ตื่ินขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองมีหนี้เป็นล้านกว่าบาท

สวัสดีครับ ผมติดตามอ่านของท่านอื่นมากนาน
ผมมีเรื่องราวของผมเองมาเล่าและจะขอคำแนะนำครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำงาน บริษัทเอกชน เงินเดือน ประมาณ 42,000 บาท
แฟนทำงาน ธนาคารแหน่งหนึ่ง เงินเดือน ประมาณ 28,000 บาท
ผมมีภาระผ่อนบ้าน เดือนละ 10,000 บาท รถ 8000 บาท (รถเหลืออีก 2 ปีหมด)
แฟนผ่อนบ้าน อีกหลัง (ใช้สิทธ์พนักงาน) ผ่อน เดือนละ 6,000 บาท
ผมอยู่กับแฟนมา 4 ปีกว่า เรื่องเงินผมให้แฟนจัดการทั้งหมด โดยที่ผมจะซื้ออะไรก็จะขอเค้า
ที่ผ่านมาใช้จ่ายได้ปกติ ไม่มีปัญหา ดูเหมือนคนมีสภาพคล่อง มีการใช้บัตรเคดริตอยู่บ้าง
ผมก็พอรู้ แต่ไม่รู้ว่ากี่บัตร แต่ละบัตรยอดเท่าไร รู้แต่ว่ารวมกัน 2 คน ก็หลายใบอยู่
พักหลัง เริ่มมีคนโทรมาท่วงค้างชำระบัตรบ่อยๆ เข้าผมก็เลยสงสัย ก็เริ่มถามแฟนว่าเราเป็นหนี้อยู่เท่าไร
บอกตัวเลขมาหน่อย ทีแรกไม่ยอมบอกผม บอกว่าอย่ารู้เลยเรื่องเงินเค้าจัดการเอง จนสุดท้ายผมทนไม่ไหว
บังคับให้บอก ถึงได้รู้ว่า 2 คน ติดหนี้บัตรเคดริตประมาณ 1.7 ล้าน ผมตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก
ก็ถามแฟนว่า ทำไมถึงมากขนาดนี้ ปล่อยให้มาถึงจุดนี้ได้ยังไง เค้าบอกว่าเค้าพยายามบริหารจัดการ
หนี้ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยมากดเงินจากบัตรนู้นไปปิดบัตรนี้ หมุ่นไปหมุ่นมา โดยที่มาของหนี้ทั้งหมด
ก็มาจาก 2 ส่วน ก็คือ ส่วนแรกช่วงแฟนทำงานใหม่ๆ พ่อแม่ทำธุรกิจ ก็มาหยิบยืมไปโดยไม่ได้คืนก็พอสมควร
ส่วนที่ 2 ก็มาจาก เราสองคน ช่วยกันใช้
ผมตั้งสติอยู่ 2 วัน ใจนึงก็โกธรแฟนที่ทำไมไม่ยอมบอกกันบ้างปล่อยให้เราคิดว่ามีสภาพคล่อง
อยากได้อะไรก็ซื้อโดยไม่ได้คิด เพราะไม่รู้ว่าตัวเองหนี้เยอะ แต่คิดไปคิดมา ก็โกธรไม่ลงคิดว่าเป็นแบบ
นี้เพราะเค้าอยากให้เรามีความสุข ก็เลยเรียกมาคุยกันใหม่ ช่วยกันแก้ไขปัญหา สรุปออกมาดังนี้ครับ


อัดดับแรกหยุดใช้บัตรเด็ดขาดครับ แล้วก็แบ่งยอดของผมกับของแฟน

1. ของแฟนประมาณ 600,000
2. ของผมประมาณ 1,100,000










* ยอดของแฟน เนื่องจากแฟนทำงานธนาคาร ผมจึงขอยืนเงินจาก พี่สาว 2 แสน ยืมบริษัท 3 แสน ขอเวลา 2ปี ค่อยผ่อนคืน เดือนละ 5000
เอาเงิน 5 แสนมาปิดของแฟน เกือบหมด เหลืออยู่ 1 บัตร ประมาณ 8 หมื่น ผ่อนเดือน ละ 2 พันกว่า ก็จะผ่อนไปเรื่อยๆ ทำงานธนาคาร
ไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องเงิน เดี๋ยวมีผลกระทบกับงาน

* ยอดของผม หลังจากที่ได้ ศึกษาแนวทางจากพี่ๆ หลายๆคนในนี้ ผมก็เริ่มทำการหยุดจ่ายครับ หยุดมาได้ประมาณ 1 รอบบิลแล้วครับ





ผมขอคำแนะนำด้วยนะครับผมจะทำยังไงดี หยุดจ่ายไปเรื่อยๆ โทรมาก็บอกไม่มีใช่ไหมครับ ใจแข็งจนกว่า จะได้รับ่สวนลดใช่ไหมครับ
ส่วนบัตร โลตัสที่เชิญโครงการประนอมหนี้ 60 งวด ๆละ 2172 ทำยังไงดีครับ จะเข้าหรือจะ ใจแข็งต่อไป

ตอนนี้ที่ใจไม่ดีคือว่ากว่าการขึ้นศาลครับ ไม่เคยมาก่อนครับ ใจหวิวๆ ผมไม่รู้ว่าจะไปถึงจุดที่เรียกว่าโดยฟ้องล้มละลายรึป่าวครับ


ตอนนี้ก็ตั้งเป้าว่าจะเก็บเงิน ทำงานประจำด้วย ขายของไปด้วยครับ ตั้งใจจะเก็บเงินให้ได้ อย่างน้อยเดือนละ 10,000-15,000
ไม่รู้จะไปรอดรึป่าว

อัพเดทสถานการณ์ล่าสุด 28-6-2019



1.KTC (หยุดจ่าย 6 รอบบิล)ไม่โทรมาตั้งแต่รอบบิลที่ 2 เป็นผมที่ติดต่อไปหาเอง
ว่าจะขอปรับปรุงโครงสรา้งหนี้แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องค้างจ่าย 3 รอบบิลถึงจะทำได้ พอครบ 3 รอบบิลผมโทรไปอีก เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องอยู่ดำเนินการฟ้อง เมื่อได้รับหมาย ให้ไปคุยกับทนายในวันแรงเลย เรื่องเจรจาประนอมหนี้(ผมไม่เคยโดนฟ้องไม่เคยเจอทนายมาก่อนเลยครับ ควรจะเตรียมตัวยังไงดีครับ)
2. City (หยุดจ่าย 6 รอบบิล) โทรมาเรื่อยๆ แต่การทวงหนี้ ชิลๆ ไม่ค่อยจิกเราเท่าไร ผมก็เคย ครับๆๆๆ
ทราบครับ ไปเรื่อยๆ มีการสอบถามเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้แต่ผมไม่ยอม และไม่เคยคุยว่าจะลดหนี้ให้
ผมคิดว่าจะจ่าย สินเชื่อไปให้สักงวด ดีไหมครับ เพื่อยื้อเวลา
3. สินเชื่อ UOB (หยุดจ่าย 6 รอบบิล) โทรมาทวงนานๆ ที เข้าใจว่า อายุความ 5 ปี เค้าคงไม่เร่งมาก
แต่ก็คิดอยู่ว่าจะ จ่ายไปสักงวดดีไหม ดึงเกมสืไปก่อน กลัวว่าจะ โดนฟ้องพร้อมๆ กัน หรือยังไงดีครับ
แนะนำผมทีครับ
4. กรุงศรี (หยุดจ่าย 6 รอบบิล) นี่ก็มาบ่อยๆ ก่อนหน้านี้ผมปิดบัตรโลตัสไปตอนนี้เหมือนจะรู้ว่าเรารอส่วนลด ก็เลยชวนปรับโครงสร้างหนี้ แต่ผมไม่ยอม หลังๆมาเริ่มคุยเรื่องลดหนี้เหมือนกัน แต่ผมยังไม่มีเงิน
ปิด รอจังหวะตรงกันค่อยมาว่ากันใหม่
5. SCB (หยุดจ่าย 6 รอบบิล) เปลี่ยนบริษัททวงนี้ไปน่าจะ 3 เจ้าได้ ล่าสุด บัตรเคดิต จะเสนอส่วนลดให้ผมจากยอด 1 แสน ลดเหลือ 8 หมื่น ผมขอไป 5 หมื่น เจ้าหน้าที่บอก เป็นไปไม่ได้ ผมก็เลยบอกงั้นก็รอไปก่อน ไม่มีปัญญาหาได้ตอนนี้


ขอบคุณ ทุกคำแนะนำครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=179&Itemid=64

อ่านแนวทางของชมรมแล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้มันสอดคล้องกับหนี้ของเราครับ
ผมก็มีหนี้ ประมาณ 1.3 ล้าน ก็ใช้วิธีนี้ครับ
ตอนนี้เหลือ 3 ธนาคาร หนักๆ แต่ก็ต้องสู้ต่อครับ

หยุดทุกบัตร เพื่อให้สัญญาเลิกต่อกันแล้ว
แนวทางที่ 1. แนวทางคำพิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในเรื่องเบี้ยปรับบัญญัติไว้ว่า
มาตรา 379 ถ้าลูกหนี้สัญญาแก่เจ้าหนี้ว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งเป็นเบี้ยปรับเมื่อตนไม่ชำระหนี้ก็ดี หรือไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องตามสมควรก็ดี เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ก็ให้ริบเบี้ยปรับ ฯ
มาตรา 383 ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ฯ
ส่วนตามใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตหมายเลข 5432-1520-2054-2458/ จำเลยใช้บัตรครั้งสุดท้าย วันที่ 20 มีนาคม 2554 มียอดหนี้ค้างชำระถึงวันที่ 27 มีนาคม 2554 เป็นเงิน 14,265.16 บาท และครบกำหนดชำระเงินวันที่ 20 เมษายน 2554 หลังจากนั้นไม่ปรากฎว่าจำเลยนำบัตรเครดิตดังกล่าวไปใช้ คงมีแต่รายการที่โจทก์คิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินบัตรเครดิตต่อมาเท่านั้น พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าคู่สัญญาไม่ประสงค์ที่จะทำสัญญากันอีกต่อไป สัญญาจึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2554 เมื่อถือว่าสัญญาสิ้นสุดลงในวันดังกล่าว โจทก์จะอาศัยข้อตกลงในสัญญาผูกพันจำเลยอีกไม่ได้ การคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินบัตรเครดิตหลังเลิกสัญญา เท่ากับเป็นการคิดค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน เห็นควรให้โจทก์เรียกได้เฉพาะดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี
ส่วนตามใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อยูโอบี พรีวิลเลจ แคช 4043-6502-0002-7846 ที่โจทก์คิดดอกเบี้ยอัตราผิดนัดร้อยละ 28 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2554 นั้น พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คู่สัญญามีเจตนาเลิกสัญญากันโดยปริยายแล้ว โดยถือว่าสัญญาที่มีต่อกันสิ้นสุดลงในวันที่ 11 เมษายน 2554 เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 28 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาได้อีกต่อไป เมื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้ว เห็นสมควรกำหนดดอกเบี้ยให้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี

แนวที่ 4 ศาลจังหวัดนนทบุรี คดีธนาคารไทยพาณิชย์ 1. บัตรเครดิต แต่เมื่อใบกำกับภาษี เอกสารหมาย จ.67 ปรากฎว่า จำเลยชำระหนี้บัตรเครดิตครั้งสุดท้ายให้โจทก์วันที่ 27 มิถุนายน 2554 ณ วันดังกล่าว จำเลยมีหนี้ค้างชำระจำนวน 20,758.54 บาท หลังจากนั้นจำเลยไม่ได้ใช้บัตรเครดิตหรือชำระหนี้ให้โจทก์อีกเลย โจทก์กำหนดให้ชำระหนี้ครั้งต่อไปวันที่ 25 กรกฎาคม 2554 แต่จำเลยผิดนัดจึงถือว่าสัญญาเลิกกันโดยปริยายในวันดังกล่าว การที่โจทก์คิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ภายหลังผิดนัดดังกล่าว ถือว่ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน เห็นสมควรกำหนดให้อัตราร้อยละ 12 ต่อปี 2. สินเชื่อหมุนเวียนสปีดี้แคช แต่เมื่อใบกำกับภาษี เอกสารหมาย จ.10 ปรากฎว่า จำเลยเบิกถอนเงินสินเชื่อหมุนเวียนสปีดี้แคช ครั้งสุดท้ายจากโจทก์วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 ณ วันดังกล่าว จำเลยมีหนี้ค้างชำระจำนวน 30,698.69 บาท โจทก์กำหนดให้ชำระหนี้ครั้งต่อไปวันที่ 12 กันยายน 2554 แต่จำเลยผิดนัดจึงถือว่าสัญญาเลิกกันโดยปริยายในวันดังกล่าว การที่โจทก์คิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าธรรมต่างๆ ภายหลังผิดนัดดังกล่าว ถือว่ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน เห็นสมควรกำหนดให้อัตราร้อยละ 12 ต่อปี แต่ทั้งนี้ปรากฎว่าจำเลยได้ชำระหนี้คืนโจทก์หลังผิดนัดบางส่วน ตามใบกำกับภาษี และสรุปรายการยอดหนี้ถึงเดือนมกราคม 2556 เอกสารหมาย จ.10 และ จ.11 และจำเลยนำสืบว่าได้ฝากเงินเข้าบัญชีเพื่อชำระหนี้สินเชื่อนี้คืนโจทก์ตามสำเนาใบนำฝาก เอกสารหมาย จ.4 ถือว่าจำเลยมีหลักฐานเป็นหนังสือเกี่ยวกับการใช้เงินมาแสดง จึงต้องนำเงินทั้งหมดดังกล่าวหักชำระหนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คู่สัญญามีเจตนาเลิกสัญญากันโดยปริยายแล้ว โดยถือว่าสัญญาที่มีต่อกันสิ้นสุดลงในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์จะอาศัยข้อตกลงในสัญญาผูกพันจำเลยอีกไม่ได้ การคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันในอัตราร้อยละ 28 ต่อปี คิดค่าปรับชำระหนี้ล่าช้า หลังเลิกสัญญา เท่ากับเป็นการคิดค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ และขอนำเงินที่จำเลยผ่อนชำระจำนวน 49,630 บาท ไปหักออกจากยอดหนี้ 3. สินเชื่อกู้เงิน สปีดี้ โลน เมื่อปรากฎตามบัญชีเงินให้กู้ เอกสารหมาย จ.13 ว่า จำเลยชำระหนื้คืนโจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 โจทก์กำหนดให้จำเลยชำระหนี้ครั้งต่อไปวันที่ 2 มีนาคม 2554 ตามเอกสารหมาย ล.5 แต่จำเลยผิดนัดจึงถือว่าสัญญาเลิกกันโดยปริยายในวันดังกล่าว ณ วันดังกล่าว จำเลยมีหนี้ค้างชำระเป็นต้นเงิน 48,840.27 บาท ดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ภายหลังผิดนัดดังกล่าวถือว่ามีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน เห็นสมควรกำหนดให้อัตราร้อยละ 12 ต่อปี พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 100,296.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ของต้นเงินหนี้บัตรเครดิตจำนวน 20,275.07 บาท นับแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ของต้นเงินหนี้สินเชื่อหมุนเวียนสปีดี้แคชจำนวน 30,697.69 บาท นับแต่วันที่ 13 กันยายน 2554 และของต้นเงินหนี้สินเชื่อบุคคล สปีดี้โลนจำนวน 48,840.27 บาท นับแต่วันที่ 3 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่

พึ่งเริ่มหยุดจ่าย แต่มีของธนาคารกรุงไทย
บัตร KTC กดเงินสด 181,133
บัตร KTC เคดริต 24,300
บัตร KTC บัตรเสริม 71,373

ซึ่งตอนนี้ผมรับเงินเดือนจากธนาคารนี้อยู่
ถ้าผมหยุดจ่าย จะมีผลต่อเงินเดือนไหมครับ

ขอสอบถามอีกเรื่องครับ ในกรณ๊ของ
บัตรโลตัส 95,426 12-2-2019 เชิญเข้าโครงการประนอมหนี้ 60 งวด ๆละ 2172 (18-2-2019)
แต่เราไม่อยากจะร่วม คือจะดึงเวลาให้ได้ H/C จะควรจะบอกปฏิเสธยังไงดีครับ โทรมาถามบ่อยมาก
ว่าไม่สนใจเหรอ ส่งเอกสารมาให้ผมด้วย ผมก็ได้แต่บอกว่าจะขอดูเอกสารสัญญาก่อน นัดไว้พรุ่งนี้จะโทรมา
เอาคำตอบครับ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี

เมื่อวานเห็นเอกสารเชิญปรับโครงสร้างหนี้ ของบัตรโลตัส (กรุงศรี) แล้ว ให้ผ่อนเดิอนละ 2200 60 เดือน
คิดแล้วประมาณ 135,000 จากยอด 95000 วันนี้เจ้าหน้าที่จะโทรมาถามว่าจะร่วมไหม ผมจะเอายังไงดีครับ เห็นบอกว่าสัญญาทาส กลัวจริงๆ

แวะมาให้กำลังใจครับ หนี้ของคุณ 1,1xx,xxx วิธีการที่จะใช้คืนให้หมด โดยต้องการจ่ายคืนให้น้อยกว่ายอดหนี้ มีวิธีเดียวคือการทำ H/C บัญชีครับ ซึ่งเป้าหมายการทำ H/C บัญชีที่ถูกต้องคือ เราต้องได้ส่วนลดจากยอดหนี้เดิมหรือเท่ายอดเงินต้นเท่านั้น!!

ซึ่งสิ่งที่คุณเล่ามา(ข้อเสนอที่ธนาคารให้ตอนนี้) ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณเลยนะครับ ดังนั้นอย่าทำสัญญาเหล่านั้นครับ

จากประสบการณ์ของผม เงื่อนไขที่จะทำให้คุณสำเร็จตามเป้าหมายมีเพียง 2 ข้อคือ
1. เก็บเงินรอปิด(ธนาคารไหนเสนอยอดปิดเท่าเงินก้อนนี้ ให้พิจารณาว่าพอใจในส่วนลดหรือไม่)
2. อย่าทำสัญญาอะไรทั้งนั้น ถ้าเงินเก็บไม่พอปิด หรือมองไม่เห็นว่าจะเอาจากไหนมาปิด เช่น เงินโบนัส


มาช่วยตอบคำถามที่เคยถามมาครับ

---

พึ่งเริ่มหยุดจ่าย แต่มีของธนาคารกรุงไทย
บัตร KTC กดเงินสด 181,133
บัตร KTC เคดริต 24,300
บัตร KTC บัตรเสริม 71,373

ซึ่งตอนนี้ผมรับเงินเดือนจากธนาคารนี้อยู่
ถ้าผมหยุดจ่าย จะมีผลต่อเงินเดือนไหมครับ

=> ผมรับเงินเดือนผ่าน scb ยอดหนี้ผมกับ scb อยู่ที่ 37x,xxx การหยุดจ่ายไม่มีผลต่อเงินเดือนหรือเงินที่เข้าออกบัญชีเลยครับ

---

ขอสอบถามอีกเรื่องครับ ในกรณ๊ของ
บัตรโลตัส 95,426 12-2-2019 เชิญเข้าโครงการประนอมหนี้ 60 งวด ๆละ 2172 (18-2-2019)
แต่เราไม่อยากจะร่วม คือจะดึงเวลาให้ได้ H/C จะควรจะบอกปฏิเสธยังไงดีครับ โทรมาถามบ่อยมาก
ว่าไม่สนใจเหรอ ส่งเอกสารมาให้ผมด้วย ผมก็ได้แต่บอกว่าจะขอดูเอกสารสัญญาก่อน นัดไว้พรุ่งนี้จะโทรมา
เอาคำตอบครับ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี

=> ปฏิเสธแบบสุภาพว่าไม่มีจ่าย ไม่ขอดำเนินการอะไรทั้งนั้น เพราะทำไปก็ไม่มีจ่าย

---

เมื่อวานเห็นเอกสารเชิญปรับโครงสร้างหนี้ ของบัตรโลตัส (กรุงศรี) แล้ว ให้ผ่อนเดิอนละ 2200 60 เดือน
คิดแล้วประมาณ 135,000 จากยอด 95000 วันนี้เจ้าหน้าที่จะโทรมาถามว่าจะร่วมไหม ผมจะเอายังไงดีครับ เห็นบอกว่าสัญญาทาส กลัวจริงๆ

=> ปฏิเสธแบบสุภาพว่าไม่มีจ่าย ไม่ขอดำเนินการอะไรทั้งนั้น เพราะทำไปก็ไม่มีจ่าย

---

ว่างๆ ลองอ่านที่ผมเขียนตอบเพื่อนสมาชิกในโพสนี้ดูนะครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=46708&Itemid=64

ตาบอดคลำช้าง เขียน: แวะมาให้กำลังใจครับ หนี้ของคุณ 1,1xx,xxx วิธีการที่จะใช้คืนให้หมด โดยต้องการจ่ายคืนให้น้อยกว่ายอดหนี้ มีวิธีเดียวคือการทำ H/C บัญชีครับ ซึ่งเป้าหมายการทำ H/C บัญชีที่ถูกต้องคือ เราต้องได้ส่วนลดจากยอดหนี้เดิมหรือเท่ายอดเงินต้นเท่านั้น!!

ซึ่งสิ่งที่คุณเล่ามา(ข้อเสนอที่ธนาคารให้ตอนนี้) ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณเลยนะครับ ดังนั้นอย่าทำสัญญาเหล่านั้นครับ

จากประสบการณ์ของผม เงื่อนไขที่จะทำให้คุณสำเร็จตามเป้าหมายมีเพียง 2 ข้อคือ
1. เก็บเงินรอปิด(ธนาคารไหนเสนอยอดปิดเท่าเงินก้อนนี้ ให้พิจารณาว่าพอใจในส่วนลดหรือไม่)
2. อย่าทำสัญญาอะไรทั้งนั้น ถ้าเงินเก็บไม่พอปิด หรือมองไม่เห็นว่าจะเอาจากไหนมาปิด เช่น เงินโบนัส


มาช่วยตอบคำถามที่เคยถามมาครับ

---

พึ่งเริ่มหยุดจ่าย แต่มีของธนาคารกรุงไทย
บัตร KTC กดเงินสด 181,133
บัตร KTC เคดริต 24,300
บัตร KTC บัตรเสริม 71,373

ซึ่งตอนนี้ผมรับเงินเดือนจากธนาคารนี้อยู่
ถ้าผมหยุดจ่าย จะมีผลต่อเงินเดือนไหมครับ

=> ผมรับเงินเดือนผ่าน scb ยอดหนี้ผมกับ scb อยู่ที่ 37x,xxx การหยุดจ่ายไม่มีผลต่อเงินเดือนหรือเงินที่เข้าออกบัญชีเลยครับ

---

ขอสอบถามอีกเรื่องครับ ในกรณ๊ของ
บัตรโลตัส 95,426 12-2-2019 เชิญเข้าโครงการประนอมหนี้ 60 งวด ๆละ 2172 (18-2-2019)
แต่เราไม่อยากจะร่วม คือจะดึงเวลาให้ได้ H/C จะควรจะบอกปฏิเสธยังไงดีครับ โทรมาถามบ่อยมาก
ว่าไม่สนใจเหรอ ส่งเอกสารมาให้ผมด้วย ผมก็ได้แต่บอกว่าจะขอดูเอกสารสัญญาก่อน นัดไว้พรุ่งนี้จะโทรมา
เอาคำตอบครับ แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี

=> ปฏิเสธแบบสุภาพว่าไม่มีจ่าย ไม่ขอดำเนินการอะไรทั้งนั้น เพราะทำไปก็ไม่มีจ่าย

---

เมื่อวานเห็นเอกสารเชิญปรับโครงสร้างหนี้ ของบัตรโลตัส (กรุงศรี) แล้ว ให้ผ่อนเดิอนละ 2200 60 เดือน
คิดแล้วประมาณ 135,000 จากยอด 95000 วันนี้เจ้าหน้าที่จะโทรมาถามว่าจะร่วมไหม ผมจะเอายังไงดีครับ เห็นบอกว่าสัญญาทาส กลัวจริงๆ

=> ปฏิเสธแบบสุภาพว่าไม่มีจ่าย ไม่ขอดำเนินการอะไรทั้งนั้น เพราะทำไปก็ไม่มีจ่าย

---

ว่างๆ ลองอ่านที่ผมเขียนตอบเพื่อนสมาชิกในโพสนี้ดูนะครับ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=46708&Itemid=64

ขอบคุณมากครับ เมื่อสักครู่ เจ้าหน้าที่โทรมา ผมก็บอกปฏิเสธไปแล้วครับ ผมจะลองอ่านเรื่องราวของท่านดูครับ

ขออนุญาติสอบถามครับ พวกสินเชื่อที่เรากู้มา เช่น เอามา 2 แสน แบ่งจ่ายเป็นเดือนเดือนละ 4000
แบบนี้ผมเรียกของผมเองว่าสินเชื่อ ตัวนี้เรามีหลักการหยุดจ่ายเพื่อรอ H/C เหมือนกับหนี้บัตรเคดิต ต่างๆ ไหมครับ

uddboy เขียน: ขออนุญาติสอบถามครับ พวกสินเชื่อที่เรากู้มา เช่น เอามา 2 แสน แบ่งจ่ายเป็นเดือนเดือนละ 4000
แบบนี้ผมเรียกของผมเองว่าสินเชื่อ ตัวนี้เรามีหลักการหยุดจ่ายเพื่อรอ H/C เหมือนกับหนี้บัตรเคดิต ต่างๆ ไหมครับ

เหมือนกันครับ ผมมีตัวนึงยอดคงค้างทั้งหมด 126,xxx ทำ H/C ได้ข้อเสนอปิดงวดเดียวที่ 78,000 ครับ

ตาบอดคลำช้าง เขียน:

uddboy เขียน: ขออนุญาติสอบถามครับ พวกสินเชื่อที่เรากู้มา เช่น เอามา 2 แสน แบ่งจ่ายเป็นเดือนเดือนละ 4000
แบบนี้ผมเรียกของผมเองว่าสินเชื่อ ตัวนี้เรามีหลักการหยุดจ่ายเพื่อรอ H/C เหมือนกับหนี้บัตรเคดิต ต่างๆ ไหมครับ

เหมือนกันครับ ผมมีตัวนึงยอดคงค้างทั้งหมด 126,xxx ทำ H/C ได้ข้อเสนอปิดงวดเดียวที่ 78,000 ครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล เหนือสิ่งอื่นใด คือเมื่อมีคนตอบ รู้สึกได้ว่าเราไม่โดดเดี่ยว ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่สูเหมือนเราครับ กำลังใจมาเต็มครับ สู้เพื่อลูกครับ

ในความโชคร้ายของผม ก็ยังพอมีความโชคดีอยู่บ้างครับ หลังจากที่เค้นยอดหนี้จากแฟนได้
ผมก็เรียกทุกคนในบ้านมาคุยเรื่องว่า เราเป็นหนี้เยอะมาก (พ่อแม่แฟน มาอยู่ช่วยเลีี้ยงลูกให้ด้วย)
เราจะต้องช่วยกันประหยัด และรวมใจกัน ให้รอดผ่านปัญหาครั้งนี้ไปให้ได้ เราเอาเงินที่มีอยู่ ประมาณ 2 หมื่น ไปลงทุ่นซื้อรถมอไซค์พ่วง และอุปกรณ์ มาให้พ่อตา ขายของ ทดลองขายได้มาประมาณ 2 สัปดาห์
เฉลี่ยแล้ว ขายได้กำไร ประมาณ วัน ละ 800 บาท บางวันขายดีได้ถึง 1500 บาท คาดว่าน่าจะมีรายได้เพิ่มสำหรับเก็บเอาไว้ H/C ทุกคนในบ้านช่วยกันครับเลิกงานผมรีบไปซื้อของและเตรียมของเพื่อให้พ่อได้ขายวันรุ่งขึ้นครับ ของขายได้ เราก็มีความสุขครับ

uddboy เขียน:

ตาบอดคลำช้าง เขียน:

uddboy เขียน: ขออนุญาติสอบถามครับ พวกสินเชื่อที่เรากู้มา เช่น เอามา 2 แสน แบ่งจ่ายเป็นเดือนเดือนละ 4000
แบบนี้ผมเรียกของผมเองว่าสินเชื่อ ตัวนี้เรามีหลักการหยุดจ่ายเพื่อรอ H/C เหมือนกับหนี้บัตรเคดิต ต่างๆ ไหมครับ

เหมือนกันครับ ผมมีตัวนึงยอดคงค้างทั้งหมด 126,xxx ทำ H/C ได้ข้อเสนอปิดงวดเดียวที่ 78,000 ครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล เหนือสิ่งอื่นใด คือเมื่อมีคนตอบ รู้สึกได้ว่าเราไม่โดดเดี่ยว ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่สูเหมือนเราครับ กำลังใจมาเต็มครับ สู้เพื่อลูกครับ

หนี้ผม 1,4xx,xxx บาท(10 รายการ) ตอนนี้เหลือ 2 รายการ ซึ่ง 1 ใน 2 รายนี้จะปิดจบสิ้นเดือนมีนานี้ และรายการสุดท้ายคือ ktc ที่ฟ้องศาลผมไปแล้ว(ให้ปิดจบใน 36 เดือน) และเหลือเวลาเคลียอีก 25 เดือน(ยอดตอนนี้เหลือ 29x,xxx) ก็จะเป็นไทแล้วครับ

เชื่อเถอะว่าถ้าเราผ่าน H/C ไปด้วยตัวเราเอง(เก็บเงินเอง, ต่อรองกับธนาคารเองและอาจจะได้ขึ้นศาลเอง โดยไม่ได้ไปยืมหรือกู้มาปิด) เราจะมีวินัยทางการเงินที่ดีและได้นิสัยการเงินใหม่ๆ ติดตัวไปด้วยครับ

ตาบอดคลำช้าง เขียน:

uddboy เขียน:

ตาบอดคลำช้าง เขียน:

uddboy เขียน: ขออนุญาติสอบถามครับ พวกสินเชื่อที่เรากู้มา เช่น เอามา 2 แสน แบ่งจ่ายเป็นเดือนเดือนละ 4000
แบบนี้ผมเรียกของผมเองว่าสินเชื่อ ตัวนี้เรามีหลักการหยุดจ่ายเพื่อรอ H/C เหมือนกับหนี้บัตรเคดิต ต่างๆ ไหมครับ

เหมือนกันครับ ผมมีตัวนึงยอดคงค้างทั้งหมด 126,xxx ทำ H/C ได้ข้อเสนอปิดงวดเดียวที่ 78,000 ครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล เหนือสิ่งอื่นใด คือเมื่อมีคนตอบ รู้สึกได้ว่าเราไม่โดดเดี่ยว ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่สูเหมือนเราครับ กำลังใจมาเต็มครับ สู้เพื่อลูกครับ

หนี้ผม 1,4xx,xxx บาท(10 รายการ) ตอนนี้เหลือ 2 รายการ ซึ่ง 1 ใน 2 รายนี้จะปิดจบสิ้นเดือนมีนานี้ และรายการสุดท้ายคือ ktc ที่ฟ้องศาลผมไปแล้ว(ให้ปิดจบใน 36 เดือน) และเหลือเวลาเคลียอีก 25 เดือน(ยอดตอนนี้เหลือ 29x,xxx) ก็จะเป็นไทแล้วครับ

เชื่อเถอะว่าถ้าเราผ่าน H/C ไปด้วยตัวเราเอง(เก็บเงินเอง, ต่อรองกับธนาคารเองและอาจจะได้ขึ้นศาลเอง โดยไม่ได้ไปยืมหรือกู้มาปิด) เราจะมีวินัยทางการเงินที่ดีและได้นิสัยการเงินใหม่ๆ ติดตัวไปด้วยครับ

ขอบคุณครับ วันหน้าอาจจะได้รบกวนปรึกษา อีกหลายเรื่องครับ

เมื่อวานเครียด สติไม่รู้ไปไหน วันนี้เริ่มทำใจได้ เช้ามา โทรมาทาง 3 ราย
8.20 ซิตี้แบงค์สินเชื่อ
10.00 KTC
10.30 UOB สินเชื่อ

ทั้งสามเจ้า พูดจาดี ผมได้แต่บอกว่ายังไม่มี รอดูเงินเดือนอีกทีว่าพอจ่ายไหม

14.50 บัตรซิตี้โทรมา พูดจาไม่ค่อยดี เราก็บอกไม่มีๆ ยังมีมาบอกว่าเงินเดือนพึ่งออกไม่ใช่เหรอ
เราเลยบอกว่าเงินออก แต่ไม่เหลือ จ่ายนอกระบบหมดแล้ว

15.15 เทสโก้ พูดจาดี บอกถ้าจ่ายไม่ทัน จะเป็นค้าง 3 ยอด ผมบอกว่าจะพยายาม ไม่รับปากนะ

มาให้กำลังใจคุณทำได้ อย่าเซ็นเอกสารใดๆ นอกจากเอกสารขอเลื่อนนัดจากศาลเท่านั้น รอH/C อย่างเดียว แล้วรับโทรศัพท์ทุกสาย ก็ขอพลัดผ่อนไป อ่านประสบการณ์จากเพื่อนๆเยอะๆ

จากการเรียนรู้ KTC ให้ส่วนลดยากมากและฟ้องเร็วค่ะ

uddboy เขียน: เมื่อวานเครียด สติไม่รู้ไปไหน วันนี้เริ่มทำใจได้ เช้ามา โทรมาทาง 3 ราย
8.20 ซิตี้แบงค์สินเชื่อ
10.00 KTC
10.30 UOB สินเชื่อ

ทั้งสามเจ้า พูดจาดี ผมได้แต่บอกว่ายังไม่มี รอดูเงินเดือนอีกทีว่าพอจ่ายไหม

14.50 บัตรซิตี้โทรมา พูดจาไม่ค่อยดี เราก็บอกไม่มีๆ ยังมีมาบอกว่าเงินเดือนพึ่งออกไม่ใช่เหรอ
เราเลยบอกว่าเงินออก แต่ไม่เหลือ จ่ายนอกระบบหมดแล้ว

15.15 เทสโก้ พูดจาดี บอกถ้าจ่ายไม่ทัน จะเป็นค้าง 3 ยอด ผมบอกว่าจะพยายาม ไม่รับปากนะ

AmSnowWhite เขียน: มาให้กำลังใจคุณทำได้ อย่าเซ็นเอกสารใดๆ นอกจากเอกสารขอเลื่อนนัดจากศาลเท่านั้น รอH/C อย่างเดียว แล้วรับโทรศัพท์ทุกสาย ก็ขอพลัดผ่อนไป อ่านประสบการณ์จากเพื่อนๆเยอะๆ

จากการเรียนรู้ KTC ให้ส่วนลดยากมากและฟ้องเร็วค่ะ

uddboy เขียน: เมื่อวานเครียด สติไม่รู้ไปไหน วันนี้เริ่มทำใจได้ เช้ามา โทรมาทาง 3 ราย
8.20 ซิตี้แบงค์สินเชื่อ
10.00 KTC
10.30 UOB สินเชื่อ

ทั้งสามเจ้า พูดจาดี ผมได้แต่บอกว่ายังไม่มี รอดูเงินเดือนอีกทีว่าพอจ่ายไหม

14.50 บัตรซิตี้โทรมา พูดจาไม่ค่อยดี เราก็บอกไม่มีๆ ยังมีมาบอกว่าเงินเดือนพึ่งออกไม่ใช่เหรอ
เราเลยบอกว่าเงินออก แต่ไม่เหลือ จ่ายนอกระบบหมดแล้ว

15.15 เทสโก้ พูดจาดี บอกถ้าจ่ายไม่ทัน จะเป็นค้าง 3 ยอด ผมบอกว่าจะพยายาม ไม่รับปากนะ

ขอบคุณมากครับ

ตอนนี้กำลังใจดีครับ ช่วยที่บ้านเตรียมของไปขายได้กำไรดี เริ่มมีความหวัง ปลดหนี้ครับ

อัพเดทครับ ตอนนี้ บางเจ้าเริ่มเข้าบิลที่สามแล้ว โทรมาวันละ 5-6 เจ้าเห็นจะได้
บอกไม่พร้อมและไม่สะดวกอย่างเดียว ครับ เราก็รอๆๆๆ HC และก้มหน้าก้มตาเก็บเงินครับ

TMB ติดต่อมาบ้างไหมครับ ของผมส่ง SMS บอกว่าจะส่งให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตามขั้นตอนแล้วครับ 4 รอบบิล 24000 ครับ

uddboy เขียน: อัพเดทครับ ตอนนี้ บางเจ้าเริ่มเข้าบิลที่สามแล้ว โทรมาวันละ 5-6 เจ้าเห็นจะได้
บอกไม่พร้อมและไม่สะดวกอย่างเดียว ครับ เราก็รอๆๆๆ HC และก้มหน้าก้มตาเก็บเงินครับ