มือใหม่โดนทวงหนี้

Narasingh เขียน: stop เวิ่น เดี๋ยวนี้

เสียชื่อสมาชิกเก่าหมด

ขึ้นศาลไม่มีไรหรอก ขำๆ สนุกๆ

อย่ากลัว ไปอ่านแนวทางในการไปศาลเหรอยัง

เมื่อก่อนโดนด่า โคตรเสียใจเลย แต่เดี๋ยวนี้เวลาโดนด่า แล้วต้องฮึด .. เพระาถ้าไม่ฮึด จะไม่มีใครมาด่า และจะเสียใจยิ่งกว่าโดนด่าอีก .. ใช่ป่ะคะศิษย์พี่

ขึ้นศาล ไม่กลัวอะไร เท่ากลัว ตอบอะไรโง่ๆ ออกไป แทนที่จะได้ส่วนลด กลับได้ หนี้เพิ่มอะดิ่ คุณ Narasingh

อ่านที่คุณ Anakin เอามาแปะให้แล้วค่ะ อ่าน วนไป วนมา จนเริ่มจะมึนละ ไม่รู้โพสใครเป็นโพสใคร

ไว้พรุ่งนี้ เย็นอ่านอีกที วันนี้ขอนอนทำสมาธิ

เพิ่งรู้ว่า พ่อหนุ่มเจได เป็บกบจำศีลไปเสียแล้ว อนุโมทนาบุญนะ


น้องเขาไม่มีทรัพย์สินหรอกค่ะ แค่ความกลัว ความวิตกขึ้นสมอง
เพราะโดนหมายศาลแรกค่ะ

คุณ rattanad ค่ะ จำได้ไหม เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ที่คุณเริ่มตั้งกระทู้
โอโห กว่าคุณจะแกร่งกล้าต่อรองกับเขาได้ เหมือนเข็นคุณขึ้นเขา
คุณเห็นไหมกระทู้คุณนะ แฟนคลับเท่าไรแล้วค่ะ

อาจเป็นเพราะคุณไม่มั่นใจ แถมมีแหล่งข้อมูลที่เป็นทนาย เลย
2 จิต 2 ใจ พอถามโดยอ่านไม่ละเอียดก็โดนไล่ไปอ่าน เพราะ
เราที่นี่ สอนให้จับปลาเป็น ไม่ใช่จับปลามาป้อน คุณไม่เก็ตและ
นอยด์คนที่มากระทุ้งให้อ่าน จนในที่สุดคุณเรียกสติกลับมาตั้ง
หน้าสู้ใหม่ แบบที่พี่บอกว่า สาวเลือดบางระจัน คุณดูแกร่งเป้น
นกที่บินได้เอง โดยไม่ต้องมีคนคอยช่วยแล้ว ยังจำได้ไหมค่ะ

แต่ไง วันนี้ แค่เจอหมายศาลแรก ทำเอาสติเตลิดไปต่างประเทศ
หมด อ่านอะไรก็ไม่เข้าใจ ที่รู้เพราะคนที่เอาแต่ถามคนเก่าคนนั้น
กลับมาอีกแล้ว

ทุกคนเข้ามาเพื่อช่วยนำทาง แต่การตัดสินใจอยู่ที่น้องนะค่ะ ว่า
จะเลือกสิ่งไหนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดยคำนึงถึง
ปัจจัยกระเป๋าเงินเรา ความสามารถของเรา ระยะเวลาที่เราต้อง
นำมาชั่งเพื่อประกอบการพิจารณาค่ะ คุณอาบอกว่า ให้ต่อรอง
ก่อน เพราะไม่อยากให้เสียเงินค่าเขียนคำให้การแต่เนิ่นๆ และ
คุรอาอาจไม่รู้ว่า ไปทำยอมกุงไท 6 เดือนแล้ว จะยอมความ
ผ่อนอีกตัวในเวลาเดียวกัน มันคงยากอยู่ จนถึงขั้นกินเกลือ
อย่างที่บอกมา ส่วนวิธีของพี่ พี่ขอใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ถ้าคิดว่า ในอนาคต เราจบกุงไทได้ทันเวลา เพราะเราจะมี
เวลาในยื้ออย่างน้อย 3-4 เดือนขึ้นไป พอถึงเวลานั้น เมื่อจบ
จากกุงไทได้ เราก็ต่อชาวนาได้ค่ะ หรือจะให้ศาลพิพากษาไป
เลยแล้วรออายัดเงินเดือน ถ้าไม่มีปัญหาแบบน้องอนาคิน
บอกไว้ เพราะการอายัดเงินเดือนอาจช่วยจัดระเบียบหนี้
ได้นะค่ะ ถ้ามีหนี้หลายตัว และคิดว่า ไม่มีทางผ่อนหรือปิด
ได้เลย และการยอมความผ่อนไปทีละเจ้าอาจเกิน 30%
ของรายได้เราค่ะ

จะทำอะไรต้องมีแผนในใจนะค่ะ
ไปเลื่อนนัดก็ต้องมีแผนรองรับกับสิ่งที่จะเจอเช่นกันนะค่ะ

อย่าปล่อยให้ความกลัวทำลายความมั่นใจของน้องหมดสิค่ะ

หวังว่า การพักผ่อนจะช่วยให้มีสมาธิ มีสติกลับมาแล้วนะค่ะ
ไม่เช่นนั้น ทุกคนจะ เสียความรู้สึกที่ไม่สามารถนำทาง
น้องได้อีกค่ะ

.....อูย...ศิษย์พี่....เทศน์กัณฑ์ใหญ่เลย...

...จะกลัวอะไรนักหนา..อีหนู...เราก็ศิษย์มีครู...


......................"สู้โว้ย...!!!."

Anakin เขียน: มีทรัพย์สินอะไรเป็นของคุณไหมครับ ยอมโดนอายัดเงินเดือนได้ไหมครับ
เพราะการยอมความหลายๆ ที่ หากรวมกันแล้ว สูงกว่า ยอดการอายัดเงินเดือน

ผมว่าปล่อยให้อายัดเงินเดือนไปดีกว่าครับ เพราะ ถ้ายอมความไปแล้ว ผ่อนได้ไม่ตรงตามที่ทำสัญญาประนอมยอมความไว้ จะทำให้ผิดเงื่อนไข และโดนอายัดงินเดือน ยึดทรัพย์ได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องศาลอีกครับ

หรือจะเลื่อนนัด แล้วให้คุณอาเขียนคำให้การเพื่อซื้อเวลา เก็บเงินแบบที่พี่แก้วบอกก็ได้ครับ

แต่ยังไงก็คงยื้อไม่ได้ขนาด 3 ปี (จนผ่อนกรุงไทยหมดหรอกครับ)

ไปศาลไม่น่ากลัวจริงๆ นะครับ ไปตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า จะเลือกทางไหนครับ
1. ยื่นคำให้การเพื่อซื้อเวลาเพื่อเก็บเงิน (แต่ดอกเบี้ย จากที่ศาลตัดสินก็เดินไปด้วยนะครับ)
2. ยอมความ ผ่อนแบบขั้นบันได (เพราะยอดรวมกับกรุงไทยแล้ว น้อยกว่า การอายัดเงินเดือน และคงไม่มีใครฟ้องเพิ่มอีก)
3. ปล่อยให้อายัดเงินเดือน (และไม่มีทรัพย์สินให้ต้องเป็นห่วง เช่นผ่อนบ้าน หรือมีรถเป็นของตัวเอง)

ทรัพย์สินไม่มีค่ะ แต่เงินเดือนเยอะอยู่ ถ้าปล่อยให้อายัติ ก็คงจะืำทำอะไรไม่ได้เลย รวมทั้งผ่อนแบ๊งตราครุฑ
คิดว่าน่าจะเลือกข้อ 2 ค่ะ

แต่ใจจริงอยากยอมไปเลยตั้งแต่นัดแรก เพราะคำนวณดูแล้ว ถ้าโชคดีได้ผ่อนแบบ 36 งวด ก็น่าจะไหว รวมกับที่ผ่อนกุงไทอีก 5 งวด

เพราะถ้าไม่ยอมตอนนี้ ก็เลื่อนไปอีก 1 เดือน ก็ไม่สามารถเก็บเงินให้ทันปิดทั้งก้อนได้ เพราะเคยได้ยอดมาจากธนาคารนี้แล้วครั้งนึง ไม่ไหวค่ะ ยอดเยอะมากมาย

แต่อาจจะขอต่อรอง เริ่มจ่ายเดือนพฤศจิกายน ไม่รู้ว่าจะพอเป็นไปได้มั้ย

kaewja เขียน: เพิ่งรู้ว่า พ่อหนุ่มเจได เป็บกบจำศีลไปเสียแล้ว อนุโมทนาบุญนะ


น้องเขาไม่มีทรัพย์สินหรอกค่ะ แค่ความกลัว ความวิตกขึ้นสมอง
เพราะโดนหมายศาลแรกค่ะ

คุณ rattanad ค่ะ จำได้ไหม เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ที่คุณเริ่มตั้งกระทู้
โอโห กว่าคุณจะแกร่งกล้าต่อรองกับเขาได้ เหมือนเข็นคุณขึ้นเขา
คุณเห็นไหมกระทู้คุณนะ แฟนคลับเท่าไรแล้วค่ะ

อาจเป็นเพราะคุณไม่มั่นใจ แถมมีแหล่งข้อมูลที่เป็นทนาย เลย
2 จิต 2 ใจ พอถามโดยอ่านไม่ละเอียดก็โดนไล่ไปอ่าน เพราะ
เราที่นี่ สอนให้จับปลาเป็น ไม่ใช่จับปลามาป้อน คุณไม่เก็ตและ
นอยด์คนที่มากระทุ้งให้อ่าน จนในที่สุดคุณเรียกสติกลับมาตั้ง
หน้าสู้ใหม่ แบบที่พี่บอกว่า สาวเลือดบางระจัน คุณดูแกร่งเป้น
นกที่บินได้เอง โดยไม่ต้องมีคนคอยช่วยแล้ว ยังจำได้ไหมค่ะ

แต่ไง วันนี้ แค่เจอหมายศาลแรก ทำเอาสติเตลิดไปต่างประเทศ
หมด อ่านอะไรก็ไม่เข้าใจ ที่รู้เพราะคนที่เอาแต่ถามคนเก่าคนนั้น
กลับมาอีกแล้ว

ทุกคนเข้ามาเพื่อช่วยนำทาง แต่การตัดสินใจอยู่ที่น้องนะค่ะ ว่า
จะเลือกสิ่งไหนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดยคำนึงถึง
ปัจจัยกระเป๋าเงินเรา ความสามารถของเรา ระยะเวลาที่เราต้อง
นำมาชั่งเพื่อประกอบการพิจารณาค่ะ คุณอาบอกว่า ให้ต่อรอง
ก่อน เพราะไม่อยากให้เสียเงินค่าเขียนคำให้การแต่เนิ่นๆ และ
คุรอาอาจไม่รู้ว่า ไปทำยอมกุงไท 6 เดือนแล้ว จะยอมความ
ผ่อนอีกตัวในเวลาเดียวกัน มันคงยากอยู่ จนถึงขั้นกินเกลือ
อย่างที่บอกมา ส่วนวิธีของพี่ พี่ขอใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ถ้าคิดว่า ในอนาคต เราจบกุงไทได้ทันเวลา เพราะเราจะมี
เวลาในยื้ออย่างน้อย 3-4 เดือนขึ้นไป พอถึงเวลานั้น เมื่อจบ
จากกุงไทได้ เราก็ต่อชาวนาได้ค่ะ หรือจะให้ศาลพิพากษาไป
เลยแล้วรออายัดเงินเดือน ถ้าไม่มีปัญหาแบบน้องอนาคิน
บอกไว้ เพราะการอายัดเงินเดือนอาจช่วยจัดระเบียบหนี้
ได้นะค่ะ ถ้ามีหนี้หลายตัว และคิดว่า ไม่มีทางผ่อนหรือปิด
ได้เลย และการยอมความผ่อนไปทีละเจ้าอาจเกิน 30%
ของรายได้เราค่ะ

จะทำอะไรต้องมีแผนในใจนะค่ะ
ไปเลื่อนนัดก็ต้องมีแผนรองรับกับสิ่งที่จะเจอเช่นกันนะค่ะ

อย่าปล่อยให้ความกลัวทำลายความมั่นใจของน้องหมดสิค่ะ

หวังว่า การพักผ่อนจะช่วยให้มีสมาธิ มีสติกลับมาแล้วนะค่ะ
ไม่เช่นนั้น ทุกคนจะ เสียความรู้สึกที่ไม่สามารถนำทาง
น้องได้อีกค่ะ

คุณอาทราบจ้ะพี่แก้ว ว่าต้องผ่อนกุงไท 6 เดือน แต่พอคุณอาทราบเงินเดือน คุณอาเลยแนะนำว่า ก็ยอมไปเลยก็ได้ หรือว่า จะเลื่อนไปเดือนนึงเผื่อมีใครมาติดต่อ ให้ส่วนลด แล้วค่อยยอมก็ได้

สรุปคือ คุณอาบอกให้ยอมผ่อนจ่ายไปเลยจ้า เพราะดูจากเงินเดือนและหนี้ที่เหลืออยู่ หนูน่าจะ "เอาอยู่" จ้า

สิ่งที่ควรคิด คือ รับคำแนะนำมากลั่นกรอง ไตร่ตรอง

ว่าสิ่งไหนเหมาะกับตัวเองนะ ไม่มีใครบังคับให้ทำตามได้หรอกค่ะ

เพราะหนี้ใครก็หนี้มัน ไม่เหมือนกัน จำไว้นะค่ะ รับฟังและคิดค่ะ

ทิ้งความกังวลไปบ้าง เอาใจใส่กับงานของเราดีกว่านะ วันนัดยัง

มาไม่ถึง ยังมีเวลา



ทุกปัญหามีทางออกค่ะ มีกุญแจเปิดทุกปัญหา

อยู่ที่เราจะใช้กุญแจดอกไหนเปิดประตูไหนค่ะ Good Luck

ก็ดูดูจากทุกทางแล้ว คิดว่าจะขอผ่อนยาว 36 เดือนค่ะ น่าจะเป็นทางออกที่เจ็บตัวน้อยที่สุด ...

สาธุ พรุ่งนี้แล้ว นัดเช้าด้วย ...

rattanad เขียน: ก็ดูดูจากทุกทางแล้ว คิดว่าจะขอผ่อนยาว 36 เดือนค่ะ น่าจะเป็นทางออกที่เจ็บตัวน้อยที่สุด ...

สาธุ พรุ่งนี้แล้ว นัดเช้าด้วย ...

มาทักทาย และให้กำลังใจคุณ rattanad ค่ะ เจอกันเมื่อวันที่มาหาคุณอา ได้สนทนากันนิดหน่อย (ตอนกลับไม่ได้ร่ำลากันเลย 555) ยินดีที่ได้พูดคุยกันนะคะ

อ่านเรื่องเล่าของคุณ rattanad มาบ้างแล้ว เก่งออกค่ะ(ถ้าเป็นไข่ฯยังไม่รุ้จะทำได้รึเปล่า แฮะแฮะ) ตอนนี้คงกังวลใจเลยอาจจะทำให้จิตตกไปบ้าง แต่เชื่อจริงๆว่าถึงเวลาคุณคงเรียกความฮึดมาได้แน่นอนค่ะ ไข่ฯไม่มีอะไรจะช่วยคุณ ขอเป็นกำลังใจให้อย่างเต็มเปี่ยมแล้วกันนะค่ะ

พรุ่งนี้ขอให้โชคดีค่ะ

ลืมบอกว่า อย่าลืมพานายสติไปด้วยนะค่ะ

ขอให้น้องโชคดี...

เวลาไปศาล..มีสติให้มั่น....อย่ากังวล...ไปให้เร็วก่อนนัดหน่อย..จะได้ผ่อนคลาย....

อย่ากลัวนะ...สู้ๆ...คะ

มีกำลังใจขึ้นมาเยอะครับ หลังจากได้มารู้จักและเป็นสมาชิกกับชมรมฯ ขอบคุณทุกๆคน เดือนหน้าวันที่ 18 ได้รับหมายศาล นัดไกล่เกลี่ย ลองนำแนวทางที่พี่ๆน้องๆแนะนำไปใช้ดูครับ

กลับมาแล้วจ้า

เห็นข้อความให้กำลังจากทุกคนแล้ว ชื่นใจมากมาย ถึงว่า เมื่อวานราบรื่นมากมาก

คุณไข่กระทะ ... ตัวเองไปฉิ๊งฉ่อง เราเห็นว่าฝนจาตก ก็เลยรีบเผ่นไปก่อน คราวหน้าไปวันไหนอีก บอกเราด้วยนะ ไว้ไปเจอกัน คราวนี้ต้องจับถ่ายรูปมาลง Facebook ให้ได้ ..

ขอบคุณ พี่แก้ว พี่ลี น้ำมนต์ ที่มาอวยพรด้วยนะคะ หนูรู้ซึ้งถึงน้ำใจของพี่ที่ต้องอดทนเวลาหนูเวิ่น 555+

และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่เรารับรู้ด้วยใจ ว่าอวยพรอยู่ด้วยลึกลึก

เดี๋ยวขอไปเขียนรายงานใน word ก่อนนะคะ เดี๋ยวเอามาแปะให้อ่าน

บ้ายบาย

กลับมาแล้วจ้า กลับมาแล้ว หลังจากได้หมายศาล ธนาคารขาวนากับงูเหามาเมื่อวันที่ 20 กันยา เวลา 8.30 น.

เนื่องจากรถติดมากมาย เลยไปถึงศาลพระโขนงตอน 8.20 น.

จริงๆก็อายอายตั้งแต่เรียกแท็กซี่แล้ว เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะมองว่าเราไปเพราะโดนคดี หรือไปเยี่ยม หรือยังไง แต่ก็ไม่ได้แคร์มาก เพราะยังไงก็ต้องไปอยู่ดี พอขึ้นรถก็เลยนั่งเล่นเกมส์เรื่อยเปื่อย เพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกตุ ว่าตูเป็นจำเลย

พอไปถึงที่ศาลฯ ก็เจอ รปภ. คุณตำรวจ และประชาชนทั่วไป เค้าก็มองมาที่อิชั้น
ไม่แน่ใจว่ามองเพราะสวย หรือมองเพราะทำหน้าโง่โง่ เดิน งง งวย หาทางเข้าก็ไม่ทราบได้

พอเจอบันไดหน้าศาลฯ ก็ขาสั่นนิดหน่อย แล้วก็มองหาบอร์ด เพื่อไปยืนยันชื่อตัวเอง พอเจอปุ๊บ ก็รีบเดินเข้าประตูไป

ผ่านเครื่องตรวจอาวุธ มันก็แหกปากร้องดังลั่น คุณตำรวยเลยเรียกตรวจ ปรากฎว่าน่าจะเป็นเพราะโทรศัพท์
ระหว่างที่คุณตำรวจตรวจกระเป๋า ก็ชะเง้อมองไปทั่ว ว่าตูต้องไปทางไหน คุณตำรวจเลยถามว่า มาห้องไหนครับ
อ้าว ... ลืมดูเลย มีบอกห้องด้วยหรอวะ ก็เลยทำท่าจะยิ้มหมายขึ้นมาดู คุณตำรวจก็บอกว่า ต้องไปดูหน้าบอร์ดนะ ว่าอยู่ห้องไหน แล้วเค้าก็ยิ้มๆ เราก็เลยเดินหน้า งง ไปที่บอร์ดอีกรอบ

ห้อง 1 จ้ะ

เดินกลับมาบอกคุณตำรวจว่าได้ห้องหนึ่ง คุณตำรวจใจดี ก็ชี้ทางสว่างให้

คราวนี้เดินผ่านเครื่องตรวจอีกรอบ มันจะร้องก็ช่างหัวมันระ ก็ตูเพิ่งให้เค้าตรวจไปนี่นา เป็นอันรู้กันนะ

พอขึ้นไปที่ชั้น 3 ก็กวาดตามองไปทั่ว ห้อง 1 นี่มันอยู่ไหนวะ ก็เจอแต่ เก้าอี้ให้ทนายนั่งพัก ให้อัยการนั่งพัก แล้วเก้าอี้จำเลยอะ ไม่เห็นมีวะ

ก็เลยเดินไปถามศูนย์หน้าศาล เค้าก็ชี้ชี้ แล้วบอกทางให้ ปรากฎว่า ห้องมันแอบอยู่ข้างผนังแคบๆ ทำไมต้องแอบด้วยฟร๊ะ (คิดในใจ)

พอเดินไปที่หน้าห้อง ก็มีเก้าอี้ตัวเล็ก ยาว ให้นั่ง มันน่าหดหู่จริงๆ เพราะเก้าอี้ทนายเป็นโซฟา ทำไมเก้าอี้จำเลยมันเปนม้าไม้ หดหู่แบบนี้วะ

มีพี่คนนึงนั่งรออยู่แล้ว เค้ากำลัง จดจดจ้องๆ พอเราเดินเข้าไป คุณพี่ท่านนั้น ก็ถามเราว่า
น้องน้อง ถ่ายรูปได้มั้ยในศาลอะ พี่มาครั้งแรก อยากถ่ายรูปมากเลย เอาไว้ลงในหนังสือ

เอ่อ .. พี่คะ ... หนูก็มาครั้งแรกค่ะพี่ หนูหน้าตาดูช่ำชองขาดนั้นเลยหรือพี่ (คิดในใจ)

ว่าแล้วก็หยิบกล้องมาถ่ายรูปให้ป้าแกไป 3 รูป ทั้งใกล้ และ ไกล ครึ่งตัวเต็มตัว ป้าแกย้ำนักย้ำหนา ว่าเอาให้เห็นป้ายห้องด้วยนะ ป้ามาเบอร์ 2 เลยบอกให้ป้าชู 2 นิ้ว

หลังจากนั้น ทนายก็เริ่มทยอยมา จำเลยก็เริ่มทยอยมา แตห้องชั้น ... เงียบกริบ

ห้องไม่เปิด เจ้าหน้าที่ไม่มี ทนายไม่มา มีแต่ตู ที่เป็นจำเลย

ก็เลยเดินไปเดินมา หาที่นั่ง ระหว่างนั้นก็มีป้า 2 คนมาสมทบ พอเค้าเห็นอิชั้นเดิน งง ไป งง มา เค้าก็เรียกไปนั่งด้วย

ใช่ค่ะ .. ม้าไม้ตัวเล็กนั่นแหละ นั่งเบียดกัน 3 คน ... แม่เจ้า อิชั้นตูด 42 นิ้ว จะอัดกันยังไง ก็เลยเอาตูดไปหย่อนแป๊บนึงเป็นการรักษาน้ำใจ แล้วก็เดินจากมา เพราะเมื่อยตูด

แล้วก็เจอผู้ร่วมชะตากรรม ของ แบ้งชาวนา ก็เลยนั่งคุยกันเม้ามอย พี่เค้าโดน 4 แสน ตอนแรกให้ผ่อน 15000 บาท จากยอด 6 แสน พอผ่อนไปสักพัก พี่เค้าไม่ไหว เลยไปขอต่อเหลือ 4500 บาท ผ่อนไปได้สักพัก ก็ไม่ไหวอีก เลยปล่อยให้ฟ้อง ก็เลยได้มาเจอกัน

ระหว่างนั้น ก็เจอคุณทนายคนนึง เค้าเดินมานั่งใกล้ๆ เลยแอบถามว่ามาจากแบ้งชาวนามั้ยคะ
คุณทนายบอกว่า มาห้อง 2 คดีที่ดิน เค้าก็ถามว่าเรามาเรื่องไร ก็เล่าไปว่าบัตรเครดิต เค้าก็แนะนำมาอย่างดี
ขอไปเลย นะ
1. ลดดอก
2. ลดต้น
3. ลดทั้งต้นทั้งดอก แล้วผ่อนน้อยๆ
แต่แบ้งนี้เคื่ยวนะ มันอยากจับมันจับเลย ลูกความพี่โดนมา ฯลฯ

ระหว่างนั้น เราก็เจอพี่ผู้ชาย ผมเกรียนๆ เหมือนเพิ่งศึก เดินผ่านไปผ่านมาหลายรอบ แต่แต่งตัวเหมือนมาโดนฟ้อง เลยไม่ได้ใส่ใจ

แล้วเสมียนศาลก็มาเปิดประตู ... เย้ .. เข้าไปนั่งในห้องดีผ่า แอร์เย็นๆ ก็เลยเรียกพี่อีก 2 คน (เค้าเป็นผัวเมียกัน) เข้ามานั่งในห้องด้วยกัน เพราะข้างนอกร้อนตับแตก

นั่งปรึกษากันไปมา ปรับทุกข์กันไป เพราะของพี่เค้าเป็นคนทำธุรกิจรับเหมา โดนหลายธนาคารเลย เค้าชิล มากมาก เค้าก็ยังแอบชมเราว่า น้องใจเด็ดมาก มาคนเดียวเลย พี่ยังไม่กล้าเลย ต้องพาแฟนมาด้วย

อยากจะบอกว่า ก่อนหนูจะมาคนเดียวเนี่ย โดนศิษย์พี่ และอาจารย์ อบรมมามากมายแล้วพี่ ไม่ได้เก่งอะไรร๊อก อายคนมากกว่า ไม่ได้บอกใครว่าเป็นหนี้ต้องมาขึ้นศาล .. เคป่ะ

สักพักพี่ผู้ชายผมเกรียนคนนั้นก็เดินเข้ามา ก็เดินมาถามเรา 3 คนว่า ชื่อนี้ ชื่อนี้ใช่มั้ย
พี่ผู้หญิงก็ถามเลย ..

อ้าวพี่ มานานแล้วนี่ ทำไมไม่เข้ามาทักล่ะ ซ่อนตัวอยู่ได้ รอตั้งนานแล้ว

สบายละตู ไม่ต้องทำอะไรละ พี่เค้าจัดให้แล้ว 555+

ทนายก็บอกเลยว่า เลื่อนแล้วกันนะครับ ดีมั้ย เพราะผมไม่มีอำนาจเรื่องยอดผ่อน ธนาคารไม่ได้ให้อำนาจมาก แล้วยังไงพวกคุณก็รอการติดต่อจากเจ้าหน้าที่แล้วกัน เผื่อตกลงกันได้ เรื่องยอดผ่อน เพราะถ้าจะให้ผมโทรให้ตอนนี้ ผมก็ไม่ทราบว่าจะโทรหาใคร เพราะผมไม่ทราบว่าใครดูเลคดีของพวกคุณ เอาแบบนี้นะครับ ตกลงมั้ย

โว้ ... ทำไมง่ายอย่างงี้เนี่ย

เราก็รีบเลยค่ะ .. พี่คะ เอายาวๆเลยนะคะ ปีหน้าก็ได้ เผื่อหนูได้โบนัส

พี่ 2 ผัวเมียก็เสริมเลยค่ะ ... ใช่ใช่ เผื่อถูกหวย

แล้วทนายก็หันมายิ้มเย็นๆ ว่า “นานมากไม่ได้หรอกครับ เกรงใจศาลท่าน แต่เดี๋ยวจะดูให้แล้วกันนะครับ”
ว่าแล้วพี่ทนายก็เดินไปหาเสมียนศาล

“ยอมนะ เลื่อนนะ โอเค”

แล้วก็คุยอะไรกัน นุ้งนิ้ง แล้วก็หันมาบอกพวกเรา 3 คนว่า สะดวกวันไหนครับ

พวกเราไม่มองหน้ากันสักนิด แต่ตอบได้พร้อมเพรียงและเหมือนกันว่า “ได้ทุกวัน”

ทนายก็เลยหันมาถามว่า “งั้นวันที่ 28 พฤศจิกาได้มั้ยครับ"

โว้ โว้ โว้ ... 2 เดือน เลย ... สุดยอดอะ ได้หายใจอีก 2 เดือน เจ๋งไปเลย

แล้วพอศาลมา ทนายก็เดินไปหา และบอกว่า เลื่อนครับ ตกลงกันได้แล้ว ฯลฯ

ศาลมา 2 คน คนนึงนั่งกลาง อีกคนนั่งซ้ายมือของท่าน แต่คนนั่งซ้ายมือมาก่อน มาเคลียเอกสาร ถามนู่นนี่ พอคนนั่งกลางมาถึง ก็เซ็นต์อย่างเดียว

แล้วคนที่มาก่อนก็ถามทนายว่า เคลีย์กันได้แล้วหรอ ไม่ต้องส่งไปศูนย์ไกล่เกลี่ยหรอ
ทนายก็บอกว่า ครับ

ศาลเลยถามว่า แล้วทำไมไม่คุยกันข้างนอก จะมาฟ้องให้เสียเวลาศาลทำไม

แป่ว .... หนุป่าวนะท่าน เค้าฟ้องหนูเองนะ

แล้วศาลก็ให้เสมียนพิมพ์จดหมาย วรรคนู้นวรรคนี้ บรรทัด 2 ไม่ใช่บรรทัด 3 ฯลฯ

แล้วทนายก็เรียกเราไปเซ็นต์ แล้วก็บอกว่า กลับบ้านได้
พี่อีกคนก็เช่นกัน

ตอนที่ศาลออกมา เราก็ยืนฟังอย่างตั้งใจ จนทนายบอกว่า นั่งก่อน ไม่ต้องยืน ... แป่ววว โง่อีกตู

ก่อนเซ็นต์เอกสารไม่สืบพยาน เราก็ถามทนายว่า ต้องอ่านมั้ยคะ

ทนายก็บอกว่า อ่านหน่อยก็ดีครับ จะได้รู้

พอเซ็นต์เสร็จ ก็ถามทนายว่า มีสำเนามั้ย ต้องเก็บสำเนาเปล่า

ทนายบอกว่า สำเนาไม่ได้ครับ ศาลไม่ให้ copy

แล้วเรากับพี่อีกคนก็เดินออกมา ปรึกษากันว่า จะเอาสำเนาดีมั้ย ก็เลยบอกพี่คนนั้นไปว่า อันที่จริงหนูไม่อยากเก็บนะ พี่เค้าเลยบอกว่า งั้นกลับกันเถอะ อย่าไปเอาเลย ก็จำวันที่ก็พอ

แล้วเราทั้ง 2 ก็ทิ้งศาลออกมา พร้อมเบอร์ทนาย และทนายก็จดเบอร์พวกเราไป

เป็นอันจบการมาศาลครั้งที่ 1 ของเรา เจอกันอีกที 2 เดือนหน้าจ้า


ปล. ศาลนี้ไม่ดีเลย ไม่มีข้าวขาย เลยไม่ได้กินอะไรเลย หิวมาก

ก็ไม่ได้น่ากลัวใช่ไหมล่ะ....

batk เขียน: ก็ไม่ได้น่ากลัวใช่ไหมล่ะ....

ไม่น่ากลัวเลยจ้า แต่แอบกลัวท่านศาลนะ ทำเหมือนจะดุดุ

แต่ไปศาลไม่น่ากลัวเลยจ้า (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ)

ขอบคุณ batk นะจ๊ะ สำหรับกำลังใจจ้า

ไล่อ่านมาตั้งแต่ต้น พอ ได้นะ แต่มาตายตอนจบ
ว่จะ ไม่ติแล้วนะ

หลายครั้งที่เราบอกไว้ว่า ไปศาลนะ เขาให้เซ็นอะไร ต้องอ่านก่อนเซ็น
ดีนะ ที่เจอทนายโคตรใจดี ชี้ทางให้ ไม่งั้น คงแย่กลับมาแน่ๆ
แถมยังไปถามเขาอีก ดีไม่เจอทนายเขี้ยวลากดิน เขาคงบอก อย่า
อ่านเลย ไล่กลับทันที เคยอ่านแล้วใช่ไหมแบบนี้นะ จำไว้นะ
การขอเลื่อนนัดศาล เราต้องอ่านเอกสารที่ให้เซ็นว่า เขาระบุ
ว่าเลื่่อนนัดจริง วันที่ เวลา เท่าไร เราต้องจด ไม่มีสำเนาให้
หรอก เก็บไว้เป็นบทเรียนค่ะ ครั้งแรกที่สอบผ่าน


ก่อนเซ็นต์เอกสารไม่สืบพยาน เราก็ถามทนายว่า ต้องอ่านมั้ยคะ

ทนายก็บอกว่า อ่านหน่อยก็ดีครับ จะได้รู้

พอเซ็นต์เสร็จ ก็ถามทนายว่า มีสำเนามั้ย ต้องเก็บสำเนาเปล่า

ทนายบอกว่า สำเนาไม่ได้ครับ ศาลไม่ให้ copy

ก็ทนายเอาแต่ ชี้ ชี้ ชี้ ประมาณว่า เซ็นต์ เซ็นต์ เซ็นต์
หนูก็เลยถามซะหน่อย ว่าต้องอ่านมั้ย ... อิอิ

ว๊าวววๆๆๆ...เข้ามาให้กำลังใจคุณ rattanad ค่ะ เก่งจังเลย..เล็กก็มีแอบกัวเหมือนกัน แต่ก็ทำใจดีสู้เสือมาตั้งแต่หยุดจ่ายแล้วนี่ เสือตัวต่อไปก็อย่าเพิ่งไปคิดมาก 5555

เก่งมากค่ะ จริง ๆ แล้วเล็กไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันละ มาวันนี้ที่ได้เพราะคุณ sassygirl เค้ากระซิบมาบอกว่าไปศาลคุณน่ะ "เยี่ยม" มาก สำหรับ "มือใหม่"

เล็กก็มียอดกสิกรค่ะ แต่ไม่ถึงแสนมีส่วนลดมาให้ละ แต่ยังไม่มีตังค์ เลยต้องผ่านไปก่อน เพราะศึกครั้งนี้คงอีกยาวกว่าจะจบ

ยังงั้ยก็เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ แล้วกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ