หนี้ 8 ล้าน ผ่อนไปเหลือ 5.7 ล้าน อยากหยุดแล้วครับ ขอคำแนะนำ

สวัสดีครับ

จากการติดตามอ่านเก็บข้อมูลมานาน ขอสอบถามและเพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆท่านอิ่นครับ

ผมเป็นหนี้มาหลายรายการตั้งแต่ปี 13 นะครับ ที่ผ่านมาไม่เคยขาดส่งทุกรายการ
จนมาเดือนนี้ (เมษา 59) เลือกจะหยุดบางรายการ

รายการหนี้สินดังนี้

--- Personal loan

---

Krungsri Loan 676,333
Dreamloan 410,000
StandardCharter 436,716
CIMB Personal cash 317,088
Tbank Personal Loan 309,172
SCB Speedyloan 572,109

---- CC

---

SCB Credit Card 300,000
BAY Credit Card133,812


----Leasing

---

ICBC 260,000
Alphera 1,300,000
KBANK 984,479


ยอดขั้นต่ำทั้งหมดที่ต้องจ่ายคือ 260,000


รายได้รับเดือนละ 200,000

อยากและกำลังหยุดรายการ personal loan ทั้งหมดครับ
มีคำถามดังนี้

1. คือเนื่องจากยอดค่อนข้างจะเยอะถ้าหยุดจ่ายเลยดอกเบี้ยจะทบอย่างมากเลยถึงตอนนั้นจ่ายแต่ต้นก็แทบไม่ต่างจากเงินต้นตอนนี้แบบนี้เหรอครับ

2. การจ่ายบางรายการ (CC, Leasing) ไม่จ่ายอีกบางรายการ (Per Loan) แบบนี้สามารถทำได้และไม่กระทบกันใช่ไหมครับ ควรหรือไม่ควรทำแบบนี้

3. การทวงหนี้สมัยนี้จะมีการบุกมาถึงบ้าน ถึงที่ทำงานหรือไม่ครับ และถ้ารับตลอดคุยตลอดจะไม่ทำให้เค้าต้องไปติดต่อบุคคลอ้างอิงหรือคนในที่ทำงานใช่ไหมครับ

4.จากรายการเจ้าหนี้ผมน่าจะมีเวลาประมาณ 10-12 เดือนเพื่อขอเจรจา haircut ใช้ไหมครับ ถ้าไม่อยากฟ้องก็ปิดตอนนั้นใช่ไหมครับ

5. การรอหลุดเครดิตบูโร นับจากวันที่จ่ายปืดบ/ชเจ้าหนี้รายสุดท้ายใช้หรือไม่ครับ

ส่วนการโดนทวงหนักๆจะเป็นกรุงศรี ก็บอกไปตรงๆ ยังไม่มีถ้ามีจะจ่าบทบๆกันคืนให้ ก็ยังคงโทนมาเรื่อยๆวันละ 2-3ที

ขอคำแนะนำด้วยนะครับ ที่ผมทำอยู่นี้ถูกทางดีสุดแล้วหรือยัง

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ

วันนี้กรุงศรี เสนอให้ปรับลด ยอดชำระ จาก 26,000 เหลือ 15,500 ต่อเดืออน
แต่ต้องชำระที่ค้างสองเดือนก่อน ถ้าไม่ชำระภายในวันนี้ จะไปได้ลดยอดชำระพิเศษแบบนี้

แบบนี้ควรทำไงดีครับ

หนี็คุณสูงมาก แต่รายได้ก็สูง เพียงแต่รายรับก็ยังไม่พอกับรายจ่ายอยู่ดี ตามความเห็นส่วนตัวถ้าจะหยุดควรหยุดทั้งหมด และเมื่อหยุดแล้วต้องเก็บเงินไว้ให้ได้เพื่อรอเวลาและโอกาสที่เจ้าหนี็เสนอส่วนลด
แต่คุณก็ต้องยอมรับสภาพกับการโดนทวงหนี้ และต้องใจแข็งอย่าไปใจอ่อนปรับโครงสร้างหนี็เป็นอันขาด
เพราะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีส่วนลดงามๆก็ไม่ต้องรับ ให้ฟ้องไปแล้วไปเจรจาที่ศาล H/C ทำได้ตลอดค่ะ
ส่วนการรอหลุดเครดิตบูโร นับจากวันที่จ่ายปืดบ/ชเจ้าหนี้รายสุดท้ายบวกไปอีก 3 ปีถึงจะหลุดค่ะ
และคุณต้องวางแผนดีๆเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีชื่อคุณครอบครอง ต้องรีบโอนเปลี่ยนเป็นบุคคลอื่นค่ะ

ถ้าหยุดจ่ายโดนดอกไปเรื่อยๆ ผ่านไประยะเวลานึงเค้าบอก HC ลดให้ครึ่งมันไม่เท่ากับเวลานี้เลยเหรอครับ เค้าคิดยังไง

สมมุตตอนนี้ผมค้างจำนวนนึ xx เจอดอก 20% ผมหยุดจ่ายไป 10 เดือน ดอกทบๆๆๆ ไปทะลุไปไกลมากเลย
ถึงวันน้ันสมมุติเค้าบอกลดให้ 50% มันไม่เหลือหรือแทบเท่ากับยอดจำนวน xx วันนี้เลยเหรอครับ

หรือเค้าคิดจากยอดค้างวันนี้เท่านั้น

ขอบคุณครับ

ก้อง

.
ผมรวมกระทู้ให้แล้วนะครับ


มีอะไรที่อยากจะถามต่อ กรุณาโพสต์ถามต่อจากในกระทู้เดิม(กระทู้นี้)ของตัวคุณเองด้วยครับ


1คน ต่อ 1กระทู้ เท่านั้น ขอความร่วมมือด้วยนะครับ

www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=8062&Itemid=64#12130






วิธีค้นหากระทู้ของตัวเอง





ปล.ที่นี่ไม่ได้ห้ามถามนะครับ

แต่ขอความกรุณาให้ไปถามต่อจากในกระทู้เดิมของตัวคุณเอง

ขอความร่วมมือด้วยนะครับ
.

kong2000 เขียน: ถ้าหยุดจ่ายโดนดอกไปเรื่อยๆ ผ่านไประยะเวลานึงเค้าบอก HC ลดให้ครึ่งมันไม่เท่ากับเวลานี้เลยเหรอครับ เค้าคิดยังไง

สมมุตตอนนี้ผมค้างจำนวนนึ xx เจอดอก 20% ผมหยุดจ่ายไป 10 เดือน ดอกทบๆๆๆ ไปทะลุไปไกลมากเลย

ถึงวันน้ันสมมุติเค้าบอกลดให้ 50% มันไม่เหลือหรือแทบเท่ากับยอดจำนวน xx วันนี้เลยเหรอครับ

หรือเค้าคิดจากยอดค้างวันนี้เท่านั้น

เคยอธิบายไว้มานานแล้ว อยู่ในกระทู้นี้ ไปอ่านดูสิครับ

ใครที่ยังไม่เข้าใจว่า Hair cut คืออะไร?...กรุณาเข้ามาอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=749&Itemid=64


ดอกเบี้ยมันจะนำมาคิดทบเป็นเงินต้นไม่ได้หรอกครับ เพราะมันผิดกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่อง"การคิดดอกเบี้ย ซ้อนดอกเบี้ย" (กฏหมายเขาห้ามคิดดอกเบี้ยทบต้น)


สมมุติว่าเมื่อปีที่แล้ว เรามีหนี้บัตรเครดิตอยู่กับธนาคาร A เป็นจำนวนเงิน 100,000.-บาท แล้วเราก็หยุดจ่ายหนี้ตัวนี้มานานประมาณ 1 ปีแล้ว (ดอกเบี้ยของบัตรเครดิต คิดที่ 20% ต่อปี)

หนี้เงินต้น 100,000 บาท คิดดอกเบี้ย 20%ต่อปี... ก็เท่ากับดอกเบี้ย 20,000 บาทต่อปี

เราได้หยุดจ่ายหนี้เงินต้น 100,000 บาท มานานถึง 1ปีแล้ว

ดังนั้น ณ ปัจจุบัน(ณ.ตอนนี้) เราจึงมี หนี้เงินต้น+ดอกเบี้ย ปาเข้าเป็นจำนวนเงิน
= 100,000 + 20,000 = 120,000 บาท ...หลังจากที่หยุดจ่ายหนี้มานานถึง 1ปี


เมื่อทางฝ่ายเจ้าหนี้ได้ติดต่อขอให้เราชำระหนี้ทั้งหมด เพื่อทำการปิดบัญชี โดยจะมีส่วนลดให้ ถ้าเราสามารถจ่ายแบบ“งวดเดียว”(ตูมเดียว)ได้ ก็จะให้ส่วนลดครึ่งหนึ่ง(50%) จากราคาหนี้ ณ.ปัจจุบัน (ที่ 120,000.-บาท)

จ่ายหนี้ครึ่งหนึ่งของราคาหนี้ ณ ปัจจุบัน 120,000 บาท ซึ่งนั่นก็เป็นเงินจำนวน แค่ 60,000 บาท เท่านั้น


แล้วมันจะเป็นการจ่ายหนี้เท่าเดิมตรงไหนล่ะครับ?
.

ขอบคุณมากครับ

อยากทราบครับ หนี้ก้อนใหญ่ๆ กับหนี้ก้อนเล็กๆ มีผลต่อการฟ้องเร็วช้าหรือความโหดในการทางต่างกันอย่างเห็นได้ชัดไหมครับ

kong2000 เขียน: อยากทราบครับ หนี้ก้อนใหญ่ๆ กับหนี้ก้อนเล็กๆ มีผลต่อการฟ้องเร็วช้าหรือความโหดในการทางต่างกันอย่างเห็นได้ชัดไหมครับ

ไม่มีใครตอบที่ชัดเจนได้หรอกค่ะ แต่ละคนก็เจอ สถานการณ์ แตกต่างกันไปค่ะ (อาจจจะแล้วแต่โชคชะตาร่วมด้วย) ทางที่ดี หาอ่านประสบการณ์ เพื่อนๆ ตามกระทู้ต่างๆ ที่มี แล้วนำมาคิด ทบทวน หาแนวทางในการรับมือ ดีกว่าค่ะ บางที อาจจะ ได้ใช้ ทุกแนวทางของเพื่อนๆสมาชิกที่อ่าน เจอ เลยค่ะ

รบกวนถามเพื่มเติมครับ เรื่องสินเชื่อของธนชาติ เจ้านี้เป็นอย่างไรบ้างครับไม่ต่อยเห็นข้อมูลเรื่องส่วนลด

ขอบคุณครับ

จากหยุดจ่ายไปเข้าสู่เดือนที่ 4

วันนี้ได้รับโทรศัพท์เสนอส่วนลด ของ Dreamloan กรุงศรี จากยอดประมาณ 500,000 เหลือ 360,000 โดยให้ชำระงวดเดียว ทางผมเลยพยายามขอลดมากกว่านี้ แต่จนท แจ้งว่า "ไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะลดให้น้อยกว่าเงินต้น" ไม่ทราบว่าเป็นตามนี้จริงหรือไม่ครับ หรือถ้ารอนานจะลดกว่านี้

รอครับแล้วเก็บเงินไปเรื่อยๆ ของผมใกล้จะเป็นไท แล้วพพยายามดึงเรื่องให้ได้1ปี ของผมบอกว่าจะมีกู่สวัสดิการได้อีก5เดือน

ต้องหยุดทุกใบเลยครับ

อีกหนึ่งความเห็นถ้าเงินยังไม่พร้อมก็ต้องอดทนรอค่ะ แต่ระหว่างรอต้องเก็บเงินให้ได้

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จาก กรุงศรี เรื่องการขอส่วนลด
ต่อรองได้ประมาณ 45% (ค้างเดือนที่ 5)

พนักงานบอกทำเรื่องขออนุมัติให้อยู่แต่เคสนี้ขอยากเพราะเกิน OD ที่จะลดให้
ถ้าพี่ขอแล้วไม่จ่าย จ่ายไม่ได่ ...."พี่จะไม่ได้ส่วนลดอีก"

เท็จจริงแค่ไหนครับประเด็นที่จะไม่ได้ลดอีก

ขอบคุณครับ

หลังจากคุยและต่อกันมานานมาก จนใสที่สุดยอมจบกันที่ 300,000 ของ Dream..
รายนี้โดยรวมลดไปประมาณ 40% ค้างทั้งหมด5เดือนครับ

ปิดได้ไปหนึ่งราย

ยินดีด้วยครับ พอปิดได้ตัวแรกกำลังใจจะเพิ่มขึ้นครับ

อยากสอบถามครับ

เมื่อวานไปศาลของ Standard โดย กรันต์
ยอด 480,000 ตกลงไว้ว่าจะขอปิด ที่ 220,000 ในวันที่ 28 กพ
ศาลพิจารณาให้เลื่อนเพื่อไปยินยอมกัน และนัดอีกครั้ง 10 เมษา

คำถามคือ

ผมขอทางกรันต์ เลื่อนจ่ายไปมีนาที่ยอดเท่าเดืม
ทางกรันต์ไม่ยอมท่าเดียว บอกต้องเพื่มเป็น 300,000
ไม่ก็จ่ายสองงวดเป็น 250,000

ทั้งๆที่ขอเลื่อแค่ ไม่เกิน 7 วันเนื่องจากรอเงินเข้ามา
อยากทราบว่าเท๊จจริงเป็นอย่างไรครับ ตกลงไว้จะจ่ายเดือนนี้
ถ้าเลื่อนไปเดือนหน้าจะไม่ลดให้เท่าเดือนนี้แน่ๆ แบบนี้?

และกรณีแบบนี้ถ้าไม่ยอมจ่ายไปตกลงที่ศาลสามารถทำได้ไหมครับ

ไม่ทราบว่าหากชำปิดบ/ชแล้ว จำเป็นต้องไปศาลตามที่ขอเลื่อนไว้หรือไม่ครับ

kong2000 เขียน: ไม่ทราบว่าหากชำปิดบ/ชแล้ว จำเป็นต้องไปศาลตามที่ขอเลื่อนไว้หรือไม่ครับ

ตัวอย่าง

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=44045&limitstart=120&Itemid=64#88109


debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=5&id=42727&Itemid=64#68797