เรื่องการเป็นหนี้ของ Titan

คือเมื่อ ปี2545 ได้ทำงานที่บริษัทที่ทำอยู่ครับ แต่ปรากฏว่ามีการรับพนักงานเพิ่มมากเพื่อทำเป้าที่เขาตั้งไว้แต่พอเป้าไม่ได้เขาก็เริ่มหมายหัวครับเอาคนออก ขณะนั้นเราก็ยังใหม่ในบริษัทครับ เราเลยโดนหมายหัวครับ ตอนนั้นยังไม่มีบัตรเครดิตครับมีแต่เงินผ่อนสินค้าของอิออน ก็ผ่อนไปไม่มีปัญหา พอเขาให้ออกจากงา เราก็ออกไปอยู่กับบริษัทที่ขายของให้บริษัทเดิมครับโดยไม่รู้ว่าบริษัทนี้การเงินไม่ดี เงินเดือนก็ออกช้าครับ เราเลยคิดว่าเอาอย่างนี้แล้วกันในเมื่อเงินบริษัทออกช้า แต่ก็ยังออกนะเลยไปทำบัตรเครดิตของอิออน(ตอนนั้นยังดีกันอยู่) ได้วงเงินมา 10,000 เราพอใจมากเลย พอต้นเดือนก็กดเงินออกมาใช้แล้วเงินเดือนออกก็เอาไปคืน พอสี่เดือนผ่านไปบริษัทที่จ่ายช้า ก็ความเร็วตกลงอีกช้าไปอีกครับ จากภายในสัปดาห์แรก เป็นสัปดาห์สองถึงสาม เราก็ไม่มีเงินคืนอิออนแล้วคราวนี้ต้องยอมจ่ายค่าปรับ ในหัวก็เริ่มหางานใหม่ครับ หาไปทำทำงานไป เราทนไม่ไหวเลยลาออกครับ ได้หนี้มาอยู่ 1X,XXX ใช้เงินเดือนเดือนสุดท้ายจ่ายหมดครับ เลยคิดจะรับงานเองครับ ทำแผ่นปิดตามเสาไฟฟ้าจะรับติดตั้งเครื่องปั้มน้ำครับขายระบบพร้อมติดตั้งว่างแผนอยู่เดือนนึ่งเพื่อดูต้นทุนทั้งหมดและกำไรควรได้เท่าไรดูเหมือนจะดี

ช่วงที่2 การเริ่มเป็นหนี้เพราะอยากทั้งหลาย
พอเริ่มทำช่วงนั้นก็เอาเงินในบัตรออกมาใช้เพื่อดำรงชีพ และกะเอาไว้ทำทุนด้วย ที่ทำงานเก่าก็เรียกเข้าไปคุย เราก็เอางานเราไปคุยเพื่อเพื่อนเก่าเขาสนใจครับ พอไปคุยนายใหญ่บริษัทก็ขอให้กลับมาทำครับ โดยเงินเดือนมากกว่าเก่าอีก ผมออกจากบริษัทนี้ไป 1ปี กลับมาเงินเดือนเพิ่มอีก 3XXX ดีใจมากเพราะหนี้คงหมดแน่และยังเหลือทำอย่างอื่นอีกครับ พอกลับมาตอนนี้ไม่อยู่ฝ่ายเทคนิคแล้ว อยู่ฝ่ายติดตั้งแทนเพราะเขารวมฝ่ายกันคือทำทั้งสองฝ่าย เราก็ไม่ว่าประสบการณ์เรามีอยู่และในบริษัทเหลือเราคนเดียวที่ติดตั้งสาขานี้ได้(มิน่าถึงเรียกตัวเรากลับ) งานบริษัททีมติดตั้งส่วนใหญ่ต้องไปหน้างานครับที่หน้างานก่อสร้างแน่นำช่างหน้างานติดตั้งอุปกรณ์ตั้งค่าระบบที่ขายไปให้ใช้งานได้ คราวนี้ออกต่างจังหวัดบ้างในกรุงเทพบ้าง แรกๆก็ไม่มีปัญหาเพราะค่ารถเบิกตามจริงครับ พอเขาเห็นค่าใช้จ่ายก็ให้ค่ารถแบบคงที่ให้เราตอนนี้เราเลยไม่สะดวกแล้วเพราะการเข้างานต้องใช้รถครับไหนจะเครื่องมือ ไหนจะของที่ไปติดอีก เราก็เล่นแท็กซีอย่างเดียวเลยวันนึงก็ 300-500 บาทครับ เพราะงานมักออกไปจากกรุงเทพมากขึ้นครับ เราเลยตัดสินใจครั้งสำคัญก็มา เราต้องซื้อรถแล้วละฮือ เลยเดินไปหาเจ้านายขอกู้บริษัท 50000 เพื่อดาวรถราคา 210,000 ได้รถมาผ่อนเดือน 5,000 ครับ กุมภาพันธ์ 2551 จะหมดแล้ว ตอนนี้เลยไปกู้ GE มันนี้ 30,000 เพื่อมาโอเวอร์ฮอร์รถทั้งคันกะเอามาทำที่เดียวให้เหมือนใหม่(ถ้ารู้ตอนนั้นเอามาว่างเครื่องใหม่ดีกว่า) ทำไปทั้งหมด 20,000 ตอนนั้นก็ทำบัตรเครดิตเพิ่ม อีก 2-3ใบ CITI HSBC UOB ตามมาเราดีใจมากยิ่งทำวงเงินยิ่งเพิ่ม (หลงระเริงโดยไม่รู้ความหายนะ)กะว่าจะใช้เติมน้ำมันและเป็นสำรองอีกสองบัตร เงินมันมีเลยมีค่าใช้จ่ายตามมา ในปลายเดือนผมได้ไปเดินห้างดังแถวถนนศรีนครินทร์ เดินผ่านร้าน Notebook เลยเขาไปดูครับ หาตัวที่มีช่องต่ออนุกรม เจอตัวที่ใช้อยู่มีรุ่นเดียวเลย ราคาก็แรงนิดนึง 5X,XXX แต่ด้วยความอยากได้(กิเลสเกิด)และความลำคราญบริษัทชอบเปลี่ยนNote Book ใหม่ให้เลยๆ(รำคาญตรงที่ต้องนั่งถ่ายข้อมูลกันเป็นวันนะครับ) เลยซื้อเป็นของเราดีกว่าจะได้บอกได้ไม่ให้เปลี่ยน เพราะของส่วนตัว ว่าแล้วก็ผ่อนกันไป ตึงมากขยับไม่ได้แล้ว แต่ก็คิดว่าเดียวอีกสองสามเดือนคงน่าจะดีขึ้น
--เดียวมีต่อครับ--

ช่วงที่3 เคราะห์กรรมสัดต่อบวกกับการไม่ประมาณตนแต่ได้ลูกมา
สุดท้ายพอเริ่มส่งไม่ไหวก็กะว่าจะกู้มาเพื่อปิดบัตร กู้คราวนี้ปิดได้แค่ใบเดียวแต่ก็ยังหมุนเงินไม่พอเลยคิดวิธีใหม่เอากดบัตรนั้นมานี้จ่ายอันนี้ วนไปทุกบัตรโดยมีเงินหลักประมาณ 7000 บาท เชื่อไหมครับ 7000ที่จ่ายไปเป็นดอกส่วนใหญ่ แล้วดวงซวยก็เกิดครับ เครื่องซักผ้าที่บ้านเสียปั้มน้ำที่บ้านเสียอีก หมดไปอีก รูดสิครับ เงินสดไม่มีนิ แล้วแฟนยังต้องกลับบ้านไปเฝ้าพ่อที่ป่วยอีก(ต้องออกจากงานครับ) ตอนนั้นยังไม่แต่งงานกันยังเป็นแฟนกันอยู่ เราเลยต้องรักษาห้องเอาไว้เพราะกลัวกลับมาแล้วไม่มีห้องอยู่ เช่าไปไม่มีใครอยู่ก็ต้องเช่าไปงานแฟนเขาลาออกแล้วด้วย ไหนต้องส่งเงินให้ใช้อีก ไม่งันอดตายครับ เราก็ไปหาบ้าง กรุงเทพยโสธร เดินทางไปกลับครั้งนึง โดนอย่าต่ำ 3XXX ไปครั้งแรกเขาเลยให้แต่งเลยครับ ไม่ต้องมีเงินแต่งเพราะพ่อแฟนเป็นพระครับเลยบอกว่าไม่รู้จะเอาสินสอดทองมันไปทำไมแม่ก็เสียแล้วเลยแค่ไหวด้วยดอกไม้ แล้วได้เมียมาครับ หลวงพ่อก็เสียในปีต่อมาช่วงนั้นขึ้นลงยโสธรบ่อยมากครับ ไอ้เราก็ไม่กล้าบอกแฟนว่ามีหนี้ครับ หลังจากนั้นการหมุนจ่ายหนี้ก็ทำยากขึ้นครับเพราะเงินต้นที่ใช้ไปมันมากอยู่ ไอ้ 7000 ที่มีก็จิ๊บๆๆเลย หมุนไม่ทัน เราเลยขอความช่วยเหลือจากบริษัทครับ กู้ 200,000 กะเอามาปิดบัตร แต่เอาจริงปิดได้แค่ สองใบครับเลยเอาอีก160,000 แต่เงินทั้งสองยอดที่ได้ไม่ใช้ของบริษัทครับเป็นนอกระบบครับ(เงินเจ้านายเองเลย) เงิน200,000ให้ส่งแต่ดอกครับถ้ายากปิดให้ปิดที่ละแสนครับ ดอกคิด 12% ต่อปี 160,000 ให้ส่งเดือน 4000 ต่อเดือน(เจ้านายกู้ธนาคารให้) ตอนนั้นเราก็อายเจ้านายอยู่คือบอกเขาไม่หมดว่ามีหนี้ทั้งหมดเท่าไรบอกไปโดยคิดว่าถ้าได้เงินปิดบัตรแล้วรวมหนี้แล้วจ่ายลดลงเราจะรอด (รอดแบบห้ามป่วยรถห้ามเสีย) แต่เรื่องก็เกิดอีกครับรถชน หน้ารถยับเลย ต้องทำรถอีกหลายหมื่นครับ คราวนี้ไม่กล้าเข้าหาเจ้านายแล้ว คิดมากทุกวันว่าจะรักษาเครดิตไว้อย่างไรดี กู้ซิเอามามากๆแต่ให้ผ่อนน้อยแต่นาน เงินมันมากครับแต่เงินอยู่กับเราแล้วจ่ายไปได้ประมาณ 3 เดือนก็เข้าสู่สภาวะเดิมคราวนี้เครียดถึงกับนอนไม่หลับเลย คิดอยู่คนเดียว หลังๆก็เล่าให้แฟนฟังแฟนตกใจแต่ก็ช่วยเราไม่ได้เพราะ เธอกำลังตั้งท้องครับ คราวนี้เราเครียดหนักเรื่องลูกถ้าคลอดออกมาใครจะดูแลเงินที่ต้องหาเพื่อคลอดลูก ไหนแฟนเครียดเรื่องห้องพักคับแคบ เพราะเขาต้องอยู่ห้องตลอดครับ เลยย้ายอพาทเมนท์ใหม่ราคาสูงขึ้น 2000 บาทเพื่อแฟนและลูกในอนาคตยอมหน่อย ไอ้ตัวเล็กจะคลอดแล้วที่นี้ทำไง เลยตัดสินใจครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่สร้างอีก กู้ ควิกแคช 40000 ในเดือนนั้น จากการนอนไม่หลับตื่นที่ไรคิดเรื่องหนี้ทุกที่ จนหลับแบบไม่เป็นเวลาคือ กลับจากทำงานมาต้องนอนก่อน แล้วตื่นมาค่อยกินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ บางวันนอนยาวยั้งเช่า บางครั้งตื่นมาแล้วก็ไม่หลับเพราะมัวคิดอยู่นั้น และ
--เดียวมีต่อครับ--

ช่วงที่4 พบแสงสว่างเพราะพรมลิขิต
วันนึงสะดุงตื่นมาตอนดึกไม่รู้กี่โมง เราก็เหมือนเดิมคิดอีก เลยตัดสินใจเปิดทีวีเพื่อให้ดูแล้วหลับ กดรีโมทไปมา หัวก็คิดเรื่องหนี้ไป พอดี เห็นรายการหนึ่งจำไม่ได้ว่า ช่องอะไร มีการรายงานเกี่ยวกับหนี้เราเลยตาแป้วเลย เหมือนฟ้ามาโปรด มัวดีใจไม่ได้เตรียมปากกาหรือจดอะไรเลย จำได้แม้เลย ชมรมบัตนเครดิตและหนี้อะไรนี้และ ตอนเช่ารุ่งขึ้นเลยทำการค้นหาทาง ยะฮู....... พิมพ์หนี้บัตรเครดิต และหาชมรมเจอ คราวนี้ก็อ่านๆๆ และก็อ่าน อยากรู้อะไร ดูหัวข้อเกี่ยวข้องก็อ่านๆ ครับ ตอนแรกสงสัยเหมือนกันว่าแก้ได้จริงไหมเราก็จบวิศวะมาต้องพิสูทธครับ เปิดข้อกฎหมายดูอ่านกระทู้ไปเปิดข้อกฎหมายตามว่ากระทู้ตอบกันอย่างไรกฎหมายว่าอย่างไรควบคู้กันไป(ผมใช้กฎหมายจากเน็ตครับ) ตอนแรกค้นหากฎหมายจากยะฮู......แต่พอคุณคนเลวของBANK ตอบกระทู้นึงว่ามีเว็บที่เกี่ยวกับกฎหมาย เลยใช้เว็บนั้นมาตลอดครับ จากคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านกฎหมายเพราะต้องทำความเขาใจจากภาษาไทยเป็นไทย แต่คราวนี้อ่านมันเกือบหมดครับ(เฉพาะเกี่ยวกับหนี้)ทั้งอาญาและแพ่ง ประกอบกับอาทิตย์นั้นเป็นอาทิตย์เปิดตัวชมรมเราเลยไปดูกะว่าจะถามๆๆเพื่อหาทางรอดของตนเองครับ จากวันนั้น ท่านที่ปรึกษาของชมรมพูดเพียงว่า ผมนะไม่กี่ปีก็ตายแล้วแต่ที่ต้องทำเพราะพวกที่เป็นหนี้คือกำลังของชาติทำให้พัฒนา เราเลยคิดว่าถ้าเราช่วยเหลืออะไรชมรมได้เราจะช่วย(ในความคิดอีกเราไม่มีตัง) ฟังเสวนาวันนั้นได้ความรู้มาครับ แถมยังมีข้าวกินฟรีอีกวันนั้นเราเลยได้หนังสือกลับไปอ่านหลายเล่มครับและยังไขปัญหาที่เราไม่รู้ให้หมดไปด้วยจากการตอบของวิทยากรแต่ละท่าน คราวนี้ไม่นอนครับอ่านหนังสือที่ให้มาและที่ซื้อเองอีกเล่ม วันเดียวอ่านหมด อ่านสองรอบด้วย วันจันทร์เลยสมัครสมาชิกชมรมเลยครับเขาไปถามเขาบางอาศัยกระทู้ท่านอื่นในการตั้งคำถาม พอกระจ่างก็ตอบเท่าที่เรารู้ครับตอนแรกหลังๆชักอยากรู้เพิ่มจากที่เพื่อนสมาชิกถามแต่ไม่มีใครมาตอบ(ตอบช้าไม่ทันใจ)เลยค้นหาเองครับจากเครื่องมือที่เรามีอยู่ แล้วมาตอบ กลัวผิดเหมือนกัน แต่พอดูไปทุกกระทู้ถ้าเป็นประเด็นที่ไม่เคยมีมาก่อนพวกกรรมการชมรมหรือพวกรู้กฎหมายอย่างลึกซึ้งจะมาตอบด้วยเลยกล้าตอบไปครับ การจอบกระทู้ในความคิดของผมคือ เมื่อเพื่อนสมาชิกเราไม่มีทางออกเหมือนคนอยู่ใยความมืดครับ ผมมันแค่แสงเทียนส่องให้เขาเห็นทางที่ต้องมาครับ ไม่เหมือนพวกเชียวชาญกฎหมายเสมือนไฟส่องทางครับมาที่เห็นหมดว่ามีอะไรมีบ้าง แต่ในขณะนั้นเพียงแสงเทียนก็สามารถให้คนมีกำลังใจที่จะเดินครับ เพราะกลัวเพื่อนสมาชิกคิดสันเหมือนกันเลยตอบเพื่อดึงสติก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญมาตอบ
จบการสร้างหนี้แต่เหลือการใช้หนี้แล้ว ผมอ่านกระทู้ไปจนสามเดือนแล้วจึงตัดสิ้นใจใช้ Second way out รอดำเนินการทางศาลอย่างเดียว ยกเว้นหนี้ของเจ้านาย 4000+2000ต่อเดือน หนี้รถอีก 5000ต่อเดือน บัตรไทยพาณิชย์จ่ายไปรูดต่อหยุดไม่ได้เพราะเงินเดือนเป็นไทยพาณิชย์เหมือนกันครับ เดียวหมดตัวครับและก็จบสำหรับตำนานการสร้างหนี้ของ Titan

ตอนนี้เหลือ
Citi Bank 54000 จากยอด 47000 ศาลสั่งจ่าย 6400+ดอกเบี้ย7.5%
HSBC 57211 จากยอด 56000 ยอดฟ้อง58,XXX ปิดแล้ว 33000
KTC 23000 จากยอด 20000
Aeon 50000 จากยอด 3X,XXX
OK 29600 จากยอด 20500
GE 19000 จากยอด 13000
อีซี่บาย 5X,XXX จากยอด 50,000
ไทยธนาคาร 54000 จากยอด 50000
ไทยธนาคาร 30000 จากยอด 28000
ของภรรยา 47000 Quick Cash กู้เพื่อเตรียมเงินคลอดลูกครับ ตอนนี้ไม่ทราบยอดครับ
หนี้เจ้านายกู้เพื่อดาวรถ 50000 มีค่อยจ่าย
หนี้เจ้านาย 130,000 เข้ากู้ให้ จ่าย เดือน 4000
หนี้เจ้านาย 200,000 เขาเอาเงินเก็บมาปล่อยกินดอก ร12% จ่ายเดือน 2000
หนี้รถ อีก35000 จ่ายเดือน 5000

แผนของผมคือ ต้นปีหนี้รถจะหมดครับ ผมจะเหลือเงิน 4000 บาท 1000 ให้ภรรยาไว้ใช้ตอนนี้ใช้เงินแบบประหยัดสุดครับ
ที่แรกคงเป็น Citibank เพราะฟ้องมาแล้วทนายจะดึงเกมไปจนถึงต้นปีครับ
ที่สองคงเป็น GE กะต่อให้ได้ 10,000 แล้วปิดบัญชีครับ
ที่สามคงเป็น KTC ถ้ามันไม่ฟ้องเพราะมันขู่ในลำคออยู่ คงต่อเหลือ 15000
ที่สี่คงต้องใช้หนี้เจ้านายที่ยืมมาดาวรถครับ
Aeon,อีซี่บาย,HSBC,ไทยธนาคารคงปล่อยฟ้องครับเพราะพูดไม่ดี ผมก็ดึงให้มากที่สุด

ปัจจุบัน
โดนอายัดเงินเดือน เพราะทำอย่างือ่นผมไม่ได้ครับ
แต่ผมไม่เดือดร้อนเพราะเตรียมตัวมานานแล้ว ครับ
อยู่รอดแบบไม่ลำบาก เพราะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรมากครับ

ดีใจกับน้องคนนี้ด้วย ที่ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมาได้ขนาดนี้
ถึงจะยื่นใบลาออกจากกรรมการแล้ว แต่ อย่าทิ้งกันไปไหน
กลับมาช่วยสมาชิกใหม่ๆ ให้มีกำลังใจว่า เส้นทาง Second watout หักดิบหนี้ ของชมรมฯ ได้ผลจริง
ข้อมูลเก่าๆ ถ้ายังเก็บไว้ ส่งมาให้พี่บัวด้วยนะ...
คิดถึงเสมอจ๊ะ

เออ...ทำไมฉันต้องเป็นพี่คนทั้งบอร์ดด้วยฟร่ะ...แกเป็นกรรมการรุ่นเก่ากว่าฉัน แต่เรียกฉันว่า "พี่"
งงฟุ้ย...

ทำไมคุณ TItan ถึงได้โดนฟ้องหมดเลยอะคะ เท่าที่อ่านมาทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืน เหมือนแต่ละคนก็ผ่านไปได้ด้วยดี บางที่ลดหนี้ให้ บางที่ก็เลิกทวง ทำไมของคุณ TItan ถึงได้โดนหนักจากทุกสถาบันการเงินเลยอะคะ

เราก็ติดหนี้ HSBC อยู่เหมือนกัน กะว่าเงินเดือนออกศุกร์นี้จะทะยอยผ่อนจ่าย

ตอนแรกเค้าโทรมาทวงอยู่ดีดี วันนี้เงียบไปแล้วอะค่ะ

หรือว่าเค้าเตรียมฟ้องอะคะ

การโดนฟ้องเร็ว ฟ้องช้า หรือไม่โดนฟ้องดูของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
จากข้อสันนิษฐานของผมเองมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- นโยบายของเจ้าหนี้แต่ละที่ และแต่ละช่วงเวลา
- ยอดหนี้
- สนง.ทวงหนี้ที่ดูแลบัญชีของเรา
- ปัญหาของลูกหนี้แต่ละคนเอง
ถ้าอธิบายคงยาว
ของผมก็โดนฟ้องเกือบครบทุกรายเลยนะ
ตอนนี้ขาดแค่อิอ้อนเจ้าเดียวที่ยังไม่ฟ้อง

เอาเป็นว่า เป็นหนทางของผมครับ วิถีแบบที่ผมเลือกที่จะให้เป็นครับ แบบเราไม่เดือดร้อนมากเดินไปได้ก็เดินไปครับ

เสียดายข้อมูลในบอร์ดส้ม มีวิธีดึงกลับมาไหมเนี้ย??
เมื่อคืนฉันทำงานจนถึงตีสอง ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า เลยแกเอ๋ย...

เมื่อพฤศจิกายน 2554ผมผมโดน CIMB อายัดเงินเดือนครับ ฟ้องไปเกือบ 5ปีผึ่งมาอายัดโดนไป5เดือนแล้วจบ พึ่งรู้ว่าค่าธรรมเนียมการอายัดคือ 2%ของเงินอายัดครับเราต้องจ่ายครับ ปิดหนี้ไปอีกตัวแล้ว ปีนี้คงโดนเจ้าเดิมเล่นอีกเพระเหลืออีกหนึ่งบัญชี ครับ ตอนโดนอายัดก็โดนแค่เงินเดือนครับเพราะบริษัทเขาไม่สนเรื่องรายได้อื่นๆส่งแต่เงินเดือนที่เหลือเอาเข้าบัญชีครับ ดังนั้นถ้าบริษัทจะช่วยเราเขาทำได้ครับไม่โดนหลอก OT นะโบนัสก็เหมือนกันครับแล้วแต่ว่าจะทำหรือไม่เพราะเข้าไม่ได้ส่งรายได้อื่นให้กรมบังคับคดีดูครับ
นานๆมาที่ได้ยศพลตรีก็ดีครับ

ขอบคุณครับ ผมก็กำลังรอให้ฟ้องเพื่อบังคับคดีเหมือนกันครับ
แต่ไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่เพราะพึ่งจะเริ่มหยุดได้งวดเดียวเองครับ
ตอนนี้ก็รับโทรศัพท์ทวงหนี้ทุกวัน แต่แปลกเมื่อวานไม่มีโทรมาซักสายเลย

เอาเป็นว่าเป็นทางเดินที่ผมเลือกเอาไว้แต่แรกครับ พูดง่ายเข้าทางผมครับ

rattanad เขียน: ทำไมคุณ TItan ถึงได้โดนฟ้องหมดเลยอะคะ เท่าที่อ่านมาทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืน เหมือนแต่ละคนก็ผ่านไปได้ด้วยดี บางที่ลดหนี้ให้ บางที่ก็เลิกทวง ทำไมของคุณ TItan ถึงได้โดนหนักจากทุกสถาบันการเงินเลยอะคะ

เราก็ติดหนี้ HSBC อยู่เหมือนกัน กะว่าเงินเดือนออกศุกร์นี้จะทะยอยผ่อนจ่าย

ตอนแรกเค้าโทรมาทวงอยู่ดีดี วันนี้เงียบไปแล้วอะค่ะ

หรือว่าเค้าเตรียมฟ้องอะคะ

อดทนครับอย่าได้ประมาทเลยผมใช้เวลาถึง 5ปีถึงจะถูกอายัดเงินเดือนครับ
ตอนโดนอายัดเงินตอนแรกก็คิดว่าจะเอาไงดี นึกได้ทำบัญชีก่อนเลยว่าพอกินไหม ปรากฎว่าพอกินก็เป็นอันจบไป นายจ้างยังถามอีกว่าปิดให้ไหม เราบอกไปเดียวมันมาอีกเจ้าละจะผ่อนไมไหว ไว้รออีกเจ้ามาคราวนี้ พี่ได้ออกโรงแน่นเพราะหนี้ เกือบแสนครับ

prapapan เขียน: ขอบคุณครับ ผมก็กำลังรอให้ฟ้องเพื่อบังคับคดีเหมือนกันครับ
แต่ไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่เพราะพึ่งจะเริ่มหยุดได้งวดเดียวเองครับ
ตอนนี้ก็รับโทรศัพท์ทวงหนี้ทุกวัน แต่แปลกเมื่อวานไม่มีโทรมาซักสายเลย

rattanad เขียน: ทำไมคุณ TItan ถึงได้โดนฟ้องหมดเลยอะคะ เท่าที่อ่านมาทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืน เหมือนแต่ละคนก็ผ่านไปได้ด้วยดี บางที่ลดหนี้ให้ บางที่ก็เลิกทวง ทำไมของคุณ TItan ถึงได้โดนหนักจากทุกสถาบันการเงินเลยอะคะ

เราก็ติดหนี้ HSBC อยู่เหมือนกัน กะว่าเงินเดือนออกศุกร์นี้จะทะยอยผ่อนจ่าย

ตอนแรกเค้าโทรมาทวงอยู่ดีดี วันนี้เงียบไปแล้วอะค่ะ

หรือว่าเค้าเตรียมฟ้องอะคะ

ผมว่านะ...มันอยู่ที่การประเมิณตัวเองตั้งแต่แรก และการเลือกทางเดินของแต่ละคนครับ....

บางคนรายรับเยอะ...อาจจะเลือกที่จะแฮร์คัทให้หมด เป็นทางเลือกที่เจ็บตัวน้อยที่สุด

บางคนรายได้น้อย...ก็อาจจะเลือกทางเดินแบบคุณไททั่น...เคลียร์ตัวเอง แล้วปล่อยให้อายัดเงินเดือน

บางคนรายได้เยอะ...แต่ก็อาจเลือกวิธีอายัดเงินเดือนก็เป็นไปได้....

แต่บางคน ก็อาจเลือกใช้วิธีทารุณเจ้าหนี้ ทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง ได้แต่รอ และรอ...เหมือนใครน๊า...

.

กรูอยากจะร้องไห้แทนเจ้าหนี้...

.

แหมกระทู้นี้ก็ดีนะเนี้ย
UP