ไปขึ้นศาลอิออนมาครับแต่ไม่เขาใจว่าต้องทำยังไงต่อ

เมือเช้าได้ไปศาลเรื้องคดีบัตรเคดิตอิออนครับ ไปถึงศาลก็เจอกลับทนายฟังของอิออน
ทนายของอิอ้อนก็ถามว่าจะไห้ศาลพิพากษาหรือจะไห้ทำเป็นว่าหนีศาล(ไปถึงศาลแล้วทำเป็นว่าเราหนีศาลได้ด้วยเหรอครับ) ทางทนายอิอ้อนก็ยื่นข้อเสนอมาไห้ 2 ทางคือ จ่ายเป็นก้อนทีเดียว กลับ แบ่งจ่าย 10 งวด
ยอดหนี้ทั่งหมดประมาน 1 แสนครับ ผมก็ตอบไปว่าคงไม่มีปัญญาจ่ายทั่งก้อนทั่งแบ่งจ่าย ก็เลยไห้ศาลตัดสิน
ทางศาลก็บอกว่าศาลรับพิจรณา แล้วก็ไห้กลับบ้านเลย คือแบบนี้หมายความว่ายังไงอะครับ ต้องรอหมายศาลเพื่อไปรับเรื้องอีกครั้งเหรอครับ แล้วผลตัดสินมันคือยังไง อันนี้ไม่ทราบจิง ๆ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบทีนะคับ

ขอถามอีกข้อคับ หลังจากเราไปขึ้นศาลมาแล้ว ถ้าเราโอนที่ดินที่เปนชื่อเราไปไห้กับญาติจะได้ไหมครับ จะเป็นการอำพรางททรัพพรึป่าว

1. คดีแบบคุณเป็นคดีแพ่ง จะเรียกว่าหนีศาลก็ไม่ถูกนัก ในทางกฎหมายเขาเรียกขาดนัดพิจารณา จำเลยขาดนัดพิจารณา ก็มีผลคือ โจทก์สืบฝ่ายเดียว คือ เสนอหลักฐานฝ่ายเดียวส่วนมากศาลก็จะพิพากษาให้ตามฟ้อง และลดพวกเบี้ยปรับนิดหน่อย
2.ถ้าเรื่องเป็นอย่างคุณว่า ก็คือคุณไม่มีข้อต่อสู้ ศาลก็จะพิจารณาแบบข้อ 1. ที่ผมว่านั่นแหละ ตอนนี้ก็ไม่ต้องถามแล้วว่าคดีคุณขาดอายุความหรือยัง เพราะมันเลยขั้นนั้นไปแล้ว ต่อให้ขาดอายุความก็กลับไปแก้อะไรไม่ได้ สรุปคือ ถ้าคุณเซ็นในรายงานกระบวนพิจารณาว่ามาศาล ก็นับไปอีก 1 เดือน นับแต่วันที่ไปศาล ก็สิ้นระยะเวลาอุทธรณ์ ธนาคารก็ไปขอหนังสือคดีถึงที่สุดได้ พร้อมกับตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ( เพราะถือว่าคุณทราบคำบังคับแล้วในวันพิพากษา)
3.ในชั้นศาลจบเรื่องแล้วครับ ต่อไปก็ขั้นตอนบังคับคดี
4. การโอนที่ดินให้ญาติโดยมีเจตนาเพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ ได้รับชำระหนี้ เป็นคดีอาญาครับ ในทางกฎหมายกำหนดอัตราโทษไว้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (แต่ในทางปฏิบัติ คุณก็ลองชั่งน้ำหนักเอาครับ ว่าจะเสี่ยงไหม เพราะปกติถ้ายังไม่ถึงขั้นบังคับคดี สถาบันการเงินเขายังไม่ได้รู้นิว่าคุณมีทรัพย์ชิ้นนี้ เขาจะรู้ตอนบังคับคดี แต่ย้ำอีกครั้งอันนี้คดีอาญามีความเสี่ยงในการติดคุก คุณตัดสินใจเอง ผมบอกแค่ในข้อกฎหมายและทางปฏิบัติเท่านั้น )