด...เราก็ท่องไว้เสมอ...ห้ามท้อ...ยิ้มสู้..ยิ้มสู้..คิดแต่เรื่องดีๆ..แล้วจะมีแต่สิ่งดีๆๆๆเดินมาหาเรา...ชัวร์....

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4215 โดย 0834368962
เดือนนี้...ครบรอบ"วันแม่"อีกปีแล้ว

ขอบคุณ...น้องnoui ช่วย up กระทู้ขึ้นมา....

ค่อนข้างยุ่งเหยิงกับงานจิตอาสา..พอดีได้รับความไว้วางใจเลือกให้เข้าไปเป็นกรรมการสหกรณ์ฯ...องค์กรนี้ไม่มีปันผลให้กรรมการปลายปีนะ..แตกต่างจากสหกรณ์อื่นๆ...แต่เราก็คิดว่าเป็นเรื่องดีกับชีวิตที่จะได้ดึงความรู้เก่าๆซึ่งอุตส่าห์เล่าเรียนมาตั้งหลายปริญญา..มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกของสหกรณ์แห่งนี้...ภูมิใจกับสิ่งที่เลือกทำ...สบายใจและมีกำลังใจกับการปลดหนี้...พอเราเป็น"ผู้ให้" สิ่งที่เราได้รับกลับมา..มากมายกว่าที่เราให้

ก็...คงเช่นเดียวกับคณะกรรมการชมรมหนี้แห่งนี้...แต่ละท่านมาด้วยใจที่พร้อมจะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

สำหรับลูกสาว...เขายังคงต้องช่วยตัวเองอย่างหนักและเหนื่อยแทบไม่ค่อยได้พัก...ลุยงานหนัก..เพราะค่าครองชีพที่อเมริกาค่อนข้างสูงและเขาก็อยู่ในรัฐที่ไฮโซอยู่กัน...ก็..ดีอีกแล้วที่ทำให้เขาสู้ชีวิตและรู้จักคิด...ค่าเทอมเดือนนี้เขารับผิดชอบเอง...แม่ไม่ได้ช่วย...แถมเขายังเอาเงินเก็บของเขามาช่วยชำระหนี้แทนแม่อีกด้วย...เงินก้อนนี้ได้ช่วยปลดล็อคหนี้ของควิกแคช...เป็นการปิดบัญชีหลังได้รับคำพิพากษาอุทธรณ์

ตอนนี้...มีกำลังใจเปี่ยมล้น...และมีเป้าหมายที่ชัดเจนกับงาน...จะสำเร็จแค่ไหนก็สู้กันสักตั้ง...มุ่งมั่น..ศรัทธา...ไม่กลัวเหนื่อย..ยังไงก็ต้องสำเร็จ....ที่สำคัญจะได้ปลดหนี้เป็นไทให้อิสระกับตัวเองเสียที...จะได้ทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ....สำเร็จอย่างที่เราตั้งใจเมื่อไหร่จะมารวบรวมเล่าให้ฟัง

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: fay

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4222 โดย june



ยินดีและดีใจมากๆเลยค่ะ...ที่ในที่สุดพี่สาวเสียงหวาน...ก็กลับเข้าบ้านของเราอีกครั้ง... ^^ ^^

เป้หวังว่าพี่ mom 23 คงยังจำได้นะคะ..เรามีนัดสังสรรค์กันที่ตลาดน้ำดำเนิน เอ๊ย !!!

ตลาดน้ำตลิ่งชันเจ้าค่...ปูเป้จะรอคอยนะคะ o_) o_) o_)

รักษาเกียรติของคุณไว้
เมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างไม่สุภาพ...
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: CFC1996

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4253 โดย CFC1996
ขอบคุณ น้องAnakinมากๆนะคะ กรุณาเป็นอย่างยิ่งนำเนื้อหาเก่ามาบรรจุให้...จะน่ารักอย่างยิ่ง ถ้าใส่หัวใจสีชมพูไว้หน้ากระทู้

ขอเลียนแบบคุณเหนอหน่อย...เดี๋ยวไม่อินเทรนด์

น้องปูเป้...พี่ไม่เคยลืมนะ...เรามีพันธะสัญญากัน...พร้อมเมื่อไหร่นัดมาเลย..ไปโลด

ตอนนี้..อารมณ์ยังไม่บรรเจิดพอจะเล่าเรื่องต่อ...ฝากพี่ๆ(สงสัยไม่ค่อยมี) น้องๆ เพื่อนๆ อ่านภาคเก่าในนี้ไปก่อนนะจ๊ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4260 โดย Pych
แก้ Icon ให้แล้วนะครับ

และด้วยความยินดีอย่างยิ่งเลยครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #4284 โดย Khwank
o_) เป็นอะไรที่สุดยอดมากทั้งคุณและลูกครับอ่านแล้วรู้สึกดีมากมีลูกเป็นกัลยานมิตรอีกรักดีตลาดเป็นหนี้เพราะลูกไม่มีอะไรต้องเสียใจ ไม่รู้จะอธิบายยังไง บอกได้แต่ว่าคุณสุดยอดมาก ขอสรรเสิญจากใจจริง o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.051 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena