หนี้รวมเกือบ 5 ล้าน จะเริ่มหยุดจ่ายบัตร 1 ใบ ขอคำปรึกษาครับ

3 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #118925 โดย ninex111
สวัสดีครับเพื่อนๆท่านทุกท่าน และ adminครับ

ตอนนี้ผมเครียดมาก ชีวิตผมวนลูปแบบนี้มาหลายปีแล้ว บางครั้งเองก็อยากคิดตายๆไปเพื่อจบปัญหา แต่ติดที่ยังมี พ่อ แม่ ภรรยา และ ลูกที่ต้องเลี้ยง ผมรบกวนทุกท่านให้คำปรึกษาผมด้วยนะครับ เรื่องที่จะเล่าละเอียดหน่อยนะครับ แต่เพื่อจะให้ได้เข้าใจและตีความเพื่อให้คำแนะนำผมได้ถูกต้องนะครับ ผมขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตอนนี้ผมเป็นหนี้ (ต้น+ดอกเบี้ย) คงเหลือ ณ เดือน มกราคม 2563 รวมทั้งหมด 4,900,000บาท
SCB                                              = 360,000 บาท
Kbank                                           = 180,000 บาท
Citibank                                        = 1,200,000 บาท
Central card                                  = 60,000 บาท***
Central personal loan                    = 470,000 บาท ***
Personal loan ที่ภรรยากู้ไว้ให้ = 100,000 บาท
ค่ารถที่เอาไปเข้า car for cash = 72,000 บาท
ค่าบ้าน                                           = 2,500,000 บาท

ตอนนี้เงินกู้ที่ต้องจ่ายต่อเดือน รวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆต่อเดือน (ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่,ลูก, ภรรยาที่ตกงาน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าน้ำมัน, ค่าอาหารตัวเอง)
ยอดชำร้ะต่อเดือน ที่ยังไม่ได้คิดว่าจะกู้เพิ่มตอนเดือน เมษาเป็นต้นไป
ก.พ. 296,329
มี.ค. 236,869
เม.ย. 203,123
พ.ค. 175,865
มิ.ย. 144,456
ก.ค. 138,978
ส.ค. 138,785
ก.ย. 138,613
ต.ค. 133,191
พ.ย. 116,984
ธ.ค. 116,071

         เงินเดือนหลังหักภาษี 128,000บาท ทุกเดือนไม่เคยพอจ่าย กู้ทบไปทบมา และยอดของเดือนแรกๆในปีนี้ที่เยอะมากเพราะมีเหตุจำเป็นต้องกู้มาเพื่อช่วยเหลือที่บ้าน ส่วนเดือนกุมภา ผมจะได้เงินที่ญาติมาให้กู้คืน 60,000บาท และตัดสินใจยกเลิกเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมา จะมีเงินเข้าอีกประมาณ 250,000บาท ทำให้เดือนกุมภา ถึง มี.ค. ก็ยังพอมีเงินใช้กินข้าวได้ แต่หลังจากนั้นก็จะกลับมาต้องกู้วนลูปนรกเหมือนเดิม คือ กู้ทบไปมา

        *** สิ่งที่กำลังจะทำตอนนี้คือจะหยุดจ่าย central card และ central personal loan 530,000 บาทโดยจะเริ่มหยุดจ่ายของยอดที่ต้องขำระเดือน กุมภาพันธ์  ซึ่งยอดที่ตั้งใจจะหยุดชำระจนกว่าจะได้ HC แต่สิ่งที่กังวลคือกลัว H/C มาเร็วเกินไป เงินเก็บอาจไม่พอกับข้อเสนอ เพราะเท่าที่คำนวนดูเก็บเงิน 6 เดือน น่าจะได้ 2 แสนนิดๆ จากการไม่จ่ายบัตร central

         ที่ตัดสินใจหยุดจ่ายแค่บัตรเดียวเพราะคิดว่า บัตรและค่าใช้จ่ายที่เหลือน่าจะมีเงินที่จะชำระได้หลังจากนี้ไป และอีกส่วนนึงคือผมรู้สึกว่าทุกอย่างผมทำตัวเองกู้มาเอง ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมก็จะชำระไป ไม่อยากเบี้ยวหรือรอ haircut อ่อและที่สำคัญ ผมลืมเล่าไปว่าผมยอด Citibankที่มียอดคงค้างอีกล้านเศษ ผมได้โง่ไปทำสัญญาประนอมหนี้ไปแล้ว T_Tเพราะถ้าให้ haircut ก็ไปหาเงินมาจ่ายไม่ได้อยุ่ดี เพราะน่าจะเป็นก้อนใหญ่มาก

หลังจากเกริ่นมานาน ผมรบกวนสอบถามว่า
1) การที่ผมตัดสินใจหยุดจ่ายบัตร centralถูกต้องแล้วหรือไม่ครับ
2) เท่าที่อ่านมาในกระทู้หลายๆกระทู้ บัตร central จะยื่นข้อเสนอ H/C ราวๆประมาณ 6 เดือนไหมครับ หรือมีเร็วสุดกี่เดือนครับ และ อีกเรื่องคือปกติที่ทุกคนเขียนในกระทุ้ว่าได้ส่วนลดจากการ haircut 40-50% อันนี้คือข้อไหนครับ
           a. ส่วนลดจาก ต้น+ดอกเบี้ยที่อยู่ในสัญญาเดิม (โดยส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นแบบนี้)
           b. ส่วนลดจาก ต้น+ดอกเบี้ยที่อยู่ในสัญญาเดิม + ดอกเบี้ยเพิ่มจากเดือนที่ค้างจนถึงวันที่เสนอส่วนลด
          c. ส่วนลดจากเงินต้นคงค้างณ วันหยุดจ่าย
d. ส่วนลดจากเงินต้นคงค้างณ วันหยุดจ่าย + ดอกเบี้ยเพิ่มจากเดือนที่ค้างจนถึงวันที่เสนอส่วนลด
3) ปกติแล้วของบัตร Central จะไม่ขายหนี้ก่อนที่เขาจะเสนอ H/C ใช่ไหมครับ (กลัวโดนทวงหนี้โหด)
4) เป็นไปได้ที่จะโดนฟ้องแล้วยึดบ้านเลย โดยที่ไม่การเจรจา H/C หรือไปตกลงลดเงินที่ต้องจ่ายในศาลก่อนไหมครับ เพราะสิ่งที่กังวลที่สุด คือ ตอนนี้ผมมีทั้งภรรยาและลูก ผมกลัวโดนฟ้องและธนาคารมายึดบ้านที่เป็นชื่อของภรรยา (ผมโอนเป็นชื่อภรรยาให้ยื่นกู้ตอน refinanceแทน เพราะผมทำ refinance ไม่ได้ตอนนั้นเพราะวงเงินต่อเดือนเต็ม กู้ใหม่ไม่ผ่าน) ผมเองก็มีปรึกษาทนายเขาก็แนะนำว่าให้ไปทำเรื่องหย่าก่อน แล้วค่อยหยุดจ่าย และถ้าโดนฟ้องก็ไม่น่าจะสาวถึงภรรยา สำหรับผมตอนนี้คือ มันเป็นเรื่องเปราะบางมาก ผมเองเอาเงินจากภรรยามาช่วยหมุนรวมๆแล้วเป็นล้านแล้ว มันเป็นปมในใจของภรรยาผม ซึ่งเขาจะเลิกกันก็หลายรอบแล้ว เพราะผมเองก็ยังไม่มีเงินใช้คืนเขาสักที แล้วตอนนี้เขาก็ตกงานอีก ถ้ามาเจอว่าต้องทำเรื่องหย่า ผมกลัวว่าเขาจะหย่าจริงๆ ไม่ใช่แค่เซ็นแค่ใบกระดาษ ชีวิตผมตอนนี้เขามีค่าสุดแล้ว ถ้าไม่นับพ่อแม่
5) ผมทำผิดหรือไม่ที่ทำการหยุดจ่ายแค่บัตรเดียว เพราะสิ่งที่ผมกังวลหลังจากนี้คือ ถ้าหยุดจ่ายทุกบัตรพร้อมกัน แล้วเขาให้ haircut ผมก็ไม่ได้มีตังจะไปปิดเป็นก้อนเยอะๆขนาดนั้น ถ้าหยุดจ่ายบัตรเดียว ก็ยังพอมีเงินก้อนไปจ่าย แล้วอีกอย่างถ้าไม่มีตังจ่ายแล้วเขาฟ้องขึ้นมา ก็กลัวอย่างที่เขียนไว้ในข้อ 4

ผมขอขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งสำหรับคำตอบนะครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: tulunu, Dadada, Lusifer, pam1606, Platuth

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

3 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 3 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #118939 โดย Badman
ผมก็นั่งอ่านและคิดตั้งแต่เมื่อวานแล้ววันนี้มาตอบ  จึงมาตอบตามข้อมูลที่ให้มา

- ทุกปัญหามีทางออกแต่ต้องตั้งสติและเรียบเรียงภาพรวมของปัญหา
- ก่อนอื่นคุณควรตัดวงจรกู้หนี้มาใช้หนี้ให้ได้ก่อนนะครับ ถ้าคุณหวังการกู้หนี้มาแก้หนี้ผมว่ามันจะทำให้ปัญหาแก้ยากยิ่งขึ้น
ยิ่งภรรยามีทรัพย์สินติดจำนองแล้วด้วยก็ต้องตัดสินใจให้ดี ก็ต้องมาดูอีกว่าภรรยาคุณมีหนี้อีกหรือเปล่า เพราะเกี่ยวกันกับทรัพย์สิน

ผมขอเรียบเรียงตารางหนี้ให้ใหม่ ทางชมรมฯจะแบ่งประเภทหนี้ออกมาเป็น 3 ส่วนก่อนทำตารางหนี้ได้แก่
- หนี้บ้าน
- หนี้รถยนต์
- หนี้บัตรเครดิต
เพื่อดูภาพรวมของปัญหาทั้งหมดให้ได้ก่อน

ตอนนี้คุณเป็นหนี้ (ต้น+ดอกเบี้ย) คงเหลือณ เดือน มกราคม 2563 รวมทั้งหมด 4,900,000.-

1.ค่าบ้านภรรยากู้หลักคุณกู้ร่วมหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบแต่เกี่ยวพันกับคุณแน่นอน = 2,500,0000.-
2.ค่ารถที่เอาไปเข้า car for cash = 72,000.-
3.หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อต่างๆ
3.1 Citibank   = 1,200,000.-
(จ่ายขั้นต่ำ10% 120000.- ก่อนปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งไม่น่าไปปรับโครงสร้างหนี้เพราะทำให้หนี้เพิ่มขึ้น)
3.2 Central personal loan  = 470,000.-
3.3 SCB           = 360,000.-
3.4 Kbank        = 180,000.-
คุณมีหนี้กับกสิกรแล้วมีบัญชีเงินเดือนเข้ากสิกรไหมครับ? ถ้าใช่คุณต้องระวังมากๆ
ถ้าหยุดจ่ายอาจจะถูกดูดเงินในบัญชีไปใช้หนี้ได้
3.5 Personal loan ที่ภรรยากู้ไว้ให้ = 100,000.-
3.6 Centralcard = 60,000.-

ตอบคำถาม

1.       ตอบรวมๆข้อ1 – 3 คุณต้องตัดวงจรการกู้หนี้มาจ่ายหนี้ตามที่แจ้งไป
รักษากระแสเงินสดในมือให้ได้มากที่สุดคุณจะหยุดจ่าย และรอ H/C ของ Central ก็ได้
จากสถิติที่เก็บมาได้ ส่วนลดที่ได้สามารถผ่อนได้ไม่เกิน 2 – 3 งวดเท่านั้นครับ
ดูจาก  ส่วนลดจาก ต้น+ดอกเบี้ยที่อยู่ในสัญญาเดิม +ดอกเบี้ยเพิ่มจากเดือนที่ค้างจนถึงวันที่เสนอส่วนลด

2.       ตอบข้อที่4 ข้อนี้เป็นเรื่องที่เปราะบางและละเอียดอ่อนมาก จึงขอตอบตามความเป็นจริงว่า บ้านยังยึดไม่ได้ในทันที 
ต้องผ่านกระบวนการทางศาลและ เมื่อไม่ชำระตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ถึงจะเข้าขั้นตอนการสืบทรัพย์และบังคับคดีต่อไปครับ
ถ้าคุณจดทะเบียนสมรสเขาสืบทรัพย์มาเจอบ้านที่ภรรยากู้ก็ถูกอายัดขายทอดตลาด
สิ่งที่ทนายความแจ้งมาถูกต้องที่สุดครับ ขั้นตอนนี้ผมไม่ก้าวล่วง คุณและภรรยาต้องตัดสินใจขั้นสุดท้ายเอง
ซึ่งทนายความที่คุณไปปรึกษานั้นก็ให้คำตอบที่ดี

3.       ทำการปิดหนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับหนี้กว่าจะสร้างได้ระดับนี้ต้องใช้เวลาแก้ไปทีละขั้นตอน
หรือจะหยุดจ่ายแล้วรอเข้าคลินิคแก้หนี้เฟส 5ไปพลางๆก่อน
 
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: tulunu, Dadada, Lusifer, Platuth

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

3 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 3 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #118970 โดย Lusifer
อ่านเรื่องราวของคุณninex111 แล้ว  ไม่ต่างจากชีวิตผมเท่าไหร่ เรื่องยอดหนี้ และความเครียด 555 (หัวเราะทั้งน้ำตา) 

คำตอบส่วนใหญ๋แอ๊ดมินคุณ Badman ได้ไขความกระจ่างไปแล้ว

คุณมีเงินเดือนมากกว่าผม แต่หนี้ของคุณเฉพาะบัตรและสินเชือเพียง  2.4 ล้าน  ตัวผมเงินเดือนน้อยกว่าคุณ แต่มีหนี้เฉพาะบัตรและสินเชื่อ  4 ล้านกว่า 
ผมมีทางออกอย่างไรมาตามอ่านกัน
 
ผมขอตอบแบบยาวๆแบบที่คุณเขียนเรื่องราวยาาวๆของคุณแล้วกันครับ (อาจเขียนไม่เหมือนเดิมเท่าไร่
เพราะผมกดส่งครั้งแรก ระบบมันล่ม ผมต้องมานั่งพิมพ์ใหม่) 
 
 
ผมขออนุญาตแชร์ในส่วนของผมเพื่อเป็นแนวทางนะครับ (ทีแรกผมตั้งใจจะเล่าให้ฟังตอนผมเคลียร์หมดทุกเจ้า
แต่เนื่องจากแผนการของผมที่หยุดชำระไม่พร้อมกันเลยยังเหลืออีกก้อนหนึ่งครับ)    ผมเลือกใช้วิธีการ Second way out
 
1   ควรแยกประเภทหนี้ เหมือนที่คุณ Badman บอก  ค่าผ่อนรถ + ค่าผ่อนบ้าน +ค่าใช้จ่ายที่บ้าน  แยกออกไปเลย
เพราะมันเป็นภาระที่ไม่มีส่วนลด    แต่ดูจากระดับเงินเดือนคุณมากกว่าผมอีก รายจ่ายพวกนี้ไม่เกินเงินเดือนคุณแน่นอน
 
2   สิ่งที่เรากำลังจะหาทางออกกันคือ  หนี้ประเภท บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ที่จะได้รับส่วนลด
 
ผม่ไม่ต่างจากคุณจากเป็นหนี้ไม่กี่แสน งอกเงยขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันหนี้รวมเดอกเบี้ยคือ  4 ล้านกว่าด้วยเงินเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายภาษี
กองทุนสำรองเหลือ 8 หมืน ทำให้รายจ่ายของผมติดลบหลักแสนต่อเดือนมาอย่างยาวนาน
ที่ผมไม่เอาหนี้บ้าน หนี้รถ และค่าใช้จ่ายที่บ้านมาคิด (ของผมประมาณ 3หมื่น)  เพราะมันไม่เกินเงินเดือนเรา... จริงไหมครับ
 
CITI  บัตร + Ready   1.7 ล้าน
CITIadvance  4แสนเศษ
กรุงศรี  Central the 1 + dream loan  1.6 ล้าน
UOB i cash cashplus   5 แสนเศษ
 
3   สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ตาราง excel  แยกแต่ละบัญชีออกมา  คำนวนดอกเบี้ยแต่ละบัญขีไปข้างหน้า 3เดือน 4 เดือน 5 .6เดือน
ดอกเบี้ยแต่ละบัญชีเทาไหร่คุณคงรู้    
   จากนั้นทำเป็นตาราง Matrix คำนวนส่วนลด ว่าคุณต้องจ่ายหลังหักส่วนลดเป็ฯยอดเท่าไหร่   แนวนอนคือส่วนลด %  แนวตั้งคือจำนวนเดือนที่รวมดอกเบี้ย   เพื่อที่คุณจะสามารถวางแผนได้   ว่าผ่านไปเดือนนี้ เดือนนั้นยอดที่คุณจะต้องมีไว้คุยและต่อรองกับเจ้าหนี้ คุณจะต้องมีเงินเท่าไหร่
 
4   แผนการเงินก้อนของผมคือ  - เงินที่ได้จากการนำรถเข้ารีไฟแนนซ์ (ภาระผ่อนต่อเดือนเท่ากับภาระเดิมที่ผ่อนอยู่แล้ว
                                            -   กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ผมต้องยอมสละส่วนของบริษัท 7แสนบาทเพราะออกจากกองทุนโดยไม่ออกจากงาน อดได้ส่วนนี้)
       แต่คิดว่าคุ้มครับ  แลก 7 แสน กับที่ไม่ต้องมาหมุนหนี้ ชีวิตนี้ไม่มีวันหมด  และส่วนลดเป็นล้าน 
                                            -   โบนัส
 
5   คุณโชคดีไม่แพ้ผม  คุณเจอเจ้าหนี้คุณภาพครับ  คุยดี เจรจาดี สุภาพ ให้ส่วนลดดี่ไม่เถื่อนมาอ้างกฎหมายนู๋นนี่นั่น
     จากที่ผมศึกษามาจาก่เพื่อนๆในนี้ และปสก   KBANK SCB  20-30%   CITI  40-50%   krubsri 40-50%
 
 
6   ผมหยุดจ่ายเดือน ตุลาคม 2563   ผมสามารถปิดจบได้ส่วนลด 40-45% ตั้งแต่ธันวาคม ถึงปัจจุบัน   
    ทำให้ตอนนี้ผมเหลือภาระหนี้ที่ยังไม่ได้เจรจา(เพราะยังไม่ถึงกำหนดครบ 3เดือน) อยู่ประมาณไม่ถึงล้านแล้วครับ
 
7   ผมไม่แนะนำให้คุณถอนกองทุนสำรองเพื่อชำระหนี้แบบปกติ เงินละลายหายวับ แถมภาระก็ไม่ลด   ให้ใช้วิธีแบบผมทำตาราง วางแผนว่าจะต้อง
เจรจาจ่ายตรงไหน่เพื่อปิดจบดีกว่า    ส่วนภาระต่อเดือนที่คุณบอกมาเป็ฯแสน  สบายมากครับ เงินเดือนคุณก็เป็นแสนคุณเพียงแค่ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ
คุณก็จ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่าย และเก็บเงินไว้รอ Haircut ได้แล้ว   เพียงแต่ให้คุณวางแผนหยุดจ่ายดีๆว่าหยุดจ่ายเจ้าไหนก่อน ถึงเวลาเจ้าหนี้โทรมาแล้วคุณต้องมีตัวเลขให้เขา  เราเอาตัวเลขที่เราอยากจ่ายตามข้อ 5  เป็นแนวทางไปต่อรอง
 
8   ผมไม่มี ปสก ว่า หลังปรับโครงสร้างหนี้แล้วยังสามารถได้ Haircut อยู่ไหม ส่วนตัวผมเชื่อว่า "ได้ครับ" ขึ้นอยู๋กับเทคนิคและฝีปากในการเจรจาุคุณแล้ว
 
9   อย่าไปกลัวครับ เรือ่งยึดบ้านตั้งสติให้ดี  เชื่อมั๊ย ผมเคยนอนๆดูแอร์ดูทีวี ตู็เย็น คอม ในบ้าน แล้วเครียดว่ากรูจะโดนยึดมั๊ย  มาแล้ว
    มันอีกนาน หลายขั้นตอนครับ   คุณต้องโดนฟ้อง แล้วศาลพิพากษาให้ชำระต่อเดือนต่ำๆ แล้วคุณยังไม่ยอมจ่าย อันนั้นแหล่ะเค้าถึงค้นทรัยพ์สินคุณ
   ว่ามีอะไรบ้าง ถ้ามีเงินเดือนก็อายัดเงินเดือนมีทรัพย์สินก็ตามมายึด  ...... แต่ข่าวดีครับ สถานการณ์แบบนี้ ข่าวเพิ่งออก กรมบังคับคดี เขาไม่อยากมาทำ
   ให้ชีวิตคนร้อนไปมากกว่านี้   เค้าให้เจ้าหนี้เสนอลดยอดหนี้ (Haircut)  ลูกหนี้ก่อนที่จะยึด เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับระบบเศรษฐกิจโดยรวมครับ..... ใจร่มๆๆ นะ
 
10   เทคนิค การเจรจาต่อรองหากติดตรงไหนไม่เข้าใจ ค่อยถามมาอีกทีนะครับ  บางรายโทรมาทวงหนี้ 4แสน โทรมากร่างมาก บอกยอดหนี้ผมเยอะ
 เจอผมตอกไปว่าผมเป็นหนี้อีกเจ้า 2ล้านของคุณจิ๊บจ๊อยมาก เค้ายังลดให้ผมเลย เจ้าหนี้มีเงิบครับ :D
 
11   ยอดหนี้ของคุณหลังหักส่วนลด ตามประมาณการที่เป็นไปได้ เฉลี่ยทุกเจ้าลด 40% จะเหลือ 1.5ล้าน หากมีเงินก้อนไม่ถึงคงต้องแบ่งเอาไปรอเข้าคลีนิคแก้หนี้เฟสใหม่
       ถึงแม้คุณจะต้องยืดหนี้ไปอีกยาวนาน แต่ภาระต่อเดือนจะลดแน่นอน  ให้บอกเจ้าหนี้ไปแบบนี้แหล่ะว่ารอเอาเข้าคลีนิคแก้หนี้ 
       ไม่ต้องกลัวครับ ถ้า SCB ขายหนี้ไปให้ บ.สินทรัพย์เจ ต่อรองขอส่วนลดดีๆ เค้าก็ลดให้  เชื่อผมสิ ยุคโควิดแบบนี้ นโยบายเค้ามีลดแน่นอน .. แต่ผมอยากให้คุณหาเงินมาตัดจบดีกว่า
 
12   ผมต้องกราบขอบคุณชมรมนี้ ท่านแอดมิน และเพื่อนๆสมาชิกที่น่ารักทุกท่าน ข้อมูลของทุกท่านล้วนเป็นกำลังใจ และแนวทางให้ผม
คนที่เคยจะคิดสั้นได้พบกับทางออก  และสามารถฝ่าฟันมันไปได้ครับ   ผมจะกลายคนไม่มีหนี้เกินเงินเดือนแล้ว (ยังเหลือหนี้บ้านและรถ) แต่จะมีเงินเก็บต่อเดือน 2-3 หมื่นบาท
เพื่อไปล้างหนี้ให้หมดโดยไว    ผมจะมีชีวิตอยู่เพื่อมุ่งมั่นทำความดีเพื่อสังคมต่อไป 

13 ขอกราบขอบคุณเจ้าหนี้ทุกรายที่ให้โอกาสลูกหนี้ ที่เคยจ่ายดอกเบี้ยนับล้านบาทตลอดสิบปี ได้มีโอกาสลุกแล้วสู้ต่อ ไม่เป็นปัญหาแก่สังคมโดยรวม
 
ปล.การบ้านที่คุณควรทำอันดับแรกก่อนที่จะหยดจ่ายคือ ไปคัดเครดิตบูโรมาซะ  และเก็บใบแจ้งหนี้ใบทวงหนี้ล่าสุดของทุกที่ไว้ เพราะมันจะกลายเป็นเศษกระดาษที่มีมูลค่าหลายแสนถึงล้านบาท
 
อนาคตคุณได้ใช้มันแน่ๆเพราะเจ้าหนี้เค้าจะให้คุณส่งไปให้เขาดู ว่าคุณมีหนี้เยอะขนาดไหน
เขาถึงพิจารณาส่วนลดให้คุณตามที่ขอ  

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.513 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena