ไปศาลนัดที่ 2 เพื่อไกล่เกลี่ย อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการสู้คดีหรือยอมความ

รบกวนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมครับ

เมื่อวานนี้ ผมไปศาลมีนบุรีมาเป็นนัดที่ 2 นัดไกล่เกลี่ย และหลังจากพูดคุยกับทางทนายของฝ่ายโจทย์เรียบร้อย ทางศุนย์ไกล่เกลี่ย ตกลงให้กลับมาเจรจาที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยอีกครั้งหนึ่งในเดือนหน้า (นับเป็นโชคดีของผมมาก เพราะเท่าที่ทราบมา ส่วนใหญ่ถ้ามาทีี่ศูนยืไกล่เกลี่ยแล้ว ตกลงกันไม่ได้ นัดต่อไปที่การเข้าสู่กระบวนการของศาล คือไปให้การในศาลเลย)

หลังเสร็จจากการทำเอกสาร เนื่องจากบ่ายมากแล้ว จึงไม่ค่อยมีคน ผมได้มีโอกาสคุยกับหัวหน้าศูนย์ไกล่เกลี่ย ถึงข้อมูลของคดี ทางศูนย์ไกล่เกลี่ยได้ให้ข้อมูลผมกลับมาคิด ดังนี้

การต่อสู้คดีในศาล (แน่ใจหรือว่าจะต่อสู้คดี)
* เพราะจากประสบการณ์ของเค้าที่อยู่กับคดีมา ส่วนใหญ่ศาลตัดสินตามมูลฟ้อง และอาจมีการปรับลดส่วนลดดอกเบี้ยบ้างนิดหน่อยเท่านั้น เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดข้อกฏหมายให้ทางเจ้าหนี้สามารถคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ ตามมูลฟ้อง (เพราะรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในใบสมัคร ที่พวกเราตอนสมัครมักไม่ได้ดูกัน)

*ส่วนการจะต่อสู้ว่าเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนดนั้น เมื่ออต่อสู้กันในศาล และฝ่ายโจทย์โต้แย้งเรื่องรายละเอียดค่าธรรมเนียมอื่นๆ แนบท้าย ข้อโต้แย้งของจำเลยในเรื่องคิดดอกเบี้ยเกินจริง มักเป็นข้อโต้แย้งที่ฟังไม่ขึ้น (เพราะธนาคารแห่งประเทสไทยเปิดฃ่องไว้) และศาลจะติดสินตามมูลฟ้องของโจทย์ทันที

* เมื่อศาลตัดสินแล้ว จำเลยจะต้องชำหระหนี้ให้โจทย์เป็นเงินทั้งหมดภายใน 15 วัน (อันนี้เจ็บแสบที่สุด) ถ้าไม่มีจ่ายก็จะเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือนทันที (ส่วนใหญ่กระบวนการในศาลใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น ตั้งแต่เริ่มไต่สวนจนถึงการตัดสิน)

ผมอยากทราบว่า ข้อมูลนี้ มีความเท็จจริงแค่ไหนในเชิงปฏิบัติ เพาะเท่าที่รู้มา รุ่นพี่ในชมรมหลายคนก็ใช้เวลาปลดหนี้กว่าจะหมดก้หลายๆ ปี กว่าจะหมด นั่นหมายถึงว่าเค้าถูกศาลตัดสินแล้วใช่ไหม หรือว่า ยังต่อสู้กันในกระบวนการศาลหลายๆ ปี โดยยังไม่มีการตัดสิน

ผมกังวลเรื่อง การยึดทรัพย์สินหลังศาลตัดสิน 15 วันมากครับ ทำให้เริ่มลังเลว่า แนวทางที่ต่อสู้คดีในศาลนี่ คือทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ และหลังจากศาลตัดสินแล้ว เรายังจะเจรจาต่อรองเรื่องระยะเวลาการจ่ายหนี้ได้หรือไม่

รบกวนพี่นกกระจอกเทศ หรือรุ่นพี่ที่รู้เรื่องนี้ ช่วยแนะนำผมด้วยครับ

ตนเป็นที่พึ่งของตนก่อนค่ะ ด้วยการอ่านเรื่องราวอำนาจขอบเขต

ของศาล อย่าเชื่อจนกว่าจะได้อ่าน สู้หรือไม่ อยู่ที่เอกสารว่าเจ้าหนี้

ฟ้องถูกหรือผิด และอยู่ที่ตัวลูกหนี้คิดจะสู้เพราะอะไร อ่านแล้วมีข้อสงสัย

ค่อยถามค่ะ ไม่แน่ใจเรื่องหมายศาล ไปหาคุณอาที่สวนลุมค่ะ

คดีหนี้บัตรเครดิต เป็นคดีแพ่ง เน้นการไกล่เกลี่ยเจรจาค่ะ กฎหมายให้

ความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ด้วยค่ะ เรื่อง ให้ชำระหนี้ภายใน 15 วัน นั้น

ความจริงไม่โหดขนาดนั้น แต่เพื่อเป็นแนวทางกับลูกหนี้ ไม่ให้ชะล่า

ใจ จึงกำหนดเวลาเป็นกรอบเวลาในการติดต่อเจรจาชำระหนี้ค่ะ

ลองโทรมาคุยกับสาย hotline ดีไหมครับ

บางอย่างมันก็ตอบหน้าเวปไม่ได้

แต่อยากให้ลุกหนึ้ที่ขึ้นศาลทุกท่านระลึกไว้ว่า ศาลไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดุลยพินิจก็อาจแตกต่างกันไป

อีกอย่าง เดี๋ยวนี้เขาวัดผลงานของศาลแต่ละที่ด้วยยอดการไกลเกลี่ยคดี ยิ่งไกล่เกลี่ยได้มาก ยิ่งดูดี
ก็เลยออกมาแนวไกล่เกลี่ยครับ

ถ้าเราทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรให้เขายึดเลยยิ่งสบายจำไว้นะครับ