ช่วยด้วยครับกำลังจะโดนอายัดเงินเดือนสิ้นเดือน มี.ค.55 นี้

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6210 โดย manity
:crying: เป็นหนี้บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชียต้น 29100 บาท ศาลฟ้องที่ 39000 บาท และกองบังคับคดีมีคำสั่งอายัดเงินเดือน 28 มี.ค นี้ ผมเลยโทรไปสอบถาม บ.จีเอ็มเเช่ยนเนตเวคว่าหากจะปิดบัญชีลดให้เท่าไหร่ ได้คำตอบว่า
:hurt: มูลหนี้ 39000 บาท ค่าทนาย 4500 บาท เบี๊ยปรับ 15% คิดตั้งแต่ 1 ธ.ค.53 รวมทั้งหมด 5หมื่นกว่าๆ ลดให้ 20% จ่ายงวดเดียว............โฮน้ำตาแทบไหล ใจจริงคิดว่าจะ HC ครับว่าซัก 20000 บาท แต่ผิดคาดงงเลย อยากถามพี่ๆว่าเราจะดำเนินการกับไอ้บ้าเลือดนี้ยังไงดีครับ :hurt: :hurt: ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6212 โดย Napassawan

manity เขียน: :crying: เป็นหนี้บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชียต้น 29100 บาท ศาลฟ้องที่ 39000 บาท และกองบังคับคดีมีคำสั่งอายัดเงินเดือน 28 มี.ค นี้ ผมเลยโทรไปสอบถาม บ.จีเอ็มเเช่ยนเนตเวคว่าหากจะปิดบัญชีลดให้เท่าไหร่ ได้คำตอบว่า
:hurt: มูลหนี้ 39000 บาท ค่าทนาย 4500 บาท เบี๊ยปรับ 15% คิดตั้งแต่ 1 ธ.ค.53 รวมทั้งหมด 5หมื่นกว่าๆ ลดให้ 20% จ่ายงวดเดียว............โฮน้ำตาแทบไหล ใจจริงคิดว่าจะ HC ครับว่าซัก 20000 บาท แต่ผิดคาดงงเลย อยากถามพี่ๆว่าเราจะดำเนินการกับไอ้บ้าเลือดนี้ยังไงดีครับ :hurt: :hurt: ขอบคุณครับ


เป็นหนี้ตังแต่เมื่อไหร่ มีหนี้อีกกี่ตัว


ถูกฟ้องเมื่อไหร่ ข้อมูลเป็นอย่างไร ต้น ดอก


ได้ไปศาลไหม


ศาลตัดสินเมื่อไหร่ คำพิพากษาเป็นอย่างไร


หลังจากศาลตัดสินแล้ว ใช้เวลาเท่าไหร่ จนถึงอายัดเงินเดือน
ได้มีการติดต่อกับเจ้าหนี้บ้างไหม


อยู่ดีๆอยากจะ HC 20000 เอามาจากไหน คาดอะไรครับ


รู้จักเวปนี้มานานหรือยัง


ได้อ่านกระทู้ปักหมุดบ้างแล้วใช่ไหม



ข้อมูลคุณไม่ละเอียด

ถ้าเขาปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลจริงๆ เรื่องดอกเบี้ย

จะไปทำอะไรเขาครับ


ขอข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้อีกนิด ตามที่ผมได้ถามไปก่อน

ดูแล้วมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ไม่รู้ความเป็นมา ก็แทบทำอะไรไม่ได้แล้ว

หรือรู้ก็ทำไม่ทันแล้ว อาจต้องยอมให้อายัดเงินไปก่อน ถ้าไม่มีเงินปิดทั้งก้อน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6215 โดย manity
เป็นหนี้ตังแต่เมื่อไหร่ มีหนี้อีกกี่ตัว
-มีหนี้อีกสองตัว 1.บัตรเงินสด AIG 30000 บาท1.กยศ 90000 บาท
ได้ไปศาลไหม
-ไม่ได้ไป
ศาลตัดสินเมื่อไหร่ คำพิพากษาเป็นอย่างไร
-21 พย 54
หลังจากศาลตัดสินแล้ว ใช้เวลาเท่าไหร่ จนถึงอายัดเงินเดือน
ได้มีการติดต่อกับเจ้าหนี้บ้างไหม
-3 เดือน ไม่มีการติดต่อ
รู้จักเวปนี้มานานหรือยัง

ได้อ่านกระทู้ปักหมุดบ้างแล้วใช่ไหม
-ยังไนนาน ปักหมุดอ่านแล้วครับ
อยู่ดีๆอยากจะ HC 20000 เอามาจากไหน คาดอะไรครับ
-พอมีกำลังปิดที่เท่านี้

ถ้าเขาปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลจริงๆ เรื่องดอกเบี้ย

จะไปทำอะไรเขาครับ
-ไม่สามารถทำอะไรครับ
*คืออยากได้ครับแนะนำครับว่า จะให้เขาอายัดไปก่อน(ขอให้หัก15%)แล้วค่อยต่อรองHC
หรือพยายามขอส่วนลดแล้วปิดเลย แต่เท่าที่คุยเสียงแข็งมากบอกให้แค่ 20%ก็เลยยากให้พี่ๆช่วยพิจารณาน่ะครับ บางครั้งก็รู้ว่าอาจจะสายไปแข้นสุดท้ายเราจะดำเนนการยังไงต่อ

ขอบคุณ พี่จัง ด้วยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6218 โดย Ly89

manity เขียน: คืออยากได้ครับแนะนำครับว่า จะให้เขาอายัดไปก่อน(ขอให้หัก15%)แล้วค่อยต่อรองHC
หรือพยายามขอส่วนลดแล้วปิดเลย แต่เท่าที่คุยเสียงแข็งมากบอกให้แค่ 20%ก็เลยยากให้พี่ๆช่วยพิจารณาน่ะครับ บางครั้งก็รู้ว่าอาจจะสายไปแข้นสุดท้ายเราจะดำเนนการยังไงต่อ


ก็ลองเจรจาปิดบัญชีตามที่คุณไหวก่อนสิครับ..2 หมื่นนั่นน่ะครับ ถ้าเขายอมรับก็ดีไป

ถ้าเขาไม่ยอม คุณยินดีที่จะให้อายัดเงินเดือน ก็ตามนั้นเลย ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละครับ

ระหว่างนั้นก็เก็บเงินเพิ่มไปด้วย แล้วค่อยเจรจาปิดบัญชีอีก เจ้าหนี้มันไม่อยากอายัดเงินเดือน

ไปตลอดหรอกครับ...เขาอยากได้เงินก้อนมากกว่า....ส่วนหนี้ AIG คุณก็ต้องเก็บเงินเตรียมไว้เหมือนกัน

เอาไปอ่าน.....

นิยาม" ของคำว่า Hair-cut
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29


ส่วนหนี้ กยศ. ....ไม่รู้ว่าคุณยังจ่ายอยู่หรือเปล่า ชมรมไม่อยากให้หยุดจ่ายเจ้านี้นะครับ

อย่าลืมว่า ยังมีน้องๆอีกมากมายรอเงินจากคุณเพื่อศึกษาต่อนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6220 โดย manity

batk เขียน:

manity เขียน: คืออยากได้ครับแนะนำครับว่า จะให้เขาอายัดไปก่อน(ขอให้หัก15%)แล้วค่อยต่อรองHC
หรือพยายามขอส่วนลดแล้วปิดเลย แต่เท่าที่คุยเสียงแข็งมากบอกให้แค่ 20%ก็เลยยากให้พี่ๆช่วยพิจารณาน่ะครับ บางครั้งก็รู้ว่าอาจจะสายไปแข้นสุดท้ายเราจะดำเนนการยังไงต่อ


ก็ลองเจรจาปิดบัญชีตามที่คุณไหวก่อนสิครับ..2 หมื่นนั่นน่ะครับ ถ้าเขายอมรับก็ดีไป

ถ้าเขาไม่ยอม คุณยินดีที่จะให้อายัดเงินเดือน ก็ตามนั้นเลย ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละครับ

ระหว่างนั้นก็เก็บเงินเพิ่มไปด้วย แล้วค่อยเจรจาปิดบัญชีอีก เจ้าหนี้มันไม่อยากอายัดเงินเดือน

ไปตลอดหรอกครับ...เขาอยากได้เงินก้อนมากกว่า....ส่วนหนี้ AIG คุณก็ต้องเก็บเงินเตรียมไว้เหมือนกัน

เอาไปอ่าน.....

นิยาม" ของคำว่า Hair-cut
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29


ส่วนหนี้ กยศ. ....ไม่รู้ว่าคุณยังจ่ายอยู่หรือเปล่า ชมรมไม่อยากให้หยุดจ่ายเจ้านี้นะครับ

อย่าลืมว่า ยังมีน้องๆอีกมากมายรอเงินจากคุณเพื่อศึกษาต่อนะครับ


ครับพี่ กยศ ยังส่งอยู่........................ตอนนี้ก็กำลังประมวลผลว่าจะเลือกทางไหน ขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6222 โดย Napassawan
ที่ต้องถามเยอะเพราะอยากทราบภาพรวมครับ จะได้ช่วยตอบคำถามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ไม่ใช่ถามคำตอบคำ แก้ปัญหาได้ไม่จบ

หนี้อีกสองตัวฟ้องหรือยังครับ

ถ้าถูกฟ้องแล้ว การไปขอลดเงินอายัดจากบัตรไทยแอร์เอเซีย 30% เหลือ 15% แล้ว

เจ้าที่เหลืออยู่ จะสามารถมาอายัด 15% ที่เหลือจนครบ 30% ได้

ถ้ามีเจ้าอื่นรอคิวอายัดอยู่ก็ปล่อยให้อายัดเป็นรายๆไปจะดีกว่า

แต่ถ้ายังไม่มีใครฟ้อง ก็ไปขอลดเหลือ 15% และปล่อยให้เจ้านี้อายัดไป

แล้วเอาเงินก้อนไปปิดเจ้าที่ยังไม่ฟ้อง คือ AIG จะได้ส่วนลดงามกว่า เขื่อสิ

แล้วค่อยๆเก็บเงิน ปิดเจ้าอื่นไปก่อน เงินก้อนไม่เอา อยากได้เบี้ยหัวแตก ก็จัดไป


ส่วน กยศ นั้น ดอกเบี้ยปกติ ร้อยละ 1 แต่ถ้าฟ้องแล้ว ดอกจะสูงขึ้น ถึงร้อยละ 15

ซึ่ง ไม่เหมือนกับพวกบัตรทั้งหลายที่เมื่อถึงศาลแล้ว ดอกเบี้ยจะลดลงจาก ยี่สิบกว่า% เหลือ 15%

จึงไม่แนะนำให้หยุด เพราะดอกเบี้ยถูกมากอยู่แล้ว จะไปอยากเสียดอกเบี้ยปรับทำไม

แถมยังผ่อนน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับ บัตรเครดิต (อันนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องอนาคตน้องๆนะ

พูดถึงผลประโยชน์ของคุณเอง ถ้าไม่หยุด ดอกถูก ถ้าหยุด ดอกแพง)

ใครที่คิดจะหยุด กยศ. ละก็ บอกให้ว่าคิดผิดมาก ๆ มากที่สุด หาเรื่องเพิ่มดอกให้ตัวเอง

ถ้าเรื่องถึงศาลก็ไม่ชนะ แถมยังดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ผู้ค้ำซวยด้วยอีก
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: manity

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6223 โดย คุณากร

ช่วยด้วยครับกำลังจะโดนอายัดเงินเดือนสิ้นเดือน มี.ค.55 นี้



ช่วยด้วยครับ

ช่วยไปอ่านในกระทู้นี้ด้วย

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&func=view&catid=2&id=24836

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6371 โดย manity
เมื่อวานโทรเช็คยอดกลมๆแล้ว แอร์เอเชียยอดรวามเบี๊ยปรับ 46000 บาท ลดให้ เหลือ 38000 บาท โดยนัดชำระกันที่กองบังคับคดีพร้อมถอนการอายัดเงินเดือน รายที่สอง AIG ยอดรวม 36000 บาท บัตรกดเงินสด ไม่ได้จ่ายมา 4 ปี ล่ะ ลดให้เหลือ 18900 บาท พี่ว่าจะปิดเจ้าไหนก่อนดีครับ :สู้ๆ: :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6376 โดย Ly89

manity เขียน: เมื่อวานโทรเช็คยอดกลมๆแล้ว แอร์เอเชียยอดรวามเบี๊ยปรับ 46000 บาท ลดให้ เหลือ 38000 บาท โดยนัดชำระกันที่กองบังคับคดีพร้อมถอนการอายัดเงินเดือน รายที่สอง AIG ยอดรวม 36000 บาท บัตรกดเงินสด ไม่ได้จ่ายมา 4 ปี ล่ะ ลดให้เหลือ 18900 บาท พี่ว่าจะปิดเจ้าไหนก่อนดีครับ :สู้ๆ: :สู้ๆ:


คุณคิดว่าคุณพอใจกับตัวเลขไหมล่ะ.....และมีเงินพอแล้วหรือเปล่า....อยากจะจบเร็วหรือเปล่า

ตัวที่ฟ้องแล้ว....ถ้าอยากจะปิดจบไป ตัดปัญหา ก็ปิดได้ครับ ถ้าคุณพอใจกับตัวเลข แต่ผมคิดว่า

อย่าเพิ่งตัดแนวทางที่คุณได้โพสต์บอกมาก่อนหน้านี้....ผมไม่รู้ว่า 30% ของเงินเดือนคุณน่ะเท่าไหร่

และสามารถขอลดได้อีก 15% ถ้าจะปล่อยให้อายัดเงินเดือน....แต่ก็ต้องระวังทรัพย์สินอื่นๆด้วย...


ส่วนที่ว่าบัตรกดเงินสด ไม่ได้ส่งมา 4 ปี....อันนี้ฟ้องไปหรือยัง ถ้ายังผมอยากให้คุณได้อ่านเรื่อง

อายุความซะก่อน...บัตรกดเงินสด เข้าข่ายเป็นบัตรเครดิตนะครับ...แต่ถ้ามีเงินพร้อม อยากปิดจบ

ก็ไม่ได้ว่าอะไร....ก็ปิดได้ครับ

อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน)
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6379 โดย manity
ความเป็นจริงหากเราปล่อยให้อายัดเงินเดือนที่ 15% ผมว่าระบบเงินผมช๊อตแน่เลยพี่ผมเลยคิดว่าจะขายทรัพย์สินบางอย่างที่ไม่จำเป็นปิดแอร์เอเชียร์ก่อน ส่วน AIG รอไปก่อนได้เก็บตังอีกนิดค่อยปิดเพราะตัว AIG ยังไม่ฟ้องครับ...........เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆพอดีเป๊ะเลยพี่ และช่วงหลังสงกรานข่าวว่าทางบริษัทจะมีการปรับเงนเดือนขึ้นอีกน่าจะพอมีทางออกครับ ขอบคุณครับที่ชี้ทางสว่างให้ :im_here: :im_here:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6382 โดย meawpung
การแก้ไขปัญหาหนี้นั้น มันก็บางทีเป็นวิถีใครวิถีมันนะครับ เลือกปรับที่เหมาะกับเรา และสถานการณ์ของเรา

อ่านเป็นแนวทาง และนำมาปรับเข้ากับตัวเองนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6935 โดย manity
วันนี้ได้รับข่าวร้ายจาก สนง.กำหมายว่า สาวนลดของแอร์เอเชียยอดรวาม 46000 บาท ลดให้ เหลือ 38000 บาท ที่เคยคุยกันไว้บอกว่านโยบายผู้ใหญ่สั่งว่าในกรณีที่สั่งอายัดเงินเดือนแล้วไม่มีส่วนลดให้ถ้าจะปิดต้องปิดยอดเต็มที่ 46000 บาท ไม่ลดซักบาทยังงี้ก็มี พระเจ้าแสดงว่ายากได้เบี๊ยหัวแตกมั้ง พี่ท่านใดมีประสบณ์การแชร์หน่อยครับขอบคุณครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6967 โดย Skynine
o_) o_) o_) การอายัดเงินเดือนเป็นการใช้หนี้คืนอย่างหนึ่งเหมือนกันไม่น่าวิตกอะไร หากเราได้ฝึกการกิน การใช้
การอยู่มาก่อนหน้านี้แล้ว เราก็ปรับตัวได้ อยู่ได้ขอบอกอยู่ได้ ข้อดีข้อการอายัดก็คืออายัดได้ทีละเจ้า พี่อังก็โดนอายัดแล้วสิ้นปีนี้หมดหนี้กับเจ้าหนี้นี้
เพราะคำนวณดูแล้วหลังจากยอมความหน้าศาล จ่ายเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนแน่นอน โดนฟ้องติดๆ กัน ถึง 3 เจ้า และหนี้ค่อนข้างเยอะ
ยังมีเจ้าหนี้ที่ยังไม่ฟ้องอีกหลายเจ้า พี่อังเลยตัดสินใจ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้ทุกเจ้า คือ ให้อายัดดีกว่า เจ็บน้อยสุด
และยังพอมีเวลาที่จะเก็บเงินไว้แฮร์คัตเจ้าต่อไปได้ด้วย พี่อังใช้แนวทางอายัด+แฮร์คัตร่วมด้วย หากเจ้าไหนให้ส่วนลดดี มีเงินพอก็จะปิดควบคู่ไป
ก่อนหน้านั้นแฮร์คัตได้ 2 เจ้า เก็บเงินไม่ทันด้วยเพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทุกวันนี้ชีวิตหลังอายัดมีความสุขขึ้น
เราสามารถนำหลักฐานต่างๆ ที่มีไปขอส่วนลดจากกรมบังคับคดีได้ ไม่ต้องวิตกอะไรนะ
และการทำแฮร์คัตทำได้ตลอดชีพ ไม่ว่าจะก่อนขี้นศาล ขี้นศาลแล้ว แม้กระทั่งอยู่ระหว่างอายัดเงินเดือนทำได้ตลอด....
o_) o_) o_) ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร
คติการคืนหนี้ของพี่อัง คือ เจ้าหนี้ไม่ต้องแย่งกัน ได้หนี้คืนทุกเจ้า แต่ต้องเข้าแถวรอ....
[/color] o_) o_) o_)

เกณฑ์การยึด-อายัดทรัพย์-อายัดเงินเดือน
การถูกยึดทรัพย์

เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้เจ้าหนี้ชนะคดี หากลูกหนี้ไม่ชำระคืนตามคำพิพากษาภายใน 30 วัน
(ขอให้มียอดเข้าไปหลังมีคำพิพากษาภายในช่วงเวลานี้ คือ จ่ายคืนบางส่วนก็ได้ ไม่ใช่จ่ายเต็ม)
เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์หรืออายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ได้
โดยให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อออกหมายยึดและอายัดต่อไป

1. ทรัพย์สินที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต มูลค่ารวมกัน 50,000 บาทแรกห้ามเจ้าหนี้ยึด ทรัพย์ที่จำเป็นในการดำรงชีพ เช่น
โต๊ะกินข้าว เก้าอี้ โทรทัศน์ เครื่องครัว แต่ถ้าเป็นสร้อย แหวน นาฬิกา
ของเหล่านี้แม้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของลูกหนี้ แต่เจ้าหนี้ก็มีสิทธิยึดได้เพราะไม่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต

2. ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของลูกหนี้ ถ้ามูลค่ารวมกัน 100,000 บาทแรก ห้ามเจ้าหนี้ยึด เครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร(ถ้าประกอบธุรกิจรับถ่ายเอกสาร) ในกรณีที่เครื่องมือประกอบอาชีพมีราคาสูงกว่า 100,000 บาท และจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ก็สามารถขอต่อศาลได้

หากมีเจ้าหนี้หลายราย ทรัพย์ใดถูกยึดไปแล้ว ห้ามเจ้าหนี้รายอื่นมายึดซ้ำ เจ้าหนี้รายใดยึดก่อนก็ได้สิทธิก่อน


การอายัดเงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนต่างๆ

หากศาลตัดสินแล้ว เราควรติดต่อทนายโจทก์ว่าจะจ่ายอย่างไร จะผ่อนชำระหรือจ่ายงวดเดียวก็แล้วแต่จะตกลงกัน
แต่หากลูกหนี้เพิกเฉยไม่ติดต่อ ไม่ยอมจ่ายเงิน หรือตกลงเรื่องการจ่ายเงินไม่ได้ ทนายโจทก์ก็จะทำเรื่องขอยึดทรัพย์ หรืออายัดเงินเดือน และหากเจ้าหนี้รายแรกขออายัดเงินเดือนแล้ว เจ้าหนี้รายที่ 2, 3, 4 ... จะทำเรื่องขออายัดซ้ำ้ไม่ได้ ต้องรอคิว ให้รายแรกอายัดครบก่อน หรืออาจจะขอหารส่วนแบ่งเงินที่ถูกอายัดจากเจ้าหนี้รายแรกก็ได้ ถ้ารอก็จะรอได้ไม่เกินสิบปี หากเกินสิบปีก็จะหมดอายุความ
.........................................................

เกณฑ์การอายัดเงินเดือนของกรมบังคับคดี หากลูกหนี้เป็นข้าราชการ/ลูกจ้างประจำของข้าราชการจะไม่ถูกอายัดเงินเดือน หากลูกหนี้เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง หรือเป็นพนักงานบริษัท ฯลฯ จะถูกอายัดเงินเดือน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

1. อายัดเงินเดือนไม่เกิน 30 %

*** ลูกหนี้เงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาท --- อายัดไม่ได้

*** ลูกหนี้เงินเดือนเกิน 10,000 บาท อายัดได้ 30 % แต่จะต้องเหลือเงินให้ลูกหนี้ใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 10000 บาท

เช่น

- ลูกหนี้เงินเดือน 9,500 บาท ไม่ถูกอายัด
- ลูกหนี้เงินเดือน 12,000 บาท ถูกอายัด 2,000 บาท เหลือไว้ใช้จ่าย 10,000 บาท
- ลูกหนี้เงินเดือน 15000 บาท ถูกอายัด 4500 บาท เหลือไว้ใช้จ่าย 10,500 บาท

***หากลูกหนี้มีค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ เช่นค่าเลี้ยงดูบุตร ค่ารักษาพยาบาล สามารถนำหลักฐานไปขอลดหย่อนที่ กรมบังคับคดีเพื่อให้ลดเปอร์เซ็นต์การอายัดเงินเดือนได้

*** การอายัดเงินเดือนจะให้บริษัทนำส่ง หรือลูกหนี้นำส่งกรมบังคับคดีเองก็ได้

2. เงินโบนัส จะถูกอายัดไม่เกิน 50 %

3. เงินตอบแทนการออกจากงาน จะถูกอายัด 100 %

4. เงินค่าตอบแทนต่างๆ / ค่าสวัสดิการต่างๆ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าตำแหน่ง
*** การถูกอายัดจะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าจะสืบทราบหรือไม่และร้องขอต่อศาลว่าจะอายัดเท่าไหร���

5. บัญชีเงินฝาก ---อายัดได้

6. เงิน กบข --- อายัดไม่ได้

7. เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ทำกับบริษัท ----อายัดไม่ได้ (พ.ร.บ. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ)
แต่ถ้าทำกองทุนต่างๆกับธนาคารต้องดูตามหลักเกณฑ์ของ กองทุนว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้หรือไม่ และมีข้อห้ามการบังคับคดีหรือไม่ ถ้าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ และไม่มี ข้อห้ามก็จะอายัดได้

8. เงินค่าวิทยะฐานะ (ค่าตำแหน่งทางวิชาการ) ถ้าเป็นข้าราชการจะไม่ถูกอายัด แต่ถ้าเป็นสังกัดเอกชนจะถูกอายัด เพราะถือว่าเป็นเงินเดือน

9. หุ้น ---กรมบังคับคดีสามารถยึดใบหุ้นเพื่อขายทอดตลาดได้ หรือ ถ้ามีเงินปันผล ก็จะทำเรื่องอายัดเงินปันผลได้

10. เงินสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือพนักงานบริษัท หากเจ้าหนี้สืบทราบว่าเป็นสมาชิกสหกรณ์ใด สามารถอายัดเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน เงินค่าหุ้นสหกรณ์ได้

11. ร่วมทุนกับผู้อื่นเปิดบริษัท
---หากผู้ร่วมลงทุนมีปัญหาถูกอายัดทรัพย์---กรมบังคับคดีจะอายัดเฉพาะส่วนที่เป็นทรัพย์สิน
ของผู้ถูกอายัดเท่านั้น ไม่ได้อายัดทั้งหมด อาจดูเฉพาะส่วนของเงินปันผล
ใบหุ้นฯลฯ ของผู้ถูกอายัด
.........................................................

การถูกอายัดเงินเดือน กรมบังคับคดีจะอายัด 30% จากเงินเดือนเต็ม ก่อนหักภาษี และประกันสังคม เช่น 15000 บาท ถูกอายัด 4500 บาท จะเหลือเงินไว้ใช้ จ่ายภาษี ประกันสังคม ฯลฯ 10500 บาท
.........................................................

การอายัดเงินเดือน ลูกหนี้จะถูกอายัดจากยอดเงินเดือนเต็ม
หากลูกหนี้ผู้ถูกอายัดเงินเดือนมีภาระที่ต้องจ่ายเงินกู้ให้แก่ หน่วยงานอื่น เช่นสหกรณ์ต่างๆ
ลูกหนี้จะต้องคำนวณว่า เงินเดือนที่เหลือจากการถูกอายัดมีเพียงพอ
ที่จะใช้จ่ายประจำวันตลอดเดือน และเหลือพอที่จะจ่ายเงินกู้คืนให้สหกรณ์หรือไม่
- หากลูกหนี้ถูกอายัดเงินเดือน และถูกหักเงินกู้สหกรณ์แล้ว ยังมีเงินพอใช้และเหลือเก็บบ้างก็ถือว่าไม่เป็นไรไม่ต้องกังวล
- แต่หากถูกอายัดเงินเดือน และถูกหักเงินกู้สหกรณ์แล้วเงินเหลือไม่พอใช้จ่าย
ก็ควรหาทางแก้ไข เพราะถ้าไม่แก้ไขมันอาจจะนำไปสู่ปัญหาการหมุนจ่ายแบบเดิมอีกรอบ
ทำให้แก้ไขปัญหาหนี้ไม่หมดสักที โดยลูกหนี้ควรจะ...

1 .เจรจากับทางสหกรณ์ หาทางลดหย่อนยอดเงินที่ต้องชำระคืนในแต่ละเดือนโดยอาจจะยืดระยะผ่อนชำระ
ให้นานออกไป(ในกรณีที่ถูกหักบัญชีอัตโนมัติ)

2. อาจจะหยุดจ่ายและให้ทางสหกรณ์ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
และอายัดเงินเดือนต่อไป (วิธีนี้อาจสร้างปัญหาให้กับสหกรณ์ได้)
ลูกหนี้ยังสามารถใช้วิธีที่ 3 คือ

3. ลูกหนี้สามารถนำยอดเงินที่ถูกหักจ่ายคืนให้สหกรณ์มาขอ ลดหย่อนเปอร์เซ็นต์การอายัดเงินเดือนได้ (ขอลดหย่อนได้สูงสุด 50% เท่านั้น)
หมายความว่า ให้ลูกหนี้นำยอดภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ลูกหนี้ต้องจ่ายรวมทั้งเงินที่ต้องชำระคืนแก่
สหกรณ์มารวมยอดและขอลดยอด การอายัดเงินเดือน ไม่ให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือนจาก ยอดเต็มถึง 30 % ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ในการขอลดยอดการถูกอายัดจะขอลดยอดได้มากที่สุด คือให้กรมบังคับคดีอายัดไม่ต่ำกว่า 15%

***วิธีที่สามนี้เป็นวิธีที่น่าทำที่สุด***

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair-cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29




อยากรู้อะไรเพิ่มเติมหาอ่านได้ที่ห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ (คลังความรู้) มีสิ่งที่น่ารู้เพียบ....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6992 โดย manity
ขอบคุณครับ พี่อัง................ผมคุยกับ ผ.บุคคลของบริษัทบอกว่า case แบบนี้เจอมาทุกเจ้าจะลดให้เพราะไม่อยากอายัดหรอกแต่ของผมสงใส สนง.คงเห็นผมติดต่อจะปดเลยเล่นตัวผมว่าวันที่15 มี.ค. จะโทรไปต่อลองดูอีกที ทางเลือกสุดท้ายคือต้องปล่อยอายัดไปครับ (o_O)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6994 โดย Skynine

manity เขียน: ขอบคุณครับ พี่อัง................ผมคุยกับ ผ.บุคคลของบริษัทบอกว่า case แบบนี้เจอมาทุกเจ้าจะลดให้เพราะไม่อยากอายัดหรอกแต่ของผมสงใส สนง.คงเห็นผมติดต่อจะปดเลยเล่นตัวผมว่าวันที่15 มี.ค. จะโทรไปต่อลองดูอีกที ทางเลือกสุดท้ายคือต้องปล่อยอายัดไปครับ (o_O)


o_) o_) o_) พี่อังขออวยพรให้คุณได้ส่วนลดตามที่ตั้งใจจะปิดนะ ....สู้ๆๆ นะ พี่อังยังเป็นกำลังใจให้เสมอ o_) o_) o_)
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: manity

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #6996 โดย manity
ขอบคุณครับพี่อัง.........ถ้าได้ผลยังไงจะแจ้งให้ทราบครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7684 โดย manity
เมื่อวานโทรแล้วครับพี่อัง ไปเจอเจ้าหน้ที่อีกคนบอกว่ายอดตอนนี้เดินไปที่ 48000 บาท เขาลดให้ 20% เหลือ 41000 บาท และเขาทำหนังสือยืนยันยอดการปิดมาและโอนเงนเข้า สนง. หลังจากนั้นอีก 15-30 วันเขาก็จะออกใบปิดบัญชี พร้อมหลักฐานการนอายัด ไม่ทราบว่ากระบวนการนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับพี่ ผมแปลกใจว่าทำไมเงินไม่เข้าไปที่เจ้าหนี้โดยตรงแต่ผ่าน สนง กฎหมาย ใครมีประสบณ์การแชร์หน่อยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7686 โดย Pych
ใครเป็นโจทก์ในคำพิพากษาของคุณครับ สนง.กฎหมาย หรือธนาคาร ได้อ่านในหมายฟ้องหรือหมายพิพากษาหรือเปล่าครับ ถ้าธนาคารขายหนี้ให้สนง.กฎหมายแล้ว เขาก็คือเจ้าหนี้ตัวจริงคนใหม่ของคุณ คุณจึงต้องจ่ายเงินให้เขาโดยตรง แต่ถ้าธนาคารคือโจทก์ตามคำพิพากษา ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ ปัจจุบัน ธนาคารจะให้จ่ายเงินให้ธนาคารโดยตรง ส่วนจดหมายแฮร์คัทอาจจะออกโดยธนาคารหรือสนง.กฎหมายก็ได้ครับ

เมื่อคุณได้เอกสารยืนยันการลดหนี้จากสนง.กฎหมายแล้ว คุณต้องโทรไปถามที่ธนาคาร เพื่อเช็คว่าข้อมูลที่ได้รับมาจากสนง.กฎหมายเป็นความจริงและทางธนาคารเห็นชอบให้คุณจ่ายเงินให้สนง.กฎหมายใช่ไหม จะได้ไม่เสียเงินฟรี ส่วนเอกสารแฮร์คัท ก็ขอให้มีชื่อ-นามสกุลของคุณ รายละเอีนดบัญชีที่เป็นหนี้ ระบุยอดที่ตกลงกันไว้ และต้องบอกด้วยว่า เมื่อชำระยอดตามนี้แล้วจะหมดหนี้ รวมทั้งมีคนมีอำนาจเซ็นต์ลงนาม และมีตัวตนจริง มีอำนาจจริงด้วยครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7688 โดย jackTs

manity เขียน: ผมแปลกใจว่าทำไมเงินไม่เข้าไปที่เจ้าหนี้โดยตรงแต่ผ่าน สนง กฎหมาย ใครมีประสบณ์การแชร์หน่อยครับ


เจ้าหนี้ตัวจริงมันขายหนี้เน่าให้กับสำนักงานกฏหมายไปแล้วหรือเปล่า?
ถ้าอยากรู้ความจริง คุณต้องไปเช็คที่เครดิตบูโร

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=0&func=view&id=2661&view=flat&catid=2

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=55461&catid=2

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=5421&Itemid=29

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7771 โดย manity
ขอบคุณ ครับทั้งสองท่านผมจะโทรไปสอบถามข้อมูลกับบ.แคปปิตอล ดูก่อนครับว่าได้มอบหมายให้ทาง JMP ดำเนินการจริงหรือเปล่า ส่วนเอกสารปิดยอดก็ตามนี้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.810 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena