เป็นหนี้หลายบัตรและติดแบล๊คลิสแล้ว

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #4851 โดย yingjuta
คือ มีหนี้เป็นแบบบัตรสินเชื่อเงินสดนะคะ มี ไทยพาณิชย์ / เฟริซช้อย / อีซี่บาย / ควิดแคช / ซิตี้แบงค์ / ซิตี่โลน / นครหลวง ซึ่งวงเงินประมาณ บัตรละ หมื่นกว่าบาท แต่เนื่องจากมีปัญหาคือขาดระเบียบในการใช้เงินและได้ตกงาน ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ โดนผิดนัดจ่ายเกือบทุกบัตรตั้งแต่ปี 50 แตรพอได้งานก็มีการทวงเข้ามาเป็นรอบ ๆ แต่รายรับกับรายจ่ายมันไม่พอที่จะชำระหนี้ได้คะ ปัจจุบันรายได้เดือนละ 9500 บาท คือ เจ้าหนี้เคยขอเจรจาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1000 เคยจ่ายไปบ้างเดือนสองเดือนแรก แต่ไม่ไหว เลยไม่ได้จ่ายต่อ คือ จริง ๆ อยากใช่หนี้นะคะ มีช่วงที่เคยได้ยินข่าวว่าธนาคารจะปล่อยกู้พวกหนี้บัตรเครดิต เคยไปเจราแต่ไม่ได้เพราะติดแบล็คลิส อยากทราบว่ามีอะไรแนะนำไหมคะ คือ ถ้าจะให้จ่ายทุกบัตรในอัตราที่เค้าบอก คือ 500-1000 บาท คงไม่ได้เพราะรายได้คงไม่พอแน่ ๆ เคยบอกให้เค้าฟ้องจะได้จ่ายเฉพาะส่วนที่เนเงินต้นจริง ๆ แต่เค้าก็ไม่ฟ้อง รบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ ตอนนี้ลำบากใจมาก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #4854 โดย Ly89
ถ้าอย่างนั้นผมแนะนำให้อ่านกระทู้ปักหมุดก่อนนะครับ...

กระทู้ที่อยู่ด้านบน แถบสีเหลือง มีหมุดสีแดงปักอยู่...อ่านให้ครบทุกกระทู้ โดยเฉพาะกระทู้

วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน และตามอ่านลิงค์ให้หมดด้วยนะครับ

ถ้าไม่เข้าใจก็ให้อ่านซ้ำครับ...ถ้ายังสงสัยอีกค่อยโพสต์ถามใหม่นะครับ...

ทีนี้เวลาถามตอบมันจะได้กระชับขึ้น...ถ้าตอบตอนที่คุณยังไม่รู้อะไรเลย มันยาวครับ

แลวคุณก็จะไม่เข้าใจด้วย.....

พยายามอ่านก่อนนะครับ....สู้ๆ....
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pachiby8

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #4859 โดย jackTs
.

ไปอ่านในนี้ก่อนนะครับ



.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #4860 โดย Shofrets
ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกว่าตั้งสติของคุณ แล้วเริ่มอ่านจากกระทู้ปักหมุดตามที่คุณ batk บอกมา
กระทู้ที่อยู่ด้านบนของแต่ละหน้า มีประโยชน์อย่างมากถ้าเราตั้งใจศึกษาหาข้อมูล คนทุกคนที่อยู่ในนี้เจอปัญหาเหมือนกันหมด ก่อนที่เราจะเริ่มถาม เราต้องอ่านให้มากที่สุดก่อน แล้วเจอปัญหาที่ไม่เข้าใจจริงๆ ถามได้ เพราะสมาชิกทุกคนในที่นี้มีประสบการณ์จริง และขอให้คุณโชคดี ที่ได้เจอชมรมแห่งนี้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5361 โดย meawpung
ได้ผลคืบหน้าอย่างไร เข้าใจไม่เข้าใจ มาแชร์ให้ฟังบ้างนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5403 โดย Pych

yingjuta เขียน: คือ มีหนี้เป็นแบบบัตรสินเชื่อเงินสดนะคะ มี ไทยพาณิชย์ / เฟริซช้อย / อีซี่บาย / ควิดแคช / ซิตี้แบงค์ / ซิตี่โลน / นครหลวง ซึ่งวงเงินประมาณ บัตรละ หมื่นกว่าบาท แต่เนื่องจากมีปัญหาคือขาดระเบียบในการใช้เงินและได้ตกงาน ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ โดนผิดนัดจ่ายเกือบทุกบัตรตั้งแต่ปี 50 แตรพอได้งานก็มีการทวงเข้ามาเป็นรอบ ๆ แต่รายรับกับรายจ่ายมันไม่พอที่จะชำระหนี้ได้คะ ปัจจุบันรายได้เดือนละ 9500 บาท คือ เจ้าหนี้เคยขอเจรจาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1000 เคยจ่ายไปบ้างเดือนสองเดือนแรก แต่ไม่ไหว เลยไม่ได้จ่ายต่อ คือ จริง ๆ อยากใช่หนี้นะคะ มีช่วงที่เคยได้ยินข่าวว่าธนาคารจะปล่อยกู้พวกหนี้บัตรเครดิต เคยไปเจราแต่ไม่ได้เพราะติดแบล็คลิส อยากทราบว่ามีอะไรแนะนำไหมคะ คือ ถ้าจะให้จ่ายทุกบัตรในอัตราที่เค้าบอก คือ 500-1000 บาท คงไม่ได้เพราะรายได้คงไม่พอแน่ ๆ เคยบอกให้เค้าฟ้องจะได้จ่ายเฉพาะส่วนที่เนเงินต้นจริง ๆ แต่เค้าก็ไม่ฟ้อง รบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ ตอนนี้ลำบากใจมาก


ไม่ต้องไปกู้เงินมาปิดหนี้นะครับ เพราะจะยิ่งสร้างหนี้ โชคดีแล้วที่ไม่ผ่านครับ

คุณมีเงินเดือน 9,500 บาทแล้วมีทรัพย์สินอะไรไหมครับ เช่น บ้าน (จะผ่อนอยู่หรือเป็นเจ้าของอยู่แล้ว) รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน จดทะเบียนสมรส

ถ้าไม่มีทัรพย์สินอะไรเลย ก็ไม่ต้องไปจ่ายนะครับ หยุดจริงๆ และเก็บเงินก้อนเพื่อไว้ขอส่วนลดจ่ายปิดหนี้ทีเดียวไปเลย การจ่าย 500-1,000 บาททำให้อายุความมันนับใหม่ อีกทั้งไม่ได้ทำให้ยอดลดลงเลย
แล้วถ้าเกิดเจ้าหนี้ฟ้องขึ้นมา เจ้าหนี้ก็อายัดเงินเดือนคุณไม่ได้ ทรัพย์สินก็ไม่มีให้ยึด คุณจะสามารถขอส่วนลดปิดบัญชีได้ไม่ยากครับ หรือถ้าปล่อยให้อายุความหมด ส่วนลดยิ่งงามมากๆ ครับ

อ่านกระทู้ที่พี่ๆ เขาแนะนำเยอะๆ นะครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5408 โดย yingjuta
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คือ ตอนนี้ก็ทำตามที่แนะนำอยู่อะคะ คือ ไม่ยอมเซ็นเอกสาร แต่เค้าโทรมาที่ทำงาน คือ เค้าจะให้เซ็นเอกสารประนอมหนี้ แต่มีคนบอกว่าอย่าไปเซ็นเพราะจะถือว่าตั้งหนี้ใหม่ ที่ คุณ Anakin ถามว่ามีทรัพย์อะไรเป็นของตัวเองไหม คือ ไม่มีอะไรเป็นชื่อตัวเองคะ เพราะซื้อไรไม่ได้คะ มีบ้านแต่เป็นชื่อแฟน จดทะเบียนกันแต่ไม่ได้แก้ไขรายการคะ มีบุตรด้วย 1 คน คือ ทุกอย่างเป็นชื่อแฟนหมดคะ จะมีผลอะไรไหมคะถ้าเค้าฟ้อง แต่เค้าก็ไม่ฟ้องสักทีมีแต่หนังสือเตือนมาว่าจะส่งฟ้อง แต่ที่แปลกใจคือ เคยโทรไปที่ธนาคารที่เป็นหนี้ เค้าบอกว่าหนี้เป็น 0 และเค้าโอนหนี้ไปให้บริษัททวงหนี้นะคะ แล้วอ่านที่กระทู้ปักหมุดที่เค้าแนะนำให้เช็คบูโร เรื่อง จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ พูดถึงอายุความนะคะ คือ จ่ายครั้งสุดท้ายจะเป้นปี 2550 หมดเลยแล้วนี้ปี 2555 ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าฟ้องจะมีผลเรื่องอายุความไหมคะ แล้วทำไมเค้าถึงทราบว่าเราทำงานที่ไหน ถึงโทมาถูก ส่วนมากเค้าบอกเช็คจากการส่งเงิน สปส แบบนี้ไม่ผิดหรอคะ บอกข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5412 โดย Pych
คุณไปเช็คเครดิตบูโรของตัวคุณเองก่อนดีกว่าครับ เผื่อมีผีจ่ายหยอดให้ จะได้รู้

ส่วนเรื่องที่โทรมาถูก ก็เพราะเช็คจากประกันสังคมครับ ถึงแม้จะไม่ถูกต้อง แต่เราก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะไปเอาเรื่องนี่ครับ

บ้านเป็นสินสมรสใช่ไหมครับ
ถึงแม้หนี้จะเป็นหนี้่ที่ภรรยาก่อขึ้น แต่สินสมรสก็สามารถถูกอายัดและขายทอดตลาด เพื่อเอาส่วนของคุณมาใช้ชำระหนี้ได้นะครับ

อย่างนี้ คุณยังอยากให้ฟ้องอยู่อีกเหรอครับ
ถึงบ้านยังผ่อนอยู่ก็ยึดได้นะครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5414 โดย nunee

yingjuta เขียน: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คือ ตอนนี้ก็ทำตามที่แนะนำอยู่อะคะ คือ ไม่ยอมเซ็นเอกสาร แต่เค้าโทรมาที่ทำงาน คือ เค้าจะให้เซ็นเอกสารประนอมหนี้ แต่มีคนบอกว่าอย่าไปเซ็นเพราะจะถือว่าตั้งหนี้ใหม่ ที่ คุณ Anakin ถามว่ามีทรัพย์อะไรเป็นของตัวเองไหม คือ ไม่มีอะไรเป็นชื่อตัวเองคะ เพราะซื้อไรไม่ได้คะ มีบ้านแต่เป็นชื่อแฟน จดทะเบียนกันแต่ไม่ได้แก้ไขรายการคะ มีบุตรด้วย 1 คน คือ ทุกอย่างเป็นชื่อแฟนหมดคะ จะมีผลอะไรไหมคะถ้าเค้าฟ้อง แต่เค้าก็ไม่ฟ้องสักทีมีแต่หนังสือเตือนมาว่าจะส่งฟ้อง แต่ที่แปลกใจคือ เคยโทรไปที่ธนาคารที่เป็นหนี้ เค้าบอกว่าหนี้เป็น 0 และเค้าโอนหนี้ไปให้บริษัททวงหนี้นะคะ แล้วอ่านที่กระทู้ปักหมุดที่เค้าแนะนำให้เช็คบูโร เรื่อง จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ พูดถึงอายุความนะคะ คือ จ่ายครั้งสุดท้ายจะเป้นปี 2550 หมดเลยแล้วนี้ปี 2555 ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าฟ้องจะมีผลเรื่องอายุความไหมคะ แล้วทำไมเค้าถึงทราบว่าเราทำงานที่ไหน ถึงโทมาถูก ส่วนมากเค้าบอกเช็คจากการส่งเงิน สปส แบบนี้ไม่ผิดหรอคะ บอกข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น



สิ่งที่คุณเป็นอยู่เค๊าเรียกว่า "หนี้ส่วนบุคคล" ดังนั้น สามีคุณก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยค่ะ

ดูเหมือนว่าคุณจะกลัวเขาฟ้องเอามากๆ เลย (เข้าใจค่ะ)

ลองอ่านดูในปักหมุดอีกทีจะรู้ค่ะว่ามันเป็นกระบวนการ "ทวง" + "ขู่"


อย่างไรก็ดีดูเหมือนคุณจะเริ่มไปอ่านปักหมุดดูแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อนกระจ่าง
(อาจจะอ่านไม่ละเอียด ให้ไปอ่านตามที่พี่นกกระจอกเทศบอกค่ะ)

นานาแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มอีกสัก 2 - 3 รอบ เอาแบบตั้งใจเลยนะค่ะ

ลองไปแยกดูค่ะ...ว่าหนี้ของคุณเป็นหนี้อะไร


ถ้าสินเชื่อ ก็ 5 ปี ถ้าบัตรเครดิตก็ 2 ปี

(ถ้านับจากที่จ่ายครั้งสุดท้าบแล้วเกิน ถูกฟ้องขึ้นมาก็สู้ด้วยเรื่องอายุความได้)


ส่วนเรื่องเขารู้ได้ยังไงว่าคุณทำงานที่ไหน สำนักงานกฎหมายที่เจ้าหนี้คุณจ้างเขา

ก็มีวิธีการ "สืบ" ของเขาค่ะไม่ต้องตกใจไป ดีแล้วที่เขาตามเจอ เพราะว่าคุณก็จะได้

ไม่ขาดการติดต่อ และรู้ความเคลื่อนไหวของเขาเช่นกัน


เรื่องที่คุณถามส่วนใหญ่มีอยู่ในปักหมุดแล้ว กรุณาไปอ่านนะค่ะ

เพราะในนั้นสามารถตอบข้อสงสัยให้คุณได้ทั้งหมด

อย่ากังวลจนถามซ้ำไปมาค่ะ....
ถ้ายังสงสัย ลองอ่านกระทู้ของเพื่อนๆ ที่ตั้งก่อนหน้า

หรืออ่านเพิ่มจากห้องต่างๆ เรามีความรู้ปักหมุดทุกห้องค่ะ


ขอให้มีสติ และโชคดีค่ะ


:pray: :pray: :pray:

นางมารน้อย ณ ชมรมฯ

"จงอย่าทำตัวเป็นโอ่งรั่วๆ ที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม"[/color]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5415 โดย yingjuta
บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5417 โดย yingjuta
ขอบคุณคุณ Nana2208 คะ จะทำตามคำแนะนำนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5420 โดย nunee

yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ

อะไรที่ได้มาก่อนแต่ง ไม่ใช่สินสมรส และมันก็ไม่ใช่ชื่อคุณอยู่แล้ว

คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ

ถ้าฟ้องจริงมันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหนี้เขาคำนวณไว้อย่างไรเท่าไหร่ ในหมายศาลจะระบุละเอียด

ซึ่งเราสามารถนำมาคำนวณเีรื่องดอกเบี้ยได้ ถ้าเกินก็สู้คดีไปค่ะ (แต่ยังไม่โดนฟ้องเลยกลัวอะไร)


แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด

เข้าใจค่ะ ก็เพราะไม่ไหวนี่แหละถึงต้องมาพึ่งชมรมใช่ไหมหละ

ก็อ่านปักหมุดจิ บอกไว้หมดแล้ว



อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า

ให้มันพล่ามไปค่ะ มันเป็นหน้าที่ของเค๊าที่จะต้องร่ายให้เรางง ให้เราสำนึกผิดและไปจ่ายตามแผน


คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ

ดีแล้วค่ะที่มีสติ แต่ถ้าเหนื่อยจะคุยก็ไม่ต้องคุยก็ได้ รับบ้าง ไม่รับบ้าง สิทธิของเราค่ะ

บางครั้งฟังเจ้าหนี้ทวงมากๆ ก็พาลท้องอืด จิงป่ะ



สุดท้าย...ทำใจร่มๆ และก็หาความรู้จากในนี้เยอะๆ เดี๋ยวก็ดีเองค่ะ โอเคไหม? :เฮ้อ:

นางมารน้อย ณ ชมรมฯ

"จงอย่าทำตัวเป็นโอ่งรั่วๆ ที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม"[/color]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5422 โดย yingjuta
จ้า ชอบจัง ขอบคุณที่มีเว็บนี้ อย่างน้อยได้ความรู้ไม่ต้องมานั่งเครียดคนเดียว จะอ่านอย่างตั้งใจนะคะ :l

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5425 โดย Pych

yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ


ก็ยังน่าห่วง ที่เจ้าหนี้จะถือว่าหนี้ที่คุณก่อขึ้น นำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังนั้น หนี้ก็ไม่ใช่ของคุณคนเดียว แต่สามีของคุณต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

ส่วนเรื่องที่เพื่อนคุณแนะนำ ก็ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะบ่อยครั้งที่เจ้าหนี้ฟ้องตามเงินต้นและดอกเบี้ยตามที่ธปท.กำหนดไว้ คือ อัตราดอกเบี้ยรวมกับค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมของสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี โดยแบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ที่เหลืออีกร้อยละ 13 คือค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5429 โดย nunee

Anakin เขียน:

yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ


ก็ยังน่าห่วง ที่เจ้าหนี้จะถือว่าหนี้ที่คุณก่อขึ้น นำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังนั้น หนี้ก็ไม่ใช่ของคุณคนเดียว แต่สามีของคุณต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

ส่วนเรื่องที่เพื่อนคุณแนะนำ ก็ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะบ่อยครั้งที่เจ้าหนี้ฟ้องตามเงินต้นและดอกเบี้ยตามที่ธปท.กำหนดไว้ คือ อัตราดอกเบี้ยรวมกับค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมของสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี โดยแบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ที่เหลืออีกร้อยละ 13 คือค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม


ขอนิดนึงนะค่ะ .... อืม แต่ส่วนใหญ่หนี้บัตรเครดิตจะตามเอากับเฉพาะคนค่ะ

เพราะเป็นหนี้ส่วนบุคคล แต่จะมีบ้างที่จะมาขอไล้เบี้ยเอากับคู่สมรสซึ่งไม่ค่อยเกิด

(หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆ) แต่มักจะมีการหลอกให้เซ็นต์ยินยอม ซึ่งถ้าสามีไม่ทราบ

ก็มักจะไปเซ็นต์ยินยอม(เป็นหมู)


แต่จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะปิดหนี้ได้ก่อน

คงไม่ถึงขั้นบังคับคดีค่ะ และอีกอย่างเหมือนบางตัวใกล้ หรือ หมดอายุความไปแล้วด้วย


(ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะพี่ดาบเลเซอร์)

นางมารน้อย ณ ชมรมฯ

"จงอย่าทำตัวเป็นโอ่งรั่วๆ ที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม"[/color]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5431 โดย nunee
ไหนๆ ก็ไหนๆ อ้่านดูค่ะ เข้าข่ายไหม :shy:

*หนี้ก่อนสมรส กรณีที่ชายหรือหญิงไปเป็นหนี้กับบุคคลภายนอก แต่ละฝ่ายก็ต้องรับผิดใช้ที่ตนเป็นผู้ก่อขึ้นมาเป็นการส่วนตัว
*หนี้ก่อนสมรสของคู่สมรสฝ่ายใด ถือเป็นหนี้ส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายนั้น เจ้าหนี้คงมีสิทธิฟ้องร้องและบังคับเอาแก่ทรัพย์สินคู่สมรสฝ่ายนั้น ได้แก่ สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายนั้น รวมถึงสินสมรส (ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส) เฉพาะส่วนของคู่สมรสฝ่ายนั้น(หรือผฝ่ายของสามีคุณหญิงสาวนั้นเอง) เช่น ที่ดินที่ได้มาระหว่างสมรส เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์นำมาขายทอดตลาดชำระหนี้ได้ แต่เมื่อขายแล้ว ต้องกันเงินกึ่งหนึ่งให้คู่สมรสอีกฝ่าย
หรือหนี้ในระหว่างสมรส โดยหลักแล้ว คู่สมรสฝ่ายใดเป็นผู้ก่อหนี้ขึ้น หนี้ที่เกิดขึ้นก็เป็นหนี้ส่วนตัวของฝ่ายนั้น แต่ละฝ่ายต้องรับผิดชอบกันเองเป็นการส่วนตัวเช่นกัน เว้นแต่จะเป็นหนี้ร่วมกันหรือที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นหนี้ร่วมกันแล้วจึงจะรับผิดชอบร่วมกัน

สำหรับหนี้ที่กฎหมายบัญญัติให้ถือเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างสามีภริยานั้น จะมีผลทำให้ แม้จะมีชื่อคู่สมรส ฝ่ายใดเป็นลูกหนี้ฝ่ายเดียว แต่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายต้องรับผิดร่วมกันมีอยู่ 4 กรณี คือ
1. หนี้ที่เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือน จัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว การอุปการะ เลี้ยงดู การรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว และการศึกษาของบุตร ตามสมควรแก่อัตภาพ
หนี้เหล่านี้จะต้องมีจำนวนพอสมควรแก่อัตภาพของครอบครัว เพราะหากเกินสมควรแล้ว ส่วนที่เกิน ย่อมไม่ถือว่าเป็นหนี้ร่วม แต่กลายเป็นหนี้ส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายนั้นได้ เช่น หนี้ที่สามีไปค้ำประกัน การทำงานให้กับญาติพี่น้อง หรือเพื่อน หรือผู้ใดเป็นส่วนตัว ภริยาย่อมไม่ต้องรับผิดชอบ ในหนี้ค้ำ ประกันที่ถูกฟ้องในเวลาต่อมา เป็นต้น
หนี้ตามข้อนี้หากสมควรแก่อัตภาพแม้จะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่สามีภริยาแยกกันอยู่ แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนหย่าก็ถือว่าเป็นหนี้ร่วมทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
2. หนี้ที่เกี่ยวข้องกับการสมรส เช่น *** ้ยืมเงินมาซ่อมแซมบ้านที่เป็นสินสมรส
3. หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน
เช่น เปิดร้านขายของ ภริยาเป็นคนขาย สามีซื้อเชื่อของเข้าร้านหนี้ค่าซื้อเชื่อเป็นหนี้ร่วม, สามีทำธุรกิจจัดสรรที่ดิน ภริยาก็ต้องรับผิดชอบในสัญญาที่สามีลงลายมือชื่อในสัญญาจะขาย ที่ดินจัดสรร ไว้คนเดียว ร่วมกับสามีด้วย,
สามี *** ้หนี้ยืมสินมาลงทุนเปิดห้างให้ภริยาดูแล สัญญา *** ้เบิกเงินเกินบัญชีที่สามีทำกับธนาคาร โดยมีเงื่อนไข ให้ภริยาเบิกจ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าวได้
4. หนี้ที่สามีก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่งให้สัตยาบัน
หนี้ประเภทนี้เดิมจะผูกพันแต่เฉพาะสามีภริยาฝ่ายที่ไปก่อหนี้ขึ้น แต่ถ้าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปให้สัตยาบัน ยอมรับหนี้ที่คู่สมรสของตนได้ก่อขึ้น การให้สัตยาบันจะมีผลให้หนี้ดังกล่าวนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างสมรส กลายเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา การให้สัตยาบันไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร ดังนั้น อาจจะให้สัตยาบันด้วยปากเปล่าไว้ หรือลงรายมือชื่อในหนังสือให้ความยินยอมคู่สมรส ให้คู่สมรสของตน *** ้ยืมเงิน หรือจะลงรายมือชื่อในฐานะพยานในสัญญา *** ้ยืมเงินของสามี
แต่ถ้าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนสมรสแล้ว แม้ต่อมาภายหลังคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งจะให้สัตยาบัน ก็ยังเป็นหนี้ส่วนตัวของคู่สมรสผู้ที่ก่อหนี้ การให้สัตยาบันหนี้ก่อนสมรสไม่ทำให้หนี้นั้นกลายเป็นหนี้ร่วม ระหว่างสามีภริยาไปได้

เหตุที่ต้องแยกเป็นหนี้ส่วนตัวหรือหนี้ร่วมเพราะถ้าเป็นหนี้ส่วนตัว ไม่ว่าจะก่อขึ้นก่อนหรือระหว่างสมรส เจ้าหนี้จะต้องบังคับหนี้เอากับสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ก่อน ถ้าไม่พอถึงจะไปบังคับหนี้ เอากับทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสของคู่สมรสฝ่ายที่ก่อหนี้ได้ ซึ่งหากมีการบังคับคดีหนี้สินส่วนตัวเอาจาก สินสมรสแล้วจะทำให้คู่สมรสที่ไม่ได้ก่อหนี้ก็มีสิทธิร้องขอกันส่วนของตนจากทรัพย์สินที่เป็นสินสมรส ในส่วนของตนครึ่งหนึ่งออกมาได้
แต่ถ้าเป็นหนี้ร่วม เจ้าหน้าที่ตามคำพิพากษาที่ชนะคดี จะยึดสินส่วนตัวก่อนหรือสินสมรสก่อนก็ได้ และการยึดสินส่วนตัวจะยึดสินส่วนตัวของฝ่ายใดก็ได้ เพียงแต่ในการยึดสินส่วนตัวของฝ่ายใด เจ้าหน้าที่จะต้องฟ้องคู่สมรสทั้งสองฝ่ายเข้ามาด้วยกัน เพราะถ้าไม่ฟ้องเข้ามาด้วยกันก็จะไปยึดสินส่วนตัว ของฝ่ายที่ยังไม่ถูกฟ้องไม่ได้ เนื่องจากคำพิพากษาให้ชำระหนี้ดังกล่าวไม่ผูกพันคู่สมรสที่ไม่ได้ถูกฟ้องคดี
และกรณีที่ชายและหญิงเป็นหนี้กันเอง อันเป็นหนี้ส่วนตัวนั้น แม้ต่อมาชายหญิงคู่นี้ได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภริยากัน หรืออาจเป็นหนี้ส่วนตัวขึ้นมาในระหว่างสมรส การที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้จะฟ้องคดีจนชนะคดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถไปยึดหรืออายัดทรัพย์สินของอีกฝ่ายหนึ่งได้ สามีภริยาจะยึดหรืออายัดทรัพย์กันเองได้เฉพาะกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่น เป็นหนี้อุปการะเลี้ยงดู


:pray: :pray: :pray:

นางมารน้อย ณ ชมรมฯ

"จงอย่าทำตัวเป็นโอ่งรั่วๆ ที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม"[/color]
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5434 โดย Pych

Nana2208 เขียน: ขอนิดนึงนะค่ะ .... อืม แต่ส่วนใหญ่หนี้บัตรเครดิตจะตามเอากับเฉพาะคนค่ะ

เพราะเป็นหนี้ส่วนบุคคล แต่จะมีบ้างที่จะมาขอไล้เบี้ยเอากับคู่สมรสซึ่งไม่ค่อยเกิด

(หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆ) แต่มักจะมีการหลอกให้เซ็นต์ยินยอม ซึ่งถ้าสามีไม่ทราบ

ก็มักจะไปเซ็นต์ยินยอม(เป็นหมู)


แต่จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะปิดหนี้ได้ก่อน

คงไม่ถึงขั้นบังคับคดีค่ะ และอีกอย่างเหมือนบางตัวใกล้ หรือ หมดอายุความไปแล้วด้วย


(ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะพี่ดาบเลเซอร์)


ก็อย่างที่พี่บอกไว้ไงจ๊ะ สาวน้อย ว่ายังน่าห่วง ก็มันเสี่ยงอยู่ ไม่ได้หมายความว่า จะโดนแน่ๆ นี่จ๊ะ

พอดีพี่เห็นเงินเดือนแค่ 9,500 บาท เลยเป็นห่วงน่ะ

แต่คุณ yingjuta บอกไว้ว่า

เจ้าหนี้เคยขอเจรจาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1000 เคยจ่ายไปบ้างเดือนสองเดือนแรก แต่ไม่ไหว เลยไม่ได้จ่ายต่อ


พี่เลยว่าอายุความน่าจะยังไม่หมดนะคะ

อ้อ คุณ yingjuta ไปเช็คเครดิตบูโรก่อนดีกว่าครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5435 โดย nunee

Anakin เขียน:

Nana2208 เขียน: ขอนิดนึงนะค่ะ .... อืม แต่ส่วนใหญ่หนี้บัตรเครดิตจะตามเอากับเฉพาะคนค่ะ

เพราะเป็นหนี้ส่วนบุคคล แต่จะมีบ้างที่จะมาขอไล้เบี้ยเอากับคู่สมรสซึ่งไม่ค่อยเกิด

(หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆ) แต่มักจะมีการหลอกให้เซ็นต์ยินยอม ซึ่งถ้าสามีไม่ทราบ

ก็มักจะไปเซ็นต์ยินยอม(เป็นหมู)


แต่จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะปิดหนี้ได้ก่อน

คงไม่ถึงขั้นบังคับคดีค่ะ และอีกอย่างเหมือนบางตัวใกล้ หรือ หมดอายุความไปแล้วด้วย


(ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะพี่ดาบเลเซอร์)


ก็อย่างที่พี่บอกไว้ไงจ๊ะ สาวน้อย ว่ายังน่าห่วง ก็มันเสี่ยงอยู่ ไม่ได้หมายความว่า จะโดนแน่ๆ นี่จ๊ะ

พอดีพี่เห็นเงินเดือนแค่ 9,500 บาท เลยเป็นห่วงน่ะ



โอเคจร้า...พี่ดาบเลเซอร์ของหนู :wake:

นางมารน้อย ณ ชมรมฯ

"จงอย่าทำตัวเป็นโอ่งรั่วๆ ที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม"[/color]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7438 โดย yingjuta
คือ ดิฉันติดแบล๊คลิสแล้วคะ และได้ทยอยจ่ายไปแล้ว 2 บัตร ถึงอยากทราบว่าตั้วเองเหลืออะไรอยู่บ้างเท่าไหร่ จึงไปเช็คเครดิตบูโรที่ธนาคารธนชาติ แต่ปรากฏว่ามี 3 บัตร ที่หนี้เพิ่มจากเดิมถึง 3 เท่า คือ จากใบละหมื่นกว่า เป้น สามหมื่นกว่าหมดเลย ซึ่งดิฉันเซงมากและได้อ่านในกระทู้ปักหมด จึงนึกขึ้นได้ว่าดิฉันเคยไปเซ็นเอกสารประนอมหนี้กะทางสำนักงานที่ทวงหนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการ เค้าเลยตั้งหนี้ใหม่ซะงั้น ตอนนี้เซงมาก และเค้าก็อ่างว่าเราได้เซ็นเอกสารยินยอมในการตั้งหนี้ใหม่ (อันนี้เหนื่อยกว่า) ขนาดน้อยกว่านี้ยังลำบากนี้เพิ่มมาอีกจะทำไงละทีนี้ และในเอกสารที่ตรวจสอบเคดิต มันจะมีวันที่ผิดสัญญา กะ วันที่จ่าย เราจะนับวันไหนคะ ถ้าเค้าฟ้อง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #7439 โดย Ly89
คุณบอกว่า เคยเซ็นต์สัญญาประนอมหนี้ไป แล้วได้ผ่อนเข้าไปไหมครับ...ถ้าผ่อนเข้าไปแล้วก็จบเห่

เวลาฟ้อง เขาจะเอาสัญญาอันนี้ไปฟ้องครับ....แทบไม่มีหนทางต่อสู้เลย....

ส่วนในเอกสารบูโร....ให้ดูวันที่เริ่มผิดสัญญา หรือวันที่เริ่มไม่จ่ายครับ...ไม่ใช่วันที่จ่ายครั้งสุดท้ายนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.832 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena