ขึ้นไปหน้าห้องพิจารณา คดี ไปรายงานตัว 8.50 เขาบอกว่าให้ระวังเสมียนศาล ชอบรู้ดี ที่ไหนได้ น่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส บัวชวนคุยจิปาถะ ถามว่ามีหลายคดีไหมวันนี้ ....
สักพัก ทนายฝ่ายโจกท์มา เสมียนกระซิบบอกเรา “คุณกอบัว นั่นคะ ทนายของห้องกรง ไปคุยกับเขาก่อนไป”
หันไปเจอทนาย อายุยังน้อย บัวเลยถามว่า “อุ๊ยตาย คุณทนายพึ่งจบหรือค่ะ ทำไมยังเด็กอยู่เลย”
ทนายยิ้มกริ่ม “ผมว่าความมาตั้งแต่ปี 45 แล้วครับ”
แล้วเขาก็เข้ามาถามว่า เราตกลงกับห้องกรงว่าอย่างไร กอบัวขอดูหมายศาลเพราะบอกว่าไม่ได้รับ ทุนฟ้องอยู่ที่ 13X,XXX เกือบแสนสี่ ยอดหยุดทางโน้นแจ้งว่า แสนนิดๆ ช่างมันบัวขี้เกียจเถียง วันนี้จะมาขอเลื่อนต่างหาก
ทนายเริ่มแสดงลวดลายออกมา ถ้าให้ศาลท่านตัดสิน ท่านจะตัดสินที่ยอดเต็มเลยนะครับ ดอกเบี้ยก็ตามที่เราคิด เราคิดที่ 28% ต่อปี ตามประกาศของธปท.เลย ฉอด..ฉอด..ไกล่เกลี่ยกันดีกว่า ขอส่วนลดดีกว่าครับ
ว่าแล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้กอบัวคุยกับสนง.กฎหมาย เจ้าคนเดิมที่ขับเคี่ยวกันมาหลายเดือน บัวเปิดฉากทันที
“คนใจร้าย (อ้าว นึกว่าจะด่า) ทำไมหมายศาลมาตั้งนานแล้ว ไม่บอกบัวสักคำ ใจร้ายที่สุด เราคุยกันดีๆมาตั้งนาน ทำไมทำกับบัวแบบนี้ คิดหรือว่าบัวจะสู้คดีไม่ทัน”
ทางโน้นหัวเราะแหะหะ...นึกว่าบัวจะซีเรียส ทุกข์ใจ จะทุกข์ไปทำไม ฟังเขาไปก่อน ทางโน้นเสนอให้บัวที่ยอดเก้าหมื่น โดยจ่ายวันนี้สามหมื่น อีกสองเดือนๆละ สามหมื่น อุแม่เจ้า ถ้ากรูมีสามหมื่นในมือตอนนี้ แล้วอีกสองเดือนกรูจะมีหรือเปล่า เรื่องอะไรกรูต้องมัดมือตัวเองตั้งแต่วันนี้ บัวเลยขอเขาบอกว่า จะขอจ่ายงวดเดียวที่เจ็ดหมื่น แต่ขอจ่ายในเดือนธันวาคม เขาจะคุยให้ แล้ววางสายไป โทรกลับมาใหม่บอกว่า
“คุณบัวครับ ที่ขอไปเจ็ดหมื่นไม่ได้ครับ เกินกว่าโปรแกรมมาก นายผมไม่ค่อยสบายด้วย อารมณ์ไม่ค่อยดี”
(ส้น Teen) กอบัวนึกในใจ
“เอายังงี้ครับ ให้ศาลท่านพิพากษาไปเลย แล้วเราค่อยมาคุยส่วนลดกันทีหลัง (แล้วกรูจะไว้ใจมรึงได้อย่างไร)
บัวเลยพูดด้วยน้ำเสียบเรียบๆ ไม่ตกอกตกใจอะไรทั้งนั้น “ เอางี้คุณ บัวจะขอเลื่อนศาลออกไป เพราะเดือนพย. บัวจะมีเงินก้อนมาก้อนหนึ่ง แล้วเราค่อยมาคุยกัน” บัววางหู ไม่สนใจมันอีกต่อไป มันโทรเข้ามาหลายรอบ บัวก็ไม่รับ ช่างแม๋ม...จนมันโทรเข้าหาทนาย บัวก็ยืนยันว่าจะขอเลื่อนเพื่อขอเวลาไกล่เกลี่ย
ในใจคิดสำหรับเคสนี้ของบัว และแปดบัตรทีผ่านมา “แฮร์คัท คือเส้นทางที่เราเจ็บตัวน้อยที่สุด” (ถ้ามีเงิน)
…………
9.30 ศาลเข้ามา ทุกคนยืนเคารพ มีคดีอาญาด้วย ศาลของกอบัวดุมาก มีคดีกระทำชำเรา พรากผู้เยาว์ก่อนหน้าคดีของบัว ศาลท่านดุผู้ชายว่า เป็นผู้ชายไปทำเขาทำไม แล้วตอนนี้อยู่กินด้วยกันใช่ไหม ให้เงินเขาวันละเท่าไหร่ ...ศาลท่านฉอดๆๆๆ แล้วบอกให้ฝ่ายหญิงลุกขึ้น ศาลพูดต่อ “หน้าตาก็ดี ทำไมใจง่าย ทำไมไม่เรียนหนังสือ อายุก็น้อย รีบมีสามีทำไม....” สอนไป ดุไป มันส์จริงๆ อีกคดีเป็นยาบ้า ติดคุกไปสองปี กอบัวนั่งดูเพลินดีค่ะ ดีใจที่คดีเราไม่มีติดคุก อุตส่าห์แต่งตัวเสียงาม ถ้ามีกำไลเหล็กติดข้อมือ คงไม่สวยเท่าไหร่
อีกคดีเป็นลุงแก่ๆ ให้ชดใช้ค่าเสียหายแปดหมื่น ลุงขอความเมตตาต่อศาลว่า ขอผ่อนปีละหมื่น บัวได้ยินผู้พิพากษาพูดกับตัวเองว่า “ปีละหมื่น แปดปีเลยเหรอลุง” 555
นายหันมากระซิบกับบัวว่า “หน้าระรื่นตลอดเลย ไม่กลุ้มเลยนะ” บัวพยักหน้า กลุ้มทำไม
พอศาลเรียกชื่อห้องกรง กับชื่อนางสาวกอบัว.... บัวก็ลุกขึ้นเหมือนชาวบ้าน เดินไปหน้าบัลลังก์ และแถลงสามข้อที่ร่างเอาไว้
ศาลท่านถามว่า ทราบได้อย่างไรว่า หมายไปปิดในวันที่....แล้วทำไมไม่ได้รับหล่ะ
บัวเลยบอกชื่อเมสเซนเจอร์ศาลว่า ชื่อนี้ได้คุยกันแล้ว และในหมายศาลที่กอบัวขอดูจากจนท.ศาลเมื่อกี้ บัวเห็นแล้วว่า เขาไปปิดผิดหมู่บ้าน บ้านเลขที่เดียวกันแต่คนละหมู่ ศาลท่านดูตามที่บัวแจ้ง ท่านมองหน้ากอบัวแล้วถามว่า
“นี่เป็นคดีบัตรเครดิตใบแรกของคุณหรือเปล่า?”
บัวหน้าแป้นแร้น นึกถึงคำที่พี่นกเคยสอนว่า
“อย่าสักว่ามีปากไว้กินข้าว อยากพูด อยากถามอะไรกับศาล ให้พูดให้บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้และต้องการออกไป” “ค่ะ คดีแรกค่ะ ดิฉันต้องการจะชดใช้หนี้ ในบัตรห้องกรงนี้ ดิฉันใช้หนี้คืนเขาไปแล้วหนึ่งใบ ส่วนใบนี้ยอดสูงมาก จึงอยากจะขอเลื่อนออกไปหนึ่งนัด เพื่อรอไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ และดิฉันจะได้เงินก้อนในเดือนธันวาคมแน่นอน ขอความเมตตาต่อศาลด้วยค่ะ”
“ถ้าให้เลื่อนออกไป แล้วนัดหน้า ต้องเบิกความแมสเซนเจอร์ศาลด้วยไหม”
“เบิกค่ะ ลำพังแค่ตัวดิฉันยังโชคดีที่มีทางออกกับคดีนี้ แต่สำหรับจำเลยรายอื่นๆ อาจมีผลกระทบ เพราะความเสียหายต่อการปิดหมายที่ผิด ไม่ตรงบ้านของจำเลย ผู้เสียหายคือจำเลย จะโดนข้อหาหนีศาล หมดโอกาสในการมาแก้ต่างในคดีที่ตนเป็นจำเลย จึงอยากจะขอให้ศาลได้ใช้ดุลพินิจในการตรวจสอบการทำงานของแมสเซนเจอร์ศาลด้วย ค่ะ”
ศาลถอดแว่นมองหน้ากอบัวอีกครั้ง ถามเสียงดังไม่ลดโวลุ่ม “ทำไมเป็นหนี้เขามากมายขนาดนี้”
“ดิฉันเป็นพี่สาวคนโต ต้องหาเลี้ยงแม่น้องๆ และลูกๆอีกหลายคน ด้วยสภาพสภาวะเศรษฐกิจในปีที่ผ่านๆมา ทำให้ตกงานและความไม่มีวินัยทางการเงินทำให้มีหนี้สินก้อนใหญ่ แต่ยืนยันต่อท่านตามเดิมว่า จะชำระหนี้นี้แน่นอน เพียงแต่ขอเวลาอีกสักเล็กน้อย”
ศาลท่านก้มหน้ายิ้มๆกับเอกสาร พูดเบาๆจนบัวต้องเอียงหูไปฟังว่า “เล็กน้อย เอาไปอาทิตย์เดียวพอไหม” แล้วท่านก็ยิ้ม ถามทางฝ่ายโจทก์ว่า ว่างวันไหน โจทก์ว่างเดือนหน้า กอบัวใจหายวาบ แต่ก็ทำใจไว้แล้วว่า ถ้าขอเลื่อนด้วยปากเปล่า การเลื่อนจะเลื่อนได้น้อย และเลื่อนได้เพียงครั้งเดียว ตามกระทู้ที่พี่นกสอนไว้ในนี้
www.consumerthai.org/debt/index.php?opti...catid=5&id=73617
(ลิงค์นี้ใช้ไม่ได้แล้วค่ะ)
ครู่เดียวท่านก็เงยหน้าขึ้นมาบอกว่า เลื่อนออกไปอีกนัด ด้วยทางจำเลยประสงค์จะไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ โดยให้เลื่อนเป็นเดือนพฤศจิกายน
กอบัวเกือบกระโดดกอดศาล “เย้....สองเดือน ดีจังเลย ดีจังเลย เยอะกว่าที่คาดไว้”
กอบัวถามต่อทันที “แล้วเรื่องเบิกความ แมสเซนเจอร์ศาลหล่ะคะ”
ศาลท่านมองลอดแว่น ทำเสียงเขียวปรี๊ด “คุณบอกว่าให้อยู่ในดุลยพินิจของศาลไม่ใช่หรือ”
กอบัวเลยเงียบ ท่าทางกรูจะเกินไปแล้ว....
พอท่านพยักหน้าบอกว่า ให้เลื่อน กอบัวก็ทำความเคารพและเดินออกมา รอใบเลื่อนกับทางเสมียนศาลอีกรอบ ระหว่างนั้นก็ไปคุยกับทนายโจทก์ ได้ความรู้มากมาย แล้วมืดๆจะมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ต้องไปทำธุระก่อน แต่รับรองไม่ใช่รำแก้บนแน่นอน
พอเดินออกมานอกศาลกับนาย ทางห้องกรงโทรมาบอกว่า ให้ปิดที่แปดหมื่นงวดเดียว บัวบอกรอไปก่อนนะ กรูไม่รีบแล้วเว้ย
ขอบคุณ SMS จากมิตรหลายๆคน พีจังส่งข้อความมาตั้งแต่เมื่อคืน ตามด้วยน้องๆหน้าบอร์ดอีกหลายคน ตุ๊กเข้ และจำนวนมากที่ส่งใจส่งจิตมาช่วย
ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศมากที่สุด ขนาดกำลังจะเข้าห้องพิจารณาคดียังพยายามโทรมาถามไถ่ ขอบคุณพี่นกมากๆ และมากๆค่ะ
ไปศาลบางคนอาจจะกลัวมากมาย สำหรับกอบัวแล้ว ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นกรรมการแล้ว จะไม่กลัว ความวิตกกังวลก็มีบ้าง เพราะไม่ว่าเราจะอ้างอะไรก็ตาม “ดุลพินิจของศาล” เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ
แต่เพราะบัวไม่เคยหวังอะไรในทางที่ดี จะมองอะไรในแง่ร้ายสุดๆเสมอ เมื่อเจอดีกว่าที่คิดเอาไว้เพียงเล็กน้อย บัวก็รู้สึกดีกับตัวเองมากมาย ถ้าเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นไปตามที่คาด หนี้ตัวที่เก้า ยอดเยอะที่สุดก็จะปิดตัวลงอย่างสวยงาม
เหลืออีกเพียงใบเดียวกับ KTC สู้ต่อไปพี่น้อง