เป็นหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อรวม 7 บัตร ปิดได้5บัตร เหลือ 2บัตรค่ะ

ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อทั้งหมดยอดประมาณ 55X,xxx บาท กับทั้งหมด 7 บัตรด้วยกัน ตอนนั้นเครียดมาก เพราะจ่ายขึ้นต่ำไม่ไหวละ เลยได้เข้ามากระทู้ๆต่างๆในบ้านหลังนี้ จนตัดสินใจหยุดจ่าย
5 บัตร เมื่อเดือน มิ.ย. 62
และจ่ายแค่2บัตร ของ TMB เพราะกู้บ้านกับเค้ากลัวจะมีปัญหาค่ะ
รายการหนี้ประมาณนี้ค่ะ
1.บัตรเครดิตซิตี้แบงค์ยอดประมาณ 39,xxxบาท หยุดจ่าย มิ.ย.63 ทวงหนักมาก โทรไม่รับ คือโทรจิกทั้งวันจนแบตหมด ดิฉันจะรับเสมอถ้าเห็นเบอร์โทรเข้ามา แต่ช่วงหลังๆก็รับบ้างไม่รับบ้าง ตอนประมาณ ธ.ค.62 เสนอปิดHCมาที่ยอด 24,000฿ งวดเดียวก็เลยปิดไปเพราะมีเงินเก็บถึงพอดีค่ะ
2. บัตรซิตี้เรดดี้เครดิต ยอด 76,xxxบาท หยุดจ่าย มิ.ย.62 เหมือนกันค่ะ โทรจิกหนักมากเช่นกัน อันนี้ขู่ว่าจะฟ้องตอนเดือน ม.ค.63 ก็เลยเจรจาให้เราเข้าโปรแกรมผ่อนสบาย เดือนละ 1,800฿ ลดดอกเบี้ยให้เหลือ 6%ต่อปี และระยะแค่ 12 เดือน เพื่อจะยกเลิกเรื่องฟ้องไป ในขณะที่จ่าย1,800฿ ก็โทรมาตลอดบ่อยมากว่าจะมีโปรให้ส่วนลด 40% จนต้องบอกไปว่าถ้าเข้าโปรแกรมละยังโทรมาบ่อยขนาดนี้ จะไม่รับแล้วนะคะ ถ้ามีดิฉันจะโทรไปเอง เค้าก็ขอโทษกลับมาถือว่ายังมีมารยาทค่ะ ก็จ่ายไป2เดือนค่ะ เข้าเดือนที่3 เก็บเงินได้ ก็เลยโทรไปขอส่วนลด HCได้มาที่ 46,xxxบาท จ่ายงวดเดียวเรียบร้อยค่ะ
3. บัตรสินเชื่อซิตี้Advance ยอดอยู่ที่ 99,xxxบาท อันนี้น่าจะโทรมาช่วงเข้าไลน์ผลิตซึ่งใช้โทรศัพท์ไม่ได้ มาทวงถึงบ้านค่ะ มาแบบสุภาพ พูดเบาๆเสนอให้เข้าโปรแกรมปรับโครงสร้างหนี้ เราไม่มีตังเลยบอกว่าปล่อยไปตามกระบวนการทางกฎหมายเลย ก็ทวงๆไปเรื่อยๆค่ะ และเราก็ได้รับสายจาก จนท. เรื่องส่วนลดว่าได้48,000฿ เราไหวไหม เราบอกไม่มีปัญญาค่ะ ขนาดจะหาใช้ยังไม่ค่อยมี ซักพักโทรมาใหม่ให้ที่ 45,000฿ จ่าย 3งวด เราเลยคุยกับที่บ้านเพราะเค้าจะเอางวดแรกเลยช่วง 30 ธ.ค.62 15,000฿ คือไม่มีเลยแต่ที่บ้านช่วย เลยตกลงจ่ายแบบส่วนลด 3 งวดค่ะ (งวดแรกที่บ้านช่วย งวด 2&3 เราจ่ายเองค่ะ เพิ่งจ่ายงวดสุดท้ายไปเมื่อ 21 ก.พ.63ค่ะ) ปิดไปได้อีก 1 ใบ
4. บัตร Tesco visa ค่ะยอดอยู่ที่ 112,xxxบาท (เราจำได้ว่าเมื่อธ.ค. 62 เงินต้น+ดอกเบี้ยยอดอยู่ที่ 109,151฿ เสนอให้เราปิดที่ยอด 56,000฿ งวดเดียว แต่ตอนนั้นไม่มีตังเสียดายมากๆค่ะ)  ต้นเดือน ก.พ.63 โทรมาว่าทำเรื่องฟ้องแล้วเดี๋ยวจะมีหมายศาลมา ที่ยอดนี้ เราก็เลยถามว่าแล้วทำไรได้มั่ง เค้าบอกว่าปิดHCได้ที่ยอด 80,000฿ เราก็เถียงๆๆ สุดพลังว่ายอดที่เคยให้ปิดยอดเดิมแค่ 56,000฿ อะไรจะแพงขึ้นขนาดนั้น จนท พูดจาไม่เพราะอย่างแรง คือว่าเราเป็นหนี้ลดให้ขนาดนี้ก็ดีแค่ไหน เราก็พูดกลับไปค่อนข้างดีว่าเราไม่ได้หนีแค่ยังไม่มีจ่าย เราอยากได้ส่วนลดที่มากกว่านี้ ถ้าไหวจะจ่ายให้เลย จนท ก็ยืนยันว่าไม่ได้ๆๆ เราเลยบอกว่า งั้นขึ้นศาลได้ค่ะพักร้อนเยอะ เค้าก็เริ่มพยายามถามว่าไหวที่เท่าไหร่ เราบอกไม่เกิน 70,000฿ ก็ดึงเกมส์บอกนายไม่อนุมัติ อนุมัติที่ยอด 75,000฿ เท่านั้น เราเลยบอกไม่เป็นไร ไปเช็คมาใหม่ ถ้าได้ 70,000฿ คือจ่ายให้ได้เลย ภายใน2 วัน และเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ก็โทรมาบอกอนุมัติที่ 7หมื่นให้ไปจ่ายได้เลย จ่ายเสร็จให้โทรไปแจ้ง เราจ่ายที่ธนาคารกรุงศรีเสร็จก็โทรไปแจ้งและเค้าบอกจะส่งหนังสือปิดให้ภายใน 45วัน จบไปอีก1 บัตรค่ะ
5. บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยอดอยู่ที่ 75,xxxบาท สำนักงานกฎหมายโทรมาเจรจาดีมากเมื่อตอนสิ้นเดือน ธ.ค. 62 บอกว่าจ่ายดีมาตลอด ติดปัญหาอะไร และก็เสนอส่วนลด HCมาให้ที่ยอด 40,000฿ ค่ะโดยให้แบ่งจ่ายทุกเดือน งวดละ 5,000฿ 8 งวด ตอนนี้จ่ายไป 2 งวดแล้วค่ะ ของเดือน ม.ค. และ ก.พ. 63 โดยก่อนวันจ่ายประมาณ10วันจะมีเจ้าหน้าที่คนเดิมที่เสนอส่วนลดให้เราโทรมาเตือนการจ่าย ถือว่าเค้าก็ยังน่ารักกับเราค่ะ
6. บัตรเครดิต TMB นี่ยังไม่ได้ขอส่วนลดค่ะ หยุดจ่ายมา 3 เดือน  ตอน พ.ย.62 จนตอนนี้ค่ะ จะเข้าเดือนที่4 เพิ่งหยุดจ่ายทีหลังเพื่อน เพราะเรากู้บ้านกับเค้าเลยกลัวจะมีปัญหา จนท โทรมาบ้างไม่บ่อยมาก ก็โทรมาให้ชำระขั้นต่ำ และถามจะจ่ายเมื่อไหร่ ตอนนี้คือจ่ายบัตรอื่นๆ จนเงินเก็บไม่พอจะจ่ายละค่ะ เลยรอให้ตัวเองเก็บเงินอีกสักพัก เพราะเค้าว่ากันว่าส่วนลดน้อย และโหดอยู่ จะพยายามรับสายทุกสายมจาก จนท และจะเก็บเงินให้มากที่สุดค่ะ
7. บัตรสินเชื่อ TMB ยอดประมาณ 7x,xxxบาทค่ะ นานๆโทรมาเหมือนกัน แต่ จนท พูดไม่ค่อยเพราะ ตอนนี้ก็หยุดมา 3 เดือน เข้า 4 เดือนค่ะ พยายามเก็บเงินและจะขอส่วนลดค่ะ 
ตอนนี้ก็มีหนังสือจากธนาคารมาทุกเดือนแจ้งยอดที่ต้องจ่ายค่ะ 

เหลือ 2 บัตรของ TMB แล้วค่ะจะพยายามรีบปิดให้ครบ จะได้ไม่มีหนี้กวนใจ  สาเหตุที่หาเงินไม่ทันจ่ายเพราะเหตุจากคุณแม่เสีย และเดือนต่อมาคุณย่าเสีย ซึ่งตอนนั้นรับผิดชอบทั้ง2 งานแทบจะคนเดียว 100% ค่ะ ก็เลยกดเงิน ใช้เงินจากทุกบัตรจนไม่มีปัญญาจะจ่าย ญาติๆ และพี่ๆ ก็ผลักภาระมาที่เราบอกเราน่าจะจัดการได้พวกเขาไม่มีตัง เราเงินเดือนเยอะสุด แต่ไม่มีใครรู้ว่าเราก็เพิ่งจะถูกงด OTกินแค่เงินเดือนล้วนๆ ก็เลยเข้าตาจนค่ะ แต่ก็ทำหน้าที่ลูก และหลานได้ดีมากๆ แล้ว เนื่องจากคุณแม่ไม่ได้ทำงานอะไรเลย และไม่มีประกันเลย(แยกบ้านกันอยู่ตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ) และคุณย่าก็ไม่มีประกันอะไรเช่นกันมีแค่ค่าช่วยงานศพจากหมู่บ้าน  
จากข้อมูลนี้ของดิฉันน่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ ใครที่กำลังเครียดสู้ๆ กันต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ