มีปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่สื่อสารผิดพลาด ทำให้เราโดนค่าปรับ....

สวัสดีครับทุกท่าน

ปัญหาของผมไม่ได้เกิดจากตัวผมเองครับ ตอนนี้ผมกำลังโดนทวงถามหนี้อยู่เพราะไม่จ่าย เหตุอันเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาด อธิบายโดยละเอียดดังนี้ครับ

1. ผมเป็นสมาชิกบัตรเครดิตพร้อมกับบัตรสินเชื่อหลายสถาบันแต่ไม่เคยเสียชื่อสักสถาบันเพราะจ่ายตรงตลอด แต่ปัญหาเริ่มเกิดตอนน้ำท่วม เหตุเพราะผมทำงานในสถานศึกษาต้องรับเงินเดือนจากสหกรณ์ของหน่วยงาน ดังนั้นจึงไม่มี ATM พอน้ำท่วมหน่วยงานก็เข้ารับเงินไม่ได้

2. ทุกสถาบันการเงินผมโทรติดต่อเพื่อขอเลื่อนหรือขอความช่วยเหลือแล้วแต่สถาบันการเงินนั้น ๆ จะมีนโยบาย ส่วนใหญ่ช่วยเหลือเพราะน้ำท่วมจริง ๆ (บ้านอยู่บางบัวทอง)

3. แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งที่ไม่มีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้คือ บริษัทพรอมิส ประเทศไทย จำกัด ได้โทรมาทวงถามเมื่อครบกำหนดชำระเงินแล้ว ผมก็แจ้งไปว่าตอนนี้กำลังอพยพอยู่ ไม่สะดวกในการชำระเงิน อยู่ต่างจังหวัด เขาบอกว่าอย่างไรเสียให้เราชำระเงินพร้อมค่าปรับในการทวงถาม (มันคิดค่าปรับตามปกติ) ภายในวัน .... ผมก็บอกไปว่าไม่มีเงินมากพอที่จะชำระหนี้ครับ เพราะต้องใช้เงินที่มีด้วยความประหยัดยังไม่รู้เลยว่าน้ำจะท่วมอีกนานหรือไม่ เพราะเข้าไปเบิกเงินจากสหกรณ์ไม่ได้น้ำท่วม เขาก็หายไปพักหนึ่งจากนั้นโทรกลับมาบอกว่า หากชำระเงินภายในวันที่กำหนดเขาจะยกเว้นค่าปรับในการทวงถามให้ ผมก็ไปขอยืมเงินญาติ ๆ มาก่อนเพื่อมาจ่าย เห็นว่าบริษัทช่วยเหลือแล้ว

4. เมื่อจ่ายไป 3 วัน บริษัทก็โทรมาทวงถามอีกว่าจ่ายไปแล้วหรือยัง ผมก็บอกว่าจ่ายไปแล้วตามยอดที่บริษัทบอกมา เขาขอเวลาตรวจสอบประมาณ 1 นาที เขาบอกว่า ยอดที่จ่ายเข้ามาคือยอดของเดือนที่แล้ว ยอดของเดือนนี้ยังไม่ได้จ่าย ให้ไปจ่ายพร้อมค่าปรับในการทวงถาม ผมก็เลยบอกว่า อ่าว แล้วทำไมไม่แจ้งเมื่อครั้งก่อนเลยครับว่าต้องชำระพร้อมกัน 2 งวดเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ ถ้าแบบนี้ผมขอยกเว้นค่าปรับได้หรือไม่ครับ ( ณ ตอนนั้นค่าปรับประมาณ 300 บาท) บริษัทบอกว่ายกเว้นไม่ได้แล้ว เพราะได้ยกเว้นไปเมื่อครั้งก่อนแล้ว ผมก็เลยบอกว่าแล้วแบบนี้บริษัททำไมไม่แจ้งเลยว่าต้องชำระพร้อมกัน 2 เดือน แบบนี้มันส่งผลกระทบต่อผม ทำให้ผมต้องเสียค่าปรับโดยใช่เหตุ ทั้ง ๆ ที่น้ำท่วมใบแจ้งหนี้ก็ไม่ได้รับ อยู่ระหว่างการอพยพอยู่ เงินก็ไม่มีจะจ่าย

5. ผมตัดสินใจไม่จ่ายเพราะอยากคุยกับบริษัทให้รู้เรื่องเกี่ยวกับค่าปรับอันเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดของพนักงาน พอล่วงเลยมาถึงวันนี้ค่าปรับก็เพิ่มขึ้นตามที่ทุกท่านทราบ และก่อนที่จะส่งให้บริษัททวงถามหนี้นั้น ทางพรอมิสก็ให้พนักงานทวงถามหนี้(ถ่อย ๆ ) ของบริษัทโทรมาทวงถามด้วยถ้อยคำที่หยาบ ๆ ต่ำ ๆ ผมก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ผมยินดีชำระเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยทุกประการ แต่ไม่ยินดีชำระค่าปรับอันเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด ผมใช้คำนี้มาโดยตลอด ว่ายินดีชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยแต่ไม่ยินดีชำระค่าปรับ ไม่ได้หมายความว่าผมจะชักดาบ หรือผมจะเบี้ยวไม่จ่าย

6. มาถึงตอนนี้บริษัททวงหนี้ได้โทรมาเจรจา ให้ผมชำระเงินเป็นก้อน ผมมีหนี้ทั้งหมด 42000 บาทโดยประมาณ ให้แบ่งจ่ายเดือนละ 3500 บาท 12 เดือน หรือชำระเงินก้อนเดียวทั้งหมด ผมยังไม่ได้ให้คำตอบอะไรเพราะอยากเข้ามาปรึกษาพี่ ๆ ก่อนครับว่า ผมควรทำอย่างไรดี

ขอเสนอของเขาที่บอกมาคุณสามารถทำได้หรือไม่

จำนวนเงินที่คุณบอกมาคือ 42000 บาท (โดยประมาณ)

เขาให้ผ่อนเดือนละ 3500x12 งวด (คุณจ่ายไหวไหม)

เขาให้จ่ายแค่ต้นอย่างเดียว หรือมีคิดดอกเบี้ยเพิ่ม (คุณต้องถามให้ละเอียด)


โดยส่วนตัวแล้วหากเขาจะเสนออะไรมา และคุณยอมรับได้ก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ไม่ว่ายืนยันอะไรกันไป ก็ขอให้เขามีหนังสือยืนยันรับรองมาให้เรียบร้อย

อย่าจ่ายเพียงเพราะคุยปากเปล่าค่ะ


ดูเหมือนคุณเป็นลูกหนี้ที่ยังมีกำลังในการจ่ายอยู่...อย่างไรก็ตามอ่านศึกษาเพิ่มเติมกระทู้ปักหมุด

ด้านบนได้นะค่ะ เผื่อเป็นแนวทางในการปลดหนี้ค่ะ

ขอบคุณครับที่แนะนำ

ในส่วนกำลังในการชำระนั้น พอมีครับแต่หากจ่ายไปแล้วคงลำบากหน่อย ประมาณว่าต้องกดบัตรโน่นมาจ่ายบัตรนี้แล้วหมุนเอาเรื่อย ๆ เพราะผมลองบอกไปแล้ว่า 3500 นั่นหากจะให้จ่ายก็พอรับได้แต่จะให้ปรับลดให้อีกนักหน่อยได้หรือไม่ เขาบอกว่าไม่ได้แล้ว คือยังไงเสีย 3500 ก็น้อยสุดแล้ว แบบนี้ หากผมฮึดจ่ายแบบเงินรัดตัว 3500 ไหว ควรรับข้อเสนอนี้ไว้เพื่อให้เรื่องมันจบถูกนะครับ แต่ในอนาคตหากผมจ่ายไปแล้วสัก 2-3 เดือนแล้วไม่มีกำลังจ่าย(เพราะลูกเข้าเรียน เมษา และอีกคนกำหนดคลอด มิถุนา ต้องใช้เงินเยอะเลย) ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับ

ลองอ่านที่นี่ให้จบ....แล้วลองประเมิณตัวเองก่อนครับ....แล้วค่อยว่ากันต่อ

วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

narak0001 เขียน: ขอบคุณครับที่แนะนำ

ในส่วนกำลังในการชำระนั้น พอมีครับแต่หากจ่ายไปแล้วคงลำบากหน่อย ประมาณว่าต้องกดบัตรโน่นมาจ่ายบัตรนี้แล้วหมุนเอาเรื่อย ๆ เพราะผมลองบอกไปแล้ว่า 3500 นั่นหากจะให้จ่ายก็พอรับได้แต่จะให้ปรับลดให้อีกนักหน่อยได้หรือไม่ เขาบอกว่าไม่ได้แล้ว คือยังไงเสีย 3500 ก็น้อยสุดแล้ว แบบนี้ หากผมฮึดจ่ายแบบเงินรัดตัว 3500 ไหว ควรรับข้อเสนอนี้ไว้เพื่อให้เรื่องมันจบถูกนะครับ แต่ในอนาคตหากผมจ่ายไปแล้วสัก 2-3 เดือนแล้วไม่มีกำลังจ่าย(เพราะลูกเข้าเรียน เมษา และอีกคนกำหนดคลอด มิถุนา ต้องใช้เงินเยอะเลย) ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับ

ดังนั้นสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่คือปัญหาค่ะ

การกดบัตรนั้นมาจ่ายบัตนี้ไม่ดีแน่ แนะนำให้เข้าไปอ่านตามลิ้งค์ที่นานาแปะให้หมดนะค่ะ

แล้วค่อยๆ ตัดสินใจ ตอนนี้เหมือนหนี้ก็กำลังจะรัดตัวมาเรื่อยๆ แล้ว คุณควรปรับปรุง

การใช้จ่าย และจัดระบบการเิงินให้ดีขึ้นค่ะ...มีลูกๆ ด้วย



1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?...id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?...id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?...id=710&Itemid=29


เงินนั้นเราหามาได้ด้วยการทำงาน คุณลองอ่านดู แล้วประเมิณตัวเองนะค่ะ

ว่าอยู่ที่ประมาณไหน ลองเอามาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณและครอบครัวค่ะ

อ่า อ่านจบแล้ว แบบนี้ผมไม่จ่ายตอนนี้ แล้วรอให้ผ่านไป 6 เดือน ค่อยกลับมาพูดเรื่องประนอมนี้ดีกว่าไหมครับ (เข้าใจว่าทุกท่านคงผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เลยอยากทราบข้อแนะนำครับ) เพราะตอนนี้หากผมดันทุรังไปก็มีแต่จะเสียเปล่า ๆ ถูกไหมครับ เพราะตอนนี้เท่าที่ถามกับบริษัททวงถามเขาบอกว่า ของผมบริษัทพรอมิสเพิ่งส่งให้เข้าเดือนแรก ขอปรับลดได้แค่นี้ ต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้ว จากที่อ่านมา โดยปกติการประนอมหนี้คือการที่บริษัทคิดว่าลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายแน่ ๆ อยู่แล้วก็จะมีการคุยกัน ดังนั้นสิ่งที่ผมควรทำตอนนี้(คิดเองนะครับและขอคำแนะนำด้วย)คือ
1. บอกกับบริษัททวงหนี้ไปก่อนว่า 3500 เราไม่มีกำลังพอที่จะจ่ายได้ต้องนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นก่อน
2. บริษัทจะต้องโทรมาทวงเรื่อย ๆ ละครับ เพื่อคอมมิชชั่นของพนักงาน ก็บอกไปแบบข้อ 1 เรื่อย ๆ (ถ้าผิดรบกวนแนะนำด้วยนะครับ คือผมพูดจาดีกับเขามาโดยตลอด ไม่เคยพูดจาแข็งกระด้างเลยด้วยซ้ำไป 555)
3. รอให้ครบ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น จะมีการติดต่อกลับมาเพื่อประนอมหนี้อีกครั้ง(จากทีอ่านมา) ค่อยต่อรอง ในระยะนี้ให้เก็บเงินไปเรื่อย ๆ เพื่อรอ ปิดยอดทีเดียว

ในระยะนี้ผมก็ต้องคอยรับโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ แล้วบอกตามข้อ 1 ปกติผมก็รับตลอดนะครับหากทันรับโทรศัพท์ ไม่หนี้ รับตลอดคุยดีตลอดด้วย ขนาดสำนักงานใหญ่โทรมาด่า ผมก็ยังบอกว่า ถ้าไม่มีไรแล้วผมขออนุญาติวางนะครับ แล้วก็ตัดสายเลย 555 รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับว่า 3 ข้อดังกล่าวนี้มีไรแนะนำเพิ่มเติมอีกหรือไม่ครับ

narak0001 เขียน: อ่า อ่านจบแล้ว แบบนี้ผมไม่จ่ายตอนนี้ แล้วรอให้ผ่านไป 6 เดือน ค่อยกลับมาพูดเรื่องประนอมนี้ดีกว่าไหมครับ (เข้าใจว่าทุกท่านคงผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เลยอยากทราบข้อแนะนำครับ) เพราะตอนนี้หากผมดันทุรังไปก็มีแต่จะเสียเปล่า ๆ ถูกไหมครับ เพราะตอนนี้เท่าที่ถามกับบริษัททวงถามเขาบอกว่า ของผมบริษัทพรอมิสเพิ่งส่งให้เข้าเดือนแรก ขอปรับลดได้แค่นี้ ต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้ว จากที่อ่านมา โดยปกติการประนอมหนี้คือการที่บริษัทคิดว่าลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายแน่ ๆ อยู่แล้วก็จะมีการคุยกัน ดังนั้นสิ่งที่ผมควรทำตอนนี้(คิดเองนะครับและขอคำแนะนำด้วย)คือ
1. บอกกับบริษัททวงหนี้ไปก่อนว่า 3500 เราไม่มีกำลังพอที่จะจ่ายได้ต้องนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นก่อน
2. บริษัทจะต้องโทรมาทวงเรื่อย ๆ ละครับ เพื่อคอมมิชชั่นของพนักงาน ก็บอกไปแบบข้อ 1 เรื่อย ๆ (ถ้าผิดรบกวนแนะนำด้วยนะครับ คือผมพูดจาดีกับเขามาโดยตลอด ไม่เคยพูดจาแข็งกระด้างเลยด้วยซ้ำไป 555)
3. รอให้ครบ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น จะมีการติดต่อกลับมาเพื่อประนอมหนี้อีกครั้ง(จากทีอ่านมา) ค่อยต่อรอง ในระยะนี้ให้เก็บเงินไปเรื่อย ๆ เพื่อรอ ปิดยอดทีเดียว

ในระยะนี้ผมก็ต้องคอยรับโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ แล้วบอกตามข้อ 1 ปกติผมก็รับตลอดนะครับหากทันรับโทรศัพท์ ไม่หนี้ รับตลอดคุยดีตลอดด้วย ขนาดสำนักงานใหญ่โทรมาด่า ผมก็ยังบอกว่า ถ้าไม่มีไรแล้วผมขออนุญาติวางนะครับ แล้วก็ตัดสายเลย 555 รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับว่า 3 ข้อดังกล่าวนี้มีไรแนะนำเพิ่มเติมอีกหรือไม่ครับ

จากที่อ่านดูคุณกำลังใจค่อนข้างดี แต่การขอต่อรองปิดหนี้ ไม่ได้เรียกว่า "ประนอมหนี้"

แยกออกจากกันนะค่ะเดี๋ยวจะสับสนค่ะ ส่วนระยะเวลา 6 เดือน คือระยะโดยประมาณค่ะ

ที่เราพอจะต่อรองได้...ทั้งนี้อาจจะได้ก่อน(ก็ยาก) หรือ นานกว่านี้ก็ได้


แต่ก่อนที่จะปฏิบัตินั้น แนะนำให้คุณทำ

1.ตารางหนี้ (ตามตัวอย่างในปักหมุด) เพื่อที่จะได้รู้ถึงสถานะหนี้ของตัวเอง

2. ตารางรายรับรายจ่าย (ตามตัวอย่างในปักหมุด) เพื่อที่จะได้รู้กำลังของตัวเอง

3. เลือกหมุนเงินโดยการกดบัตรนั้นบัตรนี้มาใช้จ่าย

คุณต้องอยู่ด้วยรายได้ที่แท้จริงของตัวเองให้ได้ค่ะ

ถ้าสามารถจ่ายและใช้เงินเดือนที่มีอยู่ของตนเองได้ ถือว่าการเงิน

ของคุณยังไม่ประสบกับปัญหา แต่ถ้าคุณต้องหมุนเงินในบัตรมาใช้...แสดงว่า

"คุณมีปัญหา" ห้ามหลอกตัวเองเด็ดขาดค่ะ ไม่อย่างนัีั้นเมื่อไหร่หนี้ของคุณจะหมดอย่างแท้จริง

หากคุณยังหมุนเงินในบัตรไปเรื่อยๆ คุณจะพบกับทางตันอย่างพี่พวกเราเคยพบอย่างแน่นอน


ขอให้มีสติ เลิกเป็นหนี้บัตรค่ะ

ณ ปัจจุบันนี้ผมอยู่ได้โดยไม่ได้กดบัตรมาหมุนแล้วครับ คือเอาเงินเดือนที่มีอยู่ตอนนี้จ่ายบัตรขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็หมดทุกบัตรครับ แต่เงินที่มี ณ ตอนนี้ไม่พอที่จะจ่ายรายเดือน ๆ ละ 3500 บาทครับผม หากจะให้จ่ายขนาดนี้ต้องกดบัตรอื่นมาทดแทนครับ

ตารางหนี้ และ ตารางเงินเดือน ผมทำทุกเดือนครับ ภรรยาผมช่วยทำให้จะได้รู้ว่าต้องจ่ายไรก่อนหลัง
สำหรับบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่เกิดปัญหาอันเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาด เพราะก่อนหน้านี้ผมก็จ่ายขั่นต่ำโดยไม่กระทบอะไรต่อเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนอยู่แล้วครับ

สรุป
1. ผมจ่าย 3500 ด้วยเงินเดือนผมเองไม่ได้ หากจะให้จ่ายผมต้องกดบัตรมาหมุน
2. ณ ปัจจุบันนี้หากไม่นับเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือน (หากเลือกที่จะจ่าย) ผมสามารถอยู่ได้ด้วยเงินตัวเองครับ

เพราะฉะนั้น ผมต้องรอเพื่อต่อรองหนี้ถูกไหมครับ

narak0001 เขียน: ณ ปัจจุบันนี้ผมอยู่ได้โดยไม่ได้กดบัตรมาหมุนแล้วครับ คือเอาเงินเดือนที่มีอยู่ตอนนี้จ่ายบัตรขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็หมดทุกบัตรครับ แต่เงินที่มี ณ ตอนนี้ไม่พอที่จะจ่ายรายเดือน ๆ ละ 3500 บาทครับผม หากจะให้จ่ายขนาดนี้ต้องกดบัตรอื่นมาทดแทนครับ

ตารางหนี้ และ ตารางเงินเดือน ผมทำทุกเดือนครับ ภรรยาผมช่วยทำให้จะได้รู้ว่าต้องจ่ายไรก่อนหลัง
สำหรับบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่เกิดปัญหาอันเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาด เพราะก่อนหน้านี้ผมก็จ่ายขั่นต่ำโดยไม่กระทบอะไรต่อเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนอยู่แล้วครับ

สรุป
1. ผมจ่าย 3500 ด้วยเงินเดือนผมเองไม่ได้ หากจะให้จ่ายผมต้องกดบัตรมาหมุน
2. ณ ปัจจุบันนี้หากไม่นับเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือน (หากเลือกที่จะจ่าย) ผมสามารถอยู่ได้ด้วยเงินตัวเองครับ

เพราะฉะนั้น ผมต้องรอเพื่อต่อรองหนี้ถูกไหมครับ

ถ้าเป็นอย่างที่เล่ามาจริง ก็ดีใจด้วยค่ะ ที่คุณเป็นคนที่วางแผนการใช้เงินที่ดีมากค่ะ

จัดไปตามนั้นที่เข้าใจเลยจ๊ะ

ขอบคุณครับ

สรุป
หากบริษัทโทรมาก็บอกไปก่อนว่า ยังไม่พร้อมที่จะจ่ายในตอนนี้ โทรมากี่ครั้งก็บอกไปตามนั้น ขอบคุณทุกท่านมากครับ ต่อไปก็คอยรับโทรศัพท์ที่จะมารังควาญเรื่อย ๆ อิอิ

narak0001 เขียน: ณ ปัจจุบันนี้ผมอยู่ได้โดยไม่ได้กดบัตรมาหมุนแล้วครับ คือเอาเงินเดือนที่มีอยู่ตอนนี้จ่ายบัตรขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็หมดทุกบัตรครับ แต่เงินที่มี ณ ตอนนี้ไม่พอที่จะจ่ายรายเดือน ๆ ละ 3500 บาทครับผม หากจะให้จ่ายขนาดนี้ต้องกดบัตรอื่นมาทดแทนครับ

ตารางหนี้ และ ตารางเงินเดือน ผมทำทุกเดือนครับ ภรรยาผมช่วยทำให้จะได้รู้ว่าต้องจ่ายไรก่อนหลัง
สำหรับบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่เกิดปัญหาอันเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาด เพราะก่อนหน้านี้ผมก็จ่ายขั่นต่ำโดยไม่กระทบอะไรต่อเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนอยู่แล้วครับ

สรุป
1. ผมจ่าย 3500 ด้วยเงินเดือนผมเองไม่ได้ หากจะให้จ่ายผมต้องกดบัตรมาหมุน
ไม่แนะนำให้หมุนอีกค่ะ ก็ต้องหยุดเจ้านี้ไปค่ะ หรือเลือกเจ้าอื่นหยุด หรือหยุดหมดค่ะ


2. ณ ปัจจุบันนี้หากไม่นับเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือน (หากเลือกที่จะจ่าย) ผมสามารถอยู่ได้ด้วยเงินตัวเองครับ
ตามข้อ 1 ค่ะ ต้องทำรายจ่ายบัตรออกมา แล้วพิจารณาว่า คุณควรใช้วิธีปลดหนี้ ที่ 1 บวก 2
หรือ วิธีที่ 2 ทั้งหมด ต้องพิจารณาความคุ้มค่าของเงินคุณที่มีไม่มาก การหยุดบางตัวและ
จ่ายบางตัว อาจทำให้การปลดหนี้ช้าลง ไม่มีเงินเก็บ เพราะมัวแต่จ่ายออกให้พอดีกับ
รายรับค่ะ คิดให้ดีค่ะ

เพราะฉะนั้น ผมต้องรอเพื่อต่อรองหนี้ถูกไหมครับ

kaewja เขียน:

narak0001 เขียน: ณ ปัจจุบันนี้ผมอยู่ได้โดยไม่ได้กดบัตรมาหมุนแล้วครับ คือเอาเงินเดือนที่มีอยู่ตอนนี้จ่ายบัตรขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็หมดทุกบัตรครับ แต่เงินที่มี ณ ตอนนี้ไม่พอที่จะจ่ายรายเดือน ๆ ละ 3500 บาทครับผม หากจะให้จ่ายขนาดนี้ต้องกดบัตรอื่นมาทดแทนครับ

ตารางหนี้ และ ตารางเงินเดือน ผมทำทุกเดือนครับ ภรรยาผมช่วยทำให้จะได้รู้ว่าต้องจ่ายไรก่อนหลัง
สำหรับบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่เกิดปัญหาอันเนื่องจากการสื่อสารผิดพลาด เพราะก่อนหน้านี้ผมก็จ่ายขั่นต่ำโดยไม่กระทบอะไรต่อเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนอยู่แล้วครับ

สรุป
1. ผมจ่าย 3500 ด้วยเงินเดือนผมเองไม่ได้ หากจะให้จ่ายผมต้องกดบัตรมาหมุน
ไม่แนะนำให้หมุนอีกค่ะ ก็ต้องหยุดเจ้านี้ไปค่ะ หรือเลือกเจ้าอื่นหยุด หรือหยุดหมดค่ะ


2. ณ ปัจจุบันนี้หากไม่นับเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือน (หากเลือกที่จะจ่าย) ผมสามารถอยู่ได้ด้วยเงินตัวเองครับ
ตามข้อ 1 ค่ะ ต้องทำรายจ่ายบัตรออกมา แล้วพิจารณาว่า คุณควรใช้วิธีปลดหนี้ ที่ 1 บวก 2
หรือ วิธีที่ 2 ทั้งหมด ต้องพิจารณาความคุ้มค่าของเงินคุณที่มีไม่มาก การหยุดบางตัวและ
จ่ายบางตัว อาจทำให้การปลดหนี้ช้าลง ไม่มีเงินเก็บ เพราะมัวแต่จ่ายออกให้พอดีกับ
รายรับค่ะ คิดให้ดีค่ะ

เพราะฉะนั้น ผมต้องรอเพื่อต่อรองหนี้ถูกไหมครับ

ที่พี่แก้วพูดก็น่าคิดค่ะ ยังไงคุณเจ้าของกระทู้ก็พยายามลองปรับการใช้จ่ายดูค่ะ

ให้มีเงินเก็บออมเยอะๆ แม้ใช้หนี้หมดแล้วก็จะได้นิสัยการออมเพิ่มด้วยค่ะ

อ่านแล้วครับ อ่าน "วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน " ถึงได้รู้ว่าควรทำอย่างไร การอ่านไวคงเป็นนิสัยของอาชีพผมกระมังครับ เพราะโดยปกติก็ต้องใช้การพิมพ์การอ่าน การตีความอยู่เนือง ๆ อยู่แล้วครับ

สำหรับตอนนี้ผมตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่หมุนเงินเพื่อจ่ายบัตรครับ คงหยุดเจ้าหนี้ของบริษัทนี้ไว้แล้วเก็บเงินคอยปิดทีเดียวเลย ไม่งั้นเป็นหนี้หลายทาง กว่าจะหมดหนี้อีกนานครับ

Anakin เขียน:

narak0001 เขียน:
อ่า อ่านจบแล้ว แบบนี้ผมไม่จ่ายตอนนี้ แล้วรอให้ผ่านไป 6 เดือน ค่อยกลับมาพูดเรื่องประนอมนี้ดีกว่าไหมครับ (เข้าใจว่าทุกท่านคงผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เลยอยากทราบข้อแนะนำครับ) เพราะตอนนี้หากผมดันทุรังไปก็มีแต่จะเสียเปล่า ๆ ถูกไหมครับ เพราะตอนนี้เท่าที่ถามกับบริษัททวงถามเขาบอกว่า ของผมบริษัทพรอมิสเพิ่งส่งให้เข้าเดือนแรก ขอปรับลดได้แค่นี้ ต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้ว จากที่อ่านมา โดยปกติการประนอมหนี้คือการที่บริษัทคิดว่าลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายแน่ ๆ อยู่แล้วก็จะมีการคุยกัน ดังนั้นสิ่งที่ผมควรทำตอนนี้(คิดเองนะครับและขอคำแนะนำด้วย)คือ
1. บอกกับบริษัททวงหนี้ไปก่อนว่า 3500 เราไม่มีกำลังพอที่จะจ่ายได้ต้องนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นก่อน
2. บริษัทจะต้องโทรมาทวงเรื่อย ๆ ละครับ เพื่อคอมมิชชั่นของพนักงาน ก็บอกไปแบบข้อ 1 เรื่อย ๆ (ถ้าผิดรบกวนแนะนำด้วยนะครับ คือผมพูดจาดีกับเขามาโดยตลอด ไม่เคยพูดจาแข็งกระด้างเลยด้วยซ้ำไป 555)
3. รอให้ครบ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น จะมีการติดต่อกลับมาเพื่อประนอมหนี้อีกครั้ง(จากทีอ่านมา) ค่อยต่อรอง ในระยะนี้ให้เก็บเงินไปเรื่อย ๆ เพื่อรอ ปิดยอดทีเดียว

ในระยะนี้ผมก็ต้องคอยรับโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ แล้วบอกตามข้อ 1 ปกติผมก็รับตลอดนะครับหากทันรับโทรศัพท์ ไม่หนี้ รับตลอดคุยดีตลอดด้วย ขนาดสำนักงานใหญ่โทรมาด่า ผมก็ยังบอกว่า ถ้าไม่มีไรแล้วผมขออนุญาติวางนะครับ แล้วก็ตัดสายเลย 555 รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับว่า 3 ข้อดังกล่าวนี้มีไรแนะนำเพิ่มเติมอีกหรือไม่ครับ

คุณอ่านไวมากๆ เลยครับ

ผมอ่านกระทู้ วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน เป็นวันเลยนะครับ

อีกอย่าง Link ที่น้องนานาให้ไว้ ก็คลิ๊กไม่ได้

ถามจริงๆ นะครับ คุณอ่านแล้ว จริงๆ เหรอครับ

เขาอาจจะตามลิงค์คุณบัดเคไปก็ได้ค่ะ (เขาให้ลิ้งค์ก่อนหนู)

เอาเป็นว่าเราได้ทำหน้าที่แล้วค่ะพี่ ส่วนเจ้าของกระทู้จะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน

ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองค่ะ


(วุ๊...ขี้สงสัยกว่าหนูอีกนะเนี่ย...พ่อคุณดาบเลเซอร์)