ชีวิตหนี้ของคุณ Badman หรือ คนเลวของ Bank (กรรมการชมรมรุ่นแรก)

เรื่องเล่าชาวหนี้ :ชีวิตหนี้ของตัวเอง ตอนที่ 1

เดิมทีผมก็เป็นคนๆหนึ่ง ที่พอมีพอกิน ตอนนั้นเงินเดือน 7500.- ก็ทำบัตรใบแรกในชีวิตคือ KTC ทำงานบริษัททำเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น ส่งตามห้างสรรพสินค้า ทำงานดีจนปรับให้เป็น 8000.- ทำเรื่อยๆ อีก 1 ปี หุ้นส่วนเกิดแตกมีปัญหาภายในชาวญี่ปุ่นถอนหุ้น เจ้านายท่านนี้ใจดีมีคุณธรรม ถือหุ้นหลายบริษัทใหญ่ๆ บอกไปก็ร้องอ๋อ กับเจ้าของประโยคคลาสสิคตลอดกาล ไม่มี...ไม่หนี....ไม่จ่าย...ไม่โกง
สอนอะไรให้ผมมากมายเช่น
1. การใช้ชีวิตหลายเรื่อง
2. การใช้บัตรพลาสติก
3. ทักษะการต่อรองกับเจ้าหนี้แบบมีชั้นเชิง คุยไม่รู้เรื่องบุกไปหาถึงที่
4. การยื้อ เตะถ่วง ดึงเรื่องต่างๆ
5. การตีทรัพย์สินใช้เจ้าหนี้
6. สุดยอดไม้ตายก้น***บ การเจรจาชำระหนี้แบบมีส่วนลดปิดบัญชี(Hair Cut) ซึ่งมาดัดแปลง+ต่อยอดมาใช้ในการปิดบัญชีหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อในปัจจุบัน

ท่านไม่เคยสอนให้คดโกงเจ้าหนี้ แต่สอนให้มีชีวิตรอดกับสภาวะล้มละลายเป็นหนี้นับพันล้านบาท ให้เหลือชีวิตรอดให้ได้ อย่าใช้หนี้จนไม่มีจะกินเด็ดขาด

ต่อมาได้งานใหม่ใกล้บ้านทำหลายอย่างเจ้านายก็ดีก็ได้รถมาขับคันหนึ่ง ก็ใช้บัตรเติมน้ำมันก็ดี ใช้เหมือนเดิมคือใช้เท่าไหร่ก็สิ้นเดือนจ่ายหมดไม่มียอดค้าง ชีวิตการทำงานก็ลุ่มๆดอนๆ แต่มีบางสิ่งที่ผมต้องเป็นหนี้ล้นพ้นตัวคืออะไร? มาแบบไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้ใช้แสตนด์อิน ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษ เจ็บจริง

-ติตตามตอนต่อไป-

เคยโพสต์ไว้ในบอร์ดเก่า (สีส้ม) เมื่อ 22/08/2007 04:48 PM

ตอนที่ 2

ที่ทำงานเก่าเลิกไปแล้ว กราบลาเจ้านายเก่า ต่อมาไม่ถึง 1 อาทิตย์ได้งานใหม่ใกล้บ้านเป็นขายเครื่องจักร เจ้านายก็ดี ได้รถมาขับคันหนึ่งแต่ต้องซ่อมเพื่อให้วิ่งได้ก่อน ก็ใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมันก็ดี ใช้เหมือนเดิมคือใช้เท่าไหร่ก็สิ้นเดือนจ่ายหมดไม่มียอดค้าง

รถก็ขับไปซ่อมไปอะไรทำได้ก็ทำไปก่อน เอาพอวิ่งๆได้
พื้นฐานชอบรถยนต์เป็นทุนเดิม มีเพื่อนหลายวงการก็มีทีมแต่งรถของตนเองที่ช่วยก่อตั้งขึ้นมามีรถในทีม 50 คัน ก็มีช่องทางเช่นรับจัดหาอะไหล่รถยนต์เก่า จัดหาอะไหล่แล้วบวกกำไร พอมีเงินจ่ายหนี้บัตรเครดิต

บัตรที่ 2 เริ่มมีตอนเดินไปห้างเซ็นทรัลก็เอาสลิปของบัตรเครดิต KTC
มาสมัครได้อนุมัติเร็วเหลือเชื่อ ภูมิใจกับมันมากว่ากรูมีบัตร 2 ใบ...เท่ห์
โคตรๆ ก็ยังไหวอยู่

คราวนี้เมื่อมีทีมรถก็ต้องแข่งรถตอนกลางคืนผมขอเรียกว่า
"ซัดรถ" บนถนนตอนกลางคืน ก็มีจับเช็งเล่นพนันขันต่อทำรถกับเพื่อน
แล้วเอามาแข่งกันบนถนนกิ่งแก้ว เพื่อนออกค่าทำเครื่องผมขับแข่ง+เติมน้ำมันให้ มีเดิมพันหลักหมื่นไปถึงหลักแสนบาทต่อคืน ชนะหาร 2 ก็มีรายได้ดี แต่สิ่งที่พบทุกคืนคืออุบัติเหตุที่สยองเกือบทุกคืน ยอมรับว่าสนุกมาก
และแข่งจนชนะแต่เครื่องพังคาทีนตอนเข้าเส้นชัยไปแล้วก็มี เพราะอยากเอาชนะ เพราะแพ้ก็เสียเยอะ เครื่องยนต์เซ็ตเทอร์โบคู่เซ็ตให้ทำงานทีละลูกบูสต์ปกติ 1.2 Bar ผมบ้ามาก+หน้ามืดปรับบูสต์เพิ่มเป็น 1.5 Bar
ตอนใกล้เส้นชัยอีก 1 ก.ม. เหยียบลืมตาย ชนะแบบเฉียดฉิว ได้เงินมาแต่ไม่คุ้ม เพราะต้องซ่อมเครื่องไปพอสมควร

แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คืออุบัติเหตุทางถนนมีรถพุ่งชนท้ายชนท้ายรถผมอย่าง จัง มีผมกับคุณพ่อนั่งไป ชนอัดรถผมติดของทาง ตัวผมขาหักพ่อผมสาหัสตอนหลังเป็นเจ้าชายนิทรา คนที่ชนผมก็ฆ่าตัวตายในคุกไปแล้วและต้องใช้เงินรักษาตัว 2 แสนบาทผมกู้แหลกเพื่อรักษาตัวและชีวิตเอาไว้ ทำสินเชื่อของ KTC อิออน แคปปิตอล โอเค ทหารไทยเอามาซ่อมรถตัวเอง ชาร์เตอร์ ควิกแคช เฟริสช้อย ซิตี้โลน ยอดหนี้รวมๆกันประมาณ 4 แสนบาท ตัวหายแต่ต้องกายภาพบำบัดต้องเสียเงินทำการรักษา ประกันสังคมรักษาไม่ดีเลยต้องรักษากับแพทย์เฉพาะทางจึงจะหายดี

พ่อผมเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ 2 ปีก็เสียชีวิต ตั้งสวด 5 วันแล้วเผาเลยเพราะไม่ค่อยมีเงินมากนัก พอทำงานได้ก็เริ่มใช้หนี้จนจ่ายไม่ไหวจะทำไง

โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 3

ตอนขาหักต้องใช้การฟื้นฟูพอสมควรกว่าจะเดินได้ก็เกือบครึ่งปี
ส่วนคุณพ่อผมอาการหนักเพราะไปชนกับขอบกำแพง ค่าใช้จ่ายของผมก็พอสมควร แต่ผมอยากให้คุณพ่อฟื้นคืนมามาคุยกับผมบ้างถึงจะไม่เหมือนเดิมก็ใช้เงินค่า รักษาตลอด ก็หาอีกหลายๆที่เช่น ซิตี้แบงค์ทั้งบัตรกดเงินสด พอเครดิตดีก็เอาอีกซิตี้แบงค์เพิร์ซัลนัลโลน คอมพิวเตอร์ก็เช่าซื้อกับอีซี่บายเพื่อเอามาใช้อินเตอร์เน็ตขายอะไหล่รถผ่าน เน็ต และทำงานจากที่บ้านส่งอีเมล์ไปที่ทำงาน(ทำงานบริษัทแต่ทำงานที่บ้าน) เงินเดือนจ่ายเต็มไม่มีหัก โชคดีเหมือนกัน

พอหายดีก็กลับไปทำงานเหมือนเดิมก็ตั้งหน้าตั้งตาใช้หนี้ไป
แต่ขับรถไม่ได้พักหนึ่งตั้งใจว่าคงไปซัดรถได้เหมือนเดิม ผ่อนไปผ่อนมาชักไม่ไหวแล้วค่าใช้จ่ายในการรักษาเริ่มบานปลาย
มีหลายบัญชีเริ่มหมุนเงินไปบ้าง ชักเริ่มจะไม่ทันแล้ว
เริ่มฉุกคิดแล้วว่า อะไรวะทำไมมันจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่พอก็เริ่มทำตารางหนี้สินขึ้นมา

ติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 4

ก็เริ่มทำตารางหนี้ใหม่พบว่ามีประมาณ 13 บัญชี เมื่อ 3 ปีก่อน
เกือบๆ 400000.- มีหลายที่บวกไปบวกมาห่ะจะกินพอมีเงินเหมือนไก่บิน มีอะไรบ้างก็มี
1. สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ 40000.-
2. ทหารไทย 40000.-
3. KTC สินเชื่อบุกคน 30000.-
4. KTC บัตรเครดิต 15000.-มีทั้งแบบมินิบัตรเล็กๆ
ใช้วงเงินร่วมกันที่จะเอาบัตรมินิเพราะมันสวยมีรูปรถที่ชอบ
มินิคูเปอร์รุ่นใหม่
5. Quick Cash เหลือ 7000.-
6. ซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต 20000.-
7. ซิตี้แบงค์สินเชื่อบุกคน 10000.-
8. เฟริส์ฉ่อย 20000.-
9. ซิตี้โลน 30000.-
10. เซ็นทรัลการ์ด 15000.-
11. อีซี่บายผ่อนคอมพิวตอร์ 25000.-
12. อิออนสินเชื่อบุกคน 20000.-
13. อิออนบัตรเครดิด 20000.-

ก็เริ่มตั้งสติแล้วก็เริ่ม search หา ใน google คำว่าหนี้บัตรเครดิต
ก็มาเจอเวบบอร์ดนี้ ก็อ่านดูพบว่าเราไม่ได้มีปัญหาเพียงคนเดียว
ก็เจอแสงสว่างก็เริ่มจัดการหนี้ของตนเองไปทีละสเตปก็จัดการดังนี้
1. เช่าซื้อผ่อนปกติ
2. ปิดควิกแคช
3. ที่เหลือตั้งใจว่าปล่อยไปก่อนช่างมัน

ตอนนั้นยังไม่มีความรู้มากนักก็ไปปรับปรุงโครงสร้างหนี้เกือบหมดก็พบว่าเป็น วิธีการที่ผิดมากเพราะผ่อนน้อยลงครึ่งนึงแต่ก็ผ่อนไม่ไหวตายรอบสอง คราวนี้ติดกับดักเสียแล้ว การทวงหนี้โหดอำมหิตเกินมนุษย์ก็เริ่มขึ้น พายุนรกทวงหนี้ก็เริ่มขึ้น

โปรดติดตามตอนต่อไปขอไปประชุมก่อน

ตอนที่ 5 พายุนรกทวงหนี้--1

ตอนนั้นตัดสินใจใช้ Second way out ในช่วงแรกแต่มาต่อยอดใช้วิธีเอา First way out ขออธิบายก่อนว่าวิธีการของแต่ละคนมันแตกต่างกันออกไปของผมใช้วิธีการแบบผสม คือใช้ทางเลือกที่ 2และทางเลือกที่ 1 คู่กันหยุดจ่ายปิดบัญชีทีละตัว ก็ได้รับคำปรึกษาจากคุณอาประพัฒน์ วิธีการจากเจ้านายเก่าและเจ้านายคนปัจจุบันมาใช้ผสมกัน

ก็ทยอยปิดในส่วนของ Quick Cash ไปก่อนและอีซี่บายผ่อนไปจนหมดและเก็บเงิน การประหยัดเริ่มขึ้นทุกทางและต้องหาเงินเพิ่มในสิ่งที่ตนเองรัก มาสำรวจตัวเองก่อนว่าเราชอบอะไรตัวผมชอบรถยนต์และอะไรที่เกี่ยวข้องกับรถ ยนต์ก็สามารถทำเป็นเงินได้ มีเพื่อนเยอะใครช่วยฝากขายรถ+บ้านก็รับมาหมดขายได้ก็มีส่วนแบ่งได้มาทีหนึ่ง 3000 - 5000.- ตามเรื่องตามราว

พอหยุดจ่ายก็มีเบอร์แปลกโดยเฉพาะนาย/นางไปรเวทมันมาประจำ 3 เวลาหลังอาหารเช้า/สาย/บ่ายเย็นก็โทรมาทวง

แต่มีนอนแบงค์รายหนึ่งแมร่งบ้าสุดๆ ซัดกับมันมาตลอดมันอยู่ในเครือซิตี้แบงค์มีสโลแกนว่า สินเชื่อใกล้บ้าน บริการถึงลูกถึงคน
มันคือซิตี้หยาบโลน โทรมาทวงที่บ้านที่ทำงานด่าคุณยายจนความดันขึ้น ด่าคุณแม่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พูดจาหมาไม่แดกค้างงวดเดียวแม่งตามมาถึงบ้าน ตอนนั้นใช้เทรดตามหนี้โอ๊ยแทบคลั่งของขึ้น เลยตัดสินใจว่ามันด่าแม่กรูมันต้องโดน เอาล่ะมันตายกรูก็ตายด้วยคราวนี้เล่น"ปืน" เป็นปืนออโตเมติกพกไว้ในรถกระสุนเต็มแมคกาซีน ตอนนั้นมีรุ่นพี่ในวงการมาเฟียย่านประตูน้ำสอนผมว่าว่า"ชักปืนแล้วต้องยิง" แล้วก็นัดมันมาเจอตัดสินปัญหา

พอมันมาผมก็ไม่ออกไปและไม่ให้มันเข้ามา กะว่ายิงมันโดนข้อหาบันดาลโทสะสู้คดีก็หลุด ผมก็บอกดีๆว่าปิดบัญชีตัวอื่นอยู่มันก็ด่าๆๆๆๆและก็พูดประจานว่าเป็นหนี้มัน แล้วไม่ยอมใช้ (โกหกหน้าด้านๆ...***โดนปืนแน่ เชี่ย คิดในใจ) ผมก็ห้ามไว้ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ก็ปากเสียเอาใหญ่ ผมทนไม่ไหวก้ชักปืนออกมาบอกว่าหยุดพูดได้แล้วบอกว่าให้ดำเนินการตามระเบียบ ไง
มันท้า+ดูถูกว่ากระสุนคงไม่มีตังค์ซื้อหรอกค่างวดยังค้างผมเลยเท่านั้นแหละ ปัง....ปังๆ 3 นัดซ้อนผ่านหน้ามันไป มันเงียบเลยผมก็ตะโกนเสียงดังว่า เยสแม่พูดต่อสิวะไอ้เชี่ย มันยืนแข็งอยู่อย่างนั้น ผมก็บอกว่าพูดต่อดิสาด

ผมยังคิดว่าดีที่ไม่โดนไม่งั้นนอนคุกไปแล้ว สุดท้ายก็เก็บปืนเอาไว้ที่บ้านไม่เอามาใช้อีกครับ

ตอนที่--6 พายุทวงหนี้

การใช้วิธี 2+1 ผสมกันไปเราต้องหารายได้มากขึ้นกว่าเดิม
ตอนแรกเครียดสุดๆ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป ดำเนินชีวิตไปตามปกติเรื่องหนี้บอกที่บ้านรู้หมดเขาก้เป็นห่วงแต่เราก็ บอกว่าถ้าไม่ไหวจริงๆเราจะบอกเอง

พายุทวงหนี้ยังไม่หมดผมทนมาหลายเดือนจดหมายทวงหนี้
อนุมัติฟ้อง แม่ ฟ้องยาย เปรอะไปหมด การเป็นหนี้ผมว่ายังมีแง่มุมที่ดีเหลืออยู่คือการคบเพื่อน ใครจริงใจกับเราไม่จริงใจกับเราเวลานี้เราจะรู้ซึ้งกับคำว่าเพื่อนแท้ มิตรแท้ มิตรเทียม ตอนนั้นทำทุกอย่างเพื่อเก็บเงินปิดบัญชี ปิด Quick Cash เป็นรายแรก ต่อมาแฟนผมที่เคยคบหากันมาบอกเลิกเพราะรับเรื่องหนี้ไม่ได้ ก็มีปัญหาเรื่องนี้มาเพิ่มแต่ไม่เป็นไรเลิกก็เลิกเพราะเธอสนใจคนมี Option เราไม่มีแบบนั้นก็ต้องจบ

ต่อมาปิดกับซิตี้หยาบโลนเพราะเกลียดมันเหลือเกิน ให้น้องชายไปปิดบัญชีที่สาขาไปกับตำรวจ(เพื่อนของน้องชาย) ตอนนั้นไปไม่ได้เพราะติดงาน ซิตี้โลนแมร่งกวนส้นทีนจะให้ผมมาปิดเอง(มันกะเคลียร์กับผมเรื่องที่เอาปืนไป ยิงมัน) น้องชายก็จ่ายไม่ได้เพื่อนน้องชายที่เป็นตำรวจก็ตะโกนว่า"สาด....เอาเงินมา จ่ายหนี้แมร่งไม่รับเว๊ยเฮ้ย สงสัยอยากจ่ายด้วยลูกตะกั่วละมั้ง ไม่รับเงินก็กินลูกตะกั่ว เอาไหมๆๆ" สุดท้ายเจ้าหน้าที่สาขาก็รับเงินไป 29000.- ต่อได้นิดเดียวเอง ตัดขาดไปชาตินี้ไม่กู้กับมันแล้วเสียดายกระสุน

ติดตามตอนต่อไป เป็นการต่อรองปิดบัญชีกับ แสดนดาร์ด
ชาร์เตอร์ เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องต้องบุกเข้าถ้ำเสือ โปรดติดตามชม

ตอนที่ 7 --เข้าถ้ำเสือเพื่อ Hair Cut

เมื่อปิดควิกแคชไปแล้วกำลังใจเริ่มมา การต่อรองรูปแบบใหม่ก็เริ่มขึ้น ก็หาเงินเพิ่มโดยเป็นนายหน้าขายรถให้เพื่อน และเจอซากรถมาตัดอะไหล่ขายเป็นซากรถเป็นโครงรถมาตัดอะไหล่ขาย กำเงินไปซื้อที่ต่างจังหวัดซื้อมา 5000.- มาชำแหละขายอะไหล่พวกประตูเครื่องเกียร์กระจกคอนโซลหน้าได้เงินมา 50000.-ก็ได้มาพอสมควรมาดูว่าจะต่อรองเจ้าไหนได้บ้าง

ช่วงนั้นเป็นของ เคทีซี พูดจาดีมากช่วยเราจากยอด 30000.-
ต่อเหลือ 20000.- ก็พอใจจ่ายไปมีหนังสือยืนยันการปลอดภาระหนี้กับเคทีซี

ต่อมาสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ปรับโครงสร้างหนี้แล้วแต่จ่ายไม่ไหวเรื่องไปอยู่ที่ ศักยภาพกฎหมายอยู่ที่ตึกชาร์เตอร์สแควร์ พูดจา "ม๋าไม่แดรก" ขู่มั่วซั่ว พูดจาหยาบคาย แอบอ้างอำนาจศาล ด่ากราดไปทั่ว ใครรับแทนมันด่าหมด

ตอนแรกกลัวแต่มาศึกษาในบอร์ดนี้พบว่ามันทำไม่ได้ ก็เลยคิดว่าบุกไปหามันพร้อมกับปรึกษาญาติ(น้า) ที่เป็นนายทหารท่านก็พูดคำเดียวว่า"แบบนี้น้าชอบอยากเจอซักครั้ง" พาท่านไปด้วยคนนี้ต่อรองได้ เป็นผู้ใหญ่ในกรมทหาร

ต่อรองประมาณ 3 ชั่วโมงก็ต่อไม่ได้มากแมร่งเขี้ยวสุดๆ มันอ้างว่าถ้าไม่จ่ายจะเอาคนมายึดทรัพย์ทันที ญาติผม(น้า)ลุกขึ้นเลย จนท.ศักยภาพถามว่า

ม๋า--จะไปไหน?
น้า--ไปแจ้งความคุณแอบอ้างอำนาจศาล
ม๋า---โธ่ผมแค่พูดเล่นๆน่ะ
น้า--อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมจะไปแจ้งความและจะเอาเรื่องคุณ คุณขู่ผมคิดว่าผมโง่เหรอไง
น้า--เอางี้ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ ยอดหนี้ 42000.- เหลือ 25000.-ไม่งั้นผมจะแจ้งความ
ม๋า---(อึกอัก) เอ่อๆๆ
น้า---เอ่ออะไรยึกยักเหรอ 20000.-ก็แล้วกันเรื่องจบ
ม๋า---ก็ได้พี่อย่าแจ้งความเลย(โทรไปหาใครไม่รู้) ก็จบที่ 22000.- จบและได้หนังสือปลอดภาระหนี้กับชาร์เตอร์

มีหนี้ต้องใช้หนี้ครับ

โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 8 พายุนรกทวงหนี้-2

หยุดจ่ายหลายตัวปิดไปได้หลายตัวเช่นกันมีหลายสำนักกฎหมายทั่วฟ้าเมืองไทย โคจรมาพบกันที่ผมทวงแบบ"สามัคคีการทวง" ทวงหนักหน่วงพอสมควร เช่น ยูผี เปรด เฉดเต้อ ลีดเด๋อ กาลังการกฎหมา เอ๋งแอนด์แอฟ เสียวบิซิเนส ประชาทัณฑ์
ดีเควีวาย เจเอ๊มถ่อย บาร์เกย์ พ้อย
เอโปรเฟสชั่นแน่ล คอเลคชั่วร์ การปรับเปลี่ยนกลยุทธที่ได้จากการปิดบัญชีของชาร์เตอร์มาปรับใช้

บาร์เกย์พ้อย ทวงโหดเถื่อนใช้กระเทยทวงให้ส่วนลดพอใช้จาก 20000.- ให้ 12000.- ได้แค่นั่น และจาก 20000กว่าๆให้ 13000.- จ่าย 3 งวดเพราะต้องจ่ายเจ้าอื่น
KTC บัตรเครดิตจาก 15000.- ลดเหลือ 10000.- จ่าย 2 วงด จบ
OK จาก 30000 เหลือ 22000 จ่าย 3 งวด จบ

นอนแบงค์ลดค่อนข้างน้อยมาก+วิชายังไม่แก่กล้ามากพอ

ทหารไทยปล่อยไปก่อนไม่ลดห่ะอะไรเลย
สนง.ประชาทัณฑ์แมร่งไม่วิ่งให้เรา ชักจะจริงที่มันไม่ลดให้
เตะถ่วงไปก่อน

การหาเงินมาปิดหนี้ก็ยังหาต่อไปเรื่อยๆเช่นกันควบคู่กับการออม
และการใช้จ่ายอย่างประหยัดด้วย

ไปเดินเซียงกงหาอะไหล่มาขายต่อไปเรื่อยๆบวกราคาไม่ได้แพงนัก เน้นสายสัมพันธ์และปริมาณการขายที่สูงและซื้อซ้ำ ชอบมากแต่ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยถึงจะมีฐานลูกค้า

ผมไม่อยากขึ้นศาลเลยต้องหาของมาขายเรื่อยๆ ครับ
ตามตอนต่อไปมีแข่งรถเอาเดิมพันด้วย เขาจะรอดจากการจับกุมของตำรวจหรือเปล่า โปรดติดามตอนต่อไป

ตอนที่ 9---พรุ่งนี้รวย พรุ่งนี้รวย

ตอนนี้ต้องหาเงินมาใช้หนี้เรื่อยๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ถามว่าผมเคยซื้อห ว ยหวังมีเงินมาใช้หนี้ไหมผมยอมรับว่าหวังครับ
นอกเหนือจากวันวาเลนไทน์แล้ววันที่ 1และ 16 ผมจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ หวังเพราะทุกคนย่อมมีความหวัง แต่ก่อนไม่เคยซื้อก็ซื้อประจำ
เพราะเคยถูกมาแล้วเพราะหนังสือพิมพ์บ้านเมืองเขาบอกว่าเลข"2" เด่นมาก
เลยซื้อบนดินเลขท้าย 2 ตัวล่างซื้อแบบพอเพียงคือ 20 บาทถ้ามั่นใจว่าเลข 2ทำงานแน่ๆ เลยตั้งแต่เลขท้าย 2 ตัวล่างตั้งแต่เลข 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 ผลคือออก "25" โป๊ะเชะรับไป 1300.- ลงทุนไป 200.-
ได้มา 1300.- กรูรอดแล้วพอได้ต้องไปทำบุญก่อนถึงเอาไปใช้ได้ โบราณว่าต้อง"ต่อทุน"ก่อนถึงจะมีกำไร

ซื้อห ว ย บนดินประจำดูหนังสือเลขเด็ดลาภเศรษฐีและหนังสือพิมพ์บ้านเมืองเป็นประจำ ข่าวไม่เคยอ่านอ่านแต่เลขเด็ดท้ายฉบับแต่มีบนดินก็ดีนะครับ โอกาสถูกมีมากกว่า แต่บ้านเมืองมีประกาศของศาลล้มละลายกลางอ่านแล้วก็สะท้อนหัวใจคิดไปต่างๆ นานา แต่เราซื้อมาดูหวยนี่นาใช่แล้ว

ผมซื้อบนดินถูกบ้างไม่ถูกบ้างถูกแบบฟลุคๆวันนั้นเอารถไปต่อทะเบียนที่ขนส่ง บางจาก แหมเอาทะเบียนรถไปซื้อบนดินสองตัวล่าง 27 ทะเบียนรถ 77 ตีเป็นสองเจ็ด ใบละ 100 แม่ก็ยุคนขายก็ยุปรากฎว่า"ยุขึ้น"ซื้อ 2 ใบ เพราะรถที่ใช้ถ้าซ่อมมันให้ใช้งานได้ซื้อหวยมันจะถูกเรื่อยเลย
คันนี้ทะเบียน+พรบ.ขาดไม่ได้ต่อหมดเดือนเมษา ต่อเดือนพฤษภาวันแรงงานหยุดงานพอดี ราชการไม่หยุด ไม่อยากลางานเดี๋ยวอดโบนัสมาใช้หนี้

เป็นงวด 1 พ.ค จำปีไม่ได้ ผ่านมา 2 ปีแล้วมันออก 27 โอ๊ยโดนเต็มๆได้ใบละ 7000.- 2 ใบ 14000.- +เงินเก็บอีกนิดหน่อยให้คุณแม่ไปบ้าง 4000.-เอาละ มีเงินก้อนแบบฟลุคๆมาปิดบัญชีแล้วก็มองๆ ยอดหนี้ที่มีซิตี้แบงค์ดีกว่าทำรีไรท์ไปด้วย ธนาคารนี้ฟ้องเร็วเสียด้วยเอาเพอร์ซัลนัลโลนดีกว่า

ไปซัดรถตอนกลางคืนก็ไม่ได้ฝนตก แถมตำรวจมาตั้งด่านเลยไม่ไปดีกว่า
วันนั้นจับรถเยอะเอาสิบล้อมาขวางถนนปิดถนนหัวถนน+ท้ายถนนเรียกว่าปิดกล่อง จับกุมเลย โชคดีที่ไม่ไปเลยรอดตัวหลังๆก็ต้องเลิกไปก่อนชั่วคราว ตำรวจแมร่งฟิตอดเลย แต่วันพระไม่ได้มีหนเดียว มีแข่งกันอีกสนุกมากแต่สุดท้ายผมก็เลิกครับ จะเล่าให้ฟังตอนต่อไปครับ

ติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 10 เล่าสู่กันฟังเรื่อง Hair Cut ตลบหลังสำนักงานทวงหนี้

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมได้ลงในหนังสือฉลาดซื้อมาแล้ว หนี้ตัวนี้เป็นสินเชื่อรีไรท์ซิตี้แบงค์เพอร์ซัลนัลโลน ไปทำปรับโครงสร้างหนี้มาแล้วผ่อนไม่ไหวปิดตัวอื่นไปก่อนหยุดจ่ายมาเกือบๆปี หยุดจ่าย 25000.- ขึ้นมา 32000.- ใช้สำนักงานการันต์
ตาม แต่ไม่เปลี่ยนสำนักงานเสียที

ผมให้การันต์ทำส่วนลดมาก็ไม่ทำมันอ้างว่าซิตี้แบงค์ไม่อนุมัติ
มันก็โทรไปบอกคนโน้น คนนี้ ฟ้องแม่ ฟ้องเจ้านาย ข่มขู่อ้างกฎหมายมาข่มขู่คนอื่นตลอดเวลา จนคุณแม่ผมไม่ปลื้มกับพฤติกรรมของมันเท่าไหร่นัก ผมเลยทำเรื่องร้องเรียนไปฝ่ายกฎหมายของธนาคารก็บอกว่าผมไม่พอใจการกระทำแบบ นี้ทำให้ธนาคารเสียชื่อเสียง คุ้มแล้วหรือที่ทำการตลาดหลายสิบล้านแล้วมาเสียชื่อเสียงเพราะม๋าหิวคอมมัน ทำเจ๊งน่ะ

สุดท้ายผมขอต่อรองเหลือ 20000.- ชำระงวดเดียวก็ชำระที่สนง.ใหญ่สาทร มีใบปิดบัญชีมาให้เสร็จใบเสร็จรับเงินมาพร้อม

3 วันต่อมา สนง.การันต์มันก็โทรมาทวงว่าต้องจ่ายเต็มไม่มีส่วนลดต้องจ่ายวันนี้ไม่งั้น จะส่งฟ้องพรุ่งนี้แล้ว(เออ....เอาเข้าไปอ้ายลูกม๋า) ผมก็ยันว่าจ่ายแล้วเฟ้ยปิดที่ 20000.- มันไม่เชื่อผม
มันก็บอกว่าแฟกซ์ให้ดูหน่อยสิ ผมก็แฟกซ์ให้มันดูก่อนแฟกซ์ไปผมเขียนด้วยปากกาเมจิคสีดำ เขียนตัวโตๆว่า กระผมเจรจาปิดบัญชีกับซิตี้แบงค์โดยตรง เนื่องจากการันต์ไม่ทำเรื่องให้

เท่านั้นแหละ...งานเข้ามันด่าๆๆๆๆผมใหญ่เลยว่าคุณตลบหลังได้ไงทำได้ไงกัน เนี่ย ไม่ไว้หน้ากันเลยใช่มั้ย ผมก็บอกว่าคุณบีบให้ผมต้องทำแบบนี้ มีหนี้ต้องใช้หนี้ และซิตี้แบงค์ไม่ได้แจ้งด้วยว่าต้องคุยกับคุณ ผมก็คุยกับเจ้าหนี้ก่อนสิ

เป็นหนี้ใครต้องจ่ายคนนั้น สำนักงานทวงหนี้ไม่เกี่ยวแต่ชอบมามีเอี่ยวอยู่เรื่อย จริงๆเล้ย

โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 11 ทหารไทย ไม่ยอมให้ Hair Cut จำไว้ๆ

ทหารไทยเครดิตพลัสเป็นรายหนึ่งที่หยุดจ่ายเรื่องถูกส่งไปที่สำนักงานประชา ฑัณฑ์ ย่านนนทบุรี ต่อรองก็ไม่ลดให้เลยจะเอายอดเต็มรู้สึกไม่แฮบปี้เลยยอดอยู่ที่ 28000.- กู้มา 40000.-
ค่าปรับเดือนละ 500.- โดนไปเกือบ 10 เดือน 5000.- จะบ้าตาย

ประชาฑัณฑ์พูดจาไม่ดีและโทรทวงไม่รู้เวลา 4 ทุ่มมันก็โทร
แย่ที่สุดคือตี 2 มันก็โทรมาทวงผมง่วงๆ ด่ามันยับเลยว่า

"เฮ้ย ไอ้ฟายกรูจะนอนว๊อยสาด โทรมาหาโคตรพ่อโคตรแม่***เหรอสาด เชี่ย พ่อแม่ไม่สั่งสอน(ด่าเป็นชุดเซนเซอร์ครับเดี๋ยวไม่ผ่านกบว.และคมช.) sdl;sffdfsfx./cmMMCM@#$%^&*())_auiFDD2344$###################%%ewtjsfd25857045706276067906=08779414sdf7sdfff7fasf94dffsd1dfs44efpjjfd๕ฎฆญษฐ,ซฯ๐ฌว้ฯฌวฮณื
มันก็หายไปเป็นเดือน

เมื่อ Hair Cut ไม่ได้จึงเจรจากับทหารไทยโดยตรงตอนแรกมันอ้างว่าให้คุยกับประชาฑัณฑ์ ผมขอจ่ายส่วนที่เป็นค่างวดค้างประมาณ 10000.- ยกเว้นค่าปรับเท่านั้น ไม่งั้นผมจะจ่ายที่ศาลและสู้คดีแน่นอนผมขู่ไปแบบนั้น ยื้ออยู่ประมาณ 3 เดือนสุดท้าย มันยอมตามที่ผมขอ ก็จ่ายไปตามปกติอีก 2 ปีหมดครับ

ส่วนอีซี่บายผมก็หมดแล้วครับในปีที่ 3นี้ครับ

ตอนที่ 12 เรื่อง Hair Cut 3 (Hair Cut จอมมาร)

เป็นเรื่องการทำ Hair Cut ภาค 3 ตำนาน Hair Cut 3 ภาค
ไตรภาค ภาคแรกคือการเข้าถ้ำเสือเพื่อ Hair Cut
ภาค 2 ตลบหลัง สนง.ทวงหนี้และ
ภาค 3 Hair Cut จอมมาร
ถ้าจะเล่าเฉยๆ คงไม่ได้ ผมต้องแนะแนวทางออกที่ใช้ได้ผลจริง ไม่มีตำรามาให้อ่านเพื่อปลดหนี้ได้จริง เข้าเรื่องดีกว่า

หลังจากการหยุดจ่ายมานานและปิดบัญชีไปได้หลายตัว ทำการยื้อเอาไว้ ดึงเช็ง ลากยาว เตะถ่วง เล่นไพ่กับเจ้าหนี้มานานต่อไปเป็นการมาชำระหนี้ของซิตี้แบงค์ รีไรท์เรดดี้เครดิต หยุดจ่ายอยู่ที่ 18000.- ตั้งใจว่าต่อได้ 10000.- กำลังสวย เปลี่ยน
สนง.ทวงหนี้ยอดหนี้ก็ขึ้นมาเรื่อยมา มีรายละเอียดดังนี้

สนง.แรกเป็นลีดเด๋อ
ยอดหนี้เพิ่มเป็น 19000.- ไม่ลดซักบาทแถมยังกวนโมโหผมด้วยว่าถ้าปิดที่ยอด 10000.- ต้องแฟกซ์ใบมรณะบัตรมานะคะผมสวนไปว่างั้นเอาของคุณมาให้ผมดูก่อนสิผมถึงจะ จ่ายยอดเต็มเท่านั้นแหละด่าไฟแลบตลอดผมก็พูดคำเดียวหมื่นถ้วน หมื่นถ้วน มีแค่นี้ไม่งั้นไปปิดเจ้าอื่น สุดท้ายก็เลิกทวงผมไป

สนง 2. ชื่อ อธรรมสิริรัตน์
ยอดขึ้นไป 20000.- มาแบบทุเรศมากหนังสือทวงหนี้ไม่เคยส่งมาให้อ่านเลย มีคนของ สนง.นี้มันบุกมาที่ทำงานแต่ไม่ให้เข้าเสนอส่วนลดเหลือ 19500.- ลดไป 500.- ค่ะ(พูดแบบภาคภูมิใจมาก) ผมก็พูดเลย ถุย! ลดได้แค่นี้ไปทำส่วนลดมาหมื่นถ้วน มันก็บอกว่าลดได้แต่นี้ไม่งั้นจะส่งฟ่องแล้วนะยะ
ผมก็บอกว่าเออๆๆๆ ฟ้องๆๆไปเลยฟ้องไปเลยฟ้องแม่ให้หมดเลย ฮึ่มๆๆ

สนง.ที่ 3 ชื่อ เฉดเต๋อ
ยอดขึ้นไป 21000.- ไม่มีส่วนลดเลยผมก็ยันคำเดิมว่าหมื่นถ้วน
มันหายไปแล้วโทรมาบอกว่าไม่ได้ครับ ไม่วิ่งให้เลยถ้าเป็นลูกน้องผมมันคงโดนไล่ออกเพราะเกียจคร้านมากเกินไป

สนง.ที่ 4 ชื่อเอ๋งแอนด์แอ๊ฟ
ยอดขึ้นไป 22000.- เจ้านี้ยื้อมา 4 เดือนนานกว่ารายอื่นที่ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึงจะเปลี่ยน สนง. ลดลงไปเรื่อยๆ จนมาได้ที่หมื่นถ้วนตามที่วางไว้ สนง.แฟกซ์ใบยืนยันยอดปิดบัญชีมาและไปจ่ายที่ สนง.ใหญ่อีก 2 สัปดาห์ต่อมาจึงมีหนังสือปลอดภาระหนี้มาให้ครับ

โปรดติดตามตอนต่อไปเป็นเรื่องที่ทำงานที่ผมต่อสู้เรื่องหนี้ของพนักงานตลอดมาครับ

ตอนที่ 13 หยุดจ่ายแล้วเจออะไร?--1

ช่วงแรกๆของการหยุดจ่ายคืออะไร คือการถูกทวงถามด้วยถ้อยคำที่ดีบ้าง รุนแรงบ้าง ถูกตามทั้งที่บ้านและที่ทำงานทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีก็ยังขี่รถมาตาม สงสัยหลังบ้านมีบ่อน้ำมัน ผมถูกทวงที่ทำงานบ่อยมากโทรเข้าเบอร์ที่ทำงานผมก็บอกว่ามีอะไรก็โทรเข้ามือ ถือ โทรเข้ามือถือ โดนสารพัด

จนกระทั้งไม่มีสมาธิในการทำงานเจ้านายเรียกตัวบ่อยมาก
บุคคน(ไม่ได้เขียนผิด) ก็จ้องจับผิดพนักงานและไม่เข้าใจปัญหาเรื่องหนี้ จนคิดว่าไม่น่าจะมีทางออกการทำงานก็แย่ลงเรื่อยๆแต่ก็รับทุกสาย ตอนแรกโทรไปประนอมหนี้ทุกรายทำสัญญาทุกรายสุดท้ายก็จ่ายไม่ไหวอยู่ดี วันเวลาเหมือนผ่านไปวันๆเพื่อให้พ้นช่วงเย็นหรือคิดว่าเมื่อไหร่จะเป็นวัน อาทิตย์เสียทีจะได้สงบลงไปหน่อย

ต่อมาที่ทำงานมีอินเตอร์เนตให้ใช้ search จนมาพบเวบแห่งนี้เหมือนสวรรค์ชี้ทางออกก็ศึกษาทางออกจนมาได้แนวทางของตนเอง แต่มีคนที่ซ้ำเติมผมไปฟ้องแผนกบุคคลก็จับผิดผมอีกครั้งด้วยการมาค้นเครื่อง ผมและยัดข้อหาดูเว็บโป๊ซึ่งผมไม่ได้ดูและถูกทำทัณฑ์บนในเรื่องใช้ คอมพิวเตอร์ไม่เกี่ยวข้องกับงานหักเงิน 20% ใบเตือนมีอายุ 1 ปี จ๋อยสนิท พูดไม่ออก

สุดท้ายผมก็ไปสืบว่าใครมันทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้กับผม
ก็เจอเป็นพนักงานเข้าใหม่ในแผนกคอมพิวเตอร์ โดนแผนกบุคคลเข้าครอบงำใช้เป็นเครื่องมือ ด้วยความแค้นเอาไว้ไม่ได้มันต้องโดนอะไรซักอย่าง หลังเลิกงานก็เลยขึ้นมอเตอร์ไซค์พรางตัวใส่หมวกกันน๊อคให้เพื่อนขี่รถให้เรา ซ้อนท้าย ผมเจอมันเดินกลับบ้านเลยเอาเท้าถีบมันตกลงไปในน้ำครำข้างทาง แล้วก็ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ชื่นใจ...หายแค้น

แต่สิ่งที่ทำผมรับว่ามันผิดเองถึงจะโดนทัณฑ์บนแต่ได้รู้จักเวบนี้ผมว่าก็คุ้มค่าอยู่ดีครับ

เดี๋ยวมาต่อเรื่องหยุดจ่ายแล้วเจออะไร?--2
ติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 14 หยุดจ่ายแล้วเจออะไร?--2

หลังจากที่ผมได้ชำระบัญชีแค้นของผมไปแล้ว อีกไม่นานเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ตัวแสบก็ขอลาออกไป ผมปรึกษาเพื่อนที่มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์แล้ว พบว่าผมน่ะถูกแกล้ง สามารถลบข้อมูลต่างๆ ที่ดูใน Internet explorler ได้ด้วย
เราเข้าไปดูทุกเว็บจริงแต่โปรแกรมจะดึงรูปมาเก็บไว้ในเครื่องเพื่อให้ Upload ข้อมูลได้รวดเร็ว

เพื่อนผมบอกว่าไอ้บุคคนของผมน่ะมันจะ"แสนรู้"ได้ไงกับเรื่องแบบนี้ มันต้องใช้ใครเป็นเครื่องมือแน่นอน เราต้องป้องกันตัวเอง

เรื่องหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลส่งผลกระทบกับองค์กรเป็นอย่างมาก ใครว่าไม่มีผลกระทบ ผมไม่เชื่อ เพราะอัตราการเข้า-ออกของพนักงานมีสูงมาก เมื่อมีพนักงานเข้าใหม่พอครบ 3 เดือนก็เริ่มส่งประกันสังคม พวกทวงหนี้ก็หาข้อมูลจากประกันสังคมเจอปุ๊บ จดหมายส่งมาที่ทำงานเลย พออีก 2 วันโทรมาทวงหนี้ให้อับอายอีก 3 วันก็ส่งคนมาตาม พนักงานใหม่ทนไม่ไหวก็ลาออกไป

ที่ทำงานของผมก็ประชุมเรื่องนี้พบว่าพนักงานลาออกเยอะมากก็เสนอสาเหตุว่า เป็นเรื่องหนี้รายได้ไม่พอกับรายจ่ายสวัสดิการไม่จูงใจ ประกอบกับเจ้านายก็เห็นแฟกซ์ของอีซี่บายข่มขู่สารพัดตอนหลังเลิกงานว่ามันทำ ได้ด้วยเหรอ ผมก็บอกว่าทำไม่ได้หรอก ผมเลยเสนอทางออกว่าถ้าไม่ใช่เรื่องงานโอปะเรเตอร์จะไม่โอนให้หรือถ้าจัดการ ไม่ได้ให้ผมจัดการรับสายแทนก็พูดประมาณว่าที่นี่บริษัทนะคุณ ถ้าติดต่อเรื่องส่วนตัวให้โทรเข้ามือถือ ที่นี่ไม่ใช่ที่ตามหนี้ของคุณก็เบาลงไป ที่แรงๆก็มี

ส่วนเคล็ดลับของผมกับเวลาติดต่อ supplier ผมจะใช้ชื่อเล่น และตีซี้กับยามให้ได้และถ้าวันไหนนัด Supplier ก็จะบอกครับถ้ามานอกเหนือจากนี้ก็ไม่ให้เข้าพบครับ

ผมสู้เรื่องนี้มาเกือบปีพบว่าที่ทำงานผมมีปัญหาเรื่องหนี้เกือบ 10 คน ก็ปรึกษาและช่วยเหลือกันไป บางคนจ่ายหนี้จนไม่มีเงินกินข้าวผมบอกว่าต้องแก้ไขถ้าจ่ายหมดคงไม่ไหวแน่นอน เลยสรุปกันว่าพนักงาน 10 คนรวมหัวหยุดจ่ายกันหมด

ก็ทยอยปลดหนี้ไปได้ ที่ทำงานก็บล๊อคสายพวกทวงหนี้ไว้ได้
การทำงานดีขึ้นเพื่อนๆที่ทำงานก็ปลดหนี้ไปได้ครึ่งทางแล้ว

ติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 15----ประสบการณ์สอนใจ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพูดความจริง

คิดอยู่นานว่าจะเอามาเล่าดีไหม พอดีได้รับเมล์จากคุณหมูแฮมบางกอกก็เลยคิดไปถึงเรื่องราวเก่าๆ เรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องหนี้ วันนั้นอาการบอบช้ำจากอุบัติเหตุยังมีหลงเหลือบ้าง ถ้าเข้าช่วงหน้าหนาวและอากาศเย็นมากๆ มักจะปวดกระดูกขาที่หักเสมอ ที่เรียกกันว่า"หนาวไปจนถึงกระดูก"นั่นแหละ
อาการนี้ยังเหลืออยู่บ้างครับ

ช่วงที่หยุดจ่ายใหม่ๆที่บ้านก็รู้เรื่องหนี้บ้างแต่บอกไม่หมดซึ่งสุดท้ายผม ก็ถูกซักถามจากครอบครัวและญาติพี่น้องว่ารักษาตัวหมดไปเท่าไหร่กัน ตอนแรกก็อ้ำอึ้งไปแต่ไอ้คนทวงหนี้ของซิตี้หยาบโลนมันไปบอกไปหมดแถมไอ้กระดาษ โน๊ตนั้นก็เขียนว่า"กู้มา 30000.- ไม่ยอมจ่าย" วันนั้นแทบจะโกรธกันเลยและสุดท้ายก็ต้องบอกความจริงจนหมดสิ้น เครียดไปตามๆ กัน

แต่ผมก็บอกว่าจะจัดการเองทั้งหมดถ้าไม่ไหวก็จะขอให้ช่วย บางเคสก็รุมกันต่อรองเลยด้วยซ้ำแบบ 3 รุม 1 ก็เคย(โทรแบบประชุม 3 สาย) ถึงจะเครียดในช่วงแรกแต่พี่น้องพ่อแม่ยังไงก็ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาดหรอกครับถึงแม้จะเกลียด โกรธกันแต่อย่างไรเลือดก็ต้องข้นกว่าน้ำอยู่วันยังค่ำ

ผมขอฝากไว้ว่าเรื่องหนี้ครอบครัวต้องรับรู้ด้วย
ท่านที่มีหนี้สินอย่าปิดบังความจริงเลยครับ
ไม่มีอะไรที่ดีกว่าการพูดความจริงหรอกครับ
อย่าให้พวกหมาทวงหนี้มาบอกครอบครัวเราว่า
เราเป็นหนี้มันเป็นอันขาด

เราบอกความจริงเอง ไม่เสียใจเท่าหมาทวงหนี้มาบอก
แล้วมาทวงบุญคุณอะไรกับคุณว่าให้ที่บ้านรู้
อย่าให้มันมาสร้างความแตกแยกให้กับครอบครัวเราเลย
ซึ่งไอ้พวกนี้ไม่มีสิทธิไปประจานให้คนอื่นทำ

ตอนที่ 16--ทักษะการเจรจาต่อรอง

เรามีหนี้ต้องใช้หนี้ แต่เมื่อเกิดสภาวะแบบนี้และมีเงินจำกัดและรายได้ที่จำกัด เราต้องมีการเจรจาต่อรองผ่อนผัน วิธีของผมคือการพูดเพื่อให้มีเจตนาชำระหนี้และขอความเห็นใจเพื่อปิดบัญชีขอ ส่วนลด

การปิดบัญชีแบบมีส่วนลด ( Hair Cut) การทำวิธีการขอส่วนลดเราจะพูดไปทื่อๆ ตรงๆ ไม่ได้ มันตรงเกินไป ในกรณีของผมจะมีหลายรายหน่อยถ้าเรามียอดหนี้ที่พอๆ กันและหยุดจ่ายพร้อมๆ กันหมด

สมมติว่ามี 3 - 4 รายอยู่ในยอดที่พอๆ กันเช่น 20000 - 30000 ก็ดูจากบัญชีหนี้ที่มีอยู่ เงินที่เรามีจำกัด กำหนดเป้าหมายในใจก่อนเพื่อดำเนินไปตามเป้าหมายเช่น
จาก 20000

---

เหลือ 10000.-
จาก 30000

---

เหลือ 15000 - 16000.- กำลังสวย
เงินในมือที่มีอยู่จำกัดเช่นได้มาจากการขายของ คอมมิชชั่น
โบนัส 3 เดือน พอชำระงวดเดียวหรือไม่ต้องเตรียมให้พร้อม
ถ้าไม่มีอย่าไปเจรจาด้วยวิธีการนี้เด็ดขาด

เมื่อฝ่ายทวงหนี้ให้แฟกซ์ภาระหนี้ก็ให้บอกไปตามจริงแต่...
อย่าไปบอกจนหมดเหมือนกับเราเล่นไพ่ในบ่อนคาสิโนรอแยลเราจะหงายไพ่หมดไม่ได้ อ่านแล้วอาจจะค้านอยู่ในใจใช่ไหมครับ บอกหมดก็ดีอยู่แล้ว เราเป็นคนซื่อ คนดีมีอะไรเราบอกหมดไม่ปิดบัง แต่ในความจริงที่รุ่นพี่สอนผมว่า"บางครั้งการเป็นคนดี บางทีก็ปวดร้าว" ใช่แล้วครับเพราะเจ้าหนี้เรามีหลายรายใครๆก็อยากได้ก่อนจริงไหมครับ ผมเคยบอกหนี้หมดกลับไม่เป็นผลดี ไม่ได้ส่วนลดเลยก็เจอมาแล้วครับ บอกได้แต่เป็นบางส่วนเท่านั้น

ต่อมาการต่อรองเพื่อขอปิดบัญชี ให้อ่านนะครับ
รายนี้ผมหยุดจ่ายมาเป็นปียอดอยู่ที่ 18000.-เปลี่ยน สนง.ทวงไป 4 ที่ ยอดขึ้นไป 22000.- การต่อรองเริ่มขึ้น
ม๋า--ยอดหนี้รีไรท์ 22000.- เมื่อไหร่จะจ่ายยะ
ผม--จ่ายแน่นอนครับแต่....
ม๋า--แต่อะไรคะคุณ
ผม--รอโบนัสมาปิดบัญชีครับแต่มีจำกัดผมขอจ่ายที่ 10000.-ครับ
ม๋า---อะไรนะ หมื่นถ้วนเนี่ยนะ พูดเป็นเล่นเอาแบบนี้เลยเหรอ
ผม---ครับคุณ ช่วยวิ่งให้ผมหน่อยครับ เพราะตอนนี้รายอื่นๆก็เสนอส่วนลดมาเหมือนกันพี่
ม๋า---รายไหนบ้างล่ะ
ผม---ที่แรกคิกแคท 22100.- ให้ส่วนลดมา เหลือ 12000.-
ที่ๆ 2 ธ.กงสี 25000.- เหลือ 10000.-
ที่ๆ 3 ธ.กุงไทย 28000.- เหลือ 15000.- ผ่อนได้
ม๋า---ขนาดนี้เลยเหรอคุณ
ผม---คุณลดได้เท่าไหร่
ม๋า----เดี๋ยวพี่วิ่งให้แต่พร้อมจ่ายแน่นอนนะ
ผม---ครับ อยากได้หมื่นถ้วนครับ

การเจรจาผมก็เตะถ่วงไปจนได้ส่วนลดตามที่ต้องการ
ผมก็บอกว่าอะไรกัน 18000.- โหลดน้องจังลดอีกๆๆ
อย่างง้านๆ งั้น ลดอีกสิ โหน้อยจังผมไปปิดบัตรกงสีก่อนครับ
ก็เล่นตัวกันหน่อยเพราะต้องปิดจริงๆ

สุดท้ายก็ลดได้สมใจแต่มันก็ขอสำเนาบัตรประชาชน
ถ้าเจอแบบนี้อย่าไปให้ ให้เขาแฟกซ์หนังสือส่วนลดยืนยัน
ยอดหนี้ก่อนชำระมาให้ดู ทุกอย่างต้องเป็นลายลักษณ์อักษร
คำพูดหวานเจี๊ยบ คำพูดลมๆแล้งๆเชื่อไม่ได้

เมื่อได้หนังสือยืนยันมาแล้วก็ดับเบิ๊ลเช็คกับธนาคารว่าแน่นอนแล้วก็ปิดบัญชีแล้วการเจรจากับธนาคารโดยตรงก็เช่นกัน

ติดตามตอนต่อไป[/color]

ตอนที่ 17 เจอดีจนได้

ชีวิตการทำงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทำงานเสียมาก หลังจากที่เพื่อนๆ ที่ทำงานรวมหัวกันใช้ Second Way Out แล้วสิ่งที่เจอคือการถูกทวงถามที่โหด-เลว-ไม่มีดี การต่อสู้เรื่องหนี้ในที่ทำงานมาตลอด 1 ปีไม่ง่ายเพราะมีกำแพงหลายชั้น ตัวเจ้านายเองเข้าใจแต่คนรอบข้างเจ้านายนั่นแหละตัวปัญหา

ตอนหยุดจ่ายก็จะมีคนของ สำนักงานทวงหนี้ทั่วฟ้าเมืองไทยโคจรมาที่บริษัทเป็นประจำ ก็บอกคนที่มาดีๆว่า ไม่อยู่
เรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงานไม่ให้เข้าพบ และก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างบางรายขอสายฝ่ายบุคคลและถ้าไม่บอกว่าใครจากไหน ชื่ออะไรก็จะวางสายทันทีเล่นแบบนี้เลยครับ

และหน้าตึกตรงป้อมยามก็จะฝังกล้องวงจรปิดไว้
เกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาก็เอาเทปนี้แจ้งความได้เพราผมรับผิดชอบเรื่องกล้องวงจรปิดครับเลยปรับให้ตรงนั้นเป็นจุดที่พิเศษได้

มีอยู่มาวันหนึ่งเจอคนของ สนง.ยูผี ตัวใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรมาเก็บเงิน ผมก็ลงไปรับแทนเพื่อนแต่มันต่อว่าผมเสียงดังว่า เอ็งอย่าเ สื อ ก เรื่องของคนอื่นได้ไหม
ผมก็บอกว่าจกรูะ เ สื อ ก ***จะทำไมรู้ไหมที่นี่ใครคุม
ที่นี่ที่ทำงานไม่ใช้ที่ตามหนี้ของใครเฟ้ย
ก็แขวะกันไปกันมา เอ่ยปากไล่ไปก็มี

บางคนมาดี บางคนมาประจานเพื่อนผมเสียๆหายๆ
ก็ให้เพื่อนคนงานล้อมกรอบเลยก็มี แต่ไม่ได้ทำอะไรก็ล้อม
กรอบเพื่อกดดันให้มันไปมากกว่า พักหลังไม่ค่อยมีมาแล้วเพราะมาที่นี่ตามไม่ค่อยได้แล้ว ส่งจดหมายหรือฝากข้อความไว้อย่างเดียว เพราะบล๊อกเอาไว้หมด

ติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 18 ปิดเซ็นทรัลการ์ด

ก่อนปิดซิตี้แบงค์รีไรท์ไม่นานนัก ตอนนั้นยอดอยู่ที่ 15000.-
เพราะจ่ายเป็นค่ายาเฉพาะทางจนเต็มวงเงิน
เจรจาปิดบัญชีอยู่นานเปลี่ยนสำนักงานไป 2 ที่คือของสมเกียรติและย้ายมาที่ลีดเด๋อลดไปปิดบัญชีอยู่ที่ 10000.- ช่วงปีแรกไม่ได้ส่วนลดเลย ก็เจรจารายอื่นก่อนและเงินหมด

เจรจาช่วงแรกๆก็ไม่มีใครเข้าใจแต่ก็มีสำนักงานลีดเด๋อก็ถามว่าทำไมเป็นหนี้ไม่ใช้ผมก็บอกความจริงไปในเรื่องอุบัติเหตุ เริ่ม
เห็นใจช่วยทำเรื่องส่วนลดให้ต่อรองเรื่อยมา

แต่จะบอกเรื่องการทำประกันคุ้มครองเงินกู้ ผมก็ทำนะครับเผื่อเป็นอะไรไปแล้วทางบริษัทประกันจะจ่ายหนี้แทนเรา จ่ายเดือนละ 200 - 300 บาทพอผมเกิดเรื่องแบบนี้กลับไม่จ่ายเสียนี่มันอ้างว่าถ้าค้างชำระค่างวดแม้ แต่งวดเดียว กรมธรรม์ก็ขาดอายุโดยปริยาย แล้วกรูจะจ่ายทำไมวะตั้งเดือนละ 300.- ซื้อผงซักฟอก+น้ำยาปรับผ้านุ่มใช้ได้ทั้งบ้าน แทนที่จะจ่ายเป็นค่ากระดาษเช็ดตูดผู้บริหารในบริษัทประกันภัยฉ้อฉล

ถ้าคิดจะทำประกันลักษณะนี้โปรดอ่านเรื่องนี้ก่อนครับ
เสียดายเงินจนถึงทุกวันนี้
www.consumerthai.org/dedt_newsboard/view.php?id=4835
โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนที่ 19 เป็นหนี้แต่ก็มีรักได้--1

การเป็นหนี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตแย่เสียทีเดียว
การเป็นหนี้ก็ยังดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและยิ้มสู้หนี้ได้
การเป็นหนี้ไม่ได้ทำใช้ชีวิตจบลงทุกอย่างมันอยู่ที่อะไร?
ถ้าตอบแบบวัยรุ่นคือ"มันอยู่ที่ใจ"

ถ้าใจคิดดีก็เป็นบวกถ้าคิดลบชีวิต ก็คงไม่สามารถมองปัญหาได้ชีวิตก็แย่ต้องคิดว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าแน่นอน

เมื่อมีสาวๆเข้ามาในชีวิต มาเติมความสุขให้หัวใจมันมีกำลังวังชากันดีกว่า ไม่กล้าพิมพ์ต่อเพราะสาวบัญชีอยู่ข้างหลังน่ะครับ

ติดตามตอนต่อไปรับรองไม่แพ้ซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่นแน่นอน
อ๊ะๆ อย่าคิดลึก อย่าคิดลึก

ตอนที่ 19 เป็นหนี้แต่ก็มีรักได้--2

ในตอนนั้นเรื่องเกิดขึ้นมาเมื่อกลางปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเหลือหนี้อยู่ 4 ที่
ที่ยังจ่ายอยู่คืออีซี่บายและทหารไทยเครดิดพลัสก็จ่ายต่อไปบัญชีปกติ
สถิติการทำงานไม่ค่อยดีนัก สายบ่อยหยุดบ่อยและเพิ่งโดนทำทัณฑ์บนกะว่าได้งานใหม่เงินเดือนเยอะก็จะย้ายไป

ต่อมามีพนักงานเข้าใหม่ในแผนกบัญชี ดูแล้วอืมๆ น่ารักดี ดูไปเรื่อยๆ
อีกใจนึงคิดว่าคงมีแฟนแล้วมั่ง ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

มีอยู่วันนึงสาวบัญชีบอกว่าเธอยังไม่มีแฟน ในใจก็คิดว่าเออพอมีหวัง
จริงๆแล้วเพิ่งเลิกกับแฟนรักๆเลิกๆไปหลายครั้ง ก็เริ่มคุยและเอาใจบ้าง
ดูนิสัยใจคอกันไป ยอมรับว่าเรื่องหนี้ก็ต่อรองมาหลายครั้งแต่ผมยอมรับว่าต้องศึกษากันพอสมควร ใจก็คิดว่าดูใจใครก็ต้องดูให้นาน คู่แข่งเยอะมากก็พยายามต่อไปตัวสาวบัญชีก็รู้สึกดีก็ทำดีต่อไปเรื่อยๆ

สาวบัญชีติดโทรศัพท์มากคุยกับใครก็ไม่รู้ จิตใจเริ่มแกว่ง
และไม่มั่นใจเพราะเธอจะกลับไปคบกับคนเก่าให้ได้
เธอก็มาปรึกษาเราก็เป็นที่ปรึกษาให้แบบ"จำใจ" จริงๆ
กล้ำกลืนจริงๆ เป็นที่ปรึกษาก็ยอมถามคุณภรณ์หทัยได้ครับ